- อย่าแตะต้องท่านแม่นะไอลูกหมานี่!เธอในวัย3ขวบที่พึ่งระลึกได้ว่าตัวเองอยู่ในนิยายเรื่องอะไร เป็นลูกของใครกับใคร – “what the fu*k”
ชาย-ชาย,ครอบครัว,แฟนตาซี,ผจญภัย,ตลก,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)- อย่าแตะต้องท่านแม่นะไอลูกหมานี่!เธอในวัย3ขวบที่พึ่งระลึกได้ว่าตัวเองอยู่ในนิยายเรื่องอะไร เป็นลูกของใครกับใคร – “what the fu*k”
- อย่าแตะต้องท่านแม่นะไอลูกหมานี่!เธอในวัย3ขวบที่พึ่งระลึกได้ว่าตัวเองอยู่ในนิยายเรื่องอะไร เป็นลูกของใครกับใคร –
“what the fuck”
เฟิงมี่
“ฝ่าบาทไม่โปรดสตรีและเด็ก หึ แล้วฟ้าก็ช่างเล่นตลกที่เฟิงมี่เป็น‘เด็กผู้หญิง’”
หยางเหยียนลู่อิง (ท่านแม่)
“วันนี้ข้าจะอยู่เล่นกับเจ้าเอง”
ลูซินัส (ท่านพ่อ)
...หลังจากนั้น....
“ข้าแนะนำให้ท่านเล่นวิ่งว่าวกับลูกไม่ได้ให้เอาลูกไปทำเป็นว่าวนะท่านพี่!”
ลูชิเอล (ท่านอา)
“อัปลักษณ์จริง...”
หยางไท่ลู่เฟย (ท่านลุง)
คำชี้แจ้ง&ทักทาย
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยาย Boy Love แฟนตาซี อบอุ่นหัวใจ แนวครอบครัวสุขสันต์ หลังเรื่องบู้กระจาย ทั้งเรื่องน้องเฟิงมี่อายุ 3 ขวบค่ะ หุหุ อาจจะแปลกเล็กน้อยที่ตัวละครดำเนินเรื่องเป็นลูกของคู่พระนายค่ะแต่อยากให้ลองรับไปชิมอยู่ครับ😊
(ระหว่างในบางบทจะมีบทบรรยายเนื้อหาในอดีตของพระนายโดยจะใช้สัญลักษณ์ขีดยาวและขึ้นย่อแรกด้วยคำว่า (อดีต) เป็นตัวคั่น ค่ะ)
อย่างไรก็ฝากรับครอบครัวน้องเฟิงมี่ของเราไปพิจารณาด้วยนะคะ 🙏🏻😊
นิยายเรื่องนี้ลงที่แรกที่R&W(แอปฟ้า)ขออนุญาตนำมาโปรโมตใน plotteller (น้องแพนด้าแดง) ขอบคุณเป็นอย่างสูงค่ะที่เอื้อพื้นที่ให้สำหรับนักเขียนตัวน้อยๆได้โปรโมตนิยาย
เรื่องนี้จบแล้วค่ะ มี e-book อยู่ใน meb ค่ะ มีทั้งหมดสองเล่มจบ ตอนนี้จัดโปรลด ถึงวันที่ 1 ก.ย. จาก เล่มล่ะ 289 เหลือเล่มล่ะ 174 บาทครับ ในแต่ล่ะเล่มมีจำนวนหน้า 500+ จำนวนคำ 1xx,xxx ครับ และมีตอนพิเศษในเล่มที่ไม่ลงในเว็บด้วย ถ้าท่านใดสนใจ และอยากสนับสนุนนักเขียนตัวน้อยๆ สามารถไปอุดหนุนกันได้ค่ะ แน่นอนว่าในเว็บจะลงให้อ่านฟรีจนถึงตอนจบค่ะ แต่จะลงช้าหน่อยนะคะ
ถ้าใครอยากได้เล่ม e-book แบบโปรลดอีก รอตอนช่วงเทศกาลได้ค่ะเเต่จะไม่ได้ราคาเท่ากับตอนเปิดตัวนะคะ ขออภัยด้วยอย่างไรก็กดติดตามกันไว้ได้ค่ะ เพื่อไม่ให้พลาดตอนใหม่และโปรโมรชั่นดีดี😊❤️
ขอขอบพระคุณการสนับสนุนทุกรูปแบบค่ะ🙏🏻🙇♀️
จิ้ม ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ เล่ม 1
จิ้ม ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ เล่ม 2 (จบ)
Wah_Cherly
นัก(หัด)เขียน
บทที่1
เธอกับการมีแม่เป็นผู้ชายที่สวยจนเรือหาย
ราวกับเธอได้ตื่นขึ้นจากฝันร้าย
...การเกิดใหม่...
