ชาย-หญิง,อาชญากรรม,ดราม่า,รัก,สะท้อนปัญหาสังคม,สะท้อนสังคม,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง...
ภายในห้องพิจารณาคดีเต็มไปด้วยสื่อมวลชนหลากหลายสำนักข่าว ผู้ชมที่สนใจคดีเต็มห้องซึ่งรวมถึงจีน่าและครอบครัวของแชมเปญ เสียงกระซิบกระซาบของพวกเขาดังก้อง มันเป็นช่วงเวลาอึดอัดกดดันยิ่งกว่าตอนสัมภาษณ์งานเสียอีกเพราะมันแลกด้วยชื่อเสียงและชีวิตทั้งชีวิต ไม่ใช่แค่ของแชมเปญ แต่รวมถึงยินกับมาลีด้วย... เธอแพ้ไม่ได้
แอชสะกิดด้วยปลายนิ้วชี้พร้อมกับส่งสายตามองไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งมีฮาลกับทนายความแซค พวกเขาต่างสวมสูทสีเทาเข้มดูภูมิฐานเหมือนออกมาจากรูปบัตรประชาชน ผมยาวถูกปัดเรียบแปล้เงางามด้วยแว๊กซ์ แซคนิ่งสงบแต่คิ้วขมวดเมื่อสายตาสบเข้ากับแชมเปญและแอช ต่างจากฮาลที่ส่งยิ้มเย้ยหยันราวกับตอนนี้ชัยชนะอยู่ข้างเขาแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ
เมื่อผู้พิพากษาเวทินเข้ามาในห้อง ทุกคนยืนทำความเคารพ เสียงพูดคุยเงียบลงแล้วแทนที่ด้วยชัตเตอร์พร้อมแสงแฟลชสว่างวาบ ท่านพยักหน้าให้นั่งลงแล้วส่งสายตามายังแชมเปญบนแท่นโจทก์ ขอให้เธอยกมือพูดปฏิญาณว่าจะพูดทุกอย่างด้วยความสัตย์จริง ไม่มีอะไรนอกจากความจริง เธอเอ่ยพูดอย่างหนักแน่นจริงจัง ขณะที่อีกฝ่ายดูมีท่าทางเฉยเมยและรู้สึกเสียเวลาที่ต้องมาที่นี่
อัยการเป็นฝ่ายอธิบายต่อหน้าศาลว่าเธอยื่นฟ้องฮาลข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อกดขี่ข่มเหงพนักงานและล่อลวงค้าประเวณี ด้วยข้อหาทั้งหมดที่กล่าวมา หลักฐานทั้งสองฝ่ายมีมากพอที่ผู้พิพากษาพิจารณาคดีและมันรุนแรงเกินกว่าการไกล่เกลี่ยยอมความและนำพามาสู่วันไต่สวนสืบพยาน
"ผมขอเบิกตัวพยานคนแรก คุณเจ รุ่งรดิษ ภวิศสิปปกรขึ้นแท่นพยานครับ" จบคำพูดของแอช เจลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปขึ้นแท่นพยานโดยจัดปกเสื้อแคชชวลสูทสีดำเรียบร้อยของเขา เจกวาดตามองทุกคนในห้องด้วยแววตามั่นคง ก่อนจะจดจ่ออยู่กับแอชคนเดียว "แนะนำตัวพร้อมระบุความสัมพันธ์กับโจทก์ด้วยครับ"
“ผมเป็นแฟนของแชมเปญครับ พวกเราคบกันหลังจากที่งานเทศกาลภาพยนตร์สั้น Care Your Heart ครับ”
“ช่วยเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่คุณได้รับผลกระทบได้ไหมครับ” ทนายแอชถามเจซึ่งนั่งบนแท่นพยาน เจพยักหน้าพร้อมสบตามองทุกคนในห้องพิจารณาคดี
“ครับ ตลอดการทำงานที่บริษัทของจำเลยตลอดสี่ปี ผมได้รับผลกระทบจากจำเลยเพียงทางอ้อมเท่านั้น ส่วนใหญ่ผมจะเห็นเขาแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อพนักงานผู้หญิง เช่น ลอบแตะเนื้อต้องตัวพวกเธอและกดดันให้ทำตามคำสั่งครับ”
เมื่อเจพูดจบ ทนายแซคก็พูดเสียงดังขึ้นมาว่า
“คัดค้านครับ นี่เป็นการกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐาน”
“คำค้านตกไป...” ผู้พิพากษาส่งสายตาเย็นชาใส่ทนายฝ่ายจำเลยอย่างไม่ยี่หระ “ให้พยานเล่าต่อก่อน”
“นอกจากนี้ยังมีการขู่กดดัน หากไม่เข้าร่วมกิจกรรมส่วนตัวด้วยครับ” เจพูดต่ออย่างหนักแน่น ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างเขากับแชมเปญทำให้รับรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเจ้านายหัวงูอย่างฮาล เขารู้ว่าแชมเปญไม่โกหกเขาแน่เพราะที่ผ่านมาตลอดการคบกันไม่มีแม้แต่คำโกหกเดียว และเขาเห็นตลอดว่าฮาลทำอะไรเธอบ้าง
“คัดค้านครับ พยานทำงานคนละตึกสำนักงานกับจำเลย ไม่มีทางเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวได้ครับ!” แซคพูดเสียงดังขึ้นประกาศคำคัดค้านเพื่อปกป้องลูกความของเขา แม้ใบหน้าเรียบนิ่งแต่ก็เล็งมองฝั่งโจทก์ไม่หยุด
“แต่ผมมีหลักฐานข้อความแชทครับ!”
