ถ้าการฆ่ามันง่าย ลองโดนฆ่าดูไหม

ปริศนาอาถรรพ์ - บทนำ เริ่มต้น โดย นมเมล่อนขวดใหญ่ไปไหน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,ระทึกขวัญ,แอคชั่น,ดาร์ค,สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,รักวัยรุ่น,ต่างโลก,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ปริศนาอาถรรพ์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,สืบสวนสอบสวน,ระทึกขวัญ,แอคชั่น,ดาร์ค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,รักวัยรุ่น,ต่างโลก,#BL

รายละเอียด

ปริศนาอาถรรพ์ โดย นมเมล่อนขวดใหญ่ไปไหน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ถ้าการฆ่ามันง่าย ลองโดนฆ่าดูไหม

ผู้แต่ง

นมเมล่อนขวดใหญ่ไปไหน

เรื่องย่อ

สารบัญ

ปริศนาอาถรรพ์-บทนำ เริ่มต้น

เนื้อหา

บทนำ เริ่มต้น

คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับคดีที่ไม่สามารถปิดได้หรือป่าวครับ บางคดีตำรวจก็ไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าเกิดจากอะไรหรือผู้เสียชีวิตเสียชีวิตด้วยวิธีใด บางคนก็เชื่อว่ามันคืออาถรรพ์ บางคนก็คิดว่าเกี่ยวกับไสยศาสตร์ หรือบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเวรกรรม ทุกทฤษฎีที่กล่าวมาทั้งหมดตำรวจไม่สามารถพิสูจน์หลักฐานได้เลย ในเมื่อตำรวจไม่สามารถปิดคดีได้ทางรัฐบาลจำเป็นต้องจัดตั้งองค์กรขึ้นมาโดยตรง องค์กรที่จะทำหน้าที่ไขคดีที่ไม่มีใครสามารถปิดได้เท่านั้น รับคำสั่งโดยตรงจากรัฐบาลเเละร่วมมือกับFBI


"ท่านแน่ใจหรอครับว่าจะให้มีแค่เด็กพวกนี้"

"นั้นสิครับ ท่านจะมอบหมายคดีให้เด็กม.ปลาย5คนนี้หรอครับ"

"คุณอย่ามองเด็กพวกนี้แค่ภายนอกซิครับ"

"ใครๆก็รู้ว่าเป็นแค่เด็กม.ปลายคงทำคดีใหญ่ๆแบบนี้ไม่ได้หรอก"

"ที่คุณพูดแบบนี้เพราะคุณยังไม่เคยเห็นผลงานของพวกเขาไงครับ"

"ถ้าแบบนั้นผมขอให้เลขาได้ทำการแจกแฟ้มให้กับพวกท่านทุกคนครับ"

"แฟ้มประวัติของเด็กพวกนี้หรอครับ ท่านคงไม่ได้ล้อผมเล่นใช่ไหม"

"เอาเป็นว่าผมขอให้ทุกท่านเปิดอ่านกันก่อนแล้วกันนะครับ"


>คีตะ<

นายคิณณ์ณภัทร เวทชณกุล อายุ 18 ปี

ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ถือสัญชาติญี่ปุ่น 

>คิว<

นาย คุณานนท์ เวทชณกุล อายุ 17 ปี

ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ถือสัญชาติไทย


"สองคนนี้นามสกุลคุ้นหูมากเลยนะครับท่าน"

"พวกท่านต้องคุ้นนามสกุลพวกเขาอยู่แล้วครับ เพราะพวกเขาทั้งสองคนคือลูกชายที่ถูกต้องตามกฏหมาย ของท่านอดีตผบ.ไงครับ"

"งั้นพวกเราก็คงจะไว้ใจพวกเขาทั้งคู่ได้ซินะครับ ในเมื่อพวกเขาทั้งคู่เคยร่วมมือไขคดีมาแล้ว"

"รายชื่อคดีที่ทั้งคู่เคยให้ความร่วมมืออยู่ด้านหลังนะครับเชิญทุกท่านดูได้"

