เมื่อยี่สิบห้าปีที่เเล้วพ่อของสารวัตรชลฌอนเคยทำคดีฆาตกรรมต่อเนื่องได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมที่เขารับผิดชอบจนต้องถูกวิสามัญกระทั่งเขาเสียชีวิต ชลฌอนเติบโตขึ้นมาเป็นนายตำรวจ และเข้าได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าในหน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษที่อดีตลูกน้องของพ่อตนเองเป็นคนมอบหมายให้ ทำให้เขาได้มาพบกับผู้กองน่านน้ำ ลูกชายของเหยื่อที่ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของฆาตกรเมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้ว เเต่เเล้วการฆ่าที่โหดเหี้ยมของฆาตรต่อเนื่องในอดีตก็ได้กลับมาอีกครั้ง แถมยังมีคดีปริศนามากมายเกิดขึ้นไม่เว้นวันให้หน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษต้องสะสาง “จำไว้นะฆาตกรสารเลวคนนั้นมันฆ่าเเม่ผมตาย คุณมันลูกฆาตกร” “คุณมันไม่รู้อะไรผู้กอง”

ฆ่า | ซ่อน | อดีต - ตอนที่ 3 ฆ่า โดย REALPETER @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ชาย-ชาย,ดาร์ค,ไทย,ผู้กอง,ค้อน,18+,วาย,ฆ่า,สารวัตร,ตำรวจ,#BL,ดราม่า,ฆาตกรรมหักมุม,ฆาตกรรม,สืบสวนสอบสวน,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ฆ่า | ซ่อน | อดีต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ชาย-ชาย,ดาร์ค,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผู้กอง,ค้อน,18+,วาย,ฆ่า,สารวัตร,ตำรวจ,#BL,ดราม่า,ฆาตกรรมหักมุม,ฆาตกรรม,สืบสวนสอบสวน,นิยายวาย

รายละเอียด

เมื่อยี่สิบห้าปีที่เเล้วพ่อของสารวัตรชลฌอนเคยทำคดีฆาตกรรมต่อเนื่องได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมที่เขารับผิดชอบจนต้องถูกวิสามัญกระทั่งเขาเสียชีวิต ชลฌอนเติบโตขึ้นมาเป็นนายตำรวจ และเข้าได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าในหน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษที่อดีตลูกน้องของพ่อตนเองเป็นคนมอบหมายให้ ทำให้เขาได้มาพบกับผู้กองน่านน้ำ ลูกชายของเหยื่อที่ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของฆาตกรเมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้ว เเต่เเล้วการฆ่าที่โหดเหี้ยมของฆาตรต่อเนื่องในอดีตก็ได้กลับมาอีกครั้ง แถมยังมีคดีปริศนามากมายเกิดขึ้นไม่เว้นวันให้หน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษต้องสะสาง “จำไว้นะฆาตกรสารเลวคนนั้นมันฆ่าเเม่ผมตาย คุณมันลูกฆาตกร” “คุณมันไม่รู้อะไรผู้กอง”

ผู้แต่ง

REALPETER

เรื่องย่อ

สารบัญ

ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 1 ศพ,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 2 เบาะเเส,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 3 ฆ่า,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 4 บ้านของฆาตกร,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 5 คดีฆ่าเลียนเเบบ,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 6 เหยื่อ,ฆ่า | ซ่อน | อดีต-ตอนที่ 7 คดีใหญ่

เนื้อหา

ตอนที่ 3 ฆ่า

ปึก!

เล่มคดีถูกวางกระเเทกลงบนโต๊ะด้วยฝีมือผู้กองน่านน้ำ ร่างสูงโปร่งในชุดนอกเครื่องเเบบตัวเดิมตั้งเเต่หลายวันที่เเล้ว ร่างเพรียวยืนเท้าสะเอวก่อนจะพรูลมหายใจออกจากปากด้วยความโมโหสุดขีด

ผ่านไปราวสิบสองชั่วโมงได้กับการสอบปากคำที่ไม่มีคำให้การใดๆ พวกเขาพยายามเค้นให้ กร ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดีนี้พูดความจริงออกมาเเต่กลับไม่ได้อะไรที่เป็นประโยชน์

ทางด้านในของห้องสังเกตการณ์การสอบปากคำเองก็ตึงเครียดไม่ต่างกัน ก่อนหน้านี้สารวัตรชลฌอนสั่งให้ผู้หมวดเอรินเร่งมือสืบประวัติของนายกรอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง เเต่การที่จะสืบสาวราวเรื่องไปถึงอดีตตั้งเเต่ตอนที่กรยังเป็นเด็กไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่นัก เพราะเเบบนี้จึงต้องใช้เวลาในการสืบข้อมูลนานหน่อย

สารวัตรหนุ่มถอดเสื้อเเจ็คเก็ตพาดไว้บนพนักเก้าอี้ เเละกดปุ่มสวิตช์เพื่อเปิดไมค์คุยกับผู้กอง

“ ผู้กอง ”

“ สารวัตรคะ ”

ยังไม่ทันได้พูดต่อชลฌอนก็ต้องหันไปหาคนที่เรียกชื่อเขาจากทางด้านหลัง สายตาเรียบเฉยจ้องมองเเฟ้มเอกสารที่ถูกยื่นออกมาให้ตน โดยคนนั้นคือหมวดเอริน สารวัตรหนุ่มรีบรับมันมาเเล้วเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว

“ หึ ” เสียงโทนทุ้มต่ำในลำคอทำเอานายตำรวจที่อยู่รอบตัวมองไปยังเจ้าของเสียงนั้นเป็นตาเดียว

