"ถ้าแม่นได้ลูกชายสิมีผู้สืบทอดวิชา ถ้าแม่นได้ลูกสาวสิมีวิบากกรรมและต_ายก่อนวัยอันควรเด้อ"

ธรรมขันธ์(นาเคศวร) - 2 คำเตือนจากคนแปลกหน้า โดย Saros @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

พารานอมอล,ลึกลับ,ชาย-ชาย,เรื่องสั้น,ไทย,สยองขวัญ,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ธรรมขันธ์(นาเคศวร)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

พารานอมอล,ลึกลับ,ชาย-ชาย,เรื่องสั้น,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สยองขวัญ,นิยายวาย

รายละเอียด

"ถ้าแม่นได้ลูกชายสิมีผู้สืบทอดวิชา ถ้าแม่นได้ลูกสาวสิมีวิบากกรรมและต_ายก่อนวัยอันควรเด้อ"

ผู้แต่ง

Saros

เรื่องย่อ

หนุ่มน้อยทิวา ที่เกิดมาในตระกูลสืบทอดหมอธรรม แต่จิตใจของเขานั้นอ่อนแอขี้กลัวยิ่งนัก เขาจึงดิ้นรนหาทางแก้เพื่อไม่ให้ตัวเองได้สืบธรรมจากตระกูลโดยการไปหาหมอธรรมที่เก่งวิชาอาคมที่มีการสืบทอดโดยตระกูลเหมือนกันแต่เขาก็ไม่สามารถหาหมอธรรมที่จะมาช่วยเขาได้ จนเขาได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เข้ามาทักทายและพบว่าหญิงสาวคนนั้นเป็นหลานของหมอธรรมคนหนึ่งที่อยู่ต่างหมู่บ้านและบ้านอยู่ท้ายหมู่บ้านติดกับสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งหญิงสาวพร้อมทิ้งท้ายไว้ว่าเขาชื่อลัญฉกรถ้าอยากได้ความช่วยเหลือให้ไปหาเธอได้ทันที แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด!!!




      ___________________________________

                 

                 อ่านกันให้สนุกนะคะ😊


สารบัญ

ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-1 อารัมภบท,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-2 คำเตือนจากคนแปลกหน้า,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-3 นำทาง,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-4 สงสัย,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-5 ตามหาต้นตอผีร้าย,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-6 ไม่ช่วยก็ขอเป็นศิษย์ได้ไหม,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-7 ปอบคลั่ง,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-8 ลางสังหรณ์,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-9 จำได้ไม่ลืม,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-10 หวั่นไหว,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-11 ปลงคาย,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-12 อย่าแม้แต่คิดจะรัก,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-13 ลองของ,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-14 เอาตัวรอด,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-15 ปกป้อง,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-16 จิตวิญญาณ,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-17 ปิดตำนาน,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-18 จะรักได้หรือยัง,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-19 ความฝันของลัญฉกร,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-20 ผู้ถูกเลือกที่ต้องเลือก,ธรรมขันธ์(นาเคศวร)-21 อัพเดตอีบุ๊ค

เนื้อหา

2 คำเตือนจากคนแปลกหน้า



บทที่ ๑ คำเตือนจากคนแปลกหน้า

คืนนั้นทิวาก็นอนไม่หลับคิดวนไปวนมาอยู่บนเตียงจนเช้าได้ยินเสียงไก่ขัน ทิวาก็รีบลุกออกจากเตียงลงมาเตรียมกับข้าวไว้ให้ยายรณีและเก็บเสื้อผ้าข้าวของไปทำงานที่ต้องเก็บเสื้อผ้าไปด้วย

เพราะทิวาจะไปค้างบ้านเพื่อนสักคืน2คืนก่อนจะทิ้งจดหมายไว้และออกจากบ้านไปแต่เช้ายายรณีก็รู้สึกตัวตื่นจึงมองหลานผ่านทางหน้าต่างที่มีผ้าม่านบังอยู่ที่ตอนนี้หลานกำลังรีบร้อนออกไปยายรณีก็ได้แสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัวมองหลานขับรถออกไปจนลับสายตา

