เมื่อวิญญาณ ไม่สามารถ สื่อสารกับคนเป็นได้ คนที่มองเห็นเลยต้องยืดมือเขาไปช่วย เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับคนตาย
ลึกลับ,สืบสวนสอบสวน,ระทึกขวัญ,ชาย-ชาย,นิยายวาย,สยองขวัญ,ผี,สืบสวนสอบสวน,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The sixth sense สืบร้อน ซ่อนรักเมื่อวิญญาณ ไม่สามารถ สื่อสารกับคนเป็นได้ คนที่มองเห็นเลยต้องยืดมือเขาไปช่วย เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับคนตาย
เขียนดาว จากเด็กน้อยวัยเก้าขวดธรรมดาธรรมดาได้ก้าวเท้าเข้าสู้ วงการคนเห็นผี เพราะเกิดอาการช็อคจากการสูญเสียพี่ชายแบบกระทันหัน ทำให้เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสามารถมองเห็นโลกของคนตาย
ตอนที่ 3
บาร์ลับ (3)
บาร์ลับ
เสียงเพลงบรรเลงถูกเปิดเป็นเพลงคาสสิคผมก้าวเท้ายาวๆเดินเข้ามาในบาร์ลับร้านประจำของคุณลิสา ภายในคลับลูกค้าส่วนใหญ่ร่วมแล้วเป็นลูกค้าคนดังภายในวงการบันเทิง ผมมองส่ายแล่นขวาเห็นร่างของบุคคลสามคนที่คุณลิสารู้จัก ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากกระซิบบอกกับผมขึ้นมา
“พวกเขามากันครบจริงๆด้วย”
สิ้นประโยคดังกล่าวของเธอปลายนิ้วเรียวของเธอชี้ไปที่บุคคลทั้งสามคนที่นั่งคนละมุมของทางบาร์หลับ ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากบอกชื่อของแต่ละคนให้ผมฟัง
“ที่บาร์เคาเตอร์ ซ้ายมือ เหินฟ้า อดีตคู่หมั้นของฉัน”
“ทางฝั่งนู้นของร้าน แอนนา อดีตผู้จัดการของฉัน”
“ตรงนู้นที่โซน VIP พายเมอร์ ฉันกับเขาไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไร แต่เพราะเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ ไม่ทางเลือกทางไม่มีเข้าคอยเป็นสปอนเซอร์ให้ฉัน ฉันก็คงไม่สามารถอยู่วงการบันเทิงได้”
เสียงหวานของคุณลิสาเอ่ยปากบอกกับผมขึ้น เธอมองซ้ายมองขวาที่บาร์เคาเตอร์ที ใช้นิ้วเรียวของเธอชี้ไปที่ ที่นั่งประจำของเธอ
“กลางๆเคาเตอร์ เป็นที่ประจำของฉัน”
“เธอเดินไปนั่งตรงนั้น อีกไม่นานพวกเขาทั้งสามจะเดินมาหาเธอด้วยตัวเอง”
ผมพยักหน้ารับคำคุณลิสาเล็กน้อยเดินไปนั่งที่นั่งประจำของคุณลิสาตามที่คุณลิสากระซิบบอกกับผมทันทีที่ผมเดินไปนั่งที่บาร์เคาเตอร์ บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่อยู่หลังบาร์เคาเตอร์เอ่ยปากทักทายผมขึ้นมา
“ลูกค้าใหม่สินะครับ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของบาร์เทนเดอร์หนุ่มผมพยักหน้ารับคำบาร์เทนเดอร์หนุ่มเบาๆก่อนที่ผมจะเอ่ยปากตอบกลับบาร์เทนเดอร์หนุ่มขึ้นมา
“ครับผมเพิ่มเคยมาครั้งแรงบังเอิญเจอบาร์นี้นะครับ”
บาร์เทนเดอร์หนุ่มยิ้มรับพยักหน้ารับคำตอบกลับผมขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่บาร์เทนเดอร์จะส่งแก้วค็อกเทล สีแดงสดมาให้ผมพร้อมรอยยิ้มเอ่ยปากบอกชื่อค็อกเทลที่ส่งมาให้ผมขึ้นมา
“เรคควิส เครื่องดื่มที่มีแค่ที่ร้านนี้ แก้วนี้ฟรีครับไม่มีค่าใช้จ่าย”
บาร์เทนเดอร์หนุ่มเอ่ยปากบอกกับผมขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ละมุนผมพยักหน้ารับคำเบาๆเอ่ยปากบอกขอบคุณผมบาร์เทนเดอร์หนุ่มขึ้นมา
“ขอบคุณครับ”
บาร์เทนเดอร์หนุ่มยิ้มรับพยักหน้ารับคำเบาๆก่อนที่บาร์เทนเดอร์หนุ่มจะหันไปสนทนากับลูกค้าคนอื่นบางพร้อมรอยยิ้มการค้า
“สวัสดีจ้ะ เธอเพิ่มเคยมาที่ร้านครั้งแรกใช้ไหม”
แอนนาผู้จัดการของคุณลิสาเป็นคนแรงที่เดินเข้ามาทักทายผม ผมหันไปยิ้มรับคุณแอนนาเล็กน้อยเอ่ยปากตอบคำถามคุณแอนนาขึ้นมา
“ครับ”
“ว่าแล้ว ถ้าเป็นลูกค้าประจำพี่คงไมพลาดที่ดึงเข้าสังกัดพี่หลอก”
ผมยิ้มรับ บทสนทนาของคุณแอนนาเล็กน้อย ตามมารยาทก่อนที่แอนนาจะได้ช่วงผมคุยอะไรต่อเสียงจากบุคคลที่สามที่ดังมาจากทางด้านของคุณแอนนาเรียกความสนใจให้ผมหันไปมองตามที่มาของเสียง
“นั้นสิครับของดีแบบนี้ถ้าพลาดก็ไม่ใช้คุณสินะครับ คุณแอนนา”
“โปรเจคที่เคยวางให้คุณลิสาเป็นตัวหลัก ถ้าจะเปลี่ยนตัวเป็นเด็กคนนี้ผมก็ไม่ติดนะครับ”
เสียงจากคุณพายเมอร์ที่ดังมาจากทางด้านหลังของคุณแอนนาเอ่ยปากบอก คำพูดของคุณพายเมอร์ทำให้คุณแอนนาสายตาเป็นประกาย
“ไม่ติด คนอย่างพวกมึงแม่น เหี้ยเนอะ”
“ไม่สิ คำว่า เหี้ย ยังเบาเกินไป สำหรับพวกมึงด้วยซ้ำ”
“...”
“เด็กน้อย ฉันขอเตือนเธอด้วยความหวังดี ถ้าเธอไม่อย่างมีจุดจบด้วยความตาย”
“ไม่ยุ่งกับมันสองคนได้จะดีกว่า”
“....”
“มันสองคน ฆ่าคนตายมาหลายชีวิตแล้ว”
“...”
สิ้นประโยคดังกล่าวของร่างสูง เจ้าของร้านสูงก็ไม่รอช้าลุกจากเก้าอี้ที่ร้างสูงเคยนั้นอยู่ทันทีเดินหนีออกจากบาร์เคาเตอร์ ผมเหลือบสายตามองตามแผ่นหลังกว้างของร่างสูงเล็กน้อยก่อนที่ผมจะรีบกระโดดลงจากเก้าอี้ที่ผมนั่งเดินตามแผ่นหลังของร่างสูงไปทันที อย่างไม่รอช้าจนตามทันร่างสูง เอ่ยตระโกนเรียกร่างสูงขึ้นมา
“เดี๋ยวก่อน รอผมด้วย”
“...”
ร่างสูงที่ยินผมเรียกเอาไว้ หยุดฝีเท้าลงเล็กน้อยก่อนที่ร่างสูงจะหันมาทางผมขมัวคิ้วตั้งคำถามมองมาที่ผมอย่างสงสัย ผมยืนหอบหายใจเล็กน้อยก่อนที่ผมจะเอ่ยปากแนะนำชื่อตัวเองให้ร่างสูงรู้จักพร้อมกับเอ่ยปากถามชื่อร่างสูงขึ้นมาเป็นการทำความรู้จักกับร่างสูงการเริ่มเปิดประเด็นคุยกับร่างสูงพร้อมรอยยิ้ม
“ผมชื่อ ดาวครับ ดาวที่มาจาก เขียนดาว ยินดีที่รู้จัก”
“แล้วคุณละ ชื่ออะไรครับ”
“...”
