เธอกลับมาเพื่อแก้แค้นครอบครัว แต่ต้องพบกับผู้หญิงที่จะเปลี่ยนเส้นทางของเธอ ความแค้นเปลี่ยนเป็นความรัก แต่ต้องแลกมาซึ่งความเจ็บปวดของทั้งสองฝ่ายเช่นกัน
รัก,ดราม่า,หญิง-หญิง,โอเมกาเวิร์ส,โรแมนติก ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
23:24 น.
"ตั้งแต่กลับมารู้เรื่องจริงก็แทบอยู่ไม่ติดบ้านสักวันเลยด้วยซ้ำ"
"ปกติออกไปไหนกลับไม่เคยเกินห้าทุ่ม หรือถ้าเกินก็จะโทรบอกก่อน แต่นี้เลยเวลามาแล้วทำไมยังไม่กลับอีก"
ชายวัยกลางคนยืนพูดบอกกับตัวเองอยู่ริมหน้าต่างในห้องนอนมืดๆเพราะไม่ได้เปิดไฟ แล้วสักพักก็มีมอเตอร์ไซค์ซูเปอร์ไบค์ขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน เขาจึงเดินกลับไปนอนที่เตียงเพราะบุคคลที่กล่าวถึงกลับมาถึงบ้านแล้ว
ร่างสูงของพชรยืนเปิดประตูบ้านตัวเองแล้วเข้าไปด้านในปิดล็อคประตูให้เรียบร้อยก่อนที่จะเดินขึ้นบ้านไปอาบน้ำนอน
ทางฝ่ายขวัญกวินก็นั่งเครียดเหม่อลอยกับเหตุการณ์ในคืนของวันนี้ในห้องนอนคนเดียว แต่ก็ยังไม่ละทิ้งงานยังทำงานต่อไปด้วยทั้งที่ยังมีอาการเช่นนั้นอยู่จนถึงตีหนึ่งจึงค่อยปิดไฟนอนแล้วตื่นขึ้นมาจัดการธุระส่วนตัวของตัวเองจนเสร็จก็รีบทำอาหารแบบง่ายๆและรวดเร็วประหยัดเวลาทานต่อ ก่อนที่จะออกไปทำงานที่บริษัทแต่เช้า
.
.
08:50 น.
ร่างสูงของพชรเปิดประตูก้าวเดินเข้าไปหาขวัญกวินที่นั่งทำงานอยู่ในห้อง
"คุณขวัญ..!!"
"แปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษให้ฉันและท่านประธานคนละฉบับ ส่งก่อนเที่ยง.."
ขวัญกวินพูดสั่งงานพชรที่พึ่งเดินเข้ามาหาตัวเองเสร็จก็ๆยื่นเอกสารให้ แล้วก็รีบเก็บงานและแล็ปท็อปบนโต๊ะก่อนที่จะลุกยืนแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานของตัวเอง ทิ้งให้พชรยืนอยู่ในนั้นเพียงคนเดียว
"จะไม่คุยกันเลยใช่มั้ย"
พชรกล่าวแล้วหันไปมองตามหลังขวัญกวินแล้วเดินออกไปจัดการชิ้นงานที่เธอมอบหมายให้
.
"กลางเดือนแล้วได้สี่ชิ้นก็ถือว่าเร็วมากแล้วแหละนะ"
เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งกล่าวขึ้นหลังจากที่จัดเรียงรูปภาพเครื่องประดับติดบนบอร์ดเสร็จเรียบร้อย
"เหลืออีกครึ่งเดือนกับอีกห้าชิ้น"
ชายหนุ่มตอบกลับหญิงสาวด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างวิตกกังวลด้วยกลัวว่าจะทำงานไม่ทันวันส่งตามกำหนดวัน
"ต้องทันแหละสัปดาห์สุดท้ายอยู่ถึงเช้า"
หญิงสาวอีกคนตอบกลับ
"พวกเรายังทำแค่นี้ยังแทบจะไม่ไหวเลย แต่คุณขวัญนี่สิ ทั้งช่วยเราทำงานทั้งทำงานตัวเอง แล้วก็มีเรื่องท่านรองอีก มาสลับทำตรงนี้หน่อยสิ ตันแล้วอ่ะ"
ชายหนุ่มกล่าวบอกเพื่อนร่วมงานในทีมแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้
"เดี๋ยวฉันทำต่อเองค่ะ"
เสียงของขวัญกวินเดินเข้ามากล่าวบอกแล้ววางงานและอุปกรณ์ลงบนโต๊ะตัวใหญ่ที่ใช้ร่วมกับทุกคนด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูนิ่งเงียบกว่าปกติ
เวลาเดินผ่านไปค่อนข้างนาน พชรก็ทำงานที่ขวัญกวินสั่งจนเสร็จจึงเอากลับเข้าไปไว้ให้เธอในห้องทำงานดังเดิมแล้วเดินออกมา แต่ยังไม่ทันจะพ้นประตูก็มีเสียงโทรศัพท์สั่นขึ้น พชรจึงเดินกลับเข้าไปดูก็พบว่าธนินซึ่งเป็นประธานบริษัทโทรเข้ามาจึงถือวิสาสะกดรับสายเพื่อฟัง
"ขวัญ..! ยอมรับสายสักที ยังไงอาก็ไม่ให้เราลาออก ไม่ต้องไปสนใจฟังกานดาพูด อย่า.."
