มาเกิดใหม่เป็นทาสหน้าบากไม่พอ! ยังต้องมาเป็นของเล่นให้พวกสาวชั้นสูงอีก!!

เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง - บทที่ 16 สาวรับใช้คนใหม่ของเลดี้ฟีบี้ โดย คุณองุ่น @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หญิง-หญิง,ยูริ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

หญิง-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ยูริ,แฟนตาซี

รายละเอียด

มาเกิดใหม่เป็นทาสหน้าบากไม่พอ! ยังต้องมาเป็นของเล่นให้พวกสาวชั้นสูงอีก!!

ผู้แต่ง

คุณองุ่น

เรื่องย่อ

สารบัญ

เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทนำ บทนำ,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 1 ทาสหน้าบาก,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 2 บารอนเนสสโตก (NC),เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 3 ของเล่นสตรีชั้นสูง,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 4 ความคลั่งไคล้เป็นเหตุ,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 5 หนีตาย,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 6 ไวเคาน์เตสผู้ตาบอด,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 7 ริมหน้าต่าง (NC),เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 8 ห้องทำงานเบอร์นาร์ด,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 9 สตรีที่สวยที่สุดแห่งซิลิเธีย,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 10 เซอร์ไพรส์แด่ท่านเบอร์นาร์ด,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 11 เคราะห์ซ้ำ,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 12 เคาน์เตสแมคคาธี่,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 13 งานเดบูตองส์,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 14 การพบกันอีกครั้งที่ทำให้หัวใจหยุดเต้น,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 15 ของขวัญแด่เลดี้ฟีบี้,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 16 สาวรับใช้คนใหม่ของเลดี้ฟีบี้,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 17 บทเรียนที่หนึ่ง,เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูง-บทที่ 18 มาร์ควิสฟลิน

เนื้อหา

บทที่ 16 สาวรับใช้คนใหม่ของเลดี้ฟีบี้

ฟีบี้สีหน้าอ้ำอึ้ง ดาฟเน่เอามือตะครุบปากช็อก สตรีผู้มีเกียรติอีกสามคนมองหน้ากันอย่างตกใจ อัลม่าเงยหน้ามองเมลานี่อย่างเหลือเชื่อ


‘เล่นบ้าอะไรเนี่ย?’ อัลม่ารู้สึกหงุดหงิดที่เมลานี่ไม่เตี๊ยมกับเธอก่อน ขณะที่เมลานี่หัวเราะร่วน ดูเป็นคนเดียวที่อารมณ์ดีสุด ณ ตรงนั้น


“เธอชื่ออัลม่า ชอบของขวัญมั้ยล่ะฟีบี้?”


“เอ่อ .. จะดีเหรอคะ?” ฟีบี้ตะกุกตะกัก รับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถูก เธอดูเป็นห่วงความรู้สึกของสาวใช้ตรงหน้า


เมลานี่ส่งสัญญาณให้อัลม่า สาวใช้หัวเสียหนักมาก ความจริงแล้วถ้าท่านเคาน์เตสจะปรึกษากันก่อน อัลม่าคงไม่โมโหขนาดนี้ เพราะว่า...


“เป็นความต้องการของข้าเอง” อัลม่าตอบด้วยน้ำเสียงเต็มใจ ก่อนจะหันไปหรี่ตามองตัวต้นเรื่อง


ต่อให้เมลานี่บอกก่อน อัลม่าก็คงไม่ปฏิเสธ เพราะการต้องมาอยู่ใกล้สาวน้อยหน้าตาน่ารักไม่ใช่เรื่องโหดร้ายอะไร เมลานี่ป้องปากหัวเราะด้วยความถูกใจ


‘น่าหมั่นไส้ชะมัด’


อัลม่าเบือนหน้าหนี ปวดหูกับเสียงหัวเราะแหลมสูงของเจ้านายตัวเองแบบสุด ๆ






หลังงานจิบน้ำชาเลิก สาวใช้ร่างสูงมายืนรอคุยกับท่านเคาน์เตสแมคคาธี่ตรงบริเวณหลังคฤหาสน์ แต่คนที่เดินเข้ามาหาเธอก่อนกลับเป็นดาฟเน่


“อย่าหาว่าฉันเสียมารยาทเลยนะ แต่ขอดูผมเธอ ใกล้ ๆ ได้มั้ย” ดาฟเน่ดูสนอกสนใจมากเหมือนกับว่าเธอไม่เคยเห็นมาก่อน อัลม่าพยักหน้าให้เธออย่างตัดรำคาญ คิดว่าเธอคงมาวอแวด้วยไม่นาน


ความจริงแล้วดาฟเน่จำได้ว่าอัลม่าคือบ่าวในบ้าน เอเลนอร์ เธอจำได้ขึ้นใจว่าสาวใช้คนนี้เมินเธอ เพราะไม่เคยมีใครเมินเธอมาก่อน! สาวน้อยหน้าสวยปลอบใจตัวเองว่าวันนั้นสาวผมเทาคงงานยุ่ง แต่วันนี้เธอก็ยังทำหน้าอึนใส่!!


“เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเลยนะ”


อัลม่าได้แต่ภาวนาให้ดาฟเน่รีบขึ้นรถม้ากลับบ้านไป แต่สาวเจ้าก็ยังมาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ไม่เลิก


“ขอตัวนะคะ ท่านเมลานี่เรียกฉันแล้ว”


อัลม่าเดินผ่านหน้าดาฟเน่ไปเลย คุณหนูโดโนแวนปั้นหน้ายิ้มจนถึงที่สุด ทันทีที่อัลม่าพ้นสายตาไป เธอก็หุบยิ้มทันที


‘ชิ! คอยดูเหอะ’


คุณหนูผู้เอาแต่ใจหมายหัวเอาไว้ ครั้งหน้าจะต้องทำให้หญิงรับใช้ผู้นี้สนใจให้ได้ ดาฟเน่หมายมั่นปั้นมือกับตัวเอง




“เป็นไง? ชอบเซอร์ไพรส์มั้ย?”


น้ำเสียงเมลานี่ไม่ได้มีความรู้สึกผิดแม้แต่น้อย อัลม่าเองก็ทำได้แค่ถอนหายใจแล้วปล่อยเลยตามเลย แต่อย่างน้อยก็ขอทิ้งระเบิดไว้ให้คนเจ้าเล่ห์สักนิด


“ท่านเอเลนอร์รู้หรือยังคะ”


เมลานี่สะอึก เธอเพิ่งคิดได้ว่าหากเอเลนอร์รู้เข้าว่าเอาอัลม่าไปให้คนอื่น ต้องไม่พอใจแน่ ๆ


‘เมลานี่! ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ?’ เมลานี่นึกเสียง งอน ๆ ของเอเลนอร์ออกเลย แต่เธอคิดไว้แล้วว่าคนใจอ่อนแบบนั้น แค่เข้าไปกอดอ้อนสักหน่อย ไม่นานก็คงหายโกรธ


“เรื่องเอเลนอร์ฉันจัดการเอง ส่วนเธอ .. รู้ใช่มั้ยว่าต้องทำอะไร”


อัลม่ารู้ดีว่าเมลานี่ต้องการให้เธอเข้ามาอยู่ที่นี่เพื่อสืบเรื่องราวของมาร์ควิส แต่ผลพลอยได้อื่นที่อัลม่าจะได้ก็คือ..


“คุณอัลม่าคะ เชิญทางนี้ค่ะ”


สาวน้อยในชุดกระโปรงบานสีชมพูกวักมือเรียกให้เดินไปหา อัลม่าเดินตรงเข้าไปอย่างสุภาพ คุณหนูของบ้านยืนอยู่กับพี่เลี้ยงของเธอ อีดิธมีทีท่ากังวล


“จะดีเหรอคะคุณหนู ถ้าท่านมาร์ควิสกับมาร์เชอเนสรู้เข้า..”


อัลม่าได้ยินอีดิธกระซิบถามฟีบี้ สาวใช้ผู้อยู่มานานคงเกรงกลัวนายท่านทั้งสอง


“เดี๋ยวฉันคุยกับท่านพ่อเองค่ะ” คนตัวเล็กเสียงไม่ค่อยมั่นใจ แต่ในเมื่อท่านเมลานี่มอบของขวัญให้ เธอจะไม่รับไว้ก็เสียมารยาทแย่ แถมของขวัญชิ้นโตยังเป็นคนใจดีที่คอยโผล่มาช่วยเธอถึงสองครั้งอีกต่างหาก


“ฝากด้วยนะคะอีดิธ ฉันขอไปส่งเลดี้ดาฟเน่ก่อน”


อีดิธพาอัลม่าเดินตรงมาที่บ้านหลังเล็ก ๆ ซึ่งอัลม่าสงสัยอยู่เลยว่าเป็นบ้านใคร บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้เก่า 2 ชั้น ด้านในตกแต่งอย่างเรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์ราคาถูก เหมือนบ้านของคนธรรมดาทั่วไป


“เลดี้ฟีบี้พักอยู่ที่นี่”


‘ฮะ? บ้าแล้ว!’


อัลม่าตกใจมาก ให้ลูกสาวมาอยู่ในบ้านแคบ ๆ ทั้งที่มีคฤหาสน์หลังใหญ่โตหลายสิบห้องน่ะนะ!


“เธอเป็นลูกนอกสมรสที่มาร์ควิสไม่เคยต้องการนี่” อัลม่าจำประโยคที่เมลานี่เคยพูดกับท่านเอิร์ลได้ อย่างนี้นี่เอง ในบ้านหลังใหญ่ถึงไม่มีรูปของฟีบี้อยู่เลย อัลม่ารู้สึกเหลือเชื่อกับสิ่งที่พ่อคนหนึ่งจะทำกับลูกได้ลงคอ แต่ก็นั่นแหละ พ่อแม่ของเธอในชาติที่แล้วก็เอาเธอใส่ถุงพลาสติกไปทิ้งไว้ที่ถังขยะเหมือนกัน


‘จิตใจมนุษย์ช่างโหดเหี้ยม’ นี่คือสิ่งที่ได้เรียนรู้จากชