ฮาร์วีย์อุตส่าห์ยอมเสี่ยงตายเพื่อให้ได้มาทำงานที่เดียวกับชายที่ตนหลงรัก แต่แล้วจู่ ๆ เขากลับตื่นขึ้นในกองขยะ และพบว่าตนเองกลายเป็นตาแก่ไปเสียแล้ว...ร่างกายแบบนี้จะจีบผู้ติดได้ยังไงกัน! เอาวัยหนุ่มของฉันคืนมานะ!

ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์ - บทที่ 3 สงครามของเด็กผู้หญิง โดย เห็ดสีน้ำเงิน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,ไซไฟ,ชาย-ชาย,พล็อตสร้างกระแส,ผจญภัย,#BL,แฟนตาซี,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,ไซไฟ,ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,ผจญภัย,#BL,แฟนตาซี,นิยายวาย

รายละเอียด

ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์ โดย เห็ดสีน้ำเงิน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ฮาร์วีย์อุตส่าห์ยอมเสี่ยงตายเพื่อให้ได้มาทำงานที่เดียวกับชายที่ตนหลงรัก แต่แล้วจู่ ๆ เขากลับตื่นขึ้นในกองขยะ และพบว่าตนเองกลายเป็นตาแก่ไปเสียแล้ว...ร่างกายแบบนี้จะจีบผู้ติดได้ยังไงกัน! เอาวัยหนุ่มของฉันคืนมานะ!

ผู้แต่ง

เห็ดสีน้ำเงิน

เรื่องย่อ

นี่ไม่ใช่การแนะนำเรื่องของนักเขียนหน้าเห็ดงี่เง่าที่ทำลายชีวิตผม แต่เป็นพื้นที่ในการเรียกร้องความเป็นธรรมของตัวละคร!

สวัสดีนะคนที่ผ่านมา ถึงผมจะไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่คุณต้องมีจิตใจดีกว่าคนที่เขียนเรื่องของผมขึ้นมาแน่

คืองี้ ผมชื่อฮาร์วีย์ ใช่ ผมเป็นนายเอกของนิยายห่วยแตกเรื่องนี้ ผมอัดอั้นมานาน ไหน ๆ คุณก็ผ่านมาแล้ว ช่วยฟังผมบ่นหน่อยแล้วกัน คุณจะได้เห็นว่านักเขียนคนนี้กลั่นแกล้งผมขนาดไหน

แรกเริ่มเดิมที ผมเป็นแค่เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มีความฝันอยากแต่งงานกับผู้ชายดี ๆ สักคน แต่เจ้านักเขียนนั่นก็ทำให้ชีวิตของผมย่อยยับด้วยมือทั้งสองข้างและคอมพิวเตอร์โง่ ๆ ของเขา ตั้งแต่การเขียนให้ผมมีชีวิตอนาถา พ่อแม่ตายตอนเจ็ดขวบ ถูกปูไล่หวดเพราะไม่ยอมเรียนเรื่องยา พอหนีออกจากบ้านมาหาผู้ ก็ถูกสาปให้กลายเป็นคนแก่!

มันเกินไปมั้ย!

ผมพยายามแทบตายเพื่อที่จะได้อยู่กับชายที่ผมแอบชอบมาตั้ง 10 ปี แล้วดูสิ ความหล่อที่ผมสั่งสมมาทั้งชีวิตหายวับไปกับตา เหลือแต่ผิวเหี่ยว ๆ หนังย่น ๆ และเสียงแหบ ๆ ไม่มีส่วนไหนที่สามารถใช้เป็นอาวุธตกผู้ได้เลย!

ไม่เพียงเท่านั้น ผมยังต้องออกเดินทางด้วยสภาพอิดโรยไปหาเรื่องเสี่ยงตายต่าง ๆ นานาเพื่อทวงเอาอายุขัยและวัยหนุ่มแสนรุ่งเรืองของผมคืนมา

ใช้งานตัวละครหนักชะมัด! เงินเดือนผมก็ไม่ได้นะเนี่ย!

อะไรนะ? ...มีอีกไหมเหรอ?

