มาเกิดใหม่เป็นทาสหน้าบากไม่พอ! ยังต้องมาเป็นของเล่นให้พวกสาวชั้นสูงอีก!!
หญิง-หญิง,ยูริ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูงเอเลนอร์ให้อัลม่าแต่งกายมิดชิดสวมผ้าคลุมใบหน้า เพื่อไม่ให้ใครจำสาวใช้ได้ แล้วพาขึ้นรถม้าไปที่หนึ่งในยามวิกาล อัลม่าไม่รู้เลยว่ารถกำลังวิ่งไปทิศทางไหนจนกระทั่งถึงที่หมาย ระหว่างลงจากรถม้า เธอมองทะลุผ่านผ้าซีทรูสีดำที่คลุมหน้า คฤหาสน์คอนกรีตหลังนี้ใหญ่โตราวกับวัง แค่กะจากสายตาน่าจะมีเกินยี่สิบห้อง ตรงบริเวณหน้าบ้านมีน้ำพุตรงกลาง แถมยังมีสวนทิวลิปสีแดงขนาดหลายไร่ตั้งอยู่ในอาณาเขตบ้านอีกด้วย
เมื่อถึงหน้าประตู เอเลนอร์ปลดผ้าคลุมหน้าออกให้
“เคาน์เตสรออยู่แล้วค่ะ”
สาวใช้ในชุดกระโปรงสีดำผูกผ้ากันเปื้อนสีขาวออกมาต้อนรับ ชุดของเธอคล้ายกับชุดสาวใช้บ้านเซเลน่า แต่ปกคอเสื้อและลูกเล่นบนชุดดูละเอียดกว่า เจ้าของบ้านคงชอบแต่งตัวถึงได้ให้ความสำคัญกับชุดสาวใช้
“เมลานี่ ขอโทษนะที่มากะทันหัน”
หญิงสาวผู้นั่งรออยู่ไว้ผมหยิกสีน้ำตาลประกายแดงเหมือนเปลวเพลิง ดวงตาสีทับทิมเฉี่ยวคมคล้ายสุนัขจิ้งจอก ใบหน้ารูปไข่รับกับริมฝีปากสวยแต่งแต้มด้วยสีแดงเลือดนก หล่อนสวมชุดกระโปรงสีดำขลิบทองที่แหวกคอลึกเห็นเนินอกใหญ่ รูปร่างสูง เอวคอด สะโพกผาย มวลรอบตัวมีรังสีของอำนาจแผ่ออกมา
“ถ้าเป็นเธอฉันพร้อมทุกเมื่อแหละเอเลนอร์”
น้ำเสียงแหลมสูงกลั้วหัวเราะในลำคอ เคาน์เตสแมคคาธี่มองเอเลนอร์ด้วยแววตาระยิบระยับ
“เธอได้อ่านจดหมายฉันที่ส่งมาเมื่อตอนบ่ายแล้วใช่มั้ย?”
เอเลนอร์ถามเสียงสั่น
“เรียบร้อย ใจเย็น ๆ แม่กระต่ายน้อย” เมลานี่เอ็นดูเอเลนอร์มาก ทั้งที่ทั้งคู่อายุ 24 ปีเท่ากัน แต่เอเลนอร์กลับดูเหมือนน้องสาวของหญิงผมแดง
“เธอเป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันพึ่งพาได้ ช่วยอัลม่าด้วยนะ”
เมลานี่ปรายตามองอัลม่าอย่างประเมิน มุมปากข้างขวายกขึ้น
“น่าสนใจ .. เธอเป็นคนผมสีเทาคนที่สองที่ฉันเคยเจอในชีวิต”
“สวัสดีค่ะท่านเคาน์เตส”
อัลม่าค้อมศีรษะแสดงความเคารพต่อหญิงผู้มีบรรดาศักดิ์สูงกว่าเอเลนอร์ สามีของเธอมีตำแหน่งเป็นท่านเอิร์ลแห่งซิลิเธีย
“ไหนลองบอกเหตุผลที่ฉันต้องช่วยเธอมาซิ”
“ถ้าท่านไม่ช่วยข้า ข้าคงต้องตายด้วยมือหญิงผู้นั้น”
“แล้วฉันจะได้อะไรตอบแทน?”