สิ้นประโยคดังกล่าวของผมร่างสูงพยักหน้ารับคำก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยปากบอกชื่อตัวเองกับผมขึ้นมา พร้อมกับที่ร่างสูงถอนหายใจ
“ฟ้า ที่มาคำว่า เหินฟ้า รู้ท่าแล้วเธอคนอ่อนกว่าฉันสินะ”
“เรียกฉันว่าพี่ก็แล้วกัน พี่เหินฟ้า หรือพี่ฟ้าเฉยๆ ก็ได้แล้วแต่เธอ”
คนอายุมากกว่าเอ่ยปากบอกกับผมขึ้นมาผมพยักหน้ารับคำคนอายุมากเล็กก่อนจะเอ่ยปากบอกกับคนอายุมากกว่าขึ้นมา เป็นการตั้งแบบปลายเปิดกับคนอายุมากกว่า
“แบบนี้ผมกับพี่ก็ไม่ใช้คนแปลกหน้ากันแล้วสินะครับ”
“ผมขอถามอะไรพี่สักอย่างได้ไหมครับ”
“...”
“ที่พี่บอกกับผมเมื่อกี้หมายความว่ายังไงหรอครับ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของคำถามของผมร่างสูงขยับเดินเข้ามาใกล้ผมเล็กน้อยก่อนที่คนอายุมากกว่าจะก้มหน้าเข้ามาใกล้ๆผมกระซิบข้ามหูผมขึ้นมาเสียงเซ็นซี่จนผมแถบกลั้นหายใจเอ่ยปากบอกกับผมขึ้นมา
“อยากรู้เหรอครับ ไปที่ห้องพี่สิ เดียวพี่บอก”
คนอายุมากกว่าเอ่ยปากพูดพร้อมกับขยับยืดหน้าใกล้ๆ เล่นเอาผมแถมหยุดหายใจรีบถอยหลังออกห่างจากร่างสูงแก้มผมขึ้นเป็นสีแดงละลื่น >////<
“อันตราย อันตราย ผู้ชายคนนี้อันตรายเกินไป”
ผมเอ่ยขึ้นมาในใจสองมือยกขึ้นปิดหน้าตัวเอง ก่อนที่ผมจะรีบหันหลังหนี วิ่งออกจากบาร์ลับแถบจะทันที ยกมือขึ้นโบยรถสาธารณะ ที่ผ่านมาแถวหน้าบาร์ลับทันที
“เธอเนี่ยหน้าสนใจจริงๆนะเด็กน้อย”
“ฉันชักจะอยากทำความรู้จักกับเธอจริงๆจังๆแล้วสิ”
ชายหนุ่มเอ่ยปากบอกตาคมแอบเจ้าเลห์มองตามแผ่นหลังของคนอ่อนวัยกว่า ที่วิ่งออกจากร้านไป แขกสองข้างของชายหนุ่มยกขึ้นกอดอก มือข้ามหนึ่งยกขึ้นจับที่คางตัวเอง อย่างพอในตัวของคนอ่อนวัยกว่าที่เพิ่งวิ่งออกจากร้านไปหายลับไปจากสายตาของชายหนุ่ม ก่อนที่เสียงของบุคคลที่สามที่เอ่ยทักคนอายุมากกว่าขึ้นมา เรียกความสนใจให้ชายหนุ่มเหลือบสายไปมองบุคคลที่สามเล็กน้อย
“ดูถ้าพี่ชายของผมจะเจอของเล่นใหม่สินะครับ”
“พี่ชายผมถึงทำหน้าแบบนั้น”
ดาวหางลูกพี่ลูกน้องของชายหนุ่มเอ่ยปากทักทายชายหนุ่มที่อายุมากกว่าขึ้นมา ก่อนที่คนอ่อนวัยกว่าจะก้าวเท้ายาวๆมาหยุดยืนข้างๆชายหนุ่มที่มีศักด์เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยปากตอบคำถามคนอ่อนวัยกว่าตัวเองขึ้นมา
“อือ ก็ไม่เชิง ว่าแต่มึงลงอะไรหอบมึงมาที่นี่ ไม่ได้มานานแล้วไม่ใช้หรือไง”
“ก็นะ บันเอิญวันนี้ผมว่างเลยออกมาผ่อนคล้ายสักหน่อย”
สิ้นประโยคของคนอ่อนวัยกว่า ชายหนุ่มยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะเดินแยกจากลูกพี่ลูกน้องของตัวเองกลับไปนั่งที่เก้าอี้บริเวณบาร์เคาเตอร์ของตัวเอง
