ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
ชาย-หญิง,อาชญากรรม,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม,สะท้อนสังคม,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
‘แชมเปญ’ ได้งานแรกหลังเรียนจบเป็นเลขานุการผู้บริหารบริษัทกวินธาดามีเดีย ต้องใกล้ชิดและขึ้นตรงกับ ‘ฮาล’ ประธานบริษัทสุดหล่อเท่แต่ยิ่งทำงานไปด้วยกันเรื่อย ๆ ก็เซนส์ได้ถึงความลับดำมืดของเขา
ตลอดระยะทดลองงาน 3 เดือน แชมเปญได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานสุดหิน ท้าทายศักยภาพเด็กกิจกรรมและหลายพฤติกรรมไม่น่าอภัยของฮาล ทำให้อดีตที่เคยชื่นชมเขาดั่งไอดอลให้กลายเป็นความกลัวและเกลียดชัง แชมเปญได้ยินเรื่องซุบซิบในกลุ่มเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับเรื่องแปลกในบริษัท รวมถึงการหายตัวไปของจูลี่ เลขาคนก่อนหน้าเธอด้วย
ทีนี้แชมเปญจะไว้ใจใครในกวินธาดามีเดียได้บ้างนะ ?
แล้วความลับของฮาลคืออะไรกันแน่ ?
เตียงนอนที่คอนโดของจีน่านุ่มสบายมากจนผล็อยหลับทันทีที่หัวถึงหมอนจนลืมชาร์จแบตโทรศัพท์ ให้ตายเถอะ! ห้าเปอร์เซ็นต์!! ฉันตื่นขึ้นเวลาแปดโมงเช้าเพื่อปิดนาฬิกาปลุกเตรียมตัวอาบน้ำไปทำงาน ขณะที่จีน่ายังคงหลับใหลในห้องนอนของตัวเอง พี่ยินส่งข้อความมาหาฉันเมื่อชั่วโมงที่แล้วว่ามะรืนนี้ต้องออกกองต่างจังหวัดเพื่อกำชับให้ฉันกลับบ้าน ฉันก็ส่งสติ๊กเกอร์รับทราบไปให้เขาตัวหนึ่ง ทว่าทันทีที่ส่งข้อความและอีกฝ่ายอ่านข้อความก็มีสายเรียกเข้าจากพี่ชาย
ตรู๊ด...
“เออ ว่าไงพี่ชาย”
(หอจีน่าใกล้ที่ทำงานใช่ป่ะ) พี่ชายเข้าประเด็นโดยไม่มีการเกริ่นนำสักนิด ทำเอาสมองคนตื่นเช้าเบลอไปครู่หนึ่ง (ฮัลโหล ตื่นยังเนี่ย)
“อือ ใกล้นะ ขับรถ 20 นาทีก็ถึงแล้ว บวกลบ 10 นาที ถ้ารถติด ทำไมเหรอ”
(อยากถามให้แน่ใจน่ะ คือฉันรู้ว่าแกไม่ใช่พวกชอบเที่ยวกลางคืนหรือมีพฤติกรรมอะไรน่าห่วง แค่กังวลเรื่องการเดินทางไปทำงานของแกเฉย ๆ)
“อ่าห้ะ แล้วไงต่อคะ”
(แกจะอยู่หอกับจีน่ายาว ๆ เลยป่ะ เอาจริงแอบเหนื่อยแทนแกเวลาเดินทางไปทำงานเหมือนกัน รถโคตรติด) กลัวน้องเหนื่อยแต่ตอนพี่ยินเดินทางไปต่างจังหวัดทีก็ต้องตื่นแต่เช้าแถมยังช่วยแม่เตรียมกับข้าวอีก เขาเหนื่อยกว่าฉันเยอะแต่รู้สึกดีตอนที่พี่ชายเป็นห่วงนะเพราะเขาไม่ค่อยคุยเปิดเผยเท่าไรนัก
“ยังไม่ได้คิดเลย ว่าจะรอให้ผลทดลองงานออกก่อน ถ้าผ่านก็อาจจะอยู่ยาวเพราะนางก็บ่นอยู่ว่าเหงา”
(โอเค ยังไงบอกฉันก่อนนะ)
“ค่ะคุณพี่ เดี๋ยวจะไปทำงานแล้ว เจอกันตอนเย็นค่ะ”
