ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
ชาย-หญิง,อาชญากรรม,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม,สะท้อนสังคม,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
‘แชมเปญ’ ได้งานแรกหลังเรียนจบเป็นเลขานุการผู้บริหารบริษัทกวินธาดามีเดีย ต้องใกล้ชิดและขึ้นตรงกับ ‘ฮาล’ ประธานบริษัทสุดหล่อเท่แต่ยิ่งทำงานไปด้วยกันเรื่อย ๆ ก็เซนส์ได้ถึงความลับดำมืดของเขา
ตลอดระยะทดลองงาน 3 เดือน แชมเปญได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานสุดหิน ท้าทายศักยภาพเด็กกิจกรรมและหลายพฤติกรรมไม่น่าอภัยของฮาล ทำให้อดีตที่เคยชื่นชมเขาดั่งไอดอลให้กลายเป็นความกลัวและเกลียดชัง แชมเปญได้ยินเรื่องซุบซิบในกลุ่มเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับเรื่องแปลกในบริษัท รวมถึงการหายตัวไปของจูลี่ เลขาคนก่อนหน้าเธอด้วย
ทีนี้แชมเปญจะไว้ใจใครในกวินธาดามีเดียได้บ้างนะ ?
แล้วความลับของฮาลคืออะไรกันแน่ ?
TW:
1. Non-con (การสัมผัสร่างกายโดยไม่ได้รับความยินยอม)
CHAMPAGNE's POV:
รู้สึกตัดสินใจไม่ผิดที่บอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้พี่เจฟัง ถึงแม้จะใจเร็วไปบ้างแต่ถ้ามันเป็นความจริงใจทั้งหมดก็ไม่ใช่เรื่องน่าเสียดาย อย่างน้อยฉันก็รู้สึกดีกว่ากลับไปนอนร้องไห้คนเดียวในบ้านเพราะไม่กล้าเล่าให้พี่ชายกับแม่ฟัง ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ดีนะ แต่เพราะพวกเขาเป็นห่วงฉันมาก ๆ ทำให้ฉันไม่กล้าเล่าอะไรเลยมากกว่า แม้จะรู้ว่าพวกเขาเจตนาดีทั้งนั้น หวังว่าพวกคุณจะเข้าใจ... แต่ไว้ถึงเวลา ฉันจะเล่าให้พวกเขาฟังทุกอย่างเลย
"รหัสเข้าห้องคือวันเกิดพี่เหรอคะ" ฉันตั้งใจเปลี่ยนเรื่องเพื่อยกสมองออกมาจากความเจ็บปวด
"วันที่จินจิน น้องสาวคนเดียวของพี่เสียชีวิต" ทว่าฉันกลับสะกิดแผลของเขาโดยไม่รู้ตัวด้วยความอยากรู้อยากเห็นของฉัน แววตาสีเข้มของพี่เจเอ่อรื้นด้วยน้ำตา "พี่ช่วยเขาไว้ไม่ได้ ในฐานะพี่ชายแท้ ๆ พี่แค่นั่งฟังแล้วคิดว่าเท่านั้นก็เพียงพอแต่พี่ไม่ได้ช่วยเขาแก้ปัญหาเลย พี่ปล่อยให้จินจินเจอกับความน่ากลัวจนสุดท้ายเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป รู้อีกทีน้องก็ไม่หายใจแล้ว"
"พี่เจคะ หนูขอโทษ หนูไม่รู้..." ฉันคว้าตัวเขามากอดไว้แน่น ถึงแม้พี่เจไม่ได้เล่ารายละเอียดแต่ฉันกลับเข้าใจความหดหู่นั้น ไม่ว่าตอนนี้จินจินจะเป็นอย่างไรในภพภูมิที่ฉันไม่รู้จักก็ภาวนาขอให้เธออยู่ในสถานที่ที่ดี
