เมื่อยี่สิบห้าปีที่เเล้วพ่อของสารวัตรชลฌอนเคยทำคดีฆาตกรรมต่อเนื่องได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมที่เขารับผิดชอบจนต้องถูกวิสามัญกระทั่งเขาเสียชีวิต ชลฌอนเติบโตขึ้นมาเป็นนายตำรวจ และเข้าได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าในหน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษที่อดีตลูกน้องของพ่อตนเองเป็นคนมอบหมายให้ ทำให้เขาได้มาพบกับผู้กองน่านน้ำ ลูกชายของเหยื่อที่ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของฆาตกรเมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้ว เเต่เเล้วการฆ่าที่โหดเหี้ยมของฆาตรต่อเนื่องในอดีตก็ได้กลับมาอีกครั้ง แถมยังมีคดีปริศนามากมายเกิดขึ้นไม่เว้นวันให้หน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษต้องสะสาง “จำไว้นะฆาตกรสารเลวคนนั้นมันฆ่าเเม่ผมตาย คุณมันลูกฆาตกร” “คุณมันไม่รู้อะไรผู้กอง”

ฆ่า | ซ่อน | อดีต - ตอนที่ 2 เบาะเเส โดย REALPETER @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ชาย-ชาย,ดาร์ค,ไทย,ผู้กอง,ค้อน,18+,วาย,ฆ่า,สารวัตร,ตำรวจ,#BL,ดราม่า,ฆาตกรรมหักมุม,ฆาตกรรม,สืบสวนสอบสวน,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ฆ่า | ซ่อน | อดีต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ชาย-ชาย,ดาร์ค,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผู้กอง,ค้อน,18+,วาย,ฆ่า,สารวัตร,ตำรวจ,#BL,ดราม่า,ฆาตกรรมหักมุม,ฆาตกรรม,สืบสวนสอบสวน,นิยายวาย

รายละเอียด

เมื่อยี่สิบห้าปีที่เเล้วพ่อของสารวัตรชลฌอนเคยทำคดีฆาตกรรมต่อเนื่องได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมที่เขารับผิดชอบจนต้องถูกวิสามัญกระทั่งเขาเสียชีวิต ชลฌอนเติบโตขึ้นมาเป็นนายตำรวจ และเข้าได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าในหน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษที่อดีตลูกน้องของพ่อตนเองเป็นคนมอบหมายให้ ทำให้เขาได้มาพบกับผู้กองน่านน้ำ ลูกชายของเหยื่อที่ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของฆาตกรเมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้ว เเต่เเล้วการฆ่าที่โหดเหี้ยมของฆาตรต่อเนื่องในอดีตก็ได้กลับมาอีกครั้ง แถมยังมีคดีปริศนามากมายเกิดขึ้นไม่เว้นวันให้หน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษต้องสะสาง “จำไว้นะฆาตกรสารเลวคนนั้นมันฆ่าเเม่ผมตาย คุณมันลูกฆาตกร” “คุณมันไม่รู้อะไรผู้กอง”

ผู้แต่ง

REALPETER

เรื่องย่อ

สารบัญ

ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 1 ศพ,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 2 เบาะเเส,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 3 ฆ่า,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 4 บ้านของฆาตกร,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 5 คดีฆ่าเลียนเเบบ,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 6 เหยื่อ,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 7 คดีใหญ่

เนื้อหา

ตอนที่ 2 เบาะเเส

หลังจากที่ได้ผลการชันสูตรศพจากหน่วยนิติเวชหน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษก็กลายเป็นที่จับตามองของประชาชนอย่างแพร่หลาย รวมทั้งเบื้องบนที่คอยติดตามการสืบสวนอย่างใกล้ชิด เอกสารกองหนาถูกเปิดอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยผู้กองหนุ่มคนเดียวภายในทีม จากเบาะแสที่ได้มามีเพียงผลชันสูตรศพและดีเอ็นเอของผู้ที่กระทำชำเราเหยื่อ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ชายที่เป็นเจ้าของอสุจิที่พบภายในช่องคลอดของผู้ตายต้องยอมรับผิดด้วยความจำนนต่อหลักฐานในทุกข้อกล่าวหา แต่คนพวกนั้นยังคงยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็งเรื่องที่กล่าวหาว่าเป็นคนลงมือฆ่าเหยื่อ

นอกเหนือจากคำให้การสารภาพว่าลงมือข่มขืนเหยื่อจริงๆ แล้วทางหน่วยสืบสวนก็ไม่ได้คำให้การที่เป็นประโยชน์ต่อคดีเพิ่มขึ้นเลยนอกจากการรับทราบตัวตนของผู้เสียชีวิตจากทางครอบครัว

“ พวกมันนั้นเเหละฆ่าคุณนิติยาพี่ ” พายุเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “ แม่ง ไอ้พวกนี้มันคิดว่าเราไม่มีหลักฐานมาเอาผิดมันเเน่ๆ ”

“ เเต่หลักฐานที่เรามีก็สามารถปิดคดีได้เเล้วไม่ใช่หรอคะ ”

