ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
ชาย-หญิง,อาชญากรรม,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม,สะท้อนสังคม,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Revenge เจ้านายคะ อย่ามาจับ!ฉันเคยชอบคุณมาตลอด แต่ฉันจะไม่ยอมให้คุณเอาเปรียบอีก
‘แชมเปญ’ ได้งานแรกหลังเรียนจบเป็นเลขานุการผู้บริหารบริษัทกวินธาดามีเดีย ต้องใกล้ชิดและขึ้นตรงกับ ‘ฮาล’ ประธานบริษัทสุดหล่อเท่แต่ยิ่งทำงานไปด้วยกันเรื่อย ๆ ก็เซนส์ได้ถึงความลับดำมืดของเขา
ตลอดระยะทดลองงาน 3 เดือน แชมเปญได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานสุดหิน ท้าทายศักยภาพเด็กกิจกรรมและหลายพฤติกรรมไม่น่าอภัยของฮาล ทำให้อดีตที่เคยชื่นชมเขาดั่งไอดอลให้กลายเป็นความกลัวและเกลียดชัง แชมเปญได้ยินเรื่องซุบซิบในกลุ่มเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับเรื่องแปลกในบริษัท รวมถึงการหายตัวไปของจูลี่ เลขาคนก่อนหน้าเธอด้วย
ทีนี้แชมเปญจะไว้ใจใครในกวินธาดามีเดียได้บ้างนะ ?
แล้วความลับของฮาลคืออะไรกันแน่ ?
Champagne's POV:
เป็นเวลากว่าสองสัปดาห์ที่คุณฮาลไม่เหยียบเข้ามาในออฟฟิศและพี่พุธ พี่โททำหน้าที่ประธานบริหารบริษัทกวินธาดามีเดียแทน บรรยากาศการทำงานดูโล่งอก สบายใจกว่าเดิมมาก ๆ เพราะเมื่อคุณฮาลไม่อยู่แล้ว คุณนอร์ทกับคุณทิมก็มีบทบาทการทำงานน้อยลงด้วย ฉันเพิ่งรู้ว่าสองคนนั้น ฮาลคัดเข้ามาทำงานเองกับมือ...
ทางกวินธาดาจัดประชุมบริษัทและประชุมผู้ถือหุ้นเป็นอันเรียบร้อย ทุกคนรับทราบทั่วกันในการให้มูลนิธิวอดช์ด็อกเป็นส่วนหนึ่งด้านการดูแลสวัสดิภาพของพนักงานร่วมกับฝ่ายจัดการทรัพยากรบุคคล คุณรวิน ลีแจ้งวิสัยทัศน์ชัดเจนที่ไม่ต้องการเห็นพนักงานคนไหนถูกเอาเปรียบอีกต่อไป มูลนิธิวอดช์ด็อกมีวิธีการทำงานที่ประยุกต์เทคโนโลยีล้ำสมัยจากแอดวานซ์ มิลิเทคในการตรวจสอบข้อมูล เฝ้าระวังภัยและประสานงานดำเนินการทางกฎหมายเพื่อให้มั่นใจอย่างรอบด้าน พนักงานบางส่วน บางกลุ่มตัดสินใจยื่นใบลาออกเพราะไม่สามารถทนรับเรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้นได้ ฉันเองก็จะทำเหมือนกัน... ทันทีที่คดีจบและได้งานใหม่
