เธอกลับมาเพื่อแก้แค้นครอบครัว แต่ต้องพบกับผู้หญิงที่จะเปลี่ยนเส้นทางของเธอ ความแค้นเปลี่ยนเป็นความรัก แต่ต้องแลกมาซึ่งความเจ็บปวดของทั้งสองฝ่ายเช่นกัน
รัก,ดราม่า,หญิง-หญิง,โอเมกาเวิร์ส,โรแมนติก ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ร่างสูงของหญิงสาวคนหนึ่งเปิดประตูเดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งที่มีขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป แล้วพบกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่นั่งรออยู่ด้านในห้องนั่งเล่น
"ป๊าสวัสดีค่ะ"
เธอกล่าวคำทักทายชายผู้นั้นแล้วเขาก็ยืนขึ้นกอดเธอด้วยความอบอุ่นไม่นานก็ถอนกอดออกจากกัน
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเรา ตั้งแต่ได้ทุนเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศแล้วทำงานที่นั่น กลับมาคราวนี้สวยกว่าเดิมเลยนะลูกสาวป๊า.."
"ไม่ขนาดนั้นหรอกค้าา.."
"ไม่รู้จะลาออกทำไม มีงานทำที่นั่นก็ดีอยู่แล้ว"
"อยากกลับมาอยู่กับป๊าอ่ะ คิดถึงป๊า.."
กอดผู้เป็นพ่ออีกครั้งด้วยความคิดถึง
“ป๊าว่ามันถึงเวลาที่จะบอกลูกแล้วแหละพชร..”
“บอกอะไรคะ”
“คนที่เป็นพ่อของลูกจริงๆแล้วไม่ใช่ป๊า”
“ป๊าว่าไงนะ!!!”
แสดงสีหน้างุนงงสับสนออกอย่างเห็นได้ชัดเมื่อได้ยินชายผู้ที่ตนเรียกว่าพ่อบอกว่าเขาไม่ใช่พ่อแท้ๆของเธอ
“ได้ยินไม่ผิดหรอก พ่อของลูกจริงๆเค้าคือประธานบริษัทเจเวลรี อันดับต้นๆของไทย”
“ป๊าโกหกเกรซใช่มั้ยคะ”
เธอกล่าวทวนถามให้แน่ใจว่าสิ่งที่พ่อของเธอพูดบอกกับตัวเองนั้นเป็นเพียงแค่การโกหกเท่านั้น
“จริงง..พ่อของเกรซมันขืนใจม้าจนท้อง”
“ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่มีคนนับหน้าถือตา เบื้องหลังมันจะเป็นคนแบบนั้น”
“เกรซ..ไม่ควรจะไปว่าเค้าแบบนั้น ถึงยังไงเค้าก็เป็นพ่อแท้ๆของเกรซ”
พูดตักเตือนลูกสาวไม่ให้มีความคิดโกรธแค้นบุคคลที่ตัวเองพูดพาดพิงถึงเพื่อบอกความจริงที่ปิดบังเอาไว้มาตลอดหลายปี
“พ่อหรออ..ป๊าคือพ่อของเกรซคนเดียว คนอื่นไม่ใช่..”
กล่าวจบก็วิ่งออกไปจากบ้านโดยทิ้งกระเป๋าเดินทางไว้ในบ้านทั้งที่พึ่งจะกลับมาถึงที่นี่เป็นวันแรก แล้วชายผู้นั้นที่เธอเราเขาว่าพ่อก็ค่อยๆเผยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกมา
.
.
.
ร่างเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งก้าวเท้าเดินออกไปจากบริษัทเจเวลรีโดยมีชายหนุ่มร่างสูงเดินนำหน้าออกไป
"วันนี้พี่ธีร์มีประชุมนะคะ พี่จะออกไปไหนไม่ได้ อย่าลืม.."
"พี่ไม่ลืมหรอก แต่พี่จะไม่เข้า.."
