ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
ชาย-หญิง,อาชญากรรม,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม,สะท้อนสังคม,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
‘แชมเปญ’ ได้งานแรกหลังเรียนจบเป็นเลขานุการผู้บริหารบริษัทกวินธาดามีเดีย ต้องใกล้ชิดและขึ้นตรงกับ ‘ฮาล’ ประธานบริษัทสุดหล่อเท่แต่ยิ่งทำงานไปด้วยกันเรื่อย ๆ ก็เซนส์ได้ถึงความลับดำมืดของเขา
ตลอดระยะทดลองงาน 3 เดือน แชมเปญได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานสุดหิน ท้าทายศักยภาพเด็กกิจกรรมและหลายพฤติกรรมไม่น่าอภัยของฮาล ทำให้อดีตที่เคยชื่นชมเขาดั่งไอดอลให้กลายเป็นความกลัวและเกลียดชัง แชมเปญได้ยินเรื่องซุบซิบในกลุ่มเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับเรื่องแปลกในบริษัท รวมถึงการหายตัวไปของจูลี่ เลขาคนก่อนหน้าเธอด้วย
ทีนี้แชมเปญจะไว้ใจใครในกวินธาดามีเดียได้บ้างนะ ?
แล้วความลับของฮาลคืออะไรกันแน่ ?
TW:
Mention about Sexual Assault (พูดถึงการคุกคามทางเพศ)
Point Blank Society - Toxic Melody
"มาถึงจนได้สินะ เร็วกว่าที่คิดด้วย"
ภายในคฤหาสน์สไตล์นีโอคลาสสิค แอมเบอร์นั่งจิบกาแฟอยู่บนโซฟาโดยมีบอดี้การ์ดสวมสูทสีดำสองคนประกบอยู่ข้างหลัง ใบหน้าเปี่ยมสุขของเจ้าหล่อนทำให้ฉันรู้สึกประหม่ามากกว่าเดิม ทว่าพี่เจไม่พูดพร่ำทำเพลงเข้าประเด็นอย่างรวดเร็ว "นี่พวกเธอลงทุนลางานมาหาฉันเลยเหรอเนี่ย รู้สึกซาบซึ้งชะมัด"
"ความจริงคลิปพวกนี้ควรเก็บไว้ใช้ในศาล แต่ในเมื่อคุณอยากเห็นมากก็ดูให้สาแก่ใจเลย" พี่เจวางแท็บเลตลงบนโต๊ะแก้วที่มีแก้วกาแฟเซรามิคใบหนึ่ง เขาแสดงออกว่าไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น แถมยังพูดทุกอย่างแทนฉันหมดแล้ว "เป็นเวลากว่าสองเดือนที่แชมเปญถูกคู่หมั้นของคุณคุกคาม ตาคุณไม่ได้บอดน่าจะมองออกนะ"
แอมเบอร์ยกแท็บเลตขึ้นดูคลิปด้วยตาตัวเองไม่พึ่งจอโฮโลแกรม ทั้งภาพและเสียงบาดตาบาดใจจนเธอต้องตวาดไล่บอดี้การ์ดออกไปเพื่อมีบทสนทนากับพวกเราสองคน แววตาของเธอแดงก่ำและอาบน้ำตาด้วยความเจ็บใจ รายละเอียดในคลิปบอกตำแหน่งตั้งกล้อง วันและเวลา ซึ่งมันไม่ใช่ครั้งสองครั้ง
"ถ้าไม่อยากทรมานใจเล่นก็ดูคลิปล่าสุดค่ะ ฉันเตือนคู่หมั้นของคุณแล้ว" แอมเบอร์สบตาฉันแล้วเลื่อนดูคลิปสุดท้ายซึ่งเป็นเหตุการณ์เมื่อวานตอนเย็น เธอดูและฟังอย่างตั้งใจจนถึงวินาทีที่ฉันจับฮาลทุ่มเพื่อป้องกันตัว
"แสดงว่ารอยที่จมูกกับหน้าผากของเขาก็..."