ทุกอย่างฟังดูเป็นเรื่องน่ายินดี ทว่าไม่ใช่กับฝั่งของคุณแอมเบอร์เพราะคุณอัลเบิร์ต ผู้เป็นพ่อของเธอเสียชีวิตจากการฆาตกรรมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและฆาตกรยังคงลอยนวลอยู่ เจ้าหน้าที่ชันสูตรชี้ชัดว่ามันคือการฆาตกรรมโดยผู้ก่อเหตุมีความแค้นส่วนตัวกับผู้เสียชีวิตด้วยจำนวนกระสุนสองนัดเข้าที่อก หนึ่งนัดเข้าที่หัวและอีกสี่นัดยิงซ้ำเข้าที่ตัว สิ่งที่แอรันบอกกับฉันคือฮาลตั้งใจจะจัดงานแต่งแบบส่วนตัวทันทีที่สิ้นสุดพิธีฌาปนกิจของอัลเบิร์ต บราวน์ การตัดสินใจอันเลือดเย็นแบบนั้นยิ่งทำให้มีความน่าสงสัยแต่มันช่วยไม่ได้จริง ๆ เพราะกวินธาดามีเดียกำลังจะล่มจม... แต่สิ่งที่แคนดี้ฮาร์ททำเหนือความคาดหมายของฉันมาก
แคนดี้ฮาร์ทโพสต์แถลงการณ์ปลดกวินธาดามีเดียออกจากหุ้นส่วนโดยสมบูรณ์เพราะไม่ต้องการสนับสนุนการกระทำน่ารังเกียจของนายการันต์ กวินธาดาแห่งกวินธาดามีเดียและแอมเบอร์โพสต์ลงโซเชียลมีเดียว่าตัวเองก็ต้องการถอนหมั้นกับฮาล เหตุเพราะเขาทำร้ายร่างกายและจิตใจเป็นเวลาหลายปี นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา... คำถามเดิมวนเวียนในหัวของฉันอีกครั้งว่า แท้จริงแล้ว 'ฮาล' คือใครกันแน่ เหมือนไม่มีใครรู้จักเขาเลย เขาคืออาชญากรบ้ากามหรือผู้บริหารมากความสามารถและอัจฉริยะในการลงทุน
อาการแพนิกของฉันลดน้อยลงแต่ความกลัวมันยังคงอยู่ ทั้งยามตื่น ยามหลับตาและทุกขณะหายใจ การทำงานที่กวินธาดามีเดียกลายเป็นฝันร้าย ฉันเข้าออฟฟิศน้อยครั้งเพราะสัมภาษณ์งานบริษัทอื่น บางที่เป็นคอนเนคชั่นของพี่เจที่เคยอยู่วงการอีสปอร์ต บางที่เป็นบริษัทเอกชนที่พาร์ทเนอร์กับกระทรวงของรัฐบาล ฉันยื่นสมัครงานทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ช่วยส่วนตัวของดาราอินฟลูเอ็นเซอร์ ฉันต้องการงานที่จะได้พิสูจน์ความสามารถในการสื่อสารและประสานงานมากกว่าเงินหรือความสงสาร ดังนั้นทุกการสัมภาษณ์ที่ผ่านมา ฉันประกาศจุดยืนชัดเจนถึงปัญหาความรุนแรงในองค์กร ไม่ใช่แค่เพราะฉันเป็นเหยื่อแต่ไม่ควรมีใครควรตกเป็นเหยื่อความรุนแรงต่างหาก
"แชมเปญ พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ" พี่พุธ รักษาการประธานบริหารเรียกฉันจากห้องทำงานเลขานุการให้ขึ้นไปห้องทำงานผู้บริหารชั้นบนสุด "เรียกเจมาด้วย" ฉันหันมองพี่ ๆ เลขาคนอื่น พวกเขาส่งยิ้มบางพร้อมชูนิ้วโป้งให้ประมาณว่า 'เอาใจช่วยนะ' ฉันกดโทรศัพท์โทรหาพี่เจซึ่งอยู่ที่สตูดิโอเพราะมีประชุมกับลูกค้า
ฉันจัดเบลเซอร์สีดำทับกับเกาะอกสีน้ำเงินเพื่อความเรียบร้อย เมื่อขึ้นไปยังห้องทำงานผู้บริหาร ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น แม้แต่พี่ม่อน แม่บ้านประจำตึก... เธอส่งขวดน้ำดื่มให้กับฉันแล้วเดินออกไปจนกระทั่งพี่เจตามเข้ามาที่ห้องพร้อมกับอุปกรณ์ทำงานของตัวเอง