หลักฐานดังกล่าวที่เบิกขึ้นมาต่อหน้าศาลและผู้ชมคือข้อความแชทที่ฮาลส่งกดดันแชมเปญในวันพิจารณาผลประกอบการทดลองงาน วันนั้นไม่ได้มีเพียงการกระทำที่ลอบสัมผัสด้วยขวดน้ำเย็น
<หลักฐาน C: วันที่ 15 กันยายน 2044 เวลา 14.36 น.>
HAL_BIG BOSS: ทำตัวว่าง่ายแบบนี้แหละ เราจะได้ทำงานด้วยกันนาน ๆ
HAL_BIG BOSS: อย่าเปลี่ยนยี่ห้อลิปสติกนะ หวานดี
“ศาลที่เคารพ ข้อความแชทสามารถถูกปลอมแปลงได้นะครับ” แซคปกป้องลูกความตัวเองด้วยเหตุผลนั้น เพราะมีคดีไม่น้อยที่ปลอมแปลงข้อความเพื่อใส่ความอีกฝ่าย เพียงแต่คดีนี้ผู้พิพากษาไม่รีบตัดสินแบบนั้น
“ศาลจะพิจารณาหลักฐานอย่างรอบคอบที่สุด มีอะไรเพิ่มเติมอีกไหมครับ”
“หลักฐานพฤติกรรมไม่เหมาะสมอื่น ๆ ของจำเลยต่อแชมเปญอยู่ในคลิปวิดีโอก่อนหน้าหมดแล้วครับ” เขากล่าวจบแค่นั้น แอชหมดคำถามแล้วถึงตาของแซคในการซักพยานบ้าง ห้องพิจารณาเงียบสงัดน่าอึดอัด ฮาลไม่พูดออกความเห็นอะไรเลยเพราะเขารู้ดีว่าการกระทำของเขาส่งผลต่อการตัดสินคดี
ทนายแซคกระแอมก่อนจะโยนคำถามความสัมพันธ์ระหว่างเจกับแชมเปญ รวมถึงความสัมพันธ์ของฮาลกับแชมเปญโดยมีเป้าหมายในการสร้างภาพลวงตาให้ผู้ชมในศาลมองแชมเปญเป็นพนักงานสาวสำส่อนที่ชอบคลุกคลีกับพนักงานผู้ชายซึ่งนำไปสู่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างเธอกับฮาล แบบนั้นอดีตซีอีโอจะมีความผิดน้อยลงในทันที
แต่เพราะคำถามหว่านล้อมของแซคไม่มีเค้าโครงความจริงเลย ทำให้เจโมโหเป็นฟืนเป็นไฟกลางห้องพิจารณาคดีจนผู้พิพากษาต้องใช้ค้อนทุบโต๊ะให้สงบสติอารมณ์
“จริงอยู่ที่แชมเปญเคยชอบฮาล แต่มันไม่ใช่ความชอบแบบชู้สาวไง ไม่งั้นเธอไม่กลัวถึงขั้นร้องไห้มาหาผมในวันที่ถูกฮาลจูบที่งานภาพยนตร์สั้นหรอก และถ้าเธอรักฮาลแบบนั้น เธอก็ต้องปฏิเสธการหมั้นของผมไปหาเขาแล้วสิ” เจแผดเสียงสู้กับทนายอาวุโสที่ป้ายสีแฟนสาวของเขาด้วยความจอมปลอม “ดูจากในคลิปก็เห็นว่าเธอรังเกียจพฤติกรรมของฮาลขนาดไหน”
ไม่จบแค่นั้น แซคเบิกพยานอีกคนมาต่อสู้ในศาล คนนั้นคือ ทิม เลขานุการบริษัทกวินธาดามีเดียซึ่งเป็นมือขวาของฮาล ผู้ซื่อสัตย์ยิ่งกว่าสุนัข เพียงแค่เห็นหน้าพยาน แชมเปญถอนหายใจแรงครั้งหนึ่งด้วยความไม่แปลกใจที่คนอย่างเขาจะร่วมเป็นพยานให้ฮาลด้วย แอชแตะข้อมือของเธอเบา ๆ ให้เก็บอาการบ้าง
“ช่วยบอกความสัมพันธ์ของคุณกับจำเลยด้วยครับ”
“ผมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวและเป็นเลขานุการบริษัทกวินธาดามีเดียครับ” เสียงซิบซุบภายในห้องพิจารณาคดีกลับมาอีกครั้ง เพราะเรื่องฉาวโฉ่คดีเดอะซิตีี้ 2044 ยังครุกรุ่นและทุกคนจำหน้าของทิมได้
“ช่วยเล่าพฤติกรรมของโจทก์ในสถานที่ทำงานหน่อยครับ”
