นิยายรักแฟนตาซีดรามา ที่เล่าเรื่องของชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ผู้ส่งสารระหว่างคนเป็นและคนตาย แต่ต้องเข้ามาพัวพันกับหญิงสาวสองคนโดยที่ไม่เคยรู้เบื้องลึกมาว่าแท้จริงแล้วทั้งสามคนนั้นเกี่ยวข้องกันมาก่อน

The Promised พรากสัญญา - ตอนที่8 พรากสัญญา โดย paiinara @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เกาหลี,รัก,อาคม,รักสามเศร้า,รักข้ามภพ,ลึกลับ,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Promised พรากสัญญา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เกาหลี,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อาคม,รักสามเศร้า,รักข้ามภพ,ลึกลับ,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

นิยายรักแฟนตาซีดรามา ที่เล่าเรื่องของชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ผู้ส่งสารระหว่างคนเป็นและคนตาย แต่ต้องเข้ามาพัวพันกับหญิงสาวสองคนโดยที่ไม่เคยรู้เบื้องลึกมาว่าแท้จริงแล้วทั้งสามคนนั้นเกี่ยวข้องกันมาก่อน

ผู้แต่ง

paiinara

เรื่องย่อ

The Promised พรากสัญญา


            เป็นเพราะคำสัญญาก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไปเลยทำให้ชาฮีจูต้องติดอยู่ในวังวนความรู้สึกผิดมาตลอด เขาเป็นผู้ลั่นวาจาสัญญากับใครคนหนึ่งเอาไว้แต่กลับจำสัญญานั้นไม่ได้ ชายหนุ่มจึงต้องหาคำตอบเลยทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับคังเยนาและคังยูรีอย่างไม่ได้ตั้งใจ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความหายนะครั้งใหญ่ที่พวกเขาต้องเผชิญ และพวกเขาต้องร่วมมือกัน ช่วยเหลือกันและไว้ใจกัน เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปให้ได้

สารบัญ

The Promised พรากสัญญา -ตอนที่1 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่2 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่3 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่4 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่5 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่6 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่7 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่8 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่9 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่10 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่11 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่12 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่13 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่14 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่15 พรากสัญญา

เนื้อหา

ตอนที่8 พรากสัญญา

ตลอดทั้งวันคังยูรีทำตัวปกติเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ระหว่างนั่งเรียนเธอเอาแต่ชำเลืองมองซออึนซูอยู่บ่อยครั้ง เด็กสาวพยายามคิดหาเหตุผลที่ซออึนซูพยายามสร้างข่าวลือเพื่อทำร้ายเธอ ไม่ว่าจะครุ่นคิดมากแค่ไหน เธอก็หาคำตอบไม่ได้อยู่ดี แม้ในตอนนี้เพื่อนสาวคนเดียวของเธอก็ยังคงยิ้มและพูดคุยกับเธอเหมือนเดิม ดูไม่เหมือนคนที่คิดร้ายกับเธอเลยแม้แต่น้อย

คังยูรีเก็บความสงสัยทั้งหมดไว้กับตัวเองจนถึงเวลาเลิกเรียน คนที่ให้คำตอบเธอได้ก็คงมีแค่คิมคยองซาน เพราะถ้าสิ่งที่ชาแฮวอนพูดมาเป็นเรื่องจริง งั้นคิมคยองซานก็คงจะบอกเรื่องจริงทั้งหมดกับเธอได้

คังยูรีตัดสินใจยืนดักรอคิมคยองซานที่หน้าห้องเรียน เด็กสาวไม่สนสายตาของเหล่านักเรียนที่เพ่งเล็งมองมาที่เธอแม้แต่น้อย ต่อให้วันนี้เธอจะถูกนินทามากขึ้นกว่าเดิมแต่เธอก็ต้องรู้ความจริงให้ได้

“รุ่นพี่” คังยูรีเดินไปขวางหน้าคิมคยองซานทันทีที่เดินออกจากห้องเรียนมา

“เธอมีอะไร หรือจะเอาพวกมารุมฉันอีก” เด็กหนุ่มน้ำเสียงแข็งกระด้าง แววตาจ้องไปที่คังยูรีอย่างไม่พอใจ

