มาเกิดใหม่เป็นทาสหน้าบากไม่พอ! ยังต้องมาเป็นของเล่นให้พวกสาวชั้นสูงอีก!!
หญิง-หญิง,ยูริ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง“ท่านเอเลนอร์ไม่สะดวกให้พบค่ะ”
มาร์โก้แจ้งอย่างสุภาพ เซเลน่าที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาถึงในเมือง พยายามเก็บอาการไม่พอใจ วันนี้เธออยู่ในชุดสีม่วงขลิบทองตัวเก่ง มวยผมต่ำ ที่ศีรษะด้านหลังยังปิดด้วยผ้าพันแผล แม้ปากของเซเลน่าจะยิ้มอย่างอ่อนโยนแต่ถ้ามองดี ๆ ดวงตาของเธอแฝงไปด้วยความพิโรธ
“แล้วจะสะดวกให้พบวันไหนจ๊ะ?”
“คงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ค่ะ”
เซเลน่ากวาดตามองไปรอบ ๆ บ้านแต่ก็ไม่เห็นวี่แววของอัลม่า เธอไม่แน่ใจหรอกว่านางบำเรอของเธออยู่ที่นี่รึเปล่า เพียงแต่จากข้อสันนิษฐานของเธอ อัลม่าน่าจะหนีผ่านมาทางนี้
“ฝากความคิดถึงของฉันให้ท่านไวน์เคาน์เตสด้วยนะจ๊ะ”
อัลม่ายืนตัวชาจนได้ยินเสียงรถม้าของเซเลน่าแล่นออกไป มือของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ
“เป็นอะไรรึเปล่า? หน้าเธอดูซีด ๆ” เอเลนอร์จับสังเกตได้
“เปล่าค่ะ”
โชคดีที่เบอร์นาร์ดสั่งห้ามไม่ให้เอเลนอร์พบใครเด็ดขาด เธอจึงต้องปฏิเสธการมาเยี่ยมเยียนของเซเลน่า ในสายตาของคนนอก เซเลน่าเป็นหญิงผู้จิตใจดี เอเลนอร์จึงแอบรู้สึกผิด ขณะที่อัลม่าโล่งอกมากที่รอดไปได้
แต่...
เธอจะรอดไปได้อีกนานเท่าไหร่??
หลังจากวันนั้น สาวใช้กับเจ้านายก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น เอเลนอร์ไม่ได้เรียกร้องขอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอีก เพียงแต่เธอต้องการเพื่อนที่พูดคุยด้วยได้ทุกเรื่อง
“เบอร์นาร์ดไม่พอใจที่ทำงาน แต่เอามาลงที่ฉัน นั่นแหละ จุดเริ่มต้น”
ท่านไวน์เคาน์เตสเผยความในใจอีกว่า เธอได้หมดรักสามีไปแล้ว แต่ที่ยังไม่ทำเรื่องหย่าร้าง เพราะถูกเบอร์นาร์ดข่มขู่ไว้ เขากลัวจะเสียชื่อเสียง และแทบไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเป็นฝ่ายแยกทางก่อน
“ข้าพร้อมอยู่ข้างท่าน”
อัลม่าสนับสนุนให้เอเลนอร์ลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง แต่เจ้านายสาวก็ยังลังเลใจ
“เธอเอาลิปสีแดงอันนั้นไปสิ ซื้อมาแต่ยังไม่เคยได้ใช้เลย”
เอเลนอร์ให้ของขวัญกับอัลม่าหลายชิ้น ทั้งเครื่องสำอาง ถุงมือไหมพรม และถุงเท้า ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นของดี ๆ ทั้งนั้น เธอเป็นคนใจดีและดูแลคนอื่นเก่งมาก
มีครั้งหนึ่งที่สาวใช้ครึ่งหลับครึ่งตื่น ท่านไวน์เคาน์เตสก็แบ่งผ้าห่มของเธอให้อย่างไม่รังเกียจ
หากไม่มีสถานะเจ้านายกับบ่าว อัลม่าคิดว่าเอเลนอร์ให้ความรู้สึกเหมือน “พี่สาวที่แสนดี” คนหนึ่ง แต่เธอเองก็ไม่เคยมีพี่น้อง เลยไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์นี้เรียกว่าอะไร
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เธอก็อยากอยู่รับใช้ท่านไวน์เคาน์เตสคนนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะที่นี่น่าจะปลอดภัยที่สุดสำหรับตอนนี้แล้ว
แต่ว่า .. อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ท่านไวน์เคานต์ก็จับได้ว่าภรรยายังไม่ได้ไล่คนใช้หน้าใหม่ออกไป
โครม!!
