ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก

Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ! - 17 Into The Dark World โดย GreySweater @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,อาชญากรรม,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม,สะท้อนสังคม,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,อาชญากรรม,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สะท้อนสังคม,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก

ผู้แต่ง

GreySweater

เรื่องย่อ

‘แชมเปญ’ ได้งานแรกหลังเรียนจบเป็นเลขานุการผู้บริหารบริษัทกวินธาดามีเดีย ต้องใกล้ชิดและขึ้นตรงกับ ‘ฮาล’ ประธานบริษัทสุดหล่อเท่แต่ยิ่งทำงานไปด้วยกันเรื่อย ๆ ก็เซนส์ได้ถึงความลับดำมืดของเขา 


ตลอดระยะทดลองงาน 3 เดือน แชมเปญได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานสุดหิน ท้าทายศักยภาพเด็กกิจกรรมและหลายพฤติกรรมไม่น่าอภัยของฮาล ทำให้อดีตที่เคยชื่นชมเขาดั่งไอดอลให้กลายเป็นความกลัวและเกลียดชัง แชมเปญได้ยินเรื่องซุบซิบในกลุ่มเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับเรื่องแปลกในบริษัท รวมถึงการหายตัวไปของจูลี่ เลขาคนก่อนหน้าเธอด้วย


ทีนี้แชมเปญจะไว้ใจใครในกวินธาดามีเดียได้บ้างนะ ? 

แล้วความลับของฮาลคืออะไรกันแน่ ?


สารบัญ

Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-0 Prologue,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-1 First Impression,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-2 Keep In Touch,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-3 Business Meeting,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-4 Long Time No See,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-5 Unfamiliarity,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-6 After Meeting Party / We don't talk about Julie,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-7 Moving Out / Probation,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-8 Black Dog / Cross the Line,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-9 Shameless,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-10 Come Up With Plan,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-11 A New Guy,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-12 An Intern / Private Investigator,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-13 Dark Connection,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-14 Encounter / Deep Dive,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-15 Game On! / The City 2044,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-16 Grey Casino & Dark Secrets,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-17 Into The Dark World,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-18 Silence Before Storm,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-19 The Devil and Deep Blue Sea,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-20 The War Cry,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-21 Seduce and Destroy,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-22 We, Half Dust, Half Deity,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-23 This is the Hunt,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-24 The Last Move,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-25 Final Redemption,Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!-26 Devils in Courtroom

เนื้อหา

17 Into The Dark World

TW: 

  1. Mentioned about Sexual Assault (พูดถึงการคุกคามทางเพศ)
  2. Cheating (พฤติกรรมนอกใจ) 

 

Ruelle - Game of Survival

 

Champagne's POV: 

เช้าวันจันทร์ภายในห้องทำงานดูเงียบสงบอย่างที่มันควรเป็น ฮาลทำเป็นกระแอมเก็บอาการหลากหลายอารมณ์ใต้ใบหน้าเรียบนิ่งนั่นพร้อมกับส่งจดหมายเตือนให้ฉันเซ็นรับทราบว่า 'หากมีพฤติกรรมไม่เชื่อฟังคำสั่งเจ้านายอีกครั้งจะถูกไล่ออก' ซึ่งมันไม่ยุติธรรมกับลูกจ้างหรอกแต่นายจ้างอย่างฮาลปั้นน้ำเป็นตัวได้อยู่แล้ว

มันเป็นเรื่องดีที่ฮาลไม่กล้าแตะต้องฉันอีก แต่ฉันเดาไม่ออกว่าเขากับแอมเบอร์วางแผนอะไรด้วยกัน ฉันหยิบปากกาสีน้ำเงินลงชื่อเซ็นบนจดหมายเตือนแล้วเราก็กลับสู่การทำงานอย่างมืออาชีพ ฉันทวนตารางนัดหมายประชุมและการนัดพบกับแอมเบอร์ บราวน์ภายในสัปดาห์นี้กับสัปดาห์หน้า... ดูเหมือนจะเจอกันบ่อยกว่าเดือนก่อน ๆ ที่เจอกันเดือนละสองครั้ง แต่เดือนนี้เจอกันทุกสัปดาห์เลย

ฮาลพยักหน้ารับทราบว่าต้องพบคู่หมั้นเมื่อไหร่บ้าง เขาไม่ได้มีสีหน้าท่าทางที่ไม่พอใจแต่ดูกังวลมากกว่า พวกเขามีเวลาประมาณห้าเดือนก่อนจัดงานแต่ง จากสถานการณ์เมื่อเย็นวันศุกร์... ถ้าฉันเป็นแอมเบอร์จะไม่อยู่เฉย ๆ หรอก การเจอกันบ่อยขึ้น ทำให้ฮาลไม่สามารถเถลไถลได้ตามใจ เธอคงเริ่มแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของกับฮาลมากขึ้น

ฉันกำลังถูกเพ่งเล็งตามแผนที่พี่เจคิดไว้เลย

 

Eiran: คุณไม่เชื่อแน่ว่าผมเจออะไรเมื่อวันศุกร์ ส่งไปทางอีเมลส่วนตัวนะฮะ อย่าเพิ่งเปิดที่นี่

ออรันส่งข้อความมาหาทางแชทพร้อมกับคลิปวิดีโอสองตัว ความยาว 10 นาที ฉันเชื่อฟังคุณนักสืบอย่างดี

Champagne: ฉันส่งให้พี่เจได้มั้ยคะ

Eiran: ได้ครับ แค่อย่าเปิดดูที่นี่กับอย่าให้ฮาลจับได้ 

Champagne: ถ้าทางฉันมีอะไรคืบหน้าจะขอประชุมกับพวกคุณอีกทีนะ

 