ชักสีหน้าตายไม่รู้สึกผิดต่อคำพูดของตัวเองจนเธอต้องคว้าแขนเอาไว้
"พี่ธีร์"
"ทำไม..พี่จะเข้าไม่เข้ามันก็เรื่องของพี่ เธอเป็นแค่ว่าที่คู่หมั้น เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งพี่เข้าใจไว้ซะขวัญกวิน"
กล่าวจบก็กระชากแขนตัวเองออก
"โอเค..! ก็ได้ค่ะ! ยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่แล้ว แต่พี่อย่าลืมว่าพี่เป็นว่าที่รองประธานคนใหม่ ถ้าพี่ยังทำตัวเสเพลแบบนี้ เราก็ไม่ต้องมาคุยกัน"
"เธอเป็นคู่หมั้นพี่นะ"
ทำหน้าโกรธเธอที่เธอกล้าพูดแบบนี้กับตัวเองทั้งที่ตัวเองเป็นถึงคู่หมายหมั้นของเธอ
"แค่ว่าที่..เรายังไม่ได้หมั้นกันจริงๆ ถ้ามันไม่ใช่ความต้องการของพ่อแม่เรา ฉันก็ไม่มีทางหมั้นกับพี่หรอก"
"ก็ลองดู.."
"อายพนักงานบ้าง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมให้ผู้ชายเป็นใหญ่อยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ ไม่ใช่คนหัวโบราณ.."
ขวัญกวินกล่าวบอกจบก็เดินหนีจากชายหนุ่มร่างสูงเข้าไปด้านในบริษัท
.
.
18:57 น.
"เจ้เอกราช..! ช่วยฉันหน่อยสิ"
"อู้ยย!!"
ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านหลังหนึ่งด้วยสีหน้าท่าทางอารมณ์ดี แต่ก็ต้องร้องตกใจหลังจากที่เดินเข้าไปในบ้านแล้วก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่มานั่งเรียกถามตัวเอง
"กลับมาถึงตั้งแต่ตอนไหน แล้วบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกเอกราชให้เรียกว่าเจ้พราวน่ะฮะ เข้าบ้านคนอื่นโดยไม่ขออนุญาตก่อนที่แกเป็นโจนรึไง"
"พึ่งกลับมาวันนี้วันแรก ใครบอกเจ้ไม่เปลี่ยนรหัสผ่านเข้าบ้านเองล่ะ แล้วก็มันยังไม่ชินอ่ะเจ้.."
"เออๆ แล้วจะให้ช่วยอะไรว่ามา.."
แสดงสีหน้าเข้มขรึมจนไม่เหลือร่องรอยยิ้มแห่งความสุขบนใบหน้า
"เจ้ทำงานที่เจเอส กรุ๊ปใช่มั้ยล่ะ ช่วยฝากงานให้ฉันหน่อย นี่นั่นมีตำแหน่งอะไรว่างบ้างมั้ย"
"แล้วงานแกที่ต่างประเทศล่ะ"
ขมวดคิ้วเข้าเป็นปมอย่างสงสัย
"ลาออกแล้ว อยากกลับมาทำงานที่นี่"
"ถ้างั้นมาเป็นเลขาของคุณขวัญกวินเอามั้ยล่ะ เธอหลานสาวท่านประธาน ตอนนี้กำลังหาเลขาใหม่พอดี เดี๋ยวเจ้ช่วยคุยให้น่าจะได้"
"เอาตำแหน่งนี้เลย ขอบคุณนะคะเจ้..รักเจ้ที่สุดเลยค่ะ พรุ่งนี้จะเข้าไปสมัครนะเจ้"
กล่าวจบก็กอดขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า
"จ้าา.."
"คืนนี้ขอค้างคืนด้วยสักคืนนะ"
พชรพูดดังนั้นชายหนุ่มก็ผลักเธอออกทันที
"ไม่ได้..! ไปนอนบ้านแกดิ"
"คืนเดียวเองเจ้.."
"ฉันนัดเด็กไว้.."
