ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยเดินอยู่ดี ๆ ต้องมาตายเพราะแม่หมอที่ไปดูไพ่ซิปซีทักว่าจะตายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าแถมยังทักไว้อีกว่าผมจะได้สามีเป็นอาจารย์หมอใครจะไปเชื่อชีวิตนี้ยังไม่เคยมีแฟนจะมีสามีได้ยังไง
ชาย-ชาย,เรื่องสั้น,ข้ามเวลา,อื่นๆ,รัก,คุณหมอ,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดใหม่ทั้งทีดันมีสามีเป็นอาจารย์หมอไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยเดินอยู่ดี ๆ ต้องมาตายเพราะแม่หมอที่ไปดูไพ่ซิปซีทักว่าจะตายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าแถมยังทักไว้อีกว่าผมจะได้สามีเป็นอาจารย์หมอใครจะไปเชื่อชีวิตนี้ยังไม่เคยมีแฟนจะมีสามีได้ยังไง
บทเกริ่น...
สิบโมงเช้า
“เจฟ เจฟ” มือของพากย์สะกิดไปยังคนตัวเล็กที่นอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วยเพื่อให้ตื่นเพราะวันนี้เขาต้องไปเอกซเรย์สมองเพื่อดูอาการเนื่องจากจำเหตุการณ์ก่อนหน้าไม่ได้
“อื้อ ใครมาปลุกแต่เช้า” เสียงงัวเงียถูกเปล่งออกมาจากปากเล็กด้วยความขัดใจเมื่อถูกปลุกเจฟปัดมือของร่างสูงออก
“ไอ้ดื้อตื่น” พากย์เรียกอีกรอบทั้งสะกิดแขนเล็กเจ้าตัวแต่ร่างบางก็ไม่ยอมตื่นสักที
“ยังขี้เซาเหมือนเดิมเลยแฮะนายนี่” ใบหน้าของพากย์โน้มเข้าไปกระซิบข้างใบหูเล็กมุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นสูงก่อนจะงับเอาใบหูเล็กของอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยว
“อะ คุณทำอะไรน่ะ” คนตัวเล็กดีดตัวสะดุ้งโหยงลุกขึ้นมานั่งด้วยสีหน้างุนงงเมื่อยังตื่นไม่เต็มตาใบหน้าของร่างบางแดงแปร๊ดเป็นลูกตำลึงจนไปถึงใบหูจากการถูกอีกฝ่ายงับเข้าให้เมื่อกี้
“ปลุกนายไงไอ้ตัวแสบ” พากย์กล่าว “วันนี้นายต้องไปเอกซเรย์ที่แผนกอายุรกรรมนะ” พากย์เอ่ยขึ้นจ้องมองร่างเล็กด้วยสายตาอ่อนโยน
หงึก หงึก ผมพยักหน้าในขณะยังหลับตาเอาไว้เขาจะพาผมไปตรวจสมองนี่เอง คนตัวเล็กเข้าใจในสิ่งที่หมอพูดก่อนจะลุกลงจากเตียงชำเลืองมองอีกฝ่ายด้วยสายตาหยั่งเชิง เด็กหนุ่มยังไม่ชินกับสถานภาพของตัวเองและหมอพากย์ตอนนี้สักเท่าไหร่ถึงจะรู้ว่าเป็นเมียของหมอแต่มันก็ยังรู้สึกขนลุกอยู่ดี
“นั่งวีลแชร์ไปไหมฉันเข็นนาย” พากย์ถาม
“นั่งก็ได้ครับ” ผมตอบหมอพากย์กลับไปพลางนึกนั่งให้เขาเข็นดีกว่าได้มองหน้าเขาตรง ๆ ดีกว่า
เมื่อพากย์เห็นว่าเจฟตอบกลับมาอย่างงั้น ชายหนุ่มจึงเดินออกไปเอารถวีลแชร์ด้านนอกก่อนเข็นเข้ามาด้านในและเอ่ยขึ้น
“นั่งสิ”
ผมเดินลงไปนั่งรถวีลแชร์ตามที่เขาบอกก่อนเขาจะเข็นผมไปยังแผนกอายุรกรรมซึ่งมันต้องขึ้นลิฟต์ไปด้านบนชั้นห้าของตึกตอนนี้ผมอยู่ชั้นสามระหว่างทางเดินที่เข็นไป
สายตาของเจฟก็เสมองไปทางอื่นไปด้วยเด็กหนุ่มทองผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาในแผนกเยอะไปหมดล้วนแล้วแต่เป็นผู้ป่วยหนักและได้รับการผ่าตัดกันทั้งนั้น
แต่เหมือนว่าชั้นนี้ดีหน่อยเพราะเป็นชั้นวีไอพีก็เลยทำให้ดูไม่วุ่นวายเหมือนกับชั้นด้านล่างที่เป็นแผนกฉุกเฉินเพราะมีผู้ป่วยเข้าออกไปเว้นแต่ละวันแต่แล้วก็มีคุณยายคนหนึ่งวิ่งมาจากไหนไม่รู้ตรงมาทางพวกเราส่งเสียงร้องออกมาขอความช่วยเหลือ
“ไม่ ๆ ปล่อยยาย ยายไม่ผ่า ยายกลัว ช่วยยายด้วย”
อะ เฮ้ย ผมร้องออกมาเสียงหลง
“ยาย ยาย เดี๋ยวชน” ผมพูดเสียงดังออกมาเพื่อให้คุณยายที่วิ่งมาหยุดวิ่งแต่ยายแกไม่ฟังอะไรเลยแถมยังหันลีหันขวางมองทางด้านหลังที่มีพยาบาลวิ่งตามโดยไม่มองมาทางด้านหน้า
“ไอ้หนูช่วยยายด้วย” คุณยายวิ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วแสง ส่วนพากย์ที่กำลังเข็นรถของเจฟเพื่อจะเข้าลิฟต์ถึงกลับมองยายอย่างอึ้ง ๆ
โครม!! จนได้ คุณยายวิ่งเข้ามาชนเข้ากับรถวีลแชร์ของผมเข้าไปเต็ม ๆ ร่างเล็กหลับตาปี๋ ตัวของคุณยายล้มลงมาโดนตัวของเจฟมือของคุณยายแหมะอยู่บนแผลผ่าตัดบนหัวของคนตัวเล็กจนมีเลือดซิปออกมาเนื่องจากแผลยังไม่ปิดสนิทดีเลือดสีสดซึมออกมานอกผ้าก๊อซจนคนตัวเล็กรู้สึกเจ็บที่หัวของตนมืออีกข้างประคองตัวของคุณยายเอาไว้ให้ลุกขึ้น พากย์รีบเข้ามายกตัวคุณยายออกไปก่อนที่พยาบาลทั้งสองจะวิ่งมาถึง
“หมอพากย์คะ ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ทางแผนกหมอวุ่นวาย” พยาบาลเอ่ยขอโทษขอโพยชายหนุ่มยกใหญ่โค้งตัวลง แต่ร่างสูงไม่ได้สนใจยกตัวยายขึ้นมา
“คุณยายวิ่งหนีใครครับ” ร่างสูงเอ่ยถามเสียงเรียบ ความนิ่งของเขาสงบทุกอย่าง
“ไอ้หนูยายวิ่งหนีหมอ เขาจะให้ยายผ่าตัด ยายไม่ผ่าร่างกายของยายแข็งแรงดี” คุณยายจับมือทั้งสองข้างของพากย์เอาไว้
“ไม่ต้องห่วงนะครับคุณยาย” พากย์เอ่ยก่อนจะหันหน้าไปหาพยาบาลทั้งสอง
“คนไข้เป็นอะไรครับ”
“คนไข้ป่วยเป็นเนื้องอกค่ะคุณหมอ พอดีดิฉันรอคุณหมอศินัทผ่าเสร็จแล้วจะเข้ามาผ่าคุณยายต่อค่ะแต่ว่าคุณหมอศินัทน่าจะมาช้าหน่อยเลยให้พวกฉันเตรียมห้องผ่าตัดไว้ก่อน” พยาบาลอธิบาย
พากย์พยักหน้าเข้าใจจับแขนคุณยายทั้งสองข้างไว้ก่อนจะอธิบายรายละเอียดทั้งหมดให้คุณยายฟังว่าถ้าผ่าแล้วอาการทั้งหมดจะหายไปพูดจาหว่านล้อมอยู่สักพักจนคุณยายยอมตกลงผ่าจึงให้พยาบาลทั้งสองพากลับไปยังห้องผ่าตัด ชายหนุ่มหันหน้ากลับมามองที่คนตัวเล็กเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเอามือจับไปที่ตัวของตัวเอง
“เจฟเป็นอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มรีบเข้ามาดู
“ผมไม่รู้ฮะ แต่เจ็บตรงนี้” มือเล็กปล่อยมือที่กุมไว้บนหัวของตัวเองออกร่างสูงรีบเข้ามาดูอาการทันที
“ไหนขอฉันดูหน่อย” พากย์เข้าไปดูใกล้ ชายหนุ่มเป็นต้องถอนหายใจออกมา
บ้าฉิบ! เขาสบถออกมาก่อนคนตัวเล็กจะเงยหน้าขึ้นมามอง
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผมถามออกไปเพราะเห็นว่าหมอพากย์มีอาการหงุดหงิด
“นานน่าจะเอกซเรย์ตอนนี้ไม่ได้แล้วล่ะ”
“ทำไมเหรอครับ”
“แผลที่ผ่าตัดฉีก”
“หา!!!” ผมร้องออกมาเสียงหลง แง แล้วแบบนี้แผลผ่าตัดของผมเมื่อไหร่จะหายเนี่ย ยายนะยายผมเกือบได้ออกจากโรงพยาบาลอยู่แล้วเชียวแล้วแบบนี้ผมเมื่อไหร่จะได้กลับบ้านเนี่ย
“ฉันพานายไปทำแผลก่อนละกัน” พากย์บอกก่อนเข็นวีลแชร์ไปยังห้องทำงานของเขาแทน
หงึก หงึก ผมพยักหน้าให้ หมอว่าไงผมก็ว่างั้นครับ T T เจ็บแผลฝุด ๆ