นิยายรักแฟนตาซีดรามา ที่เล่าเรื่องของชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ผู้ส่งสารระหว่างคนเป็นและคนตาย แต่ต้องเข้ามาพัวพันกับหญิงสาวสองคนโดยที่ไม่เคยรู้เบื้องลึกมาว่าแท้จริงแล้วทั้งสามคนนั้นเกี่ยวข้องกันมาก่อน

The Promised พรากสัญญา - ตอนที่11 พรากสัญญา โดย paiinara @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เกาหลี,รัก,อาคม,รักสามเศร้า,รักข้ามภพ,ลึกลับ,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Promised พรากสัญญา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เกาหลี,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อาคม,รักสามเศร้า,รักข้ามภพ,ลึกลับ,ดราม่า,แฟนตาซี

รายละเอียด

นิยายรักแฟนตาซีดรามา ที่เล่าเรื่องของชายหนุ่มที่ทำหน้าที่ผู้ส่งสารระหว่างคนเป็นและคนตาย แต่ต้องเข้ามาพัวพันกับหญิงสาวสองคนโดยที่ไม่เคยรู้เบื้องลึกมาว่าแท้จริงแล้วทั้งสามคนนั้นเกี่ยวข้องกันมาก่อน

ผู้แต่ง

paiinara

เรื่องย่อ

The Promised พรากสัญญา


            เป็นเพราะคำสัญญาก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไปเลยทำให้ชาฮีจูต้องติดอยู่ในวังวนความรู้สึกผิดมาตลอด เขาเป็นผู้ลั่นวาจาสัญญากับใครคนหนึ่งเอาไว้แต่กลับจำสัญญานั้นไม่ได้ ชายหนุ่มจึงต้องหาคำตอบเลยทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับคังเยนาและคังยูรีอย่างไม่ได้ตั้งใจ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความหายนะครั้งใหญ่ที่พวกเขาต้องเผชิญ และพวกเขาต้องร่วมมือกัน ช่วยเหลือกันและไว้ใจกัน เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปให้ได้

สารบัญ

The Promised พรากสัญญา -ตอนที่1 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่2 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่3 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่4 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่5 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่6 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่7 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่8 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่9 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่10 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่11 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่12 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่13 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่14 พรากสัญญา,The Promised พรากสัญญา -ตอนที่15 พรากสัญญา

เนื้อหา

ตอนที่11 พรากสัญญา

 หลังจากแยกกับชาฮีจู คังยูรีเดินมาเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่จะมุ่งหน้าสู่บ้านของเธอ เด็กสาวเดินก้มหน้าคิดถึงแต่เรื่องของคังเยนา ถ้าเธอไปกับนัมจีโฮก็เท่ากับทิ้งโอกาสเพียงน้อยนิดที่จะช่วยเหลือคังเยนา ดูเหมือนว่าคังยูรีจะคิดไม่ตกเสียแล้ว


“ทำไงดี”


“ทำอะไรเหรอ?”


“พี่จีโฮ”


คังยูรีสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงตอบรับของนัมจีโฮที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอ เด็กสาวไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่


“อย่าบอกนะว่าพี่จีโฮก็หายตัวได้อีกคน”


“พูดอะไร พี่เป็นคนนะไม่ใช่ผีจะหายตัวได้ยังไง” ชายหนุ่มหลุดขำ


“นั่นสิคะ ฉันท่าจะอาการหนักแล้ว” เด็กสาวสาวยิ้มเขิน ตอนนี้มีเรื่องมากมายที่กวนใจเธออยู่จนบางทีเธอเองก็พูดอะไรออกไปโดยไม่ทันได้ไตร่ตรองออกมาก่อน


“ว่าแต่วันนี้โดดเรียนไปไหนมาเหรอ”


“พี่รู้ด้วยเหรอคะว่าฉันโดดเรียน”


“พี่แวะไปหาเธอที่ห้องเรียนน่ะ พอไม่เจอเธอก็คิดว่าคงจะโดดเรียนอีกแน่ๆ”