“ได้ครับ... ตลอดการทดลองงาน 3 เดือนของแชมเปญ เธอมีความใกล้ชิดกับฮาลมาก ๆ จนสังเกตได้เลยครับ และเธอไม่เคยปฏิเสธการออกงานนอกสถานที่ด้วยบ่อยครั้ง” ทิมปั้นน้ำเป็นตัว ทำให้ฮาลยกยิ้มหวานอย่างไม่เก็บอาการ ขณะที่แซคยังคงความนิ่งเฉยใต้หน้ากากไว้อยู่ “นอกจากนี้ เธอยังชอบแต่งกายไม่เหมาะสมมาทำงานด้วยครับ แต่เมื่อผ่านทดลองงานก็ดูห่างเหินมากขึ้น แต่งกายมิดชิดมากขึ้นครับ”
“คัดค้านครับ พยานตั้งใจกล่าวหาโจทก์ให้เสียหาย”
แอชยกมือสูงเหนือหัว แต่ศาลให้คำค้านตกไปเพราะพยานฝั่งจำเลยมีหลักฐานเป็นไฟล์รูปภาพจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นภาพจากโทรศัพท์มือถือของทิมที่ถ่ายรูปชุดทำงานของแชมเปญส่งให้ฮาลดู ชุดเหล่านั้นเป็นเสื้อยืด กระโปรงสั้นเหนือเข่าทับด้วยเบลเซอร์ เสื้อสายเดี่ยวกางเกงขายาวรัดรูป แม้แต่เดรสรัดรูปกับรองเท้าส้นสูง
ภาพถ่ายเหล่านั้นอยู่ในอากัปกิริยาแตกต่าง แม้ส่วนใหญ่เป็นการพูดคุยกับเลขานุการสาวคนอื่น ๆ ในกลุ่ม แต่ผู้ชมทุกคนสามารถเห็นทรวดทรงของทรวงอกและเอวคอดอย่างชัดเจนของแชมเปญผ่านภาพ พวกเขาส่งเสียงตามหลังจนกระทั่งปิดภาพหลักฐาน แชมเปญหน้าเสียและซีดเป็นไก่ต้มเพราะตลอดระยะเวลาหลายเดือนในการทำงานที่จีมีเดีย เธอมีสไตล์การแต่งกายที่หลากหลายไม่ซ้ำอิงตามสีมงคล แต่เธอไม่แต่งตัวยั่วฮาลแน่ แม้จะเป็นการออกงานข้างนอก
“แล้วคุณเห็นโจทก์แต่งกายแบบนั้นเข้าหาจำเลยรึเปล่าครับ”
“คัดค้าน! คำถามชี้นำครับ!” แอชแทรกขึ้นมาและเวทินยอมรับข้อคัดค้านนั้น ทำให้แซคต้องตั้งคำถามใหม่เพื่อโจมตีโจทก์อย่างแชมเปญ
“นอกเหนือจากการแต่งกาย... มีอย่างอื่นอีกไหมครับ”
“ความจริงแล้วไม่ใช่แค่แชมเปญที่เข้าหาฮาลหรอกครับ มีบ้างที่ผมเห็นฮาลเข้าหาแชมเปญอย่างตั้งใจ” คำให้การแบบนั้นทำให้ผู้ชมในห้องพิจารณามีความประหลาดใจมากกว่าเดิม “ผมไม่ค่อยอยากยุ่งหรอกครับ ถ้าฮาลจะชอบใคร ผมไม่ได้มีหน้าที่ห้ามเขา แค่ดูความเรียบร้อยของจีมีเดียก็เหนื่อยจะแย่แล้ว”
“ที่ว่าจำเลยเข้าหาโจทก์อย่างตั้งใจนี่ยังไงเหรอครับ ช่วยอธิบายเพิ่มที”
“ผมเคยแอบเห็นฮาลจูบเธอในห้องทำงานครับ”
ไม่ว่าคำให้การนี้จะเป็นความจริงหรือไม่ แต่ทุกฝ่ายกำลังสับสนเกี่ยวกับจุดยืนของพยานคนนี้โดยเฉพาะผู้พิพากษาที่คิ้วขมวดแน่นกว่าใคร
“ปฏิกิริยาของโจทก์ตอนนั้นเป็นยังไงครับ”
“เธอก็ไม่ได้ขัดขืนนะครับ แบบ... นานเลยแหละกว่าจะขัดขืน สักนาทีสองนาที” ทิมกำลังทำให้แชมเปญถูกมองว่าเป็นคนที่สมยอมต่อฮาล มันดูเหมือนจะสำเร็จจากปฏิกิริยาของนักข่าวที่ลั่นชัตเตอร์กล้อง “ตอนนั้นเป็นช่วงทดลองงานของเธอนะครับ ผมรู้แค่ตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานกับจีมีเดีย เธอมีความรู้สึกส่วนตัวที่ชอบฮาล จนกระทั่งช่วงท้าย ๆ ของเดือนแรก เดือนสองที่เธอดูสนิทสนมกับเจมากกว่า”
“คุณคิดว่าการคบกันและหมั้นหมายอันรวดเร็วระหว่างโจทก์กับจำเลย มีนัยยะสำคัญยังไงบ้างครับ”
“คัดค้าน! คำถามชักนำครับ!”