“ คนพวกนั้นไม่ได้ฆ่าเธอหรอก ” ชลฌอนเอ่ยขึ้นก่อนที่จะวางเล่มคดีลงบนโต๊ะ “ ถ้ามันเป็นคนลงมือฆ่าเธอจริงมันจะทิ้งหลักฐานไว้ในตัวเหยื่อให้ถูกจับง่ายๆ ทำไม ”

“ ใช่ คุณพูดถูก มาดูนี่สิ ” น่านน้ำดึงภาพถ่ายของศพออกจากมุดที่ปักอยู่บนกระดานออกก่อนจะนำมายื่นให้คนในทีมดู “ คนที่ตัดเล็บเธอต่างหากที่เป็นคนฆ่า ” 

บุคคลในภาพคือเหยื่อที่เสียชีวิตไปแล้ว รูปถ่ายมากมากหลายใบที่ถูกปักมุดไว้บนกระดานไวท์บอร์ดและมีเพียงรูปถ่ายใบเดียวที่ดูผิดปกติไป ซึ่งผลชันสูตรออกมาว่าเหยื่อถูกทรมานก่อนที่เธอจะเสียชีวิต แต่เล็บของเธอที่เหมือนถูกใครบางคนตัดออกไปยังดูใหม่ราวกับว่าฆาตกรได้ตัดเล็บเหยื่อทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานหลังจากที่ฆ่าตายเธอแล้ว ซึ่งหลักฐานที่ว่านั้นอาจจะเป็นดีเอ็นเอของคนร้ายที่ลงมือฆ่าเธอ หรือไม่ก็อาจจะเป็นอะไรบางอย่างที่สามารถซัดทอดไปถึงตัวมันได้นั่นเอง

เอรินตะลึงกับภาพถ่ายที่โชว์หราอยู่ในมือของรุ่นพี่ เธอวิ่งไปดึงภาพถ่ายออกจากมือของน่านน้ำก่อนจะเอามันไปเทียบกับภาพถ่ายอีกหนึ่งใบที่เธอพึ่งได้จากการรื้อค้นคดีเก่าๆ ตามที่สารวัตรสั่งมาเมื่อก่อนหน้านี้

“ เฮ้ยพี่ คนนี้ก็ถูกตัดเล็บออกเหมือนกันนะ ” พูดจบหญิงสาวก็เเทบพยุงตัวยืนอยู่ไม่ไหว จนสุดท้ายเธอจึงต้องทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกที่คาดไม่ถึง “ นี่มันฆาตกรรมต่อเนื่องจริงหรอคะสารวัตร ”

“ ยังเรียกเเบบนั้นไม่ได้หรอกนะ เราพึ่งเจอเเค่สองศพ ถ้าเจอศพที่สามถึงจะเรียกว่าเป็นฆาตกรรมต่อเนืองได้ เเละอีกอย่างเรายังไม่รู้เเน่ชัดว่าเหยื่อรายนี้จะเกี่ยวข้องกับคดีนี้จริงไหม ”

หัวหน้าทีมหยิบภาพถ่ายทั้งสองใบกลับมาปักไว้ที่กระดานไวท์บอร์ดอีกครั้ง ภาพถ่ายจากคดีเก่าเมื่อหนึ่งปีที่เเล้วผู้ตายชื่อว่านางสาวรุ่งธิดา จากที่ดูข้อมูลในเล่มคดีแล้วพบว่าสาเหตุการตายคือการขาดอากาศหายใจ ตามร่างกายมีร่องรอยการถูกทรมาน เเละโดนข่มขืนเช่นเดียวกันกับนางสาวนิติยา 

เเววตาเรียบนิ่งของชลฌอนไล่อ่านตัวอักษรในเล่มคดี กระทั้งเขาได้หยุดสายตากับประโยคหนึ่งที่พนักงานสืบสวนได้พิมพ์เอาไว้ ถึงสถานที่สุดท้ายที่มีคนพบเห็นเหยื่อที่ชื่อรุ่งธิดาก่อนที่เธอจะหายตัวไป

“ คุณดูนี่สิ ” 

ชายหนุ่มทั้งสองเงยหน้าสบตากันอย่างไม่ได้นัดหมาย ผู้กองน่านน้ำกระเด้งตัวขึ้นจากโต๊ะทำงานที่เขาได้นั่งอยู่ มือเรียวหยิบปากกาไวท์บอร์ดสีเเดงเขียนชื่อสถานที่ดังกล่าวลงพื้นกระดานสีขาวทันทีที่ได้อ่านข้อความตรงหน้า เเละเขาไม่วายที่จะขีดวงกลมทับข้อความนั้นหมายความว่าสถานที่เเห่งนี้เเหละที่พวกเขาจะต้องไปตรวจสอบเป็นที่ต่อไปหลังจากนี้

“ โรงเริงรมณ์ คือที่ไหนวะพี่น่าน ”

“ สถานที่ขายบริการ ” น่านน้ำเอ่ยตอบหมวดกันก่อนหันไปมองหน้าหัวหน้าทีม “ ที่นี่เเหละที่เราต้องไป ”

ฌอนพยักหน้าตอบเป็นความในว่าเขาได้รับรู้แล้ว ร่างสูงหันไปออกคำสั่งและมอบหมายหน้าที่ให้ทุกคนในทีมหลังจากนั้นอย่างไม่รีรอ “ เอรินประจำอยู่ที่หน่วยรอรับคำสั่งนะ พายุ กัน นายสองคนกลับไปที่ที่พบศพทั้งสองคนนี้อีกครั้งตรวจดูให้ละเอียดเผื่อได้เบาะเเสอะไรเพิ่มเติมเข้าใจมั้ย มีอะไรให้โทรหาผม ”

