- อย่าแตะต้องท่านแม่นะไอลูกหมานี่!เธอในวัย3ขวบที่พึ่งระลึกได้ว่าตัวเองอยู่ในนิยายเรื่องอะไร เป็นลูกของใครกับใคร – “what the fu*k”

ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng) - บทที่ 6 เธอกับการตั้งตัวเป็นก้าง โดย wah_cherly @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ครอบครัว,แฟนตาซี,ผจญภัย,ตลก,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ครอบครัว,แฟนตาซี,ผจญภัย,ตลก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

- อย่าแตะต้องท่านแม่นะไอลูกหมานี่!เธอในวัย3ขวบที่พึ่งระลึกได้ว่าตัวเองอยู่ในนิยายเรื่องอะไร เป็นลูกของใครกับใคร – “what the fu*k”

ผู้แต่ง

wah_cherly

เรื่องย่อ




- อย่าแตะต้องท่านแม่นะไอลูกหมานี่!เธอในวัย3ขวบที่พึ่งระลึกได้ว่าตัวเองอยู่ในนิยายเรื่องอะไร เป็นลูกของใครกับใคร –

“what the fuck”

เฟิงมี่


“ฝ่าบาทไม่โปรดสตรีและเด็ก หึ แล้วฟ้าก็ช่างเล่นตลกที่เฟิงมี่เป็น‘เด็กผู้หญิง’” 

หยางเหยียนลู่อิง (ท่านแม่)


“วันนี้ข้าจะอยู่เล่นกับเจ้าเอง”

ลูซินัส (ท่านพ่อ)


...หลังจากนั้น.... 


“ข้าแนะนำให้ท่านเล่นวิ่งว่าวกับลูกไม่ได้ให้เอาลูกไปทำเป็นว่าวนะท่านพี่!” 

ลูชิเอล (ท่านอา)


“อัปลักษณ์จริง...” 

หยางไท่ลู่เฟย (ท่านลุง)



คำชี้แจ้ง&ทักทาย

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยาย Boy Love แฟนตาซี อบอุ่นหัวใจ แนวครอบครัวสุขสันต์ หลังเรื่องบู้กระจาย ทั้งเรื่องน้องเฟิงมี่อายุ 3 ขวบค่ะ หุหุ อาจจะแปลกเล็กน้อยที่ตัวละครดำเนินเรื่องเป็นลูกของคู่พระนายค่ะแต่อยากให้ลองรับไปชิมอยู่ครับ😊

(ระหว่างในบางบทจะมีบทบรรยายเนื้อหาในอดีตของพระนายโดยจะใช้สัญลักษณ์ขีดยาวและขึ้นย่อแรกด้วยคำว่า (อดีต) เป็นตัวคั่น ค่ะ)

อย่างไรก็ฝากรับครอบครัวน้องเฟิงมี่ของเราไปพิจารณาด้วยนะคะ 🙏🏻😊

นิยายเรื่องนี้ลงที่แรกที่R&W(แอปฟ้า)ขออนุญาตนำมาโปรโมตใน  plotteller (น้องแพนด้าแดง) ขอบคุณเป็นอย่างสูงค่ะที่เอื้อพื้นที่ให้สำหรับนักเขียนตัวน้อยๆได้โปรโมตนิยาย


เรื่องนี้จบแล้วค่ะ มี e-book อยู่ใน meb ค่ะ มีทั้งหมดสองเล่มจบ ตอนนี้จัดโปรลด ถึงวันที่ 1 ก.ย. จาก เล่มล่ะ 289 เหลือเล่มล่ะ 174 บาทครับ ในแต่ล่ะเล่มมีจำนวนหน้า 500+ จำนวนคำ 1xx,xxx ครับ และมีตอนพิเศษในเล่มที่ไม่ลงในเว็บด้วย ถ้าท่านใดสนใจ และอยากสนับสนุนนักเขียนตัวน้อยๆ สามารถไปอุดหนุนกันได้ค่ะ แน่นอนว่าในเว็บจะลงให้อ่านฟรีจนถึงตอนจบค่ะ แต่จะลงช้าหน่อยนะคะ


