เมื่อวิญญาณ ไม่สามารถ สื่อสารกับคนเป็นได้ คนที่มองเห็นเลยต้องยืดมือเขาไปช่วย เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับคนตาย
ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ระทึกขวัญ,ชาย-ชาย,นิยายวาย,สยองขวัญ,ผี,สืบสวนสอบสวน,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The sixth sense สืบร้อน ซ่อนรักเมื่อวิญญาณ ไม่สามารถ สื่อสารกับคนเป็นได้ คนที่มองเห็นเลยต้องยืดมือเขาไปช่วย เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับคนตาย
เขียนดาว จากเด็กน้อยวัยเก้าขวดธรรมดาธรรมดาได้ก้าวเท้าเข้าสู้ วงการคนเห็นผี เพราะเกิดอาการช็อคจากการสูญเสียพี่ชายแบบกระทันหัน ทำให้เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสามารถมองเห็นโลกของคนตาย
ตอนที่ 2
บาร์ลับ (2)
“ไปค่ะ”^^
เสียงหวานเอ่ยปากตอบคำถามผมขึ้นมา พร้อมรอยยิ้มก่อนที่เธอจะอาสาของหาชุดให้ผมใส่ไปที่บาร์ลับขึ้นนี้ผมพยักหน้ารับคำตอบกลับเธอเบา ก่อนที่ผมจะหันกลับไปสนใจนิยายที่ผมเปิดอ่านทิ้งไหวต่อ ปล่อยให้คุณลิสาเข้าไปค้นเสื้อผ้าของผมภายในแต่งตัวของผม รออยู่สักพักเสียงหวานของเธอก็ตระโกนเรียกผมออกจากภายในห้องนอน
ผมเหลือบสายตามองไปตามต้นตอของเสียงของเธอ ผมถอนหายใจออกมาตั้งโมทให้ MacBook ของผมเข้าสู่ระบบ Saleep ช่วงคราว ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นจากเบาะนั่งพื้นเดินเข้าไปหาคุณลิสาที่อยู่ภายในห้องแต่งตัวของผมที่ภายในห้องนอกมองชุดที่เธอเลือกให้ผมใส่เล็กน้อยผมขมัวคิ้วมองคุณลิสาเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะถอนหายใจออกมา หยิบชุดที่คุณลิสาค้นออกมาจากตู้เสื้อผ้าผมขึ้นมา เอ่ยถามคุณลิสาเสียงแผ่วเบา ก็หาเจอนะครับ ผมที่เป็นเจ้าของตู้เสื้อผ้ายังไม่รู้เลยว่าในตู้ของผมมีชุดแบบนี้กับเขาด้วย คุณลิสายืดอกยิ้มภูมิใจ ปลายนิ้วเรียวของเธอสกิดที่ปลายจมูกของตัวเอง เรียกรอยยิ้มจากผมได้ไม่ใช้น้อย
“ส่วนเครื่องสำอางค์เธอแกะของฉันใช้ได้เลย ฉันให้” ^_^
เธอเอ่ยปากบอกปลายนิ้วของเธอชี้ไปที่กองเครื่องสำอางค์กองโตที่ยังไม่ผ่านการใช้งานวางอยู่บนเตียงนอน น้ำหอม บลัสออน ไหนจะลิปสติก อายเลอร์เนอร์ สารพัดเครื่องสำอางค์ครบชุดพร้อมแต่ง แบรนด์ดัง ใช้ได้ยาวๆไปถึงปีหน้าแบบไม่ต้องซื้อเพิ่มได้เลย แถมเป็นแบรนด์เดียวกับที่ผมซื้อใช้มาตลอดเลยด้วย
“ถามจริงนะคุณลิสา ของพวกนี้คุณไปซื้อมาตอนไหนครับ คงไม่ใช้ใครเผามาหานะครับ”
“เผาบ้านนายนะสิ ของพวกนี้เป็นของที่ฉันซื้อมาตุนไว้ ตั้งตอนที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ ซ่อนเอาไว้ในคลังลับที่มีแค่ฉันที่รู้ เดียวฉันพาเธอไปดู”
“ยกให้เธอทั้งหมด เพราะยังไงฉันคงไม่ได้ใช้มันแล้ว”
“ฝากเธอใช้ต่อเลยและกัน”
สิ้นประโยคของคุณลิสา คุณลิสาก็พาผมเดินกลับไปในห้องแต่งตัว หยุดยืนหน้าตู้เสื้อผ้าภายในห้องแต่งตัวอีกครั้ง ก่อนที่ร่างของเธอจะย่อตัวลงไปนั่งที่พื้นแถวหน้าตู้เสื้อ สอดมือของเธอเข้าไปตู้หาอะไรสักอย่างอยู่สัก ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“เจอแล้ว”
คุณลิสายเอ่ยปากบอกกับผมขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มกวักมือให้ผมลงไปนั่งที่พื้นหน้าตู้เสื้อผ้าข้างๆเธอมือบางของเธอจับมือผมเบาให้สอดเข้าไปในตู้เสื้อผ้าที่เดียวกับที่เธอสอดเข้าไปก่อนหน้านี้พร้อมรอยยิ้มเห็นเป็นปุ่นๆตัวเลยคล้ายต้องกดรหัสอะไรบ้างอย่างด้านข้างปุ่นตัวมีปุ่นสีเขียวสีเหลืองสีแดงเรียงกันเป็นแนวตั้ง
เธอยิ้มก่อนเธอจะกระซิบบอกรหัสสี่ตัวให้ผม ผมขมัวคิ้วเล็กน้อยพยัหน้าเบาๆเป็นเชิงบอกให้ผมก้มรหัสสี่ตัวที่เธอบอก รออยู่สักพักเสียงเก๊ะเก๊ะก็ดังขึ้นคล้ายกับอะไรบ้างอย่างถูกปลดล็อก ตู้เสื้อผ้าของผมถูกเลื่อนให้เปิดหออกเผยให้เห็นห้องที่ซ่อนเอาไว้ด้านหลังตู้เสื้อผ้าของภายในห้องแต่งตัวของผม
“ห้องนี้…”
“...”
