ในคริสตศักราช 2034 สภาพอุตสาหกรรมบันเทิงในโลกเปลี่ยนไป มนุษย์เริ่มสูญเสียตำแหน่งในวงการ ฝห้ Virtual Idols ที่เป็นที่นิยม ค่าย GenA Entertainment ก่อตั้งขึ้น เพื่อความท้าทายในการรักษาสมดุลระหว่างอุดมการณ์เดิม กับโลกยุคใหม่เพื่อเดินเกมส์ธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เช่นในยุคทองของไอดอลไทยอย่าง 2024

GEN A : พลิกเกมกลธุรกิจมายา - บทที่ 2 ศิลปินจริง V.S. Virtual idol โดย เชฟวาวิฬาร์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ไซไฟ,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เกิร์ลกรุ๊ป,นักร้อง,ชีวิตประจำวัน,ดราม่า,ต่างโลก,โลกอนาคต,romantic,รักวัยรุ่น,ระบบเกม,ไอดอล,ไซไฟ,อนาคต,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

GEN A : พลิกเกมกลธุรกิจมายา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ไซไฟ,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เกิร์ลกรุ๊ป,นักร้อง,ชีวิตประจำวัน,ดราม่า,ต่างโลก,โลกอนาคต,romantic,รักวัยรุ่น,ระบบเกม,ไอดอล,ไซไฟ,อนาคต,แฟนตาซี

รายละเอียด

ในคริสตศักราช 2034 สภาพอุตสาหกรรมบันเทิงในโลกเปลี่ยนไป มนุษย์เริ่มสูญเสียตำแหน่งในวงการ ฝห้ Virtual Idols ที่เป็นที่นิยม ค่าย GenA Entertainment ก่อตั้งขึ้น เพื่อความท้าทายในการรักษาสมดุลระหว่างอุดมการณ์เดิม กับโลกยุคใหม่เพื่อเดินเกมส์ธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เช่นในยุคทองของไอดอลไทยอย่าง 2024

ผู้แต่ง

เชฟวาวิฬาร์

เรื่องย่อ

Prelude 


ปี 2034 โลกจมดิ่งในมหาสมุทรแห่งแสงสีของเทคโนโลยี Virtual Reality อุตสาหกรรมบันเทิงพลิกโฉมหน้าราวกับเนรมิตด้วยเวทมนตร์ Virtual Idols หรือไอดอลเสมือนจริง ผงาดขึ้นเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่กวาดหัวใจผู้คนทั่วโลกไปอย่างถล่มทลาย

อุตสาหกรรมบันเทิงเต็มไปด้วยการแข่งขันดุเดือดราวสงครามไร้เสียง ค่ายเพลงต่างทุ่มสุดตัวสร้างสรรค์ Virtual Idol ให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง VI เหล่านี้งดงามสมบูรณ์แบบเกินมนุษย์ธรรมดาจะเอื้อมถึง

แฟนคลับสามารถสัมผัสไอดอลในฝันผ่าน metaverse ของค่ายเพลง ด้วยปฏิสัมพันธ์เฉพาะตัวที่แสนสมจริง ทำให้การรอคอยพบศิลปินตัวจริงอันห่างไกลเกินเอื้อมกลายเป็นเรื่องล้าสมัย แต่ขณะเดียวกัน มันก็ค่อยๆ ดึงมนุษย์ให้ห่างไกลจากกันและกัน

ค่ายเพลงแข่งกันใช้เทคโนโลยี เสียงเพลงใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีในโลกถูกรังสรรค์ขึ้นด้วย AI และ Machine Learning ตอบสนองความต้องการของผู้ฟังแต่ละคนอย่างแม่นยำ คอนเสิร์ตในโลกเสมือนเปิดประตูสู่ประสบการณ์ดนตรีที่ตื่นตาตื่นใจ ผู้ชมเสมือนเหาะเหินเดินอากาศรอบเวที และเข้าใกล้ชิดศิลปิน ทว่าเสน่ห์ของการชมคอนเสิร์ตสดค่อยๆ จางหาย พร้อมเส้นแบ่งระหว่างดนตรีและศิลปะที่เลือนรางลง

‘นาลี’ เจอประกาศสมัครงานค่ายเพลงใหม่ที่เพื่อนส่งมาให้ เธอเป็นนักเขียนนิยายฟรีแลนส์ ที่พักหลัง…นวนิยายของเธอไม่ได้รับความนิยมอีก ผู้คนนิยมเสพย์เรื่องแต่งแบบที่สร้างขึ้นจากความชอบและประวัติการอ่านส่วนตัว personal Ai generated contents สื่อผสมระหว่าง anime เกมส์ roleplay และเป็นแบบ interactive ผ่านเทคโนโลยี VR ให้คนสามารถสัมผัสประสบการณ์เหมือนได้เป็นหนึ่งตัวละคร ทำให้รูปแบบการอ่านหนังสือแบบเดิมๆ เริ่มลดความสำคัญลง จนเป็นแค่งานอดิเรกเฉพาะกลุ่มในคนที่ยังอนุรักษ์หนังสือ ใช้เป็นเครื่องมือบำบัด สำหรับผู้มีปัญหาสมาธิสั้น นอนไม่หลับ กับคนชรา 

นาลีไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลศิลปิน หรือการตลาดในธุรกิจบันเทิง แต่ตำแหน่ง creative กับเงินเดือนสตาร์ท 35000 จะช่วยให้เธอผ่านชีวิตช่วงที่กำลังประสบวิกฤติเศรษฐกิจ ห้องถูกตัดไฟ กินมาม่าไม่มีไข่เป็นมื้อเย็นติดต่อกัน 15 วัน และจะมีเงินจ่ายค่าเช่าห้องที่ค้างเจ้าของอพาร์ตเมนต์มา 3 เดือน ใกล้ครบกำหนดจะถูกไล่ออกแล้ว 

