เธอกลับมาเพื่อแก้แค้นครอบครัว แต่ต้องพบกับผู้หญิงที่จะเปลี่ยนเส้นทางของเธอ ความแค้นเปลี่ยนเป็นความรัก แต่ต้องแลกมาซึ่งความเจ็บปวดของทั้งสองฝ่ายเช่นกัน
รัก,ดราม่า,หญิง-หญิง,โอเมกาเวิร์ส,โรแมนติก ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"คุณเกรซคะ ขอกาแฟหน่อยค่ะ"
เสียงของขวัญกวินเปิดประตูออกมากล่าววานของพชรที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้องตัวเอง ทำให้พชรวางมือละสายตาจากงานตัวเองแล้วหันไปบอกกับขวัญกวินว่า
"บ่ายมานี้คุณดื่มไปสามแก้วแล้วนะ พอได้แล้วค่ะ ดื่มกาแฟเยอะมันไม่ดีต่อสุขภาพ"
"คุณห่วงฉันเกินหน้าที่แล้วนะคะ"
ก้มหน้ากล่าวบอกพชรที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานน้ำเสียงเรียบนิ่ง
โดนด่าเสือกโดยไม่พูดคำว่าเสือกมันรู้สึกแบบนี้นี่เอง
"โอเคค่ะ! ยังไงคุณขวัญก็ควรจะห่วงสุขภาพตัวเองบ้าง"
เดินไปชงกาแฟให้ตามคำสั่งของขวัญกวินแล้วเอาเข้าไปให้เธอในห้องทำงานของเธอจากนั้นก็เดินกลับออกไป
"ขอโทษนะเมื่อกี้..! ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงแต่ฉันต้องช่วยทุกคนออกแบบงานให้เสร็จทันตามกำหนด"
"ไม่เป็นไรค่ะ แต่ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย"
"สิบสองชิ้นภายในหนึ่งเดือน"
"ถ้าแบบนี้ยังไงก็ไม่ทัน..ใช้งานกันหนักมากเลยนะแบบเนี้ย ทำไมคุณต้องทุ่มเทกับมันขนาดนี้"
พชรขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยขึ้นมา เพราะตั้งแต่เข้ามาทำให้ขวัญกวินก็เห็นเธอเอาแต่นั่งทำงานแทบจะไม่พักบ้างในขณะที่ผู้บริหารหลายๆคนกลับทำตัวชิวๆสบายๆ แทบจะไม่มีงานอะไรให้ดูหรือทำเลยสักอย่าง
"มีหลายชีวิตที่ฉันต้องรับผิดชอบ คุณกลับไปเถอะ ถึงเวลาเลิกงานแล้ว"
ขวัญกวินพูดดังนั้นพชรก็เหลียวมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง
"งั้นคุณเองก็ควรจะกลับเหมือนกัน"
"ฉันจะอยู่ทำงานอีกสักหน่อย"
"งั้นฉันจะอยู่เป็นเพื่อน คุณสั่งฉันไม่ได้แล้ว เพราะหมดเวลางานแล้ว"
พชรพูดดักคอขวัญกวินเพราะรู้ว่ายังไงเธอก็ต้องปฏิเสธคำบอกกล่าวของตัวเองเป็นแน่
"ตามสบายเลยละกันค่ะ"
ก้มหน้าทำงานต่อไป
"นี่ไม่ใช่กาแฟที่ฉันขอนี่"
"นมฉันเอง ดื่มนมดีกว่านะ ดีต่อสุขภาพ.."
กล่าวบอกขวัญกวินพร้อมยกกล่องนมเปล่าให้เธอดูก่อนที่จะเดินอ้อมไปหลังโต๊ะทำงานแล้วหยุดยืนอยู่ข้างเธอ
"คุณกลับบ้านช้าพ่อแม่จะไม่ห่วงหรอ"
กล่าวบอกเพื่อให้ขวัญกวินนึกคิดถึงพ่อแม่ที่รออยู่ที่บ้าน
"ไม่ห่วงหรอก"
เธอไม่รีรอตอบกลับพชรโดยไม่ต้องคิด
"พ่อแม่ที่ไหนจะไม่ห่วงลูก"
พชรพูดเปรียบเปรยด้วยเป็นห่วงเจ้านายที่ไม่ยอมกลับบ้านทั้งที่เป็นเวลาเลิกงานแล้ว
"ท่านเสียหมดแล้ว"
เงยหน้ากล่าวบอกแล้วก้มลงทำงานต่อ ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"......เสียใจแล้วขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่รู้.."
