ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยเดินอยู่ดี ๆ ต้องมาตายเพราะแม่หมอที่ไปดูไพ่ซิปซีทักว่าจะตายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าแถมยังทักไว้อีกว่าผมจะได้สามีเป็นอาจารย์หมอใครจะไปเชื่อชีวิตนี้ยังไม่เคยมีแฟนจะมีสามีได้ยังไง
ชาย-ชาย,เรื่องสั้น,ข้ามเวลา,อื่นๆ,รัก,คุณหมอ,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดใหม่ทั้งทีดันมีสามีเป็นอาจารย์หมอไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยเดินอยู่ดี ๆ ต้องมาตายเพราะแม่หมอที่ไปดูไพ่ซิปซีทักว่าจะตายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าแถมยังทักไว้อีกว่าผมจะได้สามีเป็นอาจารย์หมอใครจะไปเชื่อชีวิตนี้ยังไม่เคยมีแฟนจะมีสามีได้ยังไง
บทเกริ่น...
ณ ห้องทำงานของพากย์
พากย์เข็นเจฟเข้าไปยังห้องทำงานของตัวเอง เจฟมองสำรวจภายในห้องทำงานของหมอพากย์ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี ภายในห้องทำงานของเขาตกแต่งแตกต่างจากห้องทำงานคุณหมอทั่วไป มันดูมีระดับหรูหรา ของแต่ละอย่างดูไฮเทคไปหมด จนเจฟคิดว่าเขาต้องรวยมากแน่ คนเป็นหมอนี่เขาต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่กันนะ คนตัวเล็กคิดก่อนจะมองไปยังชุดทำงานของหมอพากย์ที่ถูกแขวนเอาไว้อยู่บนราวไม้และด้านในของห้องก็ยังมีประตูไม้สีน้ำตาลอีกบานถูกปิดเอาไว้และไม่รู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องอะไร
“นั่งรอแป๊บหนึ่งนะ พี่จะไปหยิบกล่องปฐมพยาบาล” เมื่อหมอพากย์บอกผมเขาก็เดินหายออกไปข้างนอกปล่อยให้เจฟนั่งรออยู่ในห้องทำงานของเขา
ซี๊ดดด คนตัวเล็กทำเสียงซี๊ดออกมา เมื่อแผลที่หัวมีอาการปวดตุบ ๆ และแสบขึ้นมามากกว่าตอนแรก แถมหัวของเจฟก็เริ่มจะปวดมากขึ้นไปอีกด้วย ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้าผุดเข้ามาในหัวเหมือนเป็นความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมยังไงอย่างงั้น มือเล็กยกขึ้นแตะหัวของตัวเอง
ฮือ ปวดหัวจัง คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนเขาเซเล็กน้อยเมื่อรู้สึกปวดมากและมากขึ้นจนหัวของเขาแทบระเบิดภาพในหัวซ้อนทับออกมาเป็นภาพที่ตัวเขากำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่กับหมอพากย์กันอย่างมีความสุขและภาพก็ตัดไปเป็นภาพอยู่บนเตียงด้วยกัน
นี่มันอะไรกันความทรงจำพวกนี้...
เจฟรักพี่นะครับ พี่พากย์ อ๊าส์ เสียงครางกระเส่าของพวกเขาประสานเสียงกันในหัวพวกเขากำลังร่วมรักกันอย่างมีความสุข
โอ๊ย พอแล้ว พอได้แล้ว น้ำตาของผมเริ่มไหลออกอาบแก้มทั้งสองข้างและภาพก็ตัดไปเป็นตอนที่พวกเขาสองคนทะเลาะกันอย่างหนักและในคืนนั้นที่ตัวของเจฟได้ล้มหัวฟาดไปกับพื้นห้องจากนั้นภาพก็ตัดไป คนตัวเล็กหลับตาปี๋ตัวเซเอนไปมาในขณะที่พากย์เดินเอากล่องปฐมพยาบาลเข้ามาในห้องพอดี ชายหนุ่มเห็นว่าเจฟเอามือกุมหัวของตัวเองตัวเซไปมาจึงรีบเข้าไปพยุงตัวคนตัวเล็กเอาไว้จากทางด้านหลังทันที
“เจฟ นายเป็นอะไร”
“ฮือ หมอ โอ๊ย ช่วยด้วย ผมปวดหัวช่วย ช่วยด้วย” เจฟร้องออกมาอย่างทรมานจนพากย์เองยังตกใจ นี่เป็นเอฟเฟกต์จากการผ่าตัดของเขาอีกไหมทำไมตั้งแต่ที่เขาผ่าตัดให้เจฟมาคนตัวเล็กถึงได้มีอาการแปลกไปหมด ร่างสูงไม่เข้าใจ
“นั่งลงก่อน” พากย์รีบหันไปมองหาเข็มฉีดยาเพื่อที่จะให้ยาระงับอาการปวดหัวกับเจฟและดันตัวร่างบางให้นั่งลงบนเตียงคนไข้ในห้องของเขา ชายหนุ่มรีบหยิบขวดยาขึ้นมาก่อนจะใส่ยาเข้าไปในหลอดทันที
“ฉันจะฉีดยาระงับอาการปวดให้นาย” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจิ้มมันไปบนแขนเล็กอีกฝ่ายไม่นานอาการปวดหัวของเจฟก็ทุเลาลงและดีขึ้นจนหายปวดไปในที่สุด
ค่อยยังชั่วเมื่อกี้ผมนึกว่าหัวตัวเองจะระเบิดแล้ว เจฟคิด
เมื่อพากย์เห็นว่าเจฟอาการดีขึ้นแล้วชายหนุ่มจึงหยิบกล่องปฐมพยาบาลเมื่อกี้ที่ไปหยิบมาเปิดออกและหันมาแกะผ้าพันแผลที่พันอยู่บนหัวของร่างเล็กออก เมื่อผ้าพันแผลถูกเปิดออกทำให้มองเห็นรอยช้ำสีม่วงอันเบ้อเร่อเป็นจ้ำอยู่บนหัวของเจฟชัดเจนแถมยังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุดอีกด้วย
“พี่ต้องหยิบแผลให้นายใหม่” พากย์เอ่ยบอกก่อนจะมีสีหน้าเคร่งเครียด ชายหนุ่มไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ขึ้นในแผนกของเขาน้อยครั้งจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
งะ เย็บใหม่เลยเหรอ เจฟมีสีหน้าคิดหนักเมื่อได้ยินหมอพูดว่าต้องเย็บแผลใหม่จึงเอ่ยถามขึ้น
“เอ่อ เจ็บไหมครับ” ผมทำหน้าเหยเกออกมาเพราะเป็นคนกลัวเข็มมาตั้งแต่เด็กก็เลยทำให้รู้สึกไม่ค่อยถูกกับเข็มสักเท่าไหร่
“กลัวเหรอ” พากย์ถามเนื่องจากปกติแล้วคนรักของเขาไม่เคยกลัวอะไรพวกนี้ ทำไมครั้งนี้ถึงได้กลัวกันหรือนี่ก็เป็นเอฟเฟกต์จากการผ่าตัดของเขาอีกชายหนึ่งนึกสงสัยอยู่ในใจก่อนสลัดความคิดนั้นออกไปเมื่อเจฟพูดขึ้น
“ก็นิดหน่อย” ผมตอบออกไป
“งั้นก็อย่ามอง” พากย์หยิบถุงมือสีขาวออกมาสวมใส่ก่อนเทแอลกอฮอล์ลงบนสำลีพร้อมกับหยิบที่คีบออกมาคีบไปบนสำลีเพื่อล้างแผลบนรอยเย็บเดิมที่ชายหนุ่มเคยเย็บเอาไว้
“ซี๊ดดดด” เด็กหนุ่มซี๊ดปากเมื่อแผลโดนแอลกอฮอล์
“เจ็บเหรอ” ร่างสูงขยับตัวเข้าไปใกล้เพื่อมองแผลชัด ๆ
ไม่เจ็บสิครับแปลก ผมคิดในใจ
“พี่จะทำลงมือเย็บแล้วนะ” ชายหนุ่มบอก พากย์หยิบเครื่องมือเย็บแผลขึ้นมาชูขึ้นก่อนชำเลืองมองมายังคนตัวเล็กเพื่อบอกว่าเขาจะเล็บแผลแล้วพร้อมใช่ไหมก่อนลงมือใส่ยาชาไปบนแผลที่ต้องการเย็บ
เจฟเงยหน้ามองดูเข็มเย็บแผลบนมือของหมออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“อย่าขยับล่ะ”
“ดะ เดี๋ยวก่อนครับ” ผมรีบห้ามเขาไว้ก่อนที่เขาจะลงเข็มเย็บ
“รีบเย็บก่อนที่ยาชาจะหมดดีกว่านะเด็กน้อย”
“ขอทำใจก่อนได้ไหมครับ” ผมสูดลมหายใจเข้าเมื่อมีอาการคล้ายจะเป็นลม มือเล็กของเจฟสั่นระริกเอื้อมมือไปจับชายเสื้อกาวน์ของอีกฝ่ายแน่น
ทำให้พากย์มองคนรักอย่างเอ็นดู ชายหนุ่มไม่เคยเห็นมุมนี้มาก่อนตั้งแต่แต่งงานด้วยกันมา
“ไม่ได้ นิ่งไว้ล่ะ” พากย์เอ่ยบอกก่อนที่ชายหนุ่มจะจรดมือลงบนแผลที่ปริของคนตัวเล็กอย่างเบามือ คนตัวเล็กหลับตาปี๋ตัวเกร็งตั้งตรงขึ้นเมื่อเข็มเย็บลงไปบนผิวของเขากำชายเสื้อของร่างสูงแน่น
“อย่าเกร็งสิ” พากย์ยังคงลงเข็มไปเรื่อย ๆ อย่างเบามือและเขาเองก็กลัวว่าเจฟจะเจ็บเช่นเดียวกันและเมื่อเย็บเสร็จเขาจึงหยิบกรรไกรตัดไหมที่เย็บให้ออกให้
ร่างบางรู้สึกตึง ๆ บนแผลที่ถูกเย็บนิดหน่อยหลังจากเย็บเสร็จและโดนอีกฝ่ายพันแผลที่เย็บให้เหมือนเดิม
“เสร็จแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยบอกก่อนสายตาของเขาจะเลื่อนมามองมือเล็กที่จับอยู่บนชายเสื้อกาวน์สีขาวของเขา
น่ารักดีแฮะ พากย์คิดในใจ เขาไม่เคยเจฟเป็นแบบนี้มาก่อนเมื่อก่อนนิสัยของเจฟจะเป็นคนห้าว ๆ ชอบทำอะไรโผงผางและเป็นคนลุย ๆ ครั้งนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจนชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจอย่างกับคนละคนเขาต้องการทดสอบบางกับคนตัวเล็ก
“เจฟ” ชายหนุ่มเรียกชื่อคนรักขึ้น ทำให้เจฟเงยหน้าขึ้นไปหาตามสัญชาตญาณเมื่อโดนเรียกและด้วยความเคยชินที่เมื่อก่อนใครเรียกก็จะหันไปหาและขาดรับ
“ฮะ”
อุ๊บ! ริมฝีปากเล็กโดนร่างสูงประกบริมฝีปากลงบนปากเล็กของเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้คนตัวเล็กได้ทันตั้งตัว ดวงตาของร่างเล็กเบิกโตขึ้นด้วยความตกใจนิ่งค้างไปชั่วครู่ก่อนส่งเสียงอู้อี้ออกมาเพื่อขัดขืนอีกฝ่าย
มือเล็กจับอยู่บนชายสื้อของร่างสูงเอาไว้ดันตัวอีกฝ่ายออกห่างแต่มันไม่ได้ผลเมื่อพากย์ยกมือรั้งท้ายทอยของคนตัวเล็กเอาไว้เสียก่อนชายหนุ่มพยายามสอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเจฟเพื่อให้เจ้าตัวตอบสนองความต้องการของเขา พากย์พยายามอดทนไม่ให้จูบอีกฝ่ายเอาไว้นานอยู่นานหลายวันแต่วันนี้คงไม่ได้แค่เห็นเจ้าตัวเล็กปุ๊กปิ๊กทำตัวน่ารักอยู่ตรงหน้ามีหรือเขาจะอดใจไหวโดยปกติพวกเขาทั้งสองคนก็สวิทกันอยู่แล้วตั้งแต่ที่ผ่าตัดมาพวกเขาทั้งคู่ก็มีโมเมนต์สวีทหวานกันน้อยลง
“อื้อ อ่อยผมนะ”เจฟยังคงส่งเสียงอู้อี้ออกมาไม่หยุดมือเล็กตีเข้าอกกว้างด้วยมืออันนุ่มนิ่มของตนก่อนเขาจะทนพิษรสของจูบอีกฝ่ายไม่ไหวตัวอ่อนระทวยลงมือทั้งสองข้างที่พยายามทุบอีกฝ่ายเพื่อให้เขาปล่อยเป็นอิสระตกลงข้างตัวอย่างเสียไม่ได้ ปล่อยให้เขาตักตวงความหวานในโพรงปากอย่างเต็มที่เปลือกตาที่เบิกโพลงถูกปิดลง เจ้าตัวลองสัมผัสรสจูบของอีกฝ่ายอีกครั้งกับทำให้เจฟเกิดความแปลกใหม่รสชาติของจูบที่อีกฝ่ายมอบให้มันทั้งนุ่มลึกหอมหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าก็ไม่ปานอย่างที่ไม่เคยได้รับและเคยทำแบบนี้มาก่อน นี่เรียกได้ว่าเป็นจูบแรกของเจฟคนก่อนก็ว่าได้
พากย์ผ่อนจูบอันเร่าร้อนของเขาลงสลับเป็นนุ่มนวล คนตัวเล็กไม่เคยปฏิเสธจูบของเขามาก่อนนี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มโดนคนตัวเล็กขัดขืนเรียวคิ้วหนาผูกกันเป็นปมก่อนจะยอมผละจูบของเขาออกมือหนายกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากที่มีคาบน้ำลายติดอยู่มุมปากออกก่อนจะเลียริมฝีปากตัวเอง คนตัวเล็กหอบแฮก ๆ หายใจเอาอากาศเข้าปอดเมื่ออีกฝ่ายถอนจูบออกไปแล้วก่อนจะโวยวายเสียงดังขึ้น
“นี่คุณทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย”
“ทำไมล่ะ พี่ก็จูบนายประจำ เราทำแบบนี้กันออกจะบ่อยนะเด็กน้อยนายจำไม่ได้เหรอ”
“ไม่รู้จำไม่ได้ ออกไปห่าง ๆ เลยนะ” ผมลุกขึ้นผลักตัวเขาออกห่างก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของเขาโดยไม่สนใจอีกฝ่ายเลย ขอเอาตัวเองออกมาจากตรงนั้นสักพัก ในหัวของคนตัวเล็กรู้สึกสับสนไปหมด
“เจฟ นายจะไปไหน” พากย์เรียกตามหลัง
“ไปไหนก็เรื่องของผม อย่าตามมานะ ผมอยากอยู่คนเดียว” ผมตะโกนกลับไปพร้อมกลับวิ่งหนีออกไป
พากย์มองตามหลังเจฟออกไปชายหนุ่มไม่ได้ตามไปเพราะดันมีสายเข้ามาซะก่อน เขาจึงปล่อยเจฟไปส่วนเรื่องเอกซเรย์ชายหนุ่มขอเลื่อนวันออกไปก่อนเนื่องจากเจฟหัวแตกจึงทำให้ไม่สามารถเอกซเรย์ได้ชั่วคราว
Rrrrrr
มือของชายหนุ่มล้วงเข้าไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อของตัวเองขึ้นมากดรับสายบนหน้าจอโทรศัพท์แสดงชื่อคนโทรเข้าก่อนเขาจะกดรับ
“ครับ จะไปเดี๋ยวแหละ” เขามีผ่าตัดด่วนจึงรีบเดินออกจากห้องทำงานไปและฝากพยาบาลที่แผนกช่วยไปดูภรรยาของเขาแทน