"เข้าประเด็นเลยแล้วกันนะ" เขาถอนหายใจยาวเพราะสิ่งที่กำลังจะพูดเป็นเรื่องน่าลำบากใจ "ผมเห็นการทำงานของพวกคุณสองคนมาตลอดหลายเดือน สำหรับเจก็คงเป็นปีที่สี่แล้ว แน่นอนว่าเราปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าพวกคุณเป็นพนักงานที่มีความตั้งใจและไฟแรงในแบบที่กวินธาดามีเดียต้องการ ถึงพวกคุณจะไม่ใช่พนักงานฝ่ายขาย พวกคุณก็เป็นหนึ่งในพนักงานที่มีส่วนต่อการตัดสินใจของลูกค้าเพื่อซื้อโฆษณากับจีมีเดีย" พี่พุธเอ่ยชมยืดยาวจนหุบยิ้มไม่ได้แต่เขายังพูดไม่จบ "ความดีงามและความตั้งใจของพวกคุณมันประเมินค่าไม่ได้หรอก แต่ด้วยคดีของฮาลที่เกิดขึ้นกับพวกคุณและพนักงานบริษัทคนอื่น ๆ มันส่งผลกับการทำงานของทุกคน อย่างที่เห็นว่ามีพนักงานลาออกไปเยอะมากในไตรมาสนี้ ผมเลยจะให้เวลาพวกคุณตัดสินใจจนกว่าจะคดีจบ เพราะพวกคุณเองก็คงมองกวินธาดามีเดียไม่เหมือนเดิมแล้ว... ปลาเน่าตัวเดียวก็เน่าทั้งบ่อน่ะ ผมไม่โทษพวกคุณหรอก"
"ให้เวลาพวกเราตัดสินใจ... เรื่องอะไรเหรอครับ" พี่เจถามแล้ววางแล็บท็อปไว้บนตัก คำพูดอ้อมค้อมของพี่พุธชวนสับสน คิ้วของพี่เจขมวดแน่นโดยที่หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก
"ตัดสินใจว่าจะไปต่อกับเราหรือจะตามหาอนาคตที่ใหม่" พี่โทเป็นคนให้คำตอบ ใบหน้าเคร่งเครียด คิ้วหนาเข้มขมวดติดกันและใช้นิ้วโป้งนิ้วชี้กดดั้งจมูก พยายามทำเสียงเข้มแน่นเพื่อไม่ให้ความสั่นเครือลอดออกมา พวกเขายิ้มไม่ออกด้วยซ้ำผิดจากปกติที่ใบหน้าจะอาบด้วยรอยยิ้มส่งต่อพลังงานบวกให้กับพนักงาน "ซึ่งใช่ มันคือการตัดสินใจที่ยากที่สุดสำหรับพวกเรา ผมเลยอยากรู้ความคิดเห็นของพวกคุณด้วย"
"งั้นฉันขอพูดก่อนนะคะ" ฉันยกมือระดับหัวไหล่ หันมองพี่เจที่พยักหน้าเงียบ ๆ แล้วสูดหายใจก่อนพูด เวลานี้ทุกคนในห้องถูกกดด้วยบรรยากาศน่าลำบากใจจนหายใจไม่ทั่วท้อง "ฉันรู้สึกเป็นเกียรติ ปลื้มใจและดีใจมากค่ะที่ได้ทำงานที่กวินธาดามีเดียเป็นงานแรกหลังจากเรียนจบ ฉันได้เรียนรู้เยอะมากจากพี่ ๆ ทุกฝ่ายที่ได้ทำงานด้วยกัน และใช่ค่ะ ฉันรู้สึกเจ็บมากกับสิ่งที่คุณฮาลทำ ฉันยื่นใบลาออกกับเขาหลายครั้งมากเพราะฉันทนพฤติกรรมของเจ้านายแบบนั้นไม่ได้ ส่วนเวลาต่อจากนี้... ฉันคงจะเริ่มต้นใหม่ในที่ทำงานใหม่ค่ะ"
"เจล่ะ"
"ถึงตอนนี้จีมีเดียจะไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่แผลใจที่เกิดขึ้นคงยากต่อการเยียวยา หลังคดีจบ ผมก็จะขอลาออกเหมือนกันครับ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์การทำงานที่สุดยอดตลอดสี่ปีครับ"
