- อย่าแตะต้องท่านแม่นะไอลูกหมานี่!เธอในวัย3ขวบที่พึ่งระลึกได้ว่าตัวเองอยู่ในนิยายเรื่องอะไร เป็นลูกของใครกับใคร – “what the fu*k”

ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng) - บทที่ 4 เธอกับการพรากจาก โดย wah_cherly @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ครอบครัว,แฟนตาซี,ผจญภัย,ตลก,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ครอบครัว,แฟนตาซี,ผจญภัย,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng) โดย wah_cherly @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

- อย่าแตะต้องท่านแม่นะไอลูกหมานี่!เธอในวัย3ขวบที่พึ่งระลึกได้ว่าตัวเองอยู่ในนิยายเรื่องอะไร เป็นลูกของใครกับใคร – “what the fu*k”

ผู้แต่ง

wah_cherly

เรื่องย่อ




- อย่าแตะต้องท่านแม่นะไอลูกหมานี่!เธอในวัย3ขวบที่พึ่งระลึกได้ว่าตัวเองอยู่ในนิยายเรื่องอะไร เป็นลูกของใครกับใคร –

“what the fuck”

เฟิงมี่


“ฝ่าบาทไม่โปรดสตรีและเด็ก หึ แล้วฟ้าก็ช่างเล่นตลกที่เฟิงมี่เป็น‘เด็กผู้หญิง’” 

หยางเหยียนลู่อิง (ท่านแม่)


“วันนี้ข้าจะอยู่เล่นกับเจ้าเอง”

ลูซินัส (ท่านพ่อ)


...หลังจากนั้น.... 


“ข้าแนะนำให้ท่านเล่นวิ่งว่าวกับลูกไม่ได้ให้เอาลูกไปทำเป็นว่าวนะท่านพี่!” 

ลูชิเอล (ท่านอา)


“อัปลักษณ์จริง...” 

หยางไท่ลู่เฟย (ท่านลุง)



คำชี้แจ้ง&ทักทาย

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยาย Boy Love แฟนตาซี อบอุ่นหัวใจ แนวครอบครัวสุขสันต์ หลังเรื่องบู้กระจาย ทั้งเรื่องน้องเฟิงมี่อายุ 3 ขวบค่ะ หุหุ อาจจะแปลกเล็กน้อยที่ตัวละครดำเนินเรื่องเป็นลูกของคู่พระนายค่ะแต่อยากให้ลองรับไปชิมอยู่ครับ😊

(ระหว่างในบางบทจะมีบทบรรยายเนื้อหาในอดีตของพระนายโดยจะใช้สัญลักษณ์ขีดยาวและขึ้นย่อแรกด้วยคำว่า (อดีต) เป็นตัวคั่น ค่ะ)

อย่างไรก็ฝากรับครอบครัวน้องเฟิงมี่ของเราไปพิจารณาด้วยนะคะ 🙏🏻😊

นิยายเรื่องนี้ลงที่แรกที่R&W(แอปฟ้า)ขออนุญาตนำมาโปรโมตใน  plotteller (น้องแพนด้าแดง) ขอบคุณเป็นอย่างสูงค่ะที่เอื้อพื้นที่ให้สำหรับนักเขียนตัวน้อยๆได้โปรโมตนิยาย


เรื่องนี้จบแล้วค่ะ มี e-book อยู่ใน meb ค่ะ มีทั้งหมดสองเล่มจบ ตอนนี้จัดโปรลด ถึงวันที่ 1 ก.ย. จาก เล่มล่ะ 289 เหลือเล่มล่ะ 174 บาทครับ ในแต่ล่ะเล่มมีจำนวนหน้า 500+ จำนวนคำ 1xx,xxx ครับ และมีตอนพิเศษในเล่มที่ไม่ลงในเว็บด้วย ถ้าท่านใดสนใจ และอยากสนับสนุนนักเขียนตัวน้อยๆ สามารถไปอุดหนุนกันได้ค่ะ แน่นอนว่าในเว็บจะลงให้อ่านฟรีจนถึงตอนจบค่ะ แต่จะลงช้าหน่อยนะคะ


ถ้าใครอยากได้เล่ม e-book แบบโปรลดอีก รอตอนช่วงเทศกาลได้ค่ะเเต่จะไม่ได้ราคาเท่ากับตอนเปิดตัวนะคะ ขออภัยด้วยอย่างไรก็กดติดตามกันไว้ได้ค่ะ เพื่อไม่ให้พลาดตอนใหม่และโปรโมรชั่นดีดี😊❤️