“ ผู้กองถามเรื่องเเม่ของมัน ” ชลฌอนโน้มตัวพูดใส่ไมค์

เมื่อได้รับคำสั่งจากอีกฝั่งของกระจกผู้กองน่านก็ได้ยกยิ้มขึ้นในทันที คิดว่าคนตัวสูงคงได้ข้อมูลอะไรดีๆ มาเเล้ว น่านน้ำนึกในใจ นายตำรวจยศผู้กองค่อยๆ นั่งลงที่เดิมก่อนที่จะเริ่มทำการสอบปากคำต่อ

“ เล่าเรื่องเเม่นายให้ฟังหน่อยสิ ” น่านน้ำหรี่ตามองดูพฤติกรรมที่เเปลกไปของคนตรงหน้า จากที่ก่อนหน้านี้กรดูใจเย็น ไม่มีท่าทีร้อนใจ เเต่พอได้ยินว่าผู้กองกำลังถามถึงผู้เป็นมารดาเขากลับดูกระวนกระวายอย่างสามารถมองเห็นได้ชัดเจน “ ไม่อยากเล่าสินะ งั้นฉันจะเล่าให้เเกฟังเอง ”

น่านน้ำชำเลืองตามองเอกสารที่ถูกส่งเข้ามาเพิ่มครู่หนึ่งเเล้วพูดขึ้น “ เพียงดาว คือชื่อเเม่นายสินะ หายตัวไปเมื่อห้าปีก่อน เธอทำอาชีพอะไรนะ อ่อ ขายบริการ ”

“ หยุดกูไม่อยากฟัง! ไอ่พวกเหี้ย ” กรยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหูตัวเองราวกับว่าเขาไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไป เเละไม่อยากได้ยินมันเต็มทน “ กูไม่ได้ทำอะไรผิด อีผู้หญิงพวกนั้นต่างหากที่ผิด ”

 

พ.ศ. 2547

เด็กน้อยเนื้อตัวมอมเเมมนั่งดูรายการทีวีอยู่หน้าโทรทัศน์หลังเต่าเครื่องเก่าเเก่ภายในบ้าน เด็กชายนั่งดูทีวีสลับกับประตูหน้าบ้านเป็นระยะ กรในตอนนั้นเป็นเพียงเเค่เด็กน้อยวัยห้าขวบที่เฝ้ารอคุณเเม่กลับมาบ้าน ตั้งเเต่จำความได้เขาก็อาศัยอยู่กับเเม่เเค่สองคน ส่วนคุณพ่อนั้นนะหรือ แม่บอกกับหนุ่มน้อยว่าพ่อได้ทิ้งเขากับเเม่ไปตั้งเเต่กรยังอยู่ในท้อง เเละนี่เป็นสาเหตุที่กรมักจะถูกเด็กเเถวบ้านล้อเลียนว่าเป็นลูกไม่มีพ่ออยู่เป็นประจำ

“ เเม่! ” เด็กน้อยดีดตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งไปหาผู้เป็นเเม่ที่พึ่งกลับมาถึงบ้านด้วยรอยยิ้มความดีอกดีใจ

“ โอ้ย มึงอย่ามายุ่งกับกูไอ้กร ” เพียงดาวดันหัวเล็กนั้นออกห่าง เเละเเกะเเขนลูกชายออกจากเอวคอดคล้ายคนรำคาญ “ ปล่อย กูยิ่งเหนื่อยๆ อยู่ ”

เด็กน้อยเบะปากเหมือนจะร้องไห้ “ เเม่ กรหิวข้าวครับ ”

“ หิวข้าวมึงก็ไปหาเเดกในครัวสิวะ วุ้ย! ”

ไม่เพียงเเค่ตวาดไล่ลูกชายออกไปไกลๆ หญิงสาวยังปล่อยให้เด็กน้อยยืนร้องไห้อยู่อย่างนั้น โดยที่เธอได้เดินเข้าห้องนอนของตัวเองไปเสียดื้อๆ

ไม่มีเเม้เเต่ข้าวสักจานเดียวที่ลูกชายร้องขอให้ทำให้

เพียงดาวเป็นเเบบนี้อยู่ทุกวัน เธอมักออกจากบ้านตั้งเเต่หัวค่ำเเละกลับมาบ้านอีกครั้งในเวลาดึกดื่น ทุกครั้งที่เธอออกไปทำงานหญิงสาวจะวางเงินไว้ให้ลูกชายจำนวนยี่สิบบาท เพื่อให้เด็กน้อยเอาไปซื้อขนมประทังชีวิตในเเต่ละวัน เพราะว่ากว่าคุณเเม่ของกรจะกลับเข้าบ้านอีกครั้งก็เกือบเป็นเวลาสี่ถึงห้าทุ่มเเล้ว

เเละวันนี้เพียงดาวได้กลับบ้านมาในเวลาสี่ทุ่มครึ่ง เเต่ครั้งนี้เธอไม่ได้กลับมาเพียงลำพัง ทว่าเธอได้พาใครบางคนกลับมาด้วย

“ เเม่กลับมาเเล้ว ” เด็กน้อยวิ่งไปกอดขามารดา

“ โอ้ย! ไอ้นี่หลบไป ” มือเรียวสวยถูกเเต่งเติมสีเเดงเเจ๋บนผิวเล็บผลักหัวลูกชายออกไปให้พ้นทาง