“ฉันขอโทษกับเรื่องเมื่อเช้า แต่ที่พี่จีโฮทำก็แค่อยากปกป้องฉัน”

“ก็แหงละสิ เธอกับเขาเป็นคู่ขากันนี่”

“รุ่นพี่จะพูดยังไงฉันไม่สนใจหรอกค่ะ จะมองฉันเป็นคนแบบนั้นฉันก็ไม่ว่า ฉันแค่มีเรื่องอยากจะคุยกับรุ่นพี่ บางทีเรื่องที่ฉันจะคุยอาจจะทำให้ฉันกับรุ่นพี่เข้าใจอะไรมากขึ้นก็ได้”

“เธอจะคุยอะไร” เด็กหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย

ระหว่างที่คังยูรีและคิมคยองซานคุยกันอยู่นั้นก็ถูกสายตาของซออึนซูจับจ้องอยู่ เธอแอบมองทั้งสองอยู่ไม่ไกลนัก ทั้งคู่คุยกันได้สักครู่ก็ออกไปด้วยกัน ทำให้ซออึนซูดูไม่พอใจเอาอย่างมาก

ซออึนซูตัดสินใจเดินตามคนทั้งคู่ไปแต่ก็ต้องละทิ้งความคิดนั้นออกเพราะมีสายโทรมาจากผู้เป็นแม่ให้เธอรีบกลับบ้านด่วนเนื่องด้วยมีญาติผู้ใหญ่มาเยี่ยมหาที่บ้าน ซออึนซูใจว้าวุ่นเป็นอย่างมาก ถึงเธอจะอยากแอบตามคังยูรีและคิมคยองซานไปแต่เธอต้องหักใจเพราะขัดคำสั่งของผู้เป็นแม่ไม่ได้เช่นกัน

คังยูรีพาคิมคยองซานนั่งแท็กซี่มาที่คาเฟ่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไกลจากโรงเรียนที่ทั้งคู่เรียนอยู่พอสมควร พอมาถึงก็สั่งเครื่องดื่มคนละอย่างและเริ่มพูดคุยกันทันทีไม่ให้เสียเวลา

“พามาไกลขนาดนี้คงกลัวคนรู้สินะว่าเธอมากับฉัน ทำไม กลัวนัมจีโฮจะเข้าใจผิดเหรอ” เด็กหนุ่มพูดแดกดัน

“เปล่าค่ะ ฉันแค่ไม่อยากให้รุ่นพี่ต้องเป็นขี้ปากชาวบ้านที่ออกมากับฉัน เดี๋ยวคนก็เอาไปพูดอีกว่ารุ่นพี่ก็เป็นหนึ่งในแต้มที่ฉันต้องล่า” หญิงสาวอธิบาย

“มีอะไรก็พูดมา” เด็กหนุ่มชักสีหน้าไม่พอใจ

“ฉันมีบางเรื่องอยากจะถามรุ่นพี่ เรื่องข่าวลือของฉันรุ่นพี่ได้ยินมาจากใครเหรอคะ”

“ทำไมถามแบบนี้ นี่เธอคิดว่าฉันเป็นคนพูดเหรอ”

“เปล่าค่ะ ฉันแค่อยากรู้ว่ารุ่นพี่ได้ยินเรื่องนี้มาจากใคร คนที่พูดเรื่องนี้ใช่รุ่นพี่แฮวอนหรือเปล่า”

“ขอโทษนะฉันบอกเธอไม่ได้ และฉันก็ไม่รู้จักกับคนชื่อแฮวอนด้วย ถ้าเธอจะถามเรื่องนี้ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ ขอตัวก่อน”

“เดี๋ยวสิคะ!”

