หากคุณชอบหอมหวานของเรื่องราวรักโรแมนติก การพบเจอ การงอนง้อที่แสนหวาน คุณจะตกหลุมรักเรื่องนี้ หากคุณชอบความดราม่า ความคมคาย เงื่อนงำ เรื่องนี้จะพาคุณค่อยๆ ดำดิ่งลงไปในลูปวังวนที่บีบหัวใจจนบทสุดท้าย นิยายวายใน concept เก๋ๆ ว่าด้วยเรื่องลูปเวลา ซึ่งก็คือ วังวน ซ้ำๆ ของการวนลูปกลับไปแก้ไขอดีตของนายเอกที่คิดว่าพระเอกขับรถชนตาย โดยแม้ว่าจะกลับมาใหม่ เขาก็คงยังติดอยู่ในวังวนเกิดตายซ้ำๆ แต่ยิ่งวนเวียนเท่าไหร่ ความลับและปริศนาใหม่ๆ จะยิ่งเพิ่มพูนไป พร้อมๆ กับความหอมหวานของความรักที่ค่อยๆ เบ่งบาน

loveloop : รักติดลูป - ตอนที่ 5 Acceptance : ระยะยอมรับ โดย takerukung @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,รัก,ดราม่า,ตลก,คอมเมดี้,อ่านเพลิน,อ่านสบายๆ,boylove ,bl,นายเอกเก่ง,18+,วาย,ออฟฟิศ,น่ารัก,ดรามา,โรแมนติก,พระเอกธงเขียว,พระเอกขี้หึง,พระเอกคลั่งรัก,ย้อนเวลา,ย้อนกลับมา,ดราม่า,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

loveloop : รักติดลูป

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,รัก,ดราม่า,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

คอมเมดี้,อ่านเพลิน,อ่านสบายๆ,boylove ,bl,นายเอกเก่ง,18+,วาย,ออฟฟิศ,น่ารัก,ดรามา,โรแมนติก,พระเอกธงเขียว,พระเอกขี้หึง,พระเอกคลั่งรัก,ย้อนเวลา,ย้อนกลับมา,ดราม่า,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

หากคุณชอบหอมหวานของเรื่องราวรักโรแมนติก การพบเจอ การงอนง้อที่แสนหวาน คุณจะตกหลุมรักเรื่องนี้ หากคุณชอบความดราม่า ความคมคาย เงื่อนงำ เรื่องนี้จะพาคุณค่อยๆ ดำดิ่งลงไปในลูปวังวนที่บีบหัวใจจนบทสุดท้าย นิยายวายใน concept เก๋ๆ ว่าด้วยเรื่องลูปเวลา ซึ่งก็คือ วังวน ซ้ำๆ ของการวนลูปกลับไปแก้ไขอดีตของนายเอกที่คิดว่าพระเอกขับรถชนตาย โดยแม้ว่าจะกลับมาใหม่ เขาก็คงยังติดอยู่ในวังวนเกิดตายซ้ำๆ แต่ยิ่งวนเวียนเท่าไหร่ ความลับและปริศนาใหม่ๆ จะยิ่งเพิ่มพูนไป พร้อมๆ กับความหอมหวานของความรักที่ค่อยๆ เบ่งบาน

ผู้แต่ง

takerukung

เรื่องย่อ

นิยายที่ผูกเรื่องมาเป็นอย่างดีใน concept เก๋ๆ ว่าด้วยเรื่องลูปเวลา ซึ่งก็คือ วังวน ซ้ำๆ ของการวนลูปกลับไปแก้ไขอดีตของนายเอก "ซอล" ที่คิดว่าถูกพระเอก "ศศิน" ขับรถชนตาย โดยนายเอกได้มีโอกาสกลับไปใหม่ใน 3 เดือนก่อนหน้าการตายนั่น


แม้ว่าจะกลับมาใหม่ เขาก็คงยังติดอยู่ในวังวนเกิดตายซ้ำๆ


แต่ยิ่งวน ก็ยิ่งได้เบาะแสใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาในทุกๆ ตอน ทำให้จากที่ดูเหมือนนิยายโรแมนติกคอมเมดี้ทั่วไป
คุณจะพบว่านิยายเรื่องนี้กำลังพาคุณดำดิ่งลงไปในห้วงอารมณ์ที่หลากหลายพร้อมกับตัวละครในทุกลูป

