สายฝนโปรยปรายสีแดงเลือดอาบนอง หน้าที่กับหัวใจ..ต้องเลือกสักทาง เมื่อคนที่ตกหลุมรักและเห็นทุกวันคือเหยื่อที่ตัวเองต้องลงมือฆ่าตามคำสั่งผู้จ้างวานให้ฆ่า

ในวันที่ฝนพรำ BadLove in the Rain - Chapter 3 ชักชวน.. โดย Secret 비밀 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,แอคชั่น,หญิง-หญิง,โอเมกาเวิร์ส,หมอ ,มาเฟีย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ในวันที่ฝนพรำ BadLove in the Rain

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,แอคชั่น,หญิง-หญิง,โอเมกาเวิร์ส

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หมอ ,มาเฟีย

รายละเอียด

สายฝนโปรยปรายสีแดงเลือดอาบนอง หน้าที่กับหัวใจ..ต้องเลือกสักทาง เมื่อคนที่ตกหลุมรักและเห็นทุกวันคือเหยื่อที่ตัวเองต้องลงมือฆ่าตามคำสั่งผู้จ้างวานให้ฆ่า

ผู้แต่ง

Secret 비밀

เรื่องย่อ

สารบัญ

ในวันที่ฝนพรำ BadLove in the Rain-Chapter 1 เป้าหมาย..,ในวันที่ฝนพรำ BadLove in the Rain-Chapter 2 จ้างวาน..,ในวันที่ฝนพรำ BadLove in the Rain-Chapter 3 ชักชวน..

เนื้อหา

Chapter 3 ชักชวน..


"ขอบคุณค่ะที่มาส่ง.."

"ยินดีค่ะ"

โชติกาส่งยิ้มให้กับเกวลินก่อนที่เธอจะเปิดประตูเพื่อลงจากรถ

"อย่าลืมเทคยาให้ตรงเวลาด้วยนะคะ จะได้หายเร็วๆ.."

"ค่ะ!"

เกวลินตอบรับคำก่อนที่จะเดินลงจากรถและไปเปิดประตูร้านเพื่อเข้าร้านของตนเอง แล้วขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อไปพักผ่อนในห้องนอน

"ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันนะ"

เสียงโชติกาพูดกล่าวกับตัวเองแล้วยกฝ่ามือขึ้นจับหน้าอกข้างซ้ายของตน

"หรือจะชอบเค้าซะแล้วสิเรา..ยิ่งมองยิ่งรู้สึกใจเต้นแปลกๆ"

เผยยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วขับรถกลับไปที่โรงพยาบาล

"เตชินท์..!"

โชติกาเรียกขานชื่อของชายผู้หนึ่งที่นั่งอยู่ที่โซฟาในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ

"อ้าวว..พี่โช กว่าจะเสด็จมาได้นะ นคกว่าจะเสด็จมาตอนที่แด๊ดดี๊มกรสิ้นลมหายใจซะอีก"

เตชินท์พูดกล่าวพร้อมกับหันไปมองยังต้นเสียง

"เตชินท์..นี่ฉันแด๊ดแกนะ"

"พูดดีๆ กูพี่มึง.."

"หยอกๆน่ะแด๊ด..แต่พี่แล้วไงวะ พี่! มึงแย่งตำแหน่งที่กูควรจะได้ ทั้งที่มึงไม่เคยทำอะไรเลย แต่แด๊ดก็ยังจะให้มึงเป็นผู้สืบทอด เหี้ยย!!"

เชตินท์พูดกล่าวด้วยความโกรธเคืองโชติกาผู้ซึ่งเป็นพี่สาวของตัวเขาเอง

"งั้นแกก็หัดทำตัวให้มันดีๆซะบ้าง เลิกก่อเรื่องสร้างปัญหา ฉันไม่ได้อยากได้ตำแหน่ง แต่ถ้าฉันเกิดเปลี่ยนใจเอาขึ้นมา แกจะแย่เอา.."

โชติกาพูดบอกกับน้องชายของตนด้วยสายตาเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกสบอารมณ์

"มึงง!!"

เตชินท์ดึงกระชากคอเสื้อโชติกาเข้ามาใกล้ๆตัวเอง

"ไอ้เต ปล่อยพี่แกเดี๋ยวนี้"

ชายผู้ซึ่งเป็นพ่อของเตชินท์และโชติกาพูดกล่าว เตชินท์จึงยอมปล่อยมือจากพี่สาว

"แด๊ดแม่งลำเอียง.."