ในเมื่อความเห็นเป็นหนึ่งเดียวกัน สองผู้บริหารพยักหน้ารับรู้ แต่พวกเขายังไม่ให้พวกเราออกจากห้อง ยังมีบางอย่างที่อยากคุยอีก ไม่ว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง ฉันหวังเพียงว่ากวินธาดามีเดียจะดีขึ้นด้วยฝีมือการบริหารของพี่พุธและพี่โท ฉันเชื่อมั่นว่าสามารถวางอนาคตในมือพวกเขาได้มากกว่าฮาลแน่ ๆ แต่คอนเทนต์วันนี้ไม่ได้อัดแน่นแค่ที่ออฟฟิศกวินธาดาเพราะพวกเรายังมีนัดหมายช่วงบ่ายต่อที่คฤหาสน์บราวน์เพื่อเตรียมตัวก่อนขึ้นศาลในสัปดาห์หน้า
"ทำไมไม่นัดคุยที่จัสติคอร์หรือมูลนิธิล่ะ" พี่เจแนบหูโทรศัพท์คุยกับแอรันที่ส่งข้อความติดต่อเข้ามาคอนเฟิร์มนัดหมาย
(คุณแอมเบอร์ไม่สะดวกใจเดินทางออกนอกบ้านน่ะครับ ผมก็ช่วยคุ้มกันอีกที วันก่อนฮาลอาละวาดที่ออฟฟิศจัสติคอร์ด้วยก็เลยคิดว่านัดประชุมที่เดียวกันเลยดีกว่า ไหน ๆ ก็โจทก์คนเดียวกัน) แอรันตอบกลับจากปลายสายแสดงว่าตอนนี้เขาอยู่กับแอมเบอร์แล้ว (อ้อ แต่งตัวตามสบายนะคุณ คิดซะว่านัดคุยกับเพื่อนแต่ประเด็นเครียดนิดหน่อย พวกคุณจะเข้ามากี่โมงก็บอกนะครับ)
"คุณชิลขนาดนั้นเลยเหรอ"
(ไม่ชิลหรอกครับ เราไม่จำเป็นต้องเป็นทางการขนาดนั้น คุณเตรียมแค่แท็ปเลตก็พอ ส่วนเรื่องความปลอดภัยของพวกคุณก็วางใจได้เลยครับ ตอนนี้ทั้งจัสติคอร์กับวอดช์ด็อกอยู่ข้างคุณ)
"ขอบคุณครับ ไม่เกินชั่วโมงพวกเราจะเข้าไปนะ"
(รับทราบครับ)
พวกเราเดินทางออกจากออฟฟิศกวินธาดาในสามสิบนาทีต่อมาโดยมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์บราวน์ซึ่งเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองเท่าจากครั้งที่แล้ว มันคือบาดแผลจากการกระทำของฮาลที่สร้างความหวาดกลัวและระแวงต่อชีวิต ทรัพย์สิน ไม่ใช่แค่คนคนเดียวที่ได้รับผลกระทบจากเขา พวกเราถูกเจ้าหน้าที่ค้นตัวอย่างละเอียดทั้งท่อนบนและท่อนล่าง ก่อนจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปหาแอมเบอร์ซึ่งรออยู่ที่หลังบ้านโดยมีแอรัน แอชและเจสประกบอยู่ด้วย
บริเวณหลังบ้านของเธอเป็นสวนเขียวชอุ่มขนาดใหญ่ มีลานระเบียงตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โมเดิร์นสีขาว ดำและทองที่ตอนนี้เต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์ แฟ้มเอกสาร ขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และที่เขี่ยบุหรี่ ดูเหมือนพวกเขานำหน้าคุยไปก่อนแล้ว... เบื้องหลังกว่านั้นมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่และใสสะอาด ฉันมองแอมเบอร์ หญิงสาวเจ้าของเคหะสถาน เดรสยาวรัดรูปสีชมพูนู้ดทำให้ผิวพรรณของเธอผุดผ่องมากขึ้น แต่เครื่องสำอางสีชมพูไม่อาจปิดซ่อนความเหนื่อยล้าใต้ดวงตาของเธอได้เลย
"นั่นไง มากันแล้ว" แอมเบอร์โบกมือทักทายพวกเราอย่างเป็นมิตร "พวกคุณกินอะไรกันรึยัง ฉันไม่ได้ทำอาหารไว้เยอะหรอก ก็แค่พอแกล้มเหล้าไวน์ได้... นั่งตามสบายเลยนะ" บรรยากาศโดยรอบไม่เหมือนการประชุมจริงอย่างที่แอรันว่าไว้ นี่แทบไม่ต่างจากการดื่มเหล้าบ้านเพื่อนด้วยซ้ำ เมื่อกวาดสายตามองก็ได้เห็นว่าแอรันจุดบุหรี่มวนที่สามพร้อมกับเปิดไฟล์บางอย่างในแท็บเลต ส่วนแอชกำลังยกเก้าอี้นวมอีกตัวมาเสริมที่ลานระเบียงแห่งนี้ ขณะที่เจสนั่งจดจ่ออยู่หน้าแล็ปท็อปของตัวเองเพราะประสานงานกับมูลนิธิวอดช์ด็อก "ดูเหมือนหนุ่ม ๆ จะพร้อมกันแล้วล่ะ"
"เอาล่ะ ตอนนี้มันมากพอจะที่จะฟ้องร้องสินไหมจากฮาลได้ในคดีล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงานได้ ด้วยหลักฐานจากกล้องแอบถ่ายของคุณกับจดหมายร้องเรียนจากพนักงาน... อ่า... อดีตพนักงานกวินธาดามีเดียก็ดี" แอชขยับแว่นตากรอบบางแล้วเงยหน้าสบตาฉัน พี่เจและคุณแอมเบอร์ ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามที่พวกเราเริ่มเข้าประเด็นคดีความที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า "แต่... มันอาจไม่มากนักเท่าที่คุณคาดหวังหรอกนะ คุณก็คงรู้ว่ากระบวนการยุติธรรมบ้านเราเป็นยังไง ดังนั้นคุณเจจึงมีหน้าที่เป็นพยานปากหลักเวลาขึ้นศาลเพราะพวกคุณใกล้ชิดกันมากที่สุด"
"แล้ว... โทษตัดสินสูงสุดของคดีล่วงละเมิดทางเพศมัน... เอ่อ... ติดคุกกี่ปีนะคะ" ฉันถามพลางจุดบุหรี่ขึ้นมวนหนึ่ง มือซ้ายของฉันอ่อนแรง สั่นเทา ความร้อนจากเปลวไฟสีแดงที่ปลายมวนยังไม่ร้อนเท่าไฟความแค้นที่กำลังเดือดพล่านในใจ อีกไม่นานฉันจะได้เห็นจุดจบของฮาลแล้วสินะ "ที่ถามไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะติดคุกตลอดชีวิตหรืออะไรนะคะ แต่อยากรู้ว่าเขาจะต้องโดนอะไรบ้าง"
"โทษทางอาญา... อิงตามมาตรา 289 การกระทำชำเรา ซึ่งเป็นการล่วงละเมิดทางเพศในรูปแบบที่รุนแรงที่สุด มีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปีครับ ทั้งนี้ปัจจัยการพิจารณาโทษจะหนักเบาขึ้นอยู่กับ..." ทนายหนุ่มวางประมวลกฎหมายอาญาไว้บนตัก ไม่ละสายตาจากคู่สนทนาตลอดการอธิบายพร้อมกับยกนิ้วมือข้างขวาอธิบายโทษตัดสินคดีอาญานี้อย่างเข้าใจง่าย "1. ความรุนแรงของการกระทำที่เราสามารถอ้างอิงจากหลักฐานของคุณได้ 2. ความสัมพันธ์ระหว่างผู้กระทำความผิดและผู้เสียหายซึ่งโจทก์เป็นผู้มีอำนาจเหนือกว่าคุณ โทษหนักขึ้นแน่ ๆ 3. ผลกระทบต่อผู้เสียหายทั้งทางร่างกาย จิตใจ สังคมรอบด้าน และสุดท้ายประวัติอาชญากรรมของผู้กระทำความผิดที่ข้อนี้จะพ่วงไปคดีค้ามนุษย์ค้าประเวณีที่มีชื่อคุณกับเลขาฯ คนอื่น ๆ อยู่ในลิสต์สินค้าด้วย"
