ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
ชาย-หญิง,อาชญากรรม,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม,สะท้อนสังคม,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
‘แชมเปญ’ ได้งานแรกหลังเรียนจบเป็นเลขานุการผู้บริหารบริษัทกวินธาดามีเดีย ต้องใกล้ชิดและขึ้นตรงกับ ‘ฮาล’ ประธานบริษัทสุดหล่อเท่แต่ยิ่งทำงานไปด้วยกันเรื่อย ๆ ก็เซนส์ได้ถึงความลับดำมืดของเขา
ตลอดระยะทดลองงาน 3 เดือน แชมเปญได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานสุดหิน ท้าทายศักยภาพเด็กกิจกรรมและหลายพฤติกรรมไม่น่าอภัยของฮาล ทำให้อดีตที่เคยชื่นชมเขาดั่งไอดอลให้กลายเป็นความกลัวและเกลียดชัง แชมเปญได้ยินเรื่องซุบซิบในกลุ่มเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับเรื่องแปลกในบริษัท รวมถึงการหายตัวไปของจูลี่ เลขาคนก่อนหน้าเธอด้วย
ทีนี้แชมเปญจะไว้ใจใครในกวินธาดามีเดียได้บ้างนะ ?
แล้วความลับของฮาลคืออะไรกันแน่ ?
TW:
1. Domestic Violence (ความรุนแรงภายในครอบครัว)
Jay's POV:
ของขวัญเซอร์ไพรส์วันครบรอบใหญ่จริงอย่างที่ผมบอกแชมเปญ ไม่ใช่แค่แหวนหมั้นที่เป็นของขวัญให้เธอแต่เป็นสีหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัวซึ่งสะท้อนกระจกแป้งแต่งหน้าของแชมเปญด้วย นั่นคือสิ่งที่เธออยากเห็นหลังจากที่เขาตามหลอกหลอนเธอดั่งฝันร้ายในรอบ 3 เดือน เธออยากสีหน้าแบบนั้นมากกว่าแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายเสียอีก
"พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะกลัวขนาดนี้" แชมเปญถามขณะที่ไม่หยุดมองแหวนหมั้นบนนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเอง เธอพยายามหัวเราะให้เบาที่สุดแต่เธอเก็บความสะใจเอาไว้ไม่อยู่ด้วยซ้ำ "หน้าซีดเป็นไก่ต้มเลยอะ"
"พี่ไม่รู้ว่าฮาลจะกลัวหางหดขนาดนี้ พี่รู้แค่ว่าเวลาเขาอยู่กับแอมเบอร์แล้วจะทำอะไรไม่ได้น่ะ ภาพลักษณ์ของเขาอยู่ในมือของแคนดี้ฮาร์ทนะ"
"สุดยอดอะ แต่แหวนหมั้นนี่ หนูจริงจังนะ ถึงจะเป็นการแสดงก็เถอะ"
"ตั้งใจจะขอหมั้นหลังคบได้สักปี แต่ไทม์มิ่งตอนนี้มันเหมาะกับแผนมากกว่า แต่ถ้าเธอจริงจังแล้วก็รอแหวนแต่งงานอีกวงแล้วกันนะ" ผมบอกแบบนั้นพลางคว้ามือเล็กมาจูบไว้ "ทำให้หมอนั่นเห็นกันว่า ชีวิตของเธอมีความสุขขนาดไหน ถ้าไม่มีเขา"
แชมเปญจูบผมอย่างดูดดื่มจนกระทั่งเมนูของหวานมาเสิร์ฟซึ่งมันจะจืดไปเลยเพราะความหวานไปอยู่ที่ปากของเธอหมดแล้ว ทันใดนั้นผมสังเกตเห็นคุณฮาลกับแอมเบอร์จูงมือออกจากห้องอาหารโดยที่ดื่มไวน์หมดแก้วแต่ไม่รอของหวาน เห็นแบบนี้คงจะกินลงอยู่หรอก...