กว่าจะได้อาบน้ำก็ปาไปเกือบแปดโมงครึ่ง ถึงอย่างนั้นก็ใช้เวลาเตรียมตัวก่อนออกไปทำงานไม่นานและไปถึงออฟฟิศตรงเวลา สีเสื้อมงคลของวันพฤหัสคือ โทนสีน้ำเงิน วันนี้ฉันจึงสวมเดรสสายเดี่ยวสีกรมท่ากับรองเท้าส้นสูงคู่เดิม มันคือชุดที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
เมื่อไปถึงออฟฟิศเวลาเก้าโมงเศษ ๆ ก็แตะบัตรขึ้นลิฟต์ ทักทายพนักงานทุกคนอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเข้าห้องทำงานตัวเองซึ่งครั้งนี้ไม่ได้เจอพี่ม่อนแม่บ้าน หรือ คุณฮาลผู้เป็นเจ้านายของฉัน ทว่าเป็นชายหนุ่มเรือนผมสีอัลมอนต์มัดผมทรงแมนบัน (manbun) สวมเชิ้ตแบรนด์เนมกับกางเกงสแลคสีเทาและรองเท้ารัดส้น ในมือของเขามีแก้วทรงห้าเหลี่ยมเติมเต็มด้วยของเหลวสีอำพัน
“ฮาล มาแล้วเหรอ อ้าว... ไม่ใช่เหรอ” เขาหันหน้ามาหาฉันด้วยความแปลกใจ เขามีใบหน้าเรียวคม กรอบหน้าชัดด้วยกรามแหลมนั่น แววตากลมสีน้ำตาลกับคิ้วเข้ม จมูกโด่งทรงเดียวกับโรเจอร์ แต่ริมฝีปากเล็ก “ว่าแต่คุณเป็นใครเนี่ย คนสวย”
“ฉันสิที่ต้องถามว่าคุณเป็นใคร ขึ้นมาห้องนี้ได้ยังไง”
“ผมชื่อคลินท์ ขึ้นมาได้เพราะมีบัตร Visitor พอดีจะมาหาฮาลน่ะ ไม่ต้องตกใจไปหรอก” ผู้ชายชื่อคลินท์ตอบคำถามของฉันแถมยังทำหน้าตายียวนขี้เล่น ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าและเตรียมโทรหาเจ้านาย
“จะไม่ตกใจได้ไงคะ ในตารางนัดหมายของฮาลไม่เห็นมีพูดถึงคุณเลย”
“เซอร์ไพรส์น่ะ” คลินท์เดินเข้าดิ่งตรงมาหาฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใสพร้อมกับแก้วในมือ แต่ฉันยังคงสงสัยในตัวผู้ชายคนนี้จนกว่าจะได้คำตอบว่าเขามาทำอะไรที่นี่ มันน่าสงสัยเมื่อไม่เคยมีการพูดถึงเขาเลย แล้วเขาจะมาเอาอะไรกับฮาล “นี่... ผมบอกชื่อของผมแล้ว ถึงตาคุณแล้ว” แววตาเป็นประกายของเขาทำให้ฉันกลัวถดหลังชิดโต๊ะทำงาน
“ฉันจะไม่บอกอะไรคุณทั้งนั้น จนกว่าฮาลจะมาถึงค่ะ รบกวนนั่งรอตรงนั้นไปก่อน แต่ถ้าเข้าใกล้ฉันอีกนิดเดียว จะเรียกให้ยามลากคอคุณออกไป” ฉันพูดขู่อย่างจริงจังขณะที่นิ้วมือจ่อที่ปุ่มโทรออกหาฮาล ฉันหวาดระแวงพฤติกรรมแบบนี้เพราะแฟนเก่าชั่วร้ายของฉันเคยบุกเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางเป็นมิตรแบบนี้ทั้งที่ตัดเขาออกไปจากชีวิตแล้ว ฉันอาจจะกลัวคลินท์ไปเองแต่ยังไงก็เพื่อความปลอดภัยของฉันจึงตัดสินใจโทรหาคุณฮาล
“ว้าว ดุด้วยแฮะ ผมชอบนะ” ชายหนุ่มหัวเราะและพิงหลังกอดอกที่โต๊ะทำงานของฮาล ขณะที่ฉันจ้องเขม็งที่เขาในท่าตั้งการ์ด พี่ยินเคยสอนวิชาป้องกันตัวให้ฉันและถ้าหมอนี่เป็นอันตรายจริงก็เตรียมโดนต่อยได้เลย
ตรู๊ดด...