ทางด้านเขียนดาว หลังจากหนีจากคนอายุมากกว่ากลับมาถึงคอนโด้ ไม่รอช้าก็ถอนเสื้อคลุมชั้นนอกโยนที่บนโซฟาล้มตัวนอนลงบนโซฟาตัวยาวภายในห้องรับรอง นอนเล่นอยู่สักพักร่างวิญญาณของคุณลิสาที่หายไปตั้งนานก็มาปรากฏตัวข้ามๆเด็กหนุ่ม
“ไง เป็นอะไรทำไมหน้านายแดงขนาดนี้”
“หรืออดีตแฟนเก่าฉันทำอะไรแปลกๆกับนาย”
เสียงหวานของคุณลิสาเอ่ยปากแซวผมขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่คุณลิสาจะย่อตัวนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวข้ามๆผม ผมเด้นตัวลุกขึ้นนั่งเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากโวยวายใส่คุณลิสาอย่างหัวเสีย
“คุณลิสา ทำไม่บอกผมก่อนว่าคู่หมั้นของคุณอันตรายขนาดนี้”
คุณลิสาหัวเราะคิกคักออกมาเล็กน้อย ก่อนที่คุณลิสาจะเอ่ยปากตอบผมขึ้นมา พร้อมรอยยิ้ม
“เธอก็พูดเกินไปหมอนั้นจริงๆไม่ได้อันตรายขนาดนั้นหลอกเชื่อฉันสิ”
“แบบมองเขาแค่อยากแกล้งเธอเท่านั้น”
“...”
“ช่วยไม่ได้ก็เธอมันน่ารักหน้าแกล้งเอง ขนาดฉันยังชอบแกล้งเธอเลย”
“...”
“แต่เรื่องนั้น ฉันเถอะเธอได้เจอพวกเขาสามคนครบแล้ว คิดยังไว้หรือยังว่าจะทำยังไงต่อ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของคุณลิสาผมทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะเอ่ยปากตอบคำถามคุณลิสาขึ้นเสียงแผ่ว
“บางอาจจะต้องเข้าหาที่ละคนและครับ”
สิ้นประโยคดังกล่าวของผม คุณลิสาพยักหน้ารับคำเล็กน้อย มือบางของเธอข้างหนึ่งยกขึ้นจับคางของตัวเองคิดตาม ก่อนที่เธอจะเอ่ยปากถามเธอขึ้นมาอีกว่า
“ถ้ายังงั้น เธอคิดไว้หรือยังว่าจะเริ่มจากใครก่อน”
สิ้นประโยคดังกล่าวของคุณลิสา ผมทำท่าครุ่นคิดอีกครั้งก่อนที่ผมจะส่ายหัวเบาๆเป็นการตอบคำถามของคุณลิสา เอ่ยปากบอกกับเธอขึ้นมา
“ตอนนี้ ยังครับ ผมว่าจะลองเริ่มจากสืบประวัติเบื้อนต้นของแต่ละคนก่อน”
“พรุ่งนี้ผมอาจต้องกลับใหญ่ ขอให้คนที่บ้านช่วย อาจจะไม่ได้กลับมาที่คอนโด้สักพัก”
“...”
คุณลิสาพยักหน้ารับคำผมเบาๆ ผมปล่อยให้ความเงียบภายในห้องทำงานอยู่สักก่อนที่ผมจะเอ่ยปากช่วงคุณลิสากลับบ้านใหญ่พร้อมกับผม
“คุณลิสา อยากไปด้วยกันหรือเปล่าครับ”
สิ้นประโยคคำถามจากผม คุณลิสาส่ายหัวเบาๆเป็นปฏิเสธคำช่วงของผม ผมพยักให้กับคำตอบของคุณเบาๆ
ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นจากโซฟาตัวยาวภายในห้องรับรอง เดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวภายในห้องนอน