เมื่อยี่สิบห้าปีที่เเล้วพ่อของสารวัตรชลฌอนเคยทำคดีฆาตกรรมต่อเนื่องได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมที่เขารับผิดชอบจนต้องถูกวิสามัญกระทั่งเขาเสียชีวิต ชลฌอนเติบโตขึ้นมาเป็นนายตำรวจ และเข้าได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าในหน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษที่อดีตลูกน้องของพ่อตนเองเป็นคนมอบหมายให้ ทำให้เขาได้มาพบกับผู้กองน่านน้ำ ลูกชายของเหยื่อที่ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของฆาตกรเมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้ว เเต่เเล้วการฆ่าที่โหดเหี้ยมของฆาตรต่อเนื่องในอดีตก็ได้กลับมาอีกครั้ง แถมยังมีคดีปริศนามากมายเกิดขึ้นไม่เว้นวันให้หน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษต้องสะสาง “จำไว้นะฆาตกรสารเลวคนนั้นมันฆ่าเเม่ผมตาย คุณมันลูกฆาตกร” “คุณมันไม่รู้อะไรผู้กอง”
สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ชาย-ชาย,ดาร์ค,ไทย,ผู้กอง,ค้อน,18+,วาย,ฆ่า,สารวัตร,ตำรวจ,#BL,ดราม่า,ฆาตกรรมหักมุม,ฆาตกรรม,สืบสวนสอบสวน,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฆ่า | ซ่อน | อดีตเมื่อยี่สิบห้าปีที่เเล้วพ่อของสารวัตรชลฌอนเคยทำคดีฆาตกรรมต่อเนื่องได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมที่เขารับผิดชอบจนต้องถูกวิสามัญกระทั่งเขาเสียชีวิต ชลฌอนเติบโตขึ้นมาเป็นนายตำรวจ และเข้าได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าในหน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษที่อดีตลูกน้องของพ่อตนเองเป็นคนมอบหมายให้ ทำให้เขาได้มาพบกับผู้กองน่านน้ำ ลูกชายของเหยื่อที่ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของฆาตกรเมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้ว เเต่เเล้วการฆ่าที่โหดเหี้ยมของฆาตรต่อเนื่องในอดีตก็ได้กลับมาอีกครั้ง แถมยังมีคดีปริศนามากมายเกิดขึ้นไม่เว้นวันให้หน่วยสืบสวนอาชญากรรมพิเศษต้องสะสาง “จำไว้นะฆาตกรสารเลวคนนั้นมันฆ่าเเม่ผมตาย คุณมันลูกฆาตกร” “คุณมันไม่รู้อะไรผู้กอง”
ชลฌอนเดินเข้าไปประคองร่างเล็กไว้ในอ้อมเเขน ใบหน้าเรียบเนียนของคนโดนวางยาขึ้นริ้วสีเเดงระเรื่อ พยายามมุดเข้ากับหน้าอกกว้างเหมือนเด็กที่กำลังออดอ้อน คนตัวบางไม่สามารถควบคุมการกระทำของตนเองได้เลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ผู้กองหนุ่มรู้สึกร้อนระอุไปทั่วทั้งตัว อยากถอดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ทิ้งออกจากตัวไปให้หมด ยิ่งเวลาที่ถูกฝ่ามือใหญ่เตะต้อง ร่างกายดิ้นพร่าก็ยิ่งสะดุ้งและรอรับสัมผัสวาบวาม
“ สารวัตร ” ผู้กองน่านน้ำกำเสื้ออีกคนเอาไว้เเน่นพยายามรวบรวมสติที่เหลืออยู่น้อยนิดนั้นขอความช่วยเหลือหัวหน้าหน่วย “ ผมร้อนช่วยด้วย ชลฌอนได้โปรด ”