ในโลกที่แตกต่าง ไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าเรื่องที่อ่านเจอแต่ในนิยายเพ้อภพจะเกิดขึ้นกับตัวเอง
ยามนี้ตัวเธอได้ถือกำเนิดใหม่ในโลกที่แสนจะแฟนตาซี ครั้งแรกที่เห็นนาซิส คนสนิทของท่านแม่ที่เชียร์ให้เป็นพ่อของตัวเองตอนเป็นทารกเสกลูกไฟเพื่อให้ความอบอุ่นแก่บ้านหลังน้อยของเธอในฤดูหนาวเธอแทบวิ่งไปขอให้เขาเสกให้ดูอีกเป็นล้าน ๆ รอบ ถ้าไม่ติดว่ายังร้องได้แค่ แอ้ แอ้ กับร้องไห้อ่ะนะ
และอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ที่เธอแทบกรี๊ดแม่ที่ให้กำเนิดเธอเป็นผู้ชาย!
สำหรับสาววายเป็นอะไรที่อยากจะนิพพาน พ่อของเธอต้องเป็นผู้ชายแน่ ๆ การจะได้เห็นโมเมนต์ฟิน ๆ ใกล้ ๆ เป็นหนึ่งในความฝันของเธอเหมือนกันตอนไปแคสติ้งบทเป็นตัวประกอบเธอก็ชอบไปแคสตามซีรีส์ boy love เสียส่วนใหญ่....
แต่เฝ้ารอแล้วรอเหล่าก็ไม่เห็นคนที่เข้าเคล้าจะเป็นพ่อได้....ท่านแม่เป็นหม้ายอย่างนั้นเหรอ..ความคิดหนึ่งแวบผ่านเข้ามา...เอาว่ะไม่เป็นไรท่านแม่สวยสง่าปานเทวดาจุติเดี๋ยวเธอจะหาพ่อใหม่ให้เอาให้เปะปังวังเวอร์ไปเลย อาทิเช่นท่านอานาซิส
ตอนที่เป็นทารกตาแป๋วอยู่เลยตั้งมั่นว่าจะเสี้ยมให้ท่านแม่ได้กับท่านอานาซิสผู้แสนอ่อนโยนให้ได้
ทุกอย่างผ่านไปอย่างสงบสุข จนตอนนี้เธออายุย่างเข้าปีที่สามแล้ว ท่านอานาซิสดูเหมือนจะเทิดทูนท่านแม่ยิ่งกว่าอะไรดี...ไม่เคยมีโมเมนต์ให้เธอได้ฟินเลยสักนิด สุภาพบุรุษจนจุฑาเทพชิดซ้ายเลยมั้ง...ประชด!