"ใช่ค่ะ"
"และอย่างที่ผมบอก... เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับแชมเปญเพียงคนเดียว"
"ฉันขอโทษพวกเธอทั้งคู่เลยนะ คือที่แชมเปญพูดเมื่อวานก็ไม่ผิดหรอกที่ฉันเข้าข้างคนรักของตัวเอง ฉันคิดว่ามันแค่ประเดี๋ยวประด๋าว" ฉันไม่รู้สึกสะใจสักนิดที่เห็นแอมเบอร์ปล่อยน้ำตาออกมา มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิมอีกที่เจ้านายของฉันหน้าด้านพอที่จะทำให้คู่หมั้นของเขาเสียใจขนาดนี้ "ฉันขอโทษแทนฮาลด้วยนะ"
"ไม่ต้องขอโทษแทนเขาหรอกค่ะ เขาควรขอโทษฉันด้วยตัวเองมากกว่าให้คู่หมั้นที่ไม่ผิดอะไรเลยมารับผิดแทน" ฉันเอ่ยอย่างหนักแน่นและยังคงกำหมัดแน่น ขนลุกไปทั้งตัว "แต่ต่อให้เขาขอโทษตอนนี้ก็คงจะสายไปแล้ว ฉันจะดำเนินการตามกฎหมาย อาชญากรคุกคามอย่างเขาควรได้บทเรียนบ้าง"
พูดจบแค่นั้น ฉันจูงมือพี่เจออกจากคฤหาสน์หลังโตแต่เงียบเหงาแห่งนี้โดยที่เสียงร้องไห้ของแอมเบอร์อยู่ข้างหลัง
Eiran's POV:
ผมพยักหน้ากับคุณแชมเปญและคุณเจครั้งหนึ่งแล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ภายในรั้วคฤหาสน์นามสกุลบราวน์ซึ่งปัจจุบันมีเพียงแอมเบอร์ บราวน์ผู้ครอบครอง เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์มูลค่าสามร้อยล้านบาทแห่งนี้ซึ่งเต็มไปด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย
ผมขอให้สองหนุ่มสาวกลับไปก่อนโดยที่ผมจะรับมือกับแอมเบอร์ต่อเอง นี่จะเป็นครั้งแรกที่ผมได้สนทนากับเธอหลังจากจับตามองอยู่นาน ตัวจริงเธอสวยกว่าภาพถ่ายหรือมุมมองกล้องวงจรปิดเสียอีก เรือนผมสีทองธรรมชาติและผิวขาวอมชมพูตามแบบชาวอเมริกัน แต่ตอนนี้เธอก็ดูสิ้นหวังมากเช่นกัน เธอสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าย่ำลงบนพื้นกระเบื้องโถงรับแขก แอมเบอร์มองหน้าจอโทรศัพท์ซึ่งกำลังวนเล่นคลิปพฤติกรรมคุกคามทางเพศของว่าที่สามี แถมยังมีสำเนาไดอารี่เลขานุการคนก่อนหน้าอีกต่างหาก
"คุณเป็นใคร... ฉันไม่ได้มีธุระอะไรกับคุณ... ออกไป!!"
"แต่ผมมีธุระกับคุณ"
แฟ้มเอกสารในมือของผมคือหลักฐานชั้นดีที่โค่นอาณาจักรกวินธาดาให้ล่มสลายแต่มันจะพังทลายได้ หากคนในอย่างแอมเบอร์ให้ความร่วมมือ การจะทำแบบนั้น ผมคงต้องทำให้แอมเบอร์รู้จักโลกอีกใบของฮาลเสียก่อน
"ไว้ก่อนได้มั้ย ฉันไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น ออกไปได้แล้ว!"