"แค่นี้เอง นอนแค่คืนเดียวสัญญาว่าจะอยู่เงียบๆไม่รบกวนเจ้เด็ดขาด"
ยกนิ้วก้อยขึ้นเพื่อทำสัญญา
"แน่นะ"
"แน่.."
"โอเค! งั้นก็ได้..เดี๋ยวเจ้โทรคุยกับคุณขวัญกวินให้"
"ไม่เอาดีกว่า..ไม่นอนที่นี่แระ ไปหาไรหนุกๆข้างนอกดีกว่า ฝากเรื่องงานกรอกใบสมัครให้ด้วยนะ"
กล่าวจบก็ยิ้มหน้าบานก่อนที่จะเดินออกไปจากบ้านของชายหนุ่มคู่สนทนา
.
.
วันต่อมา..
หญิงสาวร่างเล็กนั่งทำงานอยู่หลังโต๊ะทำงานของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ แต่แล้วก็มีสายเรียกเข้าเข้ามาเธอจึงได้กดรับสาย
"ค่ะคุณเอกราช.."
"ท่านประธานเรียกให้มาพบคุณขวัญครับ"
"ตอนไหนคะ"
"ตอนนี้เลยครับ"
"โอเคค่ะ เดี๋ยวขวัญจะไปพบนะคะ"
วางสายแล้วจัดของบนโต๊ะทำงานก่อนที่จะลุกเดินออกไปจากห้องทำงานของตนจนไปถึงห้องของบุคคลที่เรียกพบตน
"ขวัญเองค่ะคุณอา.."
"เข้ามา.."
ขวัญกวินเปิดประตูเดินเข้าไปหาบุคคลที่เรียกพบตนด้านในห้องทำงานของเขาทันทีหลังจากที่ได้รับการอนุญาต
"ยังโอเคที่จะหมั้นและแต่งงานกับธีภพอยู่มั้ย"
ชายวัยกลางคนกล่าวถามจบก็วางปากกาลงจากมือ
".......ก็..! ค่ะ"
"อย่าฝืนใจตัวเอง อาไม่บังคับ..ถ้าไม่อยากหมั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำ"
สิ้นคำบอกกล่าวนั้นเขาก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆตอบกลับมาจากเธอเลยนอกเสียจากความเงียบภายในห้องเพียงเท่านั้น
"อาอยากให้เราได้มีชีวิตอิสระนะ คนดีๆแบบเราไม่ควรคู่กับธีภพ เราควรจะได้เจอกับคนดีๆซะมากกว่าคนแบบธีภพ"
"ใช่ค่ะ!! ขวัญไม่เคยอยากหมั้นหรือแต่งงานกับพี่ธีร์เลย แต่คำมั่นสัญญาของพ่อที่เคยให้ไว้กับคุณอา ขวัญก็ยินดีจะทำตามค่ะ"
กล่าวบอกยอมรับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งขัดกับสีหน้าและสายตาที่บ่งบอกว่าเธอไม่เคยต้องการจะทำตามความต้องการของใคร
"ถ้าพ่อเรารู้ว่าเราต้องแต่งงานกับธีภพไปคงจะไม่สบายใจแน่"
"อย่าพูดถึงเลยค่ะ พ่อขวัญก็ไม่อยู่แล้ว"
ตอบกลับเสียงเรียบนิ่งอีกครั้ง
"ยังไงก็ยืนยันคำเดิมสินะ แต่ถ้าเกิดเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็บอกอาได้เลย"
"ค่ะคุณอา..ขอตัวนะคะ"
เธอกล่าวบอกเขาก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องแต่แล้วชายวัยกลางคนก็เดินตามหลังเธอออกมาด้วยเช่นกัน แต่ชายหนุ่มเลขาที่นั่งทำงานอยู่หน้าถ้าก็กล่าวถามเขาขึ้นมาว่า
"ท่านประธานจะไปไหนครับ"
"คุณนัดคนมาสัมภาษณ์งานด้วยนิ ผมก็เลยจะไปรอฟังด้วยคน เพราะยังไงก็ถือเป็นพนักงานของผมได้เหมือนกัน"
"แต่ผมนัดไว้สิบโมงนะครับ นี่เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมง คุณขวัญกวินจะเป็นคนสัมภาษณ์งานเองครับ"
ผายมือไปที่ขวัญกวินที่พึ่งเดินผ่านออกไป
"อ้าวหรอ..!"