เธอจึงตอบตกลงเข้าทำงานในบริษัทเล็กๆที่เพิ่งเริ่มต้น… มีพนักงานบริษัทไม่ถึง 20 คน เป็นผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนไปแล้ว 5 มีศิลปินที่ค่ายเตรียมเปิดตัวอีก 10 คน โดยศิลปินจะทั้งต้องโปรดิวซ์ แต่งเพลง ร้อง และเล่นดนตรีเอง 

นาลีตัดก้าวเข้าสู่โลกที่เธอไม่คุ้นเคย รับตำแหน่งครีเอทีฟในบริษัท บทบาทงานหลากหลาย ทั้งคิดแผนโปรโมท สร้างคอนเทนต์การตลาด และดูแลศิลปินราวกับเป็นผู้จัดการวง นั่นหมายถึง ทุกอย่างที่คนในออฟฟิศไม่มีเวลาทำ เธอจะต้องรวบมาเป็นงานตนเองให้ครบจบในหนึ่งเดียว

กลุ่มศิลปินที่นาลีจะต้องดูแล มีกลุ่มศิลปินชายแนว R&B hip-hop 4 มีชื่อวงว่า ‘WOF’ นักแสดงชาย 1 คน ที่พอมีทักษะร้องเพลงได้นิดหน่อย เกิร์ลกรุ๊ปหญิงแนว pop electronic 4 คน ชื่อวง ‘LPs’ นักร้องสาวเสียงทองแนว r&b ที่ต้อง solo เป็นศิลปินเดี่ยว 2 คน รวมศิลปินในค่ายทั้งหมด ชาย 5 หญิง 6 รวม 11 

นาลีจะสามารถพาศิลปินเหล่านี้ไปสู่ความสำเร็จท่ามกลางยุคสมัยที่ Virtual Idols ครองเมืองได้หรือไม่? เธอจะค้นพบคุณค่าใหม่ของตัวเองในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป? และที่สำคัญ เธอจะสามารถรักษาความเป็นมนุษย์ไว้ได้ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ทุกอย่างได้อย่างไร?

เรื่องราวของนาลีในธุรกิจดนตรียุคใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น..

สารบัญ

GEN A : พลิกเกมกลธุรกิจมายา-บทที่ 1 กลุ่มศิลปินวง Wof กับครีเอทีฟคนใหม่,GEN A : พลิกเกมกลธุรกิจมายา-บทที่ 2 ศิลปินจริง V.S. Virtual idol ,GEN A : พลิกเกมกลธุรกิจมายา-บทที่ 3 การรับมือนิสัย diva ของศิลปิน

เนื้อหา

บทที่ 2 ศิลปินจริง V.S. Virtual idol

บทที่ 2 

สัปดาห์แรกของการทำงานในบริษัท GEN A ของนาลี ผ่านไปพร้อมๆการได้ทำความรู้จักศิลปินในค่าย โดยยังไม่ได้สัมผัสตัวตนของพวกเขา แค่ฟังข้อมูลที่เล่าจากปากผู้บริหารค่ายคือ …พีพี ซึ่งเหมือนจะเป็นนักธุรกิจคนเดียว ท่ามกลางหุ้นส่วนอีก 2 คนที่เป็นศิลปิน 

พีพีเปิดมือถือให้นาลีดูตอนเขาเจอคลิปเทโดร้องเพลงประกวดในรายการ American Idol ตอนนั้นเทโดมีอายุแค่ 13 ปีเท่านั้น

“ตอนผมดูคลิปนี้นะ ผมรู้เลย! ว่าเนี่ยคือหวยรางวัลที่ 1 ของผม” พีพีพูดระหว่างที่คลิปเล่นไป 

“ใครเป็นคนแนะนำเค้าให้คุณรู้จักคะ” นาลีถาม

“ลุค! มันไปเจอเค้าตอนเรียน UCLA ด้วยกัน ตอนนี้นเค้าจะถอดใจจากการเป็นศิลปินแล้วนะ หลังจากค่ายเดิมปิดไป เค้าก็มุ่งเรียนอย่างเดียว เป็นหนุ่ม college เต็มตัว” 

“โห… ไม่ธรรมดานะคะ” 

“ใช่ เพราะเค้าเป็นเพื่อนกันแหละ ลุคเลยมาคุยกะผมว่าอยากทำค่ายเพลงให้เพื่อนมันเป็นศิลปิน ผมก็ถามมึงบ้าหรือเปล่า มึงจะเปิดค่ายเพลงเพื่อให้เพื่อนเป็นศิลปินเหรอ มันก็บอกให้ผมลองดูผลงานของเทโดยก่อน บอกไอ้นี่เป็นอัจฉริยะ ทีแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกนะ”

พีธีเปิดคลิปที่เทโดร้องเพลงในงานเลี้ยงของวิทยาลัย นาลีไม่รู้เรื่องดนตรีเท่าไหร่ แต่เท่าที่ฟังก็รู้สึกว่าพลังเสียงของเขาไม่ธรรมดา 

“เค้าร้องเพลงอย่างกะพ่นไฟ คือผมเคยมีฝันนะ ตอนวัยรุ่นว่าอยากเปิดค่ายเพลง แต่ค่ายผมจะมีแต่เกิร์ลกรุ๊ป ฮ่าๆๆๆ ผมไม่เคยคิดอยากจะผลิตบอยแบนด์ออกมาหรอก ปกติผมหมั่นไส้คนหล่อกว่าจะตาย”

พีพีมีบุคลิกที่ตรงไปตรงมาและเปิดเผย ทำให้นาลีเลอหัวเราะออกมาลั่นพร้อมๆกับเขา

พีพีเริ่มไล่เรียงถึงลักษณะนิสัยของสมาชิกในวง World of Fire ที่เขาได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจมาตลอดหลายปี

เทโด ผู้นำวงวัย 25 ปี เป็นคนแรกที่ผุดขึ้นมาในความคิด ชายหนุ่มมากพรสวรรค์ เป็นทั้งนักร้องนำและมันสมองของวง ด้วยทักษะการร้องที่เฉียบคมผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก ประกอบกับความสามารถในการเล่นเครื่องดนตรีแทบทุกชนิด การโปรดิวซ์เพลงของเขาก็มีมุมมองที่แปลกใหม่มาก ทำให้เทโดเป็นหัวใจสำคัญ ไม่ใช่แค่ของวง แต่เป็นของค่ายทั้งค่าย

“คือถ้าเค้าหลุดจากมือเราไป เค้าเปิดค่ายใหม่ได้สบายเลย เพราะว่า… ทำได้ทุกอย่าง”

“นั่นสิคะ ถ้าความสามารถขนาดนี้ ทำไมถึงเลือกจะมาอยู่ค่ายในประเทศเล็กๆ แทนที่จะอยู่เมกาแล้วเปิดค่ายเอง”

ใครก็รู้ว่า USA คือยอดสุดของพีระมิดวงการเพลง

“เหมือนเค้าพยายามทำแล้ว เปิดค่ายเพลงตัวเอง แต่โปรดิวซ์อย่างเดียว คือรสนิยมเค้าดีนะ แต่แนวเพลงเค้ามันไม่แมสเอามากๆ เค้าก็เลยไปต่อไม่ได้ และก็มีปัญหาการเงินด้วย ไอ้เจ้าลุค น้องผม มันเลยหาทางแก้ปัญหาให้เพื่อน”

“ถือว่าคุณลุคเป็นคนดีมากนะคะ ที่ช่วยเพื่อนขนาดนั้น”

“เค้าก็เสียดายความสามารถของเทโดด้วยแหละ”

“แล้วสมาชิกคนอื่นเข้ามาร่วมได้ยังไงคะ” เธอชี้ไปที่รูปสมาชิกกลุ่มบนโต๊ะระบบจอสัมผัส 

“ไคโจเป็นศิลปินค่ายเดียวกับเทโด ถูกฝึกจะให้อยู่วงเดียวกัน แต่ค่ายปิดตัวลงก่อน เค้าก็เลยแพ็คคู่กันมา”

“คือ… เป็นเพื่อนกันหมดเลย” 

“ใช่ แต่ผมอยากได้บอยแบนด์คืออย่างน้อยสัก 4-5 คน ผมก็บอกจะลองเปิดค่ายให้ก็ได้ แต่ว่าต้องหาสมาชิกมาเพิ่ม สองคนนั้นก็ไม่รู้จะเอาใคร” …พีพีหมายถึงไทโดกับไคโจ “ก็เลยเอาน้องตัวเองมา แมคเน็ทนี่เป็นลูกของน้า ส่วนจีโอเป็นน้องต่างพ่อ”

“ฟังดูเป็นธุรกิจครอบครัวเลย” นาลีหลุดโพล่งออกมา เธอรีบผงกหัวขอโทษ แต่พีพีก็ดูไม่ถือสา

“ใครๆก็คิดแบบนัันทั้งนั้นแหละ ก็ดู… หุ้นส่วนสามคน ทีมผู้บริหารเป็นญาติกัน ผม พี่โบ ลุค ศิลปินก็เป็นพี่น้องกัน คุณว่าจะรอดมั้ย” พีพีทำเหมือนพูดติดตลก แต่ก็แววกังวลซ่อนอยู่

“แหมมม ต้องรอดสิคะ” นาลีพูดไปอย่างนั้น …ในใจเธอคิดว่าไม่รอด ยิ่งในช่วงขาลงของอุตสาหกรรมแบบนี้

“ขนาดเป็นพี่น้องกันยังเสี่ยงจะวงแตกเลย คิดดู” 

“อ้าว ทำไมล่ะคะ”

พีพีเล่าให้นาลีฟังถึงปัญหาของเทโด ว่าความเป็นคนสมบูรณ์แบบของเขา ได้สร้างความกดดันให้กับเพื่อนร่วมวง ซึ่งประกอบไปด้วย …ไคโจ วัย 26 ปี หนุ่มลูกครึ่งไต้หวัน-เกาหลีผู้มีความสามารถรอบด้าน ทั้งการเต้น การแร็พ และการเล่นกีตาร์ แม้จะเป็นพี่ใหญ่ของวง แต่นิสัยกวนและขี้เล่นของเขากลับทำให้ดูเหมือนน้องเล็ก 

“ไอ้โจผมไม่ชอบที่มันติดเล่นเกินไป แต่ว่ามีมันอยู่ก็สนุกนะ ทักษะวาไรตี้ของมันนี่ ผมว่าเอาไปออกเกมโชว์ได้เลย มันเป็นคนบู๊ แล้วก็แบบยังไงดี ชอบเข้าสังคมตลอด เป็นพวก extrovert มาก” 

ต่อมาคือ… แมคเน็ท ลูกพี่ลูกน้องของเทโด วัย 23 ปี เป็นเสียงหลักของวงด้วยน้ำเสียงเทเนอร์อันไพเราะ แม้ทักษะการเต้นจะไม่โดดเด่นนัก แต่เสียงร้องที่หวานมีเสน่ห์และบุคลิกอบอุ่นของเขาก็น่าจะทำให้เขาเป็นที่รักของแฟนคลับผู้หญิงได้ง่าย

“แมคเน็ทเนี่ย ผมชอบนิสัยเค้าอย่าง เค้าเป็นคน compromise คอยสานสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก ที่ยังอยู่ด้วยกัน เพราะเค้านี่แหละ เหมือนเป็นกาวเชื่อมทุกคนไว้ด้วยกัน” 

“คนที่มีปัญหาสุดคือใครคะ”