ฉันส่งคลิปกับข้อความต่อให้อีเมลส่วนตัวของพี่เจ พร้อมกับกำชับว่า 'อย่าเปิดดูตอนนี้' ขณะนั้นเองฮาลก็เหลือบตามองฉันจากโต๊ะทำงานตัวเอง แววตาเย็นเยียบแบบนั้นทำให้ขนลุกได้ง่าย ๆ ฉันหลุบตาหนีมาจดจ่อหน้าคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ปิดแท็บหน้าจอที่แอรันติดต่อมาและอีเมลส่วนตัว แล้วเปิดไฟล์สรุปวาระการประชุมโปรเจกต์ต่าง ๆ ขึ้นจอแทน

"อยากให้ช่วยอะไรรึเปล่า ทำไมดูลุกลี้ลุกลน" 

"คือ... เอ่อ... จริงสิ ฉัน..." ฉันกำลังหาเรื่องโกหกให้ฟังดูน่าเชื่อแต่ฉันกลับลนลานมากกว่าเดิม "เรายังไม่ได้รับรายงานผลของรายการใหม่จากฝ่ายขาย การตลาดกับหลังบ้านเลย เดี๋ยวก็ขึ้นเดือนใหม่แล้ว" ใช่! เรื่องนี้แหละ 

"รู้ใช่มั้ยว่าผมมองคนโกหกออกน่ะ" เขาไม่จำเป็นต้องขยับเข้าใกล้อย่างที่เคยทำมาตลอดเพื่อทำให้ฉันรู้สึกว่าตกอยู่ใต้ความควบคุมของเขา แค่แววตาและการกดเสียงทุ้มต่ำ "นี่ก็เดือนที่สามที่เราทำงานด้วยกันแล้วนะ อย่าคิดว่าผมไม่รู้จักลูกจ้างตัวเองเลย"

"..." ฉันกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ พยายามฮึบเข้าสู้ เพราะฉันกลัวเขาตลอดไปไม่ได้ "ฉันไม่อยากคุยเรื่องอื่นกับคุณนอกจากงานค่ะ"

"แต่เรื่องส่วนตัวของผมก็เป็นส่วนหนึ่งในงานของคุณนี่"

"ถ้าคุณอยากคุยเรื่องนั้น ก็ได้ค่ะ แต่ต้องหลังเลิกงาน ไม่ใช่เวลานี้" 

เขาแค่นหัวเราะ ทุบโต๊ะเสียงดังอย่างไม่พอใจ ตำแหน่งเลขาคือลูกจ้าง ไม่ใช่ขี้ข้าที่ปล่อยให้นายจ้างทำอะไรตามใจชอบ เขาควรมีเส้นขีดว่าทำอะไรได้ถึงไหนบ้าง

ฉันกระแอมเปลี่ยนเรื่องกลับไปคุยเรื่องคอนเทนต์ร่วมกับ Q Publishing ของคุณโรเจอร์ต่อ เพราะอย่างที่ฉันบอกเขาว่าเราขาดรายงานส่งลูกค้า ทั้งที่เราควรเตรียมพร้อมอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ก่อนลูกค้าทวงถาม จังหวะนั้นเองคุณนอร์ทรีบวิ่งตาตื่นขึ้นห้องมาพร้อมกับใบหน้าบวมเป่งช้ำเลือดช้ำหนอง

"อะไรของมึงวะ นอร์ท!! เกิดอะไรขึ้น! ทำไมหน้าเป็นแบบนี้" ฮาลโพล่งเสียงดังพร้อมทำมือสั่งให้ฉันรีบปิดประตู

"แชมเปญ... เธอออกไปก่อน ขอผมคุยกับคุณฮาลแบบส่วนตัวหน่อย" ทว่าคุณนอร์ทกลับขอให้ฉันออกจากห้องทำงานของตัวเอง 

"ได้... ได้ค่ะ"

ฉันหยิบแท็บเล็ตติดตัวแล้วลงมาอยู่ชั้นฝ่ายการตลาดซึ่งทุกคนต่างซุบซิบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แอรันในร่างน้องกันต์ออกไปยืนสูบบุหรี่ที่ระเบียงโดยที่พี่เจก็อยู่ตรงนั้น ฉันจึงร่วมวงด้วย

"สูบบุหรี่มั้ยครับ" แอรันถามพลางยื่นบุหรี่มวนหนึ่งจากซองกระดาษสีขาวแถบดำทองพร้อมกับรอยยิ้มหวาน 

"สักมวนก็ดีค่ะ" ฉันรับบุหรี่ไว้มวนหนึ่ง แอรันจุดไฟแช็คให้แล้วพ่นควันออกจมูกพร้อมกับพี่เจ "เกิดอะไรขึ้นเหรอ น้องกันต์" 

"ผมมีเรื่องที่คาสิโนแล้วดันเจอคนที่ไม่น่าเจอน่ะสิ" เขาพูดแค่นั้น คำถามในหัวก็ถูกไขกระจ่างขึ้นมาทันที "ภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นก็เห็นเต็มสองตา... ซึ่งมันกระตุกต่อมจนผมอยู่เฉย ๆ ไม่ได้" แอรันเล่าโดยคาบบุหรี่ในปาก มือทั้งสองข้างของเขามีร่องรอยแตกร้าวจากการชกต่อย "ผมก็เลยซัดพวกมันหมดเลย" มันต้องเลวร้ายขนาดไหนถึงทำให้แอรันฟิวส์ขาดได้นะ... ไม่สิ เขาต้องหมัดหนักขนาดไหนถึงซัดผู้ชายตัวโตจนใบหน้าไม่เหลือเค้าเดิมแบบนี้ "เท่ากับตอนนี้กำจัดคนหนึ่งได้ชั่วคราว"