"ว่าแต่ท่านประธานรู้ได้ไงกันครับ"
"ขวัญบอกผมเมื่อคืนน่ะ"
ตอบคำถามชายหนุ่มเลขาของตัวเองแล้วก็เปิดประตูเดินกลับเข้าไปด้านในห้องทำงานอีกครั้ง
.
.
ร่างสูงของพชรก้าวเท้าเดินเข้ามาในบริษัทเจเวลรีด้วยความมั่นใจ แต่นัยน์ตาแอบแฝงไปด้วยความโกรธแค้น แต่แล้วก็ต้องหยุดยืนแล้วเหลียวมองตามหญิงสาวคนหนึ่งที่เดินสวนทางกับตัวเองออกไปด้านนอก ซึ่งเธอมีใบหน้าสวยงามสะดุดตา ไม่ว่าจะมองยังไงก็ยังดูสวยเอามากๆ จึงสามารถดึงดูดสายตามของตัวเองเอาไว้ได้ แต่แล้วจากนั้นพชรรีบดึงสติตัวเองกลับมาแล้วก็รียเดินเข้าไปหาฝ่ายประชาสัมพันธ์
"ขอโทษนะคะ มาสัมภาษณ์งานน่ะคะ ต้องไปรอที่ไหนหรอคะ"
"สัมภาษณ์ตำแหน่งอะไรคะ"
"เลขาค่ะ"
เมื่อได้รับฟังคำตอบดังนั้นพนักงานสาวก็รีบตรวจเช็คขึ้นมูลในคอมพิวเตอร์ในทันที
"ค่ะ!! ขึ้นไปชั้นสามนะคะ จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเดินตรงไป ก็จะพบห้องสัมภาษณ์งานแล้วค่ะ"
ผายมือชี้บอกกับพชรให้เดินไปยังลิฟท์
"ขอบคุณค่ะ"
.
"ทำไมพี่มาเอาป่านนี้ เมื่อวานก็หนีประชุม รองประธานบริษัทเขาทำตัวกันแบบนี้น่ะหรอ แล้วดูสภาพพี่สิ"
ขวัญกวินกล่าวพร้อมกับเงยหน้าขึ้นจ้องมองหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าที่ใบหน้ามีแผลพกช้ำหนึ่งจุด
"หยุดพูดแบบนี้สักทีได้ป้ะ พี่จะมาตอนไหนมันก็เรื่องของพี่ป้ะ ถ้าไม่อยากให้พี่เป็นแบบนี้ก็กลับไปอยู่ที่บ้านดิ"
เขากล่าวทุกถ้อยคำออกมาด้วยความอารมณ์เสียใฟ้กับคำพูดของเธอ
"โอเค..! ได้..วันนี้คุณอาเรียกขวัญไปคุยเรื่องงานหมั้นของเรา"
"ป๊าเรียกเข้าไปคุยหรอ งั้นก็แสดงว่า.."
เขาเริ่มเผยยิ้มหน้าบานออกมาทั้งที่เมื่อกี้ยังแสดงสีหน้าอารมณ์เสียใส่เธอ
"คุณอาถามฉันว่าอยากแต่งงานกับพี่อยู่หรือเปล่า คุณอาไม่ได้บังคับฉันหรอก ไม่อยากให้ฉันแต่งงานกับพี่ด้วยซ้ำ"
"ไม่จริงง..!! ป๊าต้องอยากให้เธอแต่งงานกับพี่อยู่แล้ว เธอต้องพูดว่าอยากแต่งงานกับพี่"
"พี่อย่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ได้ป้ะ"
ขวัญกวินส่ายหน้าเอือมละอายให้กับพฤติกรรมของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเหลืออด
"นี่..!"