(อือ ว่าไง) เสียงปลายสายใกล้มากเหมือนเจ้าตัวอยู่ที่ออฟฟิศแล้ว จนกระทั่งฉันได้ยินเสียงเปิดประตูห้องพร้อมกับร่างสูงของเขาในชุดลำลอง ฉันกดวางสายและมองหน้าเขา
“โย่ ไงพวก จะมาทำไมไม่บอกวะ” ฮาลสบตาฉันครู่เดียวก่อนจะเดินตรงไปหาคลินท์พร้อมกับชนหมัดในท่าที่ต่างจากโรเจอร์แถมยังกอดกันแน่น โอเค... พวกเขารู้จักกันดังนั้นคลินท์ไม่ใช่คนอันตราย “มาถึงนานรึยังเนี่ย”
“มาถึงสักพักนึงว่ะ แต่ถ้ามึงไม่มาเร็วกว่านี้อาจจะโดนผู้หญิงคนนี้ต่อยก็ได้” ฮาลหันหน้ามามองฉันตามคำพูดของคลินท์ อา... ภาพลักษณ์การทำงานสัปดาห์แรกของฉัน
“นี่แชมเปญ เลขาคนใหม่ของกู ส่วนนี่คลินท์ ลูกพี่ลูกน้องของผมเอง ปกติหมอนี่จะอยู่นิวยอร์ก ถ้าผีเข้าก็จะมาหาผม มันมาไทยแค่ปีละสองครั้ง ยังไงก็สนิทกันไว้นะ” ฮาลแนะนำผู้มาใหม่อย่างเป็นทางการ ฉันวางการ์ดลงและเปลี่ยนเป็นการจับมือ
“ขอโทษนะคะสำหรับก่อนหน้านี้ด้วย ฉันแค่เป็นห่วงความปลอดภัย อย่างที่บอกว่าไม่มีชื่อของคุณในตารางนัดของฮาลเลย”
“ไม่เป็นไรฮะ ผมก็ขอโทษเหมือนกัน”
เอาล่ะ... เรามาเริ่มกันใหม่ ฉันเก็บกระเป๋าทำงานของตัวเอง ชาร์จแบตมือถือ เปิดคอมพิวเตอร์และเดินไปชงกาแฟให้ฮาล คลินท์นั่งบนเก้าอี้นวมข้างโต๊ะทำงานของฮาลพลางจิบน้ำสีอำพันในแก้วของตัวเอง ฮาลพูดเบา ๆ กับฉันว่า ‘ใจเย็นก่อน มือสั่นหมดแล้ว’ ขณะวางแก้วกาแฟไว้บนโต๊ะของเขา แล้วกลับไปนั่งที่ของตัวเอง
สองหนุ่มนั่งถามสารทุกข์สุขดิบของกันและกันสักพัก จนกระทั่งฉันได้รู้ว่าคลินท์เป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของโครงการอสังหาริมทรัพย์จากอเมริกาซึ่งเป็นการรับต่อจากครอบครัวของเขา โครงการที่ว่าก็มีทั้งหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมเอาใจทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้า ฉันสืบประวัติของคลินท์ในอินเตอร์เน็ตก็ทำให้รู้อีกว่าพวกเขาอายุเท่ากัน แต่คลินท์ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงนักเมื่อเทียบกับฮาล
“แล้วพรุ่งนี้จะเข้ามาที่นี่ป่ะ” ฮาลถาม
“คิดดูก่อน ถ้าเที่ยวแถว ๆ นี้ก็อาจจะเข้ามาหา... คุณแชมเปญ”