นอกจากนี้ Loveloop ยังเต็มไปด้วยการหยิบยกเอาสัญญะ วังวนต่างๆ มาใส่เป็นรายละเอียด easter egg เรื่องลูปและประเด็นทางจิตวิทยาที่ได้ซ่อนเอาไว้อย่างกลมกล่อม ตั้งแต่ชื่อตัวละคร ชื่อตอนไปจนถึงแก่นคิดหลักของเรื่อง ทำให้ยิ่งอ่าน ยิ่งรู้ ยิ่งดำดิ่ง จะยิ่งตกหลุมรักเรื่องนี้จนวางไม่ลง

ลองอ่านแล้วคุณจะค้นพบว่า การพยายามหนีออกจากวังวน อาจเป็นการ การกระโจนเข้าสู่อีกวังวนหนึ่งโดยไม่รู้ตัว

สารบัญ

loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 0 Pre Loop,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 1 Shock : ระยะปฏิเสธ,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 2 Anger : ระยะโกรธ,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 3 Bargaining : ระยะต่อรอง,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 4 Depression : ระยะเศร้าโศก,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 5 Acceptance : ระยะยอมรับ,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 6 Re-Loop,loveloop : รักติดลูป-Special loop ตอนพิเศษ : ความลับชื่อตัวละคร,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 7 Reshock : ระยะช๊อค..อีกครั้ง,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 8 Re Anger : ระยะโกรธอีกที,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 9 Re Bargaining : ระยะต่อรองอีกหน,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 10 (NC18+) Re Depression : ระยะพายุดีเปรสชั่น (ที่ไม่ได้แปลว่าเศร้าแต่แปลว่าแซ่บ),loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 11 Re Acception : ยอมรับกันใหม่,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 12 Loop Breaking,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 13 Attraction : ระยะดึงดูด,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 14 Reality : ระยะเผชิญความจริง,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 15 (NC18+) commitment : ระยะผูกพันธ์ (พันกันนัว 18+ จ้า),loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 16 Intimacy : ระยะใกล้ชิด,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 17 Engagement : ระยะผูกมัด,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 18 Infinity : ตลอดกาล,loveloop : รักติดลูป-Special Loop II ลูปพิเศษ - เบื้องหลังลูป,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 19 Zero : สูญ,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 20 Horizon : เส้นตรงทรงกลม,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 21 Ripple : กระเพื่อม,loveloop : รักติดลูป-ตอนที่ 22 (ตอนจบ) Pi π : 3.14

เนื้อหา

ตอนที่ 5 Acceptance : ระยะยอมรับ

เปรี้ยง!



นั่นไงกูว่าแล้ว!! ฟ้าผ่าเลยมึง!

ซอลรีบผละตัวถอยออกจากร่างใหญ่ตรงหน้า

“มึงทำไรเนี่ย!” คนถูกขโมยจูบโวยวายหนัก

ศศินยิ้มกริ่ม “มึงจะได้เข้าใจไง ว่ากูไม่ฆ่ามึงหรอก”

“ไม่มีทาง! มึงเกลียดกูไม่ใช่เหรอ เลิกปั่นหัวกูได้ละ กูรู้ทัน”

“กูเคยพูดเหรอ? เท่าที่รู้กูแค่หมั่นไส้อารมณ์ร้ายๆ ของมึงแค่นั้น” ศศินพ่นลมขำออกมา “น่ายั่วโมโหเล่นดี”

“มึงไม่ต้องพูดพล่ามเลย กูรู้ว่ามึงมาจับผิดกูที่แผนก แถมยังไปรายงานผู้บริหารอีก”