โอ้! นี่ยังไม่ถึงครึ่งกับสิ่งที่เจ้านักเขียนคนนี้ทำกับผม ถ้าทุกคนอ่านต่อไปก็จะได้รู้เองว่าเจ้าเห็ดสีน้ำเงินคนนี้มันร้ายกาจขนาดไหน

โปรดเอาใจช่วยผมให้รอดพ้นจากโชคชะตาที่แสนเลวร้ายครั้งนี้ด้วย

**นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง เนื้อหา ตัวละคร สถานที่ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเป็นเรื่องสมมติเท่านั้น**

***คำเตือน : เนื้อหาในนิยายมีการใช้ความรุนแรง ฉากฆ่าฟันนองเลือด กรุณาใช้วิจารณญาณอย่างมากในการอ่าน ห้ามลอกเลียนแบบเด็ดขาดเลยนะฮะ***

สารบัญ

ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 1 ก่อนที่ผมจะกลายเป็นตาแก่,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 2 ผมถูกคนที่ชอบลืม,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 3 สงครามของเด็กผู้หญิง,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 4 ผู้บัญชาการสูงสุดซาคารัส,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 5 อาธีน่าเหวี่ยงคู่ซ้อมติดกำแพง,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 6 แคนทัสมาหาผมก่อนนอน,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 7 กลุ่มที่อันตรายที่สุด,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 8 ผมกลายเป็นหัวหน้าทีม,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 9 มันเป็นแผนของคาเรล,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 10 ก่อนเข้าสอบ,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 11 ผู้คุมสอบกลุ่มผมคือ...,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 12 พวกเราช่วยกันตัดต้นไม้,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 13 ฟาวล์อยากเลี้ยงแฟตเทลบ้าเลือด,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 14 ผมให้อาหารเจ้าเบลีย์,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 15 เบลีย์ระเบิดตูม!,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 16 ผมเกือบถูกสับ,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 17 ผมท้าดวลตัวต่อตัวกับซาคารัส,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 18 จบการทดสอบ,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 19 ผมกับแคนทัส ในห้องพยาบาล,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 20 ผู้ชายสองคนรุมแย่งตัวผม,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 21 ซาคารัสเป็นคนกัดไม่ปล่อย,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 22 ผมเก็บวัชพืชมาต้มกิน,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 23 เลขาสาวของซาคารัส,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 24 เมื่อไม่มีใครเลือกผม...,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 25 ผมเกือบจมน้ำ,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 26 ทีนี้ ถึงตาผมเลือก...,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 27 ศัตรูหัวใจ!,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 28 ผมเตรียมย้ายบ้าน,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 29 โอเว่นอ้วกแตก,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 30 บ้านใหม่ของผมหน้าตาเหมือนเห็ด,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 31 จับคู่เลือกห้อง,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 32 ภารกิจเร่งด่วน,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 33 ผมบอกฝันดีแคนทัส,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 34 คำอวยพรของแคนทัส,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 35 ผมได้เจอเพื่อนเก่า,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 36 เริ่มสำรวจถ้ำแอดเวียร์,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 37 ฟิลลิปฆ่ามด,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 38 ฟาวล์กลายเป็นโล่กันมด,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 39 กลับออกจากถ้ำ,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 40 ผมทำเสื้อแคนทัสขาดกระจุย,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 41 ออกัสต์ปรากฏตัว,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 42 แพทย์สนามฮาร์วีย์มาแล้วครับ!,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 43 กลับสู่บ้านเห็ด,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 44 ก่อนที่ผมจะถูกทรยศ,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 45 อยากวิ่งหนีแล้วหรือยัง,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 46 กองขยะและผิวหนังที่เหี่ยวย่น,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 47 หาทางกลับบ้าน,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 48 ขยะที่หายไป,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 49 ผมส่งด่วนตัวเองไปที่ศูนย์บัญชาการ,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 50 แคนทัสเกือบจะฆ่าผม,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 51 คุณมีรสนิยมแบบนี้หรือคะ?,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 52 มุ่งหน้าสู่หอสังเกตการณ์,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 53 แคนทัสทิ้งผมไว้กลางทาง,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 54 ผู้ดูแลหอสังเกตการณ์,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 55 การละครของฮาโวเทีย ไลทัส,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 56 แฟนคลับของแคนทัส,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 57 เหตุการณ์ในตรอกมืด,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 58 ไม่ใช่การสังเวย,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 59 หน้าหนังสือที่ขาดหาย,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 60 มีแคนทัสสองคน! ,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 61 เข้าปะทะกลางเมืองใหญ่,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 62 นั่นนายเหรอ?,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 63 หยุดทำร้ายเพื่อนของฉันเสียที...,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 64 มันไม่ใช่ความผิดของนาย,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 65 ผมสั่งให้แคนทัสนั่งลง...,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 66 หนีตายในท่อระบายน้ำ,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 67 อำนาจของศัตรูที่แท้จริง,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 68 หุ่นสังหาร,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 69 สองต่อห้า,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 70 ภาพถ่ายของ คารีน่า รูฟาเซนต์,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 71 ผมและแคนทัสกลายเป็นผู้ก่อการร้าย,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 72 แคนทัสพาผมเดินทางไกล,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 73 บาร์นักเดินทาง,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 74 ผมกับแคนทัสและน้ำเย็นเฉียบ,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 75 หลานโง่,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 76 นายก็มานอนบนนี้สิ,ภารกิจทวงคืนวัยหนุ่มของฮาร์วีย์-บทที่ 77 ค่ำคืนที่ไม่อาจข่มตานอน