“คะ ฉันเหรอคะ”
“ไอ้หน้าม่อ แบบนั้นไม่ต้องมาหรอก”
หนุ่มนิวยอร์กยักคิ้วหลิ่วตาใส่ฉันอย่างขี้เล่น แม้จะเดาเจตนาใต้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่ออก ทว่าการได้เห็นคุณฮาลปริปากด่าลูกพี่ลูกน้องตัวเองก็ทำให้หุบยิ้มไม่ได้ นึกถึงตัวเองตอนแย่งของจากพี่ชาย พวกเราไม่ต่างจากพวกเขาเลย ว่าแต่คลินท์จะมาหาฉันทำไมนะ
“ไว้ว่ากันว่าจะแวะเข้ามามั้ย แต่คืนนี้ยังไม่ได้จองโรงแรมเลยว่ะ ขอกูไปนอนคอนโดมึงได้ป่ะ” คลินท์พูดแหย่ฮาลที่กำลังดูบางอย่างในโทรศัพท์ของตัวเอง “ได้มั้ย หรือมึงเอาไว้กกสาวที่ไหน”
“เซ้าซี้จริง มึงจะมานอนก็ได้ มีห้องนอนให้แต่ห้ามพาสาวเข้ามา”
“อันนั้นควรบอกตัวเองนะพี่ชาย” ว่าแล้วคลินท์ก็หันมาสบตาฉันพร้อมกับบอกว่า “คุณแชมเปญระวังหมอนี่ไว้ดี ๆ นะ มันไม่เคยปล่อยผู้หญิงคนไหนที่มันถูกใจหลุดมือเลย ชอบพาเข้าห้องตลอดแล้ววันต่อมาก็เขี่ยเขาทิ้งเหมือนขยะ โคตรเลว เพราะแบบนี้ถึงไม่คบใครจริงจังสักที”
“ไอ้เชี่ยนี่”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ หัวใจของฉันไม่ได้มีที่ว่างให้พวกคุณเข้ามาได้หรอก ดังนั้นฉันปลอดภัยแน่นอน” ฉันตอบกลับเชิงพูดเล่นเพื่อปลีกตัวเองออกจากหัวข้อนี้แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ ฉันต้องส่ง Proposals ให้คุณโรเจอร์และอัพเดตข้อมูลกับทางฝ่ายโปรดักชั่น พี่แอนน์เพิ่งอัพเดตว่าเนื้อหารายการ Care Your Heart Today จะมีแขกรับเชิญเฉพาะด้านในแต่ละตอนด้วยเพราะพวกเขายังต้องการรายการที่พูดถึงการศึกษาและสังคมวัยทำงาน ไม่แน่ใจว่าคุณฮาลรู้รึยัง “คุณฮาลคะ มีข้อมูลใหม่จากโปรดักชั่น เดี๋ยวฉันส่งไปให้นะคะ” ฉันไม่มีเวลาให้ความรักจริง ๆ
“ดีนะที่คุณแชมเปญไหวตัวทัน”
“อ่าห้ะ งั้นคุณก็แจ้งโรเจอร์เพิ่มเติมในอีเมลด้วย ฝากด้วยฮะ” ฮาลตอบรับข้อมูลที่เพิ่งส่งให้แถมเมินกับคำพูดของคลินท์ราวกับเขาเป็นอากาศธาตุในห้องแห่งนี้ “ไว้โรเจอร์คอนเฟิร์มทุกอย่างแล้ว ค่อยประชุมกับฝ่ายอื่น ๆ กัน”
“รับทราบค่ะ”
