เธอกลับมาเพื่อแก้แค้นครอบครัว แต่ต้องพบกับผู้หญิงที่จะเปลี่ยนเส้นทางของเธอ ความแค้นเปลี่ยนเป็นความรัก แต่ต้องแลกมาซึ่งความเจ็บปวดของทั้งสองฝ่ายเช่นกัน
รัก,ดราม่า,หญิง-หญิง,โอเมกาเวิร์ส,โรแมนติก ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
11:54 น.
"พักทานข้าวกันก่อนเถอะค่ะ ที่โรงอาหารบริษัท มื้อนี้ฉันเลี้ยงทุกคนเอง ไม่ต้องเกรงใจนะคะ"
ขวัญกวินพูดดังนั้นทุกคนก็พร้อมใจกันลุกขึ้นเก็บชิ้นงานให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องทำงานและลงไปด้านล่างพร้อมกับเธอจนไปถึงโรงอาหาร
"จะสั่งอะไรก็สั่งเลยนะคะ แล้วมานั่งทานด้วยกัน"
ขวัญกวินกล่าวบอกแล้วทุกคนก็คุยกันและถามเธอเรื่องอาหารด้วยว่าทานอะไรได้บ้าง แล้วจากนั้นก็แบ่งหน้าที่กันไปซื้อมานั่นทานด้วยกัน แต่หลังจากทานอาหารไปได้ไม่นานสีหน้าของเธอก็ดูไม่สู้ดีสักเท่าไหร่
"อาหารไม่อร่อยหรอครับ"
ชายหนุ่มหนึ่งในทีมงานของเธอกล่าวถาม
"เปล่าหรอกค่ะ! แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย"
"บอกกับพวกเราให้ฟังได้นะคะ"
"เราไม่เอาไปพูดกับใครต่อแน่นอนค่ะ"
หญิงสาวทั้งสองคนกล่าวสมทบกันแล้วขวัญกวินก็เผยยิ้มออกมาอ่อนๆก่อนที่จะพูดบอกออกไปว่า
"แค่ทะเลาะกับท่านรองนิดหน่อย"
"เรื่องเดิมอีกรึเปล่าครับ"
ชายหนุ่มอีกคนกล่าวถามด้วยความสงสัย
"ใช่ค่ะ! แต่ครั้งนี้มันรุนแรงขึ้นจนคิดว่าฉันจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว"
"คุณขวัญคิดถูกแล้วค่ะ คนเรามีขีดจำกัดถ้าถึงที่สุดแล้วก็อย่าไปทน"
"ถ้าเป็นผมนะผมคงจะไม่ยอมทนท่านรองจนถึงตอนนี้"
แสดงสีหน้าจริงจัง
"ฉันไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเองน่ะค่ะ แต่นี่ฉันทนไม่ไหวแล้วจริงก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ"
ขวัญกวินกล่าวจบทุกคนก็ทานอาหารกันต่อไปเรื่อยๆจนเสร็จก็กลับขึ้นไปทำงานกันต่อ
.
.
.
19:24 น.
"ออกมาเจอกันหน่อยมั้ย"
เสียงของธีภพกรอกเสียงผ่านโทรศัพท์หาพชรแล้วเธอก็เผยยิ้มออกมา
"ได้สิคะถ้าท่านรองต้องการ.."
"สามทุ่มเจอกันที่เดิม ผมจะไปรอคุณนะ"
"ค่ะ! ไว้เจอกันค่ะ"
วางสายจากกันแล้วพชรก็กดปริ้นเอกแผนหนึ่งออกมาแล้วเก็บใส่ซองเก็บเอกสารสีน้ำตาล
ทางด้านธีภพเองก็กำลังจะเดินออกไปจากบ้าน แต่ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามากล่าวถาม
"จะไปไหนอีกธีภพ"
"ผมนัดเพื่อนไว้อ่ะป๊า.."
"ไม่ต้องไป อยู่บ้าน.."