“ ได้ครับ ป่ะพี่กัน ” เด็กหนุ่มทั้งสองคนเริ่มออกไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว

“ เราก็ไปกันเถอะผู้กอง ”

สารวัตรคว้าเเจ็คเก็ตที่เขาพึ่งถอดออกก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีหวังคลายร้อนจากบนเก้าอี้ตัวเอง เเต่ก่อนจะไปเขาได้ออกคำสั่งกับผู้หมวดเอรินให้ตามหาที่อยู่ของคุณนิติยา ถึงเเม้ครอบครัวของเธอจะมายืนยันตัวตนเรียบร้อยเเล้วเเต่เพราะเธอได้ออกจากบ้านมาอยู่ตัวคนเดียวเป็นเวลานาน ทำให้คนในครอบครัวไม่มีใครรู้เลยว่าเธอพักอยู่ที่ไหนเเละทำงานอะไร

ตำรวจสองนายพากันวิ่งหน้าตั้งไปยังที่จอดรถหน้าสำนักงาน สุดท้ายเเล้วหน่วยสืบสวนก็ได้เบาะเเสเพิ่มเติม จากที่นั่งเคร่งเครียดกันอยู่พักใหญ่เนื่องจากหาเบาะเเสอะไรเพิ่มเติมไม่ได้เลย

“ ไปรถผมน่าจะเร็วกว่า ” ชลฌอนคว้าเเขนอีกคนเอาไว้เเล้วพูดขึ้น

“ อือ ”

นายตำรวจหนุ่มทั้งสองคนพากันขึ้นรถยนต์ส่วนตัวคันสีดำสนิทของสารวัตรชลฌอน ด้วยเวลาแบบนี้จึงไม่มีใครคิดจะหาเรื่องใครทั้งนั้น ณ ตอนนี้การหาหลักฐานมาจับผู้ร้ายคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา

และด้วยเหตุนี้น่านน้ำจึงยอมขึ้นรถไปกับชลฌอนโดยไม่อิดออด

“ คุณเก่งมากผู้กอง ” ฌอนเอ่ยชมคนข้างๆ ที่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติในภาพซึ่งมันเป็นเรื่องที่มีประโยชน์มากทีเดียว

“ ขับรถไปเถอะมัวเเต่พูดอะไรไร้สาระอยู่ได้ ”

“ กอดราวมือจับไว้เเน่นๆ เเล้วกัน ”

หัวคิ้วคนที่เอ่ยปากชมขมวดยุ่งเล็กน้อยก่อนจะยกมุมปากคล้ายกำลังยิ้มด้วยความพึงพอใจ หลังจากพูดจบประโยคได้เริ่มเร่งความเร็วรถขึ้นจนอีกคนส่งเสียงบ่นลอยมาให้ได้ยินเเว่วๆ

ชลฌอนชำเลืองตามองคนที่เอาแต่นั่งเงียบอยู่เบาะข้างๆ เป็นระยะ สายตาคมไล่มองดวงหน้าผู้ชายที่ตนรู้สึกคุ้นเคยเอามากๆ เป็นพักใหญ่ เเต่เขาก็ยังนึกไม่ออกว่าเคยเจอน่านน้ำที่ไหนกันเเน่

“ ผู้กองน่าน ” สารวัตรหนุ่มเรียกอีกฝ่ายก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งอยู่ท่าเดิมไม่มีวี่เเววว่าจะขานรับ ชลฌอนจึงเรียกซ้ำอีกครั้ง “ น่านน้ำ ”

“ ใครให้คุณเรียกผมเเบบนั้นสารวัตร ” เสียงทุ้มเล็กใส่อารมณ์หงุดหงิดเอ่ยขึ้นว่าคนขับ

“ ก็ผมเรียกคุณเเล้วไม่ตอบ ”

“ ก็เรียกเเล้วทำไมไม่พูดละ ” น่านน้ำจิปากอย่างรำคาญเเละเขารู้สึกเบื่อที่จะคุยกับผู้ชายคนนี้เต็มทน “ เนี้ย ตอบเเล้วทำไมไม่พูดละครับคุณ ศา ลา วัด ”

“ หึ ” ได้ยินเสียงบ่นเจื้อยเเจ้วของคนข้างๆ ก็อดที่จะขำไม่ได้จริงๆ ชลฌอนได้แต่คิดว่าทำไมน่านน้ำถึงได้เหมือนเด็กน้อยเอาเเต่ใจมากขนาดนี้กัน “ ผมจะถามคุณว่า คุณรู้ได้ยังไงว่าโรงเริงรมณ์คือเเหล่งขายบริการ ”

“ เอ่อ ” น่านน้ำเม้มปากด้วยความเคยชินเหมือนทุกครั้งที่รู้สึกว่าตนเองกำลังจะถูกจับได้

