สี่หลิงหลงต้องเข้าไปพัวพันกับหญ้างามอันดับหนึ่งแห่งหอคณิกาชายอันเลื่องชื่อเพียงเพราะถูกพี่สาววางแผนทำลายชื่อเสียง ทว่าเมื่อได้พบเสี่ยวไป่กลับได้พบเบาะแสที่เกี่ยวเนื่องกับพิษที่คร่าชีวิตพี่ชายของนางไป
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,จีน,ดราม่า,นางเอกเก่ง,หมอ ,ชายหญิง,จีนโบราณ,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บงกชสีครามหญ้างามสีชาดสี่หลิงหลงต้องเข้าไปพัวพันกับหญ้างามอันดับหนึ่งแห่งหอคณิกาชายอันเลื่องชื่อเพียงเพราะถูกพี่สาววางแผนทำลายชื่อเสียง ทว่าเมื่อได้พบเสี่ยวไป่กลับได้พบเบาะแสที่เกี่ยวเนื่องกับพิษที่คร่าชีวิตพี่ชายของนางไป
เมื่อมาถึงที่หมายเสี่ยวไป่จึงนำทางหลิงหลงไปยังร้านรวงหญ้า ครั้งนี้นางมาในฐานะหมอและไม่ได้ถูกหลอก เสี่ยวไป่จึงพานางเข้าทางประตูข้าง พ่อเล้าเซี่ยกับพ่อเล้าจ้าวก็รออยู่ที่นั่นด้วย
“อาไป่ ขอบใจเจ้ามากที่เชิญท่านหมอเทวดามา” พ่อเล้าจ้าวกล่าว เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลิงหลงจะยินยอมรักษาอาลั่วให้
“ด้วยความยินดี อาลั่วก็เป็นพี่น้องที่ดีของข้า ส่วนท่านหมอข้าจะดูแลให้เอง” เสี่ยวไป่ตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะพาหลิงหลงไปที่ห้องของอาลั่ว
อาลั่วนอนครางด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเตียง ดวงตากลอกไปมาด้วยความหวาดระแวง อาเฉินที่คอยดูแลพี่ชายอยู่ยกแขนขึ้นปาดน้ำตาเมื่อเห็นว่ามีคนเข้ามาในห้อง
เสี่ยวไป่ยกมือลูบหัวอาเฉินเบา ๆ “อาเฉิน เจ้าออกไปก่อน ข้าพาหมอมาตรวจอาการพี่ชายเจ้า”
“ขอรับ ข้าน้อยขอฝากความหวังไว้ที่ท่านหมอแล้ว” อาเฉินทำท่าคารวะก่อนจะออกจากห้องไป
หลิงหลงปรายตามองเสี่ยวไป่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง หญ้างานคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะกล่าว “ข้าน้อยจะอยู่กับท่าน หากต้องการเรียกใช้สิ่งใดท่านบอกข้าน้อยได้ตลอดขอรับ”
หลิงหลงพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปใกล้อาลั่ว สภาพท่าทางของคนไข้ตรงหน้าทำให้นางเห็นภาพซ้อนทับของหลิงซาน
ยามนั้นพี่ใหญ่ของนางก็มีท่าทีทุรนทุรายเช่นนี้
นางสูดหายใจเข้าเพื่อสงบสติไม่ให้อารมณ์พลุ่งพล่าน แล้วเอ่ย “อาลั่ว เจ้าได้ยินข้าใช่หรือไม่”
อาลั่วสะดุ้งเฮือกแล้วรีบลุกขึ้นกระเถิบกายหนีไปอยู่ที่มุมเตียง พร้อมเอ่ยไล่ด้วยถ้อยคำผรุสวาท
เสี่ยวไป่ที่มองอยู่อีกมุมเม้มปากแล้วเบนสายตามองไปที่หลิงหลง ยังดีที่นางไม่ติดใจถ้อยคำหยาบคายเหล่านั้น
หลิงหลงพยายามพูดให้อาลั่วสงบลงอยู่พักใหญ่ กว่าคนไข้ผู้คลุ้มคลั่งจะสงบลงได้ก็คือยามที่นางเอ่ยถึงน้องชายของเขา
อาลั่วยังคงมีท่าทีหวาดระแวง ปากพึมพำชื่ออาเฉินไม่หยุด ภาพนี้ทำให้หลิงหลงตาร้อนผ่าว นึกถึงหลิงซานขึ้นมา