ออกคำสั่งเสียงแข็ง
"ป๊าห้ามผมไม่ได้หรอกนะ"
ตอบกลับเสียงเรียบนิ่ง
"เพราะแกทำตัวแบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากให้แกแต่งงานกับขวัญกวินแล้ว"
"ป๊าา..! ป๊าก็รู้ว่าผมชอบขวัญ คนอื่นๆผมก็แค่เล่นๆด้วยไม่ได้จริงจังอะไร"
"ใช่..แกอาจจะเล่นๆ แต่สิ่งที่แกทำตอนนี้มันทำให้ฉันรู้ว่าแกไม่คู่ควรกับคนดีๆอย่างน้องมันเลย"
ชี้หน้าต่อว่าธีภพด้วยโทนเนื้อเสียงประชดประชัน
"ผมลูกป๊านะ"
"ก็เพราะว่าแกเป็นลูกไง"
"คุณหยุดด่าว่าลูกเดี๋ยวนี้เลยนะ"
หญิงวัยกลางคนกล่าวบอกแล้วเดินเข้าไปหาสองพ่อลูก
"ไปเถอะธีร์..เดี๋ยวม้าคุยกับป๊าเอง"
เมื่อได้ฟังดังนั้นแล้วธีภพก็เดินออกไปจากบ้านในทันที
"ก็เพราะว่าเธอเอาแต่ให้ท้ายมันแบบนี้ไงมันถึงได้เป็นแบบนี้"
เขากล่าวออกมาอย่างอารมณ์
"อย่ามาโทษฉันคนเดียวนะ"
"จะไม่ให้โทษได้ยังไง ก็เธอเอาแต่ให้ท้ายและตามใจมัน"
ทั้งสองคนกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของกันและกันแล้วเนตรนภาก็เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยก่อนที่จะหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นมาอีกครั้งพร้อมสีหน้าแววตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม
"ป๊าม้าพอเถอะ บ้านจะไม่เป็นบ้านแล้วนะถ้ายังเอาแต่ทะเลาะกันแบบนี้เพียงเพราะเรื่องพี่ธีร์แบบเนี้ย พี่ธีร์จะเป็นยังไงก็ปล่อยเค้าไปเถอะค่ะ เพราะยังไงคนแบบนี้ก็ไม่มีทางเปลี่ยนนิสัยได้ง่ายๆอยู่แล้ว พนักงานเค้าพูดกันทั่วว่าพี่ธีร์ได้เป็นรองประธานเพราะเป็นลูกป๊า ถ้าบ้านเราไม่มีฐานะทางสังคมก็เป็นคนไม่เอาไหน หางานทำที่ไหนไม่ได้หรอก"
เธอระบายอารมณ์เก็บกดเรื่องพี่ชายของตัวเองออกมาเสียงดังต่อหน้าพ่อและแม่อย่างอัดอั้นใจ
.
.
"รอนานมั้ยคะ"
ร่างสูงของพชรเดินเข้าไปกล่าวถามธีภพที่ยืนรอหน้าสถานที่เริงรื่น
"ไม่เลย..! ผมพึ่งจะมาถึงเหมือนกัน แล้วถทออะไรมาด้วย"
"เดี๋ยวก็รู้ค่ะ เราเข้าไปด้านในกันดีกว่านะคะ"
"ไปสิ"
ธีภพกล่าวแล้วพชรก็เดินนำหน้าเขาเข้าไปด้านใน
"เรามาเล่นเกมกันดีมั้ยคะท่านรอง.."
"เกมอะไรล่ะ จะชวนผมพนันไพ่งั้นหรอ"
"เปล่าค่ะ แต่เป็นเกมที่จะทำให้เราสนุกไปด้วยกันต่างหากล่ะคะ"
พชรพูดกล่าวพร้อมทั้งหยุดยืนแล้วหันกลับไปหาธีภพที่เดินตามหลังแล้วยกมือขึ้นจับหน้าอกของธีภพแล้วลูบไล้ลงมาพร้อมกับยิ้มและส่งสายตาเซ็กซี่ยั่วยวนให้เขาเพื่อกระตุ้นความอยากจนเขาไม่อาจจะทนได้ ยื่นหน้าลงไปหวังที่จะจูบปากเธอทั้งที่มีคนอยู่มากมาย แต่เธอก็รีบยกนิ้วชี้ขึ้นมากันปากของธีภพเอาไว้เสียก่อน
"ไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ อย่าพึ่งใจร้อนสิคะ รออีกหน่อยสิ"
"อะไรกัน"
"ถึงฉันจะชอบท่านรองแต่ฉันก็ไม่ได้ง่ายๆนะคะ รออีกหน่อยสิ เราไปนั่งดื่มกันก่อนดีกว่านะ"
"ก็ได้..!"
ธีภพตอบรับแล้วพชรก็เดินนำเขาไปนั่งโต๊ะที่ว่างไม่มีใครจับจองแล้วพนักงานก็เดินเข้ามาหา
"สั่งอะไรดีคะ"
"แล้วแต่เธอเลย มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง"
กล่าวบอกแล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย
"งั้นรองท้องด้วยไวน์ก่อนมั้ยคะ"
"ได้สิ!"
ตอบรับคำพชรอย่างง่ายดาย
"ขอไวน์ขาวขวดนึงนะคะ แล้วมีABSOLUT 100มั้ยคะ"
"มีครับ"
"เล่นของแรงจังนะเธอ"
"แค่นี้เบาๆค่ะ หรือท่านรองไม่ไหวฉันเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นก็ได้นะคะ"
พชรกล่าวแล้วยิ้มส่งสายเซ็กซี่ให้ธีภพ
"ไม่ต้องเอานี่แหละ เอามาเลยน้อง.."
"รอสักครู่ครับ"
เดินไปรับออร์เดอร์ตามคำสั่งไม่นานก็เอาแก้วและเครื่องดื่มที่สั่งมาเสิร์ฟถึงโต๊ะแล้วเปิดขวดเทใส่แก้วให้
"ฉันไม่ดื่มไวน์นะ เทABSOLUT 100มาเลย"
ธีภพกล่าวแล้วพนักงานก็เปิดขวดเทเครื่องดื่มที่ตัวเองบอกให้ก่อนที่จะเดินไปยังโต๊ะอื่นเพื่อให้บริการต่อ
"เธอไม่เหมาะกับเครื่องดื่มแรงๆแบบนี้หรอกนะ ดื่มไวน์เบาๆจะดีกว่า.."
กล่าวจบก็ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาแล้วยิ้มก่อนที่จะกระดกแก้วดื่มจนหมดแก้วไปในทีเดียว และพชรเองก็แสดงสีหน้าพอใจในสิ่งที่ธีภพทำให้เห็นออกมา จากนั้นเขาก็เทเครื่องดื่มใส่แก้วอีกครั้ง
"ชนแก้วกันค่ะ"
เผยยิ้มอ่อนๆเพื่อเชิญชวนแล้วทั้งสองก็ชนแก้วดื่มกันจนหมดแก้ว พชรก็เปลี่ยนมาเป็นเครื่องดื่มชนิดเดียวกันกับธีภพแต่ก็ค่อยๆจิบไปทีละนิด อีกทั้งยังชายตามองธีภพเรื่อยๆเป็นระยะๆด้วยรอยยิ้มบางๆแล้วก็เทเครื่องดื่มให้เขาใหม่
"ที่จริงท่านรองมีเอกสารที่ต้องเซ็นด้วยนะคะ"
"เอกสารอะไร"
"ไม่รู้สิคะ ฉันรับอาสามาอีกที แล้วก็เอาติดตัวมาด้วยนะคะ เอกสารนี้ไม่ได้เร่งด่วนอะไร"
"แล้วทำไมไม่ให้ผมเซ็นตั้งแต่อยู่ที่บริษัท"
"ก็..! อยากจะเจอและใกล้ชิดกับท่านรองให้มากและนานๆยังไงล่ะคะ"
เมื่อพชรพูดกล่าวบอกกับธีภพแล้วขยับตัวไปนั่งใกล้ๆธีภพ ซึ่งการกระทำเช่นนั้นก็ทำให้ธีภพเผยยิ้มมุมปากออกมา
"งั้นเอามาให้ผมเซ็นตอนนี้เลยมา"
"เดี๋ยวก่อนสิคะ ดื่มต่ออีกสักหน่อยก่อนสิแล้วค่อยเซ็น แล้วจากนนั้นเราไปสนุกกัน"
"แน่นะ"
"แน่สิคะ"
พชรกล่าวบอกแล้วเลื่อนมือตัวเองไปจับมือธีภพพร้อมส่งสายตาหวานเพื่อยั่วสวาทเขา
"ไม่อยากรอแล้วอ่ะ"
ยื่นหน้าเข้าไปหวังจะจูบพชรแต่เธอก็เอนตัวหนีทัน
"รอก่อนสิคะ ให้แก้วนี้และแก้วต่อไปหมดก่อนสิ แล้วเราค่อยไป..ยิ่งเมามันยิ่งสนุกนะ"
"ก็ได้..!"