"ยี่สิบปี... ได้... มันดูน้อยแหละ แต่จากคดีที่เกรย์คาสิโนน่าจะมากพอที่จะล้มจีมีเดียได้เลย" ฉันรำพึงพลางสูดควันเข้าปอดครั้งหนึ่งโดยที่พี่เจกอดคอซบไหล่ของฉันไปด้วย ลมหายใจและหยดน้ำตาร้อนของเขาหยดลงบนหัวไหล่เปลือย แววตาของพวกเราร้อนผ่าวในอุณหภูมิเดียวกัน "เขาจะได้ทำอะไรใครไม่ได้อีก"
"แล้วคุณจะเป็นพยานให้แชมเปญได้เรื่องอะไรล่ะครับ" พี่เจเช็ดน้ำตาแล้วหันมองแอมเบอร์ซึ่งยืนสูบบุหรี่พิงเสาระเบียง
"การล่วงละเมิดทางเพศครับ เพราะเธอเป็นคนขอหลักฐานจากพวกคุณ เธอเองก็เป็นคนที่ยืนยันได้จากที่เห็นคลิป แค่จะไม่ใช่พยานปากหลักแบบคุณเจที่ได้เห็นต่อหน้าต่อตาหลายครั้งระหว่างการทำงานที่จีมีเดีย" แอรันกล่าวพลางปลดกระดุมเชิ้ตสองเม็ดเผยแผงอกแข็งแรงโดยที่ก้นกรองบุหรี่ร่วงหล่นทีละน้อย
"เรื่องถอนหมั้นของฉันมันไม่ใหญ่เท่าคดีของเธอน่ะ ที่สำคัญคือคดีร้ายแรงแบบนั้น... แต่งงานต่อไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ว่าฮาลจะต้องการหรือไม่อะนะ... ฉันก็เพิ่งรู้ตอนคุยกับหนุ่ม ๆ วันนี้แหละ" แอมเบอร์พูดเสริมราวกับรู้ว่าฉันสงสัย เธอให้ดูมือซ้ายว่างเปล่าที่ไม่มีแหวนหมั้นเพชรเม็ดโตอีกต่อไป "โชคดีหน่อยที่ฮาลไม่ดื้อดึงมากตอนขอถอนหมั้น ไม่งั้นก็คงต้องจ้างทนายด้วย"
"แล้วเรื่องพ่อของคุณล่ะคะ" ฉันนึกขึ้นมาได้ว่าพวกเขากำลังสงสัยฮาลที่อาจมีส่วนในคดีฆาตกรรมอัลเบิร์ต บราวน์
"ฮาลเป็นผู้ต้องสงสัยหลักก็จริงเพราะมีแรงจูงใจมากที่สุด แต่เท่าที่ตำรวจสอบสวนแล้วก็... อืม... เหมือนจะขังตัวไว้ได้แค่ 48 ชั่วโมง" แอมเบอร์เล่าด้วยความรู้สึกผิดหวังที่แสดงออกจากดวงตาเศร้าสีอัลมอนต์ ตอนนี้ฮาลยังคงลอยนวลจนกว่าจะถึงวันขึ้นศาลเพื่อรับฟังพิจารณาคดี
"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ยังไงเขาก็ออกนอกประเทศไม่ได้ ทางเดียวที่เขาจะรอดจริง ๆ มีแค่ซื้ออัยการไม่ก็ผู้พิพากษา คดีร้ายแรงทางอาญาหลายกระทงแบบนั้น... มีแค่คนโลภและโง่เท่านั้นแหละ" เจสแค่นหัวเราะเสียงดังแล้วเอนหลังพิงเบาะนั่งสีขาวพร้อมกับดื่มเบียร์ก้นแก้วจนหมด "ต้องขอบคุณความกล้าของคุณแชมเปญจริง ๆ นะครับ ถ้าคุณไม่ร้องเรียนหาพวกเราวันนั้น เราคงไม่ได้ประสานงานกับตำรวจเพื่อสืบคดี Cold case[1] อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเดอะซิตี้ 2044 ด้วย"