คังยูรีรีลุกจากเก้าอี้คว้าแขนเสื้อคิมคยองซานไว้ แววตาของเด็กสาวสั่นเครือเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ คิมคยองซานเองก็มีแววตาที่โอนอ่อนลงเมื่อเห็นท่าทีของคังยูรีดูเปลี่ยนไป

“ฉันมีสิทธิ์จะรู้ไม่ใช่เหรอ ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาลือกัน ถ้ารุ่นพี่บอกฉันว่าใครเป็นคนพูดอย่างน้อยฉันก็จะหาต้นตอของข่าวลือพวกนั้นได้”

“ฉันรับปากคนนั้นไว้แล้วว่าจะไม่บอกใคร แต่ฉันสาบานได้นะว่าฉันไม่ได้เอาไปเล่าให้ใครใส่ฟังต่อ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกคนรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”

“ถ้ารุ่นพี่ไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าว งั้นก็บอกฉันมาสิคะว่าใครเป็นคนพูด รุ่นพี่ปกป้องคนนั้นแล้วฉันล่ะ ฉันทำอะไรผิด ทำไมฉันต้องมาถูกว่าร้ายเรื่องแย่ๆ แบบนี้ด้วย รุ่นพี่ไม่สงสารฉันบ้างเหรอ”

“ฉัน….”

“งั้น…ฉันจะถามรุ่นพี่ใหม่ก็ได้ รุ่นพี่แค่บอกว่าใช่หรือไม่ก็พอ ข่าวลือที่รุ่นพี่ได้ยินมาทั้งหมดมาจากซออึนซูใช่มั้ย”

คำถามของคังยูรีทำให้เด็กหนุ่มชะงักทันที เขามองไปที่คังยูรีด้วยความกระอักกระอ่วน จะตอบว่าใช่ก็ดูจะทรยศคำสัญญาตัวเองที่เคยให้ไว้ แต่จะตอบว่าไม่ก็ดูจะไม่ยุติธรรมกับคังยูรีเช่นกัน คิมคยองซานเลยได้แต่ยืนเงียบๆ มองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกผิด ใบหน้าและท่าทางของคิมคยองซานนั้นทำให้คังยูรีเข้าใจได้ในทุกอย่าง

“ซออึนซู เป็นเธอจริงๆ ด้วยสินะ ทำไม….”

คังยูรีฟุบนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม เด็กสาวพูดไม่ออก ทุกอย่างดูว่างเปล่าและสับสนไปหมด ซออึนซูจะทำแบบนั้นทำไมในเมื่อเธอเองก็เป็นเพื่อนรักของเธอ มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เธอทำร้ายเพื่อนรักเพียงคนเดียวของเธอได้

คิมคยองซานค่อยๆ นั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม ชายหนุ่มมองคังยูรีด้วยความเห็นใจ

“ยูรี อึนซูเล่าให้ฉันฟังแค่คนเดียวจริงๆ นะ ส่วนคนอื่นจะรู้ได้ไงฉันเองก็ไม่รู้ อึนซูแค่สงสารฉัน ไม่อยากให้ฉันต้องไปยุ่งกับเธอเลยพูดไปไม่ทันคิด อึนซูเองก็รู้สึกผิดและเสียใจมากที่เอาเรื่องของเธอมาพูดแบบนี้เพราะเธอกับอึนซูเองก็เป็นเพื่อนรักกัน”

“แล้วรุ่นพี่ละคะ ถ้าเป็นรุ่นพี่จะเอาเรื่องไม่ดีของเพื่อนไปเล่าให้คนอื่นฟังมั้ย” คังยูรีโต้กลับ

“ฉัน….”

“ฉันเข้าใจค่ะว่ารุ่นพี่อยากปกป้องแฟน แต่ทำแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ การคบกันของรุ่นพี่มันไม่ได้เกี่ยวกับฉันด้วยซ้ำ”

“เดี๋ยวนะ เธอคงเข้าใจอะไรผิดไปแล้ว ฉันกับอึนซูเราไม่ได้คบกันสักหน่อย”

“ขนาดนี้แล้วยังจะมาโกหกอีก” เด็กสาวชักสีหน้า

“ฉันไม่ได้โกหก ฉันไม่เคยชอบอึนซู คนที่ฉันชอบก็คือ….คือเธอต่างหาก”