"จินจินเหมือนเธอมากเลย อาจจะไม่แก่นไม่มั่นเท่าเธอ แต่เป็นคนแพชชั่นแรง ตั้งใจทำทุกอย่างที่ต้องการ" เขาพูดในอ้อมกอดของฉันด้วยน้ำเสียงใจหาย หมดแรงอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน "พอเธอเล่าให้พี่ฟังว่าเธอกำลังเจอกับอะไร พี่เลยอยากช่วยทำอะไรสักอย่าง พี่ไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบจินจิน อาจจะฟังดูแย่ที่มาขอโอกาสแก้ตัวกับคนอื่น ทั้งที่ช่วยน้องสาวแท้ ๆ ไม่ได้แต่พี่ได้บทเรียนแล้ว และพี่มั่นใจว่าพี่ช่วยเธอได้" หากจินจินคอยมองอยู่ไม่ห่าง น่าจะได้เห็นว่าพี่ชายของเธอรักเธอมากแค่ไหน เขาไม่เคยลืมเธอสักวินาทีซ้ำร้ายเขายังโทษตัวเองเสมอ ฉันไม่อาจเป็นตัวแทนของน้องสาวเขาได้ แต่นับตั้งแต่วินาทีพี่เจตัดสินใจเข้ามาช่วยก็เท่ากับช่วยฉันแล้ว
"หนูคงบอกให้พี่เลิกโทษตัวเองไม่ได้ แต่ตอนนี้พี่กำลังช่วยหนู ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยนะคะ"
"อืมใช่... พี่กำลังช่วยเธอ เราลงเรือลำด้วยกันแล้ว แต่สัญญากับพี่หน่อยสิว่าจะเล่าทุกอย่างให้พี่ฟัง" เขายกนิ้วก้อยขึ้นมาเพื่อขอให้ทำสัญญาผ่านคำพูดจากหัวใจแทนสัญญาลายลักษณ์อักษร
"สัญญาค่ะ หลังจบเรื่องนี้ พวกเราค่อยลาออกจากที่นี่กัน" ฉันเกี่ยวก้อยสัญญากับพี่เจแล้วกอดเขาไว้อีกครั้ง หัวใจของพวกเราจะไม่เย็นชืดเดียวดายอีกต่อไป
เมื่อคืนฉันยังคงฝันถึงภาพยนตร์สั้นเรื่อง Black Dog อย่างหมกมุ่นเพราะคิดไม่ตกว่าตัวละครลลิตาคือจูลี่รึเปล่า ฉากเจ้านายลวนลามทำให้ฉันสะดุ้งผวาขึ้นมาจากการหลับใหล แม้แต่พี่เจยังสะดุ้งตาม ทว่าเขายังคงนอนหลับอยู่แต่คว้าร่างของฉันไปกอดไว้แน่น ฉันจำเป็นต้องหาคำตอบให้ได้ ไม่งั้นอาจจะเป็นบ้าตาย ฉันไม่อาจทำงานด้วยความรู้สึกท่วมท้นได้ สิ่งที่คุณฮาลกระทำต่อฉันไม่มีหลักฐานด้วยซ้ำนอกจากบาดแผลบอบช้ำในใจของฉันเพียงคนเดียว
พวกเราคุยแผนการล้วงความลับเบื้องต้นระหว่างกินพิซซ่าและเปิดโทรทัศน์ดูซีรีส์ พี่เจจะติดต่อกับโปรดักชั่นเฮ้าส์ผู้สร้างเรื่อง Black Dog โดยอ้างว่าเป็นคอนเนคชั่นจากจีมีเดีย ส่วนฉันจะลองตามหาข่าวเกี่ยวกับจูลี่และไดอารี่ของจูลี่เผื่อจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติม อย่างน้อยจะได้มั่นใจว่าภาพยนตร์สั้นนั้นสร้างจากบุคคลสมมติ แต่ไม่มีทางหรอก... จั่วหัวอุทิศถึงจูลี่ขนาดนั้น แน่นอนว่าฉันมีแผนที่จะจ้างนักสืบด้วยเพราะจีน่าก็รู้เรื่องเช่นกัน จีน่ามีคนรู้จักทำงานเป็นนักสืบเอกชนซึ่งอยู่เบื้องหลังการเปิดโปงบ่อนพนันผิดกฎหมาย ชู้รักบ้านเล็กบ้านน้อย เธอส่งรูปนามบัตรมาให้กับฉัน แต่คงยังไม่ใช้บริการเร็ว ๆ นี้