“แล้วตอนพี่ไปหาฉัน พี่เจออึนซูบ้างมั้ย”


“อืม เห็นนั่งหยอกเล่นกับเพื่อนอยู่น่ะ มีอะไรหรือเปล่า”


“ยัยนั่นคงไม่รู้สึกผิดจริงๆ สินะ” คังยูรีเม้มปาก ยิ่งเห็นซออึนซูไม่ได้สำนึกผิดก็ยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิม


“พี่จีโฮ ถ้าฉันนิสัยเสียไม่ใช่คนน่ารักอย่างที่พี่คิดไว้ พี่ยังจะชอบฉันอยู่อีกมั้ย”


“จู่ๆ ทำไมถามแบบนี้ล่ะ เท่าที่พี่รู้จักเธอมา เธอก็เป็นคนน่ารักแบบนี้อยู่แล้ว”


“แล้วถ้าวันหนึ่งฉันเปลี่ยนไป ฉันไปทำเรื่องไม่ดีกับใครพี่ยังจะชอบฉันอยู่มั้ย”


“ถ้าเธอทำแบบนั้นจริงก็น่าจะมีเหตุผลที่ให้ทำ เอาเป็นว่าแค่ไม่ไปฆ่าใครตายพี่ก็โอเคแล้วล่ะ”


คำพูดของชายหนุ่มทำให้คังยูรียิ้มกว้างออกมา เขาสมกับเป็นนัมจีโฮที่เธอชื่นชอบจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนเขาก็ยังคงอยู่ข้างเธอเสมอ คำพูดของชายหนุ่มทำให้เด็กสาวรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก


“เธอยังไม่ได้บอกพี่เลยนะว่าโดดเรียนไปไหนมา” ชายหนุ่มวกกลับมาที่คำถามเดิมอีกครั้ง


“ฉันแค่ไม่อยากถูกนินทาก็เลยไปนั่งเล่นที่สวนใกล้ๆ โรงเรียนนี่แหละค่ะ ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก”


นัมจีโฮพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเอ่ยถามเด็กสาวออกไปอีกครั้ง


“แล้ว….ไปคนเดียวเหรอ”


คำถามของนัมจีโฮทำให้คังยูรีชะงักทันที เด็กสาวหันมาสบตาชายหนุ่มด้วยความสงสัย ทำไมนัมจีโฮถึงได้ถามเธอแบบนี้หรือว่าเขาเห็นเธอออกไปกับชาฮีจู แต่จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาเองก็คงมองไม่เห็นชาฮีจูเหมือนที่คนอื่นๆ ที่มองไม่เห็นชาฮีจูเช่นกัน


“ฉันออกไปคนเดียวค่ะ ทำไมคะ หรือพี่เห็นว่าฉันออกไปกับใคร”


“พี่ก็แค่อยากรู้ ถ้าเธอออกไปคนเดียวพี่ก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้” ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อย


คำตอบของนัมจีโฮทำให้เด็กสาวโล่งใจได้ในทันที คงเป็นเธอเองที่คิดมากไป เพราะยังไงชายหนุ่มก็คงมองไม่เห็นชาฮีจูอย่างที่เธอเข้าใจไว้อยู่แล้ว


“ป๊ะ…กลับบ้านกันเดี๋ยวพี่เดินไปส่ง” นัมจีโฮยิ้มหวานก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือคังยูรีเอาไว้ ก่อนจะเดินจูงมือเธอตรงไปยังปลายทางที่เป็นบ้านของเธอซึ่งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก


ถึงแม้ว่านัมจีโฮจะเคยพูดเอาไว้ว่าเขาจะเดินจูงมือคังยูรีก็ต่อเมื่อตกลงคบกันแล้ว แต่เวลาแบบนี้คงไม่มีใครมาคอยจับผิดหรือสนใจพวกเขา หรือต่อให้มีคนคอยจับผิดจริงๆ เขาเองก็ไม่สนใจ และชายหนุ่มก็คิดว่าคังยูรีก็คงคิดแบบเดียวกัน ไม่งั้นเธอคงไม่กุมมือตอบเขาไว้แน่นเช่นนี้ และไหนจะท่าทีเขินอายพอใจที่เธอแสดงออกมานั่นอีก


