หากคุณชอบหอมหวานของเรื่องราวรักโรแมนติก การพบเจอ การงอนง้อที่แสนหวาน คุณจะตกหลุมรักเรื่องนี้
หากคุณชอบความดราม่า ความคมคาย เงื่อนงำ เรื่องนี้จะพาคุณค่อยๆ ดำดิ่งลงไปในลูปวังวนที่บีบหัวใจจนบทสุดท้าย
นิยายวายใน concept เก๋ๆ ว่าด้วยเรื่องลูปเวลา ซึ่งก็คือ วังวน ซ้ำๆ ของการวนลูปกลับไปแก้ไขอดีตของนายเอกที่คิดว่าพระเอกขับรถชนตาย โดยแม้ว่าจะกลับมาใหม่ เขาก็คงยังติดอยู่ในวังวนเกิดตายซ้ำๆ แต่ยิ่งวนเวียนเท่าไหร่ ความลับและปริศนาใหม่ๆ จะยิ่งเพิ่มพูนไป พร้อมๆ กับความหอมหวานของความรักที่ค่อยๆ เบ่งบาน
ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,รัก,ดราม่า,ตลก,คอมเมดี้,อ่านเพลิน,อ่านสบายๆ,boylove ,bl,นายเอกเก่ง,18+,วาย,ออฟฟิศ,น่ารัก,ดรามา,โรแมนติก,พระเอกธงเขียว,พระเอกขี้หึง,พระเอกคลั่งรัก,ย้อนเวลา,ย้อนกลับมา,ดราม่า,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วี้ด ...
……...
……...
ท่ามกลางเสียง 0 เดซิเบลของความมืดมิดที่ยาวนาน ความเจ็บปวดที่ร่างกายเคยรับรู้มันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ แต่ที่แน่ๆ ภาพสายตาที่เยือกเย็นนั่นของไอ้ศศินมันยังฉายเด่นชัดอยู่กลางความมืดมิดนี้ ซอลรู้สึกได้ถึงความโกรธของตัวเอง พร้อมๆ กับคำถามต่างๆ ที่ค่อยๆ ผุดพรั่งพรูขึ้นในหัว ราวกับเครื่องจักรของสมองเริ่มกลับมาทำงาน ป้อนคำถามต่างๆ ขึ้นมาในหัวอีกครั้ง พร้อมกับเสียงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มดังก้องขึ้นเรื่อยๆ
ตื๊ด... ตื๊ด…
ซอล รพีพงษ์ ชายหนุ่มวัย 25 ปี ลุกพรวดขึ้นมากลางที่นอนท่าทางคล้ายตกใจที่ฟื้นจากหลุม เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลชโลมทั่วร่างที่มีกล้ามเล็กน้อยตามฉบับคนรูปร่างดีของเขา เหมือนกับว่าเขาเพิ่งตื่นจากฝันร้ายมาหมาดๆ
ไม่สิ มันไม่ใช่ฝัน..เพราะเขายังจำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนถนนนั้น ทั้งแรงกระแทกของเหล็กสีดำคันใหญ่ ดวงตาเบื้องหลังพวงมาลัย รวมถึงความเจ็บปวดทั่วร่างกายที่เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้น เพียงแต่ว่าตอนนี้มันกลับไม่มีอะไรบุบสลาย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
ชายหนุ่มสำรวจร่างกายตัวเอง เอามือลูบไล้ไปตามกรอบหน้าใสที่เกลี้ยงเกลาไร้หนวดเครา ใบหน้าภายใต้ผมสีควันเข้มแต่ไม่ถึงกับดำของเขานี้ถือว่ายังดูเด็กกว่ามากหากเทียบกับคนรุ่นเดียวกัน และยิ่งในสภาพเพิ่งตื่นนอนและงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบนี้ ผมหยักศกที่ยุ่งนิดๆ รับกับสีหน้าท่าทางที่กำลังบ่นงึมงำๆ กับตัวเอง กลับช่วยให้เขาดูไร้เดียงสาชวนมองสุดๆ