“วันนี้แม่จะพาไปอยู่เล่นกับท่านยายรินนะ ระหว่างที่แม่เข้าไปเก็บสมุนไพร เฟิงมี่จะได้เล่นกับพี่ยามะ ดีไหมคะ”
นามของเธอคือ เฟิงมี่ ที่แปลว่าน้ำผึ้ง ในภาษาบ้านเกิดของท่านแม่
เจ้าของชื่อพยักหน้ารับ เส้นผมสีทองหยักศกเป็นลอนเล็กน้อยยาวเลยกลางหลังเพราะเจ้าตัวไม่ยอมให้ใครตัด ถูกจับถักเปียและเก็บรวบคล้ายทรงผมของเหล่าคุณหนูในซีรีส์พีเรียดเกาหลี
มีผมสวย ๆ ใครจะอยากให้ตัดกันเนอะ
เธอก็ไม่อยากจะอวดผมสีทองนี่นักหรอก มันเป็นประกายวิบวับเมื่อต้องกับแสงตะวันด้วยล่ะงดงามสุด ๆ
ชุดสีชมพูลายดอกไม้ที่เหมือนชุดกิโมโนของประเทศญี่ปุ่นในโลกที่แล้วถูกใส่ให้เธอ มันเป็นชุดพื้นเมืองของที่นี่
“อ่าเสร็จแล้ว ลูกใครนี่งดงามมาก”
ท่านแม่หมุนร่างน้อย ๆ ของเธอไปเผชิญหน้าก่อนจะป้ายจมูกโด่งของตัวเองกับจมูกน้อย ๆ ของเธออย่างหยอกล้อ และเริ่มหอมแก้ม และหอมไปทั่วหน้าลูกน้อย
“คิก คิก มา มี้ ชวย”
เพราะลิ้นยังไม่แข็งเฟิงมี่ยังพูดไม่ค่อยชัดนักแรก ๆ ที่ฟังภาษาพวกนี้เฟิงมี่เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
บางครั้งท่านอานาซิสกับท่านแม่ก็สลับไปพูดอีกภาษากว่าจะแยกและฟังเข้าใจก็ใช้เวลานานเหมือนกัน
“ชมอย่างนี้อยากได้อะไร หืม”
“หนม หนม”
เปิดช่องให้อย่างนี้เฟิงมี่ก็ไม่คิดจะปฏิเสธจนท่านแม่ส่งยิ้มอ่อนใจมาให้....
“จ้ะเดี๋ยวแม่จะฝากท่านนาซิสซื้อจากเมืองท่ามาให้แล้วกัน ไป เดี๋ยวท่านยายรอ”
ท่านแม่นำผ้าคลุมมาปิดบังใบหน้าเธอและตัวเองเช่นทุกครั้งที่ต้องออกไปพบปะผู้คน ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะออกไปกัน
ท่านยายรินนะเป็นยายที่ทำคลอดให้ท่านแม่บ้านแกอยู่ติดเมืองเข้าไปหน่อยไม่ได้อยู่ในป่าในดงแบบเธอ เฟิงมี่และผู้เป็นแม่จำต้องเดินออกมาหลายกิโล
ผ่านทุ่งกว้างที่เธอและท่านแม่ช่วยกันปลูกดอกไม้ เลยมาหน่อยก็เป็นลำธารเล็กที่ไหลบ่าผ่านมาเป็นสายเล็กให้พอได้กลิ่นอายของน้ำบริสุทธิ์
มือเล็กป้อมของเฟิงมี่เอื้อมเด็ดดอกไม้ที่อยู่บนต้นมาปักลงบนเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนของท่านแม่
ท่านแม่มักเอาเธอมาฝากไว้บ้านคุณยายรินนะเวลา ที่เข้าป่าหาสมุนไพรและท่านอานาซิสไม่ว่างเลี้ยง
ยายแกมีหลายชายอาศัยอยู่ด้วย อายุห่างกับเธอเกือบสิบปีชื่อ ยามะเสะ แต่เธอมักเรียกย่อว่ายามะท่านแม่เลยเรียกตาม เด็กหนุ่มฝันอยากเป็นอัศวินผู้กล้า ที่เฟิงมี่ฟังเจ้าตัวเล่าความยิ่งใหญ่แต่ล่ะรอบก็…หลับทุกรอบ
โถ่โทษร่างเด็กน้อยนี่แล้วกันขยับนิดหน่อยก็หิว นั่งนิ่ง ๆ ก็จะหลับตลอด...เธอพยายามแล้วจริง ๆ สาบานด้วยเกียรติของลูกเสือที่ไม่เคยเรียนมาเลยเอ้า!..