การสืบพยานยืดเยื้อเป็นชั่วโมงด้วยคำถามไม่รู้จบด้วยเจตนาของแซคที่ต้องการทำให้ผู้พิพากษา ทนายความฝั่งตรงข้าม รวมถึงผู้ชมในห้องพิจารณาคดีได้รับความสับสน กว่าแอชจะไหวตัวทัน ศาลก็ออกคำสั่งให้พักการพิจารณาคดีในวันพรุ่งนี้แล้ว
แชมเปญแสบคอมากจนทนนั่งต่อไม่ไหว เธอวิ่งออกจากห้องพิจารณาไปยังห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด สำรอกน้ำย่อยลงชักโครกร่วมห้านาทีพร้อมปล่อยน้ำตา เธอมองไม่เห็นหนทางชนะได้เลยจากสถานการณ์ของวันนี้ แม้คำตัดสินยังไม่ออก แต่สายตาภายนอกและโซเชียลมีเดียก็ตัดสินเธอไปแล้วว่าเป็นคนยังไง
มาลีและสองสาวจากจัสติคอร์ตามดูอาการของแชมเปญอย่างใกล้ชิดที่ห้องน้ำ ไม่เว้นแม้แต่สื่อมวลชนบางกลุ่มที่ให้ความสนใจกับเหยื่อมากกว่าผู้ก่อเหตุ หนุ่ม ๆ เฝ้าอยู่หน้าห้องน้ำโดยกั้นสื่อไว้ปล่อยให้สาว ๆ ดูแลกัน
“แชมเปญ... หายใจก่อนนะลูก เป็นอะไร... มองแม่สิ ๆ” มาลีกอดลูกสาวในอ้อมแขนขณะที่แชมเปญกำลังมีอาการแพนิกกำเริบจากความเครียดเกินรับไหว น้ำตาอาบหน้าอย่างสิ้นหวัง รู้สึกว่าการแก้แค้นนี้เป็นแผนที่งี่เง่า มาลีไม่เคยรู้เลยว่าลูกมีอาการแพนิกจนกระทั่งเห็นกับตา
“มันเป็นแผนของแซคที่ต้องการทำให้สังคมโทษเหยื่อคุกคามทางเพศ มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ แต่พรุ่งนี้ีพวกเราจะไม่อ่อนข้อให้พวกเขาค่ะ ทุกคนจะได้เห็นว่าฮาลเป็นไอ้ลวงโลก” นั่นคือสิ่งที่เก้ากระซิบต่อแชมเปญ ย้ำเตือนเป้าหมายของการแก้แค้นครั้งนี้ให้ขึ้นใจ เพราะจัสติคอร์เองก็ไม่อยากแพ้ให้กับปีศาจลวงโลกอย่างฮาล แม้เขาจะเป็นศัตรูที่ปราบยากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาก็ตาม “พวกเราจะไม่แพ้ค่ะ คุณแชมเปญ”
เธอนอนบีบมือของแม่แน่นพร้อมกับพูดขอโทษนับครั้งไม่ถ้วน ขอโทษที่ไม่บอกว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง ขอโทษที่ปิดบังเรื่องราวเหล่านี้ไว้ลับหลัง แต่มาลีไม่โกรธลูกสาวเลยเพราะหากเป็นตัวเองคงทำไม่ต่างกัน มาลีขอให้เธอหยุดโทษตัวเองและจะยืนหยัดสู้ด้วย
สื่อภายนอกตีข่าวสารพัดโดยแบ่งประชาชนเป็นสองฝั่งคือฝั่งที่เข้าข้างแชมเปญ มองว่าเธอเป็นเหยื่อที่น่าสงสารผู้โดนเอาเปรียบโดยเจ้านายอย่างไม่อาจจินตนาการความเลวร้าย การเรียกร้องของแชมเปญทำให้เหยื่อจำนวนมากส่งเสียงออกมาว่าเคยถูกปฏิบัติแบบคล้าย ๆ กัน ส่วนฝั่งที่เข้าข้างฮาลซึ่งเชื่อตามคำป้ายสีว่าแชมเปญเข้าหาฮาลเพื่อหวังผลประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีทฤษฎีสมคบคิดอีกมากซึ่งเกินการควบคุมไปแล้วราวกับโลกทั้งใบหยุดเพื่อติดตามความฉาวโฉ่ในกวินธาดามีเดียเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือแชมเปญยังยอมแพ้ไม่ได้