คดีฆาตกรรมปริศนาลูกสาวท่านอธิบดี 

ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีผู้พบศพหญิงสาวอายุประมาณ16-17ปี ถูกพบในสภาพแขวนคออยู่ภายในบ้านของตนเอง โดย.ภายในห้องของผู้ตายไม่พบร่องรอยการเข้าออกและการต่อสู้แต่อย่างใน ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นการฆ่าตัวตาย แต่พอตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้านกลับพบบุคคลน่าสงสัยเข้าออกติดต่อกับผู้ตายก็ที่ผู้ตายจะถูกฆาตกรรม

"คดีนี้ดังมากเลยนะครับท่าน เห็นว่ายังปิดคดีไม่ได้นี่ก็ผ่านมาตั้ฃหลายปี"

"แต่เมื่อเร็วๆนี้ตำรวจได้ออกมาบอกแล้วว่าคดีนี้ได้ทำการปิดลงโดยสมบูรณ์"

"โดยมีสองพี่น้องคู่นี้ช่วยทำการไขคดี"

"งั้นทั้งคู่ก็เหมาะมากที่จะมาเข้าร่วมองค์กรซินะครับ"

"พวกท่านคิดว่าพวกเขาเหมาะสมไหมครับ"

"แน่นอนอยู่แล้วครับพวกเราเห็นด้วย"

"ทีนี้เรามาหาสมาชิกเพิ่มอีกสัก3คนดีไหครับ"

"ก็ดีนะครับท่าน ช่วงนี้คดีที่ปิดไม่ได้ก็เยอะพอสมควร หาคนที่มีคุณสมบัติเข้ามาช่วยน่าจะดี"

"งั้นผมก็อยากจะฝากให้พวกคุณช่วยกันตามหาสมาชิกที่เหลือหน่อยนะครับ"

"ได้เลยครับท่านพวกเราจะทำให้ดีที่สุด"

"งั้นการประชุมวันนี้จบลงเท่านี้ครับ ขอบคุณทุกท่านมากที่ให้ความร่วมมือ"

"สวัสดีครับท่านอธิการ"


"จบการประชุมสักที เหนื่อยแถบแย่"

"นายนี้แสดงเก่งมากเลยนะ ท่านอดีตผบ."

"ช่วยเลิกแซวเรื่องนี้สักที ท่านผบ."

"ให้ตายสิภาคิน ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะให้ลูกชายของตัวเองเข้ามาพัวพัน"

"ผมแต่มอบหมายภารกิจให้พวกเขาเท่านั้นเองเจสัน" 

>ภาคิน<

ศิรเวช เวทชณกุล อดีตผบ. ตอนนี้ดำรงตำแหน่งสูงสุดของหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาล

>เจสัน<

เจสัน ลอปเวล  ปัจจุบันกำลังตำแหน่งมนี้น ผบ. แทนเจสัน

"แต่ผมสงสัยอย่างนึง" เจสันเอ่ยถามพรางเปิดแฟ้มประวัติ

"สงสัยเรื่องอะไร" ภาคินเอนพิงเก้าอี้พร้อมกับทอดสายตาไปยังวิวด้านนอก

"ทำไมคนนึงถือสัญชาติไทยอีกคนถือสัญชาติญี่ปุ่น" เจสันถามด้วยความงุนงง

"ก็เมียฉันอยากให้คนโตถือสัญชาติญี่ปุ่น ส่วนฉันก็อยากให้สักคนถือสัญชาติไทยไว้แค่นั้นเอง" ภาคินตอบไปตามตรง

"งั้นก็ให้ทั้งคู่หาสมาชิกเองเลยซิ" เจสันเสนอไอเดีย

"ไม่ต้องห่วงฉันมอบหมายให้ทั้งคู่ไว้เรียบร้อยแล้ว" ภาคินตอบพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

"ให้ตายซิ ฉันและสงสารลูกชายของนายจริงๆ" เจสันตอบพรางส่ายหน้าอย่างระอา

" 55555 แต่ลูกฉันมันก็เหมือนฉันนั้นแหละ" ภาคินหัวเราะชอบใจ

"คนโตถอดแบบนายมาขนาดนี้ ส่วนคนเล็กก็ถอดแบบฮิเมะมาอย่างกับแกะ" เจสันมองรูปของทั้งคู่