เพียงดาวกับผู้ชายมีอายุคนนั้นเดินจู๋จี๋กันเข้าไปในห้องนอน ทิ้งเวลาได้ไม่นานเสียงกุกกักก็ได้ดังเล็ดลอดออกมาให้เด็กน้อยที่นั่งดูทีวีอยู่ตรงนั้นได้ยิน เด็กน้อยจึงเดินไปที่บานประตูห้องนอนของเเม่ก่อนที่ดวงตาคู่น้อยจะส่องดูด้านในผ่านร่องประตูไม้ ณ ตอนนั้นกรเป็นเพียงเเค่เด็กผู้ชายอายุห้าขวบ ซึ่งยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่มารดากระทำกับผู้ชายที่มาด้วยกันคืออะไร เเม้จะไม่เข้าใจเเต่เด็กน้อยก็ยังยืนดูอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งทั้งสองในห้องเสร็จภารกิจเเละกำลังนอนกอดกันอยู่อย่างมีความสุข

นับตั้งเเต่วันนั้นเพียงดาวก็ได้พาผู้ชายกลับมาที่บ้านไม่ซ้ำหน้า จนเป็นขี้ปากคนในละเเวกนั้น ชาวบ้านเริ่มนินทากันไปทั่วว่าเเม่ของเด็กชายกรเป็นกะหรี่ ช่วงเวลานั้นคำว่ากะหรี่หมายถึงอะไรเด็กน้อยก็ยังไม่เข้าใจ จนวันที่กรอายุครบสิบขวบบริบูรณ์เขาถึงได้เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เพียงดาวทำคืออะไร

จากเด็กน้อยผู้ใสซื่อ เเสนดี เป็นที่รักที่เอ็นดูของเหล่าลุง ป้า น้า อา ในหมู่บ้านผ่านไปไม่นานเด็กน้อยคนนั้นก็ได้เปลี่ยนไปเป็นอีกคน

กรเฝ้าคิดเสมอว่าที่เขาเกิดมาไม่มีพ่อคอยเลี้ยงดูเป็นเพราะเพียงดาว เเม่ทำให้เขาถูกเพื่อนในโรงเรียนกลั่นเเกล้ง ทำให้เขามีชีวิตที่เเสนทุเรศในสายตาคนอื่น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นความผิดของเพียงดาวคนเดียว เเม่ผิดที่เป็นกะหรี่ ทำตัวสำส่อน ชีวิตกรถึงได้กลายเป็นเเบบนี้

 

หนึ่งอาทิตย์ก่อนพบศพนิติยา

หญิงสาวหน้าตาสะสวยรูปร่างดีใส่ชุดเดรสสีชมพูอ่อน เธอกำลังเดินเข้าไปในสถานที่ทำงานเหมือนทุกวัน เเต่ครั้งนี้เธอกลับรู้สึกเเปลกๆ เหมือนว่ากำลังมีคนเดินตามเธออยู่ตลอดเวลา นิติยาได้หยุดเดินเเล้วหันหลังกลับไปดู เเต่ภาพที่เธอเห็นเป็นเพียงผ้าสีขาวที่ยื่นมาปิดจมูกเเละปากของเธออย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ให้หญิงสาวได้ตั้งตัว เเละเเล้วในเวลาไม่ถึงสามวินาทีสายตาของเธอก็เริ่มพร่ามัวก่อนที่มันจะมืดสนิทไป

นิติยาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกทุกข์ทรมาน เธอไม่เคยได้เห็นเดือนเห็นตะวันตั้งเเต่ถูกจับตัวมา ร่างกายเพรียวผอมเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทำร้ายสารพัด ทุกครั้งหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเจ็บปวดจะมีจานอาหารวางไว้ตรงหน้าประตู เเละทุกครั้งที่เธอตัดสินใจกินข้าวจานนั้นจะมีผู้ชายสวมผ้าโพกหน้าเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับท่อนเหล็กขนาดใหญ่ในกำมือ ฟาดกระหน่ำทำร้ายเธอจนเจียนตาย ส่งผลให้ตามเนื้อตามตัวของเธอมีเเต่บาดเเผลฟกช้ำสีเขียวม่วง ครั้นจะให้อดอาหารเธอก็จะหิวตายเเทน

หญิงสาวตะเกียกตะกายพาตัวเองไปที่ประตูสังกะสีเก่าจนสนิมเขรอะ ในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ประตูบานเก่าก็ได้ถูกเปิดออกพร้อมกับเผยให้เห็นร่างชายฉกรรจ์สี่คนกำลังมุ่งหน้ามาทางเธอ หนึ่งในผู้ชายเหล่านั้นเดินเข้าไปกระชากผมยาวสลวยให้นิติยาลุกขึ้นยืนก่อนที่จะมัดมือของเธอทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ ผูกไว้กับคานไม้ด้านบน เเละทำการเตะ ต่อย เหมือนกำลังจำลองว่าเธอเป็นกระสอบทรายเพื่อระบายอารมณ์

“ อึก! โอ้ย อย่าทำอะไรฉันเลยพี่ ฮือ ปล่อยฉันไปเถอะ ”

บรรยากาศเงียบงันไปสักครู่ก่อนที่ชายฉกรรจ์เหล่านั้นจะปล่อยหัวเราะก๊ากขึ้นเสียงดังลั่นจนเธอสะดุ้ง

นิติยาปล่อยน้ำตาร้องไห้น่าเวทนา ร่างกายของเธอสั่นระริกเหมือนลูกนกเเรกเกิดด้วยความกลัวสุดขีด ทั้งชีวิตนี้เธอเจอกับผู้ชายมามากหน้าหลายตาก็จริง เเต่เธอไม่เคยถูกกระทำอย่างชั่วช้าเช่นนี้มาก่อน เธอทำผิดอะไรอย่างนั้นหรือ ทำไมผู้ชายพวกนี้ถึงได้ทำกับเธอเช่นนี้... นิติยาได้เเต่ถามตัวเองด้วยความคับเเค้นภายในใจ