ถ้าใครอยากได้เล่ม e-book แบบโปรลดอีก รอตอนช่วงเทศกาลได้ค่ะเเต่จะไม่ได้ราคาเท่ากับตอนเปิดตัวนะคะ ขออภัยด้วยอย่างไรก็กดติดตามกันไว้ได้ค่ะ เพื่อไม่ให้พลาดตอนใหม่และโปรโมรชั่นดีดี😊❤️


ขอขอบพระคุณการสนับสนุนทุกรูปแบบค่ะ🙏🏻🙇‍♀️



ช่องทางการสั่งซื้อ e-book

จิ้ม ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ เล่ม 1

จิ้ม ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ เล่ม 2 (จบ)










Wah_Cherly

นัก(หัด)เขียน













สารบัญ

ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทนำ บทนำ,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 1 เธอกับการมีแม่ที่สวยจนเรือหาย,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 2 เธอกับความจริงที่พึ่งประจักษ์,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 3 เธอกับวันที่เกือบดี,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 4 เธอกับการพรากจาก,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 5 เธอกับการพานพบ,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 6 เธอกับการตั้งตัวเป็นก้าง,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 7 เธอกับตัวแทนที่สะท้อนอดีต,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 8 เธอกับการเดินเรือสุดอลเวง,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 9 เธอกับการมาถึงแผ่นดินใหญ่แบบ งงๆ,ท่านพ่ออย่ารังแกท่านแม่ (Mprng)-บทที่ 10 เธอกับการมาถึงพระราชวังและมื้ออาหารแสนสุขสันต์

เนื้อหา

บทที่ 6 เธอกับการตั้งตัวเป็นก้าง

บทที่6

เธอกับการตั้งตัวเป็นก้าง

“เฟิงมี่ลูก!!!”

ตัวเฟิงมี่ถูกท่านแม่รวบดึงมากอดอย่างหวงแหน กลัวว่าคนผู้นี้จะทำอะไรเธอ

จักรพรรดิลูซินัสมองมือที่ว่างเปล่าของตนด้วยสายตาอ่านยาก....

“...ท่านแม่...ลูก...อย่างนั้นเหรอ?”

ทรงพึมพำราวกับตกอยู่ในห้วงความคิด...

“หึ...นี่มันอะไรกัน”

ดวงตาสีแดงทับทิมขององค์จักรพรรดิมองมาที่เธออย่างสับสนฝ่ามือแกร่งยกขึ้นกุมขมับกับเรื่องที่กำลังคิด....

“หึ หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮา”

ก่อนจะเงยหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง...ท่านแม่กอดเธอแน่นขึ้น เธอเองก็มองพ่อเวรอย่างงงงวย....ไอลูกหมานี่บ้าไปแล้วเหรอ?!!!

“หึ หึ นี่คือเหตุผลที่เจ้าหนีข้าอย่างนั้นหรือ อิงอิง หึหึ ช่างไร้สาระเสียจริง”

จักรพรรดิ ลูซินัส กระตุกยิ้มมุมปากเสยผมที่ร่วงมาปรกหน้าขึ้น.

..อ่าหล่อไปแล้วไอลูกหมานี่

แววตาโกรธแค้นท่านแม่หายไปหมดเกลี้ยงทั้งที่ก่อนหน้าเกือบจะฆ่าแกงกันแล้วเหลือเพียงแววตาของคนที่โล่งใจกับเรื่องบางอย่าง

“ได้เวลากลับกรงแล้ว อิงอิง อิสระของเจ้าจบลงแล้ว”

ใบหน้าหล่อเหล่าตามฉบับพระเอกขององค์จักรพรรดิเคลื่อนเข้ามากระซิบที่ข้างใบหูของหยางเหยียนลู่อิง

ฝ่ามือยกขึ้นไล่ไปตามโครงหน้าก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากที่กำลังสั่นกลัว

ใบหน้าคมเลื่อนเข้าใกล้อย่างโหยหา...ช่วงเวลาแห่งความโหยหากำลังจบลง

.

.

.

‘แปะ!’

ฝ่ามือป้อมปะทะเข้ากับแก้มขององค์จักรพรรดิข้างเดียวกับที่ผู้เป็นแม่ได้กระทำไป

ผู้คนโดยรอบวงล้วนสูดลมหายใจเข้าไม่กล้าที่จะปล่อยออก...