ฉันแต่งองค์ทรงเครื่องอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำอยู่นานสองนานเพราะไม่สามารถสลัดฝันร้ายออกไปได้ การไปทำงานวันนี้จะต้องลำบากมากแน่แต่ด้วยสถานะของพนักงานทดลองงานไม่สามารถลางานได้ เว้นแต่ว่าแจ้งเจ้านายล่วงหน้า 3 วันซึ่งฉันทำไม่ได้ มีงานมากมายรออยู่ ฉันควรติดต่อพี่เษมเอาไว้รึเปล่าว่าฉันอยากลาออก แต่ถ้าฉันแจ้งฝ่ายทรัพยากรบุคคล... เจ้านายก็ต้องรู้ด้วยเช่นกัน เชี่ยเอ๊ย! ตอนนี้ฉันยังทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นเลยนอกจากทำงานตามหน้าที่
"เธอไหวใช่มั้ย" พี่เจเดินเข้ามาในห้องน้ำเพื่อสะกิดไหล่ของฉันที่ยืนกำแปรงแต่งหน้าอยู่หน้ากระจก เขามองออกว่าฉันไม่โอเคเลย "มานี่มา... เดี๋ยวถ้าไม่ติดอะไร ตอนกลางวันเราไปกินข้าวด้วยกันนะ แล้วตอนเย็นพี่จะขับรถไปรอที่ตึกสำนักงาน ผ่านไปด้วยกันนะ"
"หนูจะฮึดใจไว้"
รสชาติของการเป็นผู้ใหญ่มีเวลาร้องไห้ไม่นานเพราะมีความรับผิดชอบจ่อหัวรออยู่ แม้จะล้มตกหน้าผาแต่ก็ต้องลุกขึ้นปีนกลับไปใหม่ ยิ่งเร็วยิ่งดี นั่นคือสกิลความยืดหยุ่นที่ไม่จมปลักอยู่กับความทุกข์ ความล้มเหลว มีปัญหาเป็นร้อยที่รอคอยที่จะได้รับการแก้ไข น้ำตาแค่ช่วยเยียวยาจิตใจและขจัดสิ่งสกปรกออกจากดวงตาเท่านั้น ปัญหาการถูกเจ้านายล่วงละเมิดก็เช่นเดียวกัน...
แน่นอนว่าแต่ละคนมีวิธีรับมือต่างกัน บ่อยครั้งที่ฉันเปลี่ยนน้ำตาเป็นความแค้นไม่ก็เมินเฉย สำหรับกรณีนี้ ฉันเจ็บใจแน่ ๆ ล่ะที่หวยออกที่ตัวเองจากบุคคลมีอำนาจเหนือกว่าและเพราะแบบนั้นทำให้ฉันโกรธจนไม่อยากลาออกไปเฉย ๆ
สิบนาทีต่อมา พวกเราถึงได้ออกจากคอนโดมิเนียมเตรียมตัวไปทำงาน ฉันสวมชุดเบลเซอร์สีฟ้า พี่เจสวมชุดลำลองสีดำล้วนเพราะวันนี้มีออกกอง มันเป็นการไปทำงานที่ทรมานที่สุด ปัญหารถติดดูเบาบางไปเลยเมื่อเทียบกับเรื่องเมื่อคืน พี่เจมุ่งหน้าไปที่สตูดิโอ ส่วนฉันเข้าตึกสำนักงานใหญ่ซึ่งคุณฮาลรออยู่ในห้องทำงานอยู่แล้วโดยสูบบุหรี่ไฟฟ้าและไถหน้าจอโทรศัพท์ไปด้วย
"สวัสดีค่ะ คุณฮาล"
"ว่าไง คุณ เมื่อคืนพักผ่อนดีมั้ย" หน้าไม่อาย... เขาไม่แม้แต่จะพูดขอโทษถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไป "หลับสบายก็ดีแล้วล่ะ จะได้ลุยงานกันต่อ”
“ค่ะ คุณฮาลล่ะ”