ขณะที่แชมเปญทรมานกับอาการเครียดและแพนิกกำเริบ ฮาลขับรถกลับบ้านโดยไม่ยี่หระต่อสื่อมวลชนที่รอถามจี้และขับรถตาม การต่อสู้นี้ยังไม่จบ เขามั่นใจว่าศาลเข้าข้างตัวเองเพราะเขามีอำนาจมากกว่า ประเทศนี้เชิดชูคนมีอำนาจไม่ใช่คนชนชั้นกลางที่ทำงานไปวัน ๆ
วันต่อมา ทนายของสองฝ่ายกล่าวสรุปคดีในมุมมองที่แตกต่างกันก่อนเริ่มสืบพยานต่อ แอชขอให้สังคมตระหนักถึงการใช้อำนาจในทางที่ผิดของฮาลเพื่อเอาเปรียบพนักงานจนลืมมองเธอเป็นมนุษย์คนหนึ่งไม่ใช่วัตถุทางเพศ ขณะที่แซคพยายามพูดให้พิจารณาการกระทำของแชมเปญอย่างรอบด้านเพราะฮาลต่างหากคือผู้ถูกเอาเปรียบและตกที่นั่งลำบากตอนนี้
ห้องพิจารณาคดีเงียบงันกระทั่งเริ่มไต่สวน วันนี้หนึ่งในพยานปากสำคัญของแชมเปญคือฮาร์ทสมิธสอง ผู้ดูแลอาการแพนิกของเธอ เขายืนยันต่อหน้าศาลด้วยเอกสารการแพทย์และใบสั่งยาให้เธอ เขาดูแลอาการของแชมเปญหลังเกิดเหตุที่ออฟฟิศกวินธาดามีเดียพร้อมอธิบายอย่างละเอียดว่า แพนิกเกิดจากการถูกกระตุ้นในสถานการณ์ตึงเครียดมาก ๆ สำหรับแชมเปญนั้น เธอมีความเครียดและกลัวในการเผชิญหน้าฮาลหลังจากทำงานด้วยประมาณสองเดือน
ผู้พิพากษาไม่กังขาต่อการอธิบายของฮาร์ทสมิธหนุ่มและขอให้ทนายแซคซักพยานต่อตามเหมาะสมแต่ขอให้ระวังการตั้งคำถามเพื่อไม่ให้เสียเวลาราวกับจับไต๋ลูกไม้ของแซคได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีหลักฐานใหม่ที่เพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือให้กับแชมเปญ นั่นคือไฟล์เอกสารร้องเรียนพฤติกรรมไม่เหมาะสมภายในบริษัทซึ่งพนักงานผู้หญิงประมาณ 10 คนที่ทำงานภายในอาคารสำนักงานใหญ่กวินธาดามีเดียมักถูกปฏิบัติใกล้เคียงกับแชมเปญแม้ไม่รุนแรงเท่าแต่เป็นการคุกคามไม่ต่าง
แอชส่งหลักฐานในซองให้ผู้พิพากษาเวทินพิจารณาพร้อมกับแสดงต่อหน้าผู้ชมผ่านจอโปรเจคเตอร์ ข้อมูลทั้งหมดเขียนด้วยลายมือพร้อมเซ็นลงนาม ด้วยนวัตกรรมการพิจารณาในชั้นศาลตรวจสอบพบว่าทั้งหมดเขียนโดยคนจริง ๆ ไม่ใช่การปลอมแปลงโดยคนใดคนหนึ่ง
ขณะเดียวกัน คลินท์เป็นพยานปากสำคัญของฮาลเพื่อยืนยันพฤติกรรมของแชมเปญต่อฮาล การเบิกตัวของคลินท์เป็นดั่งดาบสองคมเพราะเพียงแค่สบตาก็ทำให้หัวใจของหญิงสาวสั่นรัวด้วยความกลัว ภาพเหตุการณ์วันนั้นยังคงชัดเจนแจ่มแจ้ง แต่เพราะคลินท์ใกล้ชิดกับฮาลจึงได้เห็นปฏิิกิริยาหลายอย่างของสองหนุ่มสาวภายในห้องทำงาน
“ระบุความสัมพันธ์ของคุณกับจำเลยด้วยครับ” แอชเป็นฝ่ายซักพยานต่อจากแซค แม้ในใจกำลังลำพองเพราะหลักฐานมากมายในมือตอนนี้สามารถทำให้ฮาลแพ้ทันทีโดยไม่ต้องสู้อีกต่อไปแต่ยังคงใบหน้าเรียบนิ่งไม่เผยไพ่ไม้ตายตอนนี้
