เธอผู้แหกทุกกฎโรงเรียน แต่คู่หมั้นดันเป็นสภานักเรียนที่เธอโคตรเกลียดและไม่ชอบขี้หน้า

คู่กัด..คู่กัน - Chapter 4 ดูตัว โดย Secret 비밀 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,หญิง-หญิง,โอเมกาเวิร์ส,มัธยมปลาย,คอมเมดี้,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คู่กัด..คู่กัน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,หญิง-หญิง,โอเมกาเวิร์ส

แท็คที่เกี่ยวข้อง

มัธยมปลาย,คอมเมดี้

รายละเอียด

คู่กัด..คู่กัน โดย Secret 비밀 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เธอผู้แหกทุกกฎโรงเรียน แต่คู่หมั้นดันเป็นสภานักเรียนที่เธอโคตรเกลียดและไม่ชอบขี้หน้า

ผู้แต่ง

Secret 비밀

เรื่องย่อ

สารบัญ

คู่กัด..คู่กัน-Chapter 1 ผิดระเบียบ,คู่กัด..คู่กัน-Chapter 2 โทรศัพท์หาย,คู่กัด..คู่กัน-Chapter 3 ไม่มีทาง..,คู่กัด..คู่กัน-Chapter 4 ดูตัว,คู่กัด..คู่กัน-Chapter 5 เดินห้าง

เนื้อหา

Chapter 4 ดูตัว



บริษัทแห่งหนึ่ง..

“พรุ่งนี้ฉันจะให้ลูกสาวฉันมาดูตัวลูกสาวแก”

“พรุ่งนี้หรอ ดีเลย..”

“ทำไม ดูรีบร้อนเป็นพิเศษเลยล่ะ”

“ก็ฉันยังไม่บอกมันเรื่องที่ต้องหมั้นเลยน่ะสิ กลับไปจะได้บอกเลย”

“อ้าวว..ฉันนึกว่าแกบอกแล้วซะอีก แล้วทำไมยังไม่บอกอีกล่ะวะ”

“ถ้าขืนฉันบอกไปตอนนั้นนะ มีหวังมันคงบ่นให้ฉันฟังยาวๆ แน่ จะได้บอกวันนี้เลยจะได้ไม่ต้องฟังเสียงบ่นยาวๆ เพราะหลังจากวันนั้นแล้วมันจะได้ไม่บ่น ขี้เกียจฟัง”

“นี่ลูกหรือแม่กันแน่วะ..555”

“ฉันว่าแม่55555”

เขายิ้มและหัวเราะให้คู่สนทนาอย่างอารมณ์ดีเมื่อเปรียบเทียบลูกของตนว่าเหมือนแม่ของตัวเอง

.

“ฮัดชิ้วว!!”

หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้าห้องน้ำแต่กลับจามขึ้นเสียงดังแล้วยกมือขึ้นบีบขยี้จมูกตัวเอง

“โอ้ยย!! ใครนินทาฉันเนี่ยย..”

.

“แต่เมื่อวานฉันบอกยัยเอิร์ทแล้วนะ มันยืนกรานแทบตายว่ายังไงก็จะไม่ยอมหมั้น แต่พอเห็นหน้าลูกแกเท่านั้นแหละ มันรีบตอบตกลงโดยไม่มีการลังเลอะไรเลย แล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนมีเล่ห์ในยังไงก็ไม่รู้”

เขาสาทยายเรื่องของลูกสาวของตัวเองให้เพื่อนคู่สนทนาฟัง

“แปลกๆนะลูกแก หรือว่าเค้าเคยเจอกันแล้ววะ”

“ทีแรกฉันก็คิดเหมือนแกเหมือนกัน เอ้าา..เดี๋ยวต้องไปแล้วว่ะ มีประชุมบ่าย”

เขาก้มลงมองนาฬิกาข้อมือตัวเองแล้วบอกกับเพื่อน

“แล้วเจอกัน”

“แล้วเจอกัน!!”

จบประโยคชายวัยกลางคนก็เดินออกไปจากห้องของเพื่อนตัวเองที่เป็นถึงประธานบริษัทกิติพัตน์ กรุ๊ป

.


.


.


.


.


.

วันดูตัว...

“เป็นฝ่ายนัดเองแท้ๆ แต่กลับมาทีหลังแล้วให้คนอื่นเค้านั่งรอ มันใช้ได้ที่ไหนกัน”

นัทธมนบ่นพึมพำอยู่คนเดียวพร้อมแสดงอาการไม่พอใจอย่างมากออกมาปะปนกับความอารมณ์เสียอารมณ์ไม่ดีอีกด้วย

“บ่นอะไรอยู่คนเดียว”

หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามากล่าวทักหญิงสาวตรงหน้าอย่างอารมณ์ดีไม่น้อย

“เฮ้อะะ!! นี่เธออีกแล้วหรอเนี่ยย..”

