สี่หลิงหลงต้องเข้าไปพัวพันกับหญ้างามอันดับหนึ่งแห่งหอคณิกาชายอันเลื่องชื่อเพียงเพราะถูกพี่สาววางแผนทำลายชื่อเสียง ทว่าเมื่อได้พบเสี่ยวไป่กลับได้พบเบาะแสที่เกี่ยวเนื่องกับพิษที่คร่าชีวิตพี่ชายของนางไป
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,จีน,ดราม่า,นางเอกเก่ง,หมอ ,ชายหญิง,จีนโบราณ,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บงกชสีครามหญ้างามสีชาดสี่หลิงหลงต้องเข้าไปพัวพันกับหญ้างามอันดับหนึ่งแห่งหอคณิกาชายอันเลื่องชื่อเพียงเพราะถูกพี่สาววางแผนทำลายชื่อเสียง ทว่าเมื่อได้พบเสี่ยวไป่กลับได้พบเบาะแสที่เกี่ยวเนื่องกับพิษที่คร่าชีวิตพี่ชายของนางไป
ในรถม้า หลิงหลงทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้เสี่ยวไป่รู้สึกว่าบรรยากาศอึดอัดมากกว่าครั้งแรก
หรือเป็นเพราะเรื่องเมื่อครู่ที่นางถูกอาเฉินต่อว่า
จริงอยู่ที่นางไม่ว่ากล่าวอะไร ทั้งยังไม่ถือสาด้วยเห็นว่าอาเฉินยังเด็ก แต่ถูกต่อว่าไปเช่นนั้นคงรู้สึกแย่อยู่บ้าง
หลิงหลงไม่ได้สนใจเสี่ยวไป่มากนัก ในห้วงความคิดของนางมีภาพของอาลั่วซ้อนทับกับหลิงซาน หากนางไม่สามารถรักษาอาลั่วได้ อาเฉินก็คงเป็นเหมือนนาง
ความรู้สึกไร้ญาติขาดมิตรมันทั้งอ้างว้างและโดดเดี่ยว มองไปทางใดก็ไร้หนทางและมืดมิด ราวกับจมลงไปในห้วงสมุทรที่ต่อให้ตะเกียกตะกายสุดแรงเพียงใดก็ไม่เห็นฝั่ง
เมื่อนางนึกไปถึงบาดแผลบนร่างอาลั่ว ถึงรอยส่วนมากจะจางลงแล้ว แต่นางรู้ดีว่าหากเห็นบาดแผลเหล่านั้นตั้งแต่วันแรก ๆ จะสะเทือนใจมากเพียงใด
เสี่ยวไป่ที่ไม่ล่วงรู้ความคิดของหลิงหลง นึกว่านางเซื่องซึมเพราะคำพูดของอาเฉินจึงคิดหาวิธีที่จะทำให้นางไม่เศร้าไปมากกว่าเดิม
“ท่าน…หากกลับไปแล้วท่านจะทำสิ่งใด” เขาลองถาม ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่านางคงกลับไปอ่านหรือคัดตำราเช่นเคย
หลิงหลงไม่ทันได้ตั้งตัวจึงไม่ได้ตอบสิ่งใดออกไป ดวงตาสีน้ำเงินกลอกไปมาเล็กน้อย เสี่ยวไป่เปลี่ยนจากนั่งตรงข้ามมานั่งข้างนางอย่างถือวิสาสะ
“ท่านหมอ ท่านอย่าได้ถือสาคำพูดของเด็กเลย” เขาจับมือเรียวบางของนางขึ้นมา “ข้ารู้ดีว่าการเป็นหมอมิใช่เรื่องง่าย ท่านทำเต็มที่แล้ว”
ยามที่เขาเป็นมี่ถัง เขาเห็นทุกความพยายามของนาง เห็นความทุกข์ใจของนาง เห็นความหวาดกลัวของนาง