เมื่อกลับมาถึงบ้าน คังยูรีเห็นว่ามีหญิงวัยกลางคนกำลังยืนด้อมๆ มองๆ อยู่ที่หน้าบ้านของเธอ การแต่งตัวของหญิงดังกล่าวดูภูมิฐานอยู่พอสมควร เด็กสาวและนัมจีโฮสบตากันและกันก่อนจะเดินเข้าไปหาหญิงวัยกลางคนดังกล่าวเพื่อถามไถ่


“ขอโทษนะคะ มาหาใครเหรอคะ”


เสียงทักทายของคังยูรีทำให้หญิงวัยกลางคนหันมามองที่คังยูรีทันที เธอมองสำรวจทั่วเรือนร่างของเด็กสาวก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่ดวงตากลมโตที่อยู่ตรงหน้า และยิ้มออกมาด้วยท่าทีพอใจ


“หนู…ใช่คังยูรีใช่มั้ย”


คังยูรีสบตาไปที่นัมจีโฮอีกครั้ง เด็กสาวประหลาดใจนักที่หญิงดังกล่าวรู้จักเธอ สายตาที่มองมาที่เธอก็ดูเป็นมิตรทั้งที่เธอเองก็ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาหรือรู้จักมาก่อน ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ทำไมถึงได้ปรากฏตัวต่อหน้าเธอเวลานี้


____________________________


วันต่อมา โรงเรียนมัธยมปลายกอซอง


คังยูรียังคงมาเรียนตามปกติ เด็กสาวมาถึงห้องเรียนตั้งแต่เช้า เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียนตัวเองสายตาก็จ้องอยู่ที่ประตูหน้าห้อง คังยูรีเฝ้ามองดูซออึนซูให้เดินทางมาถึงห้องเรียนอย่างจดจ่อ เมื่อเห็นว่าเธอมาถึงแล้วก็รีบลุกจากเก้าอี้เดินตรงไปหาซออึนซูที่กำลังเดินผ่านประตูเข้ามาในห้องเรียนทันที


“มาแล้วเหรอ” คังยูรีฉีกยิ้มกว้างให้เพื่อนสาวที่พึ่งมาถึง ท่าทางแปลกไปของเธอทำให้ซออึนซูสับสนอยู่ไม่น้อย


“จะมาไม้ไหนอีก” ซออึนซูโต้กลับด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง สีหน้าและแววตาเธอดูหน่ายคังยูรีอย่างเห็นได้ชัด


“ซออึนซู ฉันจะให้โอกาสเธอเป็นครั้งสุดท้าย ขอโทษฉันซะ ถึงคำขอโทษเธอครั้งนี้จะไม่จริงใจแต่ฉันก็จะรับไว้ ขอโทษต่อหน้าทุกคนในห้อง แล้วก็บอกความจริงกับทุกคนว่าเธอทำอะไรลงไปบ้าง”


“เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ” ซออึนซูตะคอกกลับ เด็กสาวเดินเบียดไหล่คังยูรีมุ่งหน้าไปที่โต๊ะเรียนของตัวเองโดยไม่สนใจคำพูดของคังยูรีเลยสักนิด


“ทุกคนเป็นพยานนะ ซออึนซูไม่ขอโทษฉันเอง เพราะฉะนั้น…ถ้าฉันทำอะไรลงไปก็ไม่ใช่ความผิดของฉันแล้วล่ะ”


คังยูรีตะโกนดังก้องทั่วห้องเรียน เด็กสาวเหมือนต้องการให้ทุกคนเป็นพยานกับสิ่งที่เธอกำลังจะทำต่อจากนี้ เพราะเธอเองก็ให้โอกาสซออึนซูแล้วแต่เป็นตัวซออึนซูเองที่ไม่คว้าโอกาสนั้นเอาไว้


คังยูรีเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเรียนของตัวเองตามเดิม สายตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่ซออึนซูอย่างไม่ลดละจนคนที่ถูกมองนั้นรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก


“เธอจะทำอะไรกันแน่” ซออึนซูเบนหน้าหันไปถามคังยูรีที่เอาแต่นั่งจ้องเธออยู่อย่างไม่สบอารมณ์


“เดี๋ยวเธอก็รู้ ใจเย็นๆ สิเพื่อน” คังยูรีตอบกลับก่อนจะแสยะยิ้มให้ซออึนซูอย่างมีเลศนัย


___________________


นัมจีโฮนั่งนิ่งมองไปยังวิวนอกหน้าต่างบานใหญ่ผ่านห้องเรียนของตัวเอง ชายหนุ่มนั่งใจเลยกำลังคิดถึงเรื่องบางอย่างอย่างครุ่นคิด สีหน้าและแววตานั้นไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ หลังจากแยกกับคังยูรีเมื่อคืนวานชายหนุ่มก็ดูเซื่องซึมอยู่ไม่น้อย


“จีโฮ เป็นอะไรนั่งเหม่ออยู่ได้” เพื่อนนักเรียนชายคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นนัมจีโฮเอาแต่นั่งใจลอย


“คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ เอ่อ…วันนี้เที่ยงฉันไม่เล่นบาสกับพวกนายนะพอดีมีเรื่องต้องไปทำ”


“อะไรกัน มีเรื่องไหนที่สำคัญไปกว่าพวกเราอีกเหรอ” เพื่อนชายเอ่ยแซวจนนัมจีโฮต้องหลุดยิ้มออกมา


ช่วงพักเที่ยงของวัน


คังยูรียืนด้อมๆ มองๆ อยู่ที่โรงอาหาร ไม่ว่าซออึนซูจะไปทางไหนเธอก็จะตามไปทุกที่ เหมือนเธอกำลังรอจังหวะเพื่อจะทำอะไรบางอย่าง


ซออึนซูมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำโดยที่มีคังยูรีตามไปเช่นกัน คังยูรีเอาไม้ถูพื้นที่วางอยู่ที่มุมอ่างล้างมือมายันประตูห้องน้ำที่ซออึนซูกำลังใช้งานอยู่ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป เด็กสาวยืนดักอยู่หน้าห้องน้ำเพื่อไม่ให้ใครเข้าไปใช้บริการโดยให้เหตุผลว่าแม่บ้านกำลังทำความสะอาดอยู่


ซออึนซูทำธุระเสร็จก็พยายามเปิดประตูแต่เปิดเท่าไหร่ก็เปิดไม่ออก เธอร้องตะโกนให้คนที่อยู่ด้านนอกห้องเข้ามาช่วย แต่ก็ไม่มีสักคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือเธอ


เหล่านักเรียนที่เดินไปมาผ่านหน้าห้องน้ำก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือมาจากด้านในห้อง พอจะมีคนเข้าไปช่วยเหลือคังยูรีก็ห้ามเอาไว้


“นั่นเสียงอึนซูไม่ใช่เหรอ” คิมคยองซานและเพื่อนชายอีกสองคนเดินผ่านมาได้ยินพอดี นักเรียนชายคนหนึ่งเอ่ยถามคังยูรีที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำด้วยความสงสัย


“อืม เสียงอึนซูนั่นแหละ พอดีฉันขังเธอไว้ในห้องน้ำน่ะ” เด็กสาวตอบอย่างตรงไปตรงมา


“เธอขังอึนซูไว้ทำไม”


“รุ่นพี่หยุดเลยนะ นี่มันเป็นเรื่องของฉันกับอึนซูรุ่นพี่ไม่เกี่ยว” คังยูรีตวาดไปที่คิมคยองซานเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเข้าไปด้านในเพื่อช่วยเหลือซออึนซู