"ไม่เป็นไร"
ขวัญกวินพูดดังนั้นพชรก็ถือวิสาสะเดินอ้อมไปด้านหลังของเธอแล้วยื่นมือลงไปจับเมาท์ปากกาในมือของขวัญกวิน
"คุณจะทำอะไร.."
"ฉันว่าแทนที่จะวาดเป็นสี่เหลี่ยมซ้อนทับธรรมดา ตัดมุมเป็นสามเหลี่ยมจะไม่ดีกว่าหรอคะ"
จับมือขวัญกวินวาดในรูปแบบที่ตัวเองบอกกับเธอ
"มันดูโอเคขึ้นมาเยอะกว่าเดิมเลยอ่ะ ขอบคุณนะคะ"
หันหน้าไปบอกพชรด้วยไม่รู้ว่าเธอก้มหน้าลงมาอยู่ใกล้ๆหน้าตัวเอง จนกลายเป็นว่าตอนนี้ใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ห่างกันแค่ปลายจมูกโด่งเท่านั้น
"ขอโทษค่ะ!!"
รีบถอนตัวถอยห่างออกมาจากขวัญกวินในทันที
"ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ คุณช่วยได้เยอะเลย ฉันนั่งเครียดอยู่ตั้งนานว่าจะทำไงให้ไม่ซ้ำอันเดิม"
"ถ้าไม่ไหวก็พักแล้วค่อยทำต่อ จะได้ไม่เหนื่อยสะสม"
กล่าวบอกกับขวัญกวินด้วยน้ำเสียงสีหน้าและท่าทางที่เป็นห่วงเธอเป็นอย่างมาก
"สรุปใครเป็นเจ้านายลูกน้องกันแน่คะเนี่ย"
"ตอนนี้ไม่มีค่ะ มีแค่..เพื่อน ถ้าคุณไม่รังเกียจกันละก็เรามาเป็นเพื่อนกันนะคะ"
ส่งยิ้มอ่อนๆเพื่อผูกมิตรกับเจ้านายสาวแล้วยื่นมือไปขอจับมือ แล้วขวัญกวินก็ยื่นมือขึ้นไปจับพร้อมรอยยิ้ม
.
.
18:35 น.
"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง.."
"อย่าเอาแต่ทำงานนะคะ พักผ่อนให้มากๆ ไปละค่ะ"
"เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ"
ส่งยิ้มให้กันและกันก่อนที่จะเดินแยกทางกันไปคนละทาง
เมื่อขวัญกวินขึ้นมาจนถึงห้องของตัวเองก็ไปเปิดตู้เย็นหาอะไรทาน
"ไม่เคยใจเต้นแรงแบบนี้มาหลายปีแล้วแฮะ"
พูดกล่าวกับตัวเองด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะหยิบกล่องเนื้อสดออกมาจากช่องฟรีซมาทำอาหารทาน และในระหว่างที่ทำก็นึกถึงตอนที่ตัวเองหันหน้าไปใกล้กับหน้าของพชรไปด้วย
"ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้กันนะ"
ยิ้มกว้างแทบไม่หุบไปเรื่อยๆจนทำอาหารเสร็จก็เดินไปจัดจานแล้วนั่งทานคนเดียวจนเสร็จก็ยังคงคิดถึงเสียงพูดและภาพของพชรเมื่อตอนเย็น แต่ก็ต้องลุกเอาถ้วยจานไปล้างแล้วเข้าห้องนอนไปนั่งทำงานต่อสักพัก
'อย่าเอาแต่ทำงานนะคะ พักผ่อนให้มากๆ'
เสียงคำพูดของพชรที่พูดบอกกับเธอเมื่อตอนก่อนจะแยกจากกันทำให้เธอกดเซฟงานแล้วปิดเครื่องนอนตามคำบอกกล่าวของพชรในทันที
"อย่างน้อยก็เสร็จไปอีกชิ้น รวมเป็นสองชิ้น แล้วค่อยบอกทุกคนในทีมพรุ่งนี้"
พูดกล่าวบอกกับตัวเองก่อนที่จะหลับตาลงนอน
.