“คนนี้ล่ะผมปวดหัวสุด แต่ว่าเค้าก็ยังเด็กอยู่นะ ผมว่าอีกไม่กี่ปี เค้าจะโตขึ้น”

น้องเล็กสุดของวงคือ จีโอ น้องชายคนเล็กของเทโดด้วย แต่เขาไม่สนิทกันเหมือนพี่น้องทั่วไป ด้วยต่างพ่อ จีโออายุเพิ่งจะ 18 ปี เป็นคนเงียบขรึมและโลกส่วนตัวสูงมาก

“เค้าบังคับไม่ได้ และก็…เป็นพวกติสสุดๆ”

เขามักสร้างปัญหาในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมวง โดยเฉพาะกับเทโดที่เป็นพี่ชายและหัวหน้าวง 

“ทีนี้มีสิ่งที่ผมพยายามจะทำอยู่และอยากให้คุณช่วยผมตรงส่วนนี้ด้วย” เขาเข้าเรื่องงานได้อย่างเรียบง่ายและเป็นมืออาชีพมาก เหมือนว่ากำลังเล่าเรื่องสนุกให้ฟัง แล้วปิดท้ายด้วยงานที่ต้องทำ แบบไม่รู้สึกเลยว่ากำลังถูกสั่งงานอยู่

“ผมอยากยัดสมาชิกคนที่ห้าเข้าไป” 

นาลีหน้าถอดสี จนอีกฝ่ายเห็นอาการชัดจนต้องทัก

“คุณว่ายากใช่ไหม”

“เอ่อ… ก็ดูเป็นกลุ่มที่เซ็ทตัวมาแข็งแล้วพอสมควรนะคะ” 

ศิลปินกลุ่มนี้เกิดจากการรวมตัวของเพื่อนสนิมและพี่น้อง การจะหาอีกคนมาแทรกลงไปให้เนียน …แทบเป็นไปไม่ได้ ทั้งในแง่ความเป็นวง และแง่ผู้ร่วมงาน

“เพราะผมไม่อยากให้ดูเป็นวงพี่น้องกันเกินไป ผมเลยต้องใส่คนนอกเข้าไป”

“สมาชิกคนที่ห้าคือใครคะ” นาลีเข้าเรื่องโดยเร็ว

สมาชิกสุดท้ายที่ทางค่ายมีแผนจะแทรกลงไปคือโซน อายุ 19 ปี เป็นชายหนุ่มที่มีรูปลักษณ์สะดุดตา จนสามารถเป็นที่นิยมได้สบาย …นาลีเริ่มเข้าใจว่าเขาได้มาอยู่ในวงเพราะอะไร

“การร้องเพลงเป็นไงคะ”

“เป็นคนที่เสียงมีเสน่ห์ แต่ว่าเรื่องเต้นนี่ไม่ได้เลย”

“โอ้ ถ้างั้นก็ต้องฝึกหนัก” แค่ฟังนาลีก็รู้สึกเหนื่อยแทนเด็กหนุ่มคนนั้นไปล่วงหน้า

“เค้ามีพรสวรรค์ด้านการแสดง ไม่ได้คิดจะมาสายร้องเพลงหรือเป็นไอดอลเลย”

“อ้าว! งั้นก็แย่สิ” 

“ใจผมก็อยากให้ โซน เค้าได้ทำสิ่งที่เค้าถนัดนะ แต่ขอรอดูงานเพลงก่อน ถ้ามันพอจะเป็นที่นิยมอยู่บ้าง แพลนต่อไปเราก็อาจจะทำหนัง ที่คนจริงๆเล่น ไม่ใช่ Ai generated film แบบทุกวันนี้”

นาลีเริ่มรู้ว่า Gen A ไม่ได้ต้องการแค่เป็นค่ายเพลง แต่ต้องการผลิตศิลปินตัวจริงเข้าสู่วงการบันเทิงแบบครบวงจร

“เค้าก็ดู… มีความเป็นศิลปินสูงมากเลยนะคะ” เธอเปิดเข้าไปสำรวจไอจีเขา เพื่อพิจารณาความยากของงานที่ต้องทำ เห็นว่าเขาลงแต่รูปที่ถ่ายทิวทัศน์จากกล้องแบบมืออาชีพพร้อมเลนส์ขนาดต่างๆ เขามีมุมุมมองทางศิลปะที่น่าทึ่ง แต่หลังจากนี้ เขาคงเจองานหนัก 

“เรื่องการร้องเต้นนี่อยู่ในขั้นพื้นฐาน แต่ก็พอแกะจีโอ จีโอก็เพิ่งมาหัดเรียนร้องกับเต้นเหมือนกัน ส่วนแมคเน็ท เค้าเรียกวิทยาลัยดนตรีอยู่แล้ว”

นาลีวิเคราะห์อย่างฉับไว… เธอพิมพ์ลงมือถือแล้วให้ AI สร้างแผนภาพประกอบคำอธิบายคววามคิดโชว์ขึ้นบนโต๊ะประชุม 

“สมาชิกสองคนเป็นมืออาชีพ คนหนึ่งมีทักษะดนตรี แต่ความเป็นศิลปินอยู่ระดับกลาง โซนและจีโออยู่พื้นฐาน ต้องฝึกหนักเพื่อพัฒนาทักษะการร้องและเต้นให้เท่ากับสองคนแรก สมาชิกทึ่เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงคือ เทโด จีโอ และโซน สมาชิกที่ดูเข้าสังคมง่ายมีสอง คือ ไคโจ และแม็คเน็ท “

เสียง AI สังเคราะห์ พากษ์ประกอบสิ่งที่วิเคราะห์ได้ทันที 

‘วง WOF มีปัญหาเรื่องความแตกต่างทางบุคลิกภาพและวิธีการทำงานของสมาชิกแต่ละคน’