องค์จักรพรรดิที่โดนกระทำก้มมองต่ำไปสบกับดวงตาที่เหมือนกับพระองค์...ผู้ที่กล้าขัดจังหวะถึงสองครั้งสองครา

“เจ้าก้อนสีเหลือง”

เสียงทุ้มครางต่ำ

.

.

.

ไอการกระทำที่ทำข้ามหัวเธอนี่มันอะไรกัน อ้อมกอดของท่านแม่รัดเธอแน่นขึ้นยามที่ไอพ่อเวรนั่นไล่มือไปตามใบหน้า...ใบหน้าที่เลื่อนเข้ามา คิดเหรอว่าเธอไม่รู้ว่าจะทำอะไร....ท่านแม่ผู้บริสุทธิ์ของเธอยกให้ไม่ได้หรอก...ไม่ปลื้มตั้งแต่ที่บีบคอท่านแม่แล้ว....พ่ออย่างนี้ไม่ผ่าน!

แปะ !

ฝ่ามือไปเร็วเท่าความคิด

เมื่อคนผู้นั้นมองลงมาใบหน้าที่บึ้งตึงก็แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มหวาน

“มามี้บอกว่าถ้าปล่อยให้ยุงกัดจะเป็นโยง ยองใยด้าย”(มามี้บอกว่าถ้าปล่อยให้ยุ่งกัดจะเป็นโรคหนอง*ในได้)

จักรพรรดิลูซินัสมองมาที่เธออย่างโง่งมถอนหายใจใส่เธอก่อนจะผละออกไปช่วยพยุงท่านแม่ให้ลุกขึ้นอีกทีท่านแม่เองก็ไม่ลืมที่จะอุ้มเธอติดมือมาด้วย

เป้ง ๆ ยกที่หนึ่งเธอชนะ

“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าบาดเจ็บ”

ดวงตาสีแดงทับทิมที่เหมือนเธอของพ่อบ้ามองไปยังบาดแผลถลอกเป็นทางยาวตามรอยเสื้อที่ฉีกขาดของท่านแม่และรอยนิ้วมือของตนบนคอของท่านแม่ที่ขึ้นเป็นริ้วแดง

“...แผลแค่นี้นับว่าเล็กน้อยแลกกับชีวิตลูก...”

“...ข้าขอโทษ...ข้ามองไม่เห็น....เจ้าก้อนสีเหลืองนั่นตัวเล็กเกินไป”

“...”

เป้ง ๆ เธอน็อกแล้วเจ้าพ่อบ้าพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบจ้องมาที่เธอด้วยสายตาว่างเปล่า...

ก็เธอพึ่งจะสามขวบจะสูงกว่าต้นหญ้าดอกหญ้าพวกนี้เท่าไรกันเชียว...อีกอย่างกินเท่าไรก็ออกข้างด้วยไม่สูงสักที!

“ฮึฮึม “

ท่านแม่กระแอมแก้ขัดเมื่อคิดถึงความเป็นไปจักรพรรดิลูซินัสขี่ม้าตัวสูงใหญ่ นี่ก็มืดแล้วพ่อแม่ที่ไหนจะปล่อยให้เด็กมาวิ่งเล่นกันไม่แปลกที่จะไม่เห็น...

“กระหม่อมจะกลับไปกลับท่านแน่...แต่ไม่ใช่ตอนนี้พ่ะย่ะค่ะ”“

“นี่เจ้า!”

“ใจเย็นก่อนสิ ท่าน เพียงแค่ไปฉลองวันเกิดให้เด็กคนนี้เท่านั้น ตามข้ามาสิหากท่านไม่วางพระทัย”

ท่านแม่แจ้งเหตุผลก่อนที่ไอลูกหมาจะอารมณ์ขึ้น...