เนื้อหา

บทที่ 3 สงครามของเด็กผู้หญิง

ในที่สุดผมก็หลุดพ้นจากจุดที่คนชุกชุม

ทว่าเมื่อมาถึงที่นั่งประจำของตัวเองกลับพบว่ามีใครบางคนนั่งจองอยู่ก่อนแล้ว

เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวโต...บางทีอาจจะโตกว่าผมเสียอีก เธอมีเส้นผมสีเข้มหยิกเป็นลอนเล็ก ๆ ผิวสีแทนขับเน้นกล้ามแขนและช่วงไหล่กว้างของเธอ จมูกของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้

นัยน์ตาสีเข้มหรี่เล็กลง ซึ่งนั่นทำให้เธอดูดุร้ายและก้าวร้าว ไม่ต่างจากสัตว์ป่าที่กำลังล่าเหยื่อ ราวกับเธอกำลังเตือนให้ผมไสหัวไปหากยังไม่อยากตายด้วยกล้ามแขนของเธอ

ผมกลืนน้ำลาย แต่กลับรู้สึกเหมือนกำลังกลืนภูเขาทั้งลูกลงคอ...

"คือว่า ฉันนั่งด้วยคนได้มั้ย?" ผมถามออกไปโดยพยายามไม่จ้องตาหญิงสาวตรง ๆ

ไม่กี่วินาทีต่อมา ผมก็ได้ยินเสียงครืน ๆ ราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว เมื่อเงยหน้าขึ้น ร่างใหญ่โตของหญิงสาวก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของผมแล้ว

ความสูงที่แตกต่างกันของผมกับหญิงสาวคนนั้น ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับกำแพงสูงเสียดฟ้า

"อะ...เอ่อ สวัสดีตอนบ่าย" ผมฉีกยิ้ม พยายามไม่แสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าผมกำลังสติแตก

ครู่หนึ่งผมคิดว่าเธอจะหักคอผมจริง ๆ เสียแล้ว แต่เธอเพียงแค่ผายมือไปด้านข้างและส่งเสียงในลำคอ ราวกับจะเชิญให้ผมนั่งลง

นัยน์ตาก้าวร้าวของหญิงสาวถูกแทนที่ด้วยความกระตือรือร้น เธอฉวยถาดอาหารของผมไปด้วยมือข้างเดียว วางมันลงบนโต๊ะที่นั่งฝั่งตรงข้ามเธอ ก่อนที่หญิงสาวจะเดินฉับ ๆ กลับไปนั่งที่ของตัวเองดังเดิม

"เอ่อ...นั่นหมายความว่าให้ฉันนั่งลงใช่หรือเปล่า?" ผมถามเพื่อความแน่ใจ

หญิงสาวพยักหน้าหงึก ๆ 

อืม...เธออาจจะเป็นคนดีกว่าที่คิดก็ได้

ผมค่อย ๆ หย่อนขานั่งลง ซึ่งทุก ๆ การเคลื่อนไหวของผมอยู่ในสายตาของหญิงสาวตัวโตคนนั้นตลอดเวลา

นานแล้วเหมือนกันนะ ที่ผมไม่ได้รู้สึกเหมือนมีผู้ปกครองมานั่งเฝ้าเพื่อฝึกมารยาทในการทานอาหาร...