เตชินท์ก่อนจะรีบเดินออกไปจากห้องพักของมกรผู้ซึ่งเป็นพ่อของตนด้วยความเจ็บใจ

"เห็นแล้วใช่มั้ยว่าเตมันเป็นยังไง"

"เห็น..! แต่ไม่สนใจ สนใจแค่แด๊ดที่ยังนอนเจ็บอยู่นี่แหละ แต่คงอยู่เฝ้าเพื่อนไม่ได้ ต้องทำงาน แต่เดี๋ยวจะเดินมาดูบ่อยๆถ้ามีเวลา.."

"โอ้ยยย!!"

โชติกากล่าวบอกกับพ่อของตนก่อนจะยกมือขึ้นออกแรงกดไปที่แผลของเขาจนเขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

.



.

เช้าวันรุ่งขึ้น..

เกวลินลุกขึ้นจากที่นอนและรับรู้ได้ว่าร่างกายของตัวเองเริ่มอาการดีขึ้นกว่าเมื่อวาน เธอจึงได้เดินไปอาบน้ำแต่งตัวและออกไปหาซื้ออาหารกินด้านนอก

"ไม่หิวยังไงก็ต้องกินวะ"

ว่าแล้วก็ตักอาหารเข้าปากจนเกือบหมดจานก็เดินไปจ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้านขับรถมอเตอร์ไซค์ไปยังคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งพลางหันมองไปรอบๆจนทั่วถึงทุกจุดทุกมุม

"ตึกฝั่งตรงข้ามมีด้านหลังกับด้านข้างคอนโด แต่ดาดฟ้าอยู่สูงไป.."

เกวลินพูดกล่าวพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ จากนั้นจึงได้เดินทางกลับไปยังขายดอกไม้ของตนแล้วขึ้นไปกินยาและอาบน้ำนอนอีกครั้ง

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในเวลาบ่าย เกวลินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อรับสาย

"ฮัลโหล..!"

"ดอกไม้มาส่งครับ"

"อ๋ออ..! ค่ะ! เดี๋ยวเกวลงไปเปิดประตูให้ค่ะ"

ว่าแล้วก็กดวางสายก่อนจะลุกจากเตียงเดินออกจากห้องนอนลงไปด้านล่างเพื่อเปิดประตูให้คนที่มาส่งดอกไม้เอาดอกไม้เข้ามาไว้ด้านในร้าน

"ขอบคุณค่ะ เกวก็ลืมไปเลยว่าวันนี้เป็นวันที่พี่จะมาส่งดอกไม้ที่ร้าน.."

"ก็ว่า..! แต่วันนี่คุณเกวดูเหนื่อยๆนะ"

"เป็นไข้ตั้งแต่เมื่อวานนี้เอง"

"โอ้วว..งั้นก็ขอให้หายเร็วๆนะ"

"ค่ะพี่..!"

เกวลินพูดกล่าวก่อนที่ชายคนที่มาส่งดอกไม้ให้เธอจะขึ้นรถและขับออกไป เธอจึงได้ก้าวเท้าเดินไปปิดประตูร้าน แต่ยังไม่ทันจะได้ปิดประตู โชติกาก็โผล่หน้ามายืนอยู่ตรงเขื้องหน้าเธอ

"โอ๊ะะ!!"

เกวลินแสดงสีหน้าตกใจ

"สวัสดีค่ะ ทำให้ตกใจรึเปล่าคะเนี่ย"

"มากเลยค่ะ"

"ฮ่า ฮ่าฮ่า!"

โชติกายกมือขึ้นเกาศีรษะตัวเองเป็นท่าทางประกอบการยิ้มหัวเราะ

"แล้วอาการเป็นไงบ้างคะ ดีขึ้นบ้างมั้ย"

"ก็ดีขึ้นเยอะแล้วแหละค่ะ ว่าแต่คุณหมอโชเถอะ ไม่รักษาคนไข้หรอคะวันนี้"

"รักษานะ แต่เป็นเวรรอบดึก..ที่เห็นลอยหน้าลอยตาอยู่โรงบาลช่วงกลางวันก็เพราะยังไม่มีที่อยู่ ว่าจะมาหาที่พักแถวนี้แหละค่ะ เพราะตัดสินใจว่าจะไม่กลับไปอยู่บ้าน เพราะที่บ้านมันไกลไปน่ะค่ะ"