ชลฌอนเห็นอาการของอีกฝ่ายก็ได้เเต่นั่งยิ้มอย่างนึกเอ็นดู ไม่รู้ว่าน่านน้ำจะสรรหาคำไหนมาตอบคำถามของเขาอีก เเต่ถึงยังไงร่างสูงก็พร้อมรอฟังคำโกหกของเด็กเเก่เเดดอยู่เสมอ

“ คุณยิ้มอะไร ” น่านน้ำเอ็ดคนตัวสูงกว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเต็มเเก่ “ ใครๆ ก็รู้ป่ะ ชื่อบ่งบอกซะขนาดนั้น หรือคุณไม่รู้ ”

“ ผมไม่รู้นะว่าที่นั่นคือสถานที่ขายบริการ ” ชลฌอนตอบพลางยกยิ้ม

“ ผู้ชายเขาก็รู้กันหมดนั่นเเหละ ”

“ เเต่ว่ากัน กับพายุก็ไม่รู้นะ ”

น่านน้ำจะรู้ไหมว่ายิ่งตัวเองพูดออกมาเยอะมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเข้าตัวเองมากขึ้นเท่านั้น ผู้กองหนุ่มมีท่าทีกระอักกระอ่วมแสร้งกระเเอมไอสองทีเหมือนกำลังหาคำมาเเก้ตัวเเต่ก็ไม่รู้จะพูดคำไหนออกมา เขาจึงทำเป็นขยับก้นเล็กน้อยและค่อยๆ เอียงตัวหันหน้าออกทางประตูรถเเทน

หารู้ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวยิ่งทำให้คนที่มองอยู่อารมณ์ดีขึ้นไปใหญ่

“ ผมเข้าใจๆ ” เสียงทุ้มกล่าวขึ้นเหมือนปลอบใจเเต่เป็นคำปลอบใจที่ปนไปด้วยความยิ้มเยาะเริงร่าอย่างมีอารมณ์ขัน

“ เลิกพูดได้เเล้ว จะถึงเเล้ว ”

“ คุณนี่รู้ดีจังนะครับ ”

“ นี่! ”

“ โอเคๆ ผมไม่เเกล้งเเล้ว ”

โรงเริงรมณ์ สถานที่ขายบริการหรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าซ่องโสเพณี ถูกตั้งตระหง่านอยู่ท้ายซอย ถ้ามองเผินๆ คนทั่วไปอาจคิดว่ามันเหมือนร้านเหล้าที่ดูจะเป็นสถานที่บันเทิงเสียมากกว่าที่จะเป็นเเหล่งค้าขายบริการ ชายหนุ่มร่างสูงยืนมองตึกสองชั้นตรงหน้าอย่างตื่นตาตื่นใจ เพราะเขาเองยังไม่เคยเห็นสถานที่ขายบริการที่ดูสะอาดสะอ้านขนาดนี้มาก่อน

“ หึ ทำตัวอย่างกับไม่เคยเข้าที่เเบบนี้ ”

สารวัตรเลิกคิ้วใส่คนที่ตัวเล็กกว่าก่อนจะตอบกลับไปว่า “ ผมไม่เคยเข้าที่ที่ผู้หญิงขายบริการ เเต่ถ้าเป็นผู้ชายผมก็เข้าบ่อยอยู่นะ ”

น่านน้ำอึ้งกับคำตอบอยู่พักใหญ่ เเต่พอได้เห็นอีกคนยกยิ้มอย่างพอใจเขาก็รู้ได้ทันทีว่าตัวเองกำลังโดนเเกล้งอีกครั้ง

ชายหนุ่มเค้นเสียงหัวเราะตามหลังคนที่มีอาการเหลอหลาวิ่งเยาะๆ หนีเข้าไปด้านใน

ชลฌอนไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบเเกล้งน่านน้ำมากขนาดนั้น เเต่ทุกครั้งที่ได้เห็นอีกฝ่ายทำท่าทำทางหงุดหงิด หรืองอเเงเป็นเด็กเอาเเต่ใจเเล้วมันอดไม่ได้จริงๆที่จะเเกล้งซ้ำเเล้วซ้ำเล่า...เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

หน้าเค้าน์เตอร์ตอนนี้ดูเหมือนว่ากำลังวุ่นวายกันอยู่ไม่น้อย เพราะว่ามันมีเสียงถกเถียงกันออกมาให้คนที่กำลังก้าวขาเดินเข้าไปด้านในได้ยินเป็นช่วงๆ

สารวัตรหนุ่มย่นหัวคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเห็นน่านน้ำกำลังยืนทุบโต๊ะ แผดเสียงต่อปากต่อคำกับผู้ชายอีกคนอยู่ในร้าน จากที่กำลังค่อยๆ เดินก็ได้เปลี่ยนเป็นการรีบสาวเท้าวิ่งเข้าไปหาลูกน้องในทีมทันที

“ มีอะไรกันผู้กอง ”

กรอบหน้าสีขาวเนียนขึ้นเป็นริ้วสีเเดงระเรื่อลามไปจนถึงใบ มันบ่งบอกว่าน่านน้ำกำลังอารมณ์ขึ้นอย่างมากในตอนนี้

“ มันบอกให้เอาหมายศาลมาสารวัตร พูดมาได้เดี๋ยวจะซัดเข้าหน้าสักที ”

มือหนาดึงต้นเเขนคนข้างกายเบาๆ เชิงห้ามปรามให้ใจเย็นลง “ เดี๋ยวผมคุยเอง คุณไปนั่งรอผมตรงนั้นก่อน ”