.
"กลับช้านะวันนี้ แล้วคืนนี้ไม่ออกไปไหนอีกหรอเรา.."
"ไม่ค่ะ..!!"
กล่าวตอบคำถามผู้เป็นพ่อแล้วก้มหน้าทานข้าวไปยิ้มไป
"เป็นอะไร ป๊าเห็นยิ้มไม่หุบตั้งแต่กลับถึงบ้านจนมานั่งทานข้าวแล้วนะ"
"เปล๊าา..! ไม่มีไรหรอกป๊าา.."
พชรรีบตอบปฏิเสธกลับไปด้วยเสียงสูง
"โกหก..อาการแบบนี้มีความรักชัวร์"
"ก็ไม่เชิงอ่ะป๊าา..ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้กับใครมาก่อนเลยอ่ะ"
พชรตอบยอมรับไปตามตรงเมื่อถูกผู้เป็นพ่อจับจุดได้ อมยิ้มแล้วสักข้าวในจานใหญ่อย่างเก้อเขิน
"ใคร..!"
กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
"เจ้านายที่ทำงาน"
"ถ้าชอบก็จีบเลย ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง"
"จะดีหรอป๊า..เจ้านายเกรซเลยนะ"
พชรกล่าวถามด้วยรู้สึกหวาดหวั่นใจเพราะอีกฝ่ายคือเจ้านายตัวเองที่ต้องทำงานด้วยทุกวันทำงาน
"ถ้าไม่กล้าระวังคนอื่นจะคาบไปกินซะก่อนนะ"
"ค่อยๆเป็นค่อยๆไปละกัน"
"ได้คบเมื่อไหร่พามาให้รู้จักด้วย"
เดินออกจากครัวแล้วกลับขึ้นไปบนชั้นสอง ส่วนพชรก็นั่งทานข้าวต่อไป
.
.
เช้าวันต่อมา..
"สองงานนี้ผมขอก่อนเที่ยงนะคุณเอกราช.."
"ครับบ! ท่านประธาน.."
ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นประธานบริษัทส่งยื่นงานเอกสารพร้อมสั่งงานแล้วก็เปิดกลับเข้าไปในห้องทำงาน ผ่านไปได้ไม่นานก็กลับออกมาอีกครั้ง
"ผมจะออกไปข้างนอก เสร็จแล้วก็เอาเข้าไปไว้เลยนะ"
เขากล่าวบอกแล้วเดินจากไปแต่ยังไม่ถึงนาทีพชรก็เดินเข้ามาหาเลขาของเขา
"ทิ้งงานให้เลขาทำแทน เงินเดือนผู้บริหารสูงขึ้นทุกปีในขณะที่พนักงานระดับล่างมีเรทเงินเดือนเฉลี่ยแล้วปีละเท่าเดิมในทุกๆปี"
"รู้ได้ไง.."
"เก่งมั้งเจ้..เจ้ทำงานที่นี่มากี่ปีแล้วล่ะ"
"จะหกปีเล่า"
ชายหนุ่มเลขาพูดไปก็ยังก้มหน้าทำงานต่อไปโดยไม่หันไปมองหน้าคู่สนทนาเลย
"แล้วเงินเดือนเท่าไหร่ ได้เพิ่มขึ้นมั้ย"
"สามหมื่นสี่เท่าเดิมทุกปี"
"ทั้งที่เป็นถึงเลขาประธานแต่เงินเดือนกลับเท่านั้นตลอด"
พชรกล่าวแล้วส่ายหน้าให้กับจำนวนเงินเดินของรุ่นพี่ตัวเอง
"แกจะสื่อถึงอะไร"
เงยหน้าขึ้นถาม
"ใช้งานเราหนักขนาดนี้แต่ให้เงินเดือนเท่าเดิม ก็หาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองไง"
ฉีกยิ้มมุมปากเหมือนมีอะไรแอบแฝงอยู่ภายในใจ
"นี่แกอย่าไปพูดแบบนี้ให้ใครได้ยินนะ ถ้ามีใครได้ยินเข้าแกได้หมดอนาคตแน่"
พูดกล่าวตักเตือนพชรแต่มีหรือที่พชรจะใส่ใจกับคำพูดตักเตือนนั้นของเขา
"ประเทศไทยเป็นแบบนี้น่ะหรอ"
พูดจบก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของประธานเพื่อเอาแฟ้มงานเอกสารไปวางไว้แล้วเดินอ้อมไปหลังโต๊ะทำงาน
"อีกไม่นานเก้าอี้ตัวนี้จะกลายเป็นของฉัน"
เผยยิ้มมุมปากออกมาแล้วจ้องมองไปที่รูปถ่ายครอบครัวของเจ้าของห้องทำงานนี้
.