พชรกดตัดสายเขาไปก่อนที่เขาจะพูดต่อแล้วกดลบสายนั้นทิ้งก่อนที่จะวางไว้บนโต๊ะทำงานของขวัญกวินดังเดิมแล้วก้าวเดินออกไปจากห้อง เอาเอกสารไปส่งให้ประธานบริษัทที่ตัวเองพึ่งฟังเขาพูดในโทรศัพท์ต่อจนกระทั่งเดินไปถึงห้องเขาก็เปิดประตูเดินเข้าไป
"สีหน้าท่านประธานดูไม่ค่อยดีเลยนะคะ"
"เธอมีธุระอะไร.."
"เอาเอกสารแปลมาให้ท่านประธานตามคำสั่งคุณขวัญค่ะ"
พชรกล่าวบอกชายที่นั่งทำงานอยู่หลังโต๊ะทำงานแล้วจากนั้นก็เดินเอาเอกสารเข้าไปวางไว้บนโต๊ะให้เขา
"ไปทำเรื่องอะไรไม่มีมารึเปล่าคะ"
"เธอไปรู้อะไรมา.."
เขารีบโพล่งปากถามเธออย่างรวดเร็วหลังจากที่เธอพูดจบด้วยคิดว่าเธอรู้เรื่องอะไรของตัวเองจึงได้ถามคำถามกลับไป
"ก็แค่เห็นท่านประธานอารมณ์ไม่ค่อยดีก็เลยลองถามดูน่ะค่ะ"
"เธอนี่ก็ช่างกล้า..เหมือนจะท้าทายฉันเลยนะ เป็นคนตรงๆดี ในเมื่อเธอกล้าถามฉันก็จะบอกให้ว่าคนอย่างฉันไม่เคยทำเรื่องไม่มี ถ้าฉันทำเรื่องไม่ดีฉันคงไม่มีถึงจุดนี้หรอก"
"แน่ใจหรอคะ ว่าไม่เคย.."
พชรเผยยิ้มอ่อนๆออกมาหลังจากพูดจบ
"กล้าดียังไง ล้ำเส้นเกินไปแล้วนะ"
"เปล่านี่คะ แต่คนเราทุกคนก็ต้องเคยทำเรื่องไม่ดีมาบ้างเป็นธรรมดา เว้นเสียแต่ว่าเราจะยอมรับกับสิ่งที่ทำนั้นรึเปล่า ถ้ายอมรับก็จะโล่งไม่ต้องคิดวิตกหรือทุกข์ใจ แต่ถ้าไม่ยอมรับก็พาลแต่ทำให้เสียความรู้สึกวิตกกังวลไปเปล่าๆนะคะ"
เธอกล่าวบอกเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มยิ่งกว่าเดิม แล้วเดินออกไปจากห้องของเขาโดยไม่มีความเกรงกลัวเขาแต่อย่างใด ถึงแม่ว่าเขาจะเป็นถึงประธานบริษัทนี้ก็ตาม
หลังจากที่พชรได้เดินออกไปเขาก็นั่งครุ่นคิดทบทวนไตร่ตรองคำพูดของเธอทุกถ้อยคำที่กลั่นกรองออกมาจากปาก ทุกการใช้น้ำเสียงในการพูดดูไม่กลัวว่าตัวเองจะโดนไล่ออกหรือไม่ที่กล้าพูดและใช้น้ำเสียงแบบนี้กับตัวเองที่เป็นถึงประธานบริษัทที่ถือเส้นชีวิตการทำงานของพนักงานทุกคนอยู่ในมือ
".....เธอเป็นใครกันแน่.."