“ห้องลับ ฉันเอาไว้เก็บของขวัญที่พวกแฟนคลับให้ฉัน”
“รวมถึงของใช้ส่วนตัวต่างๆของฉันเองที่ฉันชอบซื้อมาตุนทิ้งไว้”
“ตอนที่ฉันยังมีชีวิตอยู่”
“...”
เธอเอ่ยปากบอกกับเธอพร้อมรอยยิ้ม เดินนำผมเข้าไปในห้องลับทันทีที่ผมก้าวเท้ายาวๆเดินเข้าไปในห้อง ไฟภายในห้องลับก็ถูกเปิดออกอัตโนมัติ เป็นระบบเดียวกับที่ห้องโถงกลางของคอนโด้ผม เธอเดินนำผมเข้าไปเปิดตู้นั้นตู้นู้นที่โชว์ของสะสมของเธอให้ผมดูพร้อมรอยยิ้ม ของสะสมส่วนใหญ่ของเธอจะเป็นของขวัญที่แฟนคลับของเธอให้เธอเกือบทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่จดหมายจากแฟนคลับเธอก็เก็บใส่กล่องอย่างดี มีเพียงของใช้ส่วนตัวจำพวกเครื่องสำอางค์แบรนด์ที่ดังราคาแพงที่เธอชอบใช้เท่านั้นที่เธอจะซื้ตุนเก็บเอาไว้ใช้เท่านั้น
“เครื่องอางค์ที่ยังไม่ได้แกะพวกนี้”
ผมเอ่ยถามเธอขึ้นมาเธอพยักหน้าให้กับผมเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากบอกกับผมขึ้นมา ด้วยน้ำเสียงละมุน เอ่ยพูดขึ้นมาว่า
“ตั้งแต่เวันนี้เป็นต้นไปมันเป็นของเธอ”
“ ฉันเสียตังซื้อมันมาตุนไว้ตั้งเยอะ”
“ไหนๆเธอกับฉันก็ใช้เครื่องสำอางค์กับน้ำหอมตัวเดียวกันส่งต่อให้เธอและกัน”
“...”
“เธอใช้แทนฉันหน่อยและกันทิ้งไปก็เสียดายตัง แถมมันยังไม่หมดอายุด้วย ใช้ยาวๆไปเลยและกัน”
“...”
คุณลิสาเอ่ยปากบอกกับผมขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มพร้อมรอยยิ้ม เอาแหละวันนี้พอแค่นี้ก่อนและกันพระอาทิตย์จะตกดินอยู่แล้ว อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปที่บาร์นั้นกันเถอะ ผมเหลือบสายตาไปมองตามที่คุณลิสาบอก หัวเราะบางเบาพร้อมรอยยิ้มพยักหน้ารับคำเบาๆ ก่อนที่ผมจะเอ่ยบอกกับคุณลิสาขึ้นมา
“ค้นเพลินจนลืมเวลาไปเลยนะครับ”
คุณลิสาหัวเราะบางเบาออกมาพร้อมรอยยิ้มก่อนที่เธอจะเอ่ยปากพูดเห็นด้วยคำพูดของผมพร้อมรอยยิ้ม ^_^ เดินนำผมออกจากห้องลับไป
“นั้นสินะ คิดถึงเมื่อก่อนชะมัด”
“ฉันเองชอบเข้ามาในห้องนี้ ค้นของขวัญแฟนคลับจนลืมเวลา พอรู้ตัวอีกฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว”
สิ้นประโยคดังกล่าวของเธอแว่วตาของเธอแสดงออกถึงความสุขเมื่อนึกถึงรอยยิ้มของแฟนคลับ แต่ภายในความสุขนั้นผมกับสัมผัสถึงความเศร้าหมอนอยู่ไม่ใช้น้อย
“คุณลิสาคุณดูรักพวกมากเลยนะครับ แฟนคลับของคุณ”
“รักสิรักมากๆเลยด้วย แต่ในความรู้สึกรักนั้นฉันเองก็รู้กลัวพวกเขาไม่ใช้น้อย”
คุณลิสาเธอเอ่ยปากบอกผมขึ้นมาแว่วตาของเธอแสงเศร้า ผมยิ้มให้กับเธอเล็กน้อย เอ่ยปากบอกกับเธอขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
“คุณลิสาโอเคนะครับยังอย่างไปกับผมอยู่ไหม”
“...”
“ถ้าคุณไม่อย่างไป ผมไปคนเดียวได้นะครับ”
ผมเอ่ยปากบอกกับเธอขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม เธอรีบส่ายหัวให้กับผมเอ่ยปากยืนยันกับผมคำเดิมว่าคืนนี้เธอจะไปที่นั้น ที่บาร์ลับร้านประจำของเธอ
“ไม่เป็นอะไร ฉันยังอยากไปอยู่ นายรีบไปอาบน้ำเถอะ”
“...”
“วันนี้ฉันขออาสาแต่งหน้าให้เธอ”