“ผมเป็นลูกพี่ลูกน้องของฮาลครับ ปกติผมจะอยู่ที่อเมริกาจะแวะมาหาฮาลบางครั้งเพื่อคุยธุรกิจกันครับ”
“ธุรกิจอะไรเหรอครับ” คำถามจี้ข้อแรกเริ่มขึ้น แซคยกมือขอคัดค้านเพราะไม่เห็นความเกี่ยวข้องแต่ศาลตีตกไป อนุญาตให้แอชถามต่อได้
“นำเข้าส่งออกสินค้าครับ จำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอ”
“ปกติคุณคุยธุรกิจกับจำเลยที่ไหนเหรอครับ”
“ก็คุยที่ห้องทำงานของเขานั่นแหละครับ นัดเจอที่ออฟฟิศง่ายที่สุดแล้ว ไม่ต้องเดินทางไกลมาก บอกตามตรงว่าช่วงแรกผมชอบคุยที่ห้องทำงานของฮาลเพราะผมชอบคุณแชมเปญนะ เธอเป็นคนมีอัธยาศัย น่ารักมากด้วย ใคร ๆ ก็ชอบผู้หญิงอัธยาศัยดี ผมไม่โทษหรอกนะ ถ้าฮาลจะชอบเธอเหมือนกัน” น้ำเสียงมั่นหน้ามั่นใจของคลินท์ทำให้แชมเปญและเจรู้สึกขยะแขยง
“แล้วคุณไปทำอะไรถึงได้ถูกสั่งห้ามเข้าออฟฟิศกวินธาดามีเดียของลูกพี่ลูกน้องคุณล่ะ”
คลินท์ปฏิเสธความจริงไม่ได้ที่วันนั้นตนจู่โจมแชมเปญอย่างประสงค์ร้ายเพื่อให้เธอเป็นสินค้าชิ้นถัดไปในระยะเวลาสองเดือนที่รู้จักกัน หนำซ้ำเจซึ่งไม่มีส่วนเกีี่ยวข้องกับธุรกิจด้วยก็เข้ามาทำลายแผนของเขาพังไม่เป็นท่า แอชแสดงหลักฐานแชทของแชมเปญต่อหน้าศาลที่ฮาลระบุชัดเพื่อ ‘ขอโทษ’ และ ‘ห้ามไม่ให้คลินท์เข้าออฟฟิศอีก’
ฮาลเป็นฝ่ายหน้าเสียเพราะตนลบข้อความทิ้งไปแล้ว ความสะเพร่าทำให้คิดว่าแชมเปญจะลืมมันไปแต่ไม่เลย... ไม่เพียงแค่นั้น แอชยังถามจี้เกี่ยวกับไฟล์เอกสารเดอะซิตี้ 2044 ซึ่งเป็นชื่อของอดีตลูกจ้างตำแหน่งเลขานุการนายการันต์รวมถึงชื่อของแชมเปญด้วย พร้อมกับระบุรายนามลูกค้า ประเทศที่ตั้งและค่าแลกเปลี่ยน นี่เป็นอีกครั้งที่ห้องพิจารณาคดีเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องด้วยความประหลาดใจและกลัว ไม่มีใครได้รู้เรื่องพวกนี้มาก่อน
“ทำไมชื่อสินค้าของพวกคุณถึงเป็นผู้สมัครตำแหน่งเลขานุการส่วนตัวประธานบริหารบริษัทล่ะครับ”
คลินท์อาละวาดเมื่อเห็นข้อมูลหลุดไปถึงมือของอีกฝ่ายได้พร้อมก่นด่าว่าแชมเปญเล่นสกปรกเพื่อเข้าถึงข้อมูลของเขา แววตาแดงก่ำของเธอจดจ้องมองสองพี่น้องอย่างสมเพชพร้อมส่งยิ้มให้ เพราะถึงคลินท์จะพูดแบบนั้นก็ไม่ใช่การปฏิเสธข้อเท็จจริงที่ตนกับฮาลตั้งใจล่อลวงผู้สมัครตำแหน่งเลขานุการซีอีโอสำหรับงานสกปรกของเขา
สิ่งที่แซคทำเพื่อแก้สถานการณ์คือการเบิกพยานจากเดอะซิตี้ 2044 อย่างไทเลอร์ เกรย์มาให้ปากคำผ่านออนไลน์เพราะเขาติดธุระไม่สะดวกเข้าศาล แม้ภาพลักษณ์จะแปลกสำหรับฝั่งฮาลที่เบิกตัวคิงพินแห่งไนท์ซิตี้มาขนาดนี้ แต่เขาต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อทวงความบริสุทธิ์ให้กับลูกความ