โชติกาแสดงสีหน้าน่าสงสารออกมาให้เกวลินได้เห็น

"งั้นหรอ! หน้าสงสารหมอนะคะ"

ส่งยิ้มให้โชติกา

"ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ"

ทำเป็นพูดเชิงปฏิเสธแล้วยกมือขึ้นลูบหลังคอตัวเองพร้อมกับก้มหน้ายิ้มเล็กน้อยอย่างเก้อเขิน

"แถวนี้ไม่ค่อยมีห้องพักว่างด้วยสิคะ"

"นั่นสินะ ไปดูห้องนึงที่หมอด้วยกันแนะนำมาก็ดันมีคนชิงห้องตัดหน้าไปซะแล้ว"

โชติกาแสดงสีหน้าให้น่าสงสารยิ่งกว่าเดิมหลังจากที่ตนเองพูดจบ

"งั้นน..มาอยู่กับฉันมั้ยคะ ที่นี่มีสองห้องนอนสามห้องน้ำ"

"ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ รู้สึกเกรงใจยังไงไม่รู้.."

แสดงสรหน้าท่าทางเกรงใจเกวลินที่ชักชวนตนให้มาอยู่บ้านที่พักเดียวกันกับเธอ

"ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ ฉันเองก็คิดว่าจะหาคนหารค่าห้องน้ำไฟสักคนอยู่แหละค่ะ ฉันอยู่ที่นี่คนเดียว.."

"แน่ใจนะคะ"

"ค่ะ"

เกวลินตอบรับคำพร้อมกับรอยยิ้มเล็กน้อย

"งั้นไม่เกรงใจแล้วนะ"

"ก็ไม่น่าจะเกรงใจตั้งแต่โผล่มาดื้อๆและยืนคุยกับฉันอยู่หน้าร้านฉันแล้วแหละค่ะ"

เกวลินฉีกยิ้มส่งให้โชติกาหลังจากที่ตนเองพูดจบประโยค

"โหววว!! แรงอ่ะคุณเกว.."

"ดีลแล้วนะคะ จะย้ายมาวันไหน"

"อีกสองวันละกันค่ะ เย็นนี้อยู่เวรยาวเลย"

"โอเค! ไว้เจอกันวันย้ายมานะคะ"

เกวลินพูดกล่าวก่อนจะปิดประตู แต่โชติกาก็ยกมือขวางเอาไว้ได้เสียก่อน

"เดี๋ยวก่อนค่ะ!"

"คะ!!"

"ขอคอนแทคไว้หน่อยค่ะ จะได้ติดต่อมาตอนวันย้าย"

โชติกาหยิบยกโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมาพร้อมกับส่งยิ้มให้กับเกวลินเล็กน้อย

"K.aelyn ค่ะ ไลน์นะคะ"

ว่าแล้วก็ปิดประตูล็อกร้านโดยไม่สนใจคนด้านนอก จากนั้นก็ส่งยิ้มให้เธอผ่านประตูกระจกใสหน้าร้านก่อนที่จะเดินกลับขึ้นไปด้านบน

"ชวนเรามาอยู่ด้วยเฉยเลยแฮะ แถมได้คอนแทคอีกต่างหาก เยสส!!"

โชติกาแสดงสีหน้าท่าทางดีใจโดยการยกแขนกำมือ

"เก็บไว้ใกล้ตัวก่อนละกันคนๆนี้"

หยุดยืนพูดบอกกับตนเองอยู่ตรงบันไดก่อนจะเข้าไปนอนจริงๆ

.



.

"เต..!"

เสียงมกรพ่อของเตชินท์เรียกนามของเขาที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟาของโรงพยาบาลในห้องพักพิเศษ

"เต!! โกรธแด๊ดหรอ"

"เปล่าโกรธ.."

หันหน้าหนีพร้อมกับตอบกลับผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์

"แด๊ดจะให้แกดูแลบ่อนไปก่อน"

"แค่บ่อน?"

เตชินท์พูดกล่าวพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์

"ถ้าให้โชดูแลงานของครอบครัวเรา แด๊ดมองว่าโชจะทำได้ดีกว่า เพราะโชเป็นคนใจเย็น ส่วนเราเต..ใจร้อนเกินไป ให้พี่เป็นผู้นำแล้วเราคอยซับพอร์ตจะดีกว่า.."

