ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
ชาย-หญิง,อาชญากรรม,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม,สะท้อนสังคม,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
‘แชมเปญ’ ได้งานแรกหลังเรียนจบเป็นเลขานุการผู้บริหารบริษัทกวินธาดามีเดีย ต้องใกล้ชิดและขึ้นตรงกับ ‘ฮาล’ ประธานบริษัทสุดหล่อเท่แต่ยิ่งทำงานไปด้วยกันเรื่อย ๆ ก็เซนส์ได้ถึงความลับดำมืดของเขา
ตลอดระยะทดลองงาน 3 เดือน แชมเปญได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานสุดหิน ท้าทายศักยภาพเด็กกิจกรรมและหลายพฤติกรรมไม่น่าอภัยของฮาล ทำให้อดีตที่เคยชื่นชมเขาดั่งไอดอลให้กลายเป็นความกลัวและเกลียดชัง แชมเปญได้ยินเรื่องซุบซิบในกลุ่มเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับเรื่องแปลกในบริษัท รวมถึงการหายตัวไปของจูลี่ เลขาคนก่อนหน้าเธอด้วย
ทีนี้แชมเปญจะไว้ใจใครในกวินธาดามีเดียได้บ้างนะ ?
แล้วความลับของฮาลคืออะไรกันแน่ ?
หากวันศุกร์ก่อนหน้าคือวันเปิดประตูนรก ศุกร์นี้ก็คงเป็นวันนรกแตก แต่มันคือความปราณีของครอบครัวบราวน์ที่มอบให้กับฮาลเพราะมันยังมีเศษเสี้ยวความเห็นใจจากฉันอยู่นั่นเอง คืนนี้ฉันเลือกร้านอาหารฟิวชั่นไฟน์ไดน์นิ่งของโรงแรม W โดยเลือกที่นั่งเห็นวิวเมืองเพื่อไม่ให้เป็นจุดดึงความสนใจมากเกินไป มันคือร้านเดียวกับวันที่ฉันกับฮาลเจอกันครั้งแรก แม้บรรยากาศภายในโรงแรมจะเปลี่ยนไปจากการตกแต่งรีโนเวทเพิ่มเติมให้สามารถรับลูกค้าได้มากขึ้น ทว่ามันก็ยังย้อนให้นึกถึงความรู้สึกวันแรกที่ไร้ความโรแมนติก เป็นความรู้สึกของการประชุมมากกว่าสนทนาทำความรู้จักกันของสองหนุ่มสาวที่ไม่มีความรักใคร่ต่อกัน เป็นแค่การนัดหมายรับทราบถึงงานแต่งงานที่จะมีขึ้นเท่านั้น
ค่ำคืนน่าหฤหรรย์แบบนี้เหมาะกับมินิเดรสสายเดี่ยวรัดรูปสีแดงเว้าสะโพกทั้งสองข้างเหมือนกุหลาบสีแดง ขณะที่พ่อเลือกสวมเชิ้ตสีดำเข้าชุดกับกางเกงขายาว พวกเรามาถึงโรงแรมก่อนเวลานัดหมายประมาณ 15 นาทีเพื่อรอที่โต๊ะพร้อมกับสั่งไวน์องุ่นขวดหนึ่งไว้ดื่มรอการปรากฎตัวของฮาล พ่อไม่บอกว่าจะลงโทษอะไรฮาลแต่ไม่ใช่การยกเลิกงานแต่งงานแน่
"ฮาลมาช้าแบบนี้ทุกครั้งเลยเหรอ" พ่อปริปากถามพลางหมุนเครื่องดื่มสีแดงในแก้วไวน์อย่างรำคาญใจ