“ยามะ ยามะ อ่านอะยัย “
เฟิงมี่ที่ปีนขึ้นแคไม้สานหน้าบ้านที่ยามะเสะนอนอ่านหนังสืออยู่เอ่ยถามปล่อยท่านแม่ให้คุยกับท่านยายรินนะ
“บุคคลสำคัญในจักรวรรดิน่ะ “
แค่ชื่อเรื่องก็ดูจะชวนปวดหัวแล้ว จินตนาการได้เลยว่าวันนี้เธอคงหลับตั้งแต่ห้านาทีแรก
“อ่านทะมายเหรอ”
“กลัวจะมีออกสอบในข้อเขียนน่ะ”
อืมจะว่าไปแล้วที่นี่ก็มีโรงเรียนสินะชักน่าสนใจขึ้นแล้วสิ โลกใบใหม่ของเธอ
“ใครบ้างอะ มีมี่อยากฟัง”
เธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าโลกนี้ใครเป็นใหญ่บ้าง รู้ไว้ก็ไม่เสียหายอะไร ศีรษะกลมพยายามชะโงกหน้าขึ้นดูหนังสือที่ยามะเสะถือไว้อย่างอยากรู้อยากเห็น
“งั้นคนนี้แล้วกัน มหาจักรพรรดิ ลูซินัส เดอร์ ลองกัว ลูซเซอร์รัส เดย์ พัลนิเซีย ออสโทเปียร์
ผู้ครองจักรวรรดิออสโทเปียร์ แคว้นนี้ก็อยู่ในการปกครองของจักรวรรดิและจักรพรรดิองค์นี้ด้วย ทรงเป็นกษัตริย์ที่เก่งกาจมากมาก เลยล่ะเฟิงมี่..นำทัพพิชิตแดนเหนือจรดใต้ก่อตั้งเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้จักรวรรดิใด ๆ ....”
อาเด๊ะ!?
เหมือนประสาทการได้ยินของเธอจะไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว...
ออสโทเปียร์ชื่อจักรวรรดิว่าคุ้น ๆ แล้ว ชื่อเต็มกษัตริย์นี่ใช่เลยเมื่อนำมาประกอบกับสิ่งที่พบเจอมาตลอด 3 ปี ท่าทางของท่านแม่เวลาเธอถามหาพ่อ ไหนจะรูปร่างของเธอ
ชื่อของนิยายเรื่องหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกใจเธอแล่นเข้ามาในหัวเธออย่างรวดเร็วเพราะพึ่งอ่านจบไปได้ไม่นาน ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุและมาเกิดใหม่
และเมื่อมองถึงความเป็นไปได้เธอก็แทบอยากจะสบถเป็นคำหยาบที่โลกเก่าให้ลั่นโลกนี้
”What the fuck!”
และดูเหมือนร่างกายเธอก็ต้องการระบายออกมาเช่นกัน
ยามะเสะแตะหยดน้ำลายของเธอที่กระเด็นโดนหน้าอีกฝ่ายออกพลางปรายตาขึ้นมองเธอที่สบถคำหยาบด้วยใบหน้ามึนงงเพราะไม่เข้าใจความหมายของคำที่เธอกล่าว...
“มีมี้ชมเขา เก่งฝุดฝุดเย้ยย” (มีมี่ชมเขา เก่งสุดสุดเลย)
สีข้างถลอกแล้ว ให้ตายสิพระเจ้าเวร (นักเขียน)
(อดีต)
ร่างสูงหนาดั่งชายนักรบกึ่งนอนกึงนั่งอยู่บนเตียงสี่เสาแสนโอร่าข้างกายมีร่างผอมบางของคนผู้หนึ่งอิงแอบเกือบเปลือยเปล่า ดวงตาสีแดงสดปรายมองเอกสารในมือส่วนมืออีกข้างก็ไม่ได้ว่างเว้นโอบกอดร่างผอมบางของคนผู้หนึ่งพรางดึงม้วนเลือนผมสีน้ำตาลเล่น
“ข้าขอทูลถามพระองค์ได้หรือไม่ว่ามีสิ่งใดที่พระองค์ไม่ชอบบ้างขอรับ”
เจ้าของเลือนผมสีน้ำตาลที่ถูกกระทำต่างหมอนข้างพึมพำถามแผ่วเบาบนอกแกร่ง
“ยังไม่หลับอีกหรือ..”