"โชมันก็บอกว่ามันไม่อยากได้ มันรักงานของมัน..แต่แด๊ดยัง!!"

เขาแสดงสีหน้าโกรธเคืองพ่อของตนพร้อมกับกำมือแน่น

"มันไม่มานั่งเฝ้าเป็นเพื่อนแด๊ดแบบผมด้วยซ้ำ"

เขาพูดกล่าวพร้อมทั้งสบสายตาจ้องหน้าชายผู้เป็นพ่อของตน

"โอเค! แล้วแด๊ดจะได้รู้ว่าผมทำอะไรได้บ้าง"

ลุกเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วยพิเศษ

.



.

"จะส่งดอกไม้ให้เอชไดมอนด์วันไหน ลูกจ้างเร่งงานมาแล้ว"

"หลังหายป่วยจะรีบจัดการ ตอนนี้กำลังดูลาดเลา..สองตึกที่อยู่รอบๆน่ะ ดาดฟ้ามันสูงไป คงต้องส่งดอกไม้ต่อหน้า"

"ป่วยหรอ!"

"ใช่! ช่วงนี้ไปส่งดอกไม้วันที่มีฝนเลยมีไข้.."

"เค! เดี๋ยวจะแจ้งไปให้ลูกจ้างทราบ ส่งดอกไม้ระวังๆหน่อยละกัน"

"อืออ..! ฝากด้วย"

กดวางสายจากโทรศัพท์อีกเครื่องแล้วเปิดโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่ง จึงเห็นว่ามีแชทไลน์เด้งขึ้นมาหนึ่งแชท

ChoVKa : สวัสดีค่ะ

ChoVKa : โชเองนะคะ

ChoVKa : อาการเป็นไงบ้าง ดีขึ้นรึยัง!

ChoVKa : อย่าลืมกินข้าวแล้วก็กินยาด้วยนะคะ

Kaelyn : ค่ะ

Kaelyn : ดีขึ้นมากแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ

กดพิมพ์ส่งข้องความตอบกลับ หลังจากนั้นก็วางโทรศัพท์ไว้ก่อนจะลุกเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วออกไปหาซื้ออาหารกิน

"ข้าวขาหมูจานนึงนะลุง.."

"อีกสามคิวนะ"

"ค่ะลุง!"

เดินไปนั่งโต๊ะว่างเพื่อรออาหารที่เพิ่งจะสั่งไป

.



.

"นายน้อยโช.."

เสียงของหญิงสาวผู้หนึ่งซึ่งก็คือคีรติส่งเสียงเรียกโชติกาที่กำลังเข้าปฏิบัติงานจนเธอต้องหยุดยืนและหันหน้ากลับไปมองยังเธอผู้เป็นเจ้าของเสียงเรียก

"ฉันอยากให้นายน้อยสานต่องานจากนายใหญ่นะคะ"

"บอกแล้วไงว่าไม่..!"

โชติกากล่าวบอกกับคีรติพร้อมกับแสดงสีหน้าเย็นชาใส่เธอ

"ฉันจะอยู่เคียงข้างนายน้อย.."

"ไม่อีกแล้วล่ะ ฉันเลิกรู้สึกกับเธอไปนานแล้ว และ..ตอนนี้ฉันต้องทำงาน"

โชติกาก้าวเท้าเดินต่อไปแต่ก็ถูกคีรติฉุดรั้งแขนเอาไว้ไม่ให้ไป โชติกาจึงสะบัดแขนออกด้วยความแรงแล้วหันกลับไปชี้หน้าต่อว่าคีรติว่า

"ถ้าเธอยังจะทำแบบนี้ ชีวิตคนไข้หลายคนที่กำลังรอรับการรักษาจากฉันจะตายกันหมด และฉันจะไม่มีทางให้อภัยเธอแน่คีร์"

แสดงสีหน้าโกรธคนตรงหน้าแล้วรีบเดินไปปฏิบัติหน้าที่งานจนกระทั่งมีเคทฉุกเฉินเลือดสีแดงฉาดอาบชุมไปทั่วทั้งตัวโดยเฉพาะที่บริเวณศีรษะ

"ผู้บาดเจ็บไปโดนอะไรมา.."