นี่แค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังไม่ใช่ชัยชนะหรอก
"เราควรถ่ายรูปนะคะ เรื่องแบบนี้รู้กันแค่พวกเราไม่ได้อะ"
"แหงสิ"
พวกเรารบกวนพนักงานเสิร์ฟให้ช่วยถ่ายภาพความทรงจำการหมั้นหมายภายในห้องอาหารประมาณ 3-4 รูปแล้วกล่าวขอบคุณพวกเขาที่ให้ความช่วยเหลืออย่างดี แชมเปญอัพเดตบนโซเชียลมีเดียของตัวเองด้วยแคปชั่นว่า 'I said yes to this engagement.' งั้นของผมก็ควรเป็น 'So... I finally ask her for engagement.'
หลังจากนั้นก็มีเพื่อนฝูงจากทุกสารทิศเข้ามาเอ็นเกจโพสต์ด้วย เธอเป็นนักทำกิจกรรมจึงมีเพื่อนเต็มไปหมด รวมถึงพนักงานของจีมีเดียที่ติดตามโซเชียลของเธอด้วย
"ขอบคุณนะคะพี่เจ"
"บอกแล้ว พี่จะทำให้เธอมีความสุขเอง แต่พี่ไม่ได้จองห้องโรงแรมนะ"
"ไว้กลับไปที่คอนโดก็ได้ค่ะ จะได้ไม่เฉียดเจอคู่นั้น" แชมเปญกลับมาในอาการปกติแล้วหลังจากยิ้มแก้มแตกเกือบสิบนาที "แผนต่อไป เราจะรอให้แอมเบอร์มาหาใช่มั้ยคะ"
"ใช่ เขาอาจจะมาในสถานะโล่หรือดาบของฮาลก็ได้ แต่เธอไม่ต้องกลัวเขาหรอก เธอไม่ต้องกลัวใครทั้งนั้น"
"ทำไมพี่ดูรู้จักแอมเบอร์เยอะจัง"
อ่า... จริงสิ ผมไม่เคยบอกแชมเปญว่าผมเห็นทุกอย่างช่วงที่สองคนหมั้นกันแรก ๆ แล้วแอมเบอร์มาเจอฮาลที่ออฟฟิศทุกเย็น ค่อนข้างว่างจนสามารถเกาะแกะว่าที่สามีที่กำลังวุ่นกับการดูงานกองถ่ายได้เลย
"สองคนนั้นตัวติดกันจะตาย จนกระทั่งปีนี้ที่ทั้งคู่โฟกัสแต่ธุรกิจของตัวเองนั่นแหละ ถึงแบบนั้นพี่ก็ไม่รู้นะว่าแอมเบอร์จะมาไม้ไหน ดังนั้นเธอมีการบ้านอย่างเดียวคือ ศึกษาว่าแอมเบอร์เป็นคนแบบไหน"
ผมไม่เคยแก้แค้นหรอก ผมก็แค่เด็กที่ชอบเล่นเกมวางแผนและถ้าเราอยากชนะใครสักคนก็ควรรู้จักคู่แข่งหรือศัตรูให้มากที่สุด
Amber's POV:
ฮาลกระชากข้อมือของฉันเพื่อพาออกจากห้องอาหารด้วยความรุนแรง เขากำลังโมโห สีหน้าเขาแสดงออกชัดยิ่งกว่าอะไร เพราะแบบนั้นเขาจึงคนที่คาดเดาได้ง่าย เด็กสองคนนั้นเล่นแรงมากเหมือนพวกชอบลองของว่าผีสางมีจริงมั้ยและพวกเขาจะได้รู้จนกระทั่งถูกบีบคอไม่ก็คำสาปแล้ว
เขานำไปที่ลิฟต์แล้วแตะคีย์การ์ดไปยังชั้น 15 ซึ่งฉันจองห้องเอาไว้สำหรับคืนนี้แต่ไม่คาดหวังจะได้ใช้เพราะหลายครั้งหลังดินเนอร์ พวกเราแยกห้องนอนกัน ว่าแล้วเขาก็กระแทกจูบที่ปากครั้งหนึ่ง คงจะอยากระบายอารมณ์เต็มที่แล้ว...
"เบา ๆ ก็ได้ ฉันไม่หนีไปไหนหรอก"
"เงียบซะ"
ฉันชอบทุกอย่างของฮาลยกเว้นอารมณ์รุนแรงของเขาซึ่งเวลาที่เขาเป็น 'แบบนี้' ฉันห้ามหรือต่อต้านไม่ได้และนั่นทำให้ฉันเจ็บมาก ๆ เหมือนเขาเห็นฉันเป็นตัวแทนของอะไรบางอย่างหรือบางคนที่ควรโดนลงโทษ
อย่างกรณีวันนี้คือ แชมเปญ เลขาส่วนตัวของเขาที่ควรถูกลงโทษ ไม่ใช่ฉัน... ทว่าตอนนี้ฉันกลับถูกขึงบนเตียงด้วยเนคไทของเขาตามด้วยแรงกระแทกมหาศาลสอดใส่เข้ามาในตัวฉันจนอึดอัดเกือบตาย ฉันกลั้นน้ำตาและเสียงกรีดร้องไม่อยู่ เขาเพิ่งรู้สึกตัวหลังจากเห็นน้ำตาของฉันไหลพรากเต็มแก้ม ลบเครื่องสำอางจนหมด เขาโชคดีมากที่ฉันไม่ฟ้องพ่อเรื่องนี้... ไม่งั้นงานแต่งคงถูกยกเลิกไปนานแล้ว
พ่อดูแลฉันดีอย่างเจ้าหญิงเพราะแม่เป็นราชินีของพ่อ สิ่งที่ฮาลทำจึงไม่ต่างจากอัศวินมักมากในกามที่ไม่สามารถการันตีชัยชนะในการสู้รบ การแข่งขันในโลกธุรกิจ ฉันจำเป็นต้องมีเจ้าชายขี่ม้าขาวช่วยกู้ชื่อเสียงและฟื้นฟูอาณาจักรด้วยกัน ไม่ใช่แค่เจ้าชายหน้าตาดี มีกระบองใหญ่ใต้กางเกง เรื่องอะไรที่พ่อจะยอมให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนถูกเอาเปรียบล่ะ...
"ผม... ผม ขอโทษ" ฉันได้เห็นน้ำตาความสำนึกผิดของฮาล เขาไม่ควรปฏิบัติกับว่าที่ภรรยาแบบที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้ เขาล้มตัวนอนบนเตียงและกุมหน้าร้องไห้ จากปีศาจร้ายกลายเป็นมนุษย์อ่อนแอ
"ดูเหมือนคุณมีหลายอย่างที่อยากพูดนะ" ฉันสวมชุดชั้นในกลับดังเดิมแล้วอิงซบอกของเขา "พูดได้นะคะ เผื่อมีอะไรที่ฉันช่วยได้"
"อย่างแรกเลยคือ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับแชมเปญบ้าง เพราะผมไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับเธอเลย ผมไม่อยากให้พวกคุณเจอกันด้วยซ้ำ"
เขาคงรู้สึกเสียศักดิ์ศรีมากที่ฉันนำหน้าเขา...
"ไม่มากค่ะ ก็เด็กธรรมดาที่บ้านอยู่บางนา แม่เป็นหมอดูทำงานที่บ้านแต่คนทั้งจังหวัดยกยอเรื่องความดูดวงแม่น พี่ชายเป็นตากล้องต้องออกกองออกอีเวนต์บ่อย ๆ ส่วนพ่อ... เสียชีวิตจากมะเร็งลุกลามที่ปอด" ฉันอธิบายโดยที่ให้ฮาลดูแผนภาพบนเพดานระหว่างที่เรานอนกอดกันบนเตียง "แล้วทำไมอยู่ ๆ ถึงได้สนใจแชมเปญขึ้นมาล่ะ เธอเป็นแค่เลขาของคุณนี่"
"ถ้าผมบอกความจริงกับคุณจะโกรธมั้ย"
"โกรธได้ก็ให้อภัยได้ ขอแค่สิ่งที่ออกมาจากปากเป็นความจริงก็พอค่ะ" ฉันทำใจไว้แล้ว ถึงได้พูดออกไปแบบนั้น มันจะเป็นอื่นไปได้ไงนอกจาก...