.
"พ่อลูกนิสัยเหมือนกันไม่มีผิด มุทะลุเหมือนกัน"
พชรยืนกล่าวอยู่หน้าห้องของประธานบริษัทให้เอกราชเลขาของประธานบริษัทนี้ฟังอย่างจงใจเพราะว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางพูดให้ใครฟังต่อ
"ฉันว่าแกแปลกๆนะเกรซ จงใจจะทำอะไรอีก"
"เปล่านี่เจ้..ไปเที่ยวกัน มีไรให้เจ้ดูด้วย"
"อย่าบอกนะว่า..แกจะชวนฉันไปเล่นใช่มั้ย"
เขากล่าวถามเหมือนรู้ว่าพชรจะสื่อถึงอะไร
"ใช่..! ผ่อนคลายๆน่าเจ้ ฉันจ่ายเอง"
"ไม่เอา!! ฉันอยากพักผ่อน..พรุ่งนี้ก็ต้องทำงานอีกวัน เดี๋ยวมาทำงานสายโดนทัณฑ์บนอีก"
เขากล่าวบอกกับพชรแต่มือและสายตายังตั้งหน้าตั้งตาจดงานต่อไป
"แย่จัง..! ทีลูกตัวเองโดดงานทำไมไม่โดดเหมือนพนักงานอย่างเราๆบ้างนะ บริหารได้แย่จริงๆ เสียมาตรฐานหมด ไปละ"
เดินไปจากหน้าห้องของบุคคลที่ตัวเองกล่าวว่าแล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นโบกมือลาชายที่นั่งทำงานอยู่หน้าห้องนั้นกลับไปที่ห้องทำงานเจ้านายตัวเอง
ผ่านไปจนถึงสิบเอ็ดโมงต้นๆขวัญกวินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคนซึ่งนั่นก็คือพชรเลขาของเธอ
"ทำงานที่สั่งเสร็จรึยัง"
"ค่ะ!!"
"ถ้างั้นช่วยลงไปสั่งโกโก้ปั่นสองแก้ว ชายไทยเย็นสามแก้ว กาแฟเย็นสองแก้ว ชาเขียวปั่นอีกสองแก้ว แล้วก็พิซซ่าถาดใหญ่เก้าถาดไม่ซ้ำหน้า เสร็จแล้วเอาขึ้นมาวางไว้หน้าห้องแล้วเคาะประตูทิ้งไว้ ไม่ต้องเอาเข้ามาเดี๋ยวให้คนออกไปเอาเอง ส่วนเงินจะโอนคืนให้"
กรอกเสียงผ่านโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งต่างจากทุกครั้งในเวลาที่พูดคุยกันไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังคนอื่น
"ทำไ..!!"
พชรยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ ขวัญกวินก็ชิงตัดสายทิ้งไปเสียก่อน
พชรจำใจลุกเดินลงไปด้านล่างเพื่อสั่งซื้อสิ่งที่ขวัญกวินโทรมาสั่ง จนเวลาผ่านไปอีกชั่วโมงกว่าพชรก็เดินถือเครื่องดื่มและถาดพิซซ่าขึ้นไปยังชั้นที่ขวัญกวินทำงานอยู่พร้อมกับพนักงานส่งพิซซ่าโดยแบ่งกันถืออย่างละครึ่งจนถึงห้องนั้น เธอก็ทำตามที่ขวัญกวินสั่งทุกอย่างก่อนจะเดินกลับไปพร้อมกับพนักงานส่งพิซซ่า
ในช่วงเวลาบ่ายสองโมงครึ่งขวัญกวินก็เดินกลับมาที่ห้องทำงานตัวเองแล้วหยิบงานที่พชรทำส่งขึ้นมาดูก่อนจะถือเดินออกไปด้านนอก
"ช่วยทำส่งท่านรองอีกชุดนึง"
ขวัญกวินกล่าวสั่งงานพชรอีกครั้งแล้วเอาวางลงบนโต๊ะทำงานของเธอ
"ทำไมไม่สั่งทีเดียวจะได้ทำให้จบตั้งแต่แรก"
"ลืมม!!"