ขอขอบพระคุณการสนับสนุนทุกรูปแบบค่ะ🙏🏻🙇‍♀️



ช่องทางการสั่งซื้อ e-book

จิ้ม ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ เล่ม 1

จิ้ม ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ เล่ม 2 (จบ)










Wah_Cherly

นัก(หัด)เขียน













สารบัญ

ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทนำ บทนำ,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 1 เธอกับการมีแม่ที่สวยจนเรือหาย,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 2 เธอกับความจริงที่พึ่งประจักษ์,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 3 เธอกับวันที่เกือบดี,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 4 เธอกับการพรากจาก,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 5 เธอกับการพานพบ,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 6 เธอกับการตั้งตัวเป็นก้าง,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 7 เธอกับตัวแทนที่สะท้อนอดีต,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 8 เธอกับการเดินเรือสุดอลเวง,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 9 เธอกับการมาถึงแผ่นดินใหญ่แบบ งงๆ,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 10 เธอกับการมาถึงพระราชวังและมื้ออาหารแสนสุขสันต์

เนื้อหา

บทที่ 4 เธอกับการพรากจาก

บทที่4 
เธอกับการพรากจาก 

ลึกเข้าไปในป่าเขตลักซ์บนเกาะแคว้น มิซิกิโนะ กระโจมน้อยใหญ่ถูกตั้งขึ้นมากมายเพื่อเป็นที่พักให้แก่ผู้มาเยือน ภายในกระโจมหลังใหญ่ศูนย์กลางของกระโจมมากมาย ถูกตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามเพื่อให้สมพระเกียรติที่ประทับของ มหาองค์จักรพรรดิ ลูซินัส ผู้ครองจักรวรรดิออสโทเปียร์หนึ่งในสามขั้วจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่

ออสโทเปียร์

เรรินเซียร์

และต้าเถียนจิน

บนเตียงสานยกสูงทรงกลมที่ถูกปูด้วยฟูกขนเป็ดและหมอนมากมายวางเกลื่อนเพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้นอน

ร่างสูงหนากำลังหลับตาเพื่อพักสายตา การล่องเรือมาที่แห่งนี้ค่อนข้างใช้เวลานานประกอบกับเมื่อคืนที่มาถึงพระองค์ก็ทรงสั่งให้เริ่มการล่าสัตว์ทันทีกว่าจะเลิกก็ค่อนเช้าจึงทรงล้าไม่น้อย

แต่ก็นับว่าคุ้มเมื่อดูจำนวนสัตว์ที่ล่าได้ ป่าที่นี่อุดมสมบูรณ์กว่าที่พระองค์คิดสัตว์ดุร้ายก็มีมากนัก เป็นที่ถูกใจพระองค์ยิ่ง

พรึบ

เสียงของกระโจมที่เลิกเปิดขึ้นทำให้ดวงตาสีแดดั่งอัญมณีอันเป็นเอกลักษณ์ลืมขึ้นเพื่อเพ่งพินิจบุคคลที่อาจหาญทำการเสียมารยาท รังสีสังหารถูกแผ่ออกมาเมื่อรู้สึกไม่สบอารมณ์...

“หากไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนแม้เป็นเจ้า...ลูชิเอล ข้าก็สังหารได้”

น้ำเสียงเย็นชาถูกพูดบอกกล่าวผู้มาเยือนเนิบช้าแต่สะท้านหนาวเหน็บถึงขั้วหัวใจ

หนึ่งในมนตราที่ครอบครองสำแดงเดช มีด ดาบ มากมายปรากฏขึ้นกลางอากาศพร้อมพุ่งเสียบกายของผู้ที่อาจหาญ...ตามคำสั่งเจ้าของเวท

“ใจเย็นก่อนท่านพี่...ข้ามีเรื่องอยากจะถามท่าน”

ตั้งแต่เรื่องเมื่อสี่ปีก่อน ท่านพี่ของเขาก็ไม่เคยฟังผู้ใดอีก เย็นชาและโหดเหี้ยมแม้แต่ตัวเขาผู้เป็นน้องก็ยังหวาดกลัว...การเข่นฆ่าเท่านั้นที่ช่วยเยียวยาจักรพรรดิลูซินัสเมื่อหมดงานศึกก็จำต้องออกล่าสัตว์อยู่เสมอ....