กระชากร่างเล็กของเธอเข้ามาหาตัวเอง
"นี่คุณ..!"
เสียงของหญิงสาวร่างสูงซึ่งนั่นก็คือพชรเดินเข้ามาจับมือชายคนนั้นนอกจากแขนของขวัญกวิน
"คุณจะทำอะไร ทำร้ายผู้หญิงหรอ มันไม่ดีเลยนะแบบนี้"
"เธอจะมายุ่งอะไร"
"ทีแรกฉันก็ว่าจะไม่ยุ่งหรอกค่ะ แต่ก็อดที่จะเห็นคุณทำร้ายผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้"
พชรกล่าวจบก็ก้มมองหน้าผู้หญิงที่ตัวเองพึ่งช่วยให้หลุดจากมือของชายตรงหน้าแล้วก็มองชายผู้นั้นต่อ
"อย่ายุ่งได้ป้ะ"
"ไม่ยุ่งก็ได้..! แต่ฉันขอยืมตัวพี่สาวคนนี้นะคะ"
จับแขนหญิงสาวคนนั้นแล้วพาเธอเดินหนีจากไปในจุดที่คิดว่าน่าจะลับตาคนที่สุดแล้ว
"นี่คุณ..! ปล่อยได้แล้ว"
"ขอโทษค่ะ"
พชรรีบปล่อยมือออกจากหญิงสาวที่ตัวเองพาเดินหนีออกมาจากผู้ชายคนนั้นให้เธอหลุดพ้นจากการพันธนาการ
"ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้.."
เธอโค้งคำนับศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอบคุณพชรที่ช่วยตัวเองเอาไว้
"ไม่ป็นไรค่ะ คุณไม่เป็นไรนะคะ ฉันเห็นเค้ากระชากคุณซะแรงเลย"
"ท่านรองก็เป็นคนแบบนี้แหละค่ะ ว่าแต่คุณมาทำอะไรที่นี่คะ"
กล่าวถามอย่างสงสัยเพราะไม่คุ้นหน้าของผู้หญิงตรงหน้าที่พึ่งช่วยตัวเองเอาไว้
"อ๋อค่ะ! ฉันมาสัมภาษณ์งานน่ะค่ะ"
"งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันขวัญกวินค่ะ เป็นผู้บริหารฝ่ายงานออกแบบเครื่องประดับของที่นี่"
"เค้าเป็นใครทำไมทำแบบนี้กับคุณได้ล่ะ"
"ก็..!! เป็นรองประธานแล้วก็ว่าที่คู่หมั้นฉันน่ะค่ะ"
พชรแสดงสีหน้างุนงง ทั้งที่เขาเป็นคนหัวรุนแรงทำไมถึงไม่เลิก จะหมั้นกับเขาทำไม
"งงสินะคะ"
"เอ่ออ..! เปล่าหรอกค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ ฉันต้องรีบไปรอสัมภาษณ์ เดี๋ยวจะไม่ได้งาน พึ่งสมัครแบบออนไลน์ไปเมื่อคืน เช้ามาก็โดนเรียกสัมภาษณ์เลย"
"ฉันไปส่งนะคะ"
"ขอบคุณค่ะ ฉันเกรซค่ะ เกรซ พชร นราศิลป์ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ"
กล่าวบอกจบก็ก้าวเท้าเดินกลับเข้าไปที่หน้าบริษัท และขวัญกวินก็เดินตามไปด้วย
"เป็นคุณเองหรอคะเนี่ยที่คุณเอกราชบอก"
"จำชื่อได้ด้วยหรอคะ"
"ค่ะ!! ก็คุณสมัครเข้ามาเป็นเลขาฉันนี่คะ อีกอย่างเป็นคนที่คุณเอกราชแนะนำมาอีกด้วย ฉันก็เลยนัดสัมภาษณ์เองเลย"
กล่าวบอกด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ แจ่รอยยิ้มเพียงแค่นี้ก็ทำให้ใบหย้าของเธอสวยขึ้นยิ่งกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
"รู้แบบนี้แล้วฉันยังจะได้งานอยู่รึเปล่าคะ ไม่ได้จะทวงบุญคุณนะคะ ฉันแค่กำลังหางานหลังจากเรียนจบเพื่อแบ่งเบาภาระที่บ้าน"
"ก็ต้องดูจากการสัมภาษณ์งานนะคะ"
ส่งยิ้มอ่อนๆให้กับพชร
"ขอบคุณค่ะ"
สิ้นเสียงตอบรับนั้นเธอทั้งสองคนก็เดินเข้าไปด้านในบริษัทด้วยกัน
.