"ทุกทีก็ไม่เลทมากหรอกค่ะ ตรงเวลาเกือบทุกครั้ง ยกเว้นครั้งที่แล้วที่เขาติดพันกับเลขาของเขาน่ะ" ฉันตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาพลางเคาะปลายเล็บเจลสีโรสโกลด์บนโต๊ะอาหารที่มีเพียงจานเปล่า ช้อนส้อมมีดและแก้วไวน์ ฉันขอให้พนักงานยังไม่ต้องเสิร์ฟอะไรนอกจากเครื่องดื่มจนกว่าฮาลจะมาถึง "เขาน่ารำคาญเหมือนวันแรกที่ได้รู้จักนั่นแหละค่ะ ถือว่าเสมอต้นเสมอปลายมั้ย"
"เลขาของเขาชื่ออะไรนะ" พ่อส่ายหน้าหงุดหงิดกับคำตอบที่ได้ยิน เขาคงคาดหวังว่าหลังจากหมั้นกันแล้วคงมีดอกรักงอกเงยบ้างซึ่งมันก็มีเพียงแต่เป็นดอกไม้พลาสติก พวกเราหลับนอนด้วยกันเพียงเพราะความต้องการเท่านั้น ฉันไม่เคยเห็นความรักในแววตาของเขา ไม่แน่ว่าพวกเราอาจต้องเข้าคอร์สเวิร์คช็อปนักแสดงเพื่อให้เข้าถึงบทบาทของ 'คู่รัก' บ้าง แต่ดูเหมือนที่ผ่านมาจะมีแค่ฉันที่ทำหน้าที่ในฐานะคู่หมั้นมากกว่า
"แชมเปญค่ะ"
"อายุเท่าไหร่"
"23 ค่ะ มีแฟนแล้ว เพิ่งหมั้นกันไม่นานด้วยค่ะ"
"รู้ได้ไงว่าไม่นาน" พ่อถามจี้อีกเพราะฉันไม่เคยบอกข้อมูลนี้
"วันศุกร์ สองสัปดาห์ที่แล้ว แชมเปญกับแฟนกินดินเนอร์ที่เดียวกับหนูแล้วก็หมั้นกันวันนั้นเลย"
พ่อหัวเราะในลำคอฟังดูเหมือนพึงพอใจพลางยกแก้วจิบไวน์แดง ตอนนั้นเองที่ฉันเห็นว่าฮาลเดินขึ้นมายังห้องอาหารของโรงแรมอย่างเร่งรีบคาดว่าเขาเห็นพ่อ ทำให้ไม่สามารถอ้อยอิ่งได้เหมือนเวลามาดินเนอร์กับฉันสองต่อสอง ฮาลทักทายอัลเบิร์ตทำท่าโผกอดด้วยความคิดถึง ทว่าพ่อปฏิเสธและแค่ตบบ่าของฮาล เขาหันมองฉันอย่างขอความช่วยเหลือเชิงว่า 'เกิดอะไรขึ้น' ฉันยักไหล่สองข้างแล้วจิบไวน์ต่อ
เมื่อฮาลนั่งลงตรงข้ามพ่อ เมนูเรียกน้ำย่อยมาเสิร์ฟอย่างทันท่วงที นั่นคือทาร์ตาร์แซลมอนรมควันสำหรับฉันและพ่อ จานเซรามิคสีขาวเต็มไปด้วยสีสันฉูดฉาดของแซลมอนกับอะโวคาโดบด ส่วนของฮาลเป็นซุปครีมเห็ดทรัฟเฟิล เขาได้แต่ทำหน้าหงุดหงิดแถมเลิกคิ้วใส่ฉันเพราะทุกครั้งที่ดินเนอร์ด้วยกันจะได้รับเมนูทั้งสามคอร์สเหมือนกันตลอด รวมถึงครั้งที่พ่อร่วมโต๊ะด้วย
"กินเสร็จก่อน ค่อยคุยกัน เรื่องที่อยากคุยมันไม่เหมาะจะพูดระหว่างกินอาหาร" พ่อเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เขาตักแซลมอนหั่นบางกับอะโวคาโดบดเข้าปาก หลับตาพริ้มพร้อมผ่อนลมหายใจผ่านจมูก แสดงถึงความพึงพอใจในรสชาติอาหาร
เมื่อเมนูเรียกน้ำย่อยหมดจานแล้ว เมนูหลักของฉันกับพ่อก็วางเสิร์ฟบนโต๊ะแทนที่จานใบก่อนหน้า บนจานเซรามิคสีขาวขนาดใหญ่สิบนิ้วเต็มไปด้วยพาสต้าซอสเพสโต้เห็ด ส่วนเมนคอร์สของฮาลคือปลาแซลม่อนย่างซอสมะขามเปียก ระดับความสุกพอดีของปลากับผักย่างหลากหลายคงจะถูกปากคนรักสุขภาพอย่างเขานะ...