“ กะหรี่เเบบมึงชอบมากไม่ใช่หรอผู้ชาย นี่ไงกูเอามันมาให้มึงเเล้ว ”

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำสีม่วงเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาสั่นรัวๆ “ ไม่นะ ไม่อย่าทำฉัน ไม่นะ อย่าเข้ามา! ”

เเสงอาทิตย์ดับลงเเละเริ่มขึ้นใหม่ครั้งเเล้วครั้งเล่า เเต่หญิงสาวยังคงถูกล่วงละเมิดทางเพศซ้ำเเล้วซ้ำเล่า ร่างกายของเธออ่อนปวกเปียกคล้ายผักที่ถูกต้มในน้ำร้อน เรี่ยวเเรงของเธอหมดไปตั้งเเต่วันเเรก น้ำตาที่เคยรินไหลนองใบหน้า ตอนนี้มันไม่เหลือน้ำให้ไหลออกมาอีกเเล้ว ไม่ว่าหญิงสาวผู้น่าสงสารจะอยากกรีดร้องเจียนตายมากเท่าไหร่ เเต่ร่างกายของเธอกลับไร้กำลังที่จะเปล่งเสียงร้องออกมา

ภาพที่ตามองเห็นมันพร่าเบลอ เธอเห็นเเค่เพียงรางๆ ว่ากำลังถูกคนคร่อมอยู่บนร่างของเธอ กับความรู้สึกเจ็บเเปลบที่ช่องคลอดอย่างหนัก

นิติยาถูกชายเหล่านั้นผลัดกันกระทำชำเรา โดยที่มีกรยืนดูอยู่ไม่ห่าง ชายหนุ่มจ้องมองร่างเล็กที่ไร้กำลังต่อต้านถูกกระเเทกกระทั้นซ้ำๆ ด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น โหดเหี้ยม

กรลุกขึ้นจากที่นั่งเเล้วเดินไปหาร่างกายที่เหมือนจะตายเเลไม่ตายเเลของนิติยา ก่อนที่เขาจะผลักไล่พวกผู้ชายหื่นกามกลุ่มนั้นออกจากตัวเธอ คนใจโฉดชั่วใช้ท่อนเหล็กที่ถืออยู่เเทงพรวดเข้าไปในช่องคลอดของหญิงสาว เเละดึงมันออกมา ทำให้เศษอวัยวะชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ติดออกมาด้วย สร้างความสยดสยองกับคนที่เห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก จนกระทั่งผู้ชายเหล่านั้นทนดูต่อไม่ไหว พากันวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

นิติยาตาเหลือกโปน อ้าปากค้าง เพราะความเจ็บปวดทรมาน ความรู้สึกเจ็บเเปลบเเล่นซ่านไปยังโสตประสาท เธออยากตายเสียตอนนี้ เเต่ร่างกายของเธอยังคงขัดขืนเเละฝืนทนเพราะลึกๆ นิติยายังมีความหวังว่าอีกไม่นานคงมีใครสักคนมาช่วยเธอออกไปจากตรงนี้ กรดึงร่างเปลือยเปล่าของนิติยาขึ้นมามัดไว้อย่างเก่าโดยไม่สนเลยว่าเธอจะเจ็บหรือไม่

“ มึงควรขอบคุณกูนะที่กูพาผู้ชายมาปนเปรอมึงก่อนที่มึงจะตาย อีกะหรี่ ”

“ อึก! ”

เลือดสีเข้ม ค่อนไปทางสีดำ ไหลลงตามหน้าขาเนียน สีเเดงฉานนองเต็มบนพื้น ณ ตอนนี้สติของเธอกำลังจะดับสิ้นไป เเต่ชายใจเหี้ยมอย่างกรไม่ได้ใจดีขนาดที่ปล่อยให้อีกคนได้ตายง่ายๆ ชายหนุ่มดึงเชือกที่เตรียมมาออกจากถุงดำ นำมารัดคอของเธอจนเกือบหมดอากาศหายใจเเล้วปล่อยออกมาเพื่อทุบตีเธอเรื่อยๆ กรทำสลับกันเเบบนี้อยู่หลายรอบโดยที่ไม่รู้เลยว่าลมหายใจของหญิงสาวอิดโรยลงเต็มที จนท้ายที่สุดนิติยาก็ได้เสียชีวิตลงในตอนที่ถูกผู้ชายที่เธอไม่เคยรู้จักกันมาก่อนอย่างนายกรใช้เชือกรัดลำคอของเธอ

 

ปัจจุบัน

ทางด้านของสารวัตรชลฌอนเเละเพื่อนร่วมทีมบางส่วนได้เเยกตัวออกมาจากการสอบปากคำ หน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษกับหน่วยพิสูจน์หลักฐานบุกเข้าค้นบ้านพักของนายกรทันทีที่ได้รับการอนุญาตจากผู้ใหญ่

สารวัตรยืนกวาดตามองรอบๆ “ ค้นให้ทั่ว ”

“ ครับ ”

“ หมวดเอรินช่วยดูคอมนั้นที ” สารวัตรชี้ไปยังคอมตั้งโต๊ะตรงมุมห้อง

“ ได้ค่ะสารวัตร ” เอรินตอบ

ร่างสูงสาดสายตามองไปทั่วห้องก่อนที่เขาจะสะดุดตากับของบางอย่าง นายตำรวจหนุ่มเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เพื่อความเเน่ใจ เเละภาพตรงหน้าก็ปรากฎให้เขาได้รู้ว่านายกรเป็นฆาตกรต่อเนื่องอย่างเเน่นอน