“ข้าไปด้วยได้หรือไม่อย่างไรข้าก็เป็น...อาของเด็กคนนี้”

ร่างสูงโปร่งในชุดเครื่องแบบแหวกวงทหารเข้ามา เรือนผมสีเหลืองทองเหมือนกับเธอและจักรพรรดิลูซินัสปลิวลู่ไปตามลมเผยให้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์และดวงตาสีมรกต

วาวสวยจังคนนี้...ด้านข้างกันมีชายผมสีม่วงที่เธอคุ้นตาเพราะเคยเจอกันที่ร้านขายยาที่แท้ก็เป็นคนของราชวงศ์สินะ

“เป็นเกียรติที่ได้พบกับพระองค์อีกครั้งเจ้าชายลูชิเอล ท่านลอร์ดเซเรน และนับเป็นโชคดีของเด็กคนนี้เช่นกันที่ท่านจะไปร่วมงานวันเกิดครบรอบสามปีของนาง”

“ท่านลูอิงอย่าได้กล่าวไปอย่างไรเลดี้น้อยก็มีศักดิ์เป็นเจ้าหญิงหนึ่งเดียวขององค์จักรพรรดิทางนี้เองตั้งหากที่ต้องรู้สึกเป็นเกียรติ...และโปรดเรียกข้าว่าท่านชายเถอะครับ ข้าชอบอย่างนั้นมากกว่า”

“เชิญทางนี้ท่านชาย ท่านลอร์ด”

เธอถูกท่านแม่อุ้มเดินออกไปโดยมีองค์จักรพรรดิ หนุ่มหล่อของเธอแล้วก็หนุ่มหน้าสวยที่ท่านแม่เรียกว่าเจ้าชาย ด้านหลังเป็นเหล่าทหารที่ถือคบเพลิงเวทเดินตามมาเป็นขบวน

เธอกอดคอเอาคางเกยไหล่ท่านแม่จ้องมององค์จักรพรรดิที่เดินตามมาติด ๆ

เมื่อองค์จักรพรรดิรู้สึกว่าถูกจ้องมองจึงหลุบตามองก้อนสีเหลืองที่โผล่พ้นไหล่ของคนรัก

ดวงตาสีแดงเช่นเดียวกับพระองค์จ้องสบกันเมื่อเห็นว่าพระองค์ไม่ได้หลบตา...ร่างสีเหลืองเอี้ยวตัวไปหอมแก้มคนอุ้มก่อนหันกลับมาจ้องสบกับพระองค์ต่างออกไปเพียงใบหน้าที่ประดับยิ้มมองพระองค์อย่างเหนือกว่า....

.

.

.

บ้านหลังน้อยของเธอดูเล็กไปถนัดตาเมื่อยัดผู้ชายตัวใหญ่เพิ่มเข้ามาถึงสามคน ท่านแม่วางเธอลงที่เก้าอี้ตัวยาวก่อนหันไปจัดแจงของที่ระเกะระกะให้เข้าที ...

พรึบ...

ร่างขององค์จักรพรรดิทิ้งกายลงข้าง ๆ เธอพาดแขนไปตามแนวยาวของพนักพิงหลุบตามองเธอที่เงยหน้าขึ้นไปมองพอดีก่อนจะหันไปมองท่านแม่

ที่กำลังเชิญแขกอีกสองคนนั่งเก้าอี้ข้างโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารที่เธอชอบกับเค้กก้อนใหญ่

“จะว่าไปท่านนาซิสล่ะ...”

ท่านแม่ถามแผ่วเบาราวกับพูดกับตัวเองแต่ทุกคนในบ้านกลับได้ยิน

ดูเหมือนคนที่มีปฏิกิริยากับชื่อนี้มากที่สุดไม่พ้นคนข้างเธอที่มือข้างที่พาดอยู่บนพนักพิงกำแน่น

หึงอะดิ...บอกเลยเธอยกตำแหน่งพ่อในดวงใจให้ท่านนาซิสแล้ว

“ข้ากับเขาประมือกันเล็กน้อย...ตอนนี้อยู่ที่หน่วยแพทย์ของจักรวรรดิ”

เป็นหนุ่มหล่อผมม่วงที่เอ่ยบอกท่านแม่...

“ท่านนาซิส...เป็นอัศวินที่น่ายกย่อง...ข้าเองก็ต้องชดใช้ให้เขามากมาย”

ท่านแม่พูดด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย....เธออยากสะกิดบอกท่านแม่หรือเกินอย่าพึ่งชมท่านนาซิสตอนนี้ ระเบิดเวลาข้างเธอพร้อมบึ้มแล้ว!!!