“เทโดผู้เคร่งครัดเกินไป ไคโจร่าเริงไป” พีพีกล่าวเสริม

เสียง AI จากมือถือของนาลีพูดต่อไป ‘ปัญหาภายในสมาชิก คือระหว่างเทโดกับจีโอน้องชาย มักมีปัญหากัน และการเข้ามาของโซนยังเพิ่มความท้าทายในการสร้างความกลมกลืนภายในวง ทว่า ความหลากหลายนี้ก็อาจกลายเป็นจุดแข็ง หากพวกเขาสามารถประสานความแตกต่างและดึงศักยภาพของแต่ละคนออกมาได้อย่างเต็มที่’

“คิดตรงกับผมเลย”

“ถ้าเราคิดตรงกับเอไอ อาจจะไม่ดีนะคะ” นาลีท้วง “ความสำเร็จของมนุษย์ยุคนี้ ต้องขึ้นกับการ คิดอะไรให้แตกต่างจาก Ai”

“โอ เข้าใจละ” พีพีพยักหน้ารับและตอกกลับอย่างคนฉลาด เขาแตะไหล่เธอ…

“งั้นฝากด้วยละกัน”

นาลียิ้มเจื่อน …จริงของเขา ความสามารถในการดอาตัวรอด เช่น โยนงานให้คนอื่นทำหรือคิดแทน เป็นทักษะที่มนุษย์ทำได้เหนือกว่าเอไอแน่นอน


สัปดาห์แรก… นาลีวุ่นวายอยู่กับการจัดการให้สมาชิกวง WOF ย้ายเข้าหอพักที่บริษัทจัดหาให้ ได้รับแจ้งจากมิกิ นักศึกษาฝึกงานที่เป็นผู้ช่วยเธอบอกว่า…ศิลปินหญิงเดี่ยว 2 คนของค่าย กับพวกเกิร์ลกรุ๊ปยังลังเลที่จะย้ายเข้าหอ เป็นธรรมดาของผู้หญิง บางคนอยากอยู่กับครอบครัว บางคนต้องการความเป็นส่วนตัว ด้วยส่วนใหญ่มาจากครอบครัวฐานะดีและได้รับการดูแลอย่างดีจากพ่อแม่ การปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับคนอื่นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก

“เอางี้ไหมคะ แจ้งไปว่าผู้หญิงทุกคนจะได้เครดิตห้องส่วนตัว เผื่อเค้าจะอยากย้ายเข้ามากขึ้น” นาลีปรึกษามิกิ 

“เดี๋ยวหนูลองบอกเค้าดูค่ะ บางคนมีคอนโดส่วนตัวของตัวเองอยู่แล้ว เค้าคงไม่อยากย้ายมา เพราะว่าถ้าย้ายมาก็จะเหมือนอยู่ในการควบคุมของบริษัท”

“งั้นเราต่อรองขอให้เค้าค้างเฉพาะช่วงที่ต้องเก็บตัวซ้อมหนัก อัดเสียง และก็ถ่ายทำ mv อย่างเดียวจะพอได้ไหม”

“หนูจะลองบอกเค้าดูค่ะ” มิกินักศึกษาฝึกงานรีบแยกตัวไปคุยโทรศัพท์ นาลีมองร่างสูงโปร่งของมิกิขณะเดินออกไปจากห้องทำงาน 

มิกิมีร่างเพรียวผอมและขายาวเหมือนนางแบบ ใบหน้าน่ารักเหมือนสาวญี่ปุ่น กับทรงผมเซอร์ๆและการแต่งตัวสบายๆ …แวบแรกที่เห็นเธอนึกว่ามิกิเป็นไอดอลของวงเกิร์ลกรุ๊ป แต่เธอแค่มาทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดา เมื่อถามถึงได้ความว่า เธอมีแพลนจะไปเรียนต่อปริญญาโทสาขาธุรกิจดนตรี เพราะสนใจด้านนี้มาแต่เด็ก เธอยังแต่งเพลงไว้เองเล็กน้อยด้วยเครื่องสังเคราะห์เสียง แต่ออกตัวว่าไม่เก่ง ยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมาก และเธอคิกว่าจะมาตักตวงเอาจากบริษัท 

เมื่อก้าวสู่สัปดาห์ที่สอง นาลีก็ได้สัมผัสงานด้านครีเอทีฟอย่างแท้จริง เธอเข้าห้องประชุมพร้อมนักศึกษาฝึกงานชายหญิงสองคน เพื่อนำเสนอไอเดียการโปรโมทให้กับผู้บริหาร

วันนี้เธอได้พบผู้ร่วมหุ้นครบสามคน โบเวน ลุค พีพี และผู้บริหารหญิง แยมมี่ ซึ่งรู้จักกันดีแล้ว เธอมองมาที่นาลีอย่างให้กำลัง 

วันนี้ในห้องประชุม นอกจากผู้บริหารในบริษัทที่เคนเห็นหน้าค่าตากันอยู่ ยังมีผู้ลงทุนจากภายนอกบริษัทอีก เป็นคนต่างชาติ 1 คน คนเอเชีย 1 คน และเป็นคนไทยอีก 1 คน 

หลังจากพูดคุยแนะนำ ทำความรู้จักกันพอสมควร ก็เข้าสู่ช่วงพรีเซนต์งาน

“แพลนแรก ทางทีมครีเอทีฟ อยากเสนอให้ส่ง เทโด สมาชิกที่มีความสามารถโดดเด่นที่สุดของวง WOF เข้าร่วมรายการ 'Virtual Idol Challenge' ค่ะ"

ผู้บริหารคนไทยที่เธอไม่เคยเจอมาก่อนถาม… "รายการนี้มีรูปแบบยังไงบ้างครับ?"