ดวงตาสีแดงดังอัญมณีทับทิมแตกต่างจากนัยน์ตาของคนสามัญ ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายราวกับอัญมณีเลอค่าไม่เหมือนเฉกเช่นดวงตาของผู้อื่นละออกจากเอกสารก่อนวางมันลงเพื่อลูบศีรษะคนบนอก
“ขอรับ”
“สิ่งที่ข้าไม่ชอบหรือ...หึ หากเป็นคนอื่นที่ถาม ข้าคงคิดว่ากำลังมองหาจุดอ่อนของข้าเพราะเป็นเจ้า..อิงอิงของข้า ข้าจะยอมตอบก็แล้วกัน”
ร่างผอมบางที่กำลังกึ่งหลับถูกพลิกให้อยู่ด้านล่างอย่างรวดเร็วดวงตาสีน้ำตาลมองคนที่คร่อมตนอยู่อย่างงงงวยที่ถูกเปลี่ยนท่ากะทันหัน
“นี่ท่านจะ...ท่านพึ่งทำไปเองนะขอรับ!”
ร่างที่เป็นรองเอ่ยค้าน ความง่วงเริ่มจางหายไปเมื่อรู้ว่ากำลังเผชิญกับสิ่งใด
“หึหึ ถ้าเป็นเจ้าสำหรับข้าไม่เคยพอ”
“อื้อ...”
ความแข็งแกร่งที่ยากลืมถูกส่งมอบเข้ามาในกายอย่างไม่รีรอ
“ถือเป็นค่าตอบคำถามเจ้าของข้าแล้วกันอิงอิง...ข้าไม่เคยทำสิ่งใดโดยไม่หวังผลตอบแทนเจ้าก็รู้”
สัมผัสแผ่วร้อนไล่ฝังไปตามเรือนกายของคนที่อยู่ใต้อานัติ
“เจ้าอยากฟังสิ่งที่ข้าไม่ชอบไม่ใช่หรือ...ข้ากำลังบอกอยู่นี่ไง”
ไฟราคะที่ดับมอดไปแล้วเมื่อหลายชั่วโมงถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง ร่างบอบบางกำลังถูกลุกล้ำอย่างอุกอาจมือเรียวกำเส้นผมสีทองสว่างของคนที่ทรมานตนแน่นเพื่อระบายอารมณ์ที่ถูกปลุกปั่น ผีเสื้อฝูงใหญ่กำลังกระพือปีกอยู่ในท้องของเขา
“ฟังดี ๆ ล่ะ อย่ามัวแต่ร้องครางเสียล่ะ...หึหึ”
น้ำเสียงแหบพร่าถูกกระซิบที่ข้างหู ก่อนฟันคมจะคบกัดลงมาจนคนถูกกระทำต้องส่งเสียงประท้วง
“อ้า!”
สัมผัสถูกเน้นหนักจนต้องส่งเสียงออกมาอย่างไม่อาจข่มกลั้น
“สิ่งแรกที่ข้าเกลียด คือ สตรีทุกผู้ ทุกนางล้วนแพศยา อื้อ แน่นจริง”
สัมผัสหนักแน่นถูกเน้นยำลงมาอีกครั้ง
“อ้ะ”
ร่างบอบบางอดจะเชิดหน้าขึ้นเสียไม่ได้...กับความทรมานที่ถูกหยิบยื่นให้
“อีกสิ่งที่ข้าเกลียดไม่แพ้กันคือ เด็ก อ้า เพราะมันช่างอ่อนแอน่าสมเพซ!”
บทรักเริ่มหนักหน่วงขึ้นทุกครั้งผู้กระทำเอื้อนเอ่ยถ้อยคำ
“อื้อได้โปรด...ข้าไม่อยากฟังแล้ว”
ศีรษะทุยถูกเจ้าของส่ายไปมาจนเรือนผมสีน้ำตาลฟุ้งกระจายเต็มหมอนใบโต
“อิงอิงยอดรักคืนนี้ยังอีกยาวใกล้นัก....มีหลายสิ่งที่ข้าเกลียดชัง เจ้าอย่าพึ่งหมดสติไปก่อนเสียล่ะ.”
“อ้า!!”
เสียงร้องครางอย่างสุขสมดังจวบจนรุ่งสาง
ฉากหนึ่งในนิยายล่ารักเชลยศึกออสโทเปียร์