ฝ่ามือใหญ่กอบกุมใบหน้าร้อนผาวเอาไว้ก่อนที่เขาจะส่งสัญญาณให้ลูกน้องผ่านหูฟัง เพื่อเข้ามาจบภารกิจนี้สักที
“ กันเข้ามาได้อย่าให้คนเเตกตื่นเอาตำรวจมาสามนายก็พอ สั่งคนเอารถมารับพวกผมด้วย ”
“ พี่น่านเป็นอะไรมั้ยสารวัตร ” หมวดกันถามเเทรกขึ้น
“ ผู้กองไม่เป็นอะไร ”
“ รถไปใกล้ถึงเเล้วครับสารวัตร ” พายุบอกกับหัวหน้าผ่านไมค์
หลังจากที่รู้ว่ารถยนต์ของหน่วยงานกำลังเข้ามาจอดตรงหลังคลับ ร่างสูงจึงรีบช้อนเเขนเข้าใต้ขาพับเพื่ออุ้มอีกคนขึ้นเเล้วพาผู้กองน่านน้ำไปที่รถในทันที
“ น่านน้ำอดทนหน่อย ”
ชลฌอนตบหน้าคนตัวเล็กกว่าเบาๆ เพื่อเรียกสติ ไม่ว่าจะพยายามเเกะมือบางออกจากการบีบขยำหน้าอกมากขนาดไหนอีกคนก็ยังคงดื้อซนทำเเบบนั้นอยู่ซ้ำๆ หลังจากที่ชายหนุ่มร่างสูงพาน่านน้ำขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว สารวัตรไม่ลืมที่จะออกคำสั่งกับนายตำรวจผู้เป็นขับรถมารับให้ลงไปจัดการกับไพรัตน์ในคลับช่วยหมวดกันอีกแรง
“ อื้อ ฌอนผมไม่ไหว ”
ปากบางขบเม้มเพื่ออดกลั้นอารมณ์ เเต่มือกลับเร่งถอดเสื้อสูตรเเละไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเองออกจนหมดเเผง ก่อนที่ร่างเล็กจะนั่งเอนหลังลงพิงกับเบาะตัวกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจหอบถี่ของตนเอง โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันยิ่งทำให้คนที่มองอยู่ข้างๆ เริ่มทำตัวไปไม่เป็น ลำคอหนากลืนน้ำลายลงท้องคำโต คว้าหยิบขวดน้ำดื่มข้างประตูรถมาเทราดศีรษะของคนตรงหน้า หวังว่ามันจะทำให้อีกคนอาการดีขึ้นบ้าง เเต่กลับเป็นตัวของเขาเองที่เริ่มมีอาการเเย่ยิ่งกว่า หลังจากได้เห็นเสื้อเชิ้ตที่ร่างบางสวมใส่เเนบติดเนื้อจากการเปียกน้ำ
“ หมวดกัน จ่าพายุ จัดการที่นี่ให้เรียบร้อยผมต้องพาน่านน้ำไปโรงพยาบาล ”
“ ครับสารวัตร ”
สิ้นเสียงคำสั่งหูฟังก็ได้ถูกดึงออกจากตัวเเละโยนมันทิ้งไปอยู่เบาะหลัง หลังจากนั้นรถยนต์จึงรีบเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
ช่างเป็นการขับรถไปโรงพยาบาลที่ฝืนทนที่สุดเท่าที่ชลฌอนเคยเป็นมา ทุกครั้งที่เขาหันไปสำรวจดูอาการของคนข้างๆ มักจะมีสายตาหยาดเยิ้มเว้าวอนจากอีกฝ่ายกลับมาเสมอ เเต่ทว่าจะให้ชลฌอนกระทำเรื่องอย่างว่าเเค่หวังให้น่านน้ำรู้สึกดีขึ้นเขาคิดว่ามันคงจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่
อาการที่น่านน้ำเป็นอยู่เช่นนี้เพราะถูกวางยาปลุกเซ็กส์ ซึ่งเเน่นอนว่าผลข้างเคียงของยาจะทำให้อีกคนมีอารมณ์ทางเพศมากขึ้นจนผิดปกติ เเละความจำอาจหายไปชั่วขณะที่ยาออกฤทธิ์ ที่สำคัญผลเสียของยาชนิดนี้อาจเป็นอันตรายกว่าที่ร่างสูงคิด ดังนั้นเขาคิดว่าควรพาน่านน้ำไปพบเเพทย์ให้เร็วที่สุดถึงจะดีที่สุด
“ ฌอน ”
เจ้าของชื่อนั่งเกร็ง ตัวตั้งตรง ร่างหนาไม่กล้าหันไปสบตาอีกคนด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่าตัวเองจะพลั้งพลาดทำอะไรไม่ดีกับผู้กองน่านน้ำลงไป
เเต่ใช่ว่าคนตัวบางจะคิดเช่นเดียวกัน มือเล็กทำการปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยออกก่อนจะมุดเข้าไปใต้วงเเขนของคนตัวสูง หวังจะข้ามไปนั่งบนตัก เเละในช่วงจังหวะนั้นรถยนต์จึงได้ส่ายเสียหลักบนถนนเล็กน้อย โชคดีที่ชลฌอนกลับมาควบคุมรถได้ทัน
ชายหนุ่มร่างสูงเสยผมหน้าม้าเปียกชุ่มที่ปรกลงมาบังดวงตาของน่านน้ำขึ้น ดวงตาวาวประกายปานลูกกวางชื้นน้ำตาสั่นไหวไม่ยอมหยุด ขณะนั้นเองร่างเล็กก็สามารถมุดเข้ามาได้ครึ่งตัวเเล้ว ชลฌอนจึงตัดสินใจปรับเบาะให้เคลื่อนไปข้างหลังเพื่อให้ร่างบางได้เข้ามานั่งบนตักได้สะดวก
ถ้าหากเขายังขืนห้ามคนดื้ออย่างผู้กองน่านน้ำอยู่แบบนั้นมีหวังรถยนต์ได้พลิกคว่ำบนถนนกันพอดี
“ นั่งดีๆ อย่าดื้อ ” ชลฌอนเอ่ยเสียงดุเมื่อคนบนตักพยายามซุกไซ้ไปตามซอกคอจนทำให้เขาเสียสมาธิในการขับรถ
ปากเล็กเบะคล้ายเด็กขี้งอน “ จูบน่านหน่อยได้มั้ย ”
ไม่รอคำตอบจากคนใต้ร่าง ริมฝีปากร้อนปานเปลวไฟก็ได้กดจูบลงเนื้อปากหนาของชลฌอนในทันที เสี้ยววินาทีนั้นร่างสูงจึงจำเป็นต้องเบรกรถกระทันหันอยู่กลางถนน โชคยังดีที่ไม่มีรถตามหลังมา ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงโดนชนท้ายไปเเล้ว
ฝ่ามืออุ่นประคองใบหน้าเล็กให้ผละจูบออก ร่างสูงเลิกคิ้วมองสีหน้าเง้างอเพราะถูกขัดใจอย่างนึกเอ็นดู ไม่ว่าจะพยายามอดกลั้นมากขนาดไหนเเต่การถูกปลุกปล้ำอยู่ตลอดเวลา เริ่มทำลายกำเเพงของร่างสูงลงเรื่อยๆ เพียงชั่วลมหายใจท้ายทอยเล็กก็ถูกรั้งเข้ามามอบจูบเร้าร้อนอีกครั้ง เปลือกตาเนียนของน่านน้ำค่อยๆ หลับตาลงอัตโนมัติ หลังจากนั้นไม่ถึงวินาทีเรียวลิ้นเล็กได้พยายามกวาดเลียรอบนอกริมฝีปากหนา อ้อนวอนให้ชลฌอนเปิดรับสัมผัสวาบวามของตน เเต่คนตัวสูงกลับไม่ยอมให้เเต่โดยดี
“ อื้ม ”
เสียงครางผ่านลำคอของคนดื้อดังเข้าไปในโสตประสาท ทำการกัดเซาะความอดทนอดกลั้นของชายหนุ่มให้มลายลงเสมือนก้อนน้ำตาลที่กำลังระเหย
“ อย่า ”
พูดยังไม่ทันเต็มประโยคโพรงปากใหญ่ก็ถูกจาบจ้วงเข้ามาไม่ให้ตั้งตัว น่านน้ำในตอนนี้ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ปากบางพยายามป้อนความหวานส่งให้ไม่หยุด จนความอดทนของชลฌอนพังลงในชั่วอึดใจ ฝ่ามือใหญ่ของเขาอยู่ไม่นิ่งอีกต่อไป ก่อนจะยกขึ้นนวดคลึงก้นกลมที่ขยับบดบี้อยู่กลางเป้ากางเกง จนสิ่งชูชันทั้งสองลำเสียดสีกันขึ้นลงผ่านเนื้อกางเกงสเเล็ค
สารวัตรสอดมือเข้าใต้ชายเสื้อเชิ้ตที่เปียกหมาด ก่อนเขาจะเริ่มออกแรงบีบเค้นบั้นเอวบางอย่างอดไม่ได้ ขณะที่ริมฝีปากก็ยังพรมจูบดูดลิ้นเล็กไม่ยอมผ่อนเเรงจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบลามกขึ้นภายในรถเป็นช่วงๆ
ปี้น!