"ผมหลับสนิทเลยล่ะ เพราะว่าไปดื่มกับคลินท์ต่อหลังจากนั้น”
ฉันพยายามไม่ใส่ใจสิ่งที่เขาพูด แต่แค่ได้ยินชื่อคลินท์ก็ขนลุกวาบ ดีเอ็นเอสองพี่น้องไม่ต่างกันสักนิด...โดยเฉพาะความหน้าไม่อายของพวกเขา ฉันจัดแจงพื้นที่ในการทำงานของตัวเอง เปิดคอมพิวเตอร์ดูตารางปฏิทินออนไลน์ของฮาลซึ่งวันนี้ไม่มีประชุมอะไรทั้งนั้นแต่ก็ต้องสแตนบายในออฟฟิศ กรณีที่ผู้บริหารท่านอื่นอยากเข้ามาปรึกษาด้วย
"ตารางคุณฮาลวันนี้ไม่มีประชุมอะไรนะคะ"
"ดีแล้ว เช้านี้ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณด้วย เกี่ยวกับ Performance การทำงานของคุณ" ฮาลพูดเสียงอ้อยอิ่งขณะเดินไปหยิบขวดน้ำเปล่าเย็นเฉียบจากตู้เย็นตัวจิ๋ว เขาไม่ได้หยิบไว้สำหรับตัวเอง แต่ใช้ความเย็นเยียบจากก้นขวดไล้ตามกรอบหน้าของฉัน "คุณทำงานได้ดีนะ เป็นระเบียบมีแบบแผนซึ่งหายากมากในนักศึกษาจบใหม่ ประสบการณ์น้อย" ขวดน้ำไล้ลงไปตามซอกคอ เอวและสะโพกของฉันราวกับมือของเขาสัมผัสฉันทางอ้อม ฉันพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ขณะจดจ้องแววตาประกายของเขา "แต่ถ้าคุณยังอยากทำงานกับผมต่อ คุณไม่ควรจะขัดข้องกับคำสั่งของผม ไม่ควรทำให้ผมอับอายต่อหน้าสาธารณะด้วย เดือนหน้าผมจะพิจารณาอีกทีว่าคุณจะไปต่อกับจีมีเดียได้ไหม"
"ค..ค่ะ"
"ค่ะ แปลว่าอะไร... อยากทำงานด้วยกันต่อรึเปล่า" แววตาไม่เป็นมิตรคาดคั้นคำตอบที่ตนอยากฟังจากฉัน เขานั่งบนโต๊ะทำงานของฉันขณะที่วางไว้ขวดน้ำเย็นที่ต้นขาของฉันจนกระทั่งกางเกงเปียกตามรอยก้นขวด
"อยาก... อยากค่ะ" ฉันตอบไปแบบนั้นเพราะยังหาที่ทำงานใหม่ไม่ได้ มันสิ้นหวังมากจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ "แต่คุณฮาลอย่าทำแบบนี้ได้มั้ยคะ"
ฮาลไม่ตอบแต่กลับโน้มริมฝีปากอุ่นจุมพิตที่โหนกแก้มเปื้อนน้ำตาทั้งสองข้างของฉัน ฉันกำหมัดแน่น อยากกรีดร้องใจจะขาด เขาปลอบประโลมด้วยการจูบบนแก้มและริมฝีปากนานสองนาน ริมฝีปากนุ่มหวานแต่น่าขยะแขยงไม่หยุดบดขยี้ มือซุกซนของเขาบีบนวดต้นขาของฉันขณะที่จูบจนรู้สึกอ่อนแรงจนกระทั่งฉันสงบสติอารมณ์ได้เอง
"ดีมาก... หวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันนาน ๆ นะ"
ฉันตัดสินใจแล้ว... ฉันจะไม่กลัวคุณอีกต่อไป
ทำไมคนแบบนี้ยังมีชีวิตอยู่ได้ ทั้งที่ตัวเองทำผิดร้ายแรงขนาดนี้...
ฉันอยากเห็นคุณเน่าตายแล้ว ฮาล...
ฉันเคยชื่นชมคุณมาก แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีกต่อไปแล้ว
#เจ้านายคะอย่ามาจับ
#แชมเปญไม่ยอม