เธอตอบกลับพชรด้วยน้ำเสียงเย็นชาสายตาเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก
"ฉันว่าคุณจงใจมากกว่า"
ลุกขึ้นยืนมองหน้าขวัญกวิน
"มาคุยกันหน่อยมั้ย"
พชรกล่าวแล้วจับข้อมือขวัญกวินพาเธอเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของเธอดังเดิมแล้วล็อกประตูห้องเอาไว้จากนั้นก็เดินไปหยุดที่ใจกลางห้องก่อนที่จะปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
"ฉันต้องทำงานไม่มีเวลามาคุยเล่นกับคุณ ใกล้จะครบกำหนดเข้ามาทุกทีแล้ว"
กล่าวบอกจบก็จะเดินไปเปิดประตูเพื่อออกไปจากห้อง แต่พชรก็รั้งข้อมือเธอเอาไว้อีกครั้ง
"ก็คุณไม่ยอมคุยกับฉันเลย"
"ฉันไม่มีอะไรต้องคุยช่วงนี้ฉันงานยุ่ง"
"ไหนคุณบอกคุณไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผลไง"
พชรกล่าวถามขวัญกวินด้วยเธอกำลังทำตัวย้อนแย้งกับคำพูดที่เคยพูดบอกกับตัวเองเอาไว้
"ใช่..! ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น แต่คุณจีบฉันอยู่แต่คุณก็ทำเหมือนจะจีบเนตรด้วย ฉันเริ่มไม่แน่ใจกับการกระทำของคุณซะแล้วสิ"
ขวัญกวินกล่าวจบก็ก้าวเดินไปด้วยสีหน้าที่ดูสับสนทุกอย่าง แต่ยังไม่ทันจะได้เปิดประตูเดินออกไปจากห้อง พชรก็หันหลังกลับไปหาพร้อมพูดขึ้นว่า
"คุณงอนฉันใช่ป้ะ"
เธอกล่าวถามขวัญกวินเสียงดัง ขวัญกวินจึงหยุดยืนไม่คิดจะตอบโต้อะไรกลับไป
"คุณกำลังงอนฉันที่ฉันไปส่งเนตรที่บ้านเมื่อคืน"
".........ใช่!"
"เย็นนี้หลังเลิกงานจะรอจนกว่าคุณจากเสร็จงาน..ฉันจะง้อให้หายงอนคืนนี้แหละ"
พชรกล่าวบอกขวัญกวินด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง
"อย่าสักแต่พูด ทำให้ได้ก่อนเถอะ"
ขวัญกวินตอบกลับด้วยสีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์ความรู้สึกตอบรับใดๆทั้งสิ้น
"จะพาไปรู้จักป๊าด้วย"
พชรกล่าวและยิ้มออกมาแล้วขวัญกวินก็ก้าวเดินต่อไปอีกทั้งยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกมาไม่ต่างอะไรจากพชร แล้วพชรก็รีบโทรศัพท์ไปหาพ่อของตนเพื่อบอกไปตามที่พูดบอกกับขวัญกวิน
.
.
17:23 น.
"ฉิบหายแล้วมั้ยล่ะ ลืมยาระงับไว้ที่โต๊ะทำงานนี่นา เกือบกลับซะแล้วสิดีนะที่เช็กของดูก่อนอ่ะ"
เสียงเนตรนภากล่าวแล้วเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในตึกใหญ่เพื่อไปเอาโทรศัพท์มือถือ หลังจากที่ได้มาก็เดินกลับไปทางเดิมแต่ก็เห็นขวัญกวินกำลังเดินมาทางนั้น จึงตั้งใจจะเดินเข้าไปหาแต่ก็ต้องหยุดและหลบเพราะได้ยินเสียงของพชรที่เดินตามหลังขวัญกวินพูดว่า
"ไปเถอะนะ ฉันโทรบอกป๊าแล้วด้วย ป๊าอยากเจอคุณมากๆเลยนะ"
แสดงสีหน้าอ้อนวอนต่อเธอ
"ฉันมีงานต้องทำ.."