ฉันได้แต่เฝ้ามองเงียบ ๆ ดูปฏิกิริยาของสองคนอย่างตั้งใจโดยดื่มด่ำกับรสชาติมื้อค่ำไปด้วย ฮาลกินอาหารจานหลักเสร็จก่อนใครเพราะหมดความอดทน ใบหน้าและหูของเขาแดงก่ำด้วยความโมโหต่างจากพ่อที่สงบนิ่งมั่นคงเหมือนภูเขาแข็งแกร่งไม่สะทกสะท้าน ไม่นานนักไอศกรีมกะทิสดก็ถูกวางเสิร์ฟต่อหน้าฮาลแต่เขายังไม่กินจนกว่าพ่อจะวางส้อมลงบนจานของตัวเอง และมันเป็นไปตามคาดของฮาลที่เมนูของหวานของครอบครัวบราวน์ไม่เหมือนกับของเขา พุดดิ้งมะม่วงสุกตกแต่งอย่างน่าทานในแก้วก้นแบน มันคงน่าเจ็บใจไม่น้อยที่ถูกแบ่งพรรคแบ่งพวกกับคนที่คิดว่าเป็น 'พวก' เดียวกัน แต่นี่แค่บทลงโทษแรกเท่านั้นเอง ทั้งหมดนี้คือเกมจิตวิทยาของอัลเบิร์ต บราวน์
"พ่อพอจะบอกได้มั้ยครับ ว่านี่มันเรื่องอะไร ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย" ฮาลเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับความโมโหก่อน เขาไม่แม้แต่จะหยิบช้อนตักของหวานของตัวเอง มือใหญ่ทั้งสองข้างวางบนโต๊ะโดยที่กำหมัดแน่นด้วย แววตาของเขาดูสับสนและพยายามขอความช่วยเหลือจากฉัน
"แอมเบอร์ ลูกสาวของผมสวยรึเปล่าล่ะ" พ่อยกยิ้มมุมปากแล้วตอบคำถามด้วยคำถามที่ฉันไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน
"สวย... สวยครับ"
"แล้วลูกสาวของผมทำงานเก่งรึเปล่า"
"ครับ... เก่งมาก แอมเบอร์วิเคราะห์เทรนด์ได้เฉียบขาดแถมยังช่วยให้กวินธาดาผ่านวิกฤตได้หลายครั้ง รวมถึงครั้งนี้ด้วยที่ทางผมขาดอินฟลูเอนเซอร์เก่งภาษาสำหรับดำเนินรายการใหม่ของไตรมาสนี้ ถ้าไม่มีแคนดี้ฮาร์ท ผมคงไม่สามารถจับลูกค้าต่างชาติกระเป๋าหนักไว้ได้แน่ครับ"
"ใช่ แอมเบอร์ทั้งสวย เก่งแถมยังช่วยให้กวินธาดาลืมตาอ้าปากได้ตั้งหลายครั้ง แต่มันคงไม่พอสำหรับคุณสินะ" ฮาลกลืนน้ำลายเหนียวข้นลงคออย่างลำบาก เหงื่อผุดพรายตามใบหน้าของเขา "มีอะไรที่ลูกสาวของผมให้คุณไม่ได้รึเปล่า ตลอดระยะเวลาที่หมั้นกันจนจะแต่งงานในอีกไม่กี่เดือนแล้ว"
"คือ..."