"เธอเป็นพนักงานคนแรกที่ผมรู้สึกหวั่นไหวด้วย" เขากุมหน้าไม่กล้าสบตาฉันหลังจากเอ่ยออกมา "ผม... เกินเลยกับเธอด้วย แต่..."
"แต่อะไรคะ"
"ผมไม่ใช่คนเริ่มนะ" ฮาลหันมองฉันพร้อมน้ำตาอาบหน้า หัวใจของฉันแตกร้าวเหมือนแก้วกระทบพื้น แม้จะเป็นคู่หมั้นเพื่อธุรกิจแต่ผู้ชายที่พ่อเลือกใช้ไม่ได้เลย "สาบานได้ เด็กนั่นมันอ่อยผม"
"อย่าสาบานอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าค่ะ"
"ผมขอโทษ แอมเบอร์"
"ได้ป้องกันรึเปล่า" ฉันลูบแก้มข้างขวาของเขาก่อนออกแรงบีบที่กรามจนเขาร้องเสียงหลง ฉันโกรธที่ผู้ชายของฉันตกไปอยู่ในมือของคนอื่น แม้จะชั่วคราวก็ตาม "ฮาล"
"แค่จูบปาก ไม่เคยสอดใส่..."
"แล้วคิดจะทำมากกว่านี้รึเปล่า"
"ก็... มีบ้าง"
"หึ!! ไอ้ทุเรศเอ๊ย คืนนี้ฉันควรเป็นคนลงโทษคุณ คุณนอกกายนอกใจตั้งแต่ยังไม่จดทะเบียนสมรสด้วยซ้ำ ไม่ใช่คุณลงโทษฉัน" ฉันตบหน้าเขาหนึ่งฉาดแล้วเช็ดน้ำตาออกจากแก้มตัวเอง "แต่ในเมื่อเด็กนั่นทำให้คุณอับอาย แปดเปื้อน งั้นฉันจะเป็นคนลงโทษเธอเอง โดยที่คุณทำงานของตัวเองไป"
"คุณจะทำอะไร..." เขากลัวอย่างเห็นได้ชัด เขายังขวัญผวาจากเหตุการณ์ในห้องอาหารไม่หายเลย
"ปล่อยให้ผู้หญิงคุยกันเถอะค่ะ แต่คงไม่ลงไม้ลงมือหรอก"
"คุณให้อภัยผมใช่มั้ย แอมเบอร์" ฮาลยกสองมือขึ้นพนมแล้วปล่อยน้ำตาอีกระลอก ฉันไม่เคยเห็นเขาน่าสมเพชจนกระทั่งวันนี้ แต่ฉันเป็นว่าที่ภรรยาของเขานี่นะ เรามีอาณาจักรที่ต้องฟื้นฟูด้วยกัน ถึงแม้อาณาจักรนั้นต้องนำโดยราชินีมากกว่าราชา "ผิดไปแล้ว จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว"
"แน่นอนค่ะ มันคงไม่เกิดขึ้นอีกหรอก"
ฉันบีบแก้มสองข้างของเขาด้วยมือเดียว เขาจะเอาเปรียบหรือดูถูกฉันไม่ได้อีก ขณะเดียวกันความลับนี้จะไม่แพร่งพรายไปถึงพ่อเช่นกัน แต่แบบนั้นเขาต้องอยู่ในสายตาและความดูแลของฉันเท่านั้น "เพราะต่อไปเราจะต้องอยู่ด้วยกัน คุณจะได้ไม่ไปแรดที่ไหนอีก ความจริงเราควรอยู่ด้วยกันตั้งนานแล้ว คุณมันไว้ใจไม่ได้ ดังนั้น...อยากให้ฉันย้ายไปอยู่คอนโดคุณหรือจะมาอยู่บ้านฉันดีล่ะ"
Eiran's POV:
