มาเกิดใหม่เป็นทาสหน้าบากไม่พอ! ยังต้องมาเป็นของเล่นให้พวกสาวชั้นสูงอีก!!
หญิง-หญิง,ยูริ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง“ท่าน...มองเห็น”
เอเลนอร์รู้ตัวแล้วว่าความลับได้ถูกเปิดเผย เธอไม่ใช่พวกกล้าหน้าด้านแถต่อไปได้ น้ำใส ๆ หยดรินจากตาแดงก่ำ ก่อนจะพยักหน้ายอมรับ
“ได้โปรดอย่าบอกสามีของฉันนะ ถ้าเขารู้ล่ะก็...”
เอเลนอร์กลั้นสะอื้นไว้ไม่ไหว เธอคงถูกทำให้จิตใจบอบช้ำมานานแสนนาน
“ข้าสัญญา”
อัลม่าเช็ดน้ำตาให้เจ้านายสาวอย่างเบามือที่สุด สัมผัสอ่อนโยนนั้นทำให้เอเลนอร์รู้สึกวางใจจนปล่อยโฮออกมาอย่างต่อเนื่อง สาวใช้อยู่เป็นเพื่อนคอยปลอบนายหญิงทั้งคืน
เอเลนอร์ผู้อดกลั้นเล่าปมชีวิตอันแสนเจ็บปวด ว่าเธอถูกสามีทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส ตอนนั้นเธอมองไม่เห็นไปชั่วคราวจริง ๆ ช่วงเวลาที่เอเลนอร์พันผ้าพันแผลปิดตาคือช่วงที่สามีไม่มาตอแยกับเธอ นั่นทำให้เอเลนอร์รู้สึกปลอดภัย เมื่อเธอกลับมามองเห็นแล้วจึงยังโกหกสามีต่อเพื่อให้ทั้งสองมีระยะห่าง
“คนอย่างฉันมันไม่สมควรที่จะมีความสุขงั้นเหรอ?”
เอเลนอร์ตัดพ้ออย่างรวดร้าว เธอหวนคิดถึงตัวเองในวัยสาวสะพรั่งที่ฝันหวานว่าสักวันหนึ่งจะได้แต่งงานกับขุนนางรูปหล่อฐานะระดับเดียวกัน แต่หลังจากแต่งงานได้หนึ่งปี เธอก็เห็นธาตุแท้ของสามี
“ท่านสมควรมีความสุขเอเลนอร์ .. สมควรที่สุด”
“ไม่หรอก .. ฉันคงทำผิดอะไรสักอย่าง เทพีซิลิน่าถึงได้เกลียดฉัน”
“เทพีจะเกลียดคนที่มีเมตตาอย่างท่านได้เช่นไร?”
แววตาเอเลนอร์วูบไหวเหมือนไม่เคยได้รับคำหวาน เธอคิดไปแล้วว่าตนเองเป็นคนบาปที่ถูกเบื้องบนทอดทิ้ง
“เธอคิดแบบนั้นเหรอ?”
“ค่ะ ท่านช่วยเหลือคนที่ไม่มีทางไปอย่างข้า ข้าอยากตอบแทนท่าน”
น้ำตารื้นขึ้นมาที่ขอบตาบวมเป่ง หากว่าสาวตรงหน้าดูแลตัวเองสักนิด เธอคงกลายเป็นหญิงงามแห่งเมือง
“ไม่เป็นไร แค่นี้ฉันก็ซาบซึ้งใจมากแล้ว”
“ข้าอยากให้ท่านมีความสุข ..”
ดวงตาเอเลนอร์ฉงน ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นนิ่งค้าง เมื่อมือของอัลม่าสองข้างเลื่อนมาประคองแก้มที่มีรอยฝ่ามือแดง แล้วค่อย ๆ ลูบไล้อย่างแผ่วเบา ลมหายใจของไวน์เคาน์เตสเริ่มผิดจังหวะ เพราะไม่คุ้นชินกับนิ้วเรียวนั้น
“ถ้าท่านไม่ชอบ .. ข้าจะหยุด”
อัลม่ากระซิบข้างหูเอเลนอร์ ความรู้สึกวูบวาบในตัวเอเลนอร์ถูกปลุกเร้าขึ้นอีกครั้ง ผู้ที่ต้องการคนเยียวยาหัวใจ ไม่อาจปฏิเสธความต้องการเบื้องลึกของตัวเองได้ เมื่อผู้สูงศักดิ์กว่าไม่สั่งห้าม อัลม่าก็เริ่มรุกล้ำไปที่ริมฝีปากชมพูก่อนเป็นอันดับแรก
“อื๊อ”
เสียงครางเบา ๆ กระตุ้นอารมณ์อัลม่าให้เลื่อนมือลงไปเคล้าคลึงหน้าอกที่ใหญ่เกินตัวผ่าน
ชุดนอนผ้าซาตินแนบเนื้อสีเขียวอ่อน อัลม่าจูงมือเอเลนอร์ให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปที่หน้าต่าง ก่อนที่เธอจะกระชากผ้าม่านเปิดออก
“ไม่ได้นะ..”
อัลม่าพุ่งตัวเข้าไปจูบปิดปากเอเลนอร์ เธอคงกลัวว่าจะมีใครจับได้ แต่พนันได้เลยว่าดึกดื่นป่านนี้ไม่มีใครออกมาเพ่นพ่าน
ครืดดดดดดด มือข้างหนึ่งของอัลม่าเลื่อนเปิดลิ้นชักตู้ไม้ชั้นบนสุด ในนั้นมีอุปกรณ์บางอย่างที่อัลม่าเห็นตอนเข้ามาทำความสะอาด
ผ้าพันแผลที่ยังเหลืออยู่!!
อัลม่าดึงผ้าพันแผลมาพันรอบตาเอเลนอร์ที่ยังงุนงงกับประสบการณ์แปลกใหม่ แล้วใช้ฟันคม ๆ กัดมันจนผ้าขาดจากม้วน มืออัลม่ากระตุกผูกปมไว้ด้านหลังศีรษะรูปสวยอย่างชำนาญ ก่อนจะจับตัวเอเลนอร์หันเข้าหาหน้าต่างแล้วเริ่มถกกระโปรงเธอขึ้นมา
เอเลนอร์รีบเม้มปากแน่น พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เสียงหลุดรอด ทันทีที่นิ้วอัลม่าแตะโดนจุดสำคัญ เอเลเนอร์ก็กัดปากแรงขึ้น มือสองข้างยกยันไว้กับหน้าต่าง นิ้วอัลม่าขยับขึ้นลงอย่างรู้ที่ทางก่อนจะเร่งระดับความเร็ว จนขาสองข้างของเอเลนอร์แทบยืนไม่ไหว
“อ๊ะ!!!!!!!”
ร่างเอเลนอร์กระตุกรุนแรง ขาเอเลนอร์อ่อนพับลงจนอัลม่าต้องประคองร่างเธอเอาไว้ในอ้อมแขน เอเลนอร์ดูหมดแรงคล้ายว่าจะหน้ามืด เธอน่าจะห่างหายจากกิจกรรมบนเตียงมาพักใหญ่
เอเลนอร์หอบเล็ก ๆ ด้วยความเหนื่อย แต่มุมปากเธอค่อย ๆ ยกยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข
และนี่คือรอยยิ้มแรกในรอบหลายปีของท่านไวน์เคาน์เตสแอชฟอร์ดผู้เศร้าโศก
อัลม่าคอยอยู่ข้าง ๆ เอเลนอร์จนถึงเช้า เจ้านายสาวไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะสานต่อบทรัก ทั้งคู่จึงทำได้แค่นั่งพูดคุยกันเรื่อยเปื่อยบนเตียง บทสนทนาส่วนใหญ่เกี่ยวกับชีวิตของเอเลนอร์
“ไม่ใช่มาร์โก้หรอกที่เห็นเธอสลบอยู่หน้าบ้านเป็นคนแรก ฉันนี่แหละ” ตอนแรกเอเลนอร์ยังเขิน ๆนั่งตัวเกร็ง แถมเธอยังแอบลอบมองผมสีขี้เถ้าสลับกับรอยแผลเป็นบนหน้าอัลม่าอยู่เป็นพัก ๆแต่พอเวลาผ่านไป เธอก็เริ่มผ่อนคลายและลดกำแพงลง
“ฉันถามได้มั้ย .. รอยแผลเป็นอันนั้นน่ะ เอ่อ ช่างมันเถอะ” หญิงสาวคงคิดว่าเสียมารยาทจึงตัดบทไปเอง
“ถามได้เลยค่ะ” น้ำเสียงอัลม่าอ่อนลง ให้คู่สนทนารู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น
“สามีเธอทำเหรอ ..” เอเลนอร์ถามด้วยน้ำเสียงเห็นใจ
“เปล่าค่ะ ฉันได้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่จำไม่ได้ว่าเมื่อไหร่” สาวใช้แต่งเรื่องโกหกไป เนื่องจากเธอไม่รู้จริง ๆ ว่าแผลเป็นนี้ได้แต่ใดมา
“แบบนี้นี่เอง”
ดวงตาเจ้านายสาวฉายแววสงสาร หลังจากนั้น อัลม่าก็เริ่มเบี่ยงประเด็นไปพูดคุยเรื่องที่สนุกสนานมากขึ้น เช่น หาวิธีเสริมความมั่นใจให้เอเลนอร์
“เห ฉันเนี่ยนะ .. สวย” น้ำเสียงเอเลนอร์ไม่อยากจะเชื่อ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอยอมรับว่าตัวเองมีความมั่นใจในหน้าตามากกว่านี้ แต่ตอนนี้เธอปล่อยตัว
“ค่ะ” อัลม่าตอบหน้าตาย
หน้าเอเลนอร์ขึ้นสี คงเพราะไม่ได้รับคำชมมานานแล้ว ซึ่งหญิงรับใช้ก็ชมจริง ๆ ถ้าเป็นในโลกก่อน เธอคงจัดอยู่ในกลุ่มหญิงสาวสวยเรียบร้อยตามขนบ ที่ใครก็อยากได้เป็นแม่ของลูก
ไม่รู้อัลม่าคิดไปเองรึเปล่าแต่แววตาของท่านไวน์เคาน์เตสดูเปล่งประกายขึ้น
“ฉันจะลองคุยกับเบอร์นาดเรื่องเธออีกที”
ดูเหมือนท่านไวน์เคาน์เตสจะเริ่มเอ็นดูสาวใช้คนนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว
“ท่านเอเลนอร์คะ มีคนมาขอพบค่ะ”
เสียงรบกวนจากมาร์โก้ตอนประมาณเจ็ดโมงเช้า ทำให้เอเลนอร์ที่เพิ่งผล็อยหลับไปได้ไม่นานสะดุ้งตื่น เธอแปลกใจเพราะไม่เคยมีใครมาเยี่ยมนานแล้ว ตั้งแต่เธอตาบอด ก็หายไปจากวงสังคมได้ครึ่งปี เบอร์นาร์ดปิดข่าวด้วยการบอกทุกคนว่าเธออยากใกล้ชิดกับเทพีซิลิน่าจึงหมั่นสวดมนต์อยู่แต่บ้าน
อัลม่ารีบสวมชุดนอนกลับให้เอเลนอร์ที่ล่อนจ้อน ส่วนตัวเธอเองเป็นคนเดินไปเปิดประตูให้มาร์โก้และอ้างว่าเอเลนอร์เรียกให้มาเก็บเศษแก้วแต่เช้าตรู่
“ใครมาหาฉันเหรอ?”
“บารอนเนสสโตกค่ะ”
อัลม่าหน้าซีดเผือด แต่เลือดสูบฉีดแรง ในที่สุดเจ้านายคนก่อนก็หาตัวเธอพบ!!