มาเกิดใหม่เป็นทาสหน้าบากไม่พอ! ยังต้องมาเป็นของเล่นให้พวกสาวชั้นสูงอีก!!
หญิง-หญิง,ยูริ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูงเปรี้ยง !
เสียงแส้ฟาดลงกลางแผ่นหลังจนเสื้อขาด นำพาความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่าง กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งตีขึ้นจมูก บ่งบอกได้ชัดว่านี่ไม่ใช่แผลแรกของวัน เปลือกตาช้ำ ๆ ค่อย ๆ เปิดขึ้นช้า ๆ เมื่อสายตาเริ่มปรับจนชินกับแสงแดด เบื้องหน้าที่เห็นคือชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ที่ดูโกรธเกรี้ยว เขาอยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีขาวติดคราบเหลืองชุ่มเหงื่อกับกางเกงสีน้ำตาลเก่าขาด ๆ ใบหน้าไปทางชาวตะวันตก การันตีด้วยตาสีขาวขุ่นเหมือนน้ำข้าวและผมสีทองซีด ๆ ที่มีผมหงอกแซม
‘ไอ้ปากเหม็นนี่มันเป็นใครกันวะ?’
กลิ่นลมหายใจมันแรงฉิบหาย .. เกวสับสนงุนงงไปหมด เธอไม่เคยเจอไอ้หมอนี่มาก่อน แถมชุดที่เกวใส่อยู่ตอนนี้ก็เป็นชุดเดรสผ้าฝ้ายสีขาวสไตล์วินเทจที่เกวไม่มีวันเสียเงินซื้อ
‘ปลอกคอบ้าไรเนี่ย?’
ที่ลำคอของเธอมี “ปลอกคอสีดำ” สวมอยู่ ใครหน้าไหนมันกล้าเอาของไร้รสนิยมมาใส่ให้แฟชั่นนิสต้าอย่างเธอ
เกวเริ่มกวาดสายตาไปทั่วบริเวณนั้น บรรยากาศรอบข้างไม่คุ้นชิน ใกล้ ๆ มีกระท่อมไม้ผุพังหลังเล็ก มุงหลังคาด้วยสังกะสีเขรอะสนิม ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกสีเหลืองคล้ายดอกมัสตาร์ดสุดลูกหูลูกตา ถัดไปด้านหลังไกลลิบเป็นหุบเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มแต่ยอดบนเป็นสีขาวโพลนจากการทับถมของหิมะ วิวและอากาศไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทยแน่ ๆแต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากถาม บุรุษผู้นั้นก็ฟาดแส้ม้าลงมาซ้ำรอยเดิมจนสัมผัสได้ว่าเลือดซิบ
อ๊ากกกกก!เจ็บโว้ย !!
“อัล แกมันเลี้ยงไม่เชื่อง”
น้ำเสียงแหบพูดด้วยภาษาแปลก ๆ แต่เกวกลับฟังรู้เรื่อง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย? หรือว่าไอ้หน้าเหี้ยมนี่จะจับตัวเรามา เกวก้มมองแขนตัวเองสองข้างที่ถูกล่ามโซ่ไว้ แขนของเธอดูลีบกว่าตอนส่องกระจกเมื่อเช้า แต่ที่เกวตกใจกว่านั้นก็คือรอยสักรูปนกพิราบที่แขนขวาหายไป ฉับพลันความทรงจำสุดท้ายก็พุ่งตรงกลับเข้ามาในห้วงความคิด
“อย่าหยุดนะคะพี่เกว”
เมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา เกวกำลังทดลองใช้ Sex toy ชิ้นใหม่ที่เพิ่งนำเข้ามาจากญี่ปุ่นสด ๆ ร้อน ๆ กับน้องวันเสาร์ หรือคู่นอนประจำวันเสาร์ของเธอ ให้ตายเกวก็นึกชื่อจริงของเด็กสาวผมไฮไลต์สีม่วงไม่ออก ที่นึกออกอย่างเดียวคือหน้าฟิน ๆ ตอนที่เกวขยับแท่งสั่นรุ่นลิมิเต็ดเป็นจังหวะจนร่างบางสั่นสะท้านในอ้อมแขน
ภาพชิ้นส่วนความทรงจำค่อย ๆ ปะติดปะต่อกัน หลังจากที่เกวส่งเด็กสาวขึ้นสวรรค์ไปหลายรอบ เธอก็ขับรถตรงกลับบ้าน และตอนนั้นเองที่รถบีเอ็มของเกวจอดสนิทติดยาวอยู่ตรงเส้นถนนพระรามสอง สะพานคอนกรีตก็ร่วงพังลงมาดังครืนประหนึ่งฟ้าถล่ม!!!!!
‘นี่เราตายแล้วเหรอ?’
วัยเบญจเพสที่เหล่าสายมูพร่ำเตือนให้ระวังแต่เกวกลับคิดว่าไร้สาระ .. นี่อาจเป็นนรกก็ได้ เพราะเธอกำลังถูกชายแปลกหน้าทารุณกรรมอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“แกคิดว่าเงิน 2000 รูน จะช่วยให้แกหนีไปจากที่นี่ได้งั้นเหรอ? ไอ้โง่เอ๊ย คิดผิดแล้วที่มาขโมยเงินฉัน”
“ที่นี่ที่ไหน?”
คำถามที่ดูโง่มากแต่ไม่ถามไม่ได้ ทำเจ้าของร่างใหญ่หัวเราะอย่างขบขัน
“โดนฟาดจนสมองเสื่อมเลยเหรอวะอัล?”
“ฉันไม่ใช่อัล!”
มือหนากระชากศีรษะเกวขึ้น แล้วจุ่มหัวเกวลงไปที่ถังน้ำใกล้ ๆ จังหวะที่เกวกระเสือกกระสนขึ้นมาหาอากาศหายใจ เงาบนผิวน้ำที่สะท้อนกลับไม่ใช่เงาของหญิงสาวหน้าหมวยผมดำขลับผู้ชอบกรีดอายไลน์เนอร์เส้นคมกริบ แต่กลับเป็นเงาของหญิงสาวหน้าดุ จมูกโด่งคนหนึ่ง สีผมกับสีตาของเธอเป็นสีเทาราวกับผงขี้เถ้า ดวงตาอิดโรย ผมยุ่งเหมือนไม่รู้จักหวี ผิวขาวซีดเช่นคนขาดสารอาหาร ร่างผอมซูบจนกระดูกโผล่ ปากแห้งผาก แม้จะคุกเข่าอยู่แต่กะได้ว่าเจ้าของร่างนี้น่าจะสูงประมาณร้อยเจ็บสิบกว่า จุดเด่นบนใบหน้าที่เตะตาผู้พบเห็นคือรอยบากที่แก้มซ้าย
ซู่!!!!!!!!!
ไอ้ปากเหม็นสาดน้ำใส่เธอจนหมดถัง เนื้อตัวเปียกม่อล่อกม่อแล่กตั้งแต่หัวจรดเท้า หยดน้ำที่ไหลผ่านแผลที่หลังสร้างความแสบไปทุกโสตประสาท เกวไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ในร่างนี้ได้ .. ไม่เข้าใจสักนิด .. หรือว่าวิญญาณเธอออกจากร่าง?
“ไอ้ทาสชั้นต่ำ! แกต้องทำงานชดใช้ฉันไปจนวันตาย!!”
บ้า! นี่มันเรื่องบ้าชัด ๆ!!
ผู้หญิงหน้าเสียโฉมคนนี้เป็นใคร??
แล้วที่นี่มันที่ไหนกันแน่???