"ฉันชื่อ ฮาร์วีย์ เธอล่ะ...?" ผมยื่นมือออกไปเพื่อทักทาย แต่เพื่อนตัวโตเพียงส่งเสียงในลำคอ

"อาธีน่า" หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงแหลมเล็ก และเบาอย่างน่าเหลือเชื่อ ผมคิดว่านี่อาจเป็นเหตุผลที่เธอไม่ชอบพูดออกเสียงสักเท่าไร

"ยินดีที่ได้รู้จักอาธีน่า เธอเป็นเด็กฝึกที่มาจากเมืองหลวงใช่มั้ย?"

อาธีน่าพยักหน้า สายตาของเธอจ้องมองขนมปังที่อยู่บนถาดอาหารของผม แล้วผมก็ได้ยินเสียงโครกครากดังมาจากท้องของเธอ

...ดูเหมือนเธอจะหิวนะ...

"คงใช้เวลาอีกสักพักกว่าอาหารจะมาเสิร์ฟ" ผมยื่นขนมปังก้อนหนึ่งให้เธอ "ถ้าไม่รังเกียจจะกินนี่ก่อนก็ได้"

อาธีน่ารับไว้อย่างเก้ ๆ กัง ๆ เมื่อผมพยักหน้า หญิงสาวก็ฉีกยิ้มเห็นฟันและพูดว่า

"คนดี คนนี้คนดี!"

อาธีน่าตบบ่าผมเพื่อแสดงถึงมิตรภาพ แต่น้ำหนักมือที่เธอใช้ทำเอาร่างกายของผมเอนไปด้านข้าง

ผมหัวเราะแหะ ๆ กลบเกลื่อน มองดูหญิงสาวยัดขนมปังก้อนโตเข้าปากในคราวเดียว เคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างเอร็ดอร่อย

ผมคิดว่าบางทีผมอาจจะมีเพื่อนเพิ่มมาคนหนึ่งแล้วก็ได้...

ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าโดรนจิ๋วก็ยกถาดอาหารของอาธีน่ามาเสิร์ฟ หญิงสาวไม่รอช้าสวาปามอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว เธอยังใจดียกพุดดิ้งคาราเมลของตัวเองให้ผมด้วยซ้ำ

ในระหว่างที่บรรยากาศการทานอาหารกลางวันกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ความวอดวายก็ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาหาผม

เริ่มจากกลุ่มเด็กสาวสี่คนเดินตรงมาที่โต๊ะอาหารของผมกับอาธีน่า พวกเธอสวมเครื่องแบบเหมือนเพื่อนสาวตัวโต ทว่าบนใบหน้าของพวกเธอแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางหนา ริมฝีปากเชิดโค้งอย่างเย่อหยิ่ง เล็บแหลมยาวทาสีแดงและสีดำสลับกัน น้ำเสียงแหลมสูงที่ออกจากปากทำให้พวกเธอเหมือนแม่มดแก่น่าเกลียดในนิทาน

"อาธีน่า...ที่รัก ทำไมเธอมานั่งอยู่ตรงนี้" หญิงสาวผมบลอนด์นั่งลงข้าง ๆ อาธีน่า "พวกเราตามหาเธอแทบแย่...อย่าทำให้เราเป็นห่วงสิ"

อาธีน่าส่งเสียงขู่คำรามในคอ ทั้งยังพยายามกระเถิบหนี

ดูเหมือนความสัมพันธ์ของอาธีน่ากับเด็กสาวพวกนั้นจะไม่ดีเท่าไร...

ภาพผู้หญิงตัวโตถูกกลุ่มเด็กสาวตัวเล็กรุมรังแก ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังมองเห็นตัวเองตอนที่ถูกโอเว่นและกลุ่มเพื่อนน่ารังเกียจของเขากลั่นแกล้ง

เห็นได้ชัดว่าการบูลลี่มีในทุกที่ ไม่ว่าจะในสังคมชนชั้นใด ยังมีผู้คนมากมายถูกทำร้ายอย่างไร้เหตุผล...

ผมมองดูเด็กสาวแก๊งแม่มดล้อเลียนแก้มนูนป่องของอาธีน่า

การที่อาธีน่ายอมถูกแกล้งโดยไม่คิดจะโต้ตอบ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด

กระทั่งหนึ่งในเด็กเกเรดึงเส้นผมหยิกหย็องของอาธีน่า

พอที...ผมจะไม่ทนแล้ว!