"คงจะยากเพราะผมคิวว่างแค่วันนี้ มีหลายคดีที่ต้องดูแล แล้วกลายเป็นว่าคดีของคู่หมั้นคุณมันเป็นความสำคัญอันดับหนึ่งของผมด้วยสิ" ผมนั่งลงบนเก้าอี้นวมข้างโซฟาที่แอมเบอร์กำลังนั่งรวบรวมสติประมวลผลเหตุการณ์ปัจจุบัน "ผมเคลียร์ตารางทั้งวันเพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ ดังนั้นผมจะรอจนกว่าคุณจะพร้อมแล้วกันนะ" ว่าแบบนั้นแล้วก็วางแฟ้มสีกาแฟไว้ข้างตัวแล้วนั่งโน้มตัวหาผู้ร่วมสนทนา เปลี่ยนบทบาทจากนักสืบเป็นที่ปรีกษา
"ฉันเพิ่งรู้สึกโง่เง่ามากที่สุดในชีวิต 30 ปีก็วันนี้" เธอปลดปล่อยระเบิดโฮออกมาลั่นโถงรับแขกโดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากนั่งข้าง ๆ ในระยะห่างหนึ่งช่วงแขนจากเก้าอี้ไปถึงโซฟา "ฉันไม่ใช่คนฉลาดหรืออะไรหรอก ฉันไม่จำเป็นต้องรู้สึกเสียใจด้วยซ้ำเพราะมันก็แค่การแต่งงานทางธุรกิจ ไม่มีความรักหรือความรู้สึกผูกมัดด้วยซ้ำ ฉันไม่ใช่คนร้องขอให้การแต่งงานเกิดขึ้น... แค่อยากช่วยประคองธุรกิจของพ่อเพราะมันคือมรดกอย่างเดียวที่มีของบราวน์ แต่การกระทำของเขาก็บอกชัดแล้วว่าเขาไม่แคร์อะไรทั้งนั้นเลย ทำตัวตามใจตัวเองแล้วค่อยขอโทษทีหลัง โคตรไร้ความผิดชอบเลย ถ้าเขาคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีผลกับการแต่งงานบอกเลยว่าไม่มีทาง เพราะมันไม่ใช่ฝ่ายหญิงที่ผิด มันคือเขาเลย!!"
ความรู้สึกถูกหักหลังมันเจ็บแบบนั้น ผมเข้าใจความแน่นเสียดกลางอกจากเหตุการณ์ลักษณะนี้ ลูกค้าจำนวนมากรวมถึงสมาชิกจัสติคอร์เองก็เคยถูกหักหลังโดยคนที่ไว้ใจมาก่อน การกระทำไร้ความผิดชอบอย่างที่แอมเบอร์บอกกลายเป็นวัฒนธรรมของพวกไร้สามัญสำนึกที่ทำลายคนรอบข้างแลกมากับน้ำตาเป็นแกลลอนซึ่งไม่เห็นคุ้มค่าตรงไหนเลย
แอมเบอร์ร้องไห้ มือและปากสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เพราะความเครียดถาโถมไม่ต่างจากคลื่นลูกยักษ์ที่ซัดเข้าชายฝั่ง ส่วนเธอคือบ้านที่สั่นคลอนจากแรงกระแทกมหาศาลของเหตุการณ์นี้ ผมสงสารเธอนะ... จากใจจริงเลย เราเห็นน้ำตานับไม่ถ้วนจากลูกค้าแต่นั่นไม่ได้ทำให้หัวใจของผมด้านชาต่อความโศกเศร้า มันทำให้ผมโกรธและอยากจบงานเร็วขึ้น ผมทำได้ทุกวิธีให้โปรเจกต์จบลงด้วยเม็ดเงิน จิตวิทยารวมถึงมารยา
"คุณไม่ใช่คนโง่หรอก" ผมกุมมือของเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง ใช้นิ้วโป้งคอยลูบและบีบกระชับเอาไว้จนกระทั่งแรงสั่นกระเพื่อมเบาลงพร้อมกับเสียงสะอื้น "คุณแค่เจอคนเลวที่โกหกเก่ง"
"คุณ... มากับแชมเปญเหรอ"
"ผมแค่คนประสานงานที่ทำงานตามสั่ง" ผมตอบอย่างเป็นกลางและน้ำเสียงเรียบนิ่ง เธอเงยหน้าขึ้นสบตาและมองอากัปกิริยารวมถึงเสื้อผ้าหน้าผมของผมอย่างใคร่ครวญ
"เด็กนั่นจ้างคุณสินะ ฉันคงประมาทเธอมากเกินไป คุณไม่ต้องโกหกหรอก" เธอจับไต๋ได้หลังจากสำรวจผมด้วยสายตาคมคู่นั้นไม่ถึงนาที เธอคงปะติดปะต่อกับคำพูดของผมก่อนหน้านี้ด้วย เธอไม่ได้หูดับเสียทีเดียว "ฉันเคยจ้างนักสืบแบบพวกคุณให้ตามคู่หมั้นของฉัน"
"แปลว่าคุณน่าจะพอรู้ว่า..."
