มาเกิดใหม่เป็นทาสหน้าบากไม่พอ! ยังต้องมาเป็นของเล่นให้พวกสาวชั้นสูงอีก!!

เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง - บทที่ 11 เคราะห์ซ้ำ โดย คุณองุ่น @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หญิง-หญิง,ยูริ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

หญิง-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ยูริ,แฟนตาซี

รายละเอียด

มาเกิดใหม่เป็นทาสหน้าบากไม่พอ! ยังต้องมาเป็นของเล่นให้พวกสาวชั้นสูงอีก!!

ผู้แต่ง

คุณองุ่น

เรื่องย่อ

สารบัญ

เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทนำ บทนำ,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 1 ทาสหน้าบาก,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 2 บารอนเนสสโตก (NC),เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 3 ของเล่นสตรีชั้นสูง,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 4 ความคลั่งไคล้เป็นเหตุ,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 5 หนีตาย,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 6 ไวเคาน์เตสผู้ตาบอด,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 7 ริมหน้าต่าง (NC),เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 8 ห้องทำงานเบอร์นาร์ด,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 9 สตรีที่สวยที่สุดแห่งซิลิเธีย,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 10 เซอร์ไพรส์แด่ท่านเบอร์นาร์ด,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 11 เคราะห์ซ้ำ,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 12 เคาน์เตสแมคคาธี่,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 13 งานเดบูตองส์,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 14 การพบกันอีกครั้งที่ทำให้หัวใจหยุดเต้น,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 15 ของขวัญแด่เลดี้ฟีบี้,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 16 สาวรับใช้คนใหม่ของเลดี้ฟีบี้,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 17 บทเรียนที่หนึ่ง,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 18 มาร์ควิสฟลิน

เนื้อหา

บทที่ 11 เคราะห์ซ้ำ

บรรดาแขกผู้ศักดิ์สูงต่างร้องตกใจกับคำกล่าวหาร้ายแรงของทหารผู้นั้น เม็ดเหงื่อผุดบนใบหน้าเบอร์นาร์ด เขาจะไม่ยอมมาตกม้าตายหลังจากที่พยายามดั้นด้นมาถึงจุดนี้ จุดที่มีแต่ผู้คนยอมรับนับถือ


“ข้าคิดว่าต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันเกิดขึ้น” เบอร์นาร์ดยกนิ้วขึ้นชี้หน้าเอเลนอร์อย่างโมโห หวังโยนความผิดทั้งหมดให้


“นางใส่ร้ายข้า! ภรรยาของข้าเป็นหญิงเลว นางไม่ได้เป็นผู้รับใช้พระเจ้าอย่างที่ข้าเคยพูดเพื่อปกป้องนาง แต่นางคือปีศาจ!”


ผู้คนแตกตื่นฮือฮาเสียงดังระงมขึ้นอีก บ้างก็เริ่มหวาดกลัวเอเลนอร์ บ้างก็เริ่มคิดว่าเบอร์นาร์ดสติหลุด


“ทุกท่านโปรดฟังข้า นางเกลียดข้าเลยอยากให้ข้าได้รับโทษ ใช่มั้ยเอเลนอร์!”


เอเลนอร์แววตาสั่นไหว แม้แต่ในยามนี้ สามีของเธอยังป้ายสีเธอเพื่อเอาตัวรอด ความเสียใจมันจุกอยู่ในอก


“พอเถอะเบอร์นาร์ด ข้าไม่รู้เรื่องที่ท่านโกงบ้านเมือง ท่านทำของท่านคนเดียว”


“หนอย!”


น้ำอำพันที่ดื่มไปหลายแก้วทำให้เบอร์นาร์ดขาดสติ เขาง้างมือจะตบเอเลนอร์ต่อหน้าฝูงชนที่อ้าปากค้าง เอเลนอร์หลับตาปี๋รู้ดีว่าคงหลบไม่พ้น


หมับ!


เบอร์นาร์ดชะงักไปด้วยความอึ้งปนโกรธ เอเลนอร์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเห็นว่าอัลม่าจับแขนของเบอร์นาร์ดอย่างเอาเรื่อง !!