“ช่วยอธิบายธุรกิจของฮาลที่ประกอบการในเกรย์ คาสิโนทีครับ” แซคเอ่ยถามพยานปากใหม่
“เขาเจรจากับผมเพื่อให้ยกห้องโรงแรมส่วนหนึ่งของเกรย์คาสิโนปล่อยเช่าทำธุรกิจครับ ทีแรกเขาพูดแบบนั้นนะ ซึ่งทีแรกผมเข้าใจว่าจะรีโนเวทห้องเป็นห้องสำหรับ staycation น่ะเพราะปัจจุบันพวกฟรีแลนซ์สายดิจิทัลโนแมดเยอะ แต่เปล่าเลย... เขาใช้มันค้าบริการกับลูกค้าหลากสัญชาติ ทุกการซื้อขายเป็นเงินสดทั้งหมดด้วย” เสียงพูดเปี่ยมความสะใจแสดงออกชัดเจนอย่างไม่ต้องตีความใด ๆ “ผมมีเวลาไม่มาก... ผมจะพูดให้ฟังเลยแล้วกันนะว่า เกรย์คาสิโนไม่มีส่วนได้เสียประโยชน์อะไรกับฮาลเลย นอกจากค่าพักค้างคืน”
ไทเลอร์ยกเลิกการคุยสายแล้วหายไปในกลีบเมฆ ทิ้งให้ห้องพิจารณาคดีเต็มไปด้วยความโกลาหล ฮาลล้มตึงลงกับพื้นเมื่อได้ยินคำพูดของไทเลอร์ ความช่วยเหลือที่เคยขอไปถูกแทนที่ด้วยการหักหลังอย่างเลือดเย็น ทนายความสองฝ่ายหมดคำถามที่มีต่อพยานและขอให้ศาลพักเป็นเวลาสองชั่วโมงเพื่อพิจารณาคดีอีกครั้ง แซคไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างมากราวกับตนถูกลูกความสวมเขาตลอดการเตรียมตัวก่อนขึ้นศาลจนไม่รู้จะเชื่อความจริงชุดไหน คดีของแชมเปญมันยิ่งกว่าเรื่องฉาวในออฟฟิศกวินธาดามีเดียเสียอีก ขณะเดียวกันแซคก็ไม่อาจเข้าใจว่าแอชมีหลักฐานทั้งหมดนั้นจากไหน แต่มันไม่ใช่การปลอมแปลงแน่ ๆ
“สูบบุหรี่หน่อยมั้ย” แอชชวนทนายผู้อาวุโสกว่าไปคุยส่วนตัวหลังจากที่ผู้พิพากษาประกาศพักสองชั่วโมง “ผมว่าคุณมีคำถามเยอะ อีกอย่างตอนนี้คดีพังไม่เป็นท่าแล้วด้วย”
“ได้ แค่มวนเดียวนะ ผมไม่ควรจะคุยกับคุณด้วยซ้ำ”
ทนายความทั้งสองมุ่งหน้าไปยังห้องสูบบุหรี่ภายในอาคารเพียงลำพัง พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นและองค์กรจัสติคอร์ซึ่งเป็นสังกัดที่แอชทำงานด้วย ทนายผู้อายุน้อยกว่าเล่าเพียงว่าตนเองตกใจไม่ต่างกับแซคหลังจากที่ได้เห็นหลักฐานเหล่านั้นแล้ว เขาไม่ได้เล่าวิธีการทำงานของจัสติคอร์ แต่ก็ไม่คิดว่าไทเลอร์จะเฉดหัวส่งฮาลแบบนั้นเช่นกัน ความผิดของฮาลมากเกินปกปิด แม้แต่คิงพินแห่งไนท์ซิตี้ก็ตาม
“ถ้าเกินการควบคุมแบบนี้ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลแล้วล่ะ” แซคพ่นควันบุหรี่สีขาวออกจากปากเหี่ยวซีด “แบบนี้มันยากเกินไปหน่อย”
“แล้วคุณจะยอมแพ้รึยัง”
“ไม่... อย่างน้อยผมก็ยังมีคะแนนนำคุณอยู่นะ”
“แต่คุณก็แพ้ไปแล้วนี่ หรืออยากให้ผมเบิกพยานเพิ่มอีกล่ะ”
เมื่อหมดเวลาพักสองชั่วโมง ทุกคนกลับเข้าห้องพิจารณาอีกครั้ง ต่อไปนี้คือการสรุปคดีครั้งสุดท้ายของทนายเพื่อให้ทุกคนมองเห็นภาพเดียวกันที่แชมเปญและพนักงานหญิงอีกมากมายในบริษัทกวินธาดามีเดียตกเป็นเหยื่อพฤติกรรมต่ำช้าของฮาลซึ่งไปไกลถึงขั้นการค้าบริการ ค้ามนุษย์ใต้จมูกของเดอะซิตี้ หรือ การแสดง คำลวงของเหยื่อที่ปั้นน้ำเป็นตัวโดยเริ่มจากความรักความชอบแล้วบานปลายไปถึงการอยากทำลายชีวิตคนหนึ่งคน