"นั้นสิ เหมือนกันจริงๆนั้นแหละเจ้าคิวกับฮิเมะ" ภาคินพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

"อย่าเศร้าไปเลย เรื่องเมื่อตอนนั้นมันไม่ใครผิด" เจสันตบบ่าภาคินเบาๆเป็นการปลอบใจ

เขารู้ดีว่าภาคินรักฮิเมะผู้เป็นภรรยามากแค่ไหนแต่ก็ต้องจากกันตลอดกาลด้วยเหตุการณ์ในอดีตเขารับรู้ถึงความเจ็บปวดของภาคินที่ต้องสูญเสียภรรยาไปต่อหน้าต่อตาโดยที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

"ขอบใจมากเจสัน" ภาคินยิ้มก่อนจะก้มมองรูปภรรยาที่เสียไป

"ฉันว่าเราหยุดคุยเรื่องนี้กันดีกว่า พวกเราสองคนควรไปดื่มย้อนความหลังกันดีมั้ย" เจสันมองพร้อมกับลุกขึ้นยืน

"หึ เอาสิมาดูกันว่านายยังคออ่อนอยู่รึป่าว" ภาคินลุกขึ้นเดินออกจากห้องประชุม


22:30 

"โทรหาป๊ายัง" เด็กหนุ่มวัย17ปีเอ่ยถามผู้เป็นพี่ชายของตน

"โทรแล้วไม่รับเลย" เด็กชายผู้เป็นพี่ตอบอย่างลุกลี้ลุกลน

"ทำไมป๊าไม่รับสายเนี้ย โอ้ย" เด็กหนุ่มเดินไปมาอย่างร้อนรน

"คิวหยุดเดินก่อนมันทำให้คิดไรไม่ออก" เด็กชายผู้เป็นพี่เงยหน้าขึ้นมองน้องตัวเอง

"พี่คีตะก็รีบติดต่อป๊าดิ" คิวนั่งลงข้างๆพี่ชายตัวเอง

"ก็พยายามอยู่นี้ไงคิว" คีตะตอบพรางเลื่อนหน้าจอสมาร์ทโฟนหารายชื่อใครบางคน

"โอ้ย ป๊าหายไปไหนเนี้ยพน.ประชุมผู้ปกครองด้วย" คิวเริ่มเดินไปมาอีกครั้ง

"เดี๋ยวลองโทรหาลุงเจสัน" คีตะเอื้อมมือไปดึงแขนของคิวให้นั่งลงก่อนจะกดโทรหาผู้เป็นลุง

00:00 บาร์แห่งหนึ่งใจกลางมหานคร

"ใครโทรมาว่ะเนี้ย" เจสันหยิบโทรศัพท์ที่กำลังสั่นขึ้นมาดู

"ภาคิน คุณไม่ได้บอกลูกไว้หรอว่าจะไม่กลับ" เจสันหันไปมองภาคินที่กำลังยกแก้วเหล้า

"ลืมไปสนิทเลย ไหนๆมันก็โทรหาแล้วบอกแทนหน่อยและกัน" ภาคินพูดก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกจนหมดแก้ว

"ฮัลไหลคีตะ"

(ลุงเจสันอยู่กับป๊ามั้ยครับ)

"แน่นอนปะป๊าฝากบอกวันนี้ไม่กลับด้วยนะ"

(แต่พน.มีแระชุมผู้ปกครองป๊าต้องไปนะครับ)

"อ้าวภาคินพน.ประชุมผู้ครองเด็กๆนะ"

"ให้มารินไปแทนแล้วกันไม่ว่าง" ภาคินเอ่ยตอบพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

"ได้ยินแล้วใช่ไหมเด็กๆ"

(ครับ คงต้องแบบนั้นถ้าป๊าไม่ว่าง)

"งั้นก็รีบนอนกันและแล้วก็ตั้งใจเรียนด้วยนะ'