"นอกจากนั้น พวกเรายังมีข้อมูลเด็ดอีกอย่างสำหรับการบ้านก่อนขึ้นศาลด้วยนะครับ" แอชเผยยิ้มหวานจากริมฝีปากบาง เขาส่งแท็ปเลตให้ดูใบหน้าของชายวัยกลางคนสวมสูทภูมิฐานสีเทาเข้ม แววตาสีฟ้าธรรมชาติจับจ้องกล้องอย่างดุร้าย เมื่อฉันสบตา เขาจึงเล่าต่อว่าชายคนนี้คือใครและทำไมเราถึงควรรู้จักเขา "นี่คือ แซค กิตติยานนท์ ทนายความประจำตระกูลกวินธาดา ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีของเขา หมอนี่เชี่ยวชาญทั้งกฏหมายแพ่ง กฎหมายอาญาและกฎหมายธุรกิจ เคยทำงานบริษัทกฎหมายชั้นนำทั้งในไทยและอเมริกา ก่อนจะย้ายกลับไทยมาตั้งสำนักงานทนายความและได้รับว่าจ้างเป็นทนายประจำตระกูลกวินธาดาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว"
"โห" ฉันส่งแท็ปเลตคืนให้แอชแล้วกระดกไวน์แดงในแก้วจนหมด "แค่โปรไฟล์ก็ไม่ธรรมดาแล้วนะคะ เป็นทนายมาตั้งยี่สิบปีแถมเก่งกฏหมายรอบด้านอีก"
"ความท้าทายคือ ไม่ว่าแซคจะเก่งมาจากไหน เขาก็ปั้นน้ำเป็นตัวไม่ได้..." ควันสีขาวบางเบาเล็ดรอดจากริมฝีปากของแอรันขณะที่กอดอกพูด "คนที่ทำงานกับฮาลได้คือคนประเภทเดียวกัน สังเกตจากทิมกับนอร์ทดูก็ได้ครับ ดังนั้นแซคก็คงไม่ต่างกันมากนัก แค่ไม่บุ่มบ่ามหรือบ้าแบบสองคนนั้น แซคน่ะขึ้นชื่อชี้นำจำเลย เขาทำสำเร็จหลายครั้งเลยล่ะ" เขาแค่นหัวเราะต่ออุปสรรคเบื้องหน้าอย่างมั่นใจว่าจัสติคอร์สามารถคว้าชัยชนะมาให้ฉันได้ ฉันจะได้เห็นฮาลเน่าตายในคุกดั่งใจหวัง "ถึงแอชจะมีประสบการณ์กฎหมายธุรกิจไม่เท่าแซค แต่เรื่องกฎหมายอาญากับกฎหมายแรงงานเนี่ย... ผมว่าจัสติคอร์ไม่แพ้ใครนะ"
"แล้วเราควรทำยังไง นี่มันเกมจิตวิทยาชัด ๆ" พี่เจหยิบบุหรี่ในมือของฉันไปสูบต่อหลังจากฉันรมควันปอดตัวเองมาสักพัก "ผมมั่นใจว่าหลักฐานที่พวกเรามีมันแน่นหนามากพอมัดตัวฮาลได้นะ"
"แน่นอนครับ สิ่งที่พวกเราต้องเห็นตรงกันคือวันเวลาที่เกิดเหตุและไทม์ไลน์ต่าง ๆ ซึ่งจะไม่มีอะไรถูกบิดเบือนทั้งนั้น ผมจะส่งไฟล์สำเนาของหลักฐานทั้งหมดให้พวกคุณ วันนี้เราจะนั่งเก็งด้วยกัน"
ฉันมองเห็นความหวังในแววตาเป็นประกายของจัสติคอร์ทั้งสาม แอมเบอร์และพี่เจ แอรันกับทีมใช้เวลาสืบถึงสามเดือนเพื่อเก็บข้อมูลสุดละเอียดเพื่อให้มีข้อบกพร่องน้อยที่สุด ข้อมูลและหลักฐานในมือพวกเราตอนนี้แน่นหนายิ่งกว่าโซ่ตรวนถ่วงขาเสียอีก แอชให้ฉันเล่าไทม์ไลน์นับตั้งแต่วันที่ได้รับว่าจ้างโดยกวินธาดามีเดียจนถึงวันเกิดเหตุล่วงละเมิดทางเพศลากยาวมาถึงปัจจุบัน ฉันจำวันเวลาได้ไม่แม่นนักแต่การได้เห็นหลักฐานแต่ละชิ้นช่วยกระตุ้นความจำอย่างดี