เบอร์นาร์ดเขวี้ยงเก้าอี้พลาดไปเพียงนิดเดียว เกือบโดนร่างเอเลนอร์ที่นั่งกอดเข่าตัวสั่น
“ถ้าอาทิตย์หน้าฉันกลับมา แล้วนังนั่นยังอยู่ที่นี่! เราได้เห็นดีกัน”
เบอร์นาร์ดหมุนตัวออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว อัลม่าที่แอบอยู่ในห้องนอนแขกกัดริมฝีปากด้วยความกังวล ตอนนี้คฤหาสน์ของเอเลนอร์เป็นหลุมหลบภัยเดียวที่เธอมี ถ้าปราศจากที่นี่ เซเลน่าคงตามหาตัวเธอได้ไม่ยาก
“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะหาทางคุยกับเบอร์นาดให้ได้”
น้ำเสียงอ่อยที่ไม่มีแม้แต่ความมั่นใจของเอเลนอร์ทำให้บรรยากาศยิ่งตึงเครียด ถ้าขืนรอ เอเลนอร์จัดการ อาทิตย์หน้าเธอคงได้ไปนอนข้างถนน
อัลม่าประมวลความคิดว่ามีสิ่งใดที่เธอพอจะทำได้บ้าง อะไรที่จะทำให้เบอร์นาร์ดหุบปากและทำตามความต้องการของภรรยาสาว คืนนั้น อัลม่าตั้งใจแอบย่องขึ้นไปที่บันไดวนทางปีกซ้ายเพื่อสังเกตการณ์เบอร์นาด เขาเอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องทำงานซึ่งเป็นอาณาเขตหวงห้าม มาร์โก้ยืนยันว่ามันเป็นห้องเดียวในบ้านที่ไม่เคยมีสาวใช้คนไหนได้รับอนุญาตให้เข้าไปปัดกวาด
‘หรือว่า.....’
รุ่งเช้าหลังจากเบอร์นาร์ดออกจากบ้านตรงไปประชุม อัลม่าก็รีบหาจังหวะที่สาวใช้ฝั่งปีกซ้ายนั่งเอ้อระเหยตรงไปที่ห้องทำงานของเขาทันที เป็นอย่างที่คิดว่าประตูล็อก! เธอพลันนึกไปถึงเหตุการณ์ในชาติที่แล้วที่เคยล็อกสาวน้อยคนหนึ่งด้วยกุญแจมือแต่ดันถอดไม่ออก! อัลม่ารีบไปหาเข็มหมุดแถวเครื่องเย็บผ้าของมาร์โก้เพื่อเอามาใช้ปลดล็อกกลอนประตูห้องท่านไวน์เคานต์ ก้าวแรกที่อัลม่าเดินเข้าไป กลิ่นเหม็นอับตีขึ้นจมูก ในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลางมีโต๊ะไม้มะฮอกกานีอยู่ รายล้อมด้วยตู้เอกสารและชั้นหนังสือราย บนโต๊ะว่างเปล่ามีเพียงปากกาหมึกซึมหนึ่งด้ามวางอยู่
อัลม่าใช้เวลาอยู่ในห้องนั้นจนตกบ่าย เปิดค้นดูทุกตู้ จนในที่สุดเธอก็เจอสิ่งที่กำลังตามหา ..
“ท่านเอเลนอร์”
เอเลนอร์ที่เหนื่อยอ่อนปรายตาขึ้นมามองอัลม่า ชุดเดรสเปิดไหล่สีเขียวหม่นยิ่งทำให้เธอดูเศร้าสร้อยกว่าทุกวัน
“ถึงเวลาน้ำชาแล้วเหรอ”
อัลม่าเอื้อมมือจับไปมือนุ่มนิ่มที่ไม่เคยผ่านการทำงานหนักของหญิงสาว
“ต่อไปนี้ท่านไม่ต้องทนทุกข์อีกแล้ว
.....
.........
ข้าจะช่วยท่านเอง!”