.
หญิงสาวทั้งสองคนนั่งสัมภาษณ์งานกันในห้องสองต่อสองอยู่นานเท่านานจนกระทั่งถึงคำถามสุดท้าย
"คุณพร้อมที่จะเริ่มงานวันไหนคะ"
"ถามแบบนี้หมายความว่า.."
"คุณจะได้ทำงานเป็นเลขาฉันค่ะ"
เธอกล่าวบอกด้วยรอยยิ้มยินดีกับพชรที่เธอจะได้ทำงานเป็นเลขาของตัวเอง
"จะให้ฉันเริ่มงานภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ ฉันพร้อมเสมอทุกเวลา"
"งั้นก็เริ่มพรุ่งนี้เลยนะคะ ช่วงทดลองงานสามเดือน ถ้าพ้นสามเดือนไปแล้วคุณจะได้เงินเดือนเต็มจำนวนค่ะ"
ขวัญกวินกล่าวจบก็ส่งยื่นเอกสารอัตราจ้างเงินเดือนให้กับพชรดู
"ค่ะคุณขวัญกวิน.."
"เรียกขวัญเฉยๆก็ได้ค่ะ วันนี้ก็กลับไปพักผ่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาทำงานนะคะ"
"ค่ะคุณขวัญ.."
พชรตอบรับคำอีกครั้งแล้วขวัญกวินก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วพชรก็ลุกขึ้นยืนตามจากนั้นขวัญกวินก็เดินออกไปจากห้องสัมภาษณ์ตามหลังมาด้วยพชรแล้วก็พบกับชายวัยกลางร่างสูง
"เป็นไงบ้าง"
"นี่คุณเกรซค่ะท่านประธาน..เลขาขวัญ ขวัญจะให้เธอเข้ามาทำงานพรุ่งนี้แทนคนเดิมที่ลาออกไปค่ะ คุณเกรซนี่ท่านประธานธนินค่ะ"
"สวัสดีค่ะท่านประธาน"
พชรยกมือขึ้นไหว้ชายผู้นั้นแล้วจ้องมองเขาด้วยสายตาที่มีความเรียบนิ่งแต่เยือกแข็งและแอบแฝงไปด้วยความเลวร้ายไปด้วยในเวลาเดียวกันไม่วางตา
"ป๊าคะ! จะเที่ยงแล้วไปทานข้าวกันค่ะ พี่ขวัญด้วยนะคะ"
เสียงของหญิงสาวสวมชุดนักศึกษาเดินเข้ามากล่าวชักชวน
"เอาสิ..! วันนี้ทำอะไรมาบ้างเด็กฝึกงานของป๊า"
เขาตอบรับคำและถามคำถามกลับเธอด้วยสายตาที่เอ็นดูรักใคร่
"ทำหลายอย่างเลยค่ะ เมื่อยไปหมดเลย วิ่งวุ่นตั้งแต่เช้า.."