คำตอบของคิมคยองซานทำให้คังยูรีเบิกตากว้างในทันที เด็กสาวจ้องไปที่คิมคยองซานด้วยความเคลือบแคลง จะเป็นไปได้ยังไงที่เขาบอกคนที่เขาชอบคือเธอ

“เฮ่อ! เรื่องนี้ฉันเองที่พลาด จดหมายนั่นฉันตั้งใจจะเอาให้เธอ แต่ฉันดันเอาไปวางผิดโต๊ะเพราะคิดว่านั่นเป็นที่นั่งเธอ แต่เรื่องนี้ฉันก็อธิบายกับอึนซูไปหมดแล้ว อึนซูเองก็เข้าใจ แถมยังยินดีช่วยนัดเธอให้กับฉันอีก แต่เป็นเธอที่ไม่ยอมออกมาเจอฉัน วันนั้นอึนซูเลยอยู่ปลอบใจฉันก็เลยพลั้งปากพูดเรื่องของเธอไป”

“รุ่นพี่พูดอะไร ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องสักอย่าง ฉันเองก็เจออึนซูทุกวันไม่เห็นเธอจะพูดเรื่องของรุ่นพี่เลย แถมเธอยังบอกว่ารุ่นพี่กับเธอกำลังไปด้วยกันได้ดีอีกต่างหาก”

“เธอว่าอะไรนะ อึนซูไม่ได้บอกเหรอว่าฉันรออยู่หน้าโรงเรียน ไม่ได้บอกเหรอว่าคนที่ฉันชอบก็คือเธอ”

“ไม่เลยค่ะ อึนซูไม่ได้บอกอะไรฉันทั้งนั้น” เด็กสาวหนักแน่นในคำตอบ สีหน้าดูจริงจังเป็นอย่างมาก

“ทำไมเป็นแบบนี้ ที่ผ่านมาอึนซูโกหกฉันมาตลอดเลยเหรอ วันนั้นที่เธอไม่มาฉันก็คิดว่าเธอปฏิเสธฉัน ไม่ชอบฉันอย่างที่อึนซูบอกซะอีก” ชายหนุ่มเคว้งและสับสนไปหมด

“อึนซูพูดยังไงบ้างคะ”

“อึนซูบอกว่า คนที่เธอจะชอบต้องเป็นคนที่รวยเหมือนนัมจีโฮที่มีพ่อแม่เป็นถึงหมอ และที่ผ่านมาเธอก็คบกับผู้ชายแบบนี้มาตลอด อึนซูก็เลยให้ฉันตัดใจจากเธอ ตอนแรกฉันเองก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่เมื่อวานฉันแอบตามเธอออกจากโรงเรียนไป แล้วเธอก็ไปหานัมจีโฮจริงๆ เธอยอมโดดเรียนเพื่อไปหาเขาแล้วจะให้ฉันคิดอะไรได้อีก ฉันก็เลยเชื่อจริงๆ ว่าเธอเป็นอย่างที่อึนซูพูด”

“อย่างนี้นี่เอง ฉันไม่โกรธรุ่นพี่หรอกค่ะ เพราะรุ่นพี่ไม่ได้รู้จักฉันดีพอ แต่อึนซูนี่สิ เราสองคนเป็นเพื่อนกันมานาน รู้ใจกัน สนิทกันมากที่สุด แต่เธอทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง แล้วทำไมฉันต้องถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวด้วย” เด็กสาวขบฟันด้วยความขุ่นเคือง

“ยูรี ถ้าอย่างเรื่องที่เขาลือกันเกี่ยวกับเธอก็ไม่จริงใช่มั้ย เธอไม่ได้เป็นแบบที่อึนซูว่าใช่มั้ย” เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างมีความหวัง เพราะถ้าเรื่องทุกอย่างไม่จริงก็เหมือนตัวเขาเองยังมีโอกาสกับเธอเช่นกัน

“ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น ที่เป็นอยู่ชีวิตฉันก็แย่พออยู่แล้วทำไมฉันต้องหาเรื่องให้ตัวเองเพิ่มด้วย”