อัลม่ากำแขนหนาของท่านไวน์เคานต์แน่น ตาของเธอแวววาวเหมือนหมาป่าออกล่าเหยื่อ เอเลนอร์ตื้นตันใจมากที่อัลม่าลุกขึ้นมาปกป้องเธอ


“ไอ้หัวขี้เถ้า! กล้ามากที่มาแตะต้องตัวข้า!”


อัลม่าแสยะยิ้ม ไม่รู้อัลม่าเอาแรงมาจากไหน แต่เบอร์นาร์ดไม่สามารถหลุดจากการเกาะกุมของเธอได้


“ไม่ทำอันตรายต่อหญิงสาว .. มารยาทที่สุภาพบุรุษพึงมี”


สาวใช้ตั้งใจกระซิบให้เจ้านายได้ยินกันแค่สองคน คำพูดและน้ำเสียงยียวนของอัลม่าทำเอาเบอร์นาร์ดเลือดขึ้นหน้าพร้อมอาละวาด แต่ชายในชุดเครื่องแบบคล้ายอัศวินสองนายเข้ามาคุมตัวเบอร์นาร์ดเสียก่อน


“ปล่อยข้า! ปล่อย!”


“อย่าขัดขืน หากท่านไม่อยากโดนอีกข้อหา”


ใบหน้าที่เคยหล่อเหลากลายเป็นไร้ราศีจับ ริ้วรอยความเครียดผุดขึ้นเต็มหน้า เบอร์นาร์ดทั้งเจ็บใจทั้งอับอายที่ถูกประณามกลางที่สาธารณะ สายตาหลายคู่ที่เคยเลื่อมใสในตัวเขาแปรเปลี่ยนไปเป็นรังเกียจเดียดฉันท์


“ข้าไม่ได้ทำ! ข้าโดนกล่าวหา!!”


“เช่นนั้นก็โปรดไปชี้แจงกับทางเรา”


“ท่านนายก ช่วยข้าด้วย!”


เบอร์นาร์ดร้องขอความช่วยเหลือจากชายร่างท้วมวัยประมาณ 50 ปี เขาอยู่ในชุดทักซิโด้ที่ไม่อาจอำพรางพุงพลุ้ย อัลม่าจำได้ว่าก่อนหน้านี้ ชายคนดังกล่าวยังชนแก้วหัวเราะร่ากับเบอร์นาร์ดอย่างสนิทสนม แต่ตอนนี้เขากลับเบือนหน้าหนีราวกับไม่อยากเกี่ยวข้อง


ไวน์เคานต์ผู้น่าสมเพชคอตก ไม่ว่าจะหันไปทางใดก็ไม่มีใครกล้าสบตา ทหารคุมตัวเบอร์นาร์ดออกไป อัลม่าพาเอเลนอร์ปลีกตัวออกไปหาพื้นที่ส่วนตัว เธอทรุดร่างลงปล่อยโฮ ระบายความอัดอั้นตันใจที่เก็บสะสมมานาน งานเลี้ยงในค่ำคืนนั้นจบลงอย่างพังพินาศ แต่เอเลนอร์ก็เรียกศักดิ์ศรีของเธอกลับมาได้อีกครั้ง




สองสัปดาห์ต่อมา ข่าวเบอร์นาร์ดถูกคุมขังดังไปทั่วเมือง เขาโดนจับในข้อหาฉ้อโกงทุจริต หลักฐานคือการโยกย้ายเงินสิบล้านรูนจากกรมคลังเข้ามาในบัญชีที่เปิดในชื่อเอเลนอร์ แต่เจ้าของชื่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีบัญชีนี้


ในช่วงแรกเอเลนอร์ยังคงระทมทุกข์ เธอแต่งดำคล้ายว่าสามีตายไปแล้ว แต่เมื่อเธอเริ่มได้ใช้ชีวิตตามใจตัวเอง แววตาของเธอก็เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนสาววัยแรกรุ่น


“อัลม่า ฉันอยากจะตัดชุดใหม่สักสองสามชุด”


เอเลนอร์เริ่มกล้าเอาเงินในส่วนของตัวเองออกมาใช้ แม้สามีจะโดนยึดทรัพย์ไปมากโข แต่เงินที่เบอร์นาร์ดเคยให้เอเลนอร์ไว้ในช่วงเวลาที่เสน่หากัน ก็มากพอที่เอเลนอร์จะซื้อความสุขให้ตัวเองไปได้ทั้งชีวิต


“ฉันอยากตกแต่งบ้านใหม่ด้วย เธอคิดว่ายังไง?”