นาลีหันไปมองมิกิ เพื่อให้คิวเธอได้พูดข้อมูลที่เด็กสาวเป็นคนเตรียมมา 

"รายการนี้จะให้ผู้ชมได้รับชมการแสดงสดและการสนทนาระหว่างพิธีกรกับศิลปินจากค่ายต่างๆ ค่ะ โดยมีศิลปิน 6 คน เป็นไอดอล Virtual 5 คน และศิลปินจริง 1 คน ผู้ชมจะต้องเดาว่าใครคือศิลปินจริง"

ลุคขมวดคิ้ว …ดูเหมือนเขาจะไม่ชอบรายการยอดนิยมระดับมหาชน ด้วยรู้สึกว่าการสวนกระแสนั้นดูมีรสนิยมกว่า 

“น่าสนใจ” ผู้บริหารวัยประมาณ 40 ต้นๆคนเดิมถามอีก… “แล้วเราจะได้ประโยชน์อะไรจากการส่งเทโดเข้าร่วมรายการนี้?"

นาลีกล่าวต่อ… "การที่เทโดเข้าร่วมรายการนี้จะช่วยสร้างกระแสให้กับเขาและวง WOF ได้อย่างมากค่ะ ยอดชมรายการแบบไลฟ์สด ยอดแตะล้านทุกรอบไลฟ์ ยอดวิวต่อตอนมากสุด 10 ล้าน รูปแบบรายการ คือผู้ชมจะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดเพื่อเดาว่าใครคือศิลปินจริง ใครคือ VI”

“อือ อือสมัยนี้มันแยกยากจริงๆนะ” พีพีช่วยพูดเสริมเธอ “เป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความสามารถของเทโดให้เป็นสาธารณชนเห็นว่าเค้าไม่แพ้ VI เลย"

โบเวน โปรดิวเซอร์เพลงของค่าย และควบตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายพัฒนาศิลปินด้วย ถามขึ้น…

"แล้วเราจะเตรียมตัวเทโดยังไงบ้างครับ? เขาต้องแข่งขันกับ AI นะ"

“ต้องให้เทโดมีความเป็นธรรมชาติ เป็นตัวของตัวเองมากที่สุดค่ะ ทั้งการร้อง การเต้น และการสนทนา ไม่มีสคริปหคือการเตรียมตัวอะไรทั้งนั้น" 

นาลีพูดแบบนั้นออกไป โบเวนและลุคมองหน้ากันพร้อมขำพรืดออกมา 

“คุณพูดแบบนี้เพราะไม่รู้สิว่าจริงๆมันเป็นคนยังไง” ลุคพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มเย้ยๆ

มิกิหน้าเสียไปแล้ว ส่วน ‘โก” นักศึกษาชายที่เป็นผู้ช่วยอีกคนของเธอ หน้ามึนอยู่เหมือนยังไม่ตื่น อาจจะเล่นเกมส์ดึก ไม่ก็ยังอยู่ในอาการแฮงค์เหล้าจากปาร์ตี้คืนก่อน

“ผมชอบไอเดียนี้นะ แต่มีความเสี่ยงสูง ถ้าเทโดทำได้แย่กว่า VI ก็เป็นการพิสูจน์สิว่ามนุษย์ด้อยกว่า" โบเซนพูด

“ก็… ความผิดพลาด ความไม่สมบูรณ์แบบ หรือก้อยกว่า ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์มากขึ้นไม่ใช่เหรอคะ บางทีโลกอาจโหยหาสิ่งนั้นมากกว่า VI ที่สมบูรณ์แบบ” 

พอนาลีพูดไปแบบนั้น ทุกคนก็มีสีหน้าอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ขณะที่พีพีรับหาข้อสรุป

“ผมเอาด้วยกับไอเดียนี้นะ ถ้าผู้ชมเดาถูกว่าเขาคือมนุษย์จริง เราก็ขายความเป็นมนุษย์ของศิลปิน ถ้าถ้าผู้ชมเดาผิด ก็จะยิ่งสร้างกระแสให้กับเขามากขึ้น เพราะทุกคนจะพูดถึงว่า 'เขาเก่งขนาดที่ทำให้คนคิดว่าเป็น AI ได้' ซึ่งจะยิ่งตอกย้ำความสามารถของเทโด”

“ผมอยากให้เป็นอย่างหลังมากกว่า” ผู้บริหารต่างชาติพูดขึ้น และมีเสียงเอไอจากลำโพงดังขึ้นเพื่อแปลคำพูดเขาเร็วแบบคำต่อคำ

ผู้บริหารฝ่ายชาวเกาหลีพูดบ้าง "น่าสนใจมากครับ แล้วเรามีเวลาเตรียมตัวนานแค่ไหนครับ?"

มิกิรีบสะกิดให้โกพูดบ้าง เขาสะดุ้งเฮือก แล้วพูดตะกุกตะกัก

"อะ เอ่อ รายการจะถ่ายทำในอีก 2 เดือนครับ ซึ่งผมคิดว่า น่าจะ เอ่อ เพียงพอสำหรับการเตรียมตัวของเทโด"

“เค้าจะไปออกรายการแบบนี้ใช่ไหม” โบเวนส่งเสียงแซว “โชว์ความผิดพลาดของมนุษย์”

ไม่ใช่แค่โกที่หน้าเจื่อน นาลีและมิกิก็รู้สึกละอายไปด้วยกับเขา

“เอาเป็นว่า เราเห็นด้วยกับแผนนี้ครับคุณนาลี ให้คุณรับผิดชอบโปรเจกต์นี้” พีพีสรุปก่อนหันไปหาโบเวน “จากนี้คงวางแผนการฝึกซ้อมให้เทโด และประสานงานกับทางรายการ"

โบเวนพยักหน้า ทุกคนหันมามองเธอให้กล่าวปิดประชุม แต่นาลีเลือกจะกดให้ร่างอวตารเธอโดยเอไอเปิดคลิปปิดประชุมแทนเธอ 

‘ขอบคุณมากค่ะ ดิฉันจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้โปรเจกต์นี้ประสบความสำเร็จค่ะ’