“จะว่าไปท่านลู่อิงช่วยดูเลดี้น้อยว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า...ข้าเจอรอยเลือดที่น่าจะเป็นของเลดี้น้อย”

เป็นชายหน้าสวยที่พูดขัดบรรยากาศมาคุ ท่านแม่ทำหน้าตกใจรีบวิ่งมาคุกเข่าหน้าเธอ

“เฟิงมี่ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคนดี”

เธอเลยเลิกขากางเกงสีแดงให้ท่านดูแผล ด้วยความที่ขากางเกงมันเป็นสีแดงเลยดูไม่ออกว่าเลือดไหล

ท่านแม่ที่พอเห็นแผลเธอน้ำตานี่คลอมาเลย...ก็คงเพราะเธอไม่เคยเป็นแผลเลือดตกยางออกเลยนี่น่าจะตกใจก็ไม่แปลก...

มือเรียวของท่านแม่วางบดบังแผลเธอ

เวทเยียวยาเปล่งแสงสีขาวนวลบนฝ่ามือ

“เจ็บมากหรือเปล่า...น้ำผึ้งน้อยของแม่”

ถึงมันจะเจ็บก็จริงแต่เธอเลือกที่จะส่ายหน้าเพราะถ้าบอกว่าเจ็บท่านแม่เธอคงได้ปล่อยโฮแน่

“ฮึก เจ้าจะเข้มแข็งเกินไปแล้วเฟิงมี่”

ท่านแม่ดึงเฟิงมี่เข้ากอดศีรษะสีน้ำตาลอ่อนของท่านแม่ซุกพุงพลุ้ยของเธอ

“โอ๋ โอ๋ ม่าย ยอง” (โอ๋ โอ๋ ไม่ร้อง)

เธอลูบศีรษะปลอบท่านแม่แผ่วเบารู้สึกถึงสายตาที่มองมาด้านบนจึงเงยขึ้นสบกับดวงตาคู่นั้น

เพื่อขอความช่วยเหลือ....อย่างไงพระเอกก็ต้องปลอบนายเอกอยู่แล้วนิ

เหมือนพ่อพระเอกจะรู้ว่าเธอต้องการอะไร

“หยุดร้องได้แล้ว เจ้านี่มันยังไม่ตายเสียหน่อย”

“...”

เธอไปหวังอะไรกับไอลูกหมานี่กัน!!

.

.

.

แต่ดูเหมือนจะได้ผลเกินคาดท่านแม่ตวัดตามองค้อนทันทีเอ่ยขอตัวพาเธอไปอาบน้ำทิ้งคนสามคนไว้ในห้องใหญ่

ปิดประตูห้องนอนดังปัง

“เขาก็เป็นอย่างนี้ลูกอย่าเก็บไปใช้ล่ะ คำนี้ใช้ปลอบคนไม่ได้”

 ท่านแม่เอ่ยสอนเธอก่อนถอดชุดอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อให้ เป็นชุดนอนกระโปรงสีขาวแขนเสื้อตุ๊กตา

“ขอโทษที่เสียมารยาทปล่อยให้รอนะขอรับ”

ท่านแม่ว่างเธอบนพื้นให้ยืนเองก่อนหันไปโค้งให้กับบุรุษสามคนในห้องที่ถูกเจ้าบ้านทิ้งไว้

“ไม่เป็นไรหรอกท่านลู่อิงเราเข้าใจ มาเริ่มงานวันเกิดเลดี้น้อยกันดีกว่า...เสียดายจังไม่ได้เตรียมของขวัญมาด้วยสิไว้กลับวังจะเอามาให้นะ”

เจ้าชายคนสวยของเธอเดินมาคุกเข่าลงหน้าเธอส่งมือลูบหัวพร้อมยิ้มให้....งื้อละลายแล้วท่านแม่ เธอแพ้คนอ่อนโยนยิ้มสวย!

เธอวิ่งไปเกาะขาท่านแม่พยุงตัวเองทันทีก่อนที่หางตาจะเหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังหยิบของของเธอไป

ไวเท่าความคิดขาเล็กวิ่งสับไปกระโดดฉวยตุ๊กตาคุณกระต่ายจากมือมาร...มือคนที่มีศักดิ์เป็นพ่อได้เสร็จก็วิ่งไปหลบหลังขาท่านแม่

“ของมีมี่”

“หื้ม..ของรักเหรอ”

น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยถาม

“ค่ะ...นาชิกฉือให้เปงของฝันวังเกิด”(ค่ะนาซิสซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด)

เธอโยกหัวออกไปตอบก่อนจะถูกท่านแม่อุ้มเดินไปว่างไว้ที่หัวโต๊ะ เกาอี้ยกสูงประจำตำแหน่ง กอดตุ๊กตากระต่ายตัวน้อยแน่นไม่สนใจเจ้าพ่อบ้าอีก

“...นาซิส”อีกแล้วเหรอ…ดวงตาคมสีแดงประกายลุ่มลึกยากคาดเดาความคิดก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นราบเรียบ

.