หยิบแก้วขึ้นมาดื่มแล้วเทใส่อีกครั้งจนเกือบล้นแก้ว
"เหลือให้ฉันบ้างสิคะ"
"ช่วยไม่ได้..เธอไม่รีบ รีบดื่มเองนี่นา"
"ท่านรอง.....เมาแล้วหรอคะ"
"ฉันเนี่ยนะเมา ฉันคอแข็งจะตาย"
"แอลกอฮอล์ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เลยนะคะ ไม่มานี่สิแปลก"
"ก็แค่มึนๆเฉยๆ"
"ถ้าแค่มึนๆเฉยๆงั้นก็ช่วยอ่านและเซ็นให้หน่อยสิคะ"
พชรบอกกล่าวและสังเกตอาการของเขาที่เข้าขั้นเมามากด้วยแอลกอฮอล์ว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์จึงหยิบซองเอกสารออกมาแล้วเปิดเอาเอกสารด้านในส่งให้ธีภพดู สักพักเขาก็เงยหน้าขึ้นมา
"มีปากก..กามั้ย"
"มีค่ะ!!"
ส่งยื่นปากกาให้แล้วธีภพก็รับมาเซ็น
"ท่านรองอ่านดีแล้วหรอคะ"
"แน่นอน..ไปต่อเรื่องของเราดีกว่านะ"
.
.
.
2 วันต่อมา..
08:31 น.
ร่างสูงของพชรก้าวเท้าลงจากซูเปอร์ไบค์คันสีดำแล้วถอนหมวกนิรภัยออกก่อนที่จะถอดกุญแจรถแล้วเดินเข้าไปในร้านคาเฟ่
"ขอชาไทยแก้วนึงค่ะ"
"อินดอร์หรือเอาท์ดอร์คะ"
"เอาท์ดอร์"
"พี่เกรซคะ"
เสียงของเนตรนภากล่าวทักทายพชรที่ยืนสั่งเครื่องดื่มอยู่หน้าเคาน์เตอร์ แล้วพชรก็หันไปหาต้นเสียงที่นั่งอยู่โต๊ะมุมประตูทางเข้า
"อ้าวคุณเนตร.."
เธอกล่าวก่อนที่จะเดินเข้าไปหาเนตรนภา
"มาไกลจังเลยนะคะ"
"ก็กะว่าจะไปดูหนังกับเพื่อนด้วย แล้ววันนี้พี่ว่างมั้ยคะ"
"ค่ะ!! พี่ว่างทั้งวัน.."
กล่าวตอบเนตรนภาสีหน้ายิ้มแย้มและรับรู้ว่าเธอต้องการจะถามไปเพื่ออะไร
"ถ้างั้นไปดูหนังกับเนตรได้มั้ยคะ เพื่อนๆเนตรพาแฟนไปด้วยหมดเลย เหลือแค่เนตรที่ยังไม่มีแฟนคนเดียว"
เป็นไปตามคาดเนตรนภากล่าวพร้อมแสดงสีหน้าท่าทางน่าสงสารให้พชรเชื่อและรู้สึกสงสารแล้วไปกับตน
"สวยขนาดนี้ทำไมยังไม่มีแฟน"
กล่าวถามกลับด้วยสีหน้าประหลาดใจ
"ใครเค้าจะมาชอบเนตร ดูเนตรสิ"
"ก็จริงเนาะ"
พชรกล่าวตอบแล้วยิ้มหัวเราะออกมาเบาๆ
"พี่เกรซ.."
"พี่จะไปดูด้วยเพื่อเป็นการไถ่โทษละกันนะคะ"
ส่งยิ้มให้เนตรนภาอย่างเป็นมิตร
.
.
"ถ้าพี่เค้าไม่ชอบแกเค้าไม่มากับแกหรอกเนตร"
"ใช่! อยู่บริษัทนะพี่เกรซก็มองแกปานจะกลืนกิน"
ฟ้าเพื่อนของเนตรนภากล่าวทบเพื่อนอีกคนที่อยู่ในห้องน้ำด้วยกัน
"พอเลยพวกแกอ่ะ ออกไปได้เล่า เดี๋ยวพี่เกรซกับแฟนพวกแกรอนาน"
รีบเดินออกไปจากห้องน้ำ
"อีกชั่วโมงหนังจะฉาย พวกเราไปซื้อไรทานเล่นๆกันก่อนมั้ย จะได้ไม่เสียเวลาเปล่าๆ"
พชรกล่าวชักชวนทุกคนไปของของว่างทานจนกระทั่งถึงเวลาฉายภาพยนตร์จึงไปดูจนกระทั่งฉายจบก็ได้ออกมาแล้วแยกย้ายกัน
"ให้พี่ไปส่งบ้านมั้ย"
"แค่นี้ก็เกรงใจมากพอแล้วค่ะ"
"ไม่ต้องเกรงใจหรอก เรามันก็คนกันเอง ไปรอด้านหน้านะพี่จะไปเอารถมารับ"
"ก็ได้ค่ะ!!"
เมื่อได้รับคำตอบแล้วก็เดินไปเอารถในที่จอดรถเพียงไม่นานก็ขับออกมาหาเนตรนภาแล้วลงมาใส่หมวกนิรภัยของตัวเองให้เธออย่างใกล้ชิดแล้วก้าวเท้าขึ้นรถอีกครั้ง
"ขึ้นมาเลย"
พชรกล่าวบอกเนตรนภาแล้วเธอก็ก้าวเท้าขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย
"กอดพี่ได้นะ จะได้ไม่ตก.."
กล่าวบอกแล้วค่อยๆบิดรถให้ขับเคลื่อนไปด้านหน้า
.
.
17:15 น.
ร่างเล็กของขวัญกวินก้าวเท้าเดินเข้าไปในคฤหาสน์หลังหนึ่งอย่างคุ้นเคย แล้วคนรับใช้ในบ้านก็เดินเข้ามาต้อนรับเธอพร้อมกับเชิญไปที่ห้องรับแขก และเธอก็เดินนำหน้าคนใช้ของบ้านนี้ไปยังห้องรับแขกก็พบว่ามีธีภพและพ่อแม่ของเขานั่งรออยู่ เธอจึงได้ยกมือขึ้นไหว้และกล่าวทักทาย
"สวัสดีค่ะคุณอา..พี่ธีร์ด้วยนะคะ"
"นั่งลงข้างพี่เค้าสิ"
แม่ของธีภพกล่าวบอกขวัญกวินให้นั่งลงข้างๆธีภพและเธอก็ทำตามคำบอกกล่าว
"กว่าจะกลับมาทานข้าวด้วยกันได้นะ"
ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นพ่อของธีภพกล่าว
"ที่จริงก็มาไม่ได้หรอกค่ะ เพราะงานเยอะ..แต่ว่าสัญญากับเนตรไว้ว่าจะมาทานข้าวด้วยก็เลยพักงานไว้ก่อนแล้วมาค่ะ"
มองหน้าชายผู้นั้นพร้อมอธิบายเหตุผล
"ดีแล้วแหละอย่าทำงานหนักเกินไป อาว่าอาไปช่วยแม่บ้านทำอาหารดีกว่า"
แม่ของธีภพกล่าวบอกแล้วลุกขึ้นยืน
"เดี๋ยวขวัญไปช่วยค่ะ"
ขวัญกวินรีบกล่าวอาสาแล้วยืนขึ้นตาม
"ไม่เป็นไรอยู่คุยกับพี่ตรงนี้แหละ"
กล่าวจบก็ก้าวเดินไปที่ห้องครัว
"อายังไม่ได้อาบน้ำเลย อาเริ่มครั่นเนื้อครั่นตัวแล้วเหมือนกัน"