ผ้าคลุมสีดำถูกปลดลงเผยให้เห็นเรือนผมสีทองสว่างเฉกเช่นองค์จักรพรรดิสิ่งที่ต่างออกไปเห็นเพียงจะมีก็แต่สีของดวงตาที่แตกต่าง

ดวงตาสีแดงทับทิมขององค์จักรพรรดิลูซินัสจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีมรกตของน้องชายร่วมบิดามารดา

“ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากทูลให้ท่านทราบและอยากให้ท่านทอดพระเนตรของสิ่งหนึ่ง”

ดาบกลางอากาศถูกลดลงแหวกเป็นทางเดินให้ลูชิเอลเดินไปคุกเข่ารายงานข้างแท่นประทับ

“ข้ากับท่าน เซเรน ไปซื้อสมุนไพรที่ขาดเหลือในเขตเมืองท่าของแคว้นมิซิกิโนะพบเจอคนผู้หนึ่งคล้าย..”

ลูชิเอลเหลือบตาขึ้นสังเกตอารมณ์ของพี่ชายก่อนจะกลั้นใจเอ่ยหนึ่งในนามต้องห้ามออกไป

“..อดีตองครักษ์นาซิส....”

เวทดาบถูกผู้ร่ายบังคับให้ชิดลำคอของผู้เข้ามารายงาน

“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าชื่อนั่นเป็นชื่อต้องห้าม...”

ดวงตาสีแดงเข้มขึ้นราวกับกำลังจะกลั่นตัวเป็นหยดเลือด

“เจ้ากลับกล้ารบกวนข้าด้วยเรื่องไร้สาระ...พันนั้น.คงอยู่มานานเกินไปแล้วใช่ไหมลูชิเอล”

คนบนเตียงลุกขึ้นเต็มความสูงเดินไปเชยคางอนุชาหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของพระองค์ขึ้นสบกับดวงตาสีแดง ดาบสีดำประจำพระองค์ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ....

“แล้วถ้าเป็นสิ่งนี้พระองค์จะพอจำได้หรือไม่”

กระดาษหยาบที่ถูกเขียนเป็นภาษาเฉพาะของสมุนไพรถูกยกขึ้นมาขวางกั้น

หัวใจราวกับถูกบีบรัด...ช่างเหมือน...เหมือนลายมือในจดหมายบ้านั่นที่ทำให้พระองค์เป็นบ้าเป็นหลัง...เจ้าของลายมือผู้ขโมยดวงใจของพระองค์ไปย่ำยี

“เจ้าได้มันมาอย่างไรลูชิเอล!”

กระดาษถูกกำแน่นจนยับยู่ก่อนถูกเปลวเพลิงสีดำลุกไหม้เผาผลาญมอดไหม้ในมือแกร่ง

“เถ้าแก่ร้านบอกว่าเป็นหมอที่อาศัยอยู่ในเขตป่าลึก.....”

ลูชิเอลรีบกล่าวทูล

“หึหึ วาสนามีจึงพบกันหรืออิงอิง...อย่าให้ข้าได้พบเจ้า...เจ้าจะไม่มีวันเรียกร้องอิสระจากข้าได้อีก สั่งการลงไปปิดล้อมป่า ลาดตระเวนให้ทั่วทั้งเกาะ....หากไม่พบในสองชั่วโมงปิดเกาะนี่ซะคนนอกห้ามเข้า...คนในก็อย่าหวังจะได้ออกไป...เตรียมม้า!”

ผ้าคลุมถูกสะบัดยามเอ่ยสั่งทหารนอกกระโจม

“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ ขอความรุ่งโรจน์จงปรากฏแก่พระองค์”

ลูชิเอลมองตามหลังของท่านพี่ที่ตนเคารพรักอดคิดย้อนอีกทีไม่ได้ว่าคิดถูกหรือเปล่าที่กราบทูลเรื่องนี้ให้ฟัง...หางานมาให้ตัวเองชัด ๆ

เอาเถอะมันจะได้กระจ่างเสียที....เรื่องเมื่อสี่ปีนั่น เขาไม่เชื่อหรอกว่านาซิสจะเป็นชู้กับท่านลู่อิง

คนที่จงรักภักดีทำเพื่อจักรวรรดิขนาดนั้น กับท่านลู่อิงผู้อ่อนหวาน...ไม่เข้าเค้าเอาเสียเลย

เขาคิดมาตลอดว่าสองคนนั้นต้องปิดบังหรือเก็บซ่อนอะไรบางอย่างให้ห่างไกลจากท่านพี่เป็นแน่...แต่มันเป็นสิ่งใดกัน...

 ดวงตาสีเขียวมรกตหรี่ลงอย่างใช้ความคิด ปัญหาที่ปัญญาแห่งจักรวรรดิออสโทเปียร์อย่างเขาไม่อาจขบคิดได้...

“หวังว่าท่านลอร์ดเซเรนจะไม่พลาด...”

.

.

.