นอกเหนือจากเรื่องของพี่ชายที่นางเล่าให้ฟังยามเมามาย นางเคยเอ่ยถึงความหวาดกลัวว่าสักวันหากนางรักษาผิดพลาดจะเป็นอย่างไร นางจึงยิ่งต้องแสวงหาความรู้และฝึกฝนให้หนักขึ้น
เสี่ยวไป่มองนางนิ่งอยู่เช่นนั้น ลืมแม้แต่จะแทนตนเองว่า ‘ข้าน้อย’ เช่นยามปกติ
หลิงหลงมองดวงตาสีทองคู่นั้น ความรู้สึกบางอย่างในใจพลันเบาลง นางเอ่ยเบา ๆ “ข้าไม่ได้คิดมากเรื่องคำพูดของอาเฉิน ข้ารู้ว่าเขาเป็นเด็ก ไม่ได้นึกถึงผลของการพูด…”
“กลับไป ข้าจะสอนเขาให้ดีเอง ท่านเองก็อย่าได้ลืมว่าท่านไม่ควรฝืนเกินไป” คำพูดในประโยคหลังคือสิ่งที่เสี่ยวไป่อยากพูดกับนางมาตลอด เพียงแต่ตอนนั้นเขาอยู่ในร่างมี่ถังจึงไม่อาจทำอะไรได้มากไปกว่าการรับฟังนาง
เสี่ยวไป่พูดปลอบโยนพลางเกลี่ยปอยผมให้นางเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งนิ่งเงียบอยู่เช่นนั้นอยู่พักใหญ่
“ข้ารู้ดี แม้ข้าจะถูกเรียกว่า ‘หมอเทวดา’ แต่ข้ามิใช่เทพเซียน ข้าไม่อาจช่วยชีวิตคนทุกผู้หรือรักษาได้ทุกโรค แต่ถึงอย่างนั้น นอกจาก ‘หมอ’ ชาวบ้านก็ไม่มีผู้อื่นให้พึ่งพาแล้ว ส่วนข้าก็มีเพียงการเป็นหมอให้พึ่ง”
หลิงหลงพึมพำ ดวงตาสีน้ำเงินหลุบลง
นางมีเพียงวิชาแพทย์เท่านั้น
นางเรียนรู้การแยกแยะสมุนไพรตั้งแต่จำความได้ วันทุกวันถูกปลูกฝังเรื่องจรรยาบรรณและความรู้ในด้านนี้
สมุนไพร การฝังเข็ม อาการบาดเจ็บ โรคภัย นางต้องเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ไม่มีวันหยุดพัก
ยิ่งเกิดเรื่องกับหลิงซาน นางยิ่งพยายามฝึกฝน นางศึกษาเรื่องพิษและสมุนไพรให้ลึกซึ้งมากขึ้น ตระเวนรักษาผู้คนเพื่อฝึกฝนจนกระทั่งถูกเรียกขานว่า ‘หมอเทวดา’
แต่นางกลับรู้สึกว่าตนไม่คู่ควรกับคำเรียกขานนี้
มือที่กอบกุมนางไว้สั่นเบา ๆ เสี่ยวไป่มองหลิงหลงอยู่เช่นนั้นก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้
“หลงเอ๋อร์ ท่านลองไปตลาดมารินกับข้าดีหรือไม่”
เขาโพล่งขึ้นโดยไม่รู้ตัวว่าตนเรียกนางอย่างสนิทสนม หลิงหลงที่กำลังอยู่ในภวังค์ถึงกับสะดุ้ง
“เมื่อครู่เจ้าว่าอย่างไร” นางไม่ได้ตั้งใจฟังเพราะมัวแต่นึกถึงวิชาแพทย์ของตน
“ท่านกลับไปก็คงอ่านตำราแพทย์กระมัง เช่นนั้นข้าพาท่านไปตลาดมารินจะดีกว่า”
“ตลาดมาริน เขตของคนอาณาจักรมิโมรินน่ะหรือ” หลิงหลงขมวดคิ้ว
เขตการค้าจากต่างแดนถือเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของเยว่ฮวา ตลาดมารินเป็นตลาดใหญ่ที่รวบรวมของจากอาณาจักรมิโมริน ซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาจักรใหญ่ที่อยู่ทางทิศตะวันออก