ศศินขำในลำคอ “กูจะบอกอะไรให้นะซอล ถ้ามึงเลิกนิสัยชอบตีความมโนไปเองของมึงไปได้เนี่ย ชีวิตมึงจะสงบสุขมากกว่านี้” ชายหนุ่มส่ายหน้าแบบไม่ไหวจะเคลียร์ “เห็นกูเดินมามืดๆ ก็หาว่ากูจะฆ่าบ้าง แล้วนี่ไปได้ยินอะไรมาถึงหาว่ากูเกลียดจนอยากทำลายมึง”

ไอ้หมาป่าโน้มตัวเขาหาซอล พร้อมเอามือจับคางมาเกตติ้งหนุ่มเชยขึ้นมาใกล้ๆ “เท่าที่กูรู้ มึงเองต่างหากที่ทำตัวไม่น่ารักกับกูก่อน”

ซอลปัดมือทิ้ง พลางหลบตายั่วโมโหคู่นั้น เออว่ะ เป็นมันเองที่เกรี้ยวกราดใส่ไอ้ศศินก่อนเพราะรู้ว่าเดี๋ยวไอ้ตัวใหญ่นั่น มันจะเป็นคนทำให้ซอลต้องตาย ทั้งๆ ที่ตอนที่เจอมันครั้งแรกนั้น ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ

“ไม่รู้หละ.. มึงรีบนอนเลยนะ!”

ซอลที่ตอนนี้หูแดงก่ำรีบล้มตัวนอนเอาผ้าคลุมโปง เพื่อจะหลบสายตาเจ้าเล่ห์ของอีกคนในห้อง

ภายใต้ผ้าห่ม ใบหน้าที่แดงระเรื่อครุ่นคิดสับสนไม่หยุดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

…เมื่อกี๊มันอะไรกัน!…

ทำไมคนที่ดูจะเกลียดกันเหมือนจะฆ่ากันได้ จู่ๆ ถึงได้พุ่งตัวมาจูบ

หรือมันเป็นแผนให้ตายใจ?

คนคนนี้จะไว้ใจได้จริงๆ เหรอ

ในเมื่อความจริงที่มันเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ซอลประสบเองเต็มสองตา

ซอลที่นอนไม่หลับหันหลังให้กับศศินที่นอนอยู่อีกฝั่งของเตียง 6 ฟุต ที่ดูจะเล็กลงถนัดตาถ้าเทียบกับร่างของชายสองคน ความครุ่นคิดทำให้มาเกตติ้งหนุ่มขยับตัวกระสับกระส่ายไปมาตลอดคืน จนกระทั่ง..

มือใหญ่ของคนที่นอนข้างๆ เอื้อมมาคว้ามือบางของเขาเอาไว้

นิ้วเรียวยาวสอดประสานนิ้วต่อนิ้ว ให้อุ้งมือแนบชิดส่งความอบอุ่นให้มือสั่นเทานั่นสงบลงพร้อมพายุความคิดในหัวชายหนุ่มค่อยๆ ดับไปกลายเป็นเสียงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นมาแทนที่

ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด

คำคำนี้น่าจะบรรยายความรู้สึกของซอลได้ดีที่สุด ในตอนนี้ที่เขารู้สึกสงบและปลอดภัยขณะนอนจับมือแน่นอยู่ข้างๆ ศศิน ไอ้หมาจิ้งจอกคนนี้ จนผล็อยหลับไป



เช้าวันรุ่งขึ้นซอลตื่นมาด้วยเสียงไก่ขันที่ดังมาจากฟาร์มไก่ข้างๆ งัวเงียตื่นขึ้นมาก็พบว่า ศศินคงตื่นและออกไปข้างนอกก่อนแล้ว “ทำไมไม่รู้จักปลุกวะ”

ซอลเด้งตัวรีบอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนออกไปพบว่าศศินกำลังนั่งกินข้าวเช้าอยู่กับป้าพิณลุงศร

“เอ้าคุณซอล มาๆ กินข้าวกัน” ป้าพิณเรียกซอลพร้อมตักข้าวต้มร้อนๆ วางไว้ตรงที่ว่างข้างๆ ศศิน ซอลจำต้องหย่อนตัวนั่งตรงที่ว่างนั้น ในขณะที่ศศินส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองมาพร้อมๆ กับเอามือขวาของตัวเองที่เท้าคางอยู่เลื่อนขึ้นมาตรงปากและจุ๊บเบาๆ พร้อมหอมดมยั่วโมโหซอลเล่นๆ

.