ร่างสูงสะดุ้งโหย่งคืนสติ ทันทีที่ถูกรถยนต์คันนั้นขับผ่านมาเเละบีบเเตรไล่ ชลฌอนจึงค่อยๆ ดันคนตัวเล็กกว่าออกมามองหน้ากันครู่หนึ่ง เเล้วเคลื่อนรถเข้าจอดข้างทางในทันที
“ ถ้าจำได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปจะไม่อกเเตกตายใช่มั้ยผู้กอง ”
ชลฌอนอุ้มคนไร้สติกลับไปนั่งที่เบาะข้างคนขับอีกรอบ ก่อนที่เขาเอื้อมมือไปล็อคเข็มขัดนิรภัยให้คนเป็นผู้กองพร้อมกับอารมณ์ค้างคาตรงส่วนล่าง เเละจังหวะนั้นเองเขาถึงได้รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้อารมณ์ทางเพศของร่างบางสงบลง เพราะอีกคนได้เสร็จคากางเกงจนความชื้นเเฉะซึมออกข้างนอกเป็นวงไปเสียเเล้ว
คนตัวสูงโน้มตัวไปคว้ากระดาษทิชชูมาเช็คคราบน้ำเชื้อให้ตรงหน้า ทั้งด้านนอก เเละด้านในกางเกงอย่างถือวิสาสะ เเต่จะปล่อยรอยเปื้อนไว้เเบบนั้นจนไปถึงโรงพบาลชลฌอนคิดว่ามันคงน่าอายเกินไปถ้าน่านน้ำมารู้ทีหลัง
ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ผู้กองน่านน้ำค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยของโรงพยาบาล เขาจำได้เพียงว่าตัวเองดื่มเหล้าที่ไพรัตน์เป็นคนยื่นให้เเละหลังจากนั้นร่างกายก็ไม่สามารถควบคุมอะไรได้อีก เเม้จะยังรู้ตัวตอนที่ถูกลูกน้องไพรัตน์หิ้วปีกออกไปจากห้อง แต่เรื่องราวความทรงหลังจากนั้นก็ค่อยๆ เลือนลางไป เเล้วตอนนี้เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทว่าสุดท้ายแล้วความสงสัยของผู้กองหนุ่มก็ได้คำตอบเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ในชุดไปรเวทสวมเสื้อเชิ้ตสีดำเงากระดุมถูกปลดลงจนเห็นหว่างอก
“ ตื่นเเล้วหรอ เป็นไงบ้าง ” ชลฌอนเอ่ยถามคนบนเตียงขึ้นด้วยความเป็นห่วง “ โอเคไหมน่านน้ำ ”
“ คุณพาผมมาโรงพยาบาลหรอ เเล้วพวกเดนมนุษย์พวกนั้นละ ” คิ้วเรียวขมวดเข้าอย่างเคร่งเครียด
“ หมวดกันกับจ่าพายุจัดการเเล้ว ผมรีบพาคุณมาโรงบาลก่อน อีกเดี๋ยวค่อยกลับเข้าหน่วย ”
“ ผมโดนวางยา ” น่านน้ำสำรวจตัวเองก่อนจะก้าวขาลงจากเตียง “ ผมไม่ได้ทำอะไรไม่ดีลงไปใช่มั้ย ”
ผู้กองหนุ่มรู้ตัวดีว่ายาที่ตัวเองดื่มเข้าไปเป็นยาอะไร เเละผลมันคืออย่างไร เขาเกรงว่าจะทำเรื่องอะไรไม่ดีลงไป จนกระทั้งได้เห็นสีหน้าของอีกคนทำเหมือนไม่มีอาการเเปลกไป ร่างเพรียวจึงได้เเต่ถอนหายใจโล่งอกออกมาเบาๆ ในสมองพลางคิดว่ายังดีที่สารวัตรพาตัวเขามาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา
ชลฌอนดันตัวลุกขึ้นยืนข้างกายผู้กองหนุ่มก่อนที่เขาจะเอ่ยถาม “ ไหวเเน่นะผู้กอง ”
“ ไหว รีบกลับหน่วยกันเถอะ ”
ทั้งสองคนเดินออกมาขึ้นรถด้านหลังโรงพยาบาลเอกชนเเห่งหนึ่ง ชลฌอนได้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างตั้งเเต่ในคลับให้ผู้กองทำความเข้าใจ เว้นเเต่เรื่องตอนที่อยู่บนรถ เเละตอนที่เขาเห็นผู้ชายอีกคนระหว่างปฏิบัติหน้าที่
“ ว่าเเต่คุณไม่ได้ยินที่ผมส่งสัญญาณหรอ ” น่านน้ำหันไปสบตาคนข้างๆ
“ ผมขอโทษผู้กอง ตอนนั้นผมไม่มีสติเอง ” ร่างสูงละสายตาออกจากถนนหันไปมองใบหน้าเล็กด้วยเเววตารู้สึกผิด
“ ช่างเถอะ อย่างน้อยคุณก็มาช่วยผมไว้ทัน ”