“ข้ายินดีรับใช้ท่านทุกอย่าง”
“ทุกอย่างแน่นะ?”
เจ้าของดวงตาสีทับทิมย้อนถามอย่างมีเลศนัย
“ค่ะ” อัลม่ารับปากอย่างเลี่ยงมิได้ แม้หญิงตรงหน้าจะดูเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่ตอนนี้เมลานี่เป็นคนเดียวที่จะช่วยให้เธอพ้นจากเซเลน่า เธอก็คงต้องจำทน วูบหนึ่งอัลม่าเห็นความซุกซนในดวงตาคู่นั้น
“ดีล!”
“ขอบใจนะเมลานี่”
เอเลนอร์กระโดดเข้าไปสวมกอดเพื่อนรักแทนคำขอบคุณ เมลานี่โอบเอวบางของหญิงสาวตาสีมะกอกเข้ามาแนบชิด
“สำหรับเธอ .. ได้เสมอ ว่าแต่ .. เธอผอมลงรึเปล่า?” น้ำเสียงเจ้าของบ้านเป็นห่วงเป็นใย
เมลานี่กับเอเลนอร์ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะเรียกพ่อบ้านเข้ามาร่างสัญญาสาวใช้ฉบับใหม่ให้อัลม่า เขาเป็นชายหนุ่มผมสีดำหน้าคร่ำเคร่ง ไว้หนวดเป็นรูปเกือกม้า
“เรียบร้อย ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้ว” ท่านเคาน์เตสแมคคาธี่ยิ้มถูกใจ แต่อัลม่ากลับรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
“ฝากด้วยนะเมลานี่” น้ำเสียงท่านไวน์เคาน์เตสแอชฟอร์ดอ้อนวอน
“จะดูแลอย่างดีเลย” เมลานี่ตอบอย่างมั่นใจให้เพื่อนสนิทหายกังวล
อัลม่าเดินไปส่งเอเลนอร์ที่หน้าประตูบ้าน ลึก ๆ เธอรู้สึกใจหายเหมือนกัน เพราะเอเลนอร์ถือว่าเป็นเจ้านายที่ดีกับเธอมาก
“ถ้าเธออยู่ที่นี่จะปลอดภัยกว่า เข้าใจฉันใช่มั้ย?”
เอเลนอร์เองก็ดูเศร้าที่ต้องอยู่ห่างจากอัลม่า
“ข้าจะทำตัวดี ๆ กับท่านเมลานี่ ไม่ทำให้ท่านต้องเสียชื่อแน่นอน”
สาวใช้หันหลังไปจะเปิดประตูคฤหาสน์แต่ท่านไวน์เคาน์เตสกลับเรียกขัดไว้ก่อน
“เดี๋ยว!”
พออัลม่าหันกลับมา ริมฝีปากนุ่มก็ประกบลงบนปากของเธออย่างอ่อนโยน ราวกับว่านี่เป็นจูบลา
“ดูแลตัวเองด้วยนะ ฉันจะติดต่อมาเรื่อย ๆ” เอเลนอร์พูดทิ้งท้ายด้วยความเป็นห่วง
คนโดนขโมยจูบยิ้มบาง จุมพิตนั้นเป็นความอบอุ่นที่อัลม่าไม่คิดว่าจะได้รับ แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานที่ได้อยู่กับเอเลนอร์ แต่อัลม่ากลับรู้สึกอุ่นใจเหมือนได้พี่สาวต่างสายเลือดมาหนึ่งคน
‘แบบนี้สินะ’
ชีวิตเด็กกำพร้าในชาติก่อนของเธอ ไม่เคยได้สัมผัสความอ่อนโยนเช่นนี้ ในใจมีแต่คำว่าขอบคุณเต็มไปหมด
อัลม่าได้แต่หวังว่าชีวิตต่อจากนี้ของเอเลนอร์จะไม่มีคราบน้ำตา แต่หากว่ามี ก็ขอให้เป็นน้ำตาแห่งความสุขเท่านั้น เธอยืนส่งเจ้านายเก่าจนรถม้าลับสายตาไป
"เธอเป็นคนพิเศษของเอเลนอร์สินะ”
น้ำเสียงแฝงไปด้วยความอิจฉาเล็ก ๆ เปรยขึ้นที่ด้านหลัง เมลานี่ยืนเหยียดยิ้มกอดอกพิงกำแพงเหมือนว่าอยู่ตรงนั้นมาสักพัก จากมุมนี้ อัลม่าเพิ่งเห็นชัดว่าเมลานี่สูงเกือบเท่าเธอ ขนาดเจ้าตัวสวมรองเท้าส้นเตี้ย ศีรษะยังเกือบถึงคิ้วของสาวใช้
“ท่านเอเลนอร์แค่เมตตาข้าเท่านั้น”
อัลม่าตอบแล้วก็ชะงักกึกไป เธอสังเกตเห็นว่าคอเสื้อของเคาน์เตสต่ำลงกว่าเดิม เผยให้เห็นเนินเนื้อขาวผ่องมากขึ้น
“มองอะไร ตะลึงในความสวยของฉันเหรอ?”