โชติกากล่าวถามพยาบาลสาวพร้อมกับเข้าไปตรวจเช็กร่างกายผู้บาดเจ็บบนเตียง

"ผู้บาดเจ็บพลัดตกจากตึกชั้นสี่ค่ะหมอ..ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว"

"นำตัวเอกซเรย์ด่วนเลย"

.



.

21:13 น.

ร่างเล็กของเกวลินเดินเก็บของกวาดและถูทำความสะอาดห้องนอนที่อยู่ตรงข้ามห้องนอนตนเอง

"เหนื่อยฉิบ..!"

เกวลินพูดบ่นกับตนเองแต่ก็ยังก้มหน้าตั้งใจทำความสะอาดห้องนั้นต่อไปจนกระทั่งเสร็จ

"เจอกันแทบทุกวัน ชอบมาฅื้อดอกไม้ร้านเรา แต่ดันเป็นคนที่ต้องฆ่าทั้งที่รู้จัก มันยากจังวะ"

เกวลินพูดกล่าวพลางยกมือขึ้นเสยผมตัวเองก่อนที่จะเดินลงเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดไปจัดเก็บไว้แล้วกลับขึ้นมาอีกครั้งแล้วเดินเข้าครัวที่อยู่ติดกับห้องที่เธอเพิ่งจะทำความสะอาดไปได้ไม่นาน

"ขี้เกียจออกไปหาไรกินละ ต้มโจ๊กสำเร็จรูปละกัน"

เธอพูดบอกกับตัวเองพร้อมทั้งหยิบกล่องโจ๊กมาเปิดฝาตั้งเตาต้มน้ำแล้วเทใส่ถ้วยโจ๊กถือไปนั่งกินในห้องนอนของตนเอง

เมื่อถึงเช้าวันต่อมาเกวลินก็แต่ตัวด้วยกางเกงยีนและเสื้อเชิ้ตกับเสื้อหนังสีดำแล้วออกจากห้องขับรถมอเตอร์ไซค์เดินทางไปยังคอนโดมีเนียมแห่งหนึ่งแล้วขึ้นไปยังชั้นหกของคอนโดมีเนียม

หลังจากขึ้นมาจนถึงชั้นหกเธอก็หันมองซ้ายมองขวาแล้วก้าวเท้าเดินสำรวจหมายเลยห้องและเส้นทางเดินจนทั่วทุกมุม

"ห้องนี้สินะ! เจองานยากเข้าแล้วสิ อยู่หน้าตึก.."

เกวลินพูดบอกกับตัวเองก่อนที่จะเคาะประตูห้องห้องหนึ่ง แล้วเจ้าของห้องนั้นซึ่งเป็นผู้หญิงก็เปิดประตูออกมาพบเธอ

"เธอเป็นใคร..! เคาะห้องฉันทำไม"

"โอ๊ะะ!! ขอโทษทีค่ะ ฉันเคาะห้องผิด..ขอโทษอีกครั้งค่ะ"

เธอพูดกล่าวคำขอโทษหญิงเจ้าของห้องพร้อมกับก้มศีรษะโค้งคำนับเป็นการขอโทษ พลางก็ก็ชำเลืองสายตามองเข้าไปด้านในห้องของเธอ

"คราวหนังก็ระวังดูเลขห้องดีๆด้วยละกัน"

หญิงเจ้าของห้องกล่าวก่อนที่จะปิดประตูห้องใส่หน้าเกวลิน

"ดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลยนะ"

เกวลินพูดกับตนเองก่อนที่จะแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อย จากนั้นค่อยเดินกลับไปยังลิฟต์แล้วลงไปด้านล่างเพื่อเดินทางกลับไปยังสถานที่พักอาศัย

ภายในไม่กี่วันคืนต่อมาโชติกาก็ติดเคทในโรงพยาบาลเป็นพัลวันชุลมุนวุ่นวายไม่เป็นอันได้พักผ่อน เสื้อผ้ากางเกงและสองมือชุบเปื้อนไปด้วยเลือดของผู้บาดเจ็บจากหลากหลายสาเหตุ บางคนมาถึงโรงพยาบาลก็เสียชีวิตก่อนได้รับการช่วยชีวิต บางรายก็เสียชีวิตในขณะที่กำลังถูกช่วยชีวิตโดยโชติกาและทีมแพทย์พยาบาลคนอื่นๆอีกหลายคน

