เธอผู้แหกทุกกฎโรงเรียน แต่คู่หมั้นดันเป็นสภานักเรียนที่เธอโคตรเกลียดและไม่ชอบขี้หน้า

คู่กัด..คู่กัน - Chapter 1 ผิดระเบียบ โดย Secret 비밀 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,หญิง-หญิง,โอเมกาเวิร์ส,มัธยมปลาย,คอมเมดี้,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คู่กัด..คู่กัน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,หญิง-หญิง,โอเมกาเวิร์ส

แท็คที่เกี่ยวข้อง

มัธยมปลาย,คอมเมดี้

รายละเอียด

คู่กัด..คู่กัน โดย Secret 비밀 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เธอผู้แหกทุกกฎโรงเรียน แต่คู่หมั้นดันเป็นสภานักเรียนที่เธอโคตรเกลียดและไม่ชอบขี้หน้า

ผู้แต่ง

Secret 비밀

เรื่องย่อ

สารบัญ

คู่กัด..คู่กัน-Chapter 1 ผิดระเบียบ,คู่กัด..คู่กัน-Chapter 2 โทรศัพท์หาย,คู่กัด..คู่กัน-Chapter 3 ไม่มีทาง..,คู่กัด..คู่กัน-Chapter 4 ดูตัว,คู่กัด..คู่กัน-Chapter 5 เดินห้าง

เนื้อหา

Chapter 1 ผิดระเบียบ




“เชี้ยยย!!!”

คุณอาจจะตกใจกันสินะ ว่าฉันอุทานแบบนั้นออกมาทำไม ตอนนี้ฉันอยู่ในสภาพที่ ‘เปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียวอยู่บนเตียงนั่นแหละ’ และอยู่กับคนที่ฉันเกลียดที่สุดมานอนอยู่ข้างๆกายฉัน ฉันเลยต้องอุทานแบบนั้นออกมา

 เอาล่ะฉันจะเล่าให้ฟังตั้งแต่เริ่มต้นนะ ว่าก่อนที่ฉันจะมาอยู่ในสภาพนี้ ฉันและคนที่นอนอยู่ข้างๆฉันเราเป็นอะไรกันถึงมาอยู่ในสภาพนี้ได้

ฉันชื่อ “นัท นัทธมน” อายุ18ปี ก็ม.6นั่นแหละ ฉันเป็นนักเรียนม.ปลายที่แทบจะไม่ทำตามทุกกฎของโรงเรียนเลยแม้แต่ข้อเดียว แต่ไอ้กฎอะไรนั่นน่ะ ครูเค้าไม่ได้ตั้งเองหรอกนะ ครูฝ่ายปกครองยกให้เป็นหน้าที่ของพวกสภานักเรียนนั่นแหละ 

ส่วนตัวฉันก็ไม่ได้ชอบพวกสภานักเรียนอยู่แล้วด้วยสิ ฉันเลยไม่ทำตามกฎของโรงเรียนที่พวกสภานักเรียนตั้งขึ้นมา และคนที่ฉันเกลียดที่สุดนะ ในกลุ่มสภานักเรียนก็ดันมานอนแก้ผ้าอยู่กับฉันที่ฉันได้เล่าไปตั้งแต่แรกนั่นแหละ ฉันอยากจะร้องไห้จริงๆ (ฮื้อๆ) และมันมีชื่อว่า “เอิร์ท” ชื่อจริงชื่อไรวะ! ขอคิดแปป....อ้ออ! คิดออกละ ชื่อ “พิชญา” อายุ17ปี อยู่ม.5 ห่างฉันแค่ปีเดียวเอง เอออ..ลืมบอกไปมันเป็นผู้หญิงนะ ไม่ใช่ผู้ชายถึงชื่อมันจะเหมือนผู้ชายก็เหอะ

ทุกๆวันฉันมักจะโดนจับตามองจากพวกสภานักเรียนอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะอีเด็กเอิร์ท

ฉันมักจะได้ออกกำลังกายเมื่อเจอพวกสภานักเรียนอยู่เสมออ่ะนะ ที่ว่าออกกำลังกายน่ะ หมายถึง‘วิ่งหนี’นะ ที่วิ่งหนีไม่ใช่เพราะอะไรหรอก..เพราะฉันทำผิดกฎระเบียบของโรงเรียนน่ะสิ ‘ใส่ถุงเท้าสั้น ปล่อยเสื้อลอยชายไม่ยัดเข้าข้างในไม่ผูกโบว์โรงเรียน กระโปรงสั้นกว่ามาตรฐานที่โรงเรียนกำหนด (นิสนึง)’ เลยจะต้องถูกทำโทษ #ไม่นิดล่ะค่ะ!!