"เพราะถ้ามันมากพอ คุณคงไม่ปล่อยให้แอมเบอร์หลุดมือไปหาผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้วอย่าง... แชมเปญ" พ่อตักพุดดิ้งมะม่วงกินต่อจนหมดในคำเดียว หัวข้อสนทนาไม่น่าเจริญอาหารอย่างที่เขาเตือนเอาไว้เพราะแม้แต่ขนมหวานก็รสชาติขมปร่าได้ "ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าผมรู้ได้ยังไง กำแพงมีหู ประตูมีช่อง... ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวที่ใช้เงินและอำนาจแก้ปัญหา"
"ผมขอโทษครับพ่อ เรื่องราวของผมกับแชมเปญมันจบไปแล้วจริง ๆ"
"มันเพิ่งจบเพราะแอมเบอร์จับได้ก่อนรึเปล่า ไม่งั้นคุณคงปล่อยเลยตามเลย ขืนใจเขาในห้องทำงานของตัวเองต่อไป... เพราะอะไรที่เกิดขึ้นในห้องของคุณก็จบลงในนั้น" อัลเบิร์ตพูดจบแล้วเอนหลังบนเก้าอี้ของตัวเองพลางใช้ผ้าเช็ดปาก ฉันรู้สึกขนลุกไปหมดเพราะพ่อพูดแทนใจหมดแล้ว "ดูเหมือนผมกำลังตัดสินใจผิดพลาดที่ให้ลูกสาวหมั้นกับคนไม่รู้จักถูกผิด"
"ผมขอโทษครับ เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นแล้ว"
"แน่นอนว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกหรอก ผมจะลดเปอร์เซ็นต์ถือหุ้นของคุณในแคนดี้ฮาร์ทเหลือ 0.5"
"เดี๋ยว! ไม่! อัลเบิร์ต คุณจะทำแบบนี้กับผมไม่ได้สิ ไม่เกี่ยวกับตัวเลข..." ฮาลกระแทกมือลงบนโต๊ะ ตะเบ็งเสียงปกป้องตัวเองจากการสูญเสียศักดิ์ศรีและผลประโยชน์ แต่บทลงโทษก็คือบทลงโทษ พ่อเปิดแท็บเลตให้ดูตารางรายชื่อผู้ถือหุ้นซึ่งจัดการโดยเจ้าหน้าที่นักลงทุนของบริษัท ตัวเลขร้อยละ 0.5 นั้นมีผลทันที และนั่นทำให้ฉันได้เห็นหยดน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลอาบแก้มข้างหนึ่งของเขา
"แน่นอน ผมทำได้ และถ้าคุณทำอะไรลับหลังผมอีกล่ะก็... เตรียมบอกลาการเป็นพาร์ทเนอร์แคนดี้ฮาร์ทได้เลย" พ่อกระดกไวน์จนหมดแก้วแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร
"เดี๋ยวก่อน แอมเบอร์... คุณจะไม่อธิบายเหรอว่านี่มันอะไร พ่อคุณรู้ได้ไงเรื่องผมกับแชมเปญ" เขาพยายามเค้นคำตอบจากฉันโดยที่คว้าข้อมือแล้วออกแรงบีบแน่น "คุณบอกเหรอ"
"นี่คีย์การ์ดสำหรับเข้าบ้านนะคะ ถ้าคุณจัดการทุกเรื่องเรียบร้อยแล้วก็เข้ามาอยู่ได้เลยค่ะ"
ฉันดึงมือของเขาออกแล้ววางคีย์การ์ดสีดำขอบสีทองไว้แทน ฉันไม่จำเป็นต้องให้คำตอบอะไรเขาทั้งนั้นเพราะเขาควรเป็นคนรู้สึกตัวสักทีว่าทำอะไรลงไป จนกว่าเขาจะสำนึกผิด เขาควรตามขอโทษฉันและพ่อทุกวิถีทางเพื่อนำความไว้เนื้อเชื่อใจคืน ระหว่างทางกลับบ้าน พ่อเอาแต่ถอนหายใจยาวเหมือนมีคำพูดและความคิดมากมายเต็มไปหมด ไม่ต่างกับฉันเพียงแต่ยังไม่กล้าเริ่มบทสนทนาเท่านั้น
"พ่อผิดเองที่ไม่ดูประวัติฮาลให้ดีก่อนเลือกมาเป็นคู่หมั้นของลูกนะ"
"อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ คนเรามันรู้หน้าไม่รู้ใจตั้งเยอะแยะ อีกอย่างพ่อก็เลือกเขาด้วยความหวังดีเพื่อช่วยแคนดี้ฮาร์ท"