ฉันใช้เวลาประมาณห้านาทีเพื่อเรียบเรียงข้อความก่อนส่งอีเมลให้กับโรเจอร์โดยเมนชั่นถึงคุณฮาล พี่โทและพี่แอนน์ด้วย ช่วงเวลาห้านาทีนั้น ฉันหูดับสนิทจนไม่รู้ว่าสองพี่น้องนั่งคุยอะไรกัน เพียงแค่ลอบเห็นกราฟผลประกอบการสามเดือนก่อนของคลินท์แต่มันก็ดูไม่ใช่อะไรที่ฉันต้องใส่ใจ
นอกจากฟังมุขฝืด ๆ ของคลินท์ ฉันได้รับข้อความจากพี่เจอยู่บ้างแต่ก็ไม่มีเวลาว่างตอบเพราะนั่งดูรีพอร์ตยอดผู้เข้าชมในเว็บไซต์จากฝ่ายหลังบ้าน เลขาคนเก่าเก็บข้อมูลรีพอร์ตรายสัปดาห์และรายเดือนไว้อย่างเป็นระเบียบเลย เสียดายที่เขาไม่อยู่สอนงานฉัน
ตอนเที่ยง ฉันไปทานข้าวกับสองพี่น้องที่ร้านอาหารขึ้นห้างแถมยังแวะซื้อขนมขบเคี้ยวอีก ฝ่ายบุคคลส่งข้อความมาหาฉันเพื่อติดตามเอกสารประกอบการสมัครงานซึ่งดูเหมือนว่าฉันยังไม่ได้ส่งสำเนาทะเบียนบ้านให้พี่เษม
“คุณอยากกินขนมอะไรเป็นพิเศษเลือกหยิบเอาได้เลยนะ” คุณฮาลกล่าวพลางใช้มือหนาวางลงบนหัวไหล่ของฉัน ขณะที่ฉันกำลังตอบแชทกับพี่เษม “เดี๋ยวผมเลี้ยง”
“ป๋าจังวะ” คลินท์เอ่ยแซว
“ขอบคุณนะคะ”
ฉันเลือกแค่ขนมมันฝรั่งทอดกรอบหนึ่งห่อด้วยความเกรงใจ พอกลับเข้าออฟฟิศตอนบ่ายก็ชงชาให้คุณฮาลอีกแก้ว คุณโรเจอร์ตอบกลับอีเมลมาแล้วว่ารายการใหม่เป็นไอเดียที่ดี แต่แง่การขายและการตลาดจะขอนัดวันประชุมด้วยอีกทีเพราะต้องการเวลาตัดสินใจก่อน เท่าที่คาดเอาไว้ ทั้งคู่อาจจะได้จับมือทำคอนเทนต์จริง ๆ
แน่นอนว่าระหว่างทำงานก็คอยฟังเสียงสองพี่น้องพูดคุยแบบไม่หยุด ฉันแว่วได้ยินทั้งคู่พูดถึง ‘สินค้า’ บางอย่างที่คลินท์ทวงถามจากคุณฮาลขณะที่พวกเขาดูลิสต์รายการบางอย่างด้วยกัน ฉันไม่มีสมาธิฟังสิ่งที่พวกเขาคุยกันเพราะประสานงานกับฝ่ายอื่นอีก แถมเจ้านายก็ไม่ได้ขอให้ฉันรับรู้สิ่งที่พวกเขาคุยกันด้วย
ฉันไม่ค่อยมีโอกาสได้ปลีกตัว ถึงแม้จะอยากไปนั่งคุยเล่นกับพี่เจที่โปรดักชั่นเฮ้าส์เลย พอถึงเวลาเลิกงานก็อยากกลับบ้านแล้วเพราะความเหนื่อยจากใช้พลังงานไปเยอะจากการทำงานทั้งวัน ภายในสองชั่วโมงก็กลับถึงบ้าน พี่ชายและแม่ยังดูซีรีส์ที่ห้องนั่งเล่นพลางหยิบเมล่อนมากินไปด้วย
“กลับมาแล้วค่า”
“ทำงานสนุกมั้ยลูก แล้วเมื่อคืนเป็นไงบ้าง เรียบร้อยดีมั้ย” แม่ถามอย่างใจเย็น