“เพราะเหตุใดเจ้าจึงจะพาข้าไปที่แห่งนั้น”
“ข้อแรก ท่านเป็นแพทย์ ข้าเชื่อว่าท่านต้องสนใจสมุนไพรหายาก ไม่แน่ว่าที่แห่งนั่นจะมีของน่าสนใจ ข้อสอง ข้าคิดว่า พิษในตัวข้าและอาลั่วต้องมาจากอาณาจักรอื่น เราอาจได้เบาะแสเรื่องพิษจากที่นั่นก็เป็นได้”
หลิงหลงคิดตามแล้วอดเห็นด้วยไม่ได้
ไม่ใช่ว่านางไม่เคยคิดว่าพิษชนิดนี้อาจจะมาจากที่อื่น แต่มันเป็นไปได้ยากที่จะนำเข้ามาโดยไม่ผ่านการตรวจสอบจากทางการ
เสี่ยวไป่อ่านความคิดของนางออกจึงแทรกขึ้น “ยาพิษเช่นนี้ใครจะค้าอย่างเปิดเผยเล่า พิษชนิดนี้อาจถูกลักลอบค้าสมุนไพรในตลาดมืดก็เป็นได้ ถูกหรือไม่”
“จริงของเจ้า”
“เช่นนั้นท่าน…”
“เสียดาย ข้าไม่ได้พกเงินมา”
“ท่านไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ข้าพกติดตัวมาหลายร้อยตำลึง ท่านต้องการสิ่งใดข้าสามารถออกเงินให้ก่อนได้” เขารีบเสนอ
โชคดีที่รถม้าของเขามักจะมีเงินติดรถไว้ยามจำเป็นหลายร้อยตำลึง เขาต้องขอบคุณความรอบคอบของพ่อเล้าเซี่ยโดยแท้!
หลิงหลงหลุบตาลงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าตกลง
“เช่นนั้น ข้าคงต้องรบกวนเจ้าแล้ว เสี่ยวไป่”
เสี่ยวไป่ยิ้ม เขารู้สึกว่าเสียงยามที่นางเอ่ยเรียกชื่อของเขาช่างไพเราะจริง ๆ
“ข้าน้อยยินดีเสมอขอรับ”
หลิงหลงมองใบหน้ายิ้มแย้มของเสี่ยวไป่แล้วขมวดคิ้ว เหตุใดนางรู้สึกราวกับเด็กที่ถูกหลอกล่อด้วยลูกกวาด และที่สำคัญ…
“เสี่ยวไป่”
“ขอรับ”
“เจ้า…ปล่อยมือของข้าได้แล้วกระมัง ข้าหาใช่ลูกค้าของเจ้า” นางกล่าวอย่างเย็นชาแล้วพยายามดึงมือออกจากการกอบกุม แต่เสี่ยวไป่กลับตีหน้าซื่อและคลี่ยิ้มงดงาม ทว่ายังคงกุมมือนางไม่ปล่อย
“ขออภัยขอรับ เพียงแต่ท่านเป็นบุคคลที่สำคัญยิ่งกว่าลูกค้า ให้ข้าน้อยได้กุมมือปลอบโยนท่านเช่นนี้เถอะขอรับ”
หลิงหลงหมดคำพูด ได้แต่ถอนใจแล้วเบือนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยให้เสี่ยวไป่กุมมือของตนอยู่เช่นนั้น
......................................................................................................................................................
ไป่มันเนียน 5555555
ใครหมั่นไส้นังไป่บ้างคะ คอมเม้นหยุมนางได้เสมอนะคะ//เราจะหยุมไป่ไปด้วยกัน