แล้วใครจะมายอมให้ถูกจับทำโทษง่ายๆเล่า ฮึ ฮึ!!! รู้จักฉันน้อยไปซะแล้ว ไม่มีทางซะหรอก...แต่ถ้าโดนจับได้ก็ต้องถอดกระโปรงออก แต่เอิร์ทมันก็ดันใจดีพกกระโปรงยาวๆมาให้ฉันยืมใส่ซะด้วย...oh my godddd..! กระโปรงยาววว..ยาวมากกก..!! แต่แค่ฉันคนเดียวนะ หรือเป็นเพราะเราเป็นคู่หมั้นกันมันถึงทำแบบนี้

ทุกวันฉันจะมาโรงเรียนทุกๆเช้า และวันนั้นฉันดันมาสาย ตอนนั้นฉันยังไม่ได้ใส่กระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมามากมขนาดนั้นหรอกนะ ฉันยังใส่ยาวตามที่กำหนดไว้อยู่ แต่ทว่าฉันดันตื่นสายจึงหยิบใส่กระโปรงมาผิดตัวเป็นกระโปรงตอนอยู่ม.2มาซะงั้น (คือเก็บไว้ไม่ได้เอาไปไหน) แต่สายป่านนี้แล้วยังมีพวกสภานักเรียนมายืนรอรับไหว้อยู่อีก ฉันก็มายืนไหว้หน้าโรงเรียนตามปกติ แต่น้องสภาผู้หญิงคนนึงดันพูดขึ้นมาว่า

“ถุงเท้าสั้น..กระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมามากเลยนะ ต้องถอดกระโปรงกับถุงเท้าออก..ไม่ผูกโบว์ผูกผม..เสื้อลอยชายอีกต่างหาก เอาเสื้อเข้าข้างในเดี๋ยวนี้ค่ะ”

“เฮอะะ! อะไรกันน้อง...แค่ถุงเท้าสั้นกระโปรงสั้นแค่นี้ ถึงกับต้องให้ถอดออกเชียวหรอน้อง”

คนอื่นเค้าไม่ว่าอะไร แต่อีพี่สภาคนหนึ่งมันดันพูดขึ้นมาสั่งโน่นสั่งนี่ซะงั้น

“ไม่ได้พี่..ต้องถอดดด!! มันเป็นกฎ..”

“กฎบ้ากฎบออะไรวะ! ถ้าถอดออกฉันก็ไม่มีอะไรใส่สิ”

“แต่พี่!! นี่เป็นกฎของโรงเรียนนะพี่ ยังไงก็ต้องถอดออก”

สภานักเรียนอีกคนมันว่า

“เฮ้ยยย!! น้อง..กฎที่พวกน้องตั้งขึ้นเองมากกว่ามั้ยวะ”

“แต่มันก็คือกฎ..ถ้าไม่ถอด เดี๋ยวฉันถอดให้! กางเกงในห้องปกครองมีค่ะ”

“นี่อย่านะ กางเกงงง...ใครจะกล้าใส่เดินไปเรียนวะ!! อายคนตาย ใส่เองเถอะนะ ไปละ......”

เธอรีบวิ่งฉิวเข้าไปในโรงเรียน

รู้งี้ให้คนรถมาส่งก็ดีหรอก

“อ้าววว!! พี่! ไหงพุ...”