การประชุมจบลงเสียที ใจหนึ่ง นาลีรู้สึกภูมิใจที่ไอเดียของเธอได้รับการยอมรับ แต่ใจหนึ่งก็รู้สึกว่ามีงานหนักรออยู่ข้างหน้า 

‘คุณพูดแบบนี้เพราะไม่รู้สิว่าจริงๆมันเป็นคนยังไง’

นั่นสิ… แล้วเขาเป็นคนยังไงกัน

“เดี๋ยวพี่จะแวบไปดูห้องซ้อมซักหน่อย”

“พี่จะไปดูคุณเทโดเหรอคะ”

“ใช่ อาจต้องรู้จักเค้ามากกว่านี้อีกนิด”

นาลีไม่รอให้เวลาผ่านไปแบบเสียเวลา เธอเดินนำผู้ช่วยสองคนไปยังห้องซ้อม ตามตารางเวลานี้สมาชิกวง WOF จะฝึกกันอยู่ เธอควรจะรู้จักศิลปินให้มากขึ้น เพื่อจะได้ประเมินสถานการณ์ว่า …เธอจะลาออกจากที่นี่ ได้เร็วหรือช้ากว่ากำหนดการณ์เดิม


นาลีเดินเข้าไปในห้องซ้อมที่สมาชิก World of Fire กำลังฝึกร้องกันอยู่ เทโดชะงักมืที่กำลังดีเปียโน รีบลุกนำทุกคน ยกมือไหว้เธอ

"Hello! คุณลี" เทโดเอ่ยทักทาย ตามด้วยคนอื่นๆ ความเป็นผู้นำของเขาแสดงออกชัดในบรรยากาศของกลุ่ม

นาลีรีบส่งยิ้มและยกมือขึ้น "ไม่เป็นไร ทุกคนซ้อมต่อไปนะ พวกเราขอมานั่งสังเกตุการณ์เงียบๆ ช่วยทำเหมือนเราไม่อยู่ในห้องด้วยจะดีมาก"

“อ๋อ….”

เขาทิ้งจังหวะนานพอดูกว่าจะพูดว่า    

“ได้ครับ” ตอบแบบไม่เต็มใจนัก 

เธอกับมิกิมองหน้ากัน …รู้สึกได้ว่ามาทำให้เขาอึดอัดใจเพราะความไม่เป็นส่วนตัว

“เขาคงไม่ชอบให้เรามาจ้องอยู่นะคะ”

“อย่าคิดมาก ดูนั่นสิ” นาลีชี้ให้มิกิและโกดูกล้องวงจรปิดที่มุมห้อง พวกเขาก็รู้ตัวว่าถูกจับตามองตลอดเวลา มีกล้องวงจรปิดเป็นร้อยตัวในอาคารนี้ การเกร็งว่ามีคนจ้องอยู่แบบมองจริง หรือผ่านกล้อง แทบไม่ต่าง หากไม่เป็นการอุปาทานไปเอง

“เดี๋ยวเค้าก็ชิน” เธอนำน้องๆเดินไปยังมุมที่มืดทึบที่สุดในห้อง มีโต๊ะตัวใหญ่ขวางอยู่ ที่ตรงนั้น พวกเธอสามารถหลบตัวไปกลืนกับผนังได้ แบบไม่สร้างความรู้สึกรบกวน คล้ายผู้ชมในโรงละครเวที 

ช่วงแรก…สมาชิกวงมองตามเธออย่างเกร็งๆ แต่แล้วพอผ่านไปสักพัก ก็เป็นไปตามคาด พวกเขาเริ่มลืมไปว่ามีบุคคลแปลกปลอมมาดูพวกเขาซ้อมอยู่ในห้องด้วย 

สีหน้าค่อยๆ ผ่อนคลายและกลับมาทุ่มเทกับการซ้อมตามปกติ

มิกินั่งมองพวกเขาด้วยความตื่นเต้น ดวงตาฉายประกายเหมือนจะหลุดออกมานอกร่างเมื่อเห็นพลังของทุกคน

นาลีเฝ้ามองเด็กวัยที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งสองคน แม้แต่โกที่เหมือนกึ่งหลับมาตลอดเช้าก็เพิ่งมาตื่นเอาตอนนี้

เธอรู้ทันทีว่าศิลปินวงนี้มีเสน่ห์และมีพลังพอ ที่จะทำให้ผู้ชมหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของเพลงและจังหวะ ที่พวกเขารังสรรค์ขึ้น แม้ไม่สมบูรณ์แบบเท่า AI แต่มีพลังลึกลับที่ AI ไม่สามารถทำได้ ซ่อนอยู่ในนั้น

เทโด เสียง การเล่นเปียโน และบุคลิกภาพของเขา ทำให้บรรยากาศของวงดูขลัง 

เขาเล่นเปียโนอย่างตั้งใจ สายตาดูจดจ่อและขึงขัง แม้จะเป็นแค่การร้องซ้อมที่ไม่ต้องใช้เสียงเต็มที่ แต่นาลีก็เห็นความตื่นตัวและความเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้วของเทโดอย่างชัดเจน

"แม็ค หยุดก่อน ท่อนนี้ควรจะอยู่ในคีย์นี้นะ” เขาร้องนำให้ลูกพี่ลูกน้องฟัง

แม็คเน็ทพยายามทำตามสุดความสามารถ หลายครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่แววตาของเทโดจะแสดงความพอใจ

เมื่อถึงช่วงการร้องของสมาชิกคนอื่น ๆ นาลีสังเกตว่าเทโดจะแทรกแซงทุกครั้งที่มีคนร้องผิดคีย์เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจากโน้ตที่เขาวางไว้ เขาจะค่อยๆ ยกมือขึ้นด้วยสีหน้าหวั่นไหวเล็กน้อย แล้วชี้แนะให้สมาชิกกลับมาร้องในคีย์ที่เขาต้องการ