“นี่จะเอาคืนอึนซูเหรอ พอเถอะยูรี พี่ว่าเลิกแล้วต่อกันเถอะ ส่วนเรื่องที่คนอื่นเข้าใจเธอผิดพี่ก็บอกความจริงทุกคนไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันทั้งนั้น อย่าทำแบบนี้เลยนะ อึนซูคงสำนึกผิดแล้วล่ะ”


“สำนึกผิดเหรอ ยัยนั่นยังยิ้มระรื่นไม่รู้สึกผิดสักนิด ขนาดฉันให้โอกาสขอโทษเธอยังไม่สนใจเลย”


“งั้นเดี๋ยวพี่จะบอกให้อึนซูมาขอโทษเธอเอง”


“ได้ ถ้ารุ่นพี่มั่นใจว่ายัยนั่นจะยอมขอโทษฉัน งั้นฉันทำตามที่รุ่นพี่บอกก็ได้”


คังยูรีเดินเข้าไปด้านในห้องเปิดประตูห้องน้ำแล้วกระชากแขนซออึนซูให้เดินตามเธอออกมา เด็กสาวเหวี่ยงร่างซออึนซูไปอยู่ต่อหน้าคิมคยองซานที่ยืนอยู่


ทุกคนที่เดินผ่านไปมาต่างให้ความสนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่พวกเขาด้วยความอยากรู้ เหมือนว่าวันนี้จะมีเรื่องราวน่าตื่นเต้นให้พูดถึงกันอีกแล้ว


“พี่คยองซาน” ซออึนซูมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างโอนอ่อน ก่อนกวาดสายตามองไปยังกลุ่มนักเรียนที่กำลังมุงดู เด็กสาวแสดงแววตากังวลอย่างเห็นได้ชัด


“เธอใช่มั้ยที่ขังฉันไว้น่ะ” ซออึนซูเอ่ยถามคังยูรีอย่างเกรี้ยวกราดด้วยความมั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือของคังยูรีอย่างแน่นอน


“เธอก็ไม่ได้โง่นี่ รุ่นพี่คยองซานมีเรื่องจะพูดกับเธอด้วย ใช่มั้ยคะรุ่นพี่” คังยูรีตอบกลับก่อนจะเบนสายตาถามชายหนุ่มที่ยืนข้างๆ


ท่าทางและความมั่นใจของคังยูรียิ่งทำให้ซออึนซูดูกระวนกระวายมากกว่าเดิม เธอเองก็คาดเดาไม่ได้ว่าคังยูรีจะมาไม้ไหนอีก และท่าทางของคิมคยองซานก็ดูจะหมางเมินกับเธออยู่ไม่น้อย


“อะไรเหรอคะพี่คยองซาน”


“อึนซู พี่ว่าเธอขอโทษยูรีเถอะนะ ถ้าเธอยอมขอโทษยูรีรับปากว่าจะให้อภัยเธอ พวกเธอสองคนยังเริ่มต้นใหม่กันได้นะ”


ซออึนซูแสยะยิ้มเล็กน้อย เด็กสาวเดินเข้าประชิดตัวคังยูรี เธอกระซิบต่อเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ท่าทางของซออึนซูดูไม่สำนึกเลยแม้แต่น้อย


“บังคับฉันไม่ได้ เลยไปบังคับพี่คยองซานให้พูดกับฉันแทนสินะ นี่เธอกระหายคำขอโทษขนาดนี้เลยเหรอยูรี งั้นฉันยอมเธอก็ได้”


เมื่อน้ำเสียงเย็นชานั้นจบลง ท่าทีของซออึนซูก็เปลี่ยนเป็นโอนอ่อนลงทันที แววตาของเธอดูใสซื่อและแสดงความหวาดกลัวต่อคังยูรีเป็นอย่างมาก เธอทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองคังยูรีด้วยสายตาเหยียดหยันและซุบซิบนินทาถึงคังยูรีที่ปฏิบัติต่อเธอเกินความจำเป็น