"ใช่ เขาเคยบอกด้วยว่าเคยเกินเลยกับเด็กนั่นโดยที่ตัวเองถูกยั่ว แต่พอดูจากภาพในกล้อง... เทียบกับสิ่งที่เขาพูด มันคืออาชญากรรมมากกว่าความใคร่ชั่วคราวอีก" แอมเบอร์หยุดร้องไห้แล้ว ผมยื่นกล่องทิชชู่ให้เธอเช็ดเครื่องสำอางที่เปื้อนขอบตา พวงแก้มสองข้างและริมฝีปาก เธอดูโล่งใจขึ้นหลังจากร้องไห้ครั้งใหญ่ไปแล้ว "เอาล่ะ ฉันเดาว่าคุณคงมีข้อมูลที่มากกว่าเรื่องชู้สาวในแฟ้มนั่นนะ เพราะดูเหมือนคุณนำหน้าฉันกับฮาลไปแล้วประมาณสองก้าว" ผมหลุดแค่นหัวเราะเมื่อเธอพูดออกมาแบบนั้น
"ก็พูดเกินไป... คุณยังไม่ทันได้ดูเลย"
"แต่คุณคงไม่ถ่อมาถึงนี่เพื่อบอกข้อมูลที่ฉันรู้อยู่แล้วหรอกนะ"
"ก็จริง แต่ผมจะค่อย ๆ อธิบายแล้วกันนะ ถ้าคุณไม่ไหว ขอให้บอก ผมจะได้หยุด" ผมกล่าวเตือนไว้ก่อนเพราะสิ่งที่อยู่ในแฟ้มนี้มันอ่อนไหวมาก แอมเบอร์สูดหายใจเข้าแล้วพยักหน้าเป็นสัญญาณให้ผมเปิดแฟ้ม หยิบรูปถ่ายให้เธอทีละรูปโดยเริ่มจากเกรย์ คาสิโนแห่งไนท์ซิตี้ที่นอร์ท ทิมและฮาลเข้าไปประชุมกับไทเลอร์ เกรย์และคณะประมาณ 7-8 คน ในวันที่ 15 ที่ผ่านมา "คู่หมั้นคุณเข้าคาสิโนไปกับเลขานุการบริษัทกับผู้อำนวยการการตลาดทุกวันที่ 15 ไปเจอกับไทเลอร์ เกรย์ซึ่งเราสืบรู้ทีหลังว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการ The City 2044 ด้วย"
"อะไรคือขบวนการ The City 2044 คะ"
จากคำถามนี้ทำให้ผมรู้ว่าแอมเบอร์จ้างนักสืบไว้แค่รู้ประวัติที่มาของเลขานุการแต่ละคนจะได้ลดต้นตอของเหตุชู้สาวในที่ทำงานเท่านั้น เพราะถ้าจ้างนักสืบหรือนักข่าวก็สืบรู้เกี่ยวกับแก๊งนี้ได้ไม่ยากแต่ก็จะมีหลักฐานพอ ๆ กันกับที่ผมมีตอนนี้ แต่ก็เข้าใจได้นะ... ใครจะอยากให้คู่หมั้นนอกกายนอกใจหาคนอื่นล่ะ