.

งานวันเกิดครบรอบสามปีของเธอค่อนข้างผ่านไปด้วยดีท่านพ่อเวรนั่งเป็นหุ่นทานอาหารเงียบ ๆ เจ้าชายคนสวยหรือท่านอาลูชิเอลของเธอก็คอยถามถึงของที่อยากได้ ชวนเธอคุยเล่าเรื่องที่เธอไม่เคยรู้ให้ฟัง ลอร์ด เซเรน หนุ่มหล่อของเธอก็คอยปรามท่านอาลูชิเอลที่เริ่มเล่าเรื่องแปลก ๆ ให้ฟัง

พอใกล้เวลานอนของเธอดวงตาก็เริ่มหนักอึ้งไม่รู้ฟุบลงไปนอนกับโต๊ะตอนไหน...ท่านแม่อุ้มเธอขึ้นซบบ่าเดินไปส่งท่านอากับท่านลอร์ดหน้าบ้าน พาเธอไปแปรงฟันก่อนจะอุ้มกล่อมนอน

สัมผัสแผ่วเบาตบหลังเธอเป็นจังหวะโยกตัวไปมา...สบาย

โดนขับกล่อมไม่นานก็ผล็อยหลับ

.

.

.

“หลับแล้วเหรอ”

น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามพลางดึงคนเข้ามานั่งตักเพื่อโอบกอด ร่างผอมบางเองก็ไม่คิดจะขัดขืนทิ้งตัวลงนั่งบนตักแกร่งตามที่คนตัวสูงต้องการ

“ข้าคิดถึงเจ้าตลอดเวลา...”

ใบหน้าคมฝังลงที่หลังคอของคนรักสูดกลิ่นหอมหวานที่แสนคิดถึงกระชับอ้อมแขนแกร่งให้แน่นขึ้น...กลัวหรือเกินว่าคนผู้นี้จะหนีพระองค์ไปอีก

“ข้ากลัวมาตลอดว่าถ้าท่านรู้ความจริงจะเป็นอย่างไร...คิดไปต่าง ๆ นานา”

ฝ่ามือบางกำเข้าหากันเมื่อเริ่มเอ่ยพูดความในใจที่อัดอั้น

“ท่านเคยบอกข้าว่าเกลียดสิ่งใดบ้าง....การหนีจากท่านมาข้าเองก็รู้สึกผิดเช่นกัน”

หยางเหยียนลู่อิงเอี้ยวตัวเผชิญหน้ากับคนรัก ฝ่ามืองามวางทาบใบหน้าคม

“ข้าเองก็คิดถึงท่าน...เจ็บปวดไม่ต่างกันเลย..แต่เพราะนาง ข้าจึงเยียวยาตนเองได้...นางช่างเหมือนท่านนัก”

ฝ่ามือบางลูบผ่านดวงตาสีแดงของผู้สูงศักดิ์ตรงหน้าอย่างเผลอไผล

“ข้าขอแค่ท่านอย่าพรากนางไปจากข้าก็เป็นพอ.ไม่จำเป็นต้องรักนาง เชิดชูนาง..ขอแค่ให้นางเติบโต..ข้ายอมแลกทุกสิ่ง...”

น้ำตาเม็ดใสไหลรินจากดวงตาคู่งามจ้องสบดวงตาสีแดงอย่างเว้าวอน....

“เจ้านี่มัน...ไร้สาระเสียจริงอิงอิง”

มือหนารั้งอีกคนให้ซบอกตน กอดปลอบร่างที่หวาดกลัวเรื่องที่ยังไม่เกิด…และไม่มีวันเกิด

“แล้วเจ้าไม่อยากฟังเหตุผล...ที่ข้าบอกเจ้าว่าข้าเกลียดสตรีกับเด็กหรือ”

ศีรษะของคนถูกถามส่ายไปมากับอกขององค์จักรพรรดิ

“ข้าจะเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนแล้วกัน”

ฝ่ามือหนาตบเบา ๆ บนแผ่นหลังบางเป็นจังหวะเพื่อหวังปลอบคนรักให้สงบลง

“...”