ไม่ว่าผลสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร แชมเปญรู้ดีแก่ใจว่าตลอดระยะเวลาทำงานที่กวินธาดามีเดีย เธอเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง หลักฐานของเธอพูดทั้งหมดแล้ว
ตอนนี้ที่หน้าศาลไม่ได้มีเพียงสื่อมวลชนไทยยังมีต่างชาติด้วย แสงแฟลชสาดเข้าหน้าพร้อมกับเสียงของนักข่าวตะโกนถามหาข้อเท็จจริงต่าง ๆ นานา ตอนนี้เหลือเพียงฟังคำตัดสินของผู้พิพากษาเวทินเท่านั้น
"ศาลมีความเห็นว่านายการันต์ กวินธาดา มีความผิดจริงข้อหาล่วงละเมิดทางเพศโจทก์ นางสาวมณีลักษณ์ อธิษฐ์โภคินโดยใช้อำนาจในทางมิชอบหนึ่งกระทง" น้ำตาหลั่งรินจากดวงตาทั้งสองข้างของแชมเปญเมื่อได้ยินคำตัดสินชัดเจนนั้น "ข้อหาล่อลวงเพื่อค้าประเวณี ศาลมีความเห็นว่า... มีความผิดจริง พฤติกรรมของคุณมีความอุกอาจรุนแรงและไม่ปฏิบัติต่อพนักงานลูกจ้างเหมือนมนุษย์ ที่แย่กว่าคุณมองพวกเขาเป็นวัตถุทางเพศเท่านั้น ไม่ว่าจะด้วยฐานะผู้ว่าจ้างหรือมนุษย์ด้วยกัน นี่คือคดีที่โหดร้ายทารุณที่สุด ศาลจึงตัดสินโทษให้นายการันต์ กวินธาดาจำคุก 50 ปี ไม่สามารถประกันตัวและจ่ายสินไหมทดแทนต่อโจทก์และผู้เสียหายครอบครัวละ 2 ล้านบาท"
นอกจากนี้ในคดีอื่น สองลูกสมุนของฮาลก็ติดคุกคนละ 25 ปี ข้อหาสมรู้ร่วมคิดการค้าประเวณี นอร์ทได้รับโทษหนักพอ ๆ กับฮาลเพราะเขาฆ่าคนด้วย ส่วนคลินท์ได้รับโทษ 15 ปีตามคำพิจารณาของผู้พิพากษาและหลักฐานของแชมเปญ เมื่อค้อนทุบโต๊ะสองครั้งเป็นอันปิดคดี ความยุติธรรมอยู่ข้างพวกเขาอย่างที่จัสติคอร์ให้คำสัญญาไว้จริง ๆ แชมเปญได้แต่กุมหน้าร้องไห้ ขณะนั้นเองก็มีเสียงแผดดังก้องจากฮาล เขาพุ่งตัวไปยังบัลลังก์ผู้พิพากษาตะคอกบางอย่างที่ได้ยินไม่ถนัดนัก ได้แต่เดาว่าเขาคงไม่พอใจที่ทุกอย่างผิดแผนไปหมด ตั้งแต่ข้อมูลสินค้า The City 2044 รั่วไหลมาถึงจัสติคอร์ และไทเลอร์ เกรย์ที่เฉดหัวส่งเขาต่อหน้าศาลอย่างน่าอับอาย
"กูไม่ได้จ่ายเงินให้มึงหักหลังกูนะ ไอ้เวทิน ไอ้เหี้ย!"
"การ์ด!! เอามันไปขัง!!"
นี่เป็นครั้งแรกที่แชมเปญได้เห็นฮาลแตกสลายต่อหน้าต่อตา แต่เขาทำตัวเองทั้งนั้น นั่นคือผลลัพธ์ที่เขาสมควรได้รับ เธอ ครอบครัว เจและจัสติคอร์มุ่งหน้าออกจากศาลพร้อมกัน มันเป็นความตื้นตันและเปี่ยมล้นจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกเพราะในที่สุดมันจะจบลงเสียที ไม่มีใครตกอยู่ใต้พันธนาการบิดเบี้ยวของฮาลอีกต่อไปโดยเฉพาะเหล่าพนักงานบริษัทกวินธาดามีเดีย
-จบ-