.
"ทำต่อตรงนี้ทีค่ะ นึกอะไรได้ใส่เพิ่มเติมลงไปเลยนะคะ"
ขวัญกวินนั่งและเดินดูและทำงานกับลูกทีมของตัวเองไปเรื่อยๆแทบจะไม่หยุดพัก แต่แล้วเธอก็กล่าวบอกกับลูกทีมให้มาช่วยทำงานต่อจากตัวเอง แล้วจากนั้นก็ลุกเดินออกไปด้านนอกห้องออกแบบชิ้นงาน เดินกลับไปที่ห้องทำงานของตน แต่ระหว่างทางก็ไปพบกับเนตรนภาซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษากำลังถือเอกสารลงลิฟต์ไปชั้นลง พร้อมกับเพื่อนของเธอที่เดินมาด้วยกันอีกคน ขวัญกวินจึงรีบเข้าไปช่วยเพราะเอกสารบนมือของเนตรนภามีเยอะเกินไป
"เนตรฟ้า..เดี๋ยวพี่ช่วย"
"ขอบคุณค่ะ!!"
เนตรนภากล่าวแล้วขวัญกวินก็แบ่งเองเอกสารมาจากเธอและเพื่อนแล้วพากันเข้าไปในลิฟต์
"แล้วนี่จะเอาเอกสารเยอะแยะพวกนี้ไปไหน"
ขวัญกวินกล่าวถามเธอทั้งสองคน
"เอาลงไปจ่ายให้แผนกต่างๆข้างล่างค่ะ"
"เยอะขนาดนี้ทำไมไม่มีคนช่วย.."
"เราสองคนอาสาเองค่ะ เห็นทุกคนกำลังยุ่งๆกันอยู่"
เพื่อนของเนตรนภากล่าวบอกแล้วทั้งสามก็เดินออกจากลิฟต์และช่วยกันแจกจ่ายเอกสารให้กับแผนกต่างๆ หลังจากแจกจ่ายเสร็จเรียบร้อยเนตรนภาก็เดินเข้าไปหาขวัญกวินในทันที
"ตอนเที่ยงไปทานข้าวกันมั้ยคะ"
"พี่ต้องอยู่ทำงานกับทีมงานของพี่น่ะ"
"หูวว! น่าเสียดายจัง ตั้งแต่พี่ย้ายออกจากบ้านไปก็แทบไม่ได้ทานข้าวด้วยกันเลย"
แสดงสีหน้าเสียใจและงอนขวัญกวิน
"เอาไว้คราวหน้าละกัน เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"
"โอเค..! ตามนั้นก็ได้ค่ะ"
เมื่อได้รับคำตอบดังนั้นแล้วขวัญกวินก็เดินแยกกลับเข้าไปในลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนแล้วเดินไปที่ห้องทำงานจากนั้นก็หยุดยืนที่หน้าโต๊ะทำงานของพชรซึ่งเป็นเลขาตัวเอง
"คุณเกรซ คุณทำงานที่ฉันสั่งเสร็จรึยังคะ"
"อีกแค่หน้าเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ"
"ถ้างั้นฉันวานคุณไปเอาไอแพดที่คอนโดฉันหน่อยได้มั้ยคะ"
"คุณไว้ใจฉันหรอ ฉันพึ่งมาทำงานกับคุณเองนะ"
"เปล่าค่ะ!"