“ยูรี ฉันขอโทษ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ นะ ฉันจะไปบอกทุกคนก็ได้ว่าข่าวลือเรื่องเธอมันไม่ใช่เรื่องจริง ทุกคนได้ยินมั้ย ข่าวลือเรื่องยูรีมันไม่ใช่เรื่องจริงนะ ทุกอย่างเป็นความเข้าใจผิดกันทั้งนั้น"


ซออึนซูแววตาสั่นเครืออ้อนวอนต่อเพื่อนร่วมโรงเรียนให้เห็นใจเธอและเหมือนจะได้ผล ทุกคนต่างก็ดูเข้าอกเข้าใจเธอเป็นอย่างมาก และเชื่อว่าสิ่งที่ซออึนซูทำไปคงเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันจริงๆ


“นี่ยูรี อึนซูก็ขอโทษแล้ว เธอก็หายโกรธได้แล้ว ทีเธอจับอึนซูขังไว้ในห้องน้ำอึนซูยังไม่ว่าอะไรเลย” นักเรียนหญิงคนหนึ่งเอ่ยแทรกขึ้นเหมือนว่าเธอจะเลือกข้างอย่างเห็นได้ชัด


“ยูรี จบเรื่องเถอะนะ อึนซูก็ขอโทษแล้วอย่าโกรธกันอีกเลยนะ” คิมคยองซานร้องขอต่อเด็กสาว เขาเองก็ไม่อยากเห็นความเป็นเพื่อนของทั้งคู่จบลง อะไรที่ให้อภัยกันได้ก็อยากให้อภัย


คังยูรีกวาดสายตามองไปยังเหล่านักเรียนที่จับกลุ่มมองมาที่เธออย่างเหยียดหยัน ก่อนจะละสายตานั้นออกแล้วจ้องไปที่คิมคยองซานที่ยืนอยู่ตรงหน้าแทน เด็กสาวขบฟันด้วยความเคืองขุ่น ยิ่งเห็นผู้คนสงสารซออึนซูเธอก็ยิ่งเจ็บใจ แล้วที่เธอต้องถูกนินทาว่าร้าย เอาเรื่องของเธอไปพูดสนุกปากกลับไม่มีใครเห็นใจเธอสักนิด แต่พอวันนี้กลับเห็นใจคนที่กระทำต่อเธอ แบบนี้มันยุติธรรมกับเธอหรือยังไง ยิ่งคิดเด็กสาวก็ยิ่งแค้น


“ขอโทษนะยูรี ขอโทษจริงๆ ”


ซออึนซูเดินเข้ามากุมมือของคังยูรีเอาไว้ แววตาสั่นเครือเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ ทั้งหมดนี้เป็นแค่การเสแสร้งแกล้งทำของเธอทั้งนั้น แววตาที่ดูเศร้านั้นกลับแฝงไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสะใจซ่อนอยู่ เป็นแบบนี้แล้วคังยูรีจะปล่อยผ่านไปง่ายๆ ได้ยังไง


คังยูรีสะบัดมือออกจากมือที่กุมเอาไว้อย่างสุดแรง เด็กสาวแสยะยิ้มเล็กน้อยแววตาจับจ้องไปที่ซออึนซูอย่างเคียดแค้น เธอค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ซออึนซูให้มากขึ้นก่อนจะเลื่อนมือซ้ายขึ้นมาลูบผมยาวสลวยของซออึนซูเล่น


“อึนซูขอโทษนะ ฉันว่าจบแบบนี้มันง่ายไป”


คังยูรีเอ่ยกระซิบต่อซออึนซูที่ยืนนิ่งอยู่ เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังจะทำมันถูกหรือผิดแต่เธอก็ไม่สนใจอะไรแล้ว เวลานี้สิ่งที่เธอต้องการก็แค่ความสะใจ เธออยากให้เพื่อนรักของเธอได้เจอชะตากรรมเดียวกันกับเธอดูบ้างแค่นั้น เด็กสาวหันไปจ้องคิมคยองซานที่ยืนอยู่และยิ้มให้กับเขาอย่างมีเลศนัย