ยามนั้นเขาก็พึมพำเรียกหานางไม่หยุดเช่นกัน
นางค่อย ๆ เข้าใกล้แล้วตรวจชีพจรบนข้อมือของอาลั่ว เขาชะงักมองนางด้วยดวงตาที่เบิกโพลงน่ากลัว แต่หลิงหลงก็พูดเบี่ยงเบนให้เขากลับไปสนใจอาเฉินอีกครั้ง
เมื่ออาลั่วมีท่าทางสงบลงและยินยอมให้นางแตะตัวเขาแล้ว หลิงหลงจึงเริ่มทำการรักษา
“เสี่ยวไป่ เจ้านำเทียนมาใกล้ ๆ ข้า” นางเอ่ยแล้วล้วงเอาเข็มออกมา
น่าแปลก อาลั่วที่สงบลงแล้วกลับกรีดร้องเมื่อเห็นเทียน เขาพยายามกระเสือกกระสนหาทางหนี หลิงหลงเห็นท่าไม่ดีจึงจี้จุดให้สลบไป
“เกิดอะไรขึ้นรึ” เสี่ยวไป่รีบเข้ามาดูพร้อมพยุงร่างของอาลั่วให้นอนลงบนเตียง
“ข้าคิดว่า เขาคงมีเรื่องหวาดกลัวซึ่งเกี่ยวข้องกับเทียน”
“ข้าน้อยเพิ่งนึกขึ้นได้ ราวสองวันก่อนข้าน้อยมาเยี่ยมอาลั่ว เขาเห็นแส้ของข้าน้อยก็เกิดอาการคลั่งเช่นกัน”
หลิงหลงขมวดคิ้ว นางให้เสี่ยวไปช่วยถอดชุดของอาลั่วออก เนื้อหนังใต้เสื้อผ้าปรากฏร่องรอยถูกทุบตีจาง ๆ บางจุดมีบาดแผลเหลือให้เห็น
“อาลั่วกลับมาได้ราวสัปดาห์กว่าแล้ว บาดแผลภายนอกดีขึ้นมาก” เสี่ยวไป่เอ่ย “วันแรก ๆ ที่กลับมา ข้าน้อยได้ยินจากท่านพ่อว่าเขาบาดเจ็บหนักกว่านี้ รอยช้ำดำเขียวราวถูกทุบตี มีรอยเฆี่ยนตี รอยกัดมากมายทั่วร่าง ยกเว้นบนใบหน้า”
“ข้ารู้แล้ว” เพราะพี่ใหญ่ของนางก็มีร่องรอยเหล่านี้เช่นกัน
ผู้ที่ทำเรื่องเหล่านี้ยังมีความเป็นคนหลงเหลืออยู่หรือไม่
หลิงหลงนำเข็มไปลนไฟแล้วฝังเข็มทำการรักษาเท่าที่ความสามารถของนางจะทำได้โดยมีเสี่ยวไป่คอยดูแลรับใช้อยู่ไม่ห่าง ดวงตาสีทองจับจ้องท่วงท่าการรักษา ฝีเข็มของนางทั้งรวดเร็วแม่นยำ ทั้งยังงดงามและมีสง่าราวกับเทพธิดา
มิน่าเล่า ผู้คนจึงได้ยกย่องนางว่างามราวกับเป็นเทพธิดาเดินดิน มิใช่แค่มีฝีมือเก่งกาจ ทว่าท่าทางยามรักษาก็ยังงดงามสะกดใจผู้คน
เมื่อได้เห็นการรักษาด้วยสองตาของตัวเอง เสี่ยวไป่ยิ่งนึกชื่นชมนาง มันยอดเยี่ยมยิ่งกว่ายามที่เขาติดตามนางในร่างมี่ถังเสียอีก
หลังผ่านไปเกือบสองชั่วยามนางจึงออกจากห้อง พ่อเล้าจ้าวและอาเฉินยืนรออยู่ด้านนอกห้อง ท่าทางมีความกังวลกระวนกระวาย
“ท่านหมอ พี่ชายของข้าน้อยเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” อาเฉินถามขึ้นในทันที ดวงตาของเขามีทั้งร่องรอยความเหนื่อยล้าและบวมแดง ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความหวัง
“เรื่องพิษ ข้าต้องพูดตามตรงว่าข้ายังรักษาไม่ได้ สิ่งที่ทำได้มีเพียงบรรเทาอาการเจ็บปวดของเขาเท่านั้น ส่วนอาการเสียสติ ข้าเองก็มั่นใจแค่สามส่วน ไม่แน่หากถอนพิษได้ อาลั่วคงจะกลับมาเป็นปกติ”
คำพูดของหลิงหลงทำให้อาเฉินเริ่มร้องไห้ แล้วโวยวายออกมา