เมื่อพชรกล้าถามขวัญกวินก็กล้าตอบกลับไปตามตรง
"ถ้างั้นคุณก็ควรจะไปเอง ไม่ควรใช้ใครทั้งที่ยังไม่รู้จักเค้าดีพอนะคะ"
"ดูคุณแล้วคุณไม่น่าจะเป็นคนไม่ดี คงไม่ทำไรพันนั้นหรอกค่ะ"
"ฉันไปเอาให้ก็ได้ค่ะ ขอคีย์การ์ดห้องด้วยค่ะ"
พชรกล่าวขอคีย์การ์ดห้องแล้วขวัญกวินก็หยิบยื่นคีย์การ์ดห้องตัวเองให้
"ชั้นหกห้องหกหนึ่งสองสี่ค่ะ"
ขวัญกวินกล่าวบอกแล้วพชรก็รีบจัดเก็บของและงานบนโต๊ะแล้วลุกเดินไปเอาของที่คอนโดของขวัญกวินตามที่เธอไหว้วาน
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงพชรก็กลับมาพร้อมสิ่งของที่ขวัญกวินไหว้วานให้ไปเอา แล้วเอาไปให้เธอที่ห้องออกแบบเครื่องประดับ และเวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆจนถึงเวลาเลิกงานทุกคนก็ทยอยกลับบ้านกันเรื่อยๆ แต่พชรก็ยังไม่กลับเพราะยังไม่เห็นเจ้านายตัวเองออกมาจากบริษัท จึงได้ยืนรออยู่ด้านหน้าบริษัทจนประธานบริหารสูงสุดของบริษัทนี้เดินออกมา
"ทุกคนกลับไปหมดแล้วนะทำไมเธอยังไม่กลับอีกล่ะ"
เขากล่าวถามพชรอย่างสงสัยเพราะเห็นเธอยืนอยู่หน้าบริษัทไม่ไปไหนด้วยเหมือนยืนรอใครสักคน
"ยังกลับไม่หมดทุกคนค่ะ"
"นี่เลิกงานแล้วจะมีใครอยู่ได้ไง"
"คุณขวัญกวินเจ้านายฉันยังไม่ออกมาเลยค่ะ ฉันก็เลยยืนรอเธอ.."
"ทำไมขวัญถึงยังไม่ออกมา"
"คำถามนี้ท่านประธานควรถามตัวเองมากกว่านะคะว่าทำไม.."
จ้องมองเข้าไปในนัยน์ตาของประธานบริษัทที่ทำงานอยู่อย่างไม่ยำเกรงหรือเกรงกลัวเขาแต่อย่างใด
"เธอเป็นแค่พนักงานไม่มีสิทธิ์ถามฉันแบบนี้ พูดแบบนี้ไม่กลัวโดนไล่ออกรึไง"
กล่าวบอกกับพชรสีหน้าค่อนข้างจะไม่พอใจในคำพูดของเธอ
"ตอนนี้ไม่ใช่เวลางาน ทุกคนเท่ากันไม่มีลำดับขั้นค่ะ ที่คุณขวัญกวินยังไม่ออกมาเพราะเกิดจากงานที่ถูกสั่งเร่งรัดเกินไป ทั้งที่เครื่องประดับชิ้นนึงกว่าจะออกแบบได้มันต้องใช้ระยะเวลาค่ะ"
เมื่อได้ฟังดังนั้นแล้วเขาก็เดินกลับเข้าไปด้านในสักพักก็เดินออกมาพร้อมกับขวัญกวิน
"ทีหลังอย่าอยู่ทำงานเกินเวลาอีกนะ คราวหลังเลขาใหม่เราจะได้ว่าอาไม่ได้"
ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นประธานบริษัทกล่าวบอกขวัญกวินต่อหน้าพชรแล้วเดินไปขึ้นรถกลับบ้าน
"คุณไปพูดอะไรกับท่านประธานคุณเกรซ.."