ตอนนี้เธอเลิกแต่งกายไว้ทุกข์แล้วกลับมาแต่งตัวด้วยชุดมีสีสัน วันนี้เธอสวมชุดแขนกุดสีน้ำตาลถั่วลิสง สีนี้ขับให้ผิวพรรณเธอยิ่งดูเปล่งปลั่ง ผมของเธอปล่อยยาวคลอเคลียใบหน้าสวย


“แล้วแต่ท่านเลยค่ะ”


เอเลนอร์ยิ้มกว้าง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแต่รอยยิ้มของเธอทำให้บ้านที่อึมครึมกลับมาสว่างไสวน่าอยู่


“งั้นเธอออกไปข้างนอกเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ ตั้งแต่เธอมาอยู่นี่ ยังไม่เคยออกไปไหนเลยนี่”


คำชักชวนที่หวังดี แต่อัลม่ากลับยังกังวลใจไม่กล้าออกไหน เธอยังมีชนักติดหลังที่ไม่สามารถเล่าให้เอเลนอร์ฟังได้


“วันนี้ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย ให้มาร์โก้ไปแทนได้มั้ยคะ?”


“ตายแล้ว ป่วยทำไมไม่บอกกันล่ะ”


เจ้านายสาวดูเป็นห่วงสาวใช้ เธอเอื้อมมือมาแตะหน้าผากอย่างห่วงใย


“ตัวไม่ร้อนมาก อาการเธอเป็นยังไง?”


“มึนหัวนิดหน่อยค่ะ”


“ไปนอนพักก่อน เดี๋ยวฉันให้มาร์โก้เอายาไปให้”


อัลม่ากลับไปเก็บตัวอยู่ในห้องนอนชั้นล่างของเธอ เพียงครู่เดียว มาร์โก้ก็เอายาชงที่กลิ่นคล้ายยาหอมมาให้เธอแล้วรีบออกไปทำงานบ้านต่อ เจ้าของรอยแผลเป็นบนแก้มซ้าย รู้สึกอึดอัดและอุดอู้ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน ไม่นานหลังจากนั้นนัก อัลม่าได้ยินเสียงรถม้ามาจอดที่หน้าบ้าน อาจจะเป็นเพื่อนสนิทของเอเลนอร์ที่ชื่อ เมลานี่ เธอส่งจดหมายมาหาว่าอยากมาเยี่ยม อัลม่ายังไม่เคยพบตัวจริงของเธอ แต่หญิงสาวผู้นี้เป็นคนช่วยประสานกับกลุ่มทหารที่เข้ามาจับกุมเบอร์นาร์ด


เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นหินดังมาตามทางเดิน ฝีเท้าดูเร่งรีบเหมือนมีเรื่องร้าย


“อัลม่า ขอฉันเข้าไปหน่อย” น้ำเสียงเอเลนอร์ประหวั่นพรั่นพรึง


สาวใช้รีบผุดลุกจากเตียงไปเปิดประตู เอเลนอร์เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าครั่นคร้าม


“ก่อนหน้านี้เธอบอกฉันว่า เธอถูกสามีทำร้ายเลยหนีมาใช่มั้ย?”


เอเลนอร์จ้องอัลม่าเหมือนค้นหาความจริงในดวงตาคู่นั้น อัลม่าหยั่งรู้ได้ถึงลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง


“ค่ะท่านเอเลนอร์”


“แต่ทำไมบารอนเนสถึงมาตามหาเธอกันล่ะ?”