เมลานี่หัวเราะขบขัน
‘ความสวยงั้นเหรอ?’
ผู้หญิงตรงหน้าเรียกได้ว่ามีเครื่องหน้าดี ถ้าเป็นโลกก่อน ก็คงเป็นฟีลสวยสไตล์นางแบบเก๋ ๆ สักคน
‘คือหน้าตาก็ดีอยู่หรอก แต่ว่านิสัย .. ชอบทำทีเล่นทีจริง ไม่ค่อยน่าไว้ใจ คงต้องระวังตัวไว้ก่อน’
ฉับพลันใบหน้าไร้เดียงสาก็แล่นกลับเข้ามาในความคิด ดวงตาสีฟ้ากลมโตเข้ากับทุกสัดส่วนบนหน้า ทั้งสวยและน่ารักในคนเดียวกัน และรอยยิ้มที่เหมือนทำให้ทั้งโลกอบอุ่นขึ้นได้
อัลม่ากำลังหมายถึงผู้หญิงที่สวยที่สุด (จัดตามโพลของเธอเอง)
เธอเป็นใครกันนะ? แต่ดูจากรูปลักษณ์คงเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์สักตระกูล ซึ่งคงไม่น่าใช่ตระกูลนี้ เพราะเจ้าของบ้านผมสีแดงเพลิงไม่ใช่สีบลอนด์
กลิ่นวานิลลาอ่อน ๆ ของเธอยังเหมือนว่าหอมติดมืออัลม่ามาอยู่เลย
‘อยากเจออีกจัง’
เมลานี่ไม่รู้เลยว่าคู่สนทนาของเธอใจลอยไปหาหญิงอื่น เธอเดินตรงเข้ามาเชยคางอัลม่าให้สบตากับเธอ
“ฉันไม่ตัดสินเธอหรอกนะ .. เธอปรนนิบัติเอเลนอร์ยังไงบ้างล่ะ?”
อัลม่ายืนนิ่งไม่ได้หวั่นกลัว เธอผ่านผู้หญิงมามาก แค่นี้ไม่ได้ทำให้เธอสั่นได้
“ทุกอย่างค่ะ”
สาวใช้ตอบเสียงแผ่ว ยิ่งปลุกเร้าความอยากรู้อยากเห็นในตัวเจ้านายใหม่
“งั้นที่เธอบอกยินดีจะรับใช้ฉันทุกอย่าง .. ก็หมายถึง ..”
นิ้วเจ้านายสาวเริ่มเคลื่อนไปลูบที่รอยแผลเป็นของสาวใช้คนใหม่อย่างเย้ายวน
“แบบนี้ด้วยเหรอ?”
ท่านเคาน์เตสแมคคาธี่ยื่นหน้าเข้ามาหายใจรดต้นคออัลม่า ก่อนที่มือของเธอจะค่อย ๆ ลากผ่านลำคอลงมา อัลม่าจำต้องกล้ำกลืนฝืนทน ยอมเป็นของเล่นให้สตรีชั้นสูงคนต่อไป!!