พ่อของธีภพกล่วบอกแล้วลุกขึ้นเดินตามกันไป
"จะไม่ถามอะไรพี่หน่อยหรอขวัญ"
"ไม่รู้จะถามเรื่องอะไรค่ะ"
ขวัญกวินพูดดังนั้นธีภพก็ยกมือขึ้นหวังจะไปจับมือเธอ แต่เธอก็ยกมือตัวเองหนีไม่ให้เข้าจับ
"แต่ก่อนขวัญยอมให้พี่จับมือ แต่ตอนนี้ทำไมไม่ให้จับ"
"ตอนนั้นกับตอนนี้มันคนละช่วงเวลากัน พอแค่นี้เถอะค่ะ ขวัญไม่อยากอยู่กับคนที่ไม่ได้รัก"
เธอกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วลุกขึ้นยืนก้าวเท้าออกไปจากเขา
"ขวัญกวิน.."
ลุกขึ้นตะคอกเสียงนัยน์ตาแข็งกร้าวแล้วเธอก็หยุดนิ่งแล้วหันกลับไป
"ก็เพราะนิสัยพี่เป็นแบบนี้ไง ถ้าหมั้นแล้วแต่งกันไปฉันจะไม่โดนพี่ทำร้ายร่างกายเพราะอารมณ์ร้ายๆของพี่หรอ ที่ฉันย้ายออกก็เพราะแบบนี้นี่ไง"
ขวัญกวินสุดจะทนระบายความรู้สึกในใจที่อัดอั้นมานานออกมาให้เจ้าตัวได้รับรู้ในสิ่งที่เขาเป็น และในขณะที่เธอกำลังพูดนั้นก็มีหญิงสาวทั้งสองคนเดินผ่านมาได้ยินพอดี
"พี่ขวัญ.."
เสียงของเนตรนภากล่าวแล้วขวัญกวินก็หันไปมองยังต้นเสียง
"ขอโทษนะ วันนี้พี่อารมณ์ไม่ค่อยดี..แล้วคุณเกรซคุณมาที่นี่ได้ไง"
"เจอกันโดยบังเอิญก็เลยมาส่ง แล้วเนตรก็ชวนทานข้าวด้วยกันน่ะค่ะ"
"อ่อค่ะ! พอขอตัวไปช่วยคุณอาในครัวก่อนนะ"
เดินจากทุกคนเดินเข้าไปในครัว และเมื่อทำอาหารเสร็จก็จัดโต๊ะแล้วทุกคนก็ไปพร้อมหน้ากันที่โต๊ะรับประทานอาหาร และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่พชรได้นั่งทานอาหารร่วมโต๊ะกับพ่อแท้ๆของตัวเอง จากนั้นก็เริ่มทานอาหารกันไปเรื่อยๆจนเสร็จเรียบร้อย
"เข้ามาทำงานที่นี่เกือบเดือนแล้วเป็นไงบ้าง"
"ก็ดีค่ะ! ทุกคนในบริษัทเป็นมิตรกันทุกคนไม่มีใครถือตัวเลยค่ะ"
ในขณะที่ตอบคำถามพชรก็คิดเล่นพิเรนทร์ยืนปลายเท้าไปเหยียบเท้าธีภพถึงแม้ว่าเขาจะสีหน้าไม่ค่อยดีออกมาตั้งแต่เริ่มทานข้าวแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ทำให้เขารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาได้ถึงไม่มากแต่ก็ไม่น้อย
"ได้ยินมาว่าเธอเคยเรียนและทำงานที่อเมริกาแล้วทำไมถึงลาออกมาทำงานที่นี่ล่ะ"
"ป๊าฉันไม่ค่อยสบายจะพาไปอยู่ด้วยกันที่นั่นก็ไม่เอา ฉันก็เลยลาออกมาอยู่ดูแลท่านน่ะค่ะ"
"เป็นลูกที่กตัญญูจังเลยนะเธอ.."