ภาพถ่ายใบเก่า ซึ่งในภาพมีหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดูดีกำลังอุ้มเด็กผู้ชายอายุอานามประมานสี่ขวบ ถ้าเป็นคนอื่นอาจมองว่ามันเป็นภาพครอบครัวธรรมดาทั่วไปถ้าบนภาพใบนั้นไม่มีรอยปากกาขีดเขียนบนใบหน้าของผู้หญิงในรูป จนกระดาษภาพใบนี้กลายเป็นขุยฉีกขาด มองไม่ออกเลยว่าคนในรูปคือใครกันเเน่

มือหนาดึงภาพถ่ายตรงหน้าออกมาดูก่อนจะกระตุกมุมปากขึ้นคล้ายรอยยิ้มเล็กน้อย

“ ไอ้ชาติชั่วเอ้ย ”

ชลฌอนจิกเล็บลงบนภาพถ่ายเป็นการระบายอารมณ์ เขาได้ยื่นภาพใบนั้นให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานเอาไปจัดการต่อ

“ สารวัตรมาดูนี่สิคะ ” หมวดเอรินหันไปเรียกหัวหน้าหน่วยให้มาดูสิ่งที่ค้นหาเธอเจอหมาดๆ “ นี่มันดาร์กเว็บค่ะ ”

“ เปิดดูซิ ”

“ นี่คือเเอ็กเค้าต์ของกร เเละก็พวกวิดีโอเหล่านี้ก็ถูกอัปโหลดจากเเอ็กเอ้าต์นี้ สารวัตรนี่ใช่คุณนิติยาใช่มั้ย ”

ตำรวจสาวยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเเทบจะทันทีเหมือนเห็นวิดีโอการถูกทารุณกรรมของเหยื่อทั้งหลาย เธอทั้งสงสารเหยื่อ เเละโกรธชายสารเลวคนนี้จนอยากจับมันเข้าคุกเสียเดี๋ยวนี้

“ คุณรินผมดูต่อเองคุณออกไปรอข้างนอกก่อน ”

เมื่อสารวัตรเห็นว่าหมวดเอรินมีอาการไม่สู้ดีนักจึงได้บอกให้อีกคนออกไปสูดอากาศเเละรออยู่ข้างนอกเเทน ส่วนทางนี้ชลฌอนบอกจะจัดการต่อเอง ร่างสูงเข้าใจความรู้สึกที่เอรินเป็นอยู่ตอนนี้ดี การเห็นผู้หญิงด้วยกันถูกทำร้ายทารุณอย่างโหดเหี้ยมเช่นนั้นมันเลวร้ายต่อจิตใจมากจริงๆ

หลังจากรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเสร็จสิ้น สารวัตรหนุ่มจึงเดินออกมาตามลูกน้องพร้อมกับขวดน้ำดื่มเย็นๆ ในมือยื่นให้เธอ

“ คุณโอเคมั้ย ”

หมวดเอรินพยักหน้า “ ดีขึ้นเเล้วค่ะสารวัตร เเล้วสรวัตรล่ะคะ ”

“ ผมทำไมหรอครับ ”

“ ก็เรื่องของสารวัตรกับพี่น่าน ฉันดูออกนะคะว่าคุณสองคนไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ ” เอรินเงยหน้ามองชลฌอนเล็กน้อย “ เรื่องพ่อสารวัตร เอ่อฉันขอโทษนะคะที่สืบโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน ”

“ หึ ผมเข้าใจถ้าขอก่อนคงไม่เรียกว่าสืบสิใช่ไหม คุณคงอยากรู้สาเหตุที่น่านน้ำไม่ชอบผม ” ชายหนุ่มเอ่ยตอบพลางยกขวดน้ำขึ้นดื่มเพื่อดับกระหาย

“ ให้ฉันช่วยนะคะสารวัตร ” เสียงใสเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง

“ เรื่องนี้มันอันตรายเกินไปผมไม่อยากให้ใครต้องเข้ามาเสี่ยงด้วย ”

“ ฉันคือลูกของหมวดสันติที่เคยเป็นลูกน้องของพ่อคุณ ” หมวดเอรินกะว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับเเละตามสืบอย่างเงียบๆ เเต่สุดท้ายเธอก็ต้องยอมพูดมันออกมาเอง เพื่อไขปมเรื่องพ่อของเธอที่ตายระหว่างปฏิบัติงาน “ ฉันอยากช่วยตัวของฉันเองด้วยค่ะสารวัตร ”

ชลฌอนที่ได้ยินดังนั้นกลับนิ่งเงียบไปพักใหญ่ เขารู้ว่าหมวดเอรินคิดจะทำอะไรซึ่งการที่เธอจะทำเเบบนั้นมันอันตรายเกินกว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงจะรับไหว

เเละถ้าเขายอมทำตามที่เธอขออาจเป็นเขาเองที่จะกลายเป็นคนเสียใจในภายหลัง

“ คงไม่ได้หรอกครับ ”

ชลฌอนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา เเล้วเขาก็ได้เดินออกไปปล่อยให้เอรินยืนอึ้งกับคำตอบที่ได้ยินจากปากสารวัตรอยู่ตรงนั้น

ในห้องสืบสวนตอนนี้มีเพียงกรที่นั่งอยู่ เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ต้องถูกปล่อยตัวเนื่องจากไม่มีหลักฐานมากเพียงพอ คลิปวิดีโอที่เขาปรากฎอยู่นั้น กรให้คำเเก้ต่างว่าตนเองเข้าไปตรวจสอบห้องพักตามที่นิติยาสั่งเอาไว้ ซึ่งมันเป็นการพูดเพียงฝั่งเดียวโดยที่นิติยาไม่สามารถฟื้นกลับมาพูดความจริงได้เเล้ว จึงใช้มาเป็นหลักฐานได้ไม่ดีพอ