"ก็พูดไปตามความจริงที่ฉันรู้และเห็นจากคุณมา"
"ขอบคุณนะคะ คุณใจกล้ามากเลย ท่านประธานสั่งลดจำน้ำเครื่องประดับลงให้เหลือเก้าชิ้น"
แสดงสีหน้ายิ้มแย้มขอบคุณพชรจากใจจริง เพราะพชรช่วยให้เธอโล่งไปได้อีกเปลาะนึง
"เก้าชิ้น..! อย่างน้อยก็ลดลงมาสามชิ้น"
"ให้ฉันเลี้ยงข้าวเย็นคุณเป็นการตอบแทนนะคะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เกรงใจคุณขวัญเปล่าๆ"
พชรรีบตอบปฏิเสธขวัญกวินด้วยความเกรงใจเธอ
"ถ้าอย่างงั้นถ้ามีอะไรให้ช่วยให้บอกฉันนะคะ ฉันยินดีจะช่วยเหลือค่ะ"
"ถ้างั้นฉันขอจีบคุณได้มั้ย"
เธอเอ่ยปากขอจีบขวัญกวินโดยตรง แต่กลับมีเพียงแค่ความเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
"คุณณ..!"
"ที่จริงฉันอยากเป็นมากกว่าเพื่อนกับคุณ ฉันรู้สึกชอบคุณตั้งแต่วันที่ฉันมาสัมภาษณ์งานแล้วเจอหน้าคุณตอนที่เราเดินสวนทางกันที่นี่ตรงนี้แล้ว ฉันไม่สนว่าคุณเป็นเจ้านายและไม่สนว่าคุณมีคู่หมายหมั้นกับท่านรองรึเปล่า แต่เพราะฉันรับรู้ได้ว่าคุณไม่ได้มีใจให้กับท่านรอง ฉันจึงอยากจีบคุณ"
"ถ้าคุณจีบฉันติดนะคะ"
ขวัญกวินกว่าแล้วเผยยิ้มอ่อนๆออกมาก่อนที่จะรีบเดินไปยังลานจอดรถแล้วขึ้นรถไปนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในรถคนเดียวอย่างเก้อเขิน แต่พชรก็วิ่งตามไปแล้วเคาะกระจก เธอจึงลดกระจกลงมา
"ฉันไปส่งค่ะ"
.
.
เวลาเดินผ่านไปหลายวันพชรยังคงจีบและคอยใส่ใจดูแลขวัญกวินอยู่เรื่อยๆในตอนที่อยู่นอกเวลางานหรือช่วงพักงาน แต่ต้องคอยระวังไม่ให้มีใครเห็นหรือสังเกตการกระทำที่ผิดแปลกไปกว่าปกติที่เจ้านายกับลูกน้องมีต่อกัน เพราะไม่ต้องการให้ใครมานินทาเอาได้ด้วยจะทำให้ตัวขวัญกวินเสื่อมเสียทางด้านชื่อเสียงเอาได้
ในช่วงเวลาขณะหนึ่งในการทำงานพชรได้ลุกออกจากโต๊ะทำงานเดินไปทางห้องออกแบบเครื่องประดับ ก็เดินไปเจอกับเนตรนภาและเพื่อนของเธอเดินถือกล่องบรรจุเอกสารคนละสองกล่องผ่านมา
"ถืออะไรมาเยอะแยะคะเนี่ย"
พชรเดินเข้าไปหาแล้วกล่าวถาม
"พี่เกรซ..! คือเราสองคนกำลังเดินเอาเอกสารเก่าไปไว้ในห้องเก็บเอกสารน่ะค่ะ"
"แล้วก็ไปเอาเอกสารด้วย"
เพื่อนของเนตรนภาพูดเสริม
"ถ้างั้นพี่ช่วยนะ ท่าจะหนักน่าดู.."
ว่าแล้วก็แบ่งเอากล่องบรรจุเอกสารจากเธอทั้งสองคนมาคนละกล่องโดยไม่รอฟังคำยินยอม จากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปยังห้องเก็บเอกสารแล้วเอากล่องเข้าไปวางเก็บไว้ และในจังหวะที่เดินเอาเข้าไปเก็บขวัญกวินก็เดินมาเห็นจึงได้เดินตามมาดู
ในจังหวะที่เปิดประตูเข้าไปดูก็เห็นพชรกำลังยืนประกบข้างและยื่นมือขึ้นไปหยิบเอาแฟ้มเอกสารลงมาให้เนตรนภาในระยะประชิด เนตรนภาก็ได้เงยหน้าหันขึ้นไปมองหน้าพชร และในขณะเดียวกันก็เป็นเหตุให้ทันสองคนยืนสบตากันแล้วพชรก็ส่งยิ้มอ่อนๆให้ แต่แล้วก็ถอนตัวถอยห่างออกมาแล้วลงมอบแฟ้มเอกสารนั้นให้กับเนตรนภา
"เสร็จแล้วพี่ไปก่อนนะคะ"
เดินออกไปเปิดประตูแล้วพบกับขวัญกวินที่ยืนอยู่หน้าห้อง
"เมื่อกี้..เห็นรึเปล่า"
"ถ้าจะบอกว่าไม่เห็นก็คงจะตอแหลนะคะ"
"มันไม่มีอะไรเลยนะคะ แค่.."