ตรงนั้นที่ว่าก็คือโต๊ะสำหรับบริการลูกค้าในร้านเหล้า น่านน้ำเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เข้าใจแต่เมื่อเห็นคนร่างสูงเสตามองขึ้นไปด้านบนเขาจึงพยักหน้าตอบเเต่โดยดี เขารู้ตัวว่าถึงอยู่ตรงนี้ต่อไปมีหวังได้วางมวยกันเเน่นอน

น่านน้ำนั่งมองผู้ชายร่างกายสูงใหญ่กำยำเกินมนุษย์มนาเเล้วก็ได้เเต่นึกหมั่นไส้คนตรงหน้า

มันมีตำรวจที่ดูดีขนาดนี้ได้ยังไงวะ...

ชลฌอนมีรูปร่างสูงสง่าราวกับรูปปั้นในงานศิลปะ เเถมหน้าตายังหล่อเหลาคมคายเหมาะกับการเป็นนักเเสดงมากกว่าจะมาเป็นตำรวจเสียอีก

“ คิดไรวะเนี่ยไอ้น่าน ”

ศีรษะเล็กสั่นสะบัดเพื่อไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัว ก่อนที่เขาจะมองซ้ายเเลขวาดูลาดราวก่อนจะแอบขึ้นไปด้านบนของร้าน

“ ต้องขอโทษเเทนลูกทีมผมด้วยนะครับ ผมสารวัตรชลฌอนจากหน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษ ” ป้ายชื่อถูกเก็บเข้าในกระเป๋าเช่นเคยเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มด้านหน้าได้มองมันเป็นที่เรียบร้อย

“ คะ ครับสารวัตร ”

“ ขอรบกวนเวลาสักครู่นะครับ ” สารวัตรยกยิ้มเเละหุบลงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะใช้นิ้วชี้เลื่อนรูปถ่ายของคุณนิติยาให้อีกคนดู “ รู้จักผู้หญิงคนนี้มั้ยครับ ”

“ เอ่อ คือว่า โถ่สารวัตรผมจะไปรู้จักเธอได้ยังไงละครับ ” เขาทำเฉไฉพร้อมกับฉีกรอยยิ้มเเห้งๆ ให้นายตำรวจหนุ่ม

ชายหนุ่มพยักหน้า “ งั้นผมจะมาอีกครั้งพร้อมหมายจับในคดีค้าประเวณี ”

“ จับเจิบอะไรละสารวัตรผมไม่ได้ทำอะไรเลย นี่มันก็เเค่ร้านเหล้าเล็กๆ เท่านั้นเอง ”

“ โอเคครับ ” ชลฌอนดึงรูปภาพเก็บใส่กระเป๋าเสื้อเเละหันไปหาคนที่เขาให้ไปนั่งรอที่โต๊ะ “ ผู้กองเรากลับได้รึยัง ”

ร่างสูงโปร่งยัดยืนเต็มความสูงด้วยรอยยิ้มก่อนที่เขาจะค่อยๆ เดินกลับเข้ามายืนประจันหน้ากับเจ้าของร้าน

ไอ้ที่บอกว่าให้ไปนั่งรอคือให้ไปคุยกับเด็กด้านบนต่างหากเล่า... ต้องยกความดีความชอบให้สารวัตรฌอนคนนี้เลยที่เกิดมาตัวโตยืนบังเขาซะมิดเชียว

น่านน้ำเลิกคิ้วขึ้นใส่ผู้ชายหลังเค้าน์เตอร์ ก่อนที่จะเลื่อนรูปถ่ายที่พึ่งถ่ายมาสดๆ ร้อนๆ ให้ชายผู้นั้นดู เป็นรูปห้องแถวยาวเหยียดซึ่งมีหญิงสาวนั่งรอแขกอยู่หน้าห้อง “ น้องน้ำ น้องหมวย น้องฟ้าใส น้องอะไรอีกน้า ”

“ ครับๆ ผมรู้จักเธอครับคุณตำรวจอย่าจับผมนะครับผมไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลยนะครับ ” เขากลืนน้ำลายคำใหญ่ก่อนจะพูดสารภาพ

สารวัตรหนุ่มกับผู้กองมองหน้ากันพร้อมยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

“ เล่ามาสิ ” สารวัตรเอ่ย

“ คะ คือนิติยาเคยเป็นเด็กทำงานอยู่ที่นี่ครับ ผมเองก็ไม่ค่อยทราบอะไรมากหรอกครับถ้าคุณตำรวจอยากรู้มากกว่านี้ลองไปถามเด็กผู้หญิงข้างบนที่ชื่อเมย์ดู เมย์กับนิติยาเขาเป็นเพื่อนกัน คุณรับปากผมเเล้วนะครับว่าถ้าผมบอกคุณจะปล่อยผมไป ”

“ ครับ พวกผมขึ้นไปด้านบนได้ใช่มั้ย ”

สีหน้าของเจ้าของร้านซีดลงอย่างเห็นได้ชัด เเต่ทว่าเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้จึงต้องจำใจเปิดทางให้ตำรวจสองนายนี้ขึ้นไปคุยกับเด็กข้างบนอย่างจนหนทาง

ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมงและแล้วร่างชายหนุ่มทั้งสองคนก็ได้เดินเคียงคู่กันลงมา สีหน้าของสารวัตรฌอนดูกังวลเล็กน้อยจนทำให้คนที่รอดูอยู่ข้างล่างตัวสั่นเทาจากความกลัวกังวล

“ คะ คุณตำรวจกลับเเล้วหรอครับ ”

“ ครับ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ ”

เจ้าของร้านถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขารู้สึกโล่งใจ คิดว่าตัวเองจะโดนรวบไปเสียเเล้ว เเต่หารู้ไม่ว่าตนเองกำลังคิดผิดไปอย่างมากเพราะว่าคนอย่างสารวัตรชลฌอนไม่มีทางปล่อยสถานที่เเบบนี้ไปง่ายๆ อยู่เเล้ว

“ คุณได้เก็บหลังฐานมาเเล้วใช่ไหมผู้กอง ”

มือเรียวยกโทรศัพท์หุ้มเคสสีฟ้าให้อีกคนดู “ เรียบร้อย ”

“ ขอหมายจับได้เลย ”

ชายหนุ่มทั้งสองคนกลับเข้ามานั่งในรถอีกครั้งสถานที่ต่อไปคืออะพาร์ตเมนต์ที่นิติยาอาศัยอยู่

ซึ่งข้อมูลนี้ได้มาจากหญิงขายบริการที่ชื่อเมย์ คนที่อ้างว่าเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผู้ตาย เเละหญิงสาวยังบอกอีกว่าก่อนที่นิติยาจะถูกฆาตกรรมเธอได้มาระบายความในใจให้เมย์ฟังอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสิ่งที่นิติยาพูดออกมามีใจความประมาณว่าเธอรู้สึกเหมือนมีคนคอยตามติดเธอตลอดเวลา เเต่เธอก็ไม่เคยเจอคนๆ นั้นต่อหน้าต่อตาเลยสักครั้ง เเถมพักหลังๆ ยังมีพัสดุเเปลกๆ ส่งมาให้เธอ แต่เมื่อเปิดดูสิ่งของที่อยู่ในกล่องนั้นเป็นแค่ตุ๊กตา หรือไม่ก็เป็นกล่องดนตรี หรือโคมไฟตั้งโต๊ะ

เเละเมย์ยังพูดต่อว่ารุ่งธิดาก็เคยทำงานอยู่ที่ซ่องเเห่งนี้เช่นเดียวกัน เเต่อยู่ๆ เธอกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มาทำงานหลายอาทิตย์ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหน จนกระทั่งมีข่าวออกมาว่าเธอได้เสียชีวิตไปเเล้ว ซึ่งในตอนนั้นตำรวจปิดคดีว่าเป็นการฆ่าข่มขืน เมย์บอกอีกว่ารุ่งธิดาเป็นคนเก็บตัว ไม่มีเพื่อนฝูง ในวันที่เธอหายตัวไปจึงไม่มีใครรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเธอเลย

ถ้าสิ่งที่หญิงสาวพูดมาเป็นความจริง นั่นหมายความว่ามันไม่ใช่การฆ่าโดยไม่เลือกเป้าหมายอย่างที่ชลฌอนได้ตั้งสันนิษฐานเอาไว้ เเต่มันคือการฆาตกรรมโดยที่คนร้ายมีเป้าหมายเป็นผู้หญิงขายบริการ และมันวางเเผนมาเป็นอย่างดี

“ น่านน้ำเเจ้งหน่วยพิสูจน์หลักฐานให้ไปที่อะพาร์ตเมนต์เดี๋ยวนี้ ”

ถึงจะขัดใจกับคำสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้เรียกตนเองเมื่อครู่ เเต่ดูจากสีหน้าเคร่งขรึมของคนที่เป็นสารวัตรเเล้ว น่านน้ำจึงไม่ได้ทักท้วงอะไรกลับไป

เพราะดูเหมือนว่าชลฌอนกำลังเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคนเมื่อเทียบกับตอนก่อนหน้าที่ยังไม่ได้คุยกับเมย์

“ เช็คปืนด้วยน่านน้ำ ” สารวัตรฌอนหันไปบอกคนที่นั่งมาด้วยเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังทำตามที่บอกอยู่พอดีจึงหันกลับมาตรวจสอบปืนตัวเอง “ ระวังตัวด้วยผมสงสัยว่าคนร้ายอาจจะอยู่อะพาร์ตเมนต์นี้ก็ได้ ”

“ อืม ”

น่านน้ำลงจากรถยนต์ไปก่อนตามด้วยชลฌอนที่วิ่งอ้อมรถมายืนอยู่ด้านข้าง ยังไม่ทันได้ยกฝ่าเท้าเดินเต็มก้าวร่างที่เล็กกว่าก็ถูกดึงกลับจนตัวเซไปกระเเทกเข้ากับหน้าอกอีกคนจนดังปัก ปากเรียวเล็กส่งเสียงจิปากอย่างขัดใจกำลังจะอ้าปากว่าคนยศสูงกว่า เเต่ก็ต้องหันไปมองตามยังจุดที่สายตาของสารวัตรยืนเพ่งมองอยู่ในทันควัน