เทโดกล่าวด้วยน้ำเสียงดุเคร่ง แต่สมาชิกทุกคนก็รับฟังและปรับการร้องของตนเองตามที่เขาบอก

นาลีเข้าใจดีว่าเทโดเป็นคนที่เชี่ยวชาญและมุ่งมั่นกับความสมบูรณ์แบบของเพลงเป็นอย่างมาก ทั้งการเล่นเครื่องดนตรีและการร้อง แต่บางครั้งความเป็น perfectionist ของเขาก็ส่งผลให้เพื่อนร่วมวงรู้สึกกดดันและทำให้งานศิลปะที่สร้างจากมนุษย์ ดูไม่เป็นธรรมชาติ

“ถ้าจะเป๊ะขนาดนี้ จะต่างกับพวก VI ยังไง” นาลีกระซิบถามโกแทน เพราะมิกิดูจะเข้าภวังค์ในการเสียงร้องของวง Wof ไปแล้ว

“เดี๋ยวดูตอนเต้นพี่ ตอนเต้นจะเริ่มเละนิดๆ” โกกระซิบบอก

เข้าสู่ช่วงซ้อมเต้น… เพราะบริษัทเพิ่งเปิดตัว พวกเขายังไม่มีครูฝึกเต้น หรือนักออกแบบท่าเต้นของตนเอง คนที่ทำหน้าที่เป็นผู้ออกแบบท่าเต้น และคุมการแสดงคือ ไคโจ

เขาเปลี่ยนบทบาทผู้นำกัน ‘ไคโจ’ ขึ้นมาเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่มแทน และเทโดยอมลงไปเป็นลูกน้องที่เชื่อฟังอย่างไม่มีปากเสียง

“ทำงานเป็นทีมดีมาก” นาลีกระซิบคุยกับผู้ช่วย

บทบาทผู้นำของ ‘ไคโจ’ ต่างจากเทโดอย่างเห็นได้ชัด เขายังดูสบายๆ และสร้างบรรยากาศเฮฮาตลอดการซ้อม ยังหยอกล้อและคุยเล่นกับทุกคนไประหว่างที่นำเต้น ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวของทุกคนดูเป็นธรรมชาติ

ทักษะการจัดระเบียบของไคโจเข้าขั้นอัศจรรย์ การเคลื่อนไหวของเขามีสเน่ห์ ดึงดูดสายตาถึงแม้เขาจะตัวเล็ก และมีความสูงน้อยกว่าสมาชิกคนอื่น

“ต้องให้โจเด่นขึ้นกว่านี้ อาจให้ใส่ชุดที่มีสีสดกว่าคนอื่น ส่วนแว่นที่เขาใส่อยู่ตอนนี้ดีแล้ว” เธอมองดูแว่นแฟชั่นสีสดที่เขาใส่มา และค่อนข้างมองออกว่าหนุ่มคนนี้มีรสนิยมแฟชั่นที่จัดจ้าน ซึ่งจะช่วยดึงจุดเดึในตัวเขาออกมาได้มาก

“โจต้องเป็นเซนเตอร์ทุก performance” นาลีรีบหันไปบอกโจและเขารีบบันทึกลงในมือถือ

แม็คเน็ทแม้ทักษะการร้องจะดี แต่การเต้นแทบตามไม่ทันสมาชิกกลุ่ม สำหรับจีโอ ทักษะการเต้นดีกว่าแม็คเน็ทแต่ยังไม่เท่าเทโด เทโดร้องเพลงได้สมบูรณ์แบบ และเต้นได้สมบูรณ์แบบ 

นาลีกังวลว่าความสมบูรณ์แบบเกินไปของเทโดจะทำให้เขาไม่ต่างจาก VI จริงๆ เขาดูเหมือนเครื่องจักรที่เล่นไปตามโปรแกรมที่ถูกป้อน และขาดชีวิตชีวาอย่างเห็นได้ชัด 

“ต้องหาวิธีแก้” เธอพึมพำ

โก ผู้ช่วยชายรีบหันมาถาม

“ยังไงพี่”

เข้าถึงช่วงร้องและเต้น มิกิเหมือนสติหลุดไปโดยปริยาย เธอนั่งเหม่อและจ้องพวกเขาแบบตาแทบไม่กระพริบ

“เอ่อ…”

นาลีนิ่งนานในคำถามนั้น ก่อนตัดสินใจพูดออกมาตรงๆ

“ยังคิดไม่ออกว่ะ”

“เอ๊า! พี่ โห่ ไร่เนี่ย อุตส่าห์ตั้งใจฟัง” โก ผู้ช่วยชาย พอมีสติเต็มที่แล้วก็ดูกวนตีนใช่เล่น จนเธออยากจะให้เขากลับไปเข้าหมวดสะลือสะลือเหมือนเดิม

นาลีจ้องมองเทโดระหว่างคิดหาทางแก้ปัญหา พลันสบตากับเขาผ่านกระจกห้องซ้อม ร้อนวูบขึ้นมาตามใบหน้า 

“พี่ๆ” โกกระซิบเตือน “พี่หน้าแดง”

นาลีรีบจกมือถือขึ้นปรับโหมดกระจกส่องหน้า พอดีกับที่เห็นเงาสะท้อนในกระจกของเทโด ยังมองเธออยู่ และยิ้มมุมปากนิดๆ และทำเอาเธอเริ่มขนพองสยองเกล้าขึ้นมาในทันที 

'อย่าเชียวนะ มันไม่เป็นมืออาชีพ’ เธอกระซิบเตือนตัวเองในใจแล้วพยายามรวบรวมสติไม่ให้กระเจิดกระเจิง …เป็นอย่างที่เพื่อนสนิทของเธอเตือนไว้เลย 

…การทำงานกับกลุ่มเด็กหนุ่มหล่อขั้นเทพนี่มันยากจริงๆ