“ก็ดีนะแม่ เมื่อคืนก็เรียบร้อยดีค่ะ ผู้บริหารคุยธุรกิจกัน หนูก็นั่งจดพรีเซนต์”
“แล้วชอบงานนี้มั้ย”
“ชอบค่ะแม่ แต่ตอนนี้เหนื่อยมากเลย”
“ถ้าเหนื่อยก็ไปอาบน้ำนอนเถอะ ไว้ค่อยตื่นมากินข้าว มื้อนี้พี่ยินเป็นคนทำเลยนะ”
ฉันขึ้นไปนอนงีบในห้องของตัวเอง ทว่าเมื่อหลับตายังคงรู้สึกหวั่นไหวกับสัมผัสอุ่น ๆ จากมือของคุณฮาลจนอดคิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากการล่วงข้ามเส้นระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง ยิ่งคิดถึงก็ยิ่งรู้สึกวูบหวามแต่ฉันจะเป็นลูกจ้างที่ดีและปล่อยผ่านสัมผัสนั่น ฉันยังไม่ได้คิดหางานใหม่เร็ว ๆ นี้ด้วย
วันศุกร์เป็นวันแห่งการประชุมซึ่งผู้บริหารทุกฝ่ายยกเว้นพี่โทจะมานั่งรวมกันที่โต๊ะขนาดใหญ่ที่ฉายจอโปรเจกเตอร์แสดงผลประกอบการของฝ่ายขายว่าติดต่อใครไปบ้างโดยที่มีฝ่ายการตลาดนั่งอยู่ด้วย ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่แต่งเพดานสูงและหน้าต่างบานใหญ่เพื่อความโอ่อ่า ทว่าถูกบังไว้ด้วยผ้าม่านสีเข้ม เก้าอี้สำนักงานร่วมยี่สิบตัวเพียงพอสำหรับทุกคน วันนี้ฉันไม่ได้แต่งตัวตามสีมงคลประจำวันแต่ก็เป็นทางการด้วยชุดเบลเซอร์สีขาวสลับดำและรองเท้าส้นสูง
บนหน้าจอแสดงผลว่าลูกค้ารายไหนมีความเป็นไปได้ที่จะตกลงซื้อขายกับจีมีเดียในเร็ว ๆ นี้รวมถึงร่วมกันวางแผนในอนาคตว่าควรจับตามองลูกค้ากลุ่มไหนเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบรายการและการทำคอนเทนต์ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเปิดรายได้ที่ทำได้ในเดือนที่ผ่านมาเพื่อให้ผู้บริหารฝ่ายการเงินประเมินด้วย
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแบรนด์เครื่องดื่มติดต่อเข้ามาแลกเปลี่ยนเรตการ์ดจำนานมาก หากจะมีการซื้อขาย ทางฝ่ายขายแนะนำแพกเกจที่ได้โลโก้ทั้งรายการทาง YB และบนหน้าเพจจีมีเดีย ตอนนี้อยู่ระหว่างรอคำตอบคาดว่าจะได้รู้ชัดภายในสัปดาห์หน้า เพราะช่วงเศรษฐกิจขึ้น ๆ ลง ๆ หลายบริษัทไม่ค่อยกล้าเสียเงิน ถึงแม้ว่าจีมีเดียจะมีราคาจ่ายเหมาซึ่งถูกมากแล้วก็ตาม
ฮาลนั่งไขว่ห้างจิบชาร้อนขณะมองพรีเซนเทชั่นอย่างตั้งใจ เขาปล่อยให้ฉันจดสรุปประชุมเพียงลำพัง จะมีบ้างที่เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบแชทส่วนตัว ส่วนคลินท์ก็ยึดห้องทำงานชั้นบนสุดไปแล้ว เขาอาจจะต้องทนเหงาปากสักพักจนกว่าจะประชุมเสร็จ
“ถ้าไม่มีอะไรเพิ่มเติมแล้ว ก็น่าจะไม่มีอะไรแล้วล่ะ ผมอาจจะคุยกับทีมเซลล์กับมาร์เกตติ้งนอกรอบอีกที ยังไงก็หวังว่าลูกค้าจะตกลงซื้อนะ เพราะยอดการเข้าถึงของเพจเราก็ไม่น่าเกลียด ถึงอัลกอริทึ่มช่วงนี้จะเอาแต่ใจก็เถอะ” ฮาลออกความเห็นแค่นั้นหลังจากจบพรีเซนต์ของฝ่ายขาย เขาชะเง้อหน้ามองว่าฉันจดอะไรไปบ้างแล้วกลับไปนั่งตอบแชทต่อ
“เดี๋ยวพี่จะส่งรีพอร์ตหลังบ้านให้ทางทีมดูนะ” คุณพุธ ผู้บริหารที่ดูแลหลังบ้านเพจกล่าวกับฝ่ายขาย “เราจะได้วางแผนแพกเกจกัน เอาไว้ต่อรองอีก”
ทว่าการประชุมที่ดูเหมือนจะจบลงกลับไม่เป็นแบบนั้น ทุกคนยังคงพูดคุยจิปาถะ ฉันรู้สึกได้ว่าถูกมองจากใครบางคนซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พวกเธอเป็นเลขาของคุณพุธ คนหนึ่งชื่อหลิน เธอมีผมสั้นสีน้ำตาล แววตาโฉบเฉี่ยวเหมือนแมว แต่งหน้าจัดจ้านและแต่งกายด้วยเสื้อยืดแขนกุดกับกางเกงรัดรูป อีกคนชื่อโยนา เธอมีเรือนผมยาวถึงกลางหลังสีดำสนิทเหมือนอีกา สไตล์การแต่งตัวต่างจากอีกคนโดยสิ้นเชิงเพราะเธอสวมชุดเบลเซอร์สีขาวดูสง่างามรับเข้ากับใบหน้าเรียบเฉยคาดเดาไม่ได้
เหตุผลที่คุณพุธมีเลขาถึงสองคนเพราะคุณโยนาเป็นเลขาส่วนตัวซึ่งช่วยดูแลธุรกิจอื่น ๆ ของเขา ส่วนคุณหลินดูแลเจาะจงเฉพาะงานที่จีมีเดียเท่านั้น ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกแปลกกับพวกเธอ สองสาวจ้องมองฉันนิ่ง ๆ ตลอดการประชุมโดยมีโน้ตบุ๊คตั้งไว้ตรงหน้า ไม่ได้นั่งจดงก ๆ แบบฉัน ฉันรู้สึกขนลุกหลังจากได้รับสายตาแบบนั้นจึงกวาดมองไปที่คนอื่น ปลายฟ้าซึ่งเป็นผู้ช่วยฝ่ายขายยกนิ้วโป้งให้ฉันพร้อมกับยิ้มหวาน ทำให้รู้สึกหายเกร็งลงบ้าง
JAY: เย็นนี้รีบกลับบ้านมั้ย
JAY: สนใจมาดื่มเบียร์ด้วยกันที่บ้านโปรดักชั่นป่ะ ละลายพฤติกรรมกัน
#เจ้านายคะอย่ามาจับ
#แชมเปญไม่ยอม