“ ตามผมมา ” สารวัตรเอ่ยพร้อมทำสัญญาณมือ

ชลฌอนเดินเข้าไปดูตรงพุ่มไม้ที่อยู่ข้างอะพาร์ตเมนต์ เพราะเมื่อครู่เขารู้สึกว่ากำลังมีคนเเอบดูพวกเขาทั้งสองคนอยู่ตรงนั้น เเต่เมื่อเดินเข้าไปดูตอนนี้มันก็ไม่มีใครอยู่เเล้ว

“ รีบขึ้นไปกันเถอะ ระวังตัวด้วย ”

“ อืม ”

ประตูห้องถูกไขออกด้วยฝีมือคนตัวเล็กกว่าก่อนที่มันจะค่อยๆ แง้มเปิดออกให้ทั้งสองคนได้เห็นสภาพภายในห้องของนิติยาอย่างสมบูรณ์

“ หน่วยพิสูจน์หลักฐานมาถึงเเล้ว ”

สารวัตรชลฌอนพยักหน้ารับทราบรายงาน รอไม่ถึงสิบนาทีก็ได้มีกลุ่มเจ้าหน้าที่ใส่เสื้อกั๊กสีขาวจำนวนสี่ถึงห้าคนวิ่งเข้ามายืนในห้องพร้อมกระเป๋าอุปกรณ์ครบครันภายในมือ

“ ตุ๊กตา โคมไฟ เเละกล่องดนตรีอันนั้นตรวจสอบให้ผมเร็วที่สุดได้ตอนไหน ” ชายหนุ่มพูดพลางชี้บอกตำเเหน่งของสิ่งนั้นไปด้วยเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบ

“ วันนี้ค่ะสารวัตร ”

ร่างสูงไม่ได้เอ่ยอะไรตอบ เขาเพียงเเค่รับฟังก็เป็นอันรับทราบร่วมกันโดยปริยาย ขาเรียวยาวในการเกงยีนส์สีเข้มก้าวเข้าไปเดินตรวจสอบภายในห้องนอนของเยื่อโดยละเอียดเมื่อไม่มีอะไรผิดปกติเขาจึงได้เดินไปที่ห้องน้ำต่อ

“ มีอะไรหรอสารวัตร ”

“ ดูนั้น ”

คนเป็นสารวัตรยกนิ้วชี้ไปที่รอยแตกบนขอบกระจก ซึ่งมันคือกล้องแอบถ่ายขนาดเล็กที่มีสีกลมกลืนไปกับขอบไม้สีน้ำตาลเข้มอย่างดิบดี ถ้าไม่สังเกตดีๆ จะไม่มีทางมองเห็นกล้องตัวจิ๋วตัวนั้นได้เลย

“ เปิดเลยครับ ”

สิ้นสุดคำสั่งภาพบนจอโน๊ตบุ๊คก็ได้ฉายขึ้นเต็มหน้าจอ ภาพวิดีโอแอบถ่ายช่วงเวลาที่นิติยาทำธุระต่างๆ ภายในห้องน้ำ ทุกอย่างถูกแอบถ่ายเพื่อเก็บเอาไว้ทั้งหมดโดยที่เหยื่อไม่เคยรู้ตัวเลยสักครั้ง

“ ไอ้สารเลวเอ้ย ” เป็นน่านน้ำที่สบถด่าขึ้นด้วยความโกรธ เขาโมโหสุดขีดเมื่อรู้ว่าคนร้ายทำกับผู้หญิงได้ต่ำช้าเช่นนี้

“ กรอไปช่วงท้ายๆ สิ ”

เจ้าหน้าที่ทำการกรอวิดีโอไปที่ช่วงท้ายคลิปตามคำสั่ง เเละสิ่งที่ชลฌอนได้คิดเอาไว้ก็เป็นตามนั้นไม่มีผิด มีภาพผู้ชายนิรนานปรากฎตัวอยู่ในคลิปวิดีโอ ขณะนั้นเองทั้งสองคนก็ต้องชะงักกับสิ่งที่เห็น

“ นี่มันคนที่เอากุญเเจสำรองให้เราไม่ใช่หรอสารวัตร ”

เรียวขาสูงยาวสาวเท้าก้าวลงบันไดอย่างรวดเร็วเพื่อไปหาเด็กผู้ชายอายุราวยี่สิบกว่าปีซึ่งเป็นคนทำหน้าที่ดูแลอะพาร์ตเมนต์แถมยังเป็นคนที่ยื่นกุญเเจสำรองให้เขาทั้งสองคนก่อนหน้านี้

“ ไปไหนเเล้ววะ ”

น่านน้ำพูดขึ้นอย่างคนอารมณ์เสียบวกกับอาการเหนื่อยหอบเพราะวิ่งลงมาเเทบจะทันทีที่รู้ว่าผู้ต้องสงสัยคือใคร

“ คุณไปทางนั้น ระวังตัวด้วยเขาอาจมีอาวุธ ”

“ คุณก็ด้วย ”

ทั้งสองเเยกย้ายกันออกตามหาชายดังกล่าวเเต่ก็ไร้ซึ่งวี่เเวว เเละในขณะที่กำลังจะเดินกลับไปที่เดิมน่านน้ำก็ได้ร้องเสียงดังขึ้นจนคนตัวสูงต้องรีบวิ่งไปยังต้นทางของเสียงร้องตระโกนทันที