"แล้วลูกมีแพลนบีมั้ย"
"มีอยู่แล้วค่ะ แต่ไว้ถึงบ้านแล้ว เราค่อยคุยกันก็ได้ค่ะ ตอนนี้พ่อพักเถอะ"
พ่อกุมมือของฉันอย่างอ่อนโยน รถแล่นต่อไปบนถนนมืดมิดที่มีโคมไฟข้างทางสีเหลือง บรรยากาศอึดอัดเริ่มคลี่คลายลง เหลือเพียงความเศร้าและความกังวล แต่ฉันก็มีความหวังเล็ก ๆ ว่า ฮาลจะสำนึกผิดและกลับมาเป็นคนดีเหมือนเดิม แต่มันดูยากเหลือเกินเพราะสิ่งที่เขาทำไม่ใช่แค่นอกใจ เขายังแอบทำธุรกิจสีดำลับหลังอีกอย่างที่ฉันยังไม่กล้าบอกให้พ่อรู้ แต่อย่างหนึ่งที่แน่นอนคือ แคนดี้ฮาร์ทจำเป็นต้องหาพาร์ทเนอร์ใหม่
แสงไฟสีนวลส่องสว่างไปทั่วห้องนั่งเล่นหรูหราในคฤหาสน์นีโอคลาสสิก บรรยากาศภายในเงียบสงบ ยามค่ำคืนอันดึกดื่น ฉันนั่งอยู่บนโซฟานุ่มนวลสีครีม มองออกไปนอกหน้าต่างดูสวนสวยที่โอบล้อมด้วยรั้วเหล็กดัดลวดลายวิจิตร แสงไฟจากโคมระย้าคริสตัลขนาดใหญ่สะท้อนกับพื้นหินอ่อนขัดมัน บรรยากาศภายในห้องดูอบอุ่นแต่แฝงไปด้วยความเศร้า
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้น ฉันหันไปมอง เห็นพ่อกำลังเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับเบียร์สองกระป๋อง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยย่นแห่งกาลเวลา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาดูเศร้าหมองและเคร่งขรึมในเวลาเดียวกัน
"ความจริงลูกพักก่อนก็ได้นะ เหตุการณ์เมื่อกี้มันหนักเกินไป"
"ไม่เป็นไรค่ะพ่อ หนูอยากนั่งกับพ่อก่อนแล้วค่อยขึ้นห้องนอน"
พ่อพยักหน้าพร้อมรับฟัง แต่แล้วก็มีข่าวประจำสัปดาห์ดังขึ้นขัดจังหวะ เกี่ยวกับการช่วยเหลือหญิงสาวผู้ถูกลักพาตัวมาค้าบริการทางเพศจำนวนมากที่คาสิโนยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งไนท์ซิตี้อย่าง เกรย์ คาสิโน เสียงหวานของผู้ประกาศข่าวพูดถึงอีกว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยการกระทำอุกอาจนี้คือ นายจรินทร์ วรนิเวศน์ หรือ นอร์ท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดแห่งกวินธาดามีเดียซึ่งพบอยู่ในที่เกิดเหตุในสภาพสวมกางเกงตัวเดียว ในตอนนี้ทางตำรวจยังไม่มีเบาะแสเพิ่มเติมแต่ก็ขอบคุณแรงสนับสนุนจากจัสติคอร์ องค์กรด้านความยุติธรรมซึ่งโดดเด่นด้านการช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงภายในประเทศ
ทันใดนั้น ใบหน้าคมคายของแอรันก็ผุดขึ้นมาในความคิด การปรากฎตัวของเขาวันนั้นพร้อมกับแฟ้ม 2044 ทำให้ฉันตื่นรู้ว่าฉันสามารถทำอะไรได้เพื่อประคองชีวิตของแคนดี้ฮาร์ทเอเจนซี่ การตัดกวินธาดามีเดียอาจไม่แย่อย่างที่คิด เพราะฉันยังมีบุคคลเปี่ยมวิสัยทัศน์อย่างแอรันและสมาชิกองค์กรของเขา
"เรื่องฮาลน่ะ"
"ไม่ค่ะพ่อ หนูไม่อยากคุยเรื่องนี้ แต่หนูดีใจจริง ๆ ที่พ่อลดเปอร์เซ็นต์ถือหุ้นของเขา หมอนั่นสมควรโดนแล้วค่ะ"
"แล้วเรื่องแพลนบีของลูกน่ะ..."