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้เล่า เจ้าเป็นหมอเทวดามิใช่หรือ เหตุใดจึงรักษาพี่ข้าไม่ได้ หรือเพราะพี่ข้าเป็นหญ้างาม เจ้าจึงไม่อยากรักษา เช่นนั้นเจ้าจะมาทำไมกัน”
“อาเฉิน!” พ่อเล้าทั้งสองและเสี่ยวไป่ถึงกับตะลึงในคำพูดที่รุนแรงเหล่านั้น พ่อเล้าใบหน้าซีดเซียวที่อาเฉินกล่าวคำล่วงเกินเหล่านั้น เขาหันไปมองหลิงหลงด้วยกลัวว่านางจะบันดาลโทสะ
“เรียกข้าทำไมเล่า พวกท่านกล่าวเองว่าหากนางมา พี่ข้ามีหนทางรอดแน่ แต่นางก็รักษาพี่ข้าไม่ได้” อาเฉินเสียใจจนร้องไห้โฮแล้ววิ่งเข้าห้องพี่ชายไป
“คุณหนูรองสี่ ข้าน้อยอบรมสั่งสอนอาเฉินไม่ดีเอง…” พ่อเล้าจ้าวออกมาขอโทษแต่หลิงหลงกลับยกมือขัดขึ้นเสียก่อน
“ท่านไม่ต้องขอโทษหรอก พี่ชายอยู่ในสภาพนั้นเขาคงเสียใจมากจึงพูดออกมาโดยไม่ทันคิด ข้ารักษาอาลั่วไม่ได้ในใจเขาคงผิดหวังในตัวข้า”
ความรู้สึกสิ้นหวังของอาเฉิน นางเข้าใจดี ยามที่หลิงซานอยู่ในสภาพเดียวกับอาลั่ว นางก็หมดหนทางเช่นกัน จะหันหน้าไปพึ่งใครก็ไม่ได้
อาเฉินเห็นนางเป็นความหวัง ทว่าเมื่อนางไม่อาจรักษาอาลั่วได้ เขาคงจะเจ็บปวดมาก ถ้อยคำเมื่อครู่จึงมีทั้งความโกรธและความเสียใจ
นางเข้าใจ เพราะหากเป็นนางคงจะพูดจาได้แย่กว่าอาเฉินเสียอีก
นางผิดเองที่มีฝีมือไม่มากพอที่จะรักษาหลิงซานและอาลั่ว แต่ถึงอย่างนั้น นางก็จะพยายามรักษาชีวิตของอาลั่วไว้ให้ได้ นางไม่ต้องการให้อาเฉินต้องมีสภาพเดียวกับนาง
หลิงหลงหยิบใบสั่งยาออกมา “นี่คือยาของอาลั่ว เทียบนี้ให้ต้มอาบสัปดาห์ละสามครั้ง น้ำต้องร้อนเพื่อให้ร่างกายสามารถรับยา ส่วนนี่คือเทียบยากิน วันละครั้งหลังอาหารเย็น”
พ่อเล้าจ้าวรับเทียบยามาแล้วเอ่ยขอบคุณไม่หยุด
“ข้าน้อยต้องขอขอบคุณท่านมากจริง ๆ ท่านคิดค่ารักษาเท่าไหร่ เชิญกล่าวมาได้เลย”
“เจ้าอย่าเพิ่งขอบคุณข้าเลย ส่วนเรื่องค่ารักษา รอให้ข้าสามารถรักษาอาลั่วได้ก่อนค่อยว่ากัน” หลิงหลงตอบ “ตั้งแต่พรุ่งนี้ข้าจะมาดูอาการและฝังเข็มให้อาลั่ว ผ่านไปสัก 10 วันหากอาการไม่ดีขึ้นข้าก็คงหมดหนทางเช่นกัน”
“เช่นนั้น ตลอดการรักษา ข้าน้อยจะคอยเป็นลูกมือให้ท่าน” เสี่ยวไป่กล่าว “นับจากวันนี้ข้าน้อยจะคอยดูแลรับส่งท่านทุกวัน”
“ได้” หลิงหลงพยักหน้ารับ อย่างไรนางถือว่าคุ้นเคยกับเสี่ยวไป่ที่สุด ที่สำคัญ นางมั่นใจในความสามารถด้านวรยุทธ์และวิชาตัวเบาของนาง หากเกิดเรื่องไม่ดีงามขึ้น อย่างไรนางก็หนีพ้น ดังนั้นนางจึงยอมรับข้อเสนอของอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย
หลิงหลงกล่าวกำชับเรื่องอาหารที่ต้องระวังให้อาลั่วอีกสองสามคำก่อนจะให้เสี่ยวไป่พานางกลับคฤหาสน์
............................................................................
ฝากกดใจหรือคอมเม้นให้กำลังใจอาลั่วด้วยนะคะ หวังว่าจะรักษาน้องหายได้