“ อืม ”
รถยนต์ของนายตำรวจยศสารวัตรเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าสำนักงาน ก่อนที่ทั้งสองคนจะรีบก้าวเท้าวิ่งเข้าไปด้านในด้วยความเร่งรีบ เเต่เมื่อพวกเขามาถึงกลับไม่มีใครอยู่ในห้องสอบปากคำเเม้เเต่คนเดียว ไม่เหมือนที่นายตำรวจคาดการณ์เอาไว้ สารวัตรหนุ่มย่นคิ้วเพราะความไม่เข้าใจในทันที
“ สารวัตรชลฌอน! ” เสียงหมวดกันตะโกนเรียกชื่อคนเป็นหัวหน้าจากด้านหลัง ร่างสูงจึงรีบหันไปหารุ่นน้อง “ สารวัตรไอ้ไพรัตน์มันถูกส่งตัวไปให้หน่วยปราบปรามการค้ามนุษย์เเล้วครับ ”
ทันทีที่ได้ยินชลฌอนยิ่งเเปลกใจเข้าไปใหญ่ “ หมายความว่าเราไม่มีสิทธิทำคดีนี้ต่อสินะ ”
“ ครับสารวัตร ” ผู้หมวดกันสบตากับคนอายุมากกว่า
“ ท่านรองอยู่ไหน ”
“ ท่านรองพึ่งจะเข้าห้องไปเมื่อกี้เองครับสารวัตร ”
“ ไม่ต้องตาม ” ชลฌอนสั่งห้ามคนตัวบางที่พยายามเดินตามเขาไปหารองผู้บัญชาการศิวัตรเสียงเเข็ง “ ไปรอในห้องกับหมวดกัน ”
สารวัตรหนุ่มผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานของผู้ที่มียศสูงกว่า ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นทำความเคารพเเละดึงมือลงอย่างรวดเร็ว
“ ท่านทำเเบบนี้ทำไมครับ ” ร่างสูงจ้องมองใบหน้าเรียบตึงของศิวัตรพร้อมกับอารมณ์โกรธอย่างถึงที่สุด “ ท่านได้ดูรายงานที่พวกผมส่งให้หรือเปล่า เหยื่อที่ตายไปเกี่ยวข้องกับคลับเเห่งนั้นท่านไม่เห็นรึไงครับ ”
“ คุณคิดว่าผมเป็นคนโอนเรื่องนี้เองหรือไงสารวัตร ” เล่มเอกสารถูกปาใส่หน้าอกชายหนุ่มอย่างเเรงก่อนที่เเผ่นกระดาษจะล่อนลงบนพื้น
ด้านผู้กองน่านน้ำที่กำลังจะเปิดประตูห้องเข้าไปหาบิดาถึงกับยืนเเน่นิ่งอยู่กับที่ เมื่อได้ยินเสียงของคนด้านในสาดอารมณ์โทสะใส่กับจนเกิดเป็นเสียงดังโครมคราม ไม่กลัวว่าพนักงานตำรวจคนอื่นๆ จะมาได้ยิน จากที่เจ้าตัวคิดว่าเขาควรจะเข้าไปคุยกับผู้เป็นพ่อด้วยตนเอง แต่พอเห็นสถานการณ์ข้างในดูไม่สู้ดีเท่าไหร่น่านน้ำจึงเลือกที่จะรออยู่ข้างนอกเพื่อดูลาดเลาเสียก่อนน่าจะดีกว่า
“ เเต่ท่านควรที่จะห้าม นี่มันไม่ใช่คดีเล็กๆ เลยนะ มันไม่ได้เเค่ค้ามนุษย์เเต่มันฆ่าคน! ” ชลฌอนไม่กดกลั้นอารมณ์โมโหของตัวเองอีกต่อไป
ร่างสูงรู้ดีว่าศิวัตรเป็นผู้มีพระคุณที่คอยอุปการะ แต่เขาไม่มั่นใจเลยว่าผู้มีพระคุณของเขาคนนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการตายของพ่อเขาจริงๆ หรือ ยิ่งเห็นคนเป็นถึงตำเเหน่งรองผู้บัญชาการอย่างศิวัตรออกหน้าให้คลับไนท์เดย์เช่นนี้ สารวัตรชลฌอนยิ่งรู้สึกว่าตนเองเชื่อใจใครไม่ได้อีกแล้ว
“ ผมรู้ดีสารวัตร เเต่คุณจะให้ผมทำยังไงก็ในเมื่อเบื้องบนเขาสั่งมาเเบบนี้ ” คนเเก่กว่ากดนิ้วมือลงบนอกหนาอย่างคนโมโห
“ ท่านได้เห็นคลิปวิดีโอที่ผู้กองเสี่ยงชีวิตเข้าไปเอามาหรือยัง ท่านเห็นรึยังว่ามีเหยื่ออีกกี่คน ทำไมไม่สงสารพวกเธอบ้าง ท่านเองก็รู้ดีว่าถ้ายอมยกเรื่องนี้ให้หน่วยปราบปรามเรื่องมันจะจบลงยังไง เเต่ท่านก็ยังทำ ”
“ ผมเป็นหัวหน้าคุณนะสารวัตร! ”
“ ท่านเป็นหัวหน้าผม หรือท่านเป็นคนลูกน้องคนพวกนั้นกันเเน่! ”
ผลัวะ!