"ฉันรู้ค่ะ ฉันไม่ใช่คนไร้เหตุผลและงี่เง่าหรอกนะ"
กล่าวจบก็เดินก้าวเท้าเดินไปจากหน้าห้องเก็บเอกสารโดยมีพชรเดินตามหลังไปตามสถานะในที่ทำงาน
.
"แก.....! พี่เค้ายิ้มและมองแกแบบนั้นด้วยอ่า"
เพื่อนของเนตรนภากล่าวพร้อมเดินเข้าไปยืนใกล้ๆเธอ
"ไม่มีอะไรมั้งง!! คิดมาก.."
เนตรนภากล่าวตอบแล้วหน้าเริ่มแดงระเรื่อ
"ไม่มากเว้ย สายตาแบบนั้นน่ะ ฉันว่าพี่เค้าต้องชอบแกแน่ๆ"
"ไม่มั้งฟ้า.."
หน้าแดงเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมแล้วรีบยกมือขึ้นมาปิดแก้มตัวเองไม่ให้ใครมองเห็น
"ไม่ชอบแต่หน้าแดงเลยนะแก ถ้าไม่ชอบพี่เค้าจะไม่หยุดค้างจ้องตากับแกขนาดนั้นเนตร ฉันสังเกตหลายครั้งแล้วเวลาเจอแก เชื่อฉัน..! พี่เกรซเค้าชอบแก.."
"แกคิดงั้นจริงๆหรอ"
เนตรนภากล่าวทวนถามเพื่อความแน่ใจ
"ใช่..! เซนส์ฉันบอกไม่ผิดแน่นอน"
.
"แล้วทำไงถึงได้มาช่วยแบบนี้ล่ะคะ"
ขวัญกวินกล่าวถามพชรที่เดินตามหลัง
"กะว่าจะเดินไปหาคุณที่ห้องออกแบบ จะไปถามว่าจะสั่งอะไรมั้ย"
"โทรมาก็ได้นี่"
หันหน้ากลับหลังแล้วเงยหน้าขึ้นบอกกับพชรในขณะที่กำลังเดินไปด้วยกัน
"อยากไปเจอหน้าไงคะ แล้วคุณขวัญล่ะคะ"
พชรกล่าวตอบคำถามแล้วเผยยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา
"จะเดินไปห้องท่านรอง เค้าโทรสั่งให้ไปหา"
"แล้วคุณก็ยอมไป.."
แสดงสีหน้าไม่เข้าใจในการกระทำของเธอ
"ทำไงได้ ตำแหน่งเค้าสูงกว่า.."
"สูงแต่ไร้ความสามารถ"
พชรกล่าวน้ำเสียงเรียบนิ่งและเฉยชา ขวัญกวินเห็นดังนั้นก็ถามกลับไปว่า
"คุณพูดเหมือนไม่กลัวโดนไล่ออกเลยนะ"
"ถ้าโดนไล่ออกแสดงว่าเป็นความจริง เหมือนกินปูนร้อนท้อง แต่ถ้าไม่โดนไล่ออกก็เพราะไม่ใช่อย่างที่ฉันพูด"
พชรกล่าวตอบด้วยสีหน้าและแววตาที่ไม่หวั่นกลัวอะไรเลยทั้งสิ้น
"เป็นคนที่ตรงไปตรงมาดีจังนะ ดูไม่เกรงกลัวอะไรเลย"
"ทุกคนมีสิทธิ์พูดมีสิทธิ์วิจารณ์เท่าเทียมกัน"
เผยยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน