มาเกิดใหม่เป็นทาสหน้าบากไม่พอ! ยังต้องมาเป็นของเล่นให้พวกสาวชั้นสูงอีก!!
หญิง-หญิง,ยูริ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง“อัลม่าอยู่ที่ไหน?”
ประโยคแรกที่เซเลน่าถามไลล่าหลังจากหมดสติไปสี่วันเต็ม ถ้าไม่ได้ไลล่าที่สงสัยว่าเหตุใดบารอนเนสถึงลงไปรับประทานอาหารเช้าช้า เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลเข้มคงได้ลงไปเยือนยมโลกตั้งแต่คืนนั้น
“ข้าไม่รู้ค่ะ มันหายตัวไป เธอเป็นคนตีหัวท่านใช่มั้ยคะ?”
หญิงหม้ายเจ็บแผลที่ท้ายทอยจนทำหน้าเหยเก หมอบอกว่าโชคดีมากที่ไม่ถูกฟาดโดนจุดสำคัญ เธอรอดมาได้อย่างฉิวเฉียด เพราะฉะนั้น เธอจะไม่มีวันให้อภัยคนที่ทำเธอเจ็บปางตาย
“ไปตามหาอัลให้เจอ! ไป!! ไปเดี๋ยวนี้!!”
อัลมาจำต้องใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ที่คฤหาสน์ของท่านไวน์เคาน์เตสผู้ตาบอด โดยเธอโกหกไปว่าถูกสามีทำร้ายเลยหนีมา น่าแปลกที่เอเลนอร์ไม่ถามอะไรมาก และยอมให้ที่พักพิงและงานดูแลหญิงพิการทางสายตาแก่คนแปลกหน้าอย่างเธอ
อัลม่าไม่รู้เลยว่าเซเลน่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร และได้แต่หวังว่าที่แห่งนี้จะคอยกำบังไม่ให้ภัยร้ายมาถึงตัว
“ได้เวลาน้ำชาแล้ว”
สาวใช้ผมสีชมพูที่ช่วยชีวิตเธอไว้คอยสอนงานอัลม่าไม่ห่าง เธอชื่อ มาร์โก้ ตามคำบอกเล่าของมาร์โก้ เมื่อ 3 คืนก่อน ไวน์เคาน์เตสได้ยินเสียงน้ำรั่วที่หน้าต่างเลยให้มาร์โก้ไปเช็กดู พอมาร์โก้เปิดม่านออกไปเท่านั้นแหละถึงพบร่างอัลม่านอนคว่ำเหมือนศพอยู่นอกบ้าน
“นึกว่าตายแล้วซะอีก”
มาร์โก้พูดด้วยน้ำเสียงขนลุก เหตุการณ์หลังจากนั้นก็คือมาร์โก้รีบให้คนขับรถร่างสูงเกือบสองเมตรไปช่วยพยุงอัลม่าเข้าบ้าน จากนั้นเอเลนอร์ก็ช่วยติดต่อหมอส่วนตัว อัลม่าถึงได้รับการรักษาทันเวลา
ร่างสูงในชุดสาวใช้สีเขียวขี้ม้าเดินถือถาดใส่กาช้ำชาสีขาวลายดอกไม้สีชมพูปนม่วง ตรงไปที่ห้องที่อยู่ลึกสุดของปีกขวา ตั้งแต่มาอยู่นี่ อัลม่าไม่เคยเจอสามีของเอเลนอร์เลยแม้แต่ครั้งเดียว เดาได้ว่าคงเป็นเพราะงานในกรมคลังรัดตัวจนไม่มีเวลากลับมาหาภรรยา
“วางแล้วก็ออกไปได้”
ประโยคเดิม ๆ ที่เจ้าของดวงตาตก พูดกับอัลม่าในทุกวัน วันนี้เอเลนอร์อยู่ในชุดกระโปรงสีขาวระบายสีเขียวใบเตยรับกับสีผมและสีดวงตาของเธอ กิจวัตรประจำวันของเธอคือนั่งนิ่ง ๆ อยู่ข้างหน้าต่างที่ปิดทึบ
‘อยากรู้จังว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่’
อัลม่าอยู่ภายในห้องได้แค่ไม่เกินสามนาทีก็ต้องระเห็จออกไปตามคำสั่งของเจ้านาย หลักฐานประจักษ์ชัดว่าเธอไม่สุงสิงกับใคร แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ไวน์เคาน์เตสคนนี้ดูลึกลับและน่าสนใจในสายตาสาวใช้
“ฉันก็เพิ่งมาอยู่ตอนที่ท่านเอเลนอร์มองไม่เห็นแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าก่อนหน้านี้เธอสดใสร่าเริงกว่านี้รึเปล่า”
อัลม่ามั่นใจว่าใบหน้าไร้จิตวิญญาณของเธอต้องมีที่มาที่ไปซ่อนอยู่
เย็นวันนั้น เสียงรถม้าควบมาจอดที่หน้าบ้าน มาร์โก้รีบกุลีกุจอพาอัลม่าออกไปต้อนรับท่านไวน์เคานต์ ทั้งที่แป้งสาลียังเปื้อนจมูก เจ้าของคฤหาสน์เป็นชายหนุ่มรูปงามในชุดสูทสีดำตัดเข้ารูป ร่างสูงโปร่ง จมูกโด่งรับกับดวงตาและเรือนผมสีนิล ผิวพรรณดี หน้าตาดูเฉลียวฉลาดทันคน
เมื่อเขาเห็นผมสีเทาของอัลม่า ก็ส่งสายตารังเกียจทันที
“เธอเป็นใคร?” เบอร์นาร์ด แอชฟอร์ดถามน้ำเสียงไม่พอใจ
“ผู้ช่วยข้าเองค่ะ ท่านเอเลนอร์เพิ่งรับมาใหม่”
เจ้าของผมสีดำเข้มขมวดคิ้ว อาจเพราะเขามีมารยาท จึงไม่ได้พูดจาอะไรไม่ดีออกมา เบอร์นาร์ดเดินตัวปลิวขึ้นบันไดวนไปที่ปีกซ้าย นั่นทำให้อัลม่าเพิ่งรู้ว่าทั้งสองแยกฝั่งกันอยู่
กลางดึกคืนนั้น อัลม่าข่มตาหลับไม่ลง เธอยังคงกังวลเรื่องเซเลน่า เพราะถ้าบารอนเนสตายก็แปลว่าเธอกำลังกลายเป็นฆาตกรหลบหนี รองเท้าส้นเตี้ยสีน้ำตาลพาเธอเดินปล่อยใจขึ้นมาถึงทางเดินหน้าห้องเอเลนอร์ที่ชั้นสาม
แย่ล่ะ! อัลม่าเพิ่งนึกกฎสำคัญของบ้านหลังนี้ออก ว่าหากท่านไวน์เคานต์กลับมาเมื่อไหร่ ยามดึกห้ามเยื้องกรายมาชั้นบนเด็ดขาด
เคร้งงงงงง!!!!!! เสียงคล้ายกาน้ำชาแตกดังออกมาจากห้องเอเลนอร์
“จะจ้างใครเข้ามา ทำไมไม่ปรึกษาฉันก่อน!”
“บ้านเราไม่มีเงินแล้วหรือคะ?” น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจจากหญิงผู้น่าสงสาร
“ไม่มีพอให้เธอใช้อย่างมือเติบ”
“แต่มาร์โก้ต้องมีคนช่วย.....โอ๊ย!”
สุภาพบุรุษแห่งซิลิเธียตบหน้าผู้เป็นภรรยาของตัวเองจนหน้าหัน สายตาอัลม่าแอบลอดมองผ่านช่องประตูที่ปิดไม่สนิท เธออึ้งมากจนเกือบหลุดเสียงร้อง ดีที่ตะครุบปากไว้ทัน
“ค่ารักษาตาของเธอที่จ่ายทุกเดือนก็มากโขพออยู่แล้ว ไล่นางออกไปซะ!”
เบอร์นาร์ดหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง อัลม่ารีบผลุบเข้าไปหลบซ่อนในห้องนอนแขกที่อยู่ข้าง ๆ เธอกลั้นหายใจจนเสียงฝีเท้าของชายหนุ่มเงียบไป
เสียงปล่อยโฮอย่างอัดอั้นดังออกมาจากก้นบึ้งหัวใจสาวผู้อาภัพ อัลม่ารู้สึกเห็นใจเธอในฐานะผู้หญิงด้วยกัน แต่อย่างไรก็แล้วแต่ สาวผู้สูงศักดิ์ก็ร้องไห้ในบ้านหรูหลายสิบล้านรูนไม่ใช่ที่ข้างทาง
จู่ ๆ คนเจ้าแผนการอย่างอัลม่าก็คิดขึ้นมาได้ว่า เธอจะใช้ประโยชน์อะไรได้บ้างจากเจ้าของร่างบางผู้อ่อนแอ ถึงจะฟังดูใจร้าย แต่อัลม่าไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะใจดีกับใคร เธอต้องทำให้เอเลนอร์ไม่ไล่เธอออกจากบ้านตามบัญชาของสามี
“ท่านเอเลนอร์คะ”
ไวน์เคาน์เตสแอชฟอร์ดหันขวับมาทางอัลม่าด้วยสีหน้าตื่นตกใจ คราบน้ำตายังค้างอยู่ที่แก้ม
“เธอขึ้นมาได้ไง?”
“ข้าได้ยินเสียงดังเลยเป็นห่วงท่าน”
“ออกไป!”
เอเลนอร์เดินถอยไปอย่างไม่รู้หนทาง จนเกือบเหยียบเศษแก้วกาน้ำชาที่ตกแตก
“ระวังค่ะ!”
“อ๊ะ!”
เอเลนอร์ชนเช้ากับโต๊ะทำให้ถ้วยชาที่วางอยู่หมิ่นเหม่ร่วงหล่น
ฟึ่บ!!!
อัลม่าอึ้ง สบตากับเอเลนอร์ที่ตกใจไม่แพ้กัน ถ้าหากว่าเอเลนอร์ตาบอด เหตุใดกันเล่าเธอจึงรับถ้วยน้ำชาไว้ได้ทัน!!