"พักไว้ก่อนก็ได้นี่ เมื่อวานคุณยังไปทานข้าวที่บ้านท่านประธานได้เลย ส่วนงานฉันจะช่วยคุณทำก็ได้"
พชรกล่าวอ้างหาเหตุผลมาอ้างอิงเพื่อหาทางให้ขวัญกวินยอมไปตอบคำชวนของตัวเองให้ได้ แต่ขวัญกวินก็ตีหน้าตายก่อนที่จะตอบกลับเธอไปว่า
"มันไม่ใช่หน้าที่คุณ.."
"แล้วถ้าเป็นแฟนล่ะจะช่วยทำได้มั้ย"
พชรพูดพร้อมทั้งดึงแขนขวัญกวินให้หันมาหาตนในระยะประชิด
"เรายังไม่ได้คบกัน"
"แล้วจะคบมั้ย"
กล่าวถามย้ำขวัญกวินให้เป็นแฟนอย่างเองจริงไม่คิดพูดเล่น
"ของ่ายไปนะ"
ว่าแล้วเธอก็ก้าวเท้าเดินไปด้านหน้าต่อไป
"แล้วตกลงมั้ยล่ะ"
ตามตื๊อถามตามหลังโดยไม่ย่อท้อ
"ไม่!! คุณพึ่งทำฉันไม่มั่นใจในตัวคุณ"
ขวัญกวินหยุดยืนตอบคำถามพชรอีกครั้ง
"ก็จะพาไปพบป๊าไง จะได้ยืนยันว่าฉันจริงจังจริงๆ"
พชรพูดดังนั้นขวัญกวินก็ก้าวเดินต่อไป
.
"พี่เกรซจีบพี่ขวัญหรอ ....แล้วทำไม"
เนตรนภากล่าวด้วยสีหน้าสับสนนึกพร้อมกับนึกถึงภาพการเข้าหาการกระทำสายตาและรอยยิ้มของพชรที่กระทำต่อตัวเองตลอดระยะเวลาที่รู้จักกัน ถึงแม้ว่าจะรู้จักได้ไม่นานก็ตามแต่ แล้วการกระทำเหล่านั้นมันคืออะไร ในเมื่อพชรกำลังจีบขวัญกวินซึ่งเป็นเจ้านายตัวเอง แต่ก็เหมือนว่าจะจีบตัวเองไปด้วย
"แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร ทั้งเรื่องเมื่อวานอีก"
สิ้นคำพูดนั้นของเนตรนภา ทางด้านขวัญกวินและพชรก็กำลังจะเดินออกไปถึงด้านนอกอาคารบริษัท โทรศัพท์ของพชรก็สั่นขึ้นมาด้วยมีสายเรียกเข้า เธอจึงรีบกดรับสายพร้อมกับเปิดเสียงให้ขวัญกวินได้ฟังด้วยเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่โทรศัพท์เข้ามาหาตน
"ค่ะป๊าา!!"
"จะมาถึงกี่โมง ป๊ากำลังจะสั่งอาหารจากร้านเรามา"
พ่อของเธอกรอกเสียงกล่าวถามผ่านโทรศัพท์ด้วยโทนน้ำเสียงที่ใช้พูดคุยกันตามปกติ
"บอกป๊าว่าไม่ต้องสั่ง.."
ขวัญกวินหยุดยืนแล้วกล่าวบอกพชรอยู่ข้างรถตัวเอง
"ทำไมไม่อ่ะ"
พชรทำหน้าเหวอเมื่อขวัญกวินพูดบอกเช่นนั้น
"จะไม่มาแล้วหรอ"
"เดี๋ยวเราสองคนซื้อไปเองค่ะ"
"เยสส..! ขอบคุณนะป๊าที่โทรมา พี่เค้ายอมไปแล้ว"
ตอบกลับผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงและท่าทางดีใจถึงที่สุด
"อะไร! บ้ารึเปล่า..โอเคป๊าจะรอนะ"
เขากล่าวบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงติดตลกก่อนที่จะวางสายออกจากกัน
"ที่ยอมไปเพราะป๊าคุณหรอกนะ แล้วอยู่ดีๆเรียกฉันพี่.."