เมื่อทิวาขับรถเข้าถึงในตัวเมืองเขาก็ขับรถเข้าไปทำงานเลยทิวาทำงานขายประกันให้บริษัทแห่งหนึ่งในตัวอำเภอ บ้านของทิวาห่างจากตัวอำเภอแค่10กว่ากิโลเท่าเขาจึงไปกลับทุกวัน

นอกจากวันไหนที่ออกนอกสถานที่เหนื่อยขับรถเขาก็จะนอนพักที่บ้านของพนาหรือไม่ก็พงษาเพื่อนสนิทของทิวาในสมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันแต่ทำงานคนละอาชีพ ทิวาขายประกัน พนาทำวิศวะกรโยธา พงษาเป็นครู ถ้าว่าสนิทกันได้ไง เหตุเกิดเพราะไปค่ายครูจิตอาสาจึงได้รู้จักและสนิทกันมาแต่ตอนนั้น

จนจะถึงใกล้เวลาเลิกงานทิวาก็ได้กดโทรหาพนา ไม่นานพนาก็รับสาย

“ว่าไงมึง!!!”พูดด้วยน้ำเสียงเฉยๆแต่ก็รอฟัง

“คืนนี้ กูไปนอนด้วยนะ” พูดน้ำเสียงอ้อนๆ

“โห้ยยวันนี้ว่าจะไปตี้ละหิ้วเด็กกลับสักหน่อย มึงไปด้วยไหมทิวา”พูดน้ำเสียงน้อยใจเล็กน้อยแต่ก็ชวนไปด้วย

“ไอ่พงมันมาไหม มีเรื่องอยากปรึกษาว่ะ”ถามถึงด้วยความสงสัยและน้ำเสียงดูเครียดๆ

“เรื่องอะไรว่ะ มาๆมันมา งั้นมึงมาบ้านกูก่อนละกัน”

“อื้อ เจอกันมึง”ทิวาวางสายจากพนาก่อนจะถอนหายใจเบาๆและเก็บของเลิกงานไปที่บ้านพนา

บ้านของพนาห่างจากที่ทำงานทิวาแค่2กิโลขับรถมาไม่นานก็ถึงตามบ้านนอกรถไม่ค่อยติดเท่าไหร่

เมื่อมาถึงก็เกือบจวนจะ6โมงเย็นแล้วบ้านของพนาเป็นบ้านไม้เรือนไทยมี3ห้องนอนด้านบนและโถ่งกว้างๆด้านล่างก็เป็นโถ่งกว้างๆมีโต๊ะกับข้าวและทีวีห้องครัวและห้องน้ำ แม่ของพนาก็ทำกับข้าวเตรียมรอกำลังตั้งโต๊ะไม่นานพงษาก็ขับรถเข้ามาจอดและเดินลงมาเสียงมาก่อนตัวเสมอ

“พงษามาแล้วคร้าบบบ คุณแม่สวัสดี คุณพ่อไปไหนครับเนี่ย”ยกมือไหว้สวัสดีแม่ของพนาที่ยกกับข้าวมาวางบนโต๊ะโดยมีทิวาและพนาช่วยจนเสร็จพอดี

“สวัสดีครับพงษา คุณพ่อไปต่างจังหวัดนะลูก มาเหนื่อยๆมาทานข้าวทานน้ำก่อนครับ”รับไหว้พงษาและเดินเข้าไปประคองมานั่งบนเก้าที่โต๊ะอาหาร

“ขอบคุณคร้าบบ”พงษากล่าวคุณแม่พนาและยิ้มให้อย่างจริงใจ

“ตามสบายเลยนะลูกแม่ขอตัวขึ้นบ้านก่อน”พูดจบแม่ก็กำลังจะเดินออกไปทิวาเลยกล่าวทักขึ้นมา