อัลม่าขนลุกตั้งแต่หัวจรดเท้า เซเลน่ารู้แล้วสินะว่าเธออยู่ที่นี่!! เอเลนอร์เล่าต่อด้วยสีหน้าสับสนปนสงสัย


“ท่านเซเลน่ามาถามหาคนที่รูปพรรณคล้ายกับเธอ นางบอกว่าเธอเป็นสาวใช้ของนางที่หายตัวไป ฉันไม่แน่ใจว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่ เลยอยากมาถามเธอก่อน”


“ท่านบอกนางไปรึยังว่าข้าอยู่ที่นี่”


เอเลนอร์ส่ายหน้าด้วยความรอบคอบ เธอคงจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างจาก เซเลน่าถึงไม่เปิดเผยทุกสิ่ง อัลม่ารีบเข้าไปกุมมือเอเลนอร์ด้วยสีหน้าซาบซึ้ง


“ขอบคุณมากค่ะท่านเอเลนอร์ โปรดฟังความจริงจากข้าก่อน ข้าสาบานว่าเรื่องต่อไปนี้เป็นความจริง ไม่เช่นนั้นขอให้ข้าตกนรก”


อัลม่าตัดสินใจเล่าเรื่องที่เซเลน่าทารุณกรรมเธอให้ฟัง รวมไปถึงตอนที่เธอต้องสู้กลับเพื่อเอาตัวรอดด้วย สาวใช้ได้แต่หวังว่าเจ้านายสาวจะไม่ตัดสิน ดวงตาของเอเลนอร์ตื่นตระหนกตลอดเวลาที่ได้ยินความชั่วร้ายของเซเลน่าผู้มีเมตตา เธอเอามือทาบอกด้วยความเหลือเชื่อ




เซเลน่าในชุดกระโปรงสีม่วงขลิบดำ นั่งปั้นหน้ายิ้มแย้มอยู่ในห้อง แต่ภายในร่างกายของเธอลุกเป็นไฟด้วยความร้อนรน เธอได้เบาะแสอัลม่ามาจากเสียงซุบซิบในโบสถ์ ว่าด้วยเรื่องสาวใช้ผมสีเทาที่กล้างัดข้อกับท่านไวน์เคานต์ในงานเลี้ยง เซเลน่าจึงรีบเรียกรถม้ามาที่คฤหาสน์หลังนี้ทันที


“ขอโทษด้วยนะคะที่ให้รอนาน”


เอเลนอร์เดินตัวลีบกลับเข้ามาหาบารอนเนสโสตกในห้องรับแขก


“ฉันไปถามสาวใช้คนอื่นมาแล้ว ไม่มีมีใครเคยพบเห็นคนที่ท่านตามหาค่ะ”


เอเลนอร์โกหกไม่เก่งแต่เธอพยายามแสดงให้แนบเนียนที่สุด เซเลน่าจับสังเกตได้ว่ามือของเอเลนอร์กุมกันแน่น แต่ในเมื่อเจ้าของบ้านปฏิเสธ เธอก็ไม่อาจโต้แย้ง




“นางกลับไปแล้ว”


เอเลนอร์เดินกลับเข้ามาบอกอัลม่าด้วยสีหน้าร้อนใจ เธออยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ได้แต่เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องสาวใช้แคบ ๆ เหมือนหนูติดจั่น ปากก็บ่นพึมพำไปด้วย


“ไม่อยากเชื่อว่าบารอนเนสจะเป็นผู้เหี้ยมโหด”


“แค่ท่านเชื่อข้า ข้าก็อุ่นใจ”


“ฉันเชื่อเธอ แต่คนอื่นล่ะจะเชื่อเธอมั้ย ถ้านางจะเอาเรื่องขึ้นมา พวกทหารต้องเชื่อนางแน่!”


เอเลนอร์ดูเป็นห่วงอัลม่ามากกว่าที่อัลม่าเป็นห่วงชีวิตตัวเอง แต่นั่นอาจเป็นเพราะว่าสาวใช้ผู้นี้เคยช่วยเหลือนาง นางจึงคิดอยากตอบแทนก็เป็นได้


“ฉันรู้แล้ว .. มีแค่คนเดียวที่จะช่วยเธอได้ เมลานี่ ต้องเป็นเมลานี่เท่านั้น!”