มือนั้นที่นอนจับกันทั้งคืน

.

ซอลแก้มแดงระเรื่อรีบจ้วงข้าวต้มใส่ปาก ก่อนร้องลั่นเพราะมันร้อนจนแทบลวกลิ้น

ศศินขำเบาๆ “อย่ามัวแต่เล่น.. รีบกิน เดี๋ยวไปบ้านโน้นกัน”



หลังจากทานข้าวกันเสร็จ ศศินและซอลเลือกหยิบขวดเครื่องดื่ม Z ที่เหลืออยู่ พากันเดินลัดเลาะไปตามทางที่เดือนมาเมื่อคืน ผ่านคูน้ำที่ตอนนี้เห็นชัดเจนแล้วว่า มันไม่ได้ลึกอย่างที่คิด ความสูงก็แค่ประมาณครึ่งตัวคนแถม ตกลงไปก็แค่ตกน้ำที่ลึกแค่หัวเข่า ไอ้หมาศศินมันดราม่าอย่างกะตกเหว

“ก็มันมืดนี่หว่า” มันแก้ตัวใหญ่

เลยจากคูน้ำนั่นไปก็ถึงท้ายไร่ เป็นบ้านหลังเล็กๆ ของคนงานที่มีบรรดาเด็กๆ สามสี่คน ทั้งเด็กเล็กวัยรุ่นวิ่งเล่นกันอยู่

“ลูกคนงานของลุงศรน่ะ เมื่อคืนจะเอา product มาให้เขาลองกินกันดู แต่ลื่นซะก่อนตรงนี้” มันชี้ให้ดูหลักฐานรอยโคลนที่ร่างยักษ์ของมันไถลทิ้งไว้ …ถึงว่าจู่ๆ ก็หายวับไปที่แท้ลงไปวัดพื้นเล่นนี่เอง

ซอล อดขำไม่ได้เมื่อนึกถึงภาพไอ้หมายักษ์จอมหยิ่งกลิ้งล้มไม่เป็นท่าตรงนี้

ศศินกระแอมเล็กน้อย ก่อนเดินนำหนีเข้าไปหาเด็กๆ

วัยรุ่นที่ได้ลองชิม Z ต่างก็ถูกอกถูกใจรสชาติของเครื่องดื่มใหม่นี้กันถ้วนหน้า ด้วยความที่ไม่หวานเกินไป แถมยังมีวิตามินดีต่อสุขภาพ มันสามารถเป็นทางเลือกใหม่ให้กับคนที่ติดน้ำอัดลมได้เป็นอย่างดี

“จริงๆ ถ้าเราสื่อสารแบบนี้ออกไป มันดูเป็นนวัตกรรมใหม่ที่แคร์สังคมได้มากเลยนะ” ซอลนั่งดูเด็กๆ พลางคิดถึงโจทย์การตลาดที่เขากำลังจะทำ

“ใช่ไหมล่ะ ถึงบอกไงว่านี่มันก้าวใหม่ของวงการ” ศศินเสริมขึ้น “กูบอกฝั่งบริหารไปแล้วว่าโปรเจคนี้ ให้ขึ้นตรงกับมึงนะ ฝ่ายบริหารจะไม่เข้ามายุ่งกับรายละเอียดแคมเปญ แค่จะช่วยตรวจเช็คในตอนไฟนอลให้เท่านั้นว่ามีอะไรที่เสี่ยงเกินไปไหม”

อ๋อ งั้นที่วันนั้นมันไปนั่งคุยกับคุณนภา ก็เรื่องนี้หรอกเหรอ

“คนเก่ง แม้กระทั่งปากอย่างมึงอะ กูว่าเอาอยู่” ศศินหลิ่วตากวนตีนใส่ซอลต่ออย่างไม่ยั้ง



ซอลมองกลับด้วยสายตายียวน ก่อนหยิบคำคมติดปากของไอ้หมาโบ้มาตอบมัน

“ดีใจที่ได้ยินครับ”