“อ้าว คุณแม่ไม่อยู่ทานด้วยกันหรอครับอาหารเยอะเลย”ทิวาพูดด้วยความสงสัยและหันมามองที่อาหารบนโต๊ะ

“ไม่หรอกจ้ะ เด็กๆตามสบายกันเลยนะแม่ลดหุ่นนะ”พูดด้วยความติดตลกและยิ้มให้กับทิวาเบาๆก่อนจะขึ้นบ้านไปเมื่อแม่ขึ้นบ้านไปแล้วทิวาก็เริ่มเปิดประเด็น

“พวกมึงกูว่ายายกูแปลกๆว่ะ” ลากเก้าลงนั่งและจับช้อนขึ้นมาตั้งบนจานก่อนจะหันไปหาพนาและพงษา พนาก็ค่อยลากเก้าอี้นั่งลงที่หัวโต๊ะ

“แปลก แปลกยังไงว่ะ” พนาและพงพูดพร้อมกันและตักกับข้าวกินไปด้วย

“กูไม่รู้ว่ะ กูว่าสายตาและการกระทำของยายมันแปลกไป”ทิวาก็เล่าด้วยด้วยสายตาครุ่นคิดแต่ก็ยังไม่ยอมกินข้าว

“ยายมึงเป็นหมอธรรม เข้าทรงด้วยใช่ป่าว” พงษากล่าวทั้งที่เคี้ยวข้าวอยู่

“ไอ่สัสส เคี้ยวให้เสร็จก่อนค่อยพูด”พนาตบที่หัวพงษาเบาก่อนจะดุด้วยน้ำเสียงแข็งๆกร้าว “ไอ่พงพูดก็ถูกนะ หรือมึงคิดว่ายายมึงผีเข้าหรือไง?”

“กูก็ไม่แน่ใจว่ะ กูถึงมาปรึกษาพวกมึงนี่ไง!!!”ทิวากล่าวด้วยน้ำเสียงติดโมโหนิดหน่อย

“เอางี้เดี๋ยวกูถามเพื่อนที่เป็นครูด้วยกันให้”พงษากล่าวขึ้นมา

“มึงมีเพื่อนคบด้วยหรอที่นู้นอ่ะ” น้ำเสียงและสีหน้ากวนๆ

“โห้ว!!!ดูถูก นี้เดี๋ยวกูโทรถามให้ตอนนี้เลย”พูดจบก็หยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกไม่นานรวินทร์ก็รับ

“ฮัลโหลรบกวนรึเปล่าว่างคุยสักหน่อยไหม”พงษากล่าวถามปลายสายพนาและทิวาก็ยื่นหูมาฟังใกล้ๆ

“ได้แปปนะเปิดลำโพงก่อน”ปลายสายตอบกลับและมีเสียงพึมพำในมือถือแว่วเข้ามาว่า”ลุงเปิดลำโพงให้หน่อยดิถือ ให้ด้วย” “ใช่หน้าที่กูหรอ?” “งั้นลุงมาขับ”

“เอ่อๆ เอ่านี้เปิดล่ะ”พอสิ้นเสียงทุ่มๆดูเย็นชาและแข็งกร้าวไปเพื่อนของพงษาก็ตอบกลับมา

“เอ่อว่าไงเล่ามาเลยถ้าตอบได้ก็จะตอบ”รวินทร์ยื่นหน้ามาพูดตาก็มองถนนไปด้วย

“เอ่อ คืองี้นะมึงกูมีเพื่อนคนหนึ่งบ้านมันเป็นหมอธรรมอ่ะแล้วเขาก็สืบทอดกันมาหลายรุ่นมากแต่ทีนี้ว่าเพื่อนกูมันไม่อยากสืบทอดและอีกอย่างมันรู้สึกว่ายายของมันแปลกๆไป”

พงษาเล่าให้รวินทร์ฟังพร้อมกับมองหน้าทิวาที่ลุ้นไปด้วยว่ารวินทร์จะตอบมายังไงโดยไม่รู้ว่าคนที่นั่งฟังอยู่กับรวินทร์ก็เป็นหมอธรรมเช่นกัน