“ในอดีตมีเจ้าหญิงองค์หนึ่ง นางงดงามและสูงส่งนางตกหลุมรักเจ้าชายจากอาณาจักรเล็ก ๆ เมื่อแต่งงานกันกษัตริย์ยกอาณาจักรให้กับลูกสาวและเจ้าชายปกครองเจ้าหญิงกลายเป็นราชินีเคียงคู่บังลังก์กับกษัตริย์ผู้มากความสามารถพระองค์มีบุตรชายให้แก่ กษัตริย์ถึงสองพระองค์...ขุนนางผู้หนึ่งเล็งเห็นถึงขั้วอำนาจใหม่ที่ยังไม่แข็งแรงดี...จึงได้ส่งธิดาเข้าเป็นนางบำเรอแก่กษัตริย์...กษัตริย์หลงระเริงนางลืมสิ้นชั่วดี...ถูกนางเป่าหูไปต่าง ๆ นานา.บ้างว่าราชินีแต่งงานกับกษัตริย์ก็เพื่อให้เจ้าชายมาเป็นกษัตริย์และนางจะได้ขึ้นเป็นราชินีสืบบังลังก์ต่อจากพ่อของนาง”

“...”

“กษัตริย์แต่งตั้งนางเป็นสนมออกเชิดหน้าชูตานางสนมผู้นั้นมีบุตรและธิดาให้แก่กษัตริย์...กษัตริย์รักพวกเขามาก...เจ้าชายทั้งสองลูกของราชินีที่มีชันษาเพียงสามและห้าขวบต้องทนเห็นแม่ร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่อาจทำสิ่งใดได้เลย...สุดท้ายก็ต้องเห็นท่านแม่จากไปต่อหน้าต่อตาองค์ชายคนโตรู้สึกรังเกียจตนเองที่ไม่อาจทำสิ่งใดได้เลย...จะเข้าไปต่อว่ากษัตริย์ก็ถูกลงทัณฑ์อย่างน่าสมเพช.เมื่อลูกของนางสนมผู้นั้นป่วย..องค์ชายองค์เล็กถูกทำต่างยารักษา..หมดสิ้นซึ่งพลังเวท.องค์ชายคนโตตระหนักซึ้งในช่วงชีวิตที่แสนโหดร้าย การเป็น.เด็ก.ไม่อาจสู้ผู้ใหญ่ได้เลยการเป็นเด็กช่างน่าสมเพซ...ตัวองค์ชายใหญ่ช่างน่าสมเพซที่ไม่อาจปกป้องใครได้เลย....จบแล้วเรื่องราวของเจ้าชายผู้น่าสมเพซข้าเกลียดเด็กเพราะข้าในวัยเด็กมันน่าสมเพซ”

“...”

หยางเหยียนลู่อิง วาดแขนกอดรอบตัวจักรพรรดิแน่นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อยามฟังเรื่องเล่าที่ถูกเล่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“เจ้าคงเคยได้ยินว่าข้าสั่งสังหารเด็กผู้หนึ่ง...ใช่นั่นคือความจริงเช่นกันข้าไม่ปฏิเสธ...แต่ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อเด็กคนนั้น...การตายจากน่ะมันน่ากลัวน้อยกว่าการตายทั้งเป็นเสียอีก...”

“....”

“ส่วนเรื่องที่ข้ารังเกียจสตรี..อิงอิงเองก็คงพอรู้”

ศีรษะกลมผงกลงเพื่อตอบรับ เรื่องของผู้หญิงคนนั้นทุกคนที่สนิทกับจักรพรรดิล้วนทราบดี

“ข้าถึงได้บอกว่าเจ้าช่างไร้สาระ”

จักรพรรดิหนุ่มจับเอวบางหมุนกายพลิกให้แนบกับเตียงนอนก่อนตามขึ้นมาคร่อมกักร่างอีกคนให้อยู่ใต้อานัติโดยสมบูรณ์

“อ้ะ”

ชายชุดถูกถกขึ้นจนเห็นขาอ่อนที่ถูกมือหนาลูบไล้

“...เตรียมรับบทลงโทษที่กล้าหนีข้ามาหรือยังอิงอิง”

ริมฝีปากขององค์จักรพรรดิกระซิบข้างใบหูขาวที่ขึ้นสีแดงระเรือ ไล่ชกชิมกายหอมไปตามโครงหน้าลงถึงซอกคอหอมกรุ่น ขบเม้นเพื่อตีตรา...