ฝ่ามือหนักหน่วงของรองผู้บัญชาการตบลงสันครามชายหนุ่มที่เขาคอยอุปการะมายี่สิบห้าปีด้วยความโกรธจนตัวสั่น แววตาวูบไหวเต็มไปด้วยความผิดหวัง ศิวัตรไม่คิดเลยว่าคนที่ตนอุตส่าห์รักเสมือนลูกชายแท้ๆ จะมองว่าตนเองเป็นเหมือนพวกสารเลวเหล่านั้นได้
ร่างสูงยกมือขึ้นเช็ดเลือดออกจากมุมปากเเล้วค่อยๆ หันกลับไปมองผู้ที่ตนเองเรียกว่าคุณลุงมาหลายปี เเววตาวาวโรจน์จ้องมองคนเเก่กว่าชั่วครู่ก่อนที่เขาจะเเสยะยิ้มขึ้นบนใบหน้า
“ ท่านมันก็ไม่ต่างจากฆาตกรพวกนั้น ”
ชลฌอนหันหลังเดินออกมาจากห้อง ทิ้งความมาคุเอาไว้ให้ศิวัตรที่ยืนอยู่นิ่งงัน เมื่อร่างหนาเปิดประตูออกมาก็พบว่าคนที่ตนเองสั่งให้ไปรอในห้องทำงานกลับมายืนแอบฟังอย่างเสียมารยาท เเววตาเเข็งกร้าวชำเลืองหางตามองคนตัวเล็กกว่าครู่นึงเเล้วเดินหนีอีกคนออกไป โดยไม่ได้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ผู้กองน่านน้ำฟังแม้แต่คำเดียว
การกระทำดังกล่าวของชลฌอนทำเอาผู้กองหนุ่มถึงกับตัวชาวาบ เมื่อเเววตาดุดันฉายความอำมหิตจ้องมองมายังตนเอง ดวงตาคู่คมตรงหน้ามันน่ากลัวอย่างที่น่านน้ำไม่เคยเห็นมาก่อน เเต่สิ่งที่สำคัญกว่าการไปใส่ความรู้สึกของสารวัตร คือพ่อของเขา ที่ยังอยู่ด้านในห้อง น่านน้ำเปิดประตูเข้าไปหาผู้เป็นบิดาด้วยความเป็นห่วง เห็นว่าพ่อตัวเองนั่งเท้าขมับอยู่บนโต๊ะทำงานประจำตำแหน่งเขาจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหา
“ พ่อ เป็นอะไรไหม สารวัตรทำอะไรพ่อหรือเปล่า ”
ศิวัตรส่ายศีรษะเบาๆ “ เปล่าหรอก ว่าเเต่แกเถอะ ไม่เป็นไรใช่มั้ย ”
“ ผมไม่เป็นไร ” ลูกชายค่อยๆ นั่งลงฝั่งตรงข้าม “ พ่อ ที่ชลฌอนพูดพ่ออย่าไปใส่ใจเลย ”
“ ชลฌอนอาจจะพูดถูกก็ได้ ” ศิวัตรยื่นมือออกไปเเตะไหล่ลูกชายเบาๆ “ กลับไปทำงานของลูกเถอะ พ่อว่าจะเข้าไปพบผู้บัญชาการสักหน่อย ”
“ ถ้าไปเเล้วพ่อต้องเดือดร้อน ไม่ต้องไปก็ได้นะ ”
“ พ่อไม่ควรทำมันตั้งเเต่เเรก บางทีพ่อก็คิดว่าตัวเองเลวไม่ต่างกันกับคนพวกนั้นอย่างที่ชลฌอนว่า ”
ประโยคสุดท้ายของผู้เป็นบิดาสร้างความประหลาดใจให้น่านน้ำไม่น้อย คำว่าไม่ควรทำตั้งเเต่เเรก และคำว่าตัวเองเลวไม่ต่างกัน มันดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่กำลังทำในอยู่ตอนนี้เลยสักนิด เเต่ถ้าไม่ใช่คดีของสมศักษ์แล้วพ่อของเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่กันเเน่
ร่างบางเดินออกจากห้องมาพร้อมสีหน้าที่เเสดงออกถึงความไม่เข้าใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ยินและได้เห็นมันกำลังตบตีกันอยู่ในหัวสมองของเขา จนความคิดยุ่งเหยิงไปหมด ทั้งเเววตาของชลฌอน เเละคำพูดตัดพ้อของบิดา มันทำให้ผู้กองพยายามครุ่นคิดว่าตัวเองพลาดเรื่องไหนไปหรือเปล่า ทำไมถึงรู้สึกว่าตนเองกลายเป็นคนโง่ที่ไม่รู้สถานการณ์ในตอนนี้ของทั้งสองคนนั้นเลย