“รุ่นพี่คยองซาน จริงมั้ยที่รุ่นพี่กับอึนซูกำลังคบกันอยู่” คังยูรีตะเบ็งเสียงให้ดังขึ้นเพื่อให้คนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินกันทั้งหมด


“เธอจะทำอะไร หยุดพล่ามเดี๋ยวนี้นะ” ซออึนซูเข้ามาประชิดตัวคังยูรีทันที ขืนให้คังยูรีพูดต่อทุกคนต้องรู้ความจริงแน่ว่าเธอกับคิมคยองซานไม่ได้คบกันอย่างที่เที่ยวบอกใครต่อใครเอาไว้


“ใครจะสนล่ะ ฉันอยากให้เธอลิ้มรสการเป็นขี้ปากชาวบ้านดูบ้างว่ามันรู้สึกยังไง” คังยูรีไม่สนใจคำคัดค้านของซออึนซู เธอยังคงทำในสิ่งที่ต้องการ เด็กสาวเดินตรงเข้าไปหาคิมคยองซานที่ยืนสับสนอยู่


“จริงมั้ยคะรุ่นพี่ รุ่นพี่กับอึนซูคบกันจริงๆ เหรอ”


“จะทำอะไรนะยูรี พอได้แล้ว ทุกคนมองกันหมดแล้ว” คิมคยองซานกระซิบต่อเด็กสาว เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดที่คังยูรีเอาเขาไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย


“ฉันให้รุ่นพี่เลือกว่าจะช่วยใคร ฉันหรือซออึนซู หรือถ้ารุ่นพี่ไม่พูดอะไรเลยก็เท่ากับรุ่นพี่คบกับเธอจริงๆ รุ่นพี่อยากคบกับผู้หญิงที่ชอบพูดโกหกและทำร้ายคนอื่นอย่างนั้นเหรอคะ ฉันจะบอกอะไรให้ ที่ฉันขังเธอไว้ในห้องน้ำเพราะฉันแค่จะเอาคืนที่เธอขังฉันไว้ที่ห้องศิลป์ ไหนจะเรื่องที่เธอเขียนบนกระดานดำว่าฉันเป็นผู้หญิงสำส่อนอีกล่ะ ฉันก็แค่ทำเหมือนที่เธอทำกับฉันบ้างไม่ได้หรือไง”


“อะไรนะ อึนซูทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย


“อย่าไปเชื่อนะคะพี่คยองซาน ฉันไม่ได้ทำ”


ซออึนซูรีบวิ่งเข้ามาอธิบายต่อเด็กหนุ่มในทันที และเหมือนเหล่านักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์จะเปลี่ยนท่าทีกันหมด จากที่สงสารและเห็นใจเธอกลายเป็นเคลือบแคลงต่อเธอแทน


“จริงเหรออึนซู ถ้าเธอทำแบบนั้นจริงๆ นั่นเป็นการจงใจแล้วนะ มันไม่ใช่ความผิดพลาด” คิมคยองซานเอ่ยถามซออึนซูด้วยแววตาผิดหวังทั้งที่ผ่านมาเขาเองก็พยายามช่วยเธอมาตลอด


“ไม่จริงนะพี่คยองซาน ยูรีใส่ร้ายฉัน ฉัน….”


“ฉันเป็นพยานได้!”


เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยแทรกขึ้นมา ชาแฮวอนเดินฝ่าวงล้อมของเหล่านักเรียนเข้ามาหาคนทั้งสาม เธอเองก็ยืนดูอยู่นานแล้วแต่ก็ไม่คิดว่าจะต้องมามีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ด้วย หญิงสาวเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าซออึนซู เธอยิ้มกว้างออกมาด้วยความสะใจ