มือหนาเผลอไล่ไปตามรอยมือที่เกิดจากพระองค์ด้วยความรู้สึกผิด พระองค์จูบทับรอยริ้วแดงแผ่วเบา

 หยางเหยียนลู่อิงเองก็สามารถมองการกระทำแสนอ่อนโยนออก..มันเป็นการขอโทษจากองค์จักรพรรดิผู้นี้…ร่างบอบบางยกยิ้มอย่างไม่ถือสา

องค์จักรพรรดิเพิ่มแรง ขบเม้นบนลำคอบางเพื่อฝากร่องรอยไว้บนกายของคนรักก่อนจะชะงักเมื่อเห็นกลุ่มเส้นผมยาวสีทองพาดไปตามลำคอขาวของคนรัก...พระองค์ไม่ได้ไว้ผมยาวเหมือนหยางเหยียนลู่อิง

....เมื่อมองตามไปก็พบกับใบหน้าเล็กที่เต็มไปด้วยแก้มป่องคล้ายใกล้จะแตกนอนหลับตาพริ้ม แก้มกลมเกยกับไหล่ของหยางเหยียนลู่อิง

ดวงตาสีแดงทับทิมมองก้อนแป้งสีเหลืองตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า...ดวงตางกลมโตคู่น้อยที่เหมือนพระองค์หรี่ขึ้นมองก่อนจะหลับลงอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าพระองค์กำลังจ้องมองอยู่

หยางเหยียนลู่อิงเมื่อรู้สึกว่าสัมผัสที่ทรมานตนหยุดชะงักลงก็ปรายมองคนตัวสูงก่อนจะสังเกตเห็นบางสิ่งตามมา

“เฟิงมี่!”

ใบหน้างามแดงซ่านด้วยความเขินอายเมื่อเผลอลืมไปว่าลูกน้อยนอนอยู่บนเตียงสานเล็กข้าง ๆ

ร่างเล็กตุ้ยนุ้ยพลิกตัวกระดืบปีนขึ้นอกทิ้งศีรษะซบลงตรงซอกคอผู้เป็นแม่กั้นกลางผู้เป็นพ่อที่คร่อมทับท่านแม่

“มามี้เยง”(มามี้เพลง)

หยางเหยียนลู่อิงเหมือนได้สติ...จับเด็กน้อยขึ้นอุ้มลุกเดินกล่อมนอนอีกครั้ง...ทิ้งร่างสูงที่เปลือยอกท่อนบนโชว์กล้ามหน้าท้องเป็นลอนสวย จักรพรรดิหนุ่มเสยผมตัวเองขึ้นเพื่อสงบอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน หมุนกายนั่งริมขอบเตียงพลางมองใบหน้ากลมที่เกยไหล่คนรัก.....ตาสีแดงเช่นเดียวกับพระองค์หลี่ขึ้นมองพระองค์เมื่อเห็นว่าพระองค์ทรงจ้องอยู่ก็หลุบลงหันไปซบคอขาวของผู้เป็นแม่อีกครั้ง...

“หึ เด็กน้อย...”



 

คมดาบจ้วงทะลุอกข้างซ้าย.

..ร่างนั้นร่วงหล่นลงแทบเท้า..

..มงกุฎสีทองกลิ้งไหลจากศีรษะ..

...เลือดไหลนองทั่วบังลังก์...

...อาบย้อมความโอร่า...

“ดาบนี้ แด่..เสด็จแม่”

...น้ำตาบุรุษไหลริน...

...กระทบหยดเลือด...

...หลอมรวมเป็นหนึ่ง...

..ชำระซึ่งความแค้น..

...ตราหน้าทรราชสังหารบิดา...

บทพรรณนานาที่กล่าวถึงในนิยายล่ารักเชลยศึกออสโทเปียร์