"ปกติไม่ใช่คนมีเรื่องชกต่อยบ่อยใช่มั้ย" พี่เจถามแอรันด้วยความเป็นห่วง แน่นอนฉันเองก็เป็นห่วงเพราะไม่คิดว่าจะต้องถึงขั้นเลือดตกยางออกขนาดนี้ แอรันส่ายหน้าแต่ก็แยกยิ้มหวาน "ดีนะที่นายปลอดภัย"

"ข้างบนเป็นไงบ้างครับ" แอรันเป็นฝ่ายถามบ้าง

"เครียดทุกวันแหละ แต่ก็ดีขึ้นนะ... คิดว่างั้น" ว่าแล้วฉันก็ส่งข้อความติดต่อเลขาฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาดและหลังบ้านเพื่อขอรีพอร์ต แล้วสูบบุหรี่ฟอดหนึ่ง "แต่รู้สึกไม่เป็นงานเท่าไหร่เลย"

"อยากให้พี่ช่วยอะไรก็บอกนะ"

"ผมด้วย"

ดีจริง ๆ ที่มีสองคนนี้อยู่ด้วยในเวลาน่าลำบากใจแบบนี้

"ขอบคุณนะ แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว" 

เมื่อบุหรี่หมดมวน ฉันก็ปัดควันออกจากตัวและฉีดสเปรย์กลิ่นมินต์บนชุดทำงานแล้วแยกย้ายจากสองหนุ่มกลับไปทำงาน คุณนอร์ทขับรถออกจากบริษัทไปแล้วด้วย 

"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ" ฉันแสร้งถามทันทีที่เปิดประตูห้องทำงานแล้วเห็นฮาลนั่งกุมขมับ เขย่าขาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง 

"นอร์ทมีเรื่องที่คาสิโนน่ะ สัปดาห์นี้จะต้องให้ปากคำกับตำรวจด้วย" เขาพูดเสียงเบา สายตาจ้องมองความว่างเปล่า "เชี่ยเอ๊ย ทำไมต้องมีเรื่องช่วงนี้วะ"

ฉันหยิบน้ำเปล่าหนึ่งขวดจากตู้เย็นให้กับฮาลแล้วกลับไปนั่งที่ของตัวเอง ส่วนฮาลหนีออกไปสูบบุหรี่เพียงลำพัง เขาคงคิดอะไรไม่ออกและฉันก็ไม่น่าไว้ใจสำหรับเขาอีกต่อไป ฮาลไม่คิดจะเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคาสิโนด้วยซ้ำ รวมถึง The City 2044 ที่ตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยราวกับความลับนี้จะตายไปพร้อมเขา

และแล้วฮาลก็กลับมาพร้อมกลิ่นควันเผาไหม้คละคลุ้ง เขาถอดสูทพาดเก้าอี้ของตัวเองแล้วนั่งหน้านิ่วบนโต๊ะ ราวกับวางแผนบางอย่างในหัว ฉันไม่พูดอะไรเลย มันน่าอึดอัดเป็นบ้า 

"..."

"ถ้าเย็นนี้ คุณอยากคุยเรื่องส่วนตัวกับผม ได้... แต่บอกเจด้วยว่าอาจจะกลับช้าหน่อย" 

"โอเคค่ะ ฉันหวังว่ามันจะเป็นการคุยครั้งเดียวแล้วจบนะคะ พวกเราต่างมีคนรักต้องดูแลกันทั้งคู่"

"หุบปากซะ แชมเปญ!"

ฉันทำตามที่ฮาลบอกที่ว่าให้บอกพี่เจเรื่องกลับบ้านช้า แต่ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ฉันเตรียมใจไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เวลาฮาลควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เขามักทำสองอย่างคือ ตวาดเบ่งอำนาจของตัวเองเพื่อสร้างความกลัว หรือ ใช้กำลัง ถึงฮาลจะเป็นคนเข้าใจยากแต่เขาอ่านง่ายกว่าที่คิด คนอื่นแค่สู้เรื่องเงินกับอำนาจกับเขาไม่ได้เท่านั้นแหละ

ตลอดช่วงบ่าย ฉันทำงานนอกห้องปล่อยให้ฮาลอยู่กับตัวเองเพราะจากสถานการณ์ตอนนี้พูดอะไรไปก็ยิ่งแย่ ฉันนั่งห้องเดียวกับเลขานุการโดยปรึกษางานบ้าง ติดตามความเคลื่อนไหวแต่ละฝ่ายและคุยเม้ามอยตามประสาสาว ๆ 

"เธอเก่งมากนะ ที่ทำงานกับฮาลได้นานขนาดนี้ สิ้นเดือนนี้ก็จะผ่านโปรแล้วสิ" พี่แอนน์ยิ้มพร้อมยกนิ้วโป้งสองข้างให้กับฉัน 

"ไม่หรอกค่ะ พี่แอนน์ ล่าสุดก็เพิ่งโดนใบเตือนมา... ยังไม่ได้หาที่ทำงานใหม่เลยเพราะมัวแต่วุ่นงานคุณฮาลเนี่ยแหละ"

"อ้าว จะออกไปไหนล่ะ เธอไม่อยู่ ห้องเลขาเหงามากนะรู้มั้ย" พี่หลินพูดเสียงดังแล้วกอดแขนของฉันไว้ "พูดจริงนะ"

"ยังไม่รู้หรอกค่ะว่าจะออกไปไหน แล้วความจริงก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบงานที่นี่ด้วย..."

"ความจริงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไม่ชอบเจ้านายนะ เรื่องปกติเลยล่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะทนได้มากน้อยแค่ไหน" พี่โยนากล่าวเสริมพลางจิบกาแฟร้อนจากแก้วเซรามิคสีเหลืองมัสตาร์ด 

ตกเย็นประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนเลิกงาน ฉันกลับเข้าห้องทำงานหลังจากส่งมอบงานให้ทุกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว หัวใจของฉันเต้นตุบตับอย่างถี่รัว มือสั่นเทาเพราะความกลัวต่อสิ่งอันตรายหลังประตู

"ใช้เวลาทำใจก่อนเจอกันนานเหมือนกันนะ ตั้ง 4 ชั่วโมงแหนะ" ฮาลวางโทรศัพท์เครื่องบางโดยที่ยืนพิงโต๊ะเฝ้าคอยให้ฉันกลับเข้าห้อง "มาสิ"

บานประตูปิดลง ฉันวางแท็บเล็ตและโทรศัพท์ลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงบนเก้าอี้นวมตัวตรงข้ามโต๊ะทำงานของฮาลซึ่งฉันมองเห็นกล้องจิ๋วของตัวเองแอบอยู่หลังชั้นวางหนังสือที่เดิม จากตรงนั้นสามารถมองเห็นทุกอย่างในห้องได้เลย

"ก่อนอื่น ฉันคงต้องพูดตามตรงว่า ฉันไม่ได้ชอบคุณอย่างที่เคยแล้วค่ะ ฉันเคยชอบแล้วยกให้คุณเป็นไอดอล แต่ความชอบมันเปลี่ยนเป็นความเกลียดได้นะคะ ฉันไม่อยากเกลียดคุณด้วยซ้ำ" ฉันเปิดฉากพูดก่อน พยายามควบคุมตัวเองให้ตัวไม่สั่นแต่ก็ยากมากเพราะต้องพังกำแพงเผชิญหน้าความกลัว 

"แต่ดูสิ่งที่คุณทำกับผมเมื่อวันศุกร์สิ... คุณคงไม่บอกว่าตัวเองไม่ตั้งใจประกาศสงครามใช่มั้ย" ฮาลตอบกลับอย่างเรียบนิ่ง ใจเย็น เขาอยู่ในท่ายืนกอดอกมองฉันที่นั่งต่ำกว่า "ทั้งโขกหัว เอาตารางงานส่วนตัวของผมไปบอกแฟนตัวเอง มาป่วนดินเนอร์ของผมกับแอมเบอร์..."

"ฉันตั้งใจค่ะ"

"ทุกอย่างเลยเหรอ"

"ใช่ค่ะ" เมื่อใจหายสั่น ฉันก็กลับมามั่นใจประชันกับฮาลมากขึ้น ฉันสบตาคู่สนทนา "ฉันตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อขอให้คุณหยุดพฤติกรรมไม่เคารพลูกจ้าง เพื่อนร่วมงาน... คุณกับฉันต่างมีคนรักของตัวเอง ต่อให้ไม่มี... คุณก็แตะต้องตามใจชอบไม่ได้ ฉันเป็นลูกมีพ่อแม่นะ"

 

หึ!!

 

เสียงแค่นหัวเราะไร้สำนึกดังลอดจากซี่ฟันของฮาล เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านบางอย่างด้วยสายตาเย้ยหยันสมเพช

"ลูกสาวคนเล็กของหมอดู พี่ชายเป็นตากล้องในเอเจนซี่เล็ก ๆ ก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน แฟนของคุณก็แค่พนักงานระดับซีเนียร์ที่ปากกล้า เขามีคอนเนคชั่นวงการบันเทิงเยอะนะ แต่... คิดดีแล้วใช่มั้ยที่จะสู้กับผมอะ รู้สถานะตัวเองหน่อย"

ฉันกัดฟันกรอด กำหมัดแน่น เขาไปรู้ข้อมูลพวกนั้นได้ยังไง ถ้อยคำสบประมาททำให้ฉันอยากฟาดเขาสักที แต่ฉันควรเดินหมากที่ฉลาดกว่าการเปิดฉากใช้ความรุนแรงก่อน

"ไม่ได้สู้ค่ะ แค่ขอให้หยุด"

"ไม่มีใครทำให้ผมหยุดได้หรอก ไม่ว่าใครก็ตาม"

"รวมถึงใบลาออกของฉันด้วยใช่มั้ยคะ" ฉันยื่นใบลาออกให้กับฮาลซึ่งระบุเหตุผลในการลาออกว่า ถูกเจ้านายคุกคาม "ถ้าพี่ทศได้เห็นก็คงไม่อยู่เฉย..."

"มันจะเป็นการคุกคามได้ยังไง ในเมื่อคุณเป็นฝ่ายอ่อยก่อน" เขาฉีกแผ่นกระดาษแล้วโยนทิ้งขยะ 

"ว่าไงนะ!? อ่อยเหรอ"

"สายตากับท่าทางของคุณ มันเชื้อเชิญนะ ไม่รู้ตัวรึไง"

"ถ้าความอัธยาศัยดีเท่ากับอ่อย งั้นคุณก็คงทำงานกับใครไม่ได้หรอกค่ะ ฉันคาดหวังเหตุผลที่ดีกว่านี้นะ" ฉันนั่งไม่ติดเก้าอี้ ลุกขึ้นทำเสียงแข็งสู้ แต่ฮาลหัวเราะและย่างสามขุม ภาพเหตุการณ์คล้าย ๆ วันศุกร์เลย

"รู้มั้ย แชมเปญ... การได้เจอคุณช่วยดันบาร์มาตรฐานเลขาของผมให้สูงขึ้นมากเลย ผมคิดมาตลอดว่าชอบผู้หญิงเชื่อง ว่าง่าย ทำตามคำสั่ง แต่คุณทำให้ผมกระจ่างแล้วล่ะว่า ผมชอบเด็กดื้อขนาดไหน" 

"นั่นก็เรื่องของคุณค่ะ ฉันทำงานกับคนไม่มืออาชีพแบบคุณไม่ได้หรอก ต่อให้กวินธาดาเป็นมีเดียระดับท็อปก็เถอะ... คุณจะฉีกใบลาออกของฉันอีกกี่ใบก็ได้ค่ะ จะพิมพ์ใบเตือนอีกใบก็ได้ค่ะ ตามใจเลย แต่ยอมรับซะว่าตัวเองไม่มืออาชีพพอที่จะควบคุมอารมณ์เวลาทำงานกับพนักงาน" 

ฮาลใช้มือหนาคว้าผมยาวของฉันแล้วดึงอย่างแรงประชิดตัวของเขา ฉันตั้งสติแล้วลงแรงใช้ส้นเท้าเหยียบเขาอย่างเต็มแรงเช่นกัน ก่อนจะฟันศอกเข้าลิ้นปี่แล้วจับร่างใหญ่ทุ่มลงกับพื้นภายในไม่กี่วินาทีเพราะชายร่างใหญ่ไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ ฮาลแน่นิ่งอ้าปากค้างอยู่ครู่หนึ่ง ทุกภาพเคลื่อนไหวถูกบันทึกในกล้องหมดแล้ว

"อะไรของคุณวะ!!"

"นั่นสินะ อะไรของคุณ... ฉันบอกคุณแล้วว่าครั้งต่อไปจะไม่ใช่แค่โขกหัว คุณก็ไม่ฟัง" ฉันหอบหายใจพลางจัดชุดให้เรียบร้อยหลังจากทุ่มผู้ชายน้ำหนัก 60 ปลาย ๆ ลงกับพื้น "ถ้าคุณใช้นักสืบก็ควรสืบละเอียดกว่านี้ว่า ฉันกับพี่ชายเรียนมวยกับเทควันโดมา 10 ปีเลยนะ"

"ถึงแบบนั้น แอมเบอร์ก็เชื่อผมแล้วว่าคุณอ่อยผมก่อน"

"คุณนี่แม่ง..." 

ฉันหยิบสัมภาระเก็บใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องโดยที่ฮาลยังนอนบนพื้น เขาคงจะลุกไม่ได้อีกสักพักเพราะการทุ่มทำให้ปวดหัว คอและหลังมาก ๆ

พอพูดถึงปีศาจ แอมเบอร์ก็นั่งรอพวกเราอยู่ที่ล็อบบี้คอนโดพี่เจในชุดเดรสยาวสีน้ำเงินกรมท่ามีประกายวิบวับกับรองเท้าส้นสูงแบรนด์เนม 

"พวกคุณคงเป็นแชมเปญกับเจ พนักงานกวินธาดาสินะคะ" แอมเบอร์กล่าวทักทาย "นั่งก่อนสิ เรายังไม่เคยทำความรู้จักกันดี ๆ เลย" กลีบปากอวบอิ่มทาลิปกลอสสีชมพูขยับออกเป็นรอยยิ้มเป็นมิตร แต่กลับรู้สึกตรงกันข้าม 

"คุณก็คงเป็นแอมเบอร์ บราวน์ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" ฉันจับมือกับแอมเบอร์ มือของเธอร้อนฉ่า "ส่วนนี่พี่เจ คู่หมั้นของฉันค่ะ"

"ยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะ" รอยยิ้มของเธอหุบลง เมื่อเธอเอนหลังเปิดแท็บเล็ตให้ดูภาพเคลื่อนไหวชุดหนึ่งซึ่งเป็นฉันกำลังถูกฮาลจูบปากในห้องทำงาน "แต่แปลกดีนะที่อ่อยเจ้านายหนักมากแล้วคบกับอีกคนแทน เป็นฉันคงจะไปให้สุดเลย คบกับซีอีโอน่ะ คอนเนคชั่นกว้างขวางกว่าพนักงานซีเนียร์อีกนะ" 

แหงล่ะ แอมเบอร์ย่อมเป็นโล่ดาบให้ฮาลอยู่แล้ว เมื่อเจ้าตัวเลือกเล่นบทเหยื่อแบบนั้นและทำให้ฉันเสื่อมเสียชื่อเสียง พี่เจแค่นหัวเราะเสียงดัง

"นักสืบที่คุณจ้างทำงานได้แค่นี้เหรอ ไม่ใช่แค่แชมเปญคนเดียวที่โดนฮาลคุกคามนะครับ"

"ฉันไม่ได้สนใจคนอื่นเท่าเลขาส่วนตัวของเขานี่นา เธอทำยังไงเหรอ ฮาลถึงได้สนใจเธอมากกว่าคู่หมั้นของตัวเองน่ะ ฉันจะได้จำไปใช้บ้าง" แอมเบอร์กอดอกเยาะเย้ยฉันด้วยคำพูดสบประมาทที่ไม่มีคำหยาบสักนิด แต่เธอกำลังทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงสำส่อนต่อหน้าพี่เจ "ว่าไงล่ะ"

"ฉันเคยชอบฮาลในฐานะไอดอลค่ะ แต่หลังจากทำงานกับเขาได้เกือบเดือนก็ไม่ชอบเขาแล้ว ฉันเป็นแค่ลูกจ้างค่ะ และถ้าคุณไม่สบายใจ... ฉันเพิ่งขอคุณฮาลลาออกเมื่อตอนเย็นแต่เขาก็ไม่อนุมัติ"

"คิดว่าคำพูดของเธอน่าเชื่อถือขนาดไหนกัน" 

"..." ฮึบไว้สิวะแชมเปญ อย่าร้องไห้ตอนนี้ ฉันผ่อนลมหายใจขณะที่พี่เจบีบมือของฉันแน่น "คุณคงไม่เชื่อฉันหรอกค่ะ ใคร ๆ ก็ต้องเข้าข้างคนรักของตัวเองอยู่แล้ว แต่คุณอาจจะเปลี่ยนใจหลังจากได้เห็นหลักฐานจากฝั่งของฉันแล้ว"