"ก็ยังดีนะที่ไป...ตอนเราเจอกันครั้งแรกฉันก็เรียกพี่ ตอนนี้นอกเวลางานฉันขอเรียกพี่ละกันนะ"
"อืออ..ตามใจเลยละกัน"
กล่าวจบก็เดินประตูแล้วเข้าไปนั่งในรถ
.
.
พชรรีบจอดมอเตอร์ไซค์แล้วเดินไปเปิดประตูรั้วบ้านให้ขวัญกวินขับรถเข้าไปจอดด้านในจากนั้นก็กลับไปที่มอเตอร์ไซค์ตัวเองแล้วขับตามเข้าไปในบ้าน และก็ช่วยกันถืออาหารที่ไปซื้อมาเข้าไปด้านใน
"ป๊าคุณอยู่ไหน.."
ขวัญกวินกล่าวถามพชรด้วยไม่เห็นใครอยู่ในบริเวณนี้ที่สามารถมองเห็นได้
"ถามหาทำไมอ่ะ"
พชรทำหน้างงเล็กน้อย
"จะไปไหว้ป๊า"
"ก็พึ่งมาถึงพร้อมกันอ่ะ แต่น่าจะอยู่สวนหลังบ้าน ออกไปประตูครัวก็ได้ เดี๋ยวพาไป.."
"ก็ต้องไปครัวอยู่แล้วมั้ยคะ"
ขวัญกวินกล่าวแล้วพชรก็ยิ้มก่อนที่จะเดินนำเธอเดินไปยังห้องครัว
ทางด้านพ่อของพชรก็เปิดประตูเข้ามาในครัวพอดี ทั้งสามคนจึงได้เจอหน้ากัน
"สวัสดีค่ะ!!"
ขวัญกวินวางของลงบนเคาน์เตอร์ครัวแล้วยกมือขึ้นกล่าวทักทายชายวัยกลางคนที่พึ่งเปิดประตูเดินเข้ามาในครัว
"สะ..สวัสดี"
เขาซึ่งมีบทบาทเป็นพ่อของพชรกล่าวตอบรับด้วยสายตาที่เรียบนิ่งเมื่อเห็นหน้าของขวัญกวิน แต่เพื่อชั่วพริบตาเขาก็เป็นรอยยิ้มสายตาเชื้อเชิญและยินดีที่ได้พบกับบุคคลที่ลูกสาวของตัวเองกำลังจีบ
"คุณเกรซพูดให้ฟังว่าคุณอาไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ คุณอาเป็นไรมากรึเปล่าคะ"
"ไม่ได้เป็นไรมากหรอก แค่ไข้หวัดธรรมดานี่แหละ เรียกป๊าดีกว่านะ"
"เอ่ออ..! ค่ะป๊า.."
"ยินดีที่ได้รู้จักคุณนะ"
เขากล่าวบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเพื่อผูกมิตรไมตรีกับเธอ
"เช่นกันค่ะ ฉันขวัญนะคะ"
"ป๊าชื่อกรนะ"
"ค่ะ!!"
"เกรซ..! ยืนมองอยู่นั่นแหละ มาช่วยคุณเค้าเปิดอาหารและจัดโต๊ะสิ"
"อ๋อค่ะ ค่ะป๊า.."
ตอบรับคำแล้วรีบทำตามที่ผู้เป็นพ่อบอกในทันทีจนกระทั่งเสร็จเรียบร้อยทั้งสามคนก็นั่งทานอาหารด้วยกันไปเรื่อยๆ ทั้งสองคนก็ได้ช่วยกันล้างถ้วนจานแล้วขวัญกวินก็ลากลับ พชรก็อาสาขับรถไปส่งถึงที่คอนโด
"ขวัญกวิน..คู่หมั้นลูกชายมึง แกทำงานที่นั่นสินะเกรซ เป็นอย่างที่คิดไว้..แกจะทำแบบไหนกันนะ"
พงศกรซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของพชรยืนกล่าวและทอดสายตามองไปยังรถคันหนึ่งที่กำลังขับเคลื่อนออกไปจากบ้านของตัวเองผ่านหน้าต่างห้องนอน
.
.