“แปลกไปงั้นหรอพง แปลกยังไง”รวินทร์ตอบกลับด้วยปากแต่สายตาก็เหลือบไปมองหมอฌานที่ตามองทางแต่แอบเอียงหูฟังอยู่

“ไอ่ทิมึงเล่าไปสิ”พงบอกกล่าวทิว่าให้เล่าเรื่องราวให้รวินทร์ฟัง

“เอ่อ ก็ประมานว่าสายตาของยายดูเปลี่ยนไปจากเดิมและเราก็รู้สึกขนลุคเวลายายมองหรือมาสัมผัสที่ตัวของเราอ่ะ”ทิวาเล่าไปด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว

“ยายมึงมีครอบครัวไหม?”รวินทร์ถามกลับและพอจะเดาอะไรออกได้บ้าง

“ไม่มี ยายไม่มีครอบครัวเขาเป็นน้องสาวของยาเราอีกทีหนึ่ง”ทิวาหันมองหน้าพงและพนาก่อนจะหันมาจ้งที่มือถือ

“สงสัยยายมึงคงไปทำอะไรผิดศีลข้อห้ามหรือไม่ก็ไปหลบลู่เจ้าที่ที่ไหนมาแน่ๆ ดีไม่ดีคนที่อยู่กับมึงอาจไม่ใช่ยายมึงก็ได้ตอนนี้”

“แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ะ”พงกล่าวถาม

“พิสูจน์สิ คนใกล้ตัวย่อมรู้ดีที่สุด”

“เอ่อๆขอบใจมากนะมึงกูไม่กวนมึงละ ไว้เจอกัน”

สายก็ตัดไป ตัดมาที่รวินทร์และหมอฌานบนรถขณะขับเข้าในเมือง

“เพื่อนมึงนี่ก็แปลกเนอะไม่อยากสืบทอดสิ่งที่ตะกูลเขาสืบทอดกันมา”ฌานพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

“แม๋ลุง มันไม่ใช่ทุกคนที่จะคลั่งใคร่ในวิชาอาคมม่ะ ขนาดลุงเองก็ยังไม่อยากสืบทอดเลยแล้วลุงสืบทอดทำไม” รวินทร์พูดด้วยน้ำเสียงและหน้าตาล้อเลียน

“ไอ่นี่ อย่าลามปาม กูก็มีเหตุผลของกูไหม”หง้างมือจะตบกระโหลกรวินทร์

“มันก็นั้นแหละ เพื่อนของเพื่อนผมมันก็มีเหตุผลของมันเหมือนกัน”รวินทร์พูดจบก็หันมาตั้งใจขับรถต่อจนถึงที่นัดหมายส่วนฌานระหว่างทางเขาก็นิ่งเงียบและหันมองออกนอกหน้าต่าง

ตัดมาที่บ้านพนาเมื่อวางสายจากเพื่อนของพงแล้วทุกก็เริ่มทานอาหารกันต่อและคุยกันพลางก่อนจะพากันไปอาบน้ำและออกไปเที่ยวกลางคืนกัน

ที่นั้นเป็นร้านอาหารกึ่งร้านเหล้าแต่ก็จะมีโซนแยกเมื่อมาถึงพนาก็เลือกโต๊ะด้านริมๆจะได้เดินไปห้องน้ำได้สะดวก

     ปาร์ตี้ร้านเหล้าก็เริ่มขึ้นทุกคนเริ่มเมาและเริ่มออกมาเต้นอย่างเป็นระยะๆ ระหว่างที่ทิวาเต้นอยู่นั้นมีสายตาคู่หนึ่งที่มองลงมาจากด้านบนร้านกวาดมองไปรอบๆร้านแล้วก็มาสดุดอยู่ที่ทิวาหนุ่มน้อยหน้าตาสวยที่กำลังเต้นยั่วยุอย่างเมามันสายตาคู่นั้นมองแล้วเผลอกระตุกยิ้มที่มุมปากออกมาอย่างเบาๆก่อนที่เจ้าของสายตาคู่นั้นจะลุคขึ้นและเดินตรงไปที่ห้องน้ำ