"ขบวนการอาชญากรที่น่าจะใหญ่ที่สุดในเดอะซิตี้ ถามว่ารู้ได้ไง... ก็ทุกครั้งที่เดอะซิตี้เกิดเหตุอาชญากรรมใหญ่ ๆ เช่น ระเบิดแลนด์มาร์คสำคัญ ปล้นธนาคาร ขโมยขึ้นบ้านเศรษฐี การลักพาตัวผู้มีอิทธิพล และอื่น ๆ ที่ใหญ่เหมือนการสร้างสถานการณ์ ไทเลอร์มักถูกพบว่าอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุแต่ก็ไม่เคยถูกจับกุมได้เพราะมีพยานแน่นหนา" แอมเบอร์ตั้งใจฟังสิ่งที่ผมพูดโดยมองภาพในแผ่นกระดาษอย่างไตร่ตรอง "แต่คุณยังไม่ต้องสนใจคดีพวกนั้นหรอก ผมกับตำรวจจะช่วยกันจัดการเอง กลับมาสนใจคู่หมั้นของคุณดีกว่า คุณรู้พฤติกรรมการพนันหรือเข้าสถานบันเทิงแบบนี้รึเปล่า"
"ฉันรู้แค่เขามีนัดกินดื่มกับเพื่อน กับลูกพี่ลูกน้องของเขาบ่อยช่วงวันเสาร์อาทิตย์"
"จริงสิ ลูกพี่ลูกน้องของเขา... คลินท์น่ะ เราก็เห็นว่าเขาเข้าประชุมกับไทเลอร์เหมือนกันนะ" ผมส่งภาพถ่ายของคลินท์ให้แอมเบอร์ดูด้วย คิ้วของเธอขมวดแน่นเป็นปมยิ่งกว่าเดิม "สิ่งที่ผมรู้มากกว่านั้นคือ คดีที่พวกเขาก่อด้วยกัน" ผมกลั้นใจนานมากในการหยิบภาพต่อไปเพราะแม้แต่จังหวะหน้างานที่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็แทบคลื่นไส้ "มันคือการค้าบริการทางเพศโดยผู้หญิงที่พวกเขาเลือกมามีอายุประมาณ 20 ปีขึ้นไปแต่ไม่เกิน 25 ปี บางส่วนเป็นอดีตเลขานุการของฮาล และบางส่วนเป็นแคนดิเดตที่สมัครมาเป็นเลขานุการ" ผมพูดจบ แอมเบอร์ชูมือขอให้หยุดแล้วรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำชั้นล่างเพื่อสำรอกความรู้สึกอึดอัดออกจนหมด เธอรวบเรือนผมยาวของตัวเองด้วยมือซ้าย กำหมัดขวาทุบพื้นกระเบื้องสีขาวและวัตถุรอบข้างด้วยความโกรธแค้น ภาพถ่ายมันชัดมากจนไม่มีทางถูกมองว่ามันเป็นการตัดต่อได้เพราะภาพรุนแรงแบบนี้ไม่อนุญาตให้เผยแพร่บนสาธารณะด้วยซ้ำ "พวกเราช่วยเหยื่อที่ถูกจับได้ทั้งหมดแล้ว พวกเขาได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยโดยมูลนิธิช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รอด"
"คุณทำแบบนี้ทำไม" แอมเบอร์ใช้หลังมือเช็ดปากแล้วจ้องเขม็งมาที่ผมซึ่งยื่นกระดาษเช็ดปากให้เธอทั้งกล่อง "ฉันถามว่าทำแบบนี้ทำไม!! เก่งนี่!! พอใจรึยัง!!"