(ได้ครับลุงเจสันพวกเราจะตั้งใจเรียน)

"ระหว่างนั้นอย่าลืมหาสมาชิกมาช่วยด้วยนะ"

(โอเคครับพวกผมจะลองหาดู)

"เก่งมากทั้งสองคน งั้นลุงวางก่อนนะรีบนอนด้วยแหละ"

(โอเคครับ ขอบคุณมากครับฝากป๊าด้วยนะครับลุงเจสัน)

"โอเคลุงจะดูแลอย่างดี บาย"

"บอกมารินให้ไปแทนแล้ว ทีนี้ก็เริ่มแผนได้สักที" ภาคินพูดขึ้นพลางเช็ดกระบอกปืนในมือ

"มันอันตรายมากเลยนะ นายอาจไม่ได้กลับไปหาลูกๆของนาย" เจสันพยายามห้าม

"ฉันอยากปกป้องพวกเขาแทนการที่ฉันปกป้องแม่พวกเขาไม่ได้ เจสัน" น้ำเสียงภาคินเริ่มสั่นเครือดวงตาเริ่มแดง

"ฉันจะช่วยนายเองภาคิน" เจสันพูดก่อนทั้งคู่จะพากันออกไปจากร้าน


(พวกมันเดินออกไปแล้วครับนาย)

(ดี ตามพวกมันไป กล้าที่จะมาขัดขวางกูนัก)

(พวกผมกำลังเดินตามไปครับ)

(บอกคนที่ส่งไปหาลูกมันว่าให้ทำตามแผนได้เลย)

(ได้ครับนาย)


"ภาคินพวกนั้นเดินตามมาแล้ว" เจสันกระซิบ

"มันคงจะเล็งฉันและลูก" ภาคินตอบพร้อมกำอาวุุธในมือไว้แน่น

"ลูกนายจะปลอดภัยใช่ไหม" เจสันถามด้วยความเป็นห่วง

"ไม้ต้องห่วง ลูกฉันเก่งกว่าที่นายคิดเจสัน" ภาคินตอบพร้อมกับเริ่มบุกโจมตีศัตรู


02:30 บ้านของภาคิน

คีตะและคิวซุ่มมองอยู่ภายในบ้านเงียบๆ สายตาของทั้งคู่มองไปยังกลุ่มคนที่กำลังเข้ามาในบ้าน ทั้งคิวและคีตะต่างพยักหน้าให้กันเหมือนทั้งคู่รู้ใจกันก่อนที่คิวจะเปิดฉากยิงปืนใส่กลุ่มคนที่คาดว่าเป็นศัตรูกับผู้เป็นพ่อคี ตะใช้ดาบคู่ของเขาฟาดฟันศัตรูที่พยายามเข้ามาภายในบ้านราวกับมันคือเรื่องง่ายดาย

"ให้ตายซิกว่าจะหมด" คิวยกปืนสไนของตัวเองขึ้นพาดบ่า

"ไม่เคยคิดว่าจะได้อาบเลือดขนาดนี้" ตีตะเก็บดาบเข้าฟักก่อนจะเอานิ้วปาดเลือดที่แก้มมาเลีย

"พวกมันกล้ามากที่มายุ่งกับพวกเราขนาดนี้" คิวเดินเหยียบศพที่นอนกองกับพื้น ทำเหมือนเหยียบแมลงที่ตายไปแล้ว

"คงต้องตามพวกที่เหลือมาร่วมตัวแล้วแหละ" คีตะนั่งอยู่บนกองซากศพที่ตัวเองจัดการ

ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่เหมือนเพชรฆาตที่กำลังยืนมองใครบางคนจากบนกองซากศพพวกนั้น

"อ่าา ให้ตายซิไม่น่าฆ่าทิ้งเลย แบบนี้จะรู้ได้ไงว่าใครหมายยหัว" คิวก้มหน้าลงมองใบหน้าที่ไร้วิญญาณพรางแสยะยิ้มออกมา

"อีกไม่นานจะได้รู้" คีตะปักดาบลงบนหัวที่ไร้วิญญาณตรงปลายเท้าของตน