ห้องน้ำชาย

ระหว่างที่เข้าทำธุระเสร็จแล้วนั้นกำลังยืนล้างมืออยู่ก็มีร่างเล็กๆเดินสะเปะสปะเข้ามาใกล้ๆยืนข้างๆตรงอ้างล้างมือก่อนจะเปิดน้ำล้างหน้าตัวเองทำให้ผมด้านหน้าเปียก

ทิว่าจึงค่อยๆเสยผมขึ้นและทำให้เขาหันไปเห็นคนข้างๆที่ยืนจ้องมองเขาอยู่ ทิวาจึงดุเขาไปด้วยน้ำเสียงเมาๆว่า

“มองทำไม ไม่เคยเห็นคนล้างหน้ารึไง?”พูดและขยับเข้าใกล้คนร่างใหญ่พยายามเบิกตามองคนตรงหน้า

“ปากดีเหมือนกันนิเรา!!!”ร่างใหญ่ค่อยๆขยับตัวเข้ามาใกล้ทำให้ร่างเล็กๆของทิวาไปหันไปพิงกับที่ล้างมืออย่างเต็มตัว และคนที่อยู่ตรงหน้าก็บังทิวาจนมิดตอนนี้ในห้องน้ำไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่เพราะยิ่งดึกข้างในก็กำลังเต้นเมามันส์อยู่

“จะ จะทำอะไร”น้ำเสียงกลัวๆและก้มหน้าลงเอามือดันหน้าอกคนตรงหน้าที่พยายามโน้มตัวลงมาใกล้

ร่างใหญ่เห็นอย่างนั้นก็แสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเอามือข้างซ้ายขว้าเอวเล็กๆเข้ามากระชับชิดตัวของเขาและเอามือข้างขวาค่อยๆเอามาจับที่ค้างของทิวาให้เหงยหน้าขึ้นมามองร่างใหญ่สูงโปร่งก่อนจะพูดว่า

“ทำไมตอนนี้ ไม่เห็นปากดีล่ะ หื้ม!”เอียงคอถามร่างเล็กตรงหน้าที่ตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของร่างใหญ่และสายตาเบิกกว้างทิวามองใบหน้าตรงหน้าที่ จมูกเป็นสันต์ ตาโต ผมยาวมัดรวบครึ่งหัวอย่างตะลึงขนาดในที่ไฟสลัวๆยังหล่อขนาดนี้ ทั้งคู่จ้องตากัน

ร่างใหญ่ก็ดึงค้างร่างเล็กเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มมือของร่างเล็กที่วางทาบอยู่บนหน้าอกก็ค่อยๆลวงเข้าไปในเสื้อเชิ้ตที่แหวกกลางหน้าอกให้เห็นรอยสักทั้งคู่จูบลูบไล้และนัวส์เนียร์กันอยู่

แปปหนึ่งร่างใหญ่ก็ค่อยๆคลายจูบออกแต่ร่างเล็กยังคงอยู่ในอ้อมกอด ร่างเล็กตกใจเล็กน้อยที่เขาหยุดการกระทำ แต่ร่างใหญ่ก็โน้มเข้ามาใกล้ๆตัวเขาแล้วกระซิบข้างหูว่า

“ระวังตัวไว้ให้ดีเด็กน้อย อย่าได้ชล่าใจกับสิ่งที่มองไม่เห็น “พูดจบร่างใหญ่ก็ปล่อยกอดแล้วเดินออกไปทันทีโดยไม่หันกลับมามองร่างเล็กที่ยืนอึ้งอยู่แม้แต่น้อย

……………………..…

สิ่งที่มองไม่เห็นที่ว่า ใช่เรื่องที่เขากำลังจะพิสูจน์ไหมนะ.....