"หมายถึงเรื่องอะไรครับ"
"คุณสืบจนรู้เรื่องทั้งหมดของฮาลแล้ว ขบวนการอาชญากรรมอะไรนั่นอีก แถมยังประสานงานกับตำรวจเรียบร้อยแล้ว เหยื่อได้รับการช่วยเหลือ แล้วคุณจะบอกฉันทำไมอีก คุณกับตำรวจออกหมายจับเขาหรืออะไรก็ทำไปสิ บอกทำไมอีก"
เอาล่ะ ผมคิดว่าเธอกำลังหูดับเพราะประเด็นไม่ได้อยู่ที่คดีคืบหน้าถึงไหนแล้ว แต่...
"เพราะคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวของเขาไงครับ" ผมวางสองมือบีบไหล่ของเธอที่นั่งสะอึกสะอื้นตรงพื้นห้องน้ำเย็นเฉียบ ร่างกายของเธอก็เย็นเยียบเหมือนกัน แววตาสีน้ำตาลอัลมอนด์ไร้ความรู้สึกใด ๆ ให้ผมอ่านความในใจราวกับแตกสลายไปแล้ว ผมเป็นคนใจร้ายที่ซ้ำเติมแผลใหม่ของเธอจนเหวอะหวะแต่ทางเลือกในการเดินหมากเกมนี้ค่อนข้างยากเพราะสิ่งที่เดิมพันไม่ใช่แค่ชื่อเสียงแต่เป็นชีวิตคน "ผมไม่ได้บอกคุณเพื่อขออนุญาตแจ้งตำรวจให้ออกหมายจับคู่หมั้นของคุณ มันเป็นสิ่งที่ผมจะทำอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงข้อนั้นได้หรอกว่า ฮาลแห่งกวินธาดามีเดียเป็นอาชญากร หลักฐานมันชัดเจนขนาดนี้"
"..."
"ส่วนคุณ... ว่าที่ประธานบริษัทคนใหม่แห่งแคนดี้ฮาร์ท" ปลายนิ้วชี้ไล้ตามสันกรามคมถึงคางของแอมเบอร์อย่างเชื่องช้า ไม่แน่ใจว่าผมหรือเธอกันแน่ที่จะตกในภวังค์ แต่มันเป็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่ได้เห็นดวงตาสีอัลมอนด์ชัดและใกล้ขนาดนี้ "คุณคงไม่อยากให้มีอะไรขัดขวางการครองบัลลังก์ราชินีวงการอินฟลูเอ็นเซอร์หรอก"
"คุณขู่ฉันเหรอ"
"เฮ้อ" ผมถอนหายใจพลางเอื้อมแขนเช็ดน้ำตาให้เธอ "คุณมีสองทางเลือกซึ่งผมไม่ใช่คนกำหนด ระหว่างเอาตัวรอดจากการถูกเอาเปรียบ หรือ ปกป้องคู่หมั้นของคุณด้วยการจ้างทนาย ซื้อผู้พิพากษาหรืออัยการดี ๆ สักคน เพราะตอนนี้ยังมีเวลาอีกไม่มาก ก่อนกระบวนการยุติธรรมจะเริ่มดำเนินการ" ว่าแล้วผมก็สอดนามบัตรจัสติคอร์ไว้ในมือเล็กเยือกเย็นของเธอ ปลายนิ้วอ่อนแรงไล้ผ่านข้อมือของผมคล้ายจะอยากพูดบางอย่างแต่ผมอยู่ตรงนี้นานกว่านี้ไม่ได้ "คุณเป็นคนฉลาดนะ ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไงก็ติดต่อหาผมตามเบอร์โทรได้เลย"
#เจ้านายคะอย่ามาจับ
#แชมเปญไม่ยอม