ถ้อยคำสุดท้ายของชายผู้เป็นสภานักเรียนอีกคนนั้นได้ขาดหายไปเมื่อหญิงสาวรีบเร่งฝีเท้าวิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่ยอมฟังคำพูดนั้นให้จบก่อนทันที ทำให้สภานักเรียนที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียนต้องวิ่งตาม แต่เธอก็ยังวิ่งหลบหนีไปจนลับสายตาได้ และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องทุกอย่าง

“หายไปไหนแล้วเนี้ยย..วิ่งเร็วจังวะ”

“รุ่นพี่คนนี้อยู่ห้องไหนวะ! มึงรู้ป่ะ..”

“กูจะรู้ได้ไงเอิร์ท..มึงก็ถามโง่ๆ หน้ากูก็พึ่งเคยเห็นวันนี้”

“กูชักจะสนใจรุ่นพี่คนนี้แล้วสิ”

เธอกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปาก

.


.

เสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มการเรียนการสอน ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้าห้องเรียนตามปกติ รวมถึงสภานักเรียนด้วยเช่นกัน การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างช้า ส่วนตัวฉันก็มีแต่ฉันนี่แหละที่นั่งทำหน้าบึ้งตึงเบื่อกับคาบเรียนที่แสนจะยาวนานอย่างเต็มทน จนเวลาล่วงเลยมาถึงเวลาพักเที่ยง

“นุ่น ไวน์ แพร ไปกินข้าวกัน”

“แปปนึงๆ ฉันเก็บของก่อน”

เสียงของแพรเพื่อนของฉันพูดเอง เมื่อมันพูดจบมันก็ก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อ ในกลุ่มของพวกเราก็มีมันนี่แหละที่ต้องใจเรียน เรียนเก่งที่สุดในห้องเรียน ไม่รู้มันจะขนมาทำไมเยอะแยะ ส่วนฉันก็...พอได้

“OK เสร็จละ”

“งั้นนน..ไปกัน”

ไวน์เพื่อนของฉันอีกคนพูด

แต่เมื่อลงจากห้องเรียนจะไปโรงอาหาร ฉันกับเพื่อนก็เดินคุยกันระหว่างทางตามปกติ แต่ทว่าดันเดินมาเจออีเด็กสภานักเรียนคนหนึ่งเดินมากับเพื่อนของมัน ปกติก็เจอกันอยู่ทุกเช้าล่ะนะ ไม่ได้รู้จักกันหรอกแต่เจอกันทุกเช้า และฉันก็เดินถอยหลังไปชนหลังของสภานักเรียนคนที่กล่าวมานั้นพอดี

“ขอโทษค่ะ!!”

หญิงสาวหันกลับไปกล่าวขอโทษแล้วหันหน้าขึ้นมองหน้าคนตรงหน้า

“เฮ้ยยย!!!”

เธอร้องตกใจไม่คิดว่าจะเจออีก

“พี่คนเมื่อเช้านี้นี่! เมื่อเช้าปากกล้ามากเลยนะคะพี่น่ะ”

“น้องเอิร์ท!”

“หวัดดีค่ะพี่นุ่น”

“อะไรอีกน้อง”

ฉันถามกลับไปอย่างไม่เกรงกลัวอีเด็กสภาหน้าโรงเรียนเลยแม้แต่น้อย มันก็เลยเดินเข้ามาใกล้ฉัน แล้วโน้มศีรษะลงมาใกล้ๆหน้าของฉัน

“ไม่ทำไมหรอกค่ะ! แค่...อยากบอกว่าถุงเท้าสั้นกระโปรงสั้น ระวังโดนครูปกครองเรียกพบนะคะ”

“ฮะ! ว่าไงนะ! จะฟ้องครูฝ่ายปกครองงั้นสิ นี่มันเรื่องเล็กๆเองแล้วนี่ก็เที่ยงแล้วด้วยนะ จะทำอะไรอีกฮะ!”

น้ำเสียงอันยียวนกวนประสาททำให้ฉันสวนกลับไปอย่างรวดเร็วและไม่เกรงกลัวใดๆ แล้วอีเด็กสภาคนนั้นก็เลื่อนใบหน้ามาที่บริเวณใบหูของฉัน ทำไมมันใจกล้าจังวะ นี่ฉันเป็นรุ่นพี่มันนะ

“จะทำอะไรน่ะ!!”

“พูดเล่นน่ะค่ะรุ่นพี่..”

หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงอันยียวนบวกกับรอยที่เธอส่งยิ้มบางๆให้ ทำให้แม่สาวตรงหน้าแทบกลั้นอาการเขินเอาไว้ไม่อยู่ ก่อนที่เธอจะเดินเลี่ยงออกไปแล้วแอบยิ้มเจ้าเล่ห์กับเพื่อนของตัวเอง

ฉันได้แต่มองตามหลังของรุ่นน้องสภารักเรียนคนนั้นและไม่รู้หรอกนะว่าภายใต้แผ่นหลังเบื้องหน้านั้นเค้าจะคิดอะไรอยู่หรือทำสีหน้าท่าทางยังไง

“ชิ...!!”

“เป็นไรแก”

“ก็อีเด็กสภานี่สิ! เมื่อเช้าสั่งโน้นสั่งนี่ฉันอย่างกับเป็นพ่อเป็นแม่ฉันอะไรอย่างนั้นแหละ”

“น้องเอิร์ทเนี้ยนะ!”

“ชื่อเอิร์ทหรอ! ชื่อเหมือนผู้ชายจังวะ”

“แล้วน้องเค้าว่าอะไรแกบ้าง”

“ก็หาว่าฉันใส่ถุงเท้าสั้น กระโปรงสั้นเกินมาตรฐาน ไม่ผูกโบว์ผูกผม ทำไงได้วะ! คนมันรีบนี่หว่า”

“สมกับที่เป็นเอิร์ท”

“มันก็สั้นจริงๆน่ะแหละ”

“โห่..แกเข้าข้างมันหรอ นี่ฉันเพื่อนแกนะ แกควรจะเข้าข้างฉันสิ! ก็ถ้าไม่ตื่นสายคงไม่เป็นแบบนี้หรอก ว่าแต่นุ่น! แกไปรู้จักกับเด็กนั่นได้ยังไง”

“ก็น้องเอิร์ทกับฉันเราอยู่หมู่บ้านเดียวกัน”

“หรอออ! ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบนี้จะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ด้วย”

“เอ้าาา!! แกนี่ก็...”

“จ้าาา!! ”

หญิงสาวทั้ง4คนเดินคุยกันมาตามหลังบุคคลที่ตนทะเลาะด้วยจนมาถึงโรงอาหาร เสียงพูดคุยกันของนักเรียนในโรงอาหารพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ

หญิงสาวทั้ง4คนก็เดินแยกกันไปซื้ออาหารที่ตนจะทานในเที่ยงนี้

ไม่รู้บังเอิญหรือเปล่านะ! ฉันกับอีเด็กสภานักเรียนคนเมื่อกี้ดันมาซื้ออาหารร้านเดียวกัน และที่โชคร้ายกว่านั่นคือดันซื้อเมนูเดียวกันอีก

“เจอกันอีกแล้วนะคะ”

“เฮ้ยยย!!...ร้านอื่นมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมากินร้านเดียวกันกับฉันด้วยวะเนี้ยย..!!”

หญิงสาวอุทานร้องเสียงหลงตกใจที่อยู่ๆก็มีใครเข้ามาทัก แล้วแอบพูดพึมพำเบาๆกับตัวเอง และเลี่ยงที่จะพูดกับผู้ทักทาย

“เอาอะไรคะ”

“ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กค่ะ!!! ไม่ใส่กระเทียมเจียวนะคะ”

ทั้งสองคนสั่งและพูดเมนูเดียวกันออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“บังเอิญจังเลยนะคะ”

“ใช่ค่ะ! บังเอิญจังเมนูเดียวกันด้วย”

“ได้แล้วค่ะ!”

“นี่ค่ะ30บาท..แล้วถ้าพรุ่งนี้พี่ใส่ถุงเท้ากับกระโปรงสั้นมากๆมาอีกละก็...”

“บ้า!!”

“หนู! หนู!!”

“คะ คะ นี่ค่ะ! ขอบคุณค่ะ”

หญิงสาวรับจานอาหารแล้วจ่ายเงินแม่ค้าก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะโรงอาหารของโรงเรียนกับเพื่อนของตน

“แม้งงง...! กวนประสาทฉิบหาย”

“อะไรวะ!”