ในเมื่อสมุดบันทึกของพ่อสารวัตรชลฌอนบอกว่าตนเองไม่ใช่คนร้าย เเล้วใครกันเเน่คือคนร้ายตัวจริงที่ฆ่าเเม่ของเขา ข้อความที่ถูกเขียนเอาไว้ว่าคนร้ายคือตำรวจ ตำรวจคนนั้นคือใครกันแน่
“ พี่น่าน! ”
ผู้กองหนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิดหันไปมองตามเสียงเรียกของรุ่นน้อง
“ กันมึงว่ากูโง่ปะ ”
หมวดกันเอียงคอมองหน้าพี่ชายคล้ายสงสัยว่าน่านน้ำกำลังจะสื่อถึงอะไร “ ถ้าพี่โง่ ผมกับไอ้พายุคงไม่มีที่จะอยู่เเล้วมั้ง พี่เป็นไรเนี้ย เเล้วสารวัตรอะ ”
“ โอเคมั้ยพี่ ” จ่าพายุจับบ่าพี่ชาย “ พี่กลับไปพักก่อนมั้ย ตอนนี้เราก็ไม่ได้ทำคดีอะไรเเล้วกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ”
“ อืม ผมว่าที่พายุพูดก็ถูกนะ ” หมวดกันเสริม
“ งั้นพวกเเกก็กลับไปพักผ่อนกันได้เเล้วเดี๋ยวอีกสักพักพี่ก็กลับเเล้วละ ” น่านน้ำบอกรุ่นน้องทั้งสองคนก่อนจะคลี่รอยยิ้มบางเบาขึ้นบนใบหน้า
หมวดกัน จ่าพายุ พากันเก็บข้าวของส่วนตัวก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกไปจากห้องทำงาน ตามที่รุ่นพี่บอก เหลือเพียงแค่ผู้กองน่านน้ำที่ยังคงนั่งหาข้อมูลบางอย่างอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่หมายถึงคือการฆาตกรรมของฆาตกรเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน
ในเมื่อพ่อและสารวัตรไม่ยอมบอกอะไร เขาจึงจำเป็นต้องสืบหาเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยตัวเอง
แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาได้ตอบแทนความพยายามในครั้งนี้ ก็คือแฟ้มคดีในระบบอันเก่าอันเดิมที่เขาเคยดูมันผ่านไปแล้วเป็นร้อยๆ รอบ ร่างบางทิ้งหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างหัวเสีย แต่อย่าหวังว่าคนดื้อด้านอย่างผู้กองน่านน้ำจะยอมแพ้เพียงแค่นี้ ในเมื่อคอมพิวเตอร์ของพนักงานตำรวจยศน้อยไม่มีข้อมูล ก็ไม่ได้แปลว่าคอมพิวเตอร์ของท่านรองผู้บัญชาการจะไม่มีด้วยเช่นกัน เมื่อคิดได้ร่างโปร่งจึงเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวของพ่อตนเองทันที
ก่อนหน้านี้ศิวัตรบอกว่าจะออกไปพบผู้บัญชาการ จึงเป็นการเปิดทางที่ดีให้ผู้กองหนุ่มได้เข้ามาใช้คอมพิวเตอร์ของผู้เป็นพ่อได้ตามอำเภอใจ ถึงแม้จะมีรหัสผ่านแต่ว่ามันก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับลูกชายแท้ๆ คนนี้ที่รู้ข้อมูลส่วนตัวของศิวัตรทุกอย่างอยู่แล้ว
“ ทำไมถึงไม่มีอะไรเลยวะ! ” ผู้กองตบโต๊ะด้วยความหงุดหงิด
แต่ก่อนที่ร่างบางจะเดินออกมาจากห้อง เขากลับรู้สึกตงิดใจอย่างแปลกประหลาดกับลิ้นชักที่ถูกล็อคกุญแจเอาไว้อย่างแน่นหนา น่านน้ำจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปอีกครั้งเพื่อเปิดมันตามสัญชาตญาณของนายตำรวจ เขาทำการสะเดาะกุญแจโดยการใช้คลิปหนีบกระดาษ เพียงไม่กี่นาทีลิ้นชักใต้โต๊ะทำงานของรองผู้บัญชาการก็ถูกเปิดออกง่ายดาย กระทั่งเผยให้เห็นเล่มคดีที่ถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี เป็นเวลาหลายปี ปรากฎต่อหน้าผู้กองหนุ่ม