"จัสติคอร์ค่ะ" พ่อเลิกคิ้วสูงขณะจิบเบียร์จากกระป๋องสีทอง "หนูคิดว่าจัสติคอร์เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับพาร์ทเนอร์คนใหม่แทนที่ฮาลค่ะ"
"ไม่ค่อยมีใครจับมือกับองค์กรไม่แสวงกำไรด้วย... เป็นก้าวที่กล้าหาญเหมือนกันนะ โดยเฉพาะองค์กรด้านกฎหมายน่ะ"
"ถูกต้องค่ะ อีกอย่างคือจัสติคอร์เป็นเบื้องหลังที่ช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงนับไม่ถ้วนด้วย" ฉันเอนตัวไปข้างหน้าหาพ่อพร้อมกับส่งนามบัตรของแอรันให้เขา "สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือซีอีโอ... แอรัน ลี"
"อืม... ซีอีโอและนักสืบเหรอ ลูกชอบเขาใช่มั้ย"
"ไม่รู้สิคะ หนูเพิ่งเจอเขาแค่ครั้งเดียว" แก้มทั้งสองร้อนผ่าวไม่แน่ใจว่าเพราะความเขินอายหรือฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น "ที่สำคัญคือจัสติคอร์ดูเหมือนเป็น Perfect Match ของแคนดี้ฮาร์ทนะคะ พวกเขาเก่งด้านกฎหมาย ส่วนเรามีทรัพยากร ชนะทั้งคู่"
"ถ้าจะนับไว้ตัวเลือกก็คงไม่เสียหายนะ" พ่อมองฉันอย่างพิจารณาในข้อเสนอ ก่อนจะคลี่รอยยิ้มอบอุ่น "ลูกอยากนัดประชุมกับเขาเองมั้ย ลองดูเผื่อจัสติคอร์มีทางเลือกอะไรเสนอบ้าง"
คำพูดของพ่อทำให้ฉันมีแรงยิ้ม ฉันรู้สึกถึงความหวังแห่งการเริ่มต้นใหม่กับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจคนใหม่ ในกรณีนี้ฉันไม่จำเป็นต้องแต่งงานด้วยซ้ำ พ่อนวดไหล่ของฉันเบา ๆ แล้วเดินขึ้นห้องนอนไปปล่อยให้ฉันนั่งห้องนั่งเล่นเพียงลำพังโดยที่เบียร์ยังไม่หมดกระป๋อง แต่แล้วความทรงจำเจ็บปวดก็ย้อนกลับมาทำร้ายฉัน แล้วฉันจะเริ่มต้นใหม่ยังไงในเมื่อยังกำจัดฮาลไม่ได้ ฉันคิดและติดต่อหาจัสติคอร์โดยให้โอนสายหาแอรัน นักสืบหนุ่มคนนั้นที่ปรากฎตัวหลังจากแชมเปญนำหลักฐานชั้นดีมาเบิกเนตรฉันในวันนั้น
#เจ้านายคะอย่ามาจับ
#แชมเปญไม่ยอม