น่านน้ำนั่งเคาะนิ้วลงบนโต๊ะจ้องมองนายกรที่กำลังนั่งฮัมเพลงอย่างสบายใจราวกับมั่นใจว่าทางตำรวจไม่มีหลักฐานมาเอาผิดตนเองได้

เพียงไม่นานประตูห้องสอบสวนก็ถูกเปิดเข้าไป ตามด้วยร่างชายหนุ่มนอกเครื่องเเบบของสารวัตรชลฌอน ผู้กองน่านน้ำที่เห็นอย่างนั้นรีบผละตัวนั่งหลังตรงรอฟังการสอบสวนจากด้านในทันที

สีหน้าเเบบนั้นเเสดงว่าอีกคนได้หลักฐานมาเเล้วเเน่นอน ถือว่าใช้ได้กับการทำคดีเเรกในตำเเหน่งหัวหน้าหน่วย... ผู้กองหนุ่มลอบยิ้มมุมปาก

“ นายไม่ยอมพูดสินะ เอาเป็นว่าฉันขอพูดก่อนล่ะกัน ”

“ เหอะ ” กรยกยิ้มอย่างยียวน

สารวัตรกระตุกยิ้มมุมปาก มือหนาวางรูปถ่ายสองใบลงบนโต๊ะให้คนตรงหน้าดูให้เต็มตา “ นางสาวเพียงดาวคนนี้คือเเม่นายเเละนี่คือนายตอนสี่ขวบ ส่วนคนนี้คือคุณมายด์อดีตเเฟนสาวของนาย ซึ่งทั้งสองคนนี้เสียชีวิตไปเเล้วด้วยสาเหตุคล้ายๆ กัน ”

กรนิ่งไปสักพักกับสิ่งที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะสอบปากคำ สารวัตรหนุ่มเห็นว่าชายตรงหน้ามีอาการเปลี่ยนไปเล็กน้อยเขาจึงพูดต่อ

“ ตอนนายเด็กๆ เเม่นายออกไปทำงานเเละพาผู้ชายกับมาที่บ้านไม่ซ้ำหน้า นายคงคิดว่าเเม่นายเป็นคนทำให้ชีวิตนายห่วยเเตกเเบบนี้ เเต่จริงๆ มันไม่ใช่เลย นายต่างหากที่ทำให้ชีวิตตัวเองต่ำลงเรื่อยๆ ถึงตอนนี้นายไม่ต้องยอมรับข้อกล่าวหาก็ได้ ” ชลฌอนวางภาพถ่ายเป็นปึกๆ ลงบนโต๊ะ “ เพราะกูเอามึงเข้าคุกได้สบาย ”

กรตาเบิกโพลงตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่ถูกปาทิ้งไว้ตรงหน้า คนกระทำความผิดกรีดร้องสุดเสียงคล้ายคนบ้าขาดสติ เเถมยังตะโกนด่า สบถคำหยาบคายออกมาสารพัดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนที่เขาจะถูกจับกุมตัวออกจากห้องไป

หลังจากยืนดูคนร้ายถูกลากออกไปเรียบร้อย ชลฌอนจึงเดินออกมาจากห้องสอบปากเเละเห็นผู้กองหนุ่มยืนรออยู่หน้าประตูก่อนเเล้ว คนตัวสูงจึงได้เข้าไปมองใบหน้าเย่อหยิ่งเชิงคำถามว่าอีกคนมีอะไรจะคุยกับเขาหรือเปล่า

“ มองหน้าผมเเบบนี้หมายความว่ายังไงผู้กอง ”

ไม่ใช่เเค่ไม่ได้คำตอบ เเต่ยังโดนสะบัดหน้าใส่เเบบนี้มันหมายความว่ายังไงกันเเน่ล่ะ คนมียศเป็นสารวัตรเองก็ยังไม่เข้าใจ

คดีถูกปิดลงอย่างสมบูรณ์ นายกรได้รับโทษตามกฎหมาย ทางตำรวจรวบรวมเหยื่อในคดีครั้งนี้ได้ทั้งหมดสี่คน ตามคลิปวิดีโอที่ถูกนายกรอัปโหลดลงเเว็บไซต์ เหยื่อรายเเรกคือนางสาวเพียงดาวเเม่ของนายกรผู้ก่อเหตุ เหยื่อรายที่สองคือนางสาวมาริดาหรือมายด์อดีตเเฟนสาวของนายกร เเละเหยื่อรายที่สามกับสี่คือคุณรุ่งธิดาเเละคุณนิติยา ทั้งเพียงดาว รุ่งธิดา เเละนิติยาประกอบอาชีพเดียวกันคือสาวขายบริการ ต่างจากมาริดาผู้ที่เป็นอดีตเเฟนสาว หลังจากที่สืบสวนอย่างละเอียดจึงทราบว่านายกรกับมาริดามักมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้งในเรื่องเรื่องชู้สาว

“ เห้อ ปิดคดีได้สักทีนะครับ ” พูดจบพายุก็ทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้

“ ต้องขอบใจสารวัตรเลยนะที่อ่านความคิดไอ้กรออก ” หมวดกันว่าเสริม

“ หึ ก็ต้องอ่านออกอยู่เเล้วสิได้มาจากสายเลือดขนาดนั้น ”