“ ร้อยตำรวจเอกชญตว์ ”
ฆาตกรชญตว์ หรือร้อยตำรวจเอกชญตว์ กิตติระกุล บิดาแท้ๆ ของสารวัตรชลฌอนถูกแจ้งจับตายตอนที่เขาอายุได้สามสิบสามปี ด้วยข้อหาฆาตกรรมในคดีค้อนสายฝน ทั้งที่เจ้าตัวเป็นนายตำรวจที่รับผิดชอบในคดีนั้นด้วยตนเอง ผู้กองน่านน้ำไล่สายตาอ่านข้อมูลในเอกสาร ส่วนมากเป็นเพียงข้อมูลที่เขารู้อยู่แล้วทั้งนั้น แต่ที่ต่างไปจากแฟ้มคดีเล่มอื่นๆ คือแฟ้มคดีเล่มนี้ มีรายชื่อของพยายานที่ยืนยันที่อยู่ให้สารวัตรชญตว์ระหว่างช่วงเวลาที่ฆาตกรลงมือฆ่าเหยื่อรายสุดท้าย ซึ่งเหยื่อคนนั้นก็คือมารดาของน่านน้ำ
ณ เวลาที่เหยื่อกำลังถูกฆาตกรรมสารวัตรชญตว์ได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านยกกระสอบทรายกั้นน้ำ เพราะในวันนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนักจนท่อระบายน้ำเกิดการระบายออกไม่ทันส่งผลให้มีมวลน้ำไหลเข้าบ้านเรือน
“ ใครกันที่ทำคดีสารวัตรชญตว์ ” แววตาลุกวาวไล่ดูรายมือชื่อนายตำรวจผู้รับผิดชอบคดีของสารวัตรชญตว์
ปึก!
เเละเเล้วเล่มคดีสีเหลืองอ่อนจากการตกสีของกระดาษแผ่นเก่าเกือบสามสิบปีก็ได้ร่วงหล่นลงพื้น ขณะนั้นร่างบางมีอาการแขนขาไร้เรี่ยวแรงไปชั่วครู่
“ ร้อยตำรวจโท ศิวัตร เดชะวาล ”
ร่างผู้กองหนุ่มทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง เขารู้สึกใจหายราวกับหัวใจตกดิ่งลงมาจากที่สูง จู่ๆ ความร้อนผาวก็เริ่มคืบคลานขึ้นสู่ดวงตาที่เคยแสดงความดื้อรั้นให้สั่นไหว ความจริงที่เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน ทั้งการตายของแม่ และการตายของพ่อสารวัตรชลฌอนมันเกี่ยวข้องกับพ่อของเขาโดยตรง
ถึงแม้ว่าลายมือชื่อที่ปรากฎอยู่บนกระดาษจะเป็นของจริงไม่ได้ถูกคัดลอกมาวางไว้แต่อย่างไร แต่กระนั้นผู้กองน่านน้ำยังคงพยายามหาสิ่งมาแก้ต่างให้บิดาของตนเองอยู่ตลอดเวลา เขายังไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองเห็นอย่างสนิทใจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาพ่อไม่เคยมีการกระทำที่ไม่ดี และที่สำคัญในวันที่แม่ตายพ่อยังเป็นคนบอกกับเขาเองว่าจะจับตัวคนร้ายมาเข้าคุกให้ได้
แล้วทำไมพ่อของเขาถึงปิดบังข้อมูลพวกนี้เอาไว้ และยังโยนความผิดให้พ่อของสารวัตรชลฌอน
จากที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเคลือบแคลงใจอะไรกับผู้เป็นพ่อ จนกระทั่งตอนนี้ได้มาเห็นข้อมูลที่ถูกบิดเบือนไปจนกลายเป็นคนละเรื่อง น่านน้ำที่คิดว่าตนเองเป็นผู้ที่ถูกกระทำมาตลอดก็เริ่มรู้สึกเห็นใจชลฌอนขึ้นมาในทันที อาจเป็นเพราะความรู้สึกผิดที่พ่อตัวเองเป็นคนทำให้สารวัตรชญตว์ต้องมาตาย หรืออาจเป็นเพราะตัวเขาเองที่มัวแต่หลงเชื่อพ่อตัวเองโดยที่ไม่ลืมหูลืมตา
รู้ตัวอีกทีน่านน้ำก็ได้มายืนอยู่หน้าบ้านของสารวัตรชลฌอนเป็นที่เรียบร้อยเสียแล้ว