"บทเรียนที่สามของหนังสือเกี่ยวกับสังคมในเมืองหลวงเขียนไว้ว่า คนที่มาจากเมืองหลวงเป็นผู้สูงส่ง มากความสามารถ และได้รับความนับถือจากผู้คน...พอได้มาเห็นวันนี้ ดูเหมือนข้อมูลในหนังสือจะเชื่อถือไม่ได้เลยแฮะ..."

สิ่งที่ผมพูดทำให้กลุ่มเด็กเกเรหยุดดึงเส้นผมของอาธีน่า

"นั่น...หมายความว่ายังไง?"

หญิงสาวผมบลอนด์เหลือบมองผมด้วยสายตาอันตราย ราวกับกำลังเตือนให้ผมคิดให้ดีก่อนที่จะตอบคำถาม มิเช่นนั้นผมอาจได้จองตั๋วเที่ยวเดียวไปนรกโดยไม่รู้ตัว

...แล้วไง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเด็กนิสัยไม่ดีปฏิบัติกับผมเช่นนี้เสียหน่อย...

"โทษที ฉันแค่ไม่คิดว่าวัฒนธรรมปัญญาอ่อนอย่างการบูลลี่ และทำร้ายร่างกาย จะเป็นที่นิยมของคนจากเมืองหลวงด้วย"

เด็กสาวคนหนึ่งในแก๊งแม่มดทำท่าเหมือนจะพุ่งมากระชากคอเสื้อของผม แต่แล้ววินาทีต่อมาเธอกลับหยุดชะงัก นัยน์ตาสั่นไหวมองเลยผมไป ราวกับว่ามีใครกำลังยืนอยู่ข้างหลังผม ซึ่งเมื่อผมหันไป มันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

ผู้มาใหม่เป็นหญิงสาวร่างเล็กที่มีใบหน้าเรียบเฉย เส้นผมสีเข้มถูกมัดเป็นหางม้ายาวไปจนถึงกลางหลัง แน่นอนว่าเธอเองก็สวมเครื่องแบบของศูนย์ฝึกจากเมืองหลวง ในมือของเธอยังถือถาดอาหารที่มีถ้วยซุปขนาดใหญ่วางอยู่ด้วย

มองผิวเผินเธอดูเหมือนเด็กสาวธรรมดาทั่วไป ไม่ได้โดดเด่นอะไร ทว่าท่าทางที่เธอแสดงออกมาทำให้บรรยากาศโดยรอบแปรเปลี่ยนไป ราวกับมีเมฆหนาปกคลุมอยู่เหนือศีรษะ ซึ่งนั่นไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะพวกเราอยู่ในอาคาร

ผมมองเห็นประกายสีทองจากดวงตาสีเข้มคู่นั้น ประหนึ่งว่าเธอพร้อมจะสาดซุปร้อน ๆ ในถ้วยใส่ใครก็ตามที่พยายามเข้ามาหาเรื่องเธอ

นั่นคือพลังของอำนาจที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องยำเกรง...

กลุ่มเด็กเกเรกลืนน้ำลาย ก้าวถอยหลังขณะที่ผู้มาใหม่ย่างสามขุมเข้าใกล้ พวกเธอพูดตะกุกตะกัก

"คะ คะ คาเรล...เธอมาทำอะไรตรงนี้"

สาวผมบลอนด์ดูไม่ชอบใจที่ลูกน้องของตนแสดงอาการหวาดกลัวผู้หญิงที่ชื่อคาเรล

"มาหาอาธีน่า..." คาเรลตอบเสียงเรียบ หันมองอาธีน่าและพยักหน้าให้ราวกับจะบอกว่า...ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะตบเกรียนพวกนั้นเอง...

คาเรลนั่งลงข้างผม เธอวางถาดอาหารและเริ่มพูดคุยกับเพื่อนสาวตัวโต โดยไม่สนใจพวกเด็กเกเรที่ยืนล้อมอยู่รอบตัว

"จะหาเรื่องกันใช่มั้ยคาเรล?" หญิงสาวผมบลอนด์กัดฟัน

หล่อนดูเหมือนอยากจะมีเรื่องเต็มแก่ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถทำเช่นนั้นกับคาเรลได้

"คิดว่ามีผู้ชายคนนั้นหนุนหลังแล้วเธอจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ?"