ศศินขำก๊ากกับการเก็บทุกเม็ดแบบไม่ยอมคนของมาเกตติ้งหนุ่มคนนี้



ตกบ่ายวันนั้น ศศินและซอลเก็บข้าวเก็บของและบอกลาคุณลุงคุณป้าก่อนที่จะขึ้นรถขับกลับกรุงเทพ ระหว่างทางกลับกรุงเทพ คนขับที่อารมณ์ดีภายใต้แว่นกันแดดสีดำ โยกตัวเบาๆ ไปกับเพลงที่ดังออกมาจากลำโพงในรถ ในขณะที่แอร์พัดเย็นสบายทำให้ผู้โดยสารที่นอนหลับไม่ค่อยสนิทเมื่อคืน กลับนอนหลับปุ๋ยน่าเอ็นดูบนเบาะที่นั่งข้างคนขับอย่างสบายใจ จนลืมไปแล้วว่าเคยเกลียดและกลัวยานพาหนะคันนี้ หรือชายคนขับคนนี้มากแค่ไหน



เช้าวันต่อมา ซอลตื่นขึ้นบนที่นอนในอพาร์ตเมนต์ตัวเอง โอ้ย! สัปดาห์นี้ไม่ได้หยุดเลยนี่หว่า นี่ต้องแหกตาไปทำงานแล้วเจอกับไอ้ศศินอีกแล้วเหรอ

เพิ่งจะเห็นหน้ามันครั้งสุดท้ายไม่ถึง 24 ชม.เลยนะโว้ย



ว่าแต่

เมื่อซอลลองมาคิดๆ ดูแล้ว

ก่อนตายคราวก่อน ซอลไม่เคยต้องไปต่างจังหวัดกับไอ้ศศินแบบนี้เลยนี่หว่า แสดงว่าคำพูดหรือการกระทำอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไปในคราวนี้ มันส่งผลให้เส้นทางชีวิตเปลี่ยนไปด้วย



งั้นความตายที่ต้องเจอ…

มันอาจไม่มีแล้วก็ได้!!



วันนี้ซอลเลยเข้างานอย่างอารมณ์ดีกว่าที่เคย เขานั่งดูดลาเต้เย็นหวานน้อย ในขณะที่เล่าไอเดียที่ได้จากการลงพื้นที่ให้เหล่าน้องๆ ในทีมฟัง จนกระทั่ง..

กลิ่น Bleu de Chanel ลอยมาเตะจมูก

ซอลรู้สึกถึงความร้อนผ่าวแผ่ซ่านขึ้นมาจากหลัง ไล่ขึ้นมาถึงหูจนแดงก่ำ ก่อนที่หลังจะถอยไปชนกับแผงหน้าอกกำยำของศศินที่ยืนอยู่

“โอ๊ะ พี่ปวดฉี่” ซอลรีบบอกน้องๆ ก่อนวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำไป

ตั้งแต่วันนั้น ไม่รู้เป็นอะไร ซอลยังไม่พร้อมเผชิญหน้ากะไอ้ลูกหมา ไม่กล้าแม้แต่จะสบตา แค่อยู่ใกล้ๆ หรือได้กลิ่นฟีโรโมนจากตัวมันเมื่อไหร่ หน้าก็จะเริ่มแดงจนกลัวว่าคนจะจับได้ทุกครั้ง

ทั้งวันเลยต้องเหนื่อยกับการหลบหน้า หาข้ออ้างไม่ข้องแวะกับไอ้ศศิน จนกระทั่ง

“ผมอยากให้คุณซอลลงไปดูฟุตเทจที่เราถ่ายกันมาที่ห้องตัดต่อกับผมหน่อย” ศศินเดินเข้ามาวางอำนาจเสียงดุที่แผนก ทำให้ซอลต้องเดินตามคำขอร้องกึ่งคำสั่งนั่นลงไปอย่างเสียไม่ได้