อีกด้านหนึ่งของป่า

“ถึงตรงนี้คุณหนูช่วยวิ่งกลับไปหาท่านลู่อิงเองได้หรือไม่ขอรับ....เรากำลังถูกตาม”

นาซิสว่างเธอลงหลังต้นไม้ใหญ่...ใกล้เขตที่เธอมาเดินเล่นกับท่านแม่บ่อย ๆ ถึงตรงนี้ต้องผ่านลำธารและทุ่งดอกไม้เท่านั้น

ร่างสูงคุกเข่าลงให้เสมอตัวเธอฝ่ามือชื้นเหงื่อของนาซิสเอื้อมจับปอยผมสีทองที่ร่วงหล่นจากแรงวิ่งของเขาแหนบหลังใบหูให้

ฝ่ามืออบอุ่นของนาซิสเลื่อนมาลูบหัวเธอแผ่วเบา

“เข้มแข็งอีกนิดนะขอรับ...”

เธอเงยหน้าสบกับดวงตาสีฟ้าสดใสของนาซิส...คนที่ตามมาต้องเก่งมากแน่ ๆ นาซิสที่ไม่เคยทิ้งเธอถึงกลับเลือกใช้วิธีนี้

“ถ้าผมสั่งว่าวิ่ง...ให้วิ่งไปหาท่านลู่อิงให้เร็วที่สุดเลยนะขอรับ”

ตัวของเธอถูกดึงรั้งเข้าไปกอดอย่างที่นาซิสไม่เคยทำและผละออก

ตุ๊กตากระต่ายถูกหยิบยื่นให้

“สุขสันต์วันเกิดนะขอรับ...สัญญาได้ไหมขอรับว่าจะไม่หันกลับมา”

ทำไมกัน....

“ต้อง..ตามมานะ”

เธอพยักหน้ารับเอ่ยบอกอย่างเอาแต่ใจเสียงแผ่วเบา ก้มลงมองตุ๊กตากระต่ายสีขาวดวงตาสีแดงในมือด้วยความรู้สึกหลากหลาย

ที่ตามใจกันขนานนี้เพราะเป็นวันเกิดสินะ...ไม่รู้จริง ๆ นะว่าวันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดการนับปีของที่นี่ค่อนข้างจะแตกต่างแถมไม่มีปฏิทินให้เธอกาวันสำคัญเหมือนโลกที่แล้วไม่แปลกที่เธอจะหลงลืม

“ขอรับ...จะรีบตามไป”

โกหก...คนในเรื่องนี้โกหกไม่เก่งกันสักคนเลย...ทั้งท่านแม่

....ทั้งนาซิส.....

ถ้าจะตามมา....

“วิ่ง!”

เธอออกตัววิ่งตามคำสั่งของนาซิส

...ทำไมต้องทำหน้าเหมือนพร้อมจะตายด้วยกัน....

เพล้ง!

เสียงของบางอย่างแตกละเอียดลงแต่เธอก็ไม่ได้หันกลับไปมองตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับนาซิส กระชับตุ๊กตากระต่ายแน่นขึ้นเพื่อไม่ให้เผลอทำหลุดมือ

....นี่สินะที่เขาว่าเรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย

มือป้อมยกขึ้นปาดน้ำตา

ถ้านาซิสเป็นอะไรไปเธอไม่ยกโทษให้แน่...เจ้าพ่อเวร!

.

.

.

“อ้าวไปไหนแล้วเสียล่ะเด็กคนนั้น...”

ลอร์ดเซเรนที่ไล่ตามมาตลอดเอ่ยถาม แต่คนถูกถามกลับทำเพียงยกยิ้ม หมวกที่ใช้ปิดบังใบหน้าถูกถอดออกเผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าสดใส...

“ช่างเป็นเกียรติของผมที่ได้พบท่านลอร์ดเซเรนอีกครั้ง...ผมไม่คิดว่าเราจะได้พบกัน…เร็วขนาดนี้....”

ดาบประจำกายถูกเรียกมาไว้ในมือ

เซเรนที่นั่งรอเวทอาณาเขตของอีกคนหมดเวลาก็กระโดดลงจากกิ่งไม้มาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย

“เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วยสินะ นาซิส...เฮ้อบางครั้งข้าก็อดจะรำคาญความฉลาดของท่านชายไม่ได้จริง ๆ “

เจ้าของเรือนผมสีม่วงคล้ายบ่นกับตัวเองในมือปรากฏเคียวด้ามใหญ่เช่นเดียวกัน

ใบคมดาบสะท้อนกับแสงของอาทิตย์ที่เริ่มลับขอบฟ้า

“ถึงเป็นท่านก็ไม่ออมมือให้หรอกนะครับ”

“หึ ก็ไม่ได้ขอนิ...จะว่าไปเอาหัวเจ้าไปถวายคงถูกใจองค์จักรพรรดิไม่น้อย...”