“งั้น…เธอกับนัมจีโฮล่ะ พวกเธอคบกันอยู่เหรอ”

“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้คบใครทั้งนั้น ฉันกับพี่จีโฮสนิทกันเพราะแม่ฉันเคยทำงานที่บ้านของพี่จีโฮ”

“งั้น….เธอให้โอกาสพี่ได้มั้ย ตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าคนที่พี่ชอบคือเธอไม่ใช่อึนซู”

“ขอโทษนะคะ ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้”

“ทำไมล่ะ หรือเธอติดปัญหาตรงอึนซู ถ้าอย่างนั้นฉันจะพูดกับอึนซูก็ได้ ต่อให้ข่าวลือจะเป็นจริง ต่อไปฉันก็ไม่สนใจแล้ว ฉันจะเชื่อแค่เธอ ถ้าตอนนี้เธอยังไม่ชอบฉัน ฉันก็จะรอ รอจนกว่าเธอจะชอบฉันก็ได้”

“ไม่เกี่ยวกับอึนซูหรอก เพราะฉันมีคนที่ฉันชอบอยู่แล้ว”

“นัมจีโฮเหรอ?”

“ค่ะ จริงๆ ฉันก็ตั้งใจจะสารภาพกับพี่จีโฮอยู่แล้วแต่มาเกิดเรื่องข่าวลือนี่ซะก่อนคนที่ฉันชอบก็คือพี่จีโฮ ขอโทษรุ่นพี่ด้วยนะคะ” เด็กสาวเอ่ยด้วยความจริงใจจนทำให้เด็กหนุ่มดูผิดหวังขึ้นมาทันที

“อืม…เข้าใจแล้ว เพื่อเป็นการไถ่โทษที่เข้าใจเธอผิดไป เธอจะให้พี่ช่วยอะไรก็บอกได้นะ"

“ไม่เป็นไรค่ะ แต่รุ่นพี่ช่วยยืนยันกับฉันอีกครั้งได้มั้ยคะว่ารุ่นพี่กับอึนซูไม่ได้คบกัน”

“พี่กับอึนซูไม่ได้คบกัน ว่าแต่เธอจะทำอะไรเหรอ”

“ทำเหมือนที่ซออึนซูทำไงคะ” เด็กสาวแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย ถึงเวลาที่เธอต้องออกมาปกป้องตัวเองบ้าง

คังยูรีคิดที่จะให้โอกาสซออึนซูได้สารภาพความจริงกับเธอเองแล้วเธอจะยอมให้อภัยทุกอย่าง คังยูรีรู้ดีว่าซออึนซูพื้นฐานเป็นคนจิตใจดี และที่ผ่านมาก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อเธอเสมอมา แต่อาจจะอ่อนไหวกับเรื่องความรักเกินเลยทำพลาดไปก็แค่นั้น ถ้ารู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป คังยูรีก็ไม่ติดใจอะไร ความเป็นเพื่อนระหว่างทั้งสองก็ยังคงเหมือนเดิม

คังยูรีเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนไม่ทันระวังว่ามีกลุ่มนักเรียนกำลังวิ่งมาทางเธอด้วยความเร็ว โชคดีที่นัมจีโฮคว้าตัวเธอหลบออกไปได้ก่อน ไม่งั้นคงได้โดนกลุ่มนักเรียนกลุ่มนั้นวิ่งชนล้มลงอย่างแน่นอน

“พี่จีโฮ” คังยูรีค่อยๆ เงยหน้ามองชายที่เข้ามาโอบประคองเธอเอาไว้ พอเห็นว่าเป็นนัมจีโฮก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ทำไมชายหนุ่มถึงได้มาอยู่ที่นี่

“ใจลอยทีไรก็เป็นแบบนี้ตลอดเลยนะ ยังคิดมากอยู่อีกเหรอ” นัมจีโฮเอ่ยต่อเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น รอยยิ้มที่มอบให้เธอนั้นดูจริงใจนัก

“ก็นิดหน่อยค่ะ แล้วทำไมพี่จีโฮมาอยู่นี่ละคะ ปกติพี่จีโฮไม่มาเดินแถวนี้สักหน่อย”

“เธอเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”

คำพูดรู้ทันของชายหนุ่มนั้นทำให้คังยูรียิ้มออกมาด้วยความจำนน เด็กสาวไม่สามารถปิดบังชายหนุ่มได้จริงๆ เขายังคงรู้ทันเธอเสมออย่างเช่นที่ผ่านมา

“ฉันมาทำธุระแถวนี้ค่ะกำลังจะกลับแล้ว แล้วพี่จีโฮมาทำอะไรที่นี่คะ”

“ธุระของเธอคือออกมาเดทกับหนุ่มม.5สินะ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ฉัน….”

“พี่ก็แค่หยอกเล่นเองทำไมต้องดูร้อนตัวขนาดนี้ด้วย”

นัมจีโฮรีบแจ้งต่อเด็กสาวเมื่อเห็นท่าทีว้าวุ่นของเธอ เขาเองก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ อย่างน้อยคังยูรีก็รีบปฏิเสธเขาทันทีที่เขาเอ่ยถึงเรื่องเดท

“ฉันก็ไม่อยากให้พี่เข้าใจฉันผิดนี่คะ” คังยูรีเลิ่กลั่กในทันที เด็กสาวไม่สบตาชายหนุ่มสักนิด ยิ่งเธอเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้นัมจีโฮชอบใจเข้าไปใหญ่

“นี่ก็เย็นมากแล้วกลับบ้านดีกว่าเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

นัมจีโฮพาคังยูรีขึ้นรถแท็กซี่เพื่อไปส่งที่บ้าน พอมาถึงบ้านก็อยู่เพื่อพูดคุยกันต่อ โดยเด็กสาวเล่าเรื่องทุกอย่างของเธอให้ชายหนุ่มฟังทั้งหมด นัมจีโฮเองก็รู้สึกเห็นใจคังยูรีนักเพื่อนที่รักและไว้ใจที่สุดจะมาสร้างข่าวลือร้ายๆ ให้กับเธอแบบนี้

“แล้วเธอจะทำยังไงต่อ”

“ฉันอยากได้แค่คำขอโทษและความรู้สึกผิดของอึนซูค่ะ บางทีเธออาจจะไม่ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ ถ้าอึนซูรู้สึกผิดที่ตัวเองทำลงไปแล้วมาขอโทษฉันด้วยใจจริงฉันก็จะลืมมันไปทุกอย่าง เราก็จะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”

“แล้วถ้ามันไม่เป็นแบบนั้นล่ะ”

“ฉันก็จะไม่ให้อภัยเธอ ฉันก็จะทำทุกอย่างให้เธอเป็นเหมือนกับฉัน” เด็กสาวเอ่ยด้วยความเคียดแค้นจนนัมจีโฮต้องเข้ามากุมมือเธอเอาไว้ แววตาที่เปลี่ยนไปของคังยูรีอดทำให้ชายหนุ่มเป็นห่วงไม่ได้

“เธอจะทำอะไรก็ได้ ขอแค่เธอไม่เป็นไรก็พอ” ชายหนุ่มกุมมือเด็กสาวไว้แน่น สายตาจับจ้องไปที่คังยูรีด้วยความจริงใจ ความอบอุ่นและอ่อนโยนของนัมจีโฮนั้นทำให้คังยูรีรับรู้ได้เสมอ

“ขอบคุณพี่มากนะที่อยู่ข้างฉันตลอดเลย ว่าแต่..พี่ยังไม่บอกฉันเลยนะว่าพี่ไปทำอะไรที่นั่น”

“พี่ตามเธอออกไปน่ะ พี่เห็นเธอกับคยองซานออกไปด้วยกันเลยนั่งแท็กซี่ตามไป”

“พี่เป็นพวกสะกดรอยตามตั้งแต่เมื่อไหร่” เด็กสาวยิ้มหยอก

“พี่เป็นห่วงเธอน่ะ พี่ไม่สนใจด้วยว่าคนอื่นจะมองเธอหรือมองพี่แบบไหน พี่สนใจแค่เธอคนเดียว พี่รู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นพูด เพราะพี่รู้จักเธอดีที่สุด”