เธอสบถขึ้นมาเสียงดังเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังนั่งลงเบื้องหน้าตัวเอง

นี่ฉันทำเวรทำกรรมอะไรไว้ก็ไม่รู้ ถึงได้เจอแต่กับยัยบ้านี่ตลอดเลย

“นี่..ใครบอกให้เธอนั่งฮะ!!”

“ชู่ววว..อย่าเสียงดังสิคะ คนมองหมดเล่า แค่คู่หมั้นจะนั่งด้วยแค่นี้ไม่ได้หรอคะรุ่นพี่คนสวย”

เธอฉีกยิ้มออกมา

“อะไรนะ!!”

“ชู่ววว!! เอิร์ทบอกแล้วไงคะว่าอย่าเสียงดังอ่ะ”

“อย่าบอกนะว่า..คนที่พ่อจะให้ฉันหมั้นด้วยเป็นผู้หญิง นี่พ่อเขาคิดอะไรของเขาอยู่นะถึงให้ลูกตัวเองหมั้นกับผู้หญิงอ่ะ นี่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นจะไม่ว่า แต่นี่ดันเป็นผู้หญิงแบบเธอ คือมันแบบ....”

เธอไม่พูดต่อเพียงแต่ทำเป็นท่าทางที่ไม่พอใจปะปนไปกับความดูถูกอีกฝ่าย แล้วมองแบบหยามๆ

“ทำไมคะ..ผู้หญิงอย่างเรานี่มันทำไม...”

เธอกล่าวแล้วเอ่ยหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วกอดอกยิ้มมุมปากเพื่อจะยียวนกวนประสาทคู่สนทนาตรงหน้า

“พูดจากวนประสาท กวนบาทา ชอบยั่วโมโหคนอื่น เจอทีไรก็มีแต่เรื่องซวยกับซวยทุกที..ไม่มีเรื่องไหนดีเลยสักเรื่องเดียว โฮ้ยยย!!”

เธอกล่าวจนจบแล้วกอดอกตัวเองหันหน้าไปออกไปมองข้างนอกร้านผ่านกระจกสีใสอย่างอารมณ์เสีย

ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะเนี้ยยย!!

“ว่าไป๊..ถึงรูปร่างภายนอกของเอิร์ทเนี่ยจะเป็นผู้หญิงน้าาา แต่ภายในที่ซ้อนไว้อยู่อาจจะไม่ใช่ผู้หญิงก็ได้น้าา..ใครจะไปรู้ ฮึ่ฮึ่ฮึ่!!”

เธอหัวเราะอย่างมีเล่ห์ในแฝงอยู่

มันจะหัวเราะอะไรขนาดนั้นวะ โรคจิตรึเปล่าวะเนี่ยย!!

“โรคจิตวะ!!”

“อ้าวๆ..อยู่ดีๆมาว่ากันโรคจิตได้ไงกันเล่า”

“อยากว่า..จะทำไม ถ้าให้ฉันต้องมาหมั้นกับคนอย่างเธอนะ ฉันยอมไปเอากับหมีควายในป่าซะยังจะดีกว่ามาหมั้นกับเธอ แบบนั้นคงจะดีกว่าเยอะ!!”

“ก็เอาดิ!!”

“นี่! อย่ามาท้าฉันนะ”

“เปล่าท้าน้าาา!! แต่ว่านะ ก็คงต้องถามหมีควายก่อนว่ามันจะเอากับรุ่นพี่รึเปล่า”

เธอกล่าวปฏิเสธต่อด้วยประโยคคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ แต่ต้องการยั่วโมโหอีกฝ่ายแทนพร้อมทั้งยิ้มให้เป็นเล่ห์ลมคมใน

“ยัยบ้านี่..”

ดูมันๆ ยังจะมายิ้มได้อีก เวรกรรมอะไรของฉันนักหนาเนี้ย ชาตินี้จะหนีไม่พ้นเลยหรือไง

.

.

แต่หลังจากสิ้นสุดวันนั้นฉันก็ต้องมาเจอกับอีพี่เอิร์ทอะไรนั่นอีกที่หน้าโรงเรียน หรือแม้กระทั้งคาบที่ต้องเดินเรียนหรือพักเที่ยงเลิกเรียนที่ต้องเจอกันแทบทุกวัน

แต่วันนี้เป็นวันที่ฉันต้องใส่ชุดพละ ฉันก็ไม่ต้องทำอะไรมากแค่ต้องใส่ถุงเท้าสั้นไม่ยัดเสื้อเข้าข้างในไม่ผู้โบว์โรงเรียนก็เท่านั้น แต่ฉันซะอย่างไม่ใส่แม่งเลยถุงเท้า..แม่งเข้าโรงเรียนเลย ค่อยไปใส่ข้างในเลยทีเดียว นี่ฉันดูเลวไปมั้ยอ่ะ555 ไม่หรอก..

ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าพวกสภานักเรียนจะเป็นยังไง โดยเฉพาะอีพี่เอิร์ทนั่นมันจะทำยังไงกับฉัน

ฉันเดินไปไหว้พวกสภาพที่มายืนรับไหว้อยู่3-4คน แต่แปลก..ที่ว่าเช้านี้ไม่เจอยังนั่นเลยฉันจึงมองซ้ายมองขวาเพื่อจะหาว่ายัยนั่นอยู่ไหน

“มองหาใครหรอพี่”

เสียงฮ้าวของชายหนุ่มสภานักเรียนรุ่นน้องคนหนึ่งกล่าวดังขึ้น

“อ้ออ..เปล่า เปล่าา..เปล่า...”

ฉันตอบกลับรุ่นน้องสภานักเรียนคนนั้นไปแล้วรีบเดินเข้าโรงเรียน

“เดี๋ยวก่อนพี่...”

ชายหนุ่มคนนั้นเรียกเธออีกครั้ง เธอจึงหยุดยืนแล้วหันไปมองหน้าเขา

“คะ!!”

“ถุงเท้าทำไมไม่ใส่”

“ค่อยไปใส่ข้างในก็ได้ป่ะน้อง..”

ฉันกล่าวแล้วล้วงมือเข้าไปข้างกระเป๋าเป้แล้วหยิบถุงเท้าขึ้นมาโชว์ให้ดูคู่หนึ่ง

“หรือถ้าจะให้ใส่ตรงนี้เลยเอามั้ยล่ะ”

เธอทำท่าเหมือนจะนั่งลง

“ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง..ผมแค่ถามดูเฉยๆ”

ก็นึกว่าจะให้ฉันนั่งใส่ตรงนี้จริงๆซะอีก แล้วฉันก็หันกลับเตรียมจะเดิน แต่ทว่าา...

“แล้วโบว์ผูกผมล่ะ”

หญิงสาวคนหนึ่งโพล่งปากพูดกระซิบขึ้นมาข้างหูของเธออย่างคุ้นหูคุ้นด้วยน้ำเสียงการพูด ทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าเจ้าของน้ำเสียงนั้นเป็นใคร

“ทำหล่นข้างทาง..จะไปตามเก็บให้มั้ยล่ะ”

เชี่ยย!! นึกว่าจะไม่มาซะอีกตายล่ะกู โดนยัยนี่จับอีกแน่ๆ มายืนตรงหน้าฉันซะขนาดนี้เนี่ยย..

“อ้ออ..หรอคะ!! แล้วนี่อะไร”

เธอกล่าวแล้วเหลือบตามองไปในกระเป๋าของอีกคน แล้วหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมา

“เชี่ยยย!!”

เธออุทานออกมาแล้วคว้าเอาโบว์ผูกผม ก่อนรีบวิ่งแต่ไม่ทันโดนคว้าข้อมือแล้วโดนดึงเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนเธอต้องชนเข้ากับคนที่ดึงเธอไว้จนล้มลงนอนกับพื้น จนคนทั่วบริเวณนั้นหันมามองกันและในขณะนั้นอาจารย์ก็ได้เดินมาเห็นพอดี

ทั้งสองร่างนอนทับกันบนพื้นใบจนแทบจะจูบกันได้อยู่แล้ว แต่หน้าดันอยู่ห่างกันเพียงเสี้ยวปลายจมูกเท่านั้น และจ้องตากันดังต้องมนตราอยู่ครู่หนึ่ง

“เธอสองคนทำอะไรกัน...”

เสียงอาจารณ์ใหญ่ดังขึ้นจนเธอทั้งสองคนต้องหลุดจากพวังแล้วรีบลุกขึ้นแล้วรีบจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อย

“มี..”

“ไม่มีค่ะ”

ทั้งสองพูดพร้อมกันแต่คนละคำตอบ จนอีกคนหันไปมองหน้าคนตอบปฏิเสธอย่างเจ้าเล่ห์

“ตกลงมีหรือไม่มีกันแน่”

“ไม่มีค่ะ! แค่อุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ”

อาจารย์ใหญ่ได้ฟังดังนั้นก็เอามือคัดหลัง

พอยัยนั่นพูดจบอาจารย์ใหญ่ก็ยืนมองหน้าเราสองคนอย่างเข้มขึมก่อนจะเดินไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“โฮ้ววว..โล่งงงง!!”

“โล่งเรื่องอะไร..”

“เรื่องของฉัน..ชิ!!”

นัทธมนกล่าวแล้วจิปากพร้อมกับรีบเดินหนี พิชญาจึงเดินตามไปและเพื่อนของพิชญาที่เป็นสภานักเรียนด้วยกันจึงมองตามหลังไปด้วย

“นี่..เดี๋ยวก่อนเซ้.....”

เธอดึงคนข้างหน้าหันกลับมา

“อะไรอีกวะฮะ!!”

“เลิกเรียนเอิร์ทไปส่งมะ... OK! เลิกเรียนนี้เจอกัน”