"ถ้าผู้ชายคนนั้นหนุนหลังฉันจริง ฉันคงสาดน้ำซุปนี่ใส่หน้าเธอไปแล้ว" คาเรลพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่กลับทำให้คู่กรณีผงะถอยได้

"ไม่ใช่แค่นั้น...ฉันยังจะกดหัวเธอลงกับโต๊ะแข็ง ๆ นี่ และใช้เข็มในกระเป๋าเสื้อด้านซ้ายเย็บปิดปากเธอให้สนิท จะได้ไม่ต้องพล่ามเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก..."

"นี่เธอ! เธอกล้า..."

สาวผมบลอนด์ชะงักไปเมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาดุร้ายของคาเรล

...ว้าว ผู้หญิงคนนี้เจ๋งดีแฮะ...

ผมนั่งทานพุดดิ้งที่อาธีน่าให้มาไปพลางดูสงครามประสาทของกลุ่มเด็กผู้หญิงไปพลาง 

บอกตามตรง...มันทำให้อาหารอร่อยขึ้นหลายเท่าตัว

อย่างไรก็ตาม การกระทบกระทั่งกันของกลุ่มเด็กผู้หญิงเหมือนจะไม่จบไม่สิ้น ทุกครั้งที่คาเรลเอ่ยปากพูดอะไรสักอย่าง เด็กสาวผมบลอนด์ก็ยิ่งดีดดิ้นจะเป็นจะตายให้ได้ เพราะต่อให้เธอจะพยายามโต้เถียงเพียงใด ก็จะถูกคาเรลตอกกลับด้วยคำพูดที่แสนเจ็บแสบอยู่ดี

ในที่สุดเด็กสาวผมบลอนด์ก็หมดความอดทน เธอเอื้อมมือมาใกล้คาเรล ผมรับรู้ได้ทันทีว่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่การโต้เถียงธรรมดาอย่างแน่นอน

แต่ก่อนที่ผมจะทันได้ขัดขวาง สาวผมบลอนด์กลับหยุดชะงักไปเอง ปฏิกิริยาที่แสดงออกเหมือนก่อนหน้านี้ตอนที่คาเรลมา ซึ่งนั่นน่าจะหมายความว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังผมอีกแล้ว...

เสียงรองเท้าบูตหนากระทบกับพื้นดังกึกก้องเป็นจังหวะ ก่อนที่เสียงนั้นจะหยุดลงหลังผม

เหล่าเด็กเกเรกลืนน้ำลายอย่างพร้อมเพรียง พวกเธอกระเถิบถอยไปยืนกุมมือ ก้มหน้าลงด้วยความยำเกรง

คาเรลถอนหายใจ เหมือนจะคุ้นชินกับสถานการณ์เช่นนี้ดี

"บอกว่าฉันเอาอยู่ไงคะ" คาเรลหันกลับไปมองด้านหลังพลางเอ่ยชื่อผู้มาเยือน "แคนทัส..."

ชื่อนั้นทำให้ผมลืมวิธีกลืนอาหารไปชั่วขณะ

ผมค่อย ๆ หันหลังกลับไปมอง แล้วภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำเอาผมแทบจะเป็นลม

ถ้าคิดไม่ออก มันให้ความรู้สึกเหมือนมีไอดอลในใจมายืนอยู่ตรงหน้าในระยะประชิด แบบที่ว่า แค่เพียงผมเอื้อมมือออกไป ผมก็สามารถสัมผัสคนคนนั้นได้โดยตรง...ซึ่งผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการข่มใจตัวเองไม่ให้ทำเช่นนั้น

ร่างกายสูงโปร่ง ใบหน้าเคร่งขรึมแต่หล่อเหลา นัยน์ตาสีเข้มปั่นป่วนราวกับพายุ เส้นผมดำขลับที่เคยยุ่งเหยิงถูกจัดแต่งเป็นทรงอีกครั้ง พอนำทั้งหมดนั้นมารวมกับท่าทางการยืนกอดอกสุดเท่...เขาก็กลายเป็นชายหนุ่มสมบูรณ์แบบไร้ที่ติในสายตาของผมไปเป็นที่เรียบร้อย

ผมคงจะยกนิ้วหัวแม่มือให้เขาไปแล้ว...ถ้าไม่ติดเรื่องกาลเทศะ

"พวกเธอ...ทำอะไรกัน"

แคนทัสเอ่ยถาม เสียงเย็นเยียบราวกับดาบน้ำแข็งที่พร้อมเชือดเฉือนทุกคนที่ขวางหน้า

ทุกคน...รวมถึงผมด้วย