ภาพที่สารวัตรหนุ่มเห็นคือผู้กองน่านน้ำกำลังนอนกองอยู่บนพื้น มีสีหน้าเหยเกเพราะความเจ็บปวด เขาจึงรีบพุ่งตัวเข้าไปช้อนตัวอีกคนขึ้นยืนด้วยความเป็นห่วง

“ เป็นอะไรมั้ย ”

“ ผมไม่เป็นไรเเค่เสียท่าโดนมันถีบนิดหน่อยคุณตามมันไปเร็ว ”

เมื่อตรวจดูว่าอีกคนไม่มีอาการบาดเจ็บรุนเเรงร่างสูงจึงรีบวิ่งตามชายผู้ต้องสงสัยไปในทันที ฝีเท้าหนัก หยุดกึกอยู่ตรงกองขยะเมื่อรู้สึกตงิดใจ ตามสัญชาตญาณสงสัยว่ามีคนซ่อนตัวอยู่ข้างหลังขยะกองนั้น ร่างสูงยกปืนขึ้นเล็งไปยังกองขยะขนาดใหญ่ตรงหน้าพร้อมกับเพ่งสายตาไปที่ปลายกระบอกปืน

“ ออกมา ”

กระนั้นเสียงวิ่งที่ไม่เต็มเท้ากำลังเข้ามาใกล้เรียกความสนใจของสารวัตรเป็นอย่างดี เเละมันเป็นโอกาสให้คนที่แอบอยู่รีบกระโจนพรวดพราดออกมาจากที่ซ่อนอย่างรวดเร็ว เเต่ทว่าสารวัตรหนุ่มคนนี้กลับเร็วกว่า

ด้วยความสูงของคนเป็นสารวัตรทำให้วิ่งตามเพียงไม่กี่ก้าวก็เข้าถึงตัวคนร้ายก่อนที่จะจับเตะขาชายต้องสงสัยล้มกระแทกอย่างจังแล้วกดร่างนอนลงกับพื้นปูนซีเมนต์หยาบๆ

“ จะให้ความร่วมมือดีๆ หรือจะให้กูลากมึงไป ”

คนที่พึ่งวิ่งเยาะเข้ามาถึงจุดเกิดเรื่องอึ้งไปเล็กน้อยกับคำพูดหยาบคายที่ออกจากปากคนที่เขาคาดไม่ถึง น่านน้ำไม่เคยได้ยินสารวัตรพูดเเบบนี้กับใครเลยจริงๆ

...ไอ้สารเลวคนนี้มันต้องภูมิใจได้เเล้วนะที่มันได้ฟังเป็นบุญหู

หัวเข่าหนักอึ้งกดลงกลางหลังของเด็กหนุ่มที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยจนร้องครวญครางออกกมา ยอมจำนนเเต่โดยดี เเต่ถึงจะยอมให้คุมตัวไปที่สำหนักงานเเต่ผู้ชายคนนั้นกลับเอาเเต่พูดว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด

ผิดหรือไม่ผิดเดี๋ยวก็รู้กัน...

“ คุณเจ็บตรงไหน ” ฌอนได้หันไปถามดูอาการน่านน้ำหลังจากเอาตัวผู้ต้องสงสัยขึ้นรถเสร็จสรรพ

“ เเค่นี้สบาย โอ้ย! ”

ชลฌอนจิ้มนิ้วลงบนหน้าท้องอีกคนก่อนจะเผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา “ หึ ไหนบอกสบาย ”

“ เเล้วใครให้จิ้มวะ ”

“ พูดกับพี่ให้มันเพราะๆ หน่อยคุณน่านน้ำ ” เขาพูดเชิงล้อเลียน “ ให้อุ้มมั้ยครับ ”

“ กวนตีน ”

“ หึ ” ร่างสูงก้าวเข้าไปยืนเเนบข้างลำตัวคนที่ตัวเล็กกว่าเเล้วใช้เเขนช้อนหิ้วปีกอีกคนโดยไม่ให้คนปากเเจ๋วได้ตั้งตัว “ เวลาอยู่กันสองคนผมไม่ถือสาถ้าคุณจะพูดกับผมเเบบนี้ เเต่เวลาอยู่กับน้องๆ ในทีมช่วยให้เกียรติผมด้วยจะขอบใจมาก ”

“ คุณนี่มันพูดมากกว่าที่คิดนะ เเถมด่าคนร้ายเป็นด้วยเหลือจะเชื่อจริงๆ ”

ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าว่าคดีเเรกที่ได้ทำในตำเเหน่งหัวหน้าหน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษมันก็ไม่ได้เเย่ เเละน่าเบื่ออย่างที่คิด อีกทั้งชลฌอนยังรู้สึกว่าวันนี้ตัวเขากับผู้กองน่านน้ำเข้าขากันได้ดีทีเดียว ถึงเเม้ว่าตลอดการทำงานร่วมกันจะดูเหมือนไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก เเต่นั่นเป็นเพราะว่าน่านน้ำยังมีอคติกับเขาอยู่

เเต่ถ้าถึงวันนั้นที่น่านน้ำได้รู้ความจริงทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นก็ได้