"ขอถือของขึ้นไปส่งบนห้องนะคะ"
พชรที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับกล่าวขอขวัญกวินหลังจากที่จอดรถสนิทในที่จอดรถ
"เอางั้นก็ได้ค่ะ"
เมื่อขวัญกวินอนุญาตแล้วพชรก็รีบเปิดประตูลงจากรถไปเปิดประตูเบาะแล้วถือกระเป๋าแล็ปท็อปและแฟ้มงานออกมา จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปด้วยกัน
"คุณเกรซดูสนิทกับป๊ามากเลยนะคะ"
"ป๊าเล่าให้ฟังว่าแม่ฉันเสียหลังคลอดฉันได้สามวันเพราะครรภ์เป็นพิษไม่หาย ป๊าเลี้ยงฉันมาตั้งแต่เกิดเลย"
กล่าวบอกขวัญกวินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"เสียใจด้วยนะคะ"
"ค่ะ!!"
ทั้งสองคนพูดคุยกันจนขึ้นมาถึงชั้นที่ขวัญกวินพักอยู่ แล้วจากนั้นก็เดินไปที่ห้องของเธอ
"เข้ามาพักดื่มอะไรก่อนมั้ยคะ"
"ไม่ปฏิเสธค่ะ"
ว่าแล้วก็เดินตามขวัญกวินเข้าไปด้านในห้อง และตามธรรมเนียมเจ้าบ้านที่ดี ขวัญกวินวางของไว้บนโต๊ะรับแขกแล้วเดินเข้าครัวไปหาน้ำมาให้พชรได้พักดื่ม
"ขอบคุณค่ะ พี่จะทำงานต่อเลยมั้ย ฉันจะอยู่ช่วยสักพัก"
"ไม่เป็นไร กลับดึกๆมันอันตราย"
ขวัญกวินกล่าวบอกพชรด้วยความเป็นห่วงเธอ อีกทั้งไม่อยากให้เธอกลับถึงบ้านดึกเพราะตัวเอง
"ปกติก็กลับดึกอยู่แล้ว เรียกรถไว้ให้มารับอีกสองชั่วโมงนู่น"
"ถ้าจะนานขนาดนั้นก็นอนที่นี่ไปเลยมั้ย"
"ได้หรอ! งั้นกดยกเลิกเลยละกัน"
ขวัญกวินกล่าวเช่นนั้นพชรก็รีบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเปิดแอพที่ใช้สำหรับเรียกรถในทันที
"นี่..! จะเกรงใจกันบ้างก็ดีนะ"
"หึ! ไม่เกรงใจอ่ะ ใครที่กล้าพูดท้าทายฉัน ฉันก็กล้าที่จะทำตามทุกอย่าง"
พชรกล่าวบอกกับขวัญกวินจบก็กดยกเลิกไปในทันที
"ยกเลิกละ"
"โอเค..! ก็ได้..แต่นอนโซฟาละกันนะ"
"ได้ค่ะ!! ไม่มีปัญหา..นอกจากที่ทำงานแล้วมาส่งที่นี่เราก็ไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันเลย จีบพี่ทั้งทีต้องไม่ได้อยู่ในฐานะเจ้านายลูกน้องสิ"
ว่าแล้วก็ก้าวเท้าเข้าไปหาขวัญกวินอย่างใกล้ชิด
"สรรหาคำพูดเก่งจังเลยนะ"
ขวัญกวินกล่าวพร้อมกับเดินหนีเดินหนีไปนั่งลงบนโซฟา
"ฉันจีบเก่งนะ"
พชรหันหลังตามกลับไปบอกแล้วตามไปนั่งลงข้างๆโดยไม่เกรงใจเธอ
"งั้นก็มีแฟนมาหลายคนแล้วสิ"
"ใช่..! ทั้งชายและหญิง..มีคนที่พี่รู้จักด้วยนะ อยากรู้ป้ะ"
ยื่นหน้าเข้าไปถามขวัญกวินใกล้ๆจนแก้มแทบจะชิดติดกันเลยก็ว่าได้
"ไม่! นั่นมันเรื่องส่วนตัวของคุณ"
"ไม่อยากรู้จริงดิ"
"มันไม่ได้สำคัญอะไร..อดีตส่วนอดีต ปัจจุบันส่วนปัจจุบัน"
ขวัญกวินพูดดังนั้นพชรก็เผยยิ้มจนแก้มปริหน้าบานออกมา เพราะรับรู้จากคำพูดของเธอได้เลยว่าเธอเป็นคนที่รู้จักแยกแยะเรื่องทุกอย่างไม่เอามาปะปนรวมกัน