"อื้ม แบบนี้สิ ค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย ฉันให้เวลาเธอไม่เกินมะรืนนี้" เธอเขียนบางอย่างลงบนกระดาษแผ่นเล็กแล้วฉีกวางบนโต๊ะตัวเล็กสีขาว ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมออกจากล็อบบี้คอนโดโดยที่มีผู้ติดตามสวมสูทสีดำอีกสองคน "มาตามที่อยู่นี้พร้อมกับหลักฐานแล้วกัน"

"แน่นอนครับ คุณจะได้เห็นว่าฮาลเป็นคนยังไง ถ้าหลักฐานฝั่งพวกเราชี้ชัดว่าแชมเปญไม่ใช่คนผิด คุณควรขอโทษเธอซะ" พี่เจประกาศกร้าวพร้อมกับโอบแขนฉันเอาไว้ 

"ได้สิ แต่ถ้าคู่หมั้นของคุณเป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็ต้องขอโทษฉันเหมือนกันแล้วยอมถูกไล่ออกนะ มันทำให้ฮาลเสียชื่อเสียงไม่น้อยเลย ยิ่งเธอทำงานใกล้ชิดเขาด้วย" แอมเบอร์เผยยิ้มหวานอีกครั้ง "เวลาเริ่มนับถอยหลังแล้ว ถ้าช้ากว่ามะรืนนี้ แม่กับพี่ชายเธออาจจะต้องรับรู้พฤติกรรมของเธอก่อนเลย... เลี้ยงยังไงให้กล้าอ่อยคนกำลังแต่งงานน้า"

แอมเบอร์ไม่ต่อล้อต่อเถียงอีกต่อไป เธอเดินขึ้นรถตู้สีดำซึ่งจอดรอหน้าทางเข้าคอนโด ฉันปลดปล่อยน้ำตาแห่งความอึดอัดทันทีที่เงาของเธอหายไปแล้ว พี่เจรีบพาพวกเรากลับขึ้นห้องโดยที่เพื่อน ๆ ของพี่เจรออยู่ในห้องเพื่อดื่มเหล้าด้วยกัน 

หลังจากเจอเหตุการณ์มรสุมอย่างวันนี้ ฉันปฏิเสธไม่ร่วมดื่มเหล้าด้วยไม่ได้หรอก เพื่อน ๆ ของพี่เจจัดแจงแบ่งแก้วเหล้าให้ครบจำนวนคน ใส่น้ำแข็งหนึ่งก้อนใหญ่ทรงกลมในแก้วพร้อมกับรินเหล้าสุดเข้ม

พวกเราดื่มด้วยกันจนเหล้าหมดไปสองขวดในเวลาสองชั่วโมง ทันใดนั้น ฉันจึงนึกขึ้นได้เกี่ยวกับอีเมลส่วนตัวที่แอรันส่งคลิปวิดีโอมาให้ดู ฉันวางมือถือลงกลางโต๊ะห้องนั่งเล่น คลิปแสดงเป็นภาพโฮโลแกรมกลางโต๊ะให้ทุกคนได้เห็นพร้อมกันว่าแอรันส่งอะไรมา... 

"น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่แอรันไปเจอตอนเข้าเกรย์คาสิโน" พี่เจพูดขึ้นขณะที่คลิปวิดีโอยังคงเล่นไปเรื่อย ๆ "ไม่ก็ที่ทีมไปเจอ..." 

"หืม ฮาลเล่นการพนันด้วยเหรอ" จีโน่ เพื่อนของพี่เจพูดขึ้นขณะกระดกเหล้าหมดแก้ว "นั่นมันไทเลอร์ คิงพินแห่งโลกใต้ดินนี่"

คลิปตัวแรกมาจากโดรนติดตามเป็น การนัดหมายพบปะระหว่างสามผู้บริหารกับไทเลอร์ เกรย์ ไม่มีใครไม่รู้จักฮาลและไทเลอร์จริง ๆ พวกเขาคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสินค้าที่เป็นชื่อผู้หญิงทั้งหมด โดยมีการพาดพิงพูดถึงชื่อของฉันด้วย 

คลิปตัวที่สองเป็นสามผู้บริหารนั่งนับเงินสดและจัดแจงเข้าบัญชีเงินสดของจีมีเดียซึ่งคำนวณโดยคุณทิม ส่วนไทเลอร์ไม่ได้นั่งร่วมวงด้วย แค่ยืนสูบบุหรี่คอยดูอยู่ที่มุมห้อง

"โห ไอ้เชี่ยนี่!!" พี่เจสบถด่าและวางแก้วลงบนโต๊ะเสียงดัง ส่วนฉันรู้สึกพะอืดพะอมหลังจากดูคลิปแรกจบ แม่งเอ้ย! แอรันน่าจะมีคำเตือนสักหน่อยว่าคลิปเกี่ยวกับอะไรบ้าง "แชมเปญไปนอนพักมั้ย ที่เหลือพี่จัดการเอง วันนี้เธอเจอมาหนักแล้ว"

"หนูว่าหนูพักดีกว่าค่ะ แต่รบกวนพี่ช่วยตอบกลับอีเมลให้หน่อยได้มั้ยคะ"

"ได้สิ พักเถอะ"

"ใช่ ๆ เธอควรพัก เดี๋ยวพวกเราช่วยระวังให้"