“รับมือครับ!”

.

.

.

“ใกล้มืดแล้ว...สองคนนั้นยังไม่กลับมาอีกเหรอ...เป็นอะไรหรือเปล่านะ....”

หยางเหยียนลู่อิงที่ตระเตรียมของไว้ฉลองวันเฟิงมี่ ลุกขึ้นยืนมองลอดผ่านหน้าต่าง

พระอาทิตย์ใกล้จะตกเย็นเสียแล้วสิ

“กลับมาจะเอ็ดเสียให้หูชาทั้งอาทั้งหลานเลย...เฮ้อ”

คนตัวบางอดบ่นเสียไม่ได้ ก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจเอาจริง ๆ แค่เขาเห็นรอยยิ้มลูกกับใบหน้าอ้อน ๆ นั่นก็คงดุไม่ลงแล้ว

“หวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”

‘ฮี่’!!!

เสียงม้า!!! หยางเหยียนลู่อิงเกร็งตัวขึ้นทันทีภายในหัวตระหนักเรื่องหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว

แคว้นมิซิกิโนะไม่มีม้าเพราะเป็นเกาะไม่ใหญ่ใช้เพียงวัวควายลาและแพะภูเขา!

ร่างผอมบางวิ่งออกมาตามเสียงอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมเพ่งหาลูกน้อยอย่างร้อนรน

.

.

.

“เฟิงมี่!!!”

ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างกับภาพที่เห็นตรงหน้าหัวใจของคนเป็นแม่คล้ายถูกบีบรัดจนเจ็บปวด

 



(อดีต)

“ท่านจะไปออกรบอีกแล้วเหรอ?”

ร่างที่เกยอยู่บนอกแกร่งของคนที่นั่งพิงหัวเตียงเอ่ยถามฝ่ามือบางลูบไล้ไปตามล่องกล้ามของคนที่โอบกอดตน

“อืม ครั้งนี้คงนานหน่อย”

ฝ่ามือหนาวางลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลยาวสวยพันม้วนมันเล่นกับนิ้วแกร่งอย่างที่ชอบทำ

“อย่างนั้นเหรอ?...ไปดีมาดีนะขอรับ”

ร่างผอมกล่าวอวยพรก่อนจะเงยหน้าวาดยิ้มด้วยใบหน้าอาลัยส่งให้ชายหนุ่ม

“เห็นเจ้ายิ้มอย่างนี้ข้าไม่อยากไปเสียแล้วสิ”

เขาอดที่จะก้มลงจุมพิตแผ่วเบาที่ริมฝีปากนั้นเสียไม่ได้ช้อนเอวบางขึ้นนั่งบนตักตน

มือหนาถูกมือเล็กจับวางทาบอิงกับใบหน้าของคนตัวบางบนตัก ที่ช้อนตาขึ้นมอง

“จริง ๆ ก็ไม่อยากให้ไปหรอก...การต้องอยู่รอคนสำคัญกลับมาหามันกระวนกระวายใจอยู่ตลอดเวลา...เขาจะกลับมาเมื่อไร...จะเป็นอะไรหรือเปล่า..หิวหรือเปล่า...กินอะไรหรือยัง จะบาดเจ็บหรือไม่ เหงาไหม คำถามพวกนี้มันวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเลย”

“อ่าเจ้าพูดซะ ข้าไม่อยากจากเจ้าไปเลย จะว่าไปช่วงนี้งอแงจังเลยนะ อิงอิงของข้าเป็นอะไรหรือเปล่า”

ร่างสูงใหญ่ดึงร่างบนตักเข้าหาตัวกดจูบลงบนกระหม่อมบาง

แหมะ

หยดน้ำสีใสร่วงหล่นกระทบอกตน

“นี่เจ้าร้องไห้หรืออิงอิง!!!”

“ม่ายปายม่ายได้เหรอ”

ชายหนุ่มนิ่งค้างอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อเจอภาพของคนรักที่ช้อนดวงตากลมคลอหน่วงด้วยน้ำตาขึ้นสบตน

“ข้าเคยนึกอยากให้เจ้าอ้อนข้ามาตลอด...แต่พอเจอเข้าจริง ๆ ข้ากลับทำอะไรไม่ถูก”

ร่างหนาพึมพำแผ่วเบารั้งร่างผอมบาง เข้าซบบ่าตนหวังปลอบประโยม

หนึ่งในฉากนิยายล่ารักเชลยศึกออสโทเปียร์