ค่ำวันศุกร์แบบนี้ที่จีมีเดียก็มีปาร์ตี้กันอีกที่เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและพักผ่อนหลังทำงานเหนื่อยตลอดทั้งสัปดาห์ แต่วันนี้ผมนั่งดื่มด้วยไม่กี่แก้วแล้วขอปลีกตัวกลับก่อนโดยอ้างเรื่องแม่ ความจริงแล้วผมจะรีบสะกดรอยตามคุณนอร์ทที่แยกตัวกลับก่อน
ผมเปิดระบบติดตามรถของคุณนอร์ท ป้ายทะเบียน XD-2422 ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังไนท์ซิตี้ ผมไม่แปลกใจที่เขาจะไปย่านนั้นหรอกแต่อยากรู้มากกว่าว่า 'อะไร' รอเขาที่ไนท์ซิตี้
ระยะห่างรถของผมกับคุณนอร์ทประมาณกิโลเมตรกว่า ๆ เพราะจราจรติดขัดในค่ำวันศุกร์สุดนรกแบบนี้ กว่าจะพ้นเขตรถติดมาได้ทำเอาเหนื่อย และผมได้พบว่าจุดหมายปลายทางของเขาคือ เกรย์ คาสิโน ซึ่งเป็นคาสิโนใหญ่ที่สุดในไนท์ซิตี้
(นั่นมันคาสิโนของไทเลอร์ เกรย์นี่นา) เจสพูดขึ้นเมื่อเขาเห็นคาสิโนตั้งตระหง่านโดดเด่นท่ามกลางสถานบันเทิงอื่น ๆ ในละแวก (ไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้นะเนี่ย)
"นอกจากชื่อเจ้าของ รู้อะไรอีกมั้ย"
(รู้แค่รวยมากแบบไม่รู้ว่าหาเงินมาจากไหน แล้วก็มีผู้บริหารข้างกายอีกสองคนอะ แจ็คกับสแตนดัล นอกนั้นกูไม่รู้อะไรเพิ่มเลยว่ะ แต่จะหาข้อมูลเพิ่มให้นะ)
"ฝากด้วยเพื่อน เดี๋ยวกูจะเข้าไปข้างใน"
(เข้าไปร่างไหนอะ กันต์หรือแอรัน) เสียงของเก้าแทรกเข้ามาด้วย เหมือนเธอนั่งข้างเจสเลย (จะดีอ่อ)
"กูว่าเป็นแอรันเข้าไปดีกว่า กันต์อายุ 18 เอง อีกอย่างก็ไม่มีใครเคยเห็นหน้าพวกเราอยู่แล้วด้วย"
ว่าแล้วก็ถอดแว่นตาเหน็บไว้กับคอเสื้อยืด ถอดวิกสีทองออก ถอดคอนแทคเลนส์สีดำใส่กล่อง เก็บใส่ลิ้นชักให้เรียบร้อย และเปลี่ยนชุดลำลองสไตล์นักศึกษาของน้องกันต์เป็นหนุ่มนักบิดด้วยแจ็กเกตหนังกับรองเท้าบูทหนังหุ้มข้อ เสริมเครื่องประดับด้วยแหวนเงินเก้าวงเต็มนิ้วโดยไม่ลืมเซ็ทผมด้วย
โคตรคิดถึงการเป็นแอรันเลย
(ห้ามหายนะ ใส่แว่นเข้าไปด้วย) เจสสั่งจากปลายสายด้วยความระแวง ทำให้ผมถอนหายใจ
"ไว้อัพเดตไป"
ผมกดสวิตช์รีโมทเพื่อเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถแล้วก้าวขาลงจากรถ หวังว่าจะได้เจอคุณนอร์ทนะ... ผมเดินเข้าคาสิโนด้วยความมั่นใจที่ได้กลับเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง เดินผ่านเครื่องสแกนโลหะอย่างง่ายดาย ผ่านฉลุยแล้วแลกชิปเป็นจำนวนสองหมื่นบาท
#เจ้านายคะอย่ามาจับ
#แชมเปญไม่ยอม