"งั้นขอตัวก่อนนะคะ"
พชรกล่าวแล้วเดินแยกออกไปแล้วแสดงสีหน้าแววตาของผู้ล่าที่อยู่เหนือการควบคุมของใคร
มีความสุขกันจังเลยนะ รอก่อนเถอะ..นี่มันแค่เริ่มต้น รีบเก็บสะสมความสุขเอาไว้ให้มาก ก่อนที่จะไม่มีโอกาส เพราะหลังจากนี้มันคือเกม
.
.
.
19:12 น.
ร่างเล็กของขวัญกวินเดินออกมาจสกห้องนอนไปเปิดตู้เย็นในห้องครัวเพื่อเอาน้ำดื่มออกมาดื่มพร้อมกับคิดภาพย้อนกลับไปเมื่อช่วงเวลาใกล้เที่ยง ซึ่งเป็นภาพของพชรกับชายวัยกลางคนซึ่งเป็นประธานบริษัท
พชรยืนยกมือไหว้ชายผู้นั้นแล้วจ้องมองเขาไม่วางตา ทั้งสีหน้าและแววตาคู่นั้นของพชรนั้นมองดูแล้วก็ช่างยากที่จะหยั่งรู้หรือเดาทางความคิดได้ง่ายๆ
"ทำไมคุณเกรซถึงมองคุณอาด้วยสายตาแบบนั้นกันนะ แววตาที่เหมือนจะโกรธอะไรแต่ก็ไม่ใช่ จะมองแบบปกติธรรมดาก็ไม่ใช่.."
กล่าวถามตัวเองอย่างครุ่นคิดจบก็เก็บขวดน้ำเข้าไว้ในตู้เย็นเช่นเดิมแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอน
.
.
20:21 น.
ร่างสูงของพชรเดินเข้าไปในคลับบาร์แห่งหนึ่งพร้อมแล้วยื่นบัตรสมาชิกให้กับพนักงานแล้วพนักงานก็พาเธอเดินลงไปยังชั้นใต้ดินและพาไปแนะนำให้กับชายคนหนึ่ง
"สวัสดีค่ะ!! เจอกันอีกแล้วนะคะ"
"อะ อ้าวว! สวัสดีครับคุณเกรซ มาเที่ยวที่นี่หรอครับ"
พชรและชายผู้นั้นกล่าวคำสวัสดีและจับมือกอดทักทายกันตามแบบสไตล์ของยุโรป
"ที่จริงฉันมาที่นี่แล้วเมื่อวาน แล้วก็ต้องเรียกว่ามาอยู่ถาวรจะดีกว่านะคะ ยังจำข้อตกลงของเราได้อยู่รึเปล่า"
"แน่นอนสิครับบ!"
"คุณเห็นผู้ชายคนนั้นมั้ย"
เธอชี้นิ้วไปยังโต๊ะพนันโต๊ะนึงที่มีชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาดียืนเล่นพนันอยู่ตรงนั้น
"ธีภพ ลูกชายประธานเจเอส..คุณสนใจหรอ"
"ใช่ค่ะ! สนใจมาก"
มองชายผู้นั้นไม่ลดละสายตา
"ไม่ดีมั้งครับ ไอ้นั่นมันติดหนี้พนันผมอยู่ด้วย"
"งั้นหรอ..! แบบนั้นยิ่งดีเลย"
เผยอยิ้มมุมปากอย่างน่าสยดสยอง
"เซียนพนันอย่างคุณพูดและยิ้มแบบนี้ต้องไม่ใช่เรื่องดีซะแล้วสิ"
"คุณคิดถูกแล้ว สองแสน..หักเงินใช้หนี้ให้ผู้ชายคนนั้นด้วย"
พชรกล่าวพร้อมยื่นแบล็คการ์ดให้ชายคู่สนทนาแล้วยิ้มมุมปากเดินเข้าไปหาชายคนนั้นที่ยืนอยู่ในวงการพนัน
"ขอร่วมวงด้วยคนนะคะ"
.
.
.
https://youtu.be/hIJ9dc8oHHQ
[OPV] ฉันรอพบเธอ LISOO - กลรักเกมลวง [นิยายออนไลน์] BY : SECRET 비밀