แม่ของธีภพกล่าวด้วยสายตาและน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณผู้หญิง"
กล่าวตอบกลับด้วยรอยยิ้มเพื่อหวังจะผูกมิตร
"แล้วขวัญล่ะ พร้อมจะหมั้นกับพี่ธีร์รึยัง"
"......ไม่ค่ะ! ขวัญไม่อยากหมั้นกับพี่ธีร์"
"ยัยขวัญ.."
"ม้า.."
จับแขนผู้เป็นแม่เพื่อห้ามปราม
"ไม่ต้องมาห้ามม้า ทำไมถึงไม่อยากแต่ง เธอยื้อมานานจนถึงตอนนี้แล้วจะไม่หมั้นงั้นหรอ"
ลุกขึ้นยืนต่อว่าขวัญกวินแต่เธอก็ไม่ได้พูดหรือแสดงอาการกิริยาอะไรตอบโต้กลับไป
"ผมเป็นคนบอกให้ขวัญไม่หมั้นเองแหละ ไอ้ธีร์เป็นแบบนี้ผมถึงไม่อยากให้หมั้นและแต่งกันไง คุณไม่ต้องต่อว่าขวัญ"
รู้ช่องโหว่ละสิ ดีแล้วสิที่แกไม่ได้อยู่บ้านนี้เกรซ..
พชรนั่งคิดและนึกสมเพชอยู่ในใจที่พวกเขาทะเลาะกันเพียงเพราะเรื่องแค่นี้ให้กับคนนอกอยู่เธอได้ฟัง
"ฉันว่าฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะ"
พชรกล่าวบอกกับทุกคนแล้วลุกขึ้นยืนก่อนที่จะยกมือขึ้นไหว้ทุกคนตามมารยาทแล้วเดินออกไป
"คุณอาควรถามพี่ธีร์นะคะว่าทำไมขวัญถึงไม่อยากหมั้น"
ขวัญกวินกล่าวบอกกับแม่ของธีภพ
"เธอจะเนรคุณงั้นหรอ ถ้าเธอคิดว่าตัวเองเก่งนักก็ลาออกจากที่นี่ไป"
แม่ของธีภพพูดต่อว่าเธอแล้วลามไปถึงเรื่องที่ทำงานอย่างขุ่นเคืองและอารมณ์เสีย
"มันจะมากเกินไปแล้วนะคุณ นี่ลูกเพื่อนสนิทผมและมีส่วนร่วมในการสร้างบริษัทนี้ขึ้นมา ให้เกียรติหลานผมด้วย"
"เป็นเนตรเนตรก็ไม่เอาเหมือนกัน หรือว่าม้าจะเอา.."
เสียงของเนตรนภาพูดกล่าวเปรียบเทียบกับตัวเอง แต่ขวัญกวินก็นั่งนิ่งไม่ตอบโต้อะไรกลับไปอีกเช่นเดิมแต่เพียงชั่วครู่เท่านั้น
"เสร็จงานนี้เมื่อไหร่ขวัญจะยื่นใบลาออกเพื่อความสบายใจของคุณอาค่ะ"
ขวัญกวินกล่าวบอกเธอซึ่งเป็นแม่ของธีร์ภพและเนตรนภาน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนที่จะลุกเดินออกไปจากห้องทานอาหารและบ้านหลังนี้แล้ววิ่งไปยังรถแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งพร้อมทั้งหยดน้ำตาที่ค่อยๆไหลออกมาอย่างช้าๆจากนั้นก็สตาร์ตเครื่องแล้วขับออกไปด้านนอกคฤหาสน์
พชรที่จอดมอเตอร์ไซค์ดักรออยู่ที่หน้าคฤหาสน์เห็นรถของขวัญกวินขับออกมาก็รีบสตาร์ตเครื่องขับตามหลังเธอไปในทันที