ผู้ชายที่ยังงุนงงคนนี้ เริ่มละความสนใจจากตัวเอง แล้วมองไปรอบๆ ก็พบว่า เขายังนอนอยู่บนเตียงแสนสุขในอะพาร์ตเมนต์ ที่ตกแต่งสไตล์ลอฟท์สแกนดิเนเวียนของตัวเอง ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง ทำไมเขายังไม่นอนพะงาบๆ อยู่ในโรงพยาบาล หรือไม่ก็ต้องนอนแอ้งแม้งในโลงไปแล้วสิ
แต่แปลก เพราะเขามั่นใจ.. ว่ามันไม่ใช่ฝันอย่างแน่นอน
เสียง ตื๊ด... ตื๊ด... ตื๊ด…ยังคงดังลั่นมาจากโทรศัพท์
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปคว้ามาปิดเสียงก่อนจะเห็นว่า มันกำลังสั่นเพื่อแจ้งเตือนว่าบ่ายวันนี้มีประชุมสำคัญ
แต่มันยิ่งแปลกตรงที่มันแจ้งว่า เป็นบ่ายของวันที่ 19 มกราคม
เป็นบ่าย…เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
3 เดือนก่อนเหตุการณ์นั่นจะเกิด
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย” ซอลใช้เวลาอยู่นานในการคิดทบทวน เรียบเรียงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ต่อให้คิดเท่าไหร่ ยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ยิ่งเปิดโทรศัพท์เปิดดูหน้าฟีดโซเชียล ทุกเหตุการณ์ทั้งข่าวซุบซิบดารา ฟีดหนังใหม่เข้าโรง หรือแม้แต่รูปอีเวนต์แต่งงานของเพื่อนสมัยมหาลัย ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 19 มกราคมทั้งนั้น
อย่างกับว่าเขานั้น ย้อนเวลากลับมา
ก่อนที่เขาจะถูกไอ้ศศินขับรถชน
ไอ้ศศิน...
เชี่ย... ถ้านึกดีๆ 19 มกรา..
มันคือวันนี้
วันที่เจอมันครั้งแรก!!!
.
.
ไม่รู้ว่าเพราะความโกรธ หรือความอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำให้ซอลโผล่หน้ามาหยุดที่หน้าตึกออฟฟิศที่ทำงานภายในเวลา 30 นาที ไวกว่าเวลาเดินทางมาทำงานปกติถึง 1.5 เท่า นับเป็นสถิติใหม่ที่ไม่เคยทำได้ในช่วงชีวิต (เก่า) ที่ผ่านมาเลย
ตึกที่ประดับด้วยกระจกสูงกลางใจเมืองนี้ เป็นที่ตั้งของบริษัทยักษ์ใหญ่ อินไฟไนท์ กรุ๊ป ผู้ผลิตเครื่องดื่มหลากหลายสีสัน หลากหลายยี่ห้อภายในประเทศนี้ ที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยกินแล้วสักยี่ห้อแหละ ซึ่งหนึ่งในมาร์เก็ตติ้ง ผู้ที่ทำแคมเปญการตลาดให้เครื่องดื่มหลายยี่ห้อของ อินไฟไนท์ กรุ๊ป ฮิตติดลมบนก็คือซอลคนนี้นี่แหละ
มาร์เก็ตติ้งหนุ่มไฟแรงรีบพุ่งตัวเข้าไปในตึกอย่างร้อนรน ก่อนที่จะได้ยินเสียงที่คุ้นเคยตะโกนตามหลังมา
“เพ่ซอลลลลล.... วันนี้มาเช้าจังง่ะ” ไอ้ดอยลูกน้องในทีม ร่างอวบน้อยๆ กำลังปุ๊กปิ๊กน่ารักกับผมทรงม้าเต่ออันเป็นเอกลักษณ์ วิ่งโผเข้ามาในท่าทีที่ร่าเริงทุกวันเหมือนเทเลทับบีส์ใส่ถ่านอัลคาไลน์ 12 ก้อน
“บ่ายนี้ ประชุมไร พี่พอรู้ปะ”
“ไม่รู้เว้ย กูก็รู้พอๆ กับมึงนี่ล่ะ” ซอลตอบไปส่งๆ ทั้งที่ไม่จริงเลย ประชุมบ่ายนี้ เขาเคยผ่านมาแล้ว มันเป็นประชุมครั้งสำคัญเกี่ยวกับโปรเจกต์เครื่องดื่มใหม่ของบริษัท โปรเจกต์ที่เขาจะทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อให้ได้มันมา
และเป็นโปรเจกต์ที่ทำให้ซอลได้เจอกับ “มัน” คนที่เป็นยิ่งกว่าคู่อริ ที่เขาเกลียดที่สุดในชีวิต
“แต่ผมไปสืบมา มีตติ้งนี่ผมว่าน่าจะเรื่องใหญ่แน่ๆ เห็นเขาบอกว่าวันนี้ มีอีกทีมนึงเข้าชุมด้วย มาจากทีมคอร์ปอเรทที่ดูเรื่องภาพลักษณ์หลักของบริษัทเลยนะพี่”
“เออกูรู้!”
“เอ้า สรุปพี่รู้หรือไม่รู้กันเนี่ย” ไอ้ดอยจ้องหน้าซอลอย่างจับผิด ในใจมันคงคิดว่า ลูกพี่มันคนนี้ต้องไปรู้อะไรดีๆ มาแล้วไม่ยอมบอกมันแน่ๆ
“เออ รู้คร่าวๆ” เจ้าตัวที่เพิ่งลั่นหลุดปากไป เริ่มเลิกลั่กอึกอัก เลยต้องทำทีหงุดหงิดปัดรำคาญไอ้ลูกน้องที่ยังเซ้าซี้ไม่เลิก และเดินหนีขึ้นลิฟต์โดยที่ไอ้ดอยยังงอแงตามติดทุกฝีก้าว
ลิฟต์มาจอดตรงชั้น 10 ที่เป็นชั้นของทีมมาร์เก็ตติ้งที่มีหน้าที่ทำการตลาดให้กับสินค้าต่างๆ ของบริษัท นอกจากซอลที่เป็นหัวหน้าทีมและมือขวาอย่างไอ้ดอยแล้ว ในทีมนี้ยังประกอบไปด้วย กิ๊ฟ สาวแว่นจบใหม่เกียรตินิยมจากมหาลัยชื่อดัง ผู้ทำให้ซอลทึ่งด้วยหัวสมองที่อัดแน่นข้อมูลอินไซด์ของผู้บริโภคแบบว้าวซ่าสุดๆ และ บูม น้องเล็กในทีมที่มีผมย้อมสีทองอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมสโลแกน “อยู่กับบูมไม่มีหิว” เพราะโต๊ะทำงานของบูมเรียกได้ว่าเป็น โรงอาหารของทีมที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะต้องอยู่ดึกแค่ไหนก็มีของกินอยู่เสมอ
แต่หัวหน้าทีมอย่างซอลจำได้ดี ช่วงนี้แม้จะเพิ่งผ่านปีใหม่มาหมาดๆ แต่บรรยากาศในทีมอบอวลไปด้วยความเหนื่อยล้าอย่างกับลากเลือดกันมาทั้งปี เพราะตอนนี้โปรเจกต์หลักที่ค้างเติ่งติดแหง็กอยู่กับทีม ดันเป็นโปรเจกต์น้ำสมุนไพรที่ทำไปก็ไม่ได้อะไร นอกจากความปวดหัวและการวนลูปชีวิตไปกับการยื่นเอกสารต่างๆ เพื่อพิสูจน์ประโยชน์ของน้ำสมุนไพรกับหน่วยงานต่างๆ จนน้องๆ ในทีมล้ากันไปตามๆ กัน โปรเจกต์ใหญ่ที่กำลังจะมา ถ้าคว้าไว้ได้ จะเป็นหนทางเดียวที่จะสลัดไอ้โปรเจกต์น้ำสมุนไพรนี่ทิ้งไป และพลิกชะตาทีม ก่อนที่ทีมซอลจะแตกเป็นเสี่ยงๆ !
มันเลยเป็นโปรเจกต์ที่จริงจัง และเป็นเชื้อไฟอย่างดีที่ทำให้อนาคตของซอลและไอ้ศศินต้องบาดหมางกัน
คำถามคือ เมื่อรู้ในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้วเขาควรทำตัวอย่างไรดี
จะให้ไปญาติดีกับมันก่อน มันจะได้ไม่ฆ่าเราทิ้งทีหลังเหรอ?
แค่นึกถึงแววตาปีศาจนั่น ความเกลียดก็พลุ่งพล่านเต็มหัวแล้วโว้ย
จะให้ไปดีกับมัน สู้ให้มันขับรถชนอีกรอบยังจะง่ายกว่า
เพราะเช้าวันนี้มันไม่ปกติจริงๆ นั่นแหละ ความคิดหลายอย่างเลยวนเวียนในหัวซอลไม่หยุดจนเขานั่งเหม่อ พึมพำกับตัวเองตลอดทั้งเช้าและพักเที่ยง พวกเด็กๆ ในทีมก็ไม่กล้าแม้แต่จะบอกให้กลับไปนอนพัก ลึกๆ ก็คงรู้กันในใจว่าประชุมบ่ายนี้มันสำคัญแค่ไหน ขาดซอลไปทีมคงต้องลาออกไปตั้งคณะตลกแน่นอน
.
.
และแล้วเวลาบ่ายก็มาถึง ภาพการประชุมในห้องประชุมที่คุ้นตาก็วนมาอีกครั้งเหมือนหนังที่ถูกฉายซ้ำ คุณพัลลภหัวหน้าแผนกประกาศกลางห้องถึงโปรเจกต์ Z โปรเจกต์เครื่องดื่มวิตามินใหม่ที่ทางบริษัทซุ่มพัฒนามากว่า 5 ปี ถือได้ว่าเป็นโปรเจกต์สำคัญ และยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะปล่อยสิ้นปีนี้
“ทางบริษัทค่อนข้างคาดหวังกับโปรเจกต์นี้มากนะทุกคน น้ำวิตามินตัวนี้ เราเชื่อว่ามันจะมาพลิกโฉมการดื่มของคนไทย มันเป็นครั้งแรกที่โลกจะได้รู้จักน้ำอัดลมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนั้นแคมเปญนี้ถ้ามันแป้ก จะทำให้ทุกสิ่งที่ทั้งบริษัทเราทำมาสูญเปล่าทันที” บอสพัลลภแผ่รังสีความคาดหวังให้ทีมทุกคนได้รู้สึกหนักไหล่และสันหลังวาบขึ้นมาทันที
“โปรเจกต์นี้ค่อนข้างใหญ่และกระทบภาพขององค์กร งานนี้เลยมีทีมคอร์ปอเรทจากส่วนกลาง ลงมาช่วยดูโปรเจกต์นี้ด้วยนะ”
สิ้นเสียงของบอส ประตูด้านหลังห้องประชุมก็ถูกเหวี่ยงเปิดออก
แน่นอนล่ะ ซีนเปิดตัวของมัน...
.
.
เริ่มจาก เสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งกระทบพื้นหินอ่อน
พวกเขาก้าวเข้าห้องมาจากด้านหลังของซอลที่หมุนเก้าอี้หันกลับไปตามเสียง
เพื่อสบตากับชายคนที่ควรจะเป็นคนแปลกหน้า
แต่แววตานี้คุ้นตาราวกับภาพเดจาวู
.
“ในที่สุดก็ได้เจอซักที… คุณซอล รพีพงษ์”
.
.