บรรยากาศการเตรียมตัวก่อนขึ้นศาลในคืนนี้ไม่ต่างจากการทำโปรเจกต์กลุ่มที่พวกเราทุกคนช่วยเหลือกันเพื่อให้ได้เกรดเอ แอมเบอร์ช่วยซัพพอร์ตแรงกายและกำลังใจด้วยเสบียงเครื่องดื่มเต็มโต๊ะ ขณะที่จัสติคอร์ดูแลข้อมูลรายละเอียดยิบย่อยของคดี แอชสวมบทบาทสมมติเหมือนขึ้นศาลจริง ๆ เพื่อให้พวกเราชินกับรูปคำถาม
เวลาล่วงเลยจนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน พวกเราหยุดทบทวน พับจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกซ์ทั้งหมดแล้วพักผ่อนเอกเขนกกันที่ลานระเบียง ที่เขี่ยบุหรี่แก้วทรงกลมก้นแบนเต็มไปด้วยก้นกรองสีเทาจากบุหรี่หลายมวนต่างยี่ห้อ ขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วางระเกะระกะทั่วลานระเบียง แอมเบอร์บอกว่าเธอยังมีไวน์อีกเยอะแต่ไม่อยากเมามากกว่านี้ ส่วนแอชมุ่งหน้าไปยังครัวใกล้ ๆ เพื่อทำกับแกล้มเพิ่มด้วยเมนูหัวหอมทอดโดยที่เจสทำหน้าที่หั่นผลไม้เพิ่มความสดชื่น ขณะที่แอรันนอนเหยียดขากับโซฟาตัวยาว จุดมวนที่เท่าไหร่ก็ไม่แน่ใจ... ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ปริมาณมาก
"มาแล้ว ๆ" แอชยกจานเซรามิคสีเขียวอ่อนเต็มไปด้วยหัวหอมทอดสีทองดูกรอบน่าทาน "กินให้อร่อยครับ"
"ขอบคุณทุกคนนะคะที่รับคดีนี้ไว้"
"มันเป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้วครับ พวกเราอยู่ข้างคุณนะ"
ความอบอุ่นสบายใจนี้ทำให้รู้สึกผ่อนคลายลง พวกเราพูดคุยเรื่องจิปาถะหัวเราะไปด้วยกันเพราะหลังจากนี้จะมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น แอชสารภาพว่านี่เป็นการทำหอมทอดครั้งแรกในชีวิต ทำให้รสชาติยังไม่กลมกล่อมนักแต่กินกับเบียร์ก็ไม่มีปัญหา พวกเราทั้งหกชนแก้วครั้งสุดท้ายก่อนแยกย้าย คืนนี้พวกเราพักอาศัยที่คฤหาสน์ของแอมเบอร์เพราะเมาเกินกว่าจะขับรถได้ เธอให้ผู้ช่วยเดินนำไปยังห้องนอนแขกชั้นสองซึ่งห้องหนึ่งก็เป็นของจัสติคอร์ที่มาคุ้มกันด้วย
ห้องนอนแขกสีเอิร์ทโทน มีเตียงควีนไซส์ทำความสะอาดเครื่องนอนใหม่ส่งกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมดอกไม้ ฉันซุกหน้าโอบกอดพี่เจแน่น เขาเป็นความอบอุ่นเดียวที่หัวใจต้องการในช่วงเวลาที่เหนื่อยที่สุดแบบนี้ เขากำชับให้จดจ่อกับปัจจุบันที่ตอนนี้มีเพียงเราสองคนในห้องนอน เรื่องคดีให้เป็นเรื่องของอนาคต
"เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกันนะ"
#แชมเปญไม่ยอม
เชิงอรรถ