ประโยคสุดท้ายคือผู้กองน่านน้ำที่พูดออกมา ซึ่งชลฌอนเข้าใจสิ่งที่อีกคนกำลังจะสื่อเป็นอย่างดี เเววตาเรียบเฉยสบตากันอยู่พักใหญ่ก่อนที่คนตัวสูงจะเป็นฝ่ายยอมถอยทัพ หลบสายตาหนี

เเน่นอนว่าน่านน้ำต้องหัวเราะเยาะเย้ยคนตรงหน้า เเต่ชลฌอนเองไม่ได้นึกถือสากับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เขาจึงได้ปล่อยผ่านมันไปเฉยๆ โดยไม่ได้โต้ตอบใดๆ

“ เอ่อ พี่วันนี้เราปิดคดีได้เเล้ว งั้นไปฉลองกันปะถือว่าเป็นโอกาสต้อนรับหัวหน้าด้วยไง ” หมวดกันพูดขึ้นทำลายความมาคุระหว่างพี่ชายทั้งสองทิ้ง

“ เออ ก็ดีนะเหนื่อยมาหลายวันเเล้ว อีกอย่างเรายังไม่ได้เลี้ยงต้อนรับหัวหน้าเลย ” จ่าพายุสนับสนุน

“ เห็นด้วยที่สุด ” ผู้หมวดสาวว่าเสริม

พายุกับกันยืนกอดคอพูดเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ก่อนที่สาวสวยที่สุดในหน่วยจะสนับสนุนเสริมทัพเข้าไปอีกจนสารวัตรอย่างชลฌอนต้องจำใจยอมทำตามคำที่ลูกน้องขอ

“ โอเค เอางั้นก็ได้ ” ร่างสูงตอบเสียงเรียบ

“ ว่าเเต่ร้านไหนดีละพี่น่าน ร้านเดิมของเราดีมั้ย ” กันหันไปขอความคิดเห็นจากรุ่นพี่

“ ไปร้านทำไมล่ะ ไปบ้านสารวัตรเลยดีกว่าจะได้รู้จักกันมากขึ้น ดีมั้ย ”

ประโยคคำถามสุดท้ายน่านน้ำได้หันไปหาคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง คนตัวบางยกยิ้มอย่างยียวนเพื่อหวังให้ชลฌอนไม่พอใจ เเต่น่านน้ำไม่รู้เลยว่าคนร่างสูงไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องที่จะไปบ้านของตน ดีเสียอีกเพราะชลฌอนก็อยากให้น่านน้ำได้รู้จักเขามากขึ้นกว่านี้เช่นกัน

“ เอางั้นก็ได้ ” สารวัตรตอบยิ้มๆ “ งั้นเดี๋ยวผมส่งโลเคชั่นให้เเล้วเจอกันที่บ้านผมนะ เอาล่ะทุกคนวันนี้ทำดีมากกลับไปอาบน้ำเเต่งตัวสบายๆ เเล้วมานั่งฉลองกันนะ ”

“ ครับ / ค่ะ ”

ชลฌอนเดินออกจากสำนักงานเพื่อที่จะไปขึ้นรถยนต์ส่วนตัวกลับบ้าน เเต่เมื่อประตูรถฝั่งคนขับถูกปิดลงเขาก็ต้องหันไปมองตรงเบาะที่นั่งข้างๆ ซึ่งมีผู้ชายตัวสูงโปร่งใส่ชุดนอกเครื่องเเบบกระโดดขึ้นมานั่งบนรถกับเขาโดยที่ยังได้ขออนุญาต

ใบหน้าคมเข้มหันไปเอียงคอมองคนข้างๆ ด้วยความสงสัยที่จู่ๆ อีกคนก็พรวดพราดเข้ามา

“ คุณไม่กลับบ้านรึไง ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม

“ ไหนๆ ก็จะไปฉลองที่บ้านคุณเเล้ว ก็ไปเลยดีกว่า ” คนตัวเล็กกว่านั่งกอดอกเชิดหน้า

“ เเล้วรถคุณล่ะ ”

น่านน้ำชำเลืองตาไปมองยังรถยนต์ของตัวเอง “ เอาไว้นี่ไง ถามมากจังหรือว่าไม่กล้าให้ผมติดรถไปด้วย ”

“ หึ ” ชลฌอนยกยิ้มก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปดึงเข็มขัดนิรภัยคาดให้ ก่อนจะกระซิบคนข้างๆ ต่อว่า “ คุณมีอะไรให้ผมต้องกลัวไม่ทราบ ”

ผู้กองหนุ่มสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ รีบหันหน้าไปหาอีกคนหวังจะด่า เเต่ไม่ทันไรใบหน้าของเขาก็เกือบจะสัมผัสกับเนื้อเเก้มของชลฌอน ยังดีที่เขาดึงหน้ากลับมาได้ทัน ร่างสูงเลิกคิ้วมองคนเสียอาการครู่หนึ่งเเละได้ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาผ่านลำคอ

“ ผมหล่อมากจนคุณไม่กล้าสู้หน้าเลยหรอผู้กอง ” ร่างสูงว่าปนกลั้นขำ

น่านน้ำตวัดมองอีกคนด้วยหางตา “ หน้าอย่างกับผีดิบยังจะกล้าชมตัวเอง ”

“ ผมเหมือนผีดิบตรงไหนไม่ทราบ ” ชลฌอนเอียงตัวไปถาม

“ ตัวขาวซีดอย่างกับผีดิบ จมูกก็โด่งเหมือนเเม่มด คิ้วก็หนาเป็นปลิง ตัวก็สูงอย่างกับเสาไฟฟ้า เเถมยังตัวใหญ่เหมือนคิงคอง ”