“ก็น้องเอิร์ทของแกสิอีนุ่น ไปซื้ออาหารร้านเดียวกันไม่พอ ยังสั่งแบบเดียวกันอีก แม้งงง..คอยดูนะจะแกล้งให้เข็ดเลยคอยดู”

หญิงสาวยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงด้วยความใน

“นางร้ายยยยย!!!”

“แล้วอีน้องเอิร์ทนั่นน่ะ เป็นคนยังไงวะ”

“นี่แกไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งโง่เนี้ยย!”

“แค่ถามเฉยๆมาหาว่าฉันโง่อีก! ก็ได้วะ ฉันไม่รู้ถึงถามพวกแกไง”

“น้องเค้าก็..เป็นคนสวยหน้าตาก็ดีมีเสน่ห์ชวนหลงไหล ถ้าใครได้เป็นแฟนนะคงจะโชคดีไปตลอดชาติเลยแหละ”

“ตกนรกทั้งชาติล่ะสิไม่ว่า!!”

“เอ้าอีนี่! ถึงภายนอกน้องเค้าจะดูกวนๆไปหน่อยนะ แต่จริงๆแล้วน้องเค้าเป็นคนน่ารักโรแมนติกน้าา..”

“แหวะะ..เลี่ยนว่ะ!”

“งั้นไม่ต้องฟังเลยย”

“เฮ้ยย!! ฟัง ฟัง ฟัง ฟัง”

“ก็ด้ะะ..เห็นแบบเนี้ย! น้องเค้ามีคนมาตามจีบหลายคนนะเว้ยย..ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่น้องเค้าก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้หรอก เพราะ..”

“เพราะว่าน้องเค้าไม่น่าจะชอบผู้ชาย แต่ผู้หญิงน่ะไม่แน่..เพราะส่วนมากน้องเอิร์ทมักจะพูดกับผู้หญิงที่มาจีบมากกว่า ส่วนพวกผู้ชายที่มาจีบนะน้อยมากกก..ที่จะได้คุย! แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นคบใครสักคน”

ถ้อยคำนั้นของนุ่นได้ขาดหายไปเมื่อถูกไวน์เพื่อนอีกคนชิงพูดไปเสียก่อน

“ดูๆไปนะ! ดูน้องเค้าจะสนใจแกอยู่ไม่น้อยนะ ยิ่งเป็นนิสัยแบบแกแล้วด้วย ขนาดฉันยังแอบปลื้มน้องเค้าอยู่ไม่น้อยเลย”

“ไม่มีทาง!! แล้วนิสัยแบบฉันแบบไหนวะ!”

“ก็...ชอบเอาชนะ..ชอบความท้าทาย หยิ่ง ชอบเหวี่ยงวีนได้แทบทุกสถานการณ์ แล้วก็ทำตรงกันข้ามอะไรทำนองเนี้ยย!”

“ห่า..หลอกด่ากู...!!”

“พวกแกสามคนรีบกินดีกว่ามั้ย เย็นหมดเดี๋ยวก็บ่นไม่อร่อยกันอีกหรอก”

“จ้า..เพื่อนแพร”

พอพักเที่ยงเสร็จแล้วทั้งสี่คนก็พากันขึ้นเรียนไปตามปกติ  พอทั้งสี่คนจะขึ้นอาคารก็เจอกับอีเด็กสภานักเรียนอีกครั้ง แต่คราวนี้เดินมาคนเดียว

“ว่าไงคะ รุ่นพี่..!”

หญิงสาวสภานักเรียนยิ้มมุมปากทำหน้าเจ้าเล่ห์อย่างมีเล่ห์ในแล้วเดินผ่านหน้าเธอไป

“หึ!!! เชี้ยยย!”

หญิงสาวตกใจแล้วหันหน้าไปทางอื่นที่ก่อนจะอุทานประโยคทิ้งท้าย

ตั้งแต่เจออีเด็กสภานักเรียนคนนี้มา ชีวิตของฉันก็เริ่มเปลี่ยนไป ต้องคอยวิ่งหนีมันแทบทุกเช้าอยู่ตลอด