ทั้งสองเบียดตัวเข้าไปในห้องแผนกตัดต่อขนาดกะทัดรัด เอี้ยวตัวดูหน้าจอมอนิเตอร์จากด้านหลังคนตัด ในขณะที่ศศินยืนซ้อนหลังซอลอีกทีแล้วเอี้ยวตัวเอามือสอดผ่านไหล่ของคนตรงหน้า ไปทำทีชี้จอสั่งคนตัดโน่นนี่ ยังกะไม่ได้ตั้งใจ จนซอลต้องคอยทำปากไล่ให้ไปยืนไกลๆ ตลอดเวลา

แต่ไอ้ศศินมันยอมซะที่ไหน

ไอ้หมาโบ้ยิ่งโน้มตัวลงมาจนหน้าใกล้กับหน้ามาร์เกตติ้งหนุ่มจนแทบจะติด



ตื้ด… ตื้ด… ตื้ด…

คุณพระ! โทรศัพท์ช่วยชีวิต



ไอ้ดอยโทรมาเพราะหาไฟล์ไม่เจอ

ซอลเลยรีบขอตัวเดินออกไปคุยโทรศัพท์นอกห้อง

หลุดจากเงื้อมมือของสุนัขจิ้งจอกได้อย่างหวุดหวิด



ในที่สุดคลิป PR ก็ตัดต่อเสร็จ ด้วยการใช้คลิปที่ถ่ายจากมือถือของคุณลุงคุณป้าที่เสริมให้มู้ดของคลิปโดยรวมดูมีความจริงใจมากขึ้นมาตัดยำรวมกัน การปล่อยคลิปนี้ออกไปพร้อมคำแถลงการณ์ของบริษัท จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้อย่างแน่นอน



เย็นนั้น หลังจากเรื่องราววุ่นวายของไอ้หมอแก่จบลง ซอลก็เดินทอดน่องกลับบ้านด้วยความสบายใจ เขาไปแวะนั่งจิบเบียร์ในสวนสาธารณะที่เดิม ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นที่ประจำใหม่ของเขาคนนี้ไปแล้ว

ท้องฟ้าสีม่วงค่อยๆ มืดลง พร้อมลมเย็นที่โชยมากระทบหน้า

ทำให้ซอลผ่อนคลายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายเดือน



ทุกอย่างตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไป

แม้แต่..

ตอนที่นึกถึงหน้าไอ้ศศินคราวนี้ มันไม่ใช่อารมณ์โกรธหรือโมโหแบบเดิม

แต่มันเป็นความรู้สึกใหม่

ที่ทำให้หายใจไม่ทั่วท้อง

และหน้าร้อนผ่าว



เหมือนอย่างตอนนี้ ที่จู่ๆ มันก็โทรมา..

“มีไร” ซอลรับสายเก๊กเสียงห้วน

“ถึงห้องยัง”

“ยัง มานั่งเล่นที่สวนอะ มีไร”

“เปล่า กูแค่อยากขอบคุณมึง นึกว่าอยู่แถวที่ทำงานเลยจะชวนไปกินข้าว”

เหอะ.. ไอ้นี่มาไม้ไหนอีกวะ ซอลเดินคุยโทรศัพท์เตร็ดเตร่อยู่ในสวน เดินลึกเข้าไปจนกระทั่งรู้ตัวอีกทีก็อยู่ในมุมมืดไร้วี่แววผู้คน ดีนะที่ยังมีไอ้ศศินคุยเป็นเพื่อน

“มึงมีแผนอะไร กูรู้นะ” ซอลเดินคุยไปเรื่อยๆ จนเริ่มเห็นเงาผู้คนกลุ่มนึง กำลังคุย กันอยู่

เอ๊ะ..หรือจะเป็นเบสต์

ชายในกลุ่มนั้นเหมือนจะสังเกตเห็นซอลและเดินตรงเข้ามาหา



ปรากฏว่า

ไม่ใช่เบสต์



แต่เป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่ซอลจำได้ว่าเหมือนจะอยู่ในกลุ่มที่อยู่กับเบสต์คราวก่อน