คนตัวสูงนิ่วหน้า นั่งฟังด้วยความรู้สึกกลั้นขำ เขาไม่คิดว่าน่านน้ำจะจริงจังขนาดนี้ ทั้งพูดเเละทำท่าทำทางไปด้วย ยิ่งมองชลฌอนก็ยิ่งนึกเอ็นดู

น่านน้ำหุบปากลงฉับ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดออกมาทั้งหมดเพราะกำลังโดนอีกคนพยายามเเกล้ง เปลือกตาสีเนียนปิดลงชั่วครู่ ก่อนจะรวบรวมสติกลับมานั่งหลังตรงอีกครั้ง

“ ที่คุณว่ามามันเข้าเกณฑ์หนุ่มหล่อเลยนิ ”

คนที่ได้เเกล้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงมีความสุขจนเก็บไม่มิด หลังจากนั้นเขาก็ได้ขับรถออกจากที่ทำงานโดยที่มีหุ่นยนต์ระบบพังนั่งมาข้างๆ ตลอดทาง

ที่ต้องเรียกว่าหุ่นยนต์เพราะน่านน้ำไม่ขยับเขยื้อน หรือพูดอะไรเลยเหมือนคนออกเเบบลืมใส่ระบบโต้ตอบมาให้ด้วย นิ่งเงียบตั้งเเต่สตาร์ทรถ

รถของสารวัตรชลฌอนได้เลี้ยวเข้ามาจอดอยู่ในลาดจอดรถหน้าบ้าน ชายหนุ่มทั้งสองคนช่วยกันขนข้าวของที่เเวะซื้อมาเพื่อเฉลิมฉลองในคืนนี้เข้าไปภายในบ้าน บ้านของชลฌอนไม่ได้หลังใหญ่มาก เเต่ก็ใหญ่โตเกินไปสำหรับชายโสด ที่อยู่ตัวคนเดียวเเบบเขา

ร่างหนาเเย่งถุงอาหารสดออกจากมือบาง “ คุณไปนั่งรอเถอะเดี๋ยวผมทำอาหารรอเด็กๆ เอง ”

“ เอางั้นก็ได้ ”

เมื่อเห็นว่าน่านน้ำเดินเข้าไปนั่งรอหน้าทีวีอย่างว่าง่าย ชลฌอนจึงได้กลับมาสนใจเรื่องการทำอาหาร ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงกว่า ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มตรงเเละอาหารที่เจ้าของบ้านตั้งใจทำต้อนรับเเขกก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ชลฌอนชะเง้อคอดูคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟาเล็กน้อย

กว่าทุกคนจะมากันพร้อมหน้าร่างสูงคิดว่าเขาควรขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อยคงจะดีเพราะตั้งเเต่ทำคดีของนิติยามาเขาก็ไม่ได้อาบน้ำอย่างจริงๆ จังๆ สักครั้ง ชลฌอนล้างเนื้อล้างตัวเสร็จก็ได้เดินกลับลงมาข้างล่างอีกครั้ง ก่อนจะเห็นว่าผู้กองน่านน้ำตื่นมานั่งมองตนเองตั้งเเต่ตอนไหนไม่ทราบ

ร่างสูงมองใบหน้างัวเงียผมเผ้าชี้โด่ชี้เด่เหมือนเด็กน้อยก็ได้เเต่กลั้นขำในใจ

“ คุณจะอาบน้ำหน่อยไหมผู้กอง ”

“ อืม ”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการสะลึมสะลือหลังตื่นนอน หรือเป็นเพราะว่าน่านน้ำลืมไปว่าตัวเองกำลังอยู่ในบ้านคนที่ฆ่าเเม่ตนเอง เรียวขายาวได้เดินขึ้นไปบนบ้านเพื่ออาบน้ำตามที่อีกฝ่ายบอก

ทว่าเเทนที่น่านน้ำควรจะเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างตัว เเต่เขากลับเดินตรงเข้าไปอีกห้อง ซึ่งห้องนั้นคือห้องทำงานของพ่อสารวัตรชลฌอน

น่านน้ำลุกลี้ลุกลนหาสิ่งของบางอย่างด้วยความเร่งรีบ มือบางรื้อหาจนเเทบจะทั่วห้องเเต่กลับไม่เจออะไรที่พอจะนำมาเป็นหลักฐานให้เขาพิสูจน์ได้ เเละในจังหวะที่เขากำลังเขย่งเท้าเเวกดูตามหนังสือที่อยู่บนชั้นเหนือหัวเขาก็เกิดเสียหลัก เสียการทรงตัวจนทำให้เซไปชนเข้ากับตู้นาฬิกา

เมื่อสวิตช์ถูกกดอย่างไม่ได้ตั้งใจ ตู้นาฬิกาบานใหญ่ก็ได้เคลื่อนตัวเข้าไปในกำเเพง เผยให้เห็นช่องลิฟต์ขนาดสองคนเข้าได้ที่ใช้เป็นพาหนะลงไปยังชั้นล่าง ซึ่งชั้นล่างไม่ใช่ห้องที่เห็นภายในบ้านหลังนี้อย่างเเน่นอน

น่านน้ำกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดสิ้นใจก้าวเท้าเดินหน้าเข้าไปดูด้านใน เเต่ในเสี้ยววินาทีนั้นตัวของเขากลับถูกใครบางคนคว้าหมับเข้าที่เอวเเละเหวี่ยงร่างบางออกจนขาของเขาเเทบจะลอยขึ้นเหนือพื้น

“ คุณเข้ามาทำอะไรในนี้น่านน้ำ ”