ด้านเกวลินนั้นยืนเช็กอุปกรณ์มีดพกสองเล่มและปืนพกสั้นอีกหนึ่งกระบอกแล้วเก็บในซองก่อนจะเอาใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ แล้วสะพายกระเป๋าเป้ใส่หลังก่อนจะออกไปตามล่าเป้าหมายที่ต้องจัดการ

เมื่อมาถึงสถานที่ก็ไปจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ตรงที่เป็นลานจอดรถของคอนโด แล้วทำเป็นเดินตามหลังของกลุ่มชายหญิงสามคนเข้าไปในตัวตึกและเข้าลิฟต์ขึ้นไปพร้อมกับพวกเขา จนถึงชั้นชั้นหนึ่งพวกเขาก็ออกจากชิฟต์ไปกันหมด เหลือทิ้งไว้แต่เธอที่ยังอยู่ด้านในและกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นสุดท้ายและออกมาหยุดยืนมองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า

แสงสว่างในยามวิกาลส่องแสงสว่างไสวงดงามสุดสายตา เกวลินก็ได้วางกระป๋าเป้ลงบนพื้นดาดฟ้าแล้วสวมถุงมือและแมสกับหมวกแก๊ปสีดำเพื่ออำพรางใบหน้า แล้วเอามีดมาติดใส่ข้างต้นขาด้านขวา ส่วนก็ใส่ปลอกเก็บเสียงแล้วกัดไว้ที่ปาก จากนั้นก็เอาเชือกที่ผูกไว้เป็นปมออกจากกระเป๋าเป้และนำไปผูกติดกับต้นไม้ที่ปลูกไว้บนดาดฟ้าแล้วโรยตัวลงไปยังชั้นหกตรงระเบียงห้องห้องหนึ่ง

บุคคลในห้องที่เกวลินโรยตัวลงมาหยุดอยู่ตรงระเบียงนั้นก็กำลังเดินมาเปิดระเบียงในขณะที่เกวลินหย่อนตัวถึงตรงจังหวะพอดี หญิงเจ้าของห้องจึงแสดงสีหน้าตกใจก้าวเท้าถอยเข้าไปด้านในห้องแล้วรีบปิดประตูระเบียง แต่ทว่าเกวลินกลับคว้าประตูดึงเอาไว้ได้พร้อมกับหยิบปืนที่คาบอยู่ที่ปากมาไว้ในมือแล้วก้าวเท้าเดินเข้าไป

"แกเป็นใคร..!"

พูดกล่าวด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง

"เป็นนักฆ่า..!"

เกวลินกล่าวตอบคำถามหญิงที่ยืนอยู่ตรงเบื้องหน้าแล้วยกมือข้างที่ถือปืนจ่อไปที่หัวใจของหญิงผู้ซึ่งเป็นเจ้าของห้อง แต่โดนเธอปัดป้องเอาไว้ได้จนเกิดเหตุการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดเพราพอีกฝ่ายนั้นมาเพื่อฆ่า แต่ไม่พ้นมือเกวลินจับหักแขนและอ้อมตัวไปอยู่ด้านหลังแล้วดึงมีดออกจากต้นขาตัวเองก่อนจะแทงไปที่สีข้างหรือบริเวณลำตัวของเธอผู้เป็นเจ้าของห้อง

เมื่อมีดได้แทงเข้าไปด้านในสีข้างหรือบริเวณลำตัวของหญิงผู้นั้นแล้วนั้น เกวลินก็ได้กรีดมีดเฉียงขึ้นและเข้าไปตรงกลางหน้าท้องเพื่อสร้างบาดแผลขนาดใหญ่จนเลือดไหลออกจากช่องท้องแล้วดึงออกมาแทงใต้คางของเธอเป็นครั้งสุดท้ายจนสิ้นใจเสียชีวิตไป เกวลินจึงเดินไปเก็บปืนและล้างคราบเลือดออกจากมีดแล้วเดินเช็กหากล้องภายในห้องนี้ทุกซอกมุมเผื่อมีการติดตั้งกล้องไว้จะได้ไม่มีหลักฐาน จากนั้นก็มาหยุดยืนอยู่ตรงร่างไร้วิญญาณของเจ้าของห้องก่อนจะกดโทรศัพท์ไปหาใครบางคน

"ภารกิจเสร็จสิ้น.."