ในมือของวัยรุ่นคนนั้น..กำมีดแน่น มันพุ่งตัววิ่งเข้าหาซอล



ฉิบหายแล้ว

ซอลวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ในขณะที่กลุ่มวัยรุ่นที่เหลือวิ่งตามซอลไม่ลดละ

มันต้องทำอะไรผิดกฎหมายอยู่แน่ๆ



เรื่องนี้ซอลเชื่อ 99% ไม่มโนแล้ว



ซอลใช้แรงทั้งหมดที่มีสาวเท้าเร่งความเร็วมุ่งหน้าออกจากสวน

สองข้างทางเปลี่ยวไร้รถและผู้คน

ในขณะที่ซอลจ้ำเท้ามุ่งหน้าไปทางถนนเส้นที่นำไปสู่อพาร์ตเมนท์ของตัวเอง



ซอลสูดลมหายใจหอบ แฮ่ก

พ่นลมแรงในขณะที่กัดฟันวิ่งต่ออย่างไม่หยุดหย่อน

ชีวิตมันผ่านพ้นจุดแย่ๆ มาแล้วไง



มันจะเป็นแบบนี้ไม่ได้

เราจะตายไม่ได้



และแล้วสิ่งที่ซอลไม่อยากเห็นก็มาอยู่ตรงหน้า



รถ Porsche มัจจุราชสีดำคันเดิมขับพุ่งตรงมายังถนนเส้นนี้

สายตาดำกริบของชายร่างใหญ่คนขับจับจ้องมาที่เขาอย่างแน่วแน่

.

ไม่สิมันไม่ได้เป็นสายตาที่จะจ้องเอาชีวิต

มันเป็นสายตา

.

.

ที่มุ่งมั่นมาหาซอล

รถเก๋งคันนั้นพุ่งมาก่อนตบไฟสูงถี่ๆ ราวกับเตือนให้ระวัง

.



โครม!



ร่างสูงเพรียวของชายหนุ่มลอยละล่องอยู่กลางอากาศ เคลื่อนที่ไปตามโมเมนตัมของการกระแทกอย่างรุนแรงจากรถเก๋งสีดำขลับ ที่สะท้อนเงามืดของท้องฟ้ายามราตรี



ก่อนจะทุกอย่างจะดับวูบ ดวงตากลมโตมองลอดผ่านแผงกระจกหน้ารถที่แตกละเอียดไปสอดประสานกับดวงตาดำมืดอันเย็นยะเยือกของชายหนุ่มเจ้าของรถเก๋งคู่กรณี



ดวงตานั้นจับจ้องไปเบื้องหน้า



หากแต่คราวนี้ซอลเพิ่งรู้ว่าเจ้าของดวงตานี้ไม่ได้ “จงใจทำ”



สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในวินาทีนี้ แทนที่จะจ้องเข้าไปในแววตาที่ดำมืดดูไร้วิญญาณนั้น ซอลเลือกที่จะมองไปยังบรรยากาศรอบๆ ตัว จนเจอรถมอเตอร์ไซค์คันโต ที่เพิ่งบิดเซจากการกระแทกคนให้หล่นจากพื้นฟุตบาทไปชนกับรถที่วิ่งมาตรงถนนด้านหน้า

มอเตอร์ไซค์ไร้ป้ายทะเบียน ที่พาเขารับลมเมื่อเดือนกุมภา

ผมยาวที่ปลิวลอดออกมาจากหมวกกันน๊อก

.

.

กับแผ่นหลังของไอ้เบสต์ที่ค่อยๆ ลับหายไปจากโค้งตรงนั้น



ก่อนที่ทุกอย่างจะดำมืดลง..



ภายในรถเก๋งคันนั้น

แววตาดำมืดของคนในรถเก๋งคันดำยังจับจ้องที่เดิมไม่ไหวติง

ดวงตาที่เหมือนความรู้สึกถูกเด็ดทิ้งแล้ว หลุดลอยออกไปไกล ค่อยๆ สั่นสะท้าน



ภายใต้แววตาจิ้งจอกนั้น



.. น้ำตาสีใสเอ่อล้น

หยดไหลเป็นทางหล่นร่วง

จากใบหน้าที่ช๊อคนิ่ง ไม่ไหวติง