“ท้ายที่สุดก็ยังคงเป็นพี่ที่เข้าใจฉัน อยู่ข้างฉัน ขอบคุณมากนะพี่จีโฮ มีพี่อยู่ข้างๆ แบบนี้ฉันก็ไม่กลัวอะไรแล้ว”

คำตอบของคังยูรีทำให้นัมจีโฮฉุกคิดอะไรได้บางอย่าง ชายหนุ่มคลายมือออกจากที่กุมมือเด็กสาวไว้ สีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเรียบเฉย คิ้วเริ่มขมวดและบีบมือตัวเองไว้แน่น ท่าทางของชายหนุ่มเริ่มทำให้คังยูรีเป็นกังวล

“พี่จีโฮ มีอะไรหรือเปล่าคะ” เด็กสาวหันมาถามชายหนุ่มด้วยความสงสัย

“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก เธอเข้าบ้านเถอะพี่จะกลับแล้ว” ชายหนุ่มลุกออกจากม้านั่งหันมายิ้มให้คังยูรีเล็กน้อยก่อนจะเดินจากหญิงสาวไป

“พี่จีโฮ…ฉันชอบพี่!”

คังยูรีตะโกนบอกความรู้สึกของเธอให้ชายหนุ่มได้รับรู้ แค่เห็นชายหนุ่มมีท่าทีเปลี่ยนไปก็ทำให้จิตใจเธอว้าวุ่นขึ้นมาทันที เด็กสาวคิดไปต่างๆ นานาว่านัมจีโฮอาจจะเข้าใจผิดเรื่องเธอกับคิมคยองซานก็ได้ บางทีการที่เธอได้สารภาพรักไปอาจทำให้ชายหนุ่มเข้าใจเธอมากขึ้น

คำสารภาพของคังยูรีทำให้นัมจีโฮตกตะลึงเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มเบิกตากว้างยืนนิ่งอยู่กับที่เหมือนสิ่งที่ได้ยินเมื่อสักครู่เป็นสิ่งที่คิดไปเอง แต่พอคังยูรีตะโกนย้ำอีกครั้งเลยทำให้มั่นใจว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นคือเรื่องจริง คังยูรีบอกว่าชอบเขาคือเรื่องจริง

“ฉันชอบพี่ ชอบมาตลอด ที่จริงฉันตั้งใจจะบอกพี่ตอนที่เคลียร์ปัญหาตัวเองแล้ว แต่พอฉันเห็นพี่มีท่าทางแปลกไปฉันก็รู้ว่าฉันรอไม่ได้อีกแล้ว ต่อให้พี่จะปฏิเสธฉัน ฉัน ฉันก็….”

เด็กสาวน้ำเสียงตะกุกตะกัก เธอเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อจากนี้ ถ้านัมจีโฮปฏิเสธเธอล่ะ แล้วเธอต้องทำยังไงต่อดี เด็กสาวว้าวุ่นไปหมด

นัมจีโฮยิ้มกว้างออกมา ชายหนุ่มรีบวิ่งไปกอดคังยูรีเอาไว้ในทันที การจู่โจมของเขาก็ทำให้เด็กสาวตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะเธอเองก็ไม่ได้ตั้งรับมาก่อนว่าชายหนุ่มจะจู่โจมเธอแบบนี้

ทุกเหตุการณ์ของทั้งคู่ถูกจับตามองโดยชาฮีจูตั้งแต่ต้น ชายหนุ่มในชุดขาวที่ยืนมองทั้งคู่อยู่ไม่ไกลนัก ร่มสีแดงไม่ได้ถูกกางออกมาเพราะไม่อยากให้คังยูรีรู้ว่าเขาเองก็อยู่ที่นี่ด้วย เขาก็แค่ยืนดูและเฝ้ามองเธอโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ชาฮีจูเผยรอยยิ้มพร้อมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะละสายตาจากคนทั้งคู่ แล้วหายตัวจากไปในที่สุด