แม้ตัวจะนอนอยู่บนเตียงนุ่มแล้วแต่หัวใจของฉันยังคงเต้นถี่รัวยิ่งกว่าเมื่อตอนบ่าย รู้สึกหายใจไม่ออก ตาลายและหนักอึ้ง น้ำตาอาบแก้มเป็นทางจนหมอนเปียก ฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอถึงได้มาเจอเจ้านายแบบฮาล ฉันพูดความจริงกับแอมเบอร์ไปแล้วแต่เธอกลับไม่สะทกสะท้านเลยแถมยังขู่จะยุ่มย่ามกับครอบครัวของฉันอีก ทำไมวะ ทำไมวะ ทำไมตอนนั้นฉันไม่ตบหน้าแอมเบอร์ให้จบ ๆ ไปเลย หรือฉันควรหนีไปพ้น ๆ แบบจูลี่ดีล่ะ 

ความคิดตีกันในหัวทำให้อาการยิ่งแย่จนร่างกายสั่นทั้งตัว ซี่ฟันกัดกระทบกันเหมือนหนาวสั่นทั้งที่หัวร้อนฉ่าแต่ตัวชาดิก ฉันรู้สึกเหมือนปลาขาดน้ำที่หายใจไม่ออกเมื่ออยู่บนบก มันเจ็บไปหมด ฉันลืมตามองเพดานแต่ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากภาพมัว ๆ 

"พ... พี่เจ! พี่... พี่เจ!!" ฉันพยายามเค้นเสียงพูดอย่างยากลำบาก ไม่นานเขาก็เปิดประตูห้องนอนเข้ามาหาฉันพร้อมกับพี่จีโน่ "หนู... หายใจ... ไม่ออก" ฉันลูบกลางอกขณะที่พยายามสื่อสารกับอีกฝ่ายด้วย พวกเขาตาตื่นกันหมดและอยู่เฉยไม่ได้

"โน่ มึงเอาถุงกระดาษมา ด่วน ๆ เลย!"

"ได้ ๆ ในห้องมึงมีใช่ป่ะ"

"น่าจะมี รีบไปหาก่อน!!" พี่เจสั่งเพื่อนของตัวเองแล้วกุมมือของฉันวางลงที่กลางอกของเขา "หายใจพร้อมพี่นะ แชมเปญ ไม่ต้องสนใจอะไรนอกจากลมหายใจของพี่" เขาสูดหายใจเข้าเต็มปอด ฉันพยายามทำตามแต่กลับรู้สึกติดขัดมาก ๆ เมื่อเขาหายใจออก ฉันเอาแต่มองหน้าพี่เจซึ่งก็มีน้ำตาไหลอาบแก้มเหมือนกัน 

"หมะ... เหมือนจะตายเลย..."

"ค่อย ๆ หายใจนะ พี่อยู่นี่แล้ว เธอไม่เป็นไรแล้วนะ"

ใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมงกว่าอาการจะดีขึ้น พี่เจให้ฉันเป่าถุงกระดาษเพื่อให้ร่างกายปรับจังหวะการหายใจ วันนี้เป็นวันแรกในชีวิตที่ได้รู้จักกับอาการแพนิกอันเกิดจากความเครียด เรื่องราวสารพัดที่ถาโถมเข้ามาวันนี้มันเกินรับไหวจนเกิดอาการดังกล่าว ตัวชาและมือเท้าสั่น หัวใจเต้นถี่เร็วผิดปกติ พี่เจดึงตัวฉันไปกอดแน่น ส่วนพี่จีโน่ตบบ่าพวกเราด้วยความเป็นห่วง

"คืนนี้กูนอนห้องนี้กับพวกมึงแหละ มีอะไรจะได้ช่วยทัน ไอ้เจ มึงต้องพาน้องไปหาหมอนะ ปล่อยไว้นาน ๆ ไม่ดี"

"ไว้พรุ่งนี้ค่อยโทรหาหมอ คืนนี้พักก่อน เจอหลายเรื่องแล้ว เอาจริงถ้ากูเป็นน้องก็รับทั้งหมดไม่ไหวในวันเดียวหรอก"

"เออ เข้าใจ แต่มึงก็เข้าใจใช่ป่ะว่ากูห่วงพวกมึงอะ"

"เข้าใจ ๆ ขอบใจมากเลย"

วันต่อมา ฉันกับพี่เจขอลางานช่วงเช้าเพื่อไปโรงพยาบาล ขณะที่ฉันนัดหมายพบฮาร์ทสมิธประจำโรงพยาบาลเอกชนใกล้คอนโด พี่เจจัดการดึงข้อมูลจากกล้องจิ๋วภายในห้องทำงานเข้าโทรศัพท์และแท็บเล็ตของตัวเอง แค่คลิปเดียวไม่มากพอให้แอมเบอร์เชื่อว่า คู่หมั้นตัวเองก่ออาชญากรรม เธอควรได้เห็นทั้งหมด ฉันไม่อยากรุนแรงนักหรอกแต่ก็เปลี่ยนใจตั้งแต่เธอกล้าขู่จะยุ่งกับครอบครัวแล้ว อยากเล่นงานกันก็ลงที่ฉันคนเดียว แม่กับพี่ชายฉันไม่เกี่ยว

ภายในห้องรับคำปรึกษาสีขาวสะอาดนวลตา ฮาร์ทสมิธตรงหน้าฉันคือคุณสอง เขามีใบหน้าเรียบนิ่งคมคายเหมือนดาราบนจอโทรทัศน์แต่มีขอบตาคล้ำและเหนื่อยล้าเพราะเขารับทั้งงานโรงพยาบาลและงานพิธีกรรายการใหม่ของจีมีเดีย ฉันเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง ตั้งแต่เหตุการณ์แรกที่อยากลาออกไปจนถึงเมื่อวานที่โดนทั้งฮาลและแอมเบอร์จ้องเล่นงาน ฉันเล่าได้ไม่ละเอียดนักเพราะแค่พูดชื่อฮาลก็จะร้องไห้แล้ว มันเป็นน้ำตาจากความเสียใจและความเหนื่อยที่ยังต้องเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำ ๆ จนกว่าจะลาออก ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหน

"เริ่มมีอาการเมื่อไหร่เหรอครับ"

"เมื่อคืนเลยค่ะ"

"ดีนะครับที่คุณมีแฟนคอยดูแลใกล้ชิด" คุณสองผ่อนลมหายใจช้า ๆ พลางกดปลายปากกาด้ามสีเงินในมือ "ผมคงบอกให้คุณเลี่ยงสถานการณ์เครียด ๆ ไม่ได้เพราะการแก้ปัญหาคือการเผชิญหน้ากับตัวปัญหาของโจทย์นี้ซึ่งมันเครียดมาก ๆ จากที่ผมฟังคุณเล่ามาก็ขอแค่อย่ามองตัวเองเป็นต้นเหตุของปัญหาเลยครับ เราเลือกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าจะเจอเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานแบบไหน เดี๋ยวผมจะสั่งยาไปให้เป็นยาต้านเศร้า ออกฤทธิ์ช้าจะได้ไม่กระทบกับการทำงาน ยังไงซะ ห้ามทานยาพร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาดนะ"

"ขอบคุณค่ะ"

"เดือนหน้า ผมจะนัดติดตามอาการอีกทีนะ จนกว่าจะอาการดีขึ้นจนหยุดใช้ยานั่นแหละ"

คุณสองกล่าวไว้แบบนั้นซึ่งนั่นทำให้ฉันรู้สึกเบาใจขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ด้วยจรรยาบรรณแพทย์ เขาได้แค่รับฟัง เตือน วินิจฉัยและจ่ายยาตามอาการ เขาเป็นบุคคลที่ 3 ที่ไม่มีส่วนได้เสียกับปัญหาที่ฉันกำลังเผชิญ ฉันเปิดประตูออกจากห้องรับคำปรึกษาพร้อมกับถอนหายใจยาว ๆ พี่เจนั่งสัปหงกโดยสวมหูฟังชนิดครอบหูฟังเพลงไปด้วย ฉันใช้นิ้วชี้สะกิดหัวไหล่ของเขาเบา ๆ ให้ตื่น

"เรียบร้อยแล้วค่ะ"

"เป็นไงบ้าง"

"ก็... โล่งใจขึ้นมั้งคะ คุณสองบอกจะจ่ายยาต้านเศร้าให้ก็คงต้องตามนั้น" ฉันถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่แน่ใจ พี่เจวางมือใหญ่ลูบหัวของฉัน "เดี๋ยวรับยาเสร็จก็ไปหาคุณแอมเบอร์ต่อเลยดีกว่าค่ะ ยิ่งเร็วยิ่งดี"

"ได้สิ แต่แน่ใจนะว่าไหว"

"ไม่ไหวก็ต้องไหวค่ะ แต่วันนี้หนูคงไม่แพ้เธอหรอก หลักฐานของหนูแน่นหนากว่าที่แอมเบอร์เอามาขู่อีก"

ระหว่างที่ฉันเดินไปรับยาและจ่ายเงินค่าพบแพทย์ พี่เจปลีกตัวไปเลื่อนรถออกมารับหน้าโรงพยาบาล เขาอ่อนเพลียจากการพักผ่อนตลอดสัปดาห์จึงเปิดระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยแค่ป้อนคำสั่งจุดหมายปลายทาง เขาจึงสามารถเอนหลังพักประมาณสิบถึงยี่สิบนาที ฉันโทรหาแอรันเพื่อแจ้งความคืบหน้า เขาบอกจะเข้าพบแอมเบอร์ด้วยเพราะหลักฐานบางอย่างที่ประสานงานกับกรมตำรวจและมูลนิธิวอดช์ด๊อกอยู่ที่เขา แอมเบอร์จำเป็นต้องรู้ข้อมูลเหล่านั้น ฉันไม่คัดค้านอะไรเพราะฉันไม่สนด้วยซ้ำว่าแอมเบอร์จะเปลี่ยนข้างหรือไม่ ฉันแค่อยากบอกความจริงกับเธอเท่านั้น 

 

ณ คฤหาสน์ตระกูลบราวน์

 

บ้านขนาดใหญ่และกว้างขวางแทบเป็นบ้านหลังใหญ่ที่สุดในวิลล่าสาทร รั้วเหล็กอัตโนมัติเปิดออกทันทีที่ฉันส่องมองช่องสแกนม่านตาทั้งที่ฉันไม่ใช่เจ้าของบ้าน ระบบความปลอดภัยสุดล้ำสมัยจดจำใบหน้าของแขกตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าเยี่ยม พี่เจรู้สึกประหม่าเมื่อเห็นความยิ่งใหญ่ของคฤหาสน์ตั้งแต่ยังไม่เข้าไปในตัวบ้าน  เขาจอดรถไว้หน้าลานน้ำพุรูปสลักยูนิคอร์น เหล่าแม่บ้านและคนสวนกำลังตั้งใจทำงานอย่างขมักเขม่น ขณะที่มีชายวัยกลางคนไว้หนวดเคราเล็กน้อยเปิดประตูรอต้อนรับพวกเราเข้าไปข้างในบ้านพร้อมกับค้นอาวุธ

"พวกผมไม่มีอาวุธหรอก แค่เงินกินข้าวยังไม่มีเลย" 

"ผมต้องเช็คไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของคุณแอมเบอร์ครับ" ชายคนนั้นยืนกรานในการค้นตัว พวกเราปฏิเสธไม่ได้นอกจากต้องกางแขนและขาเพื่อให้เขาแตะตัวค้นวัตถุน่าสงสัย "เชิญครับ"



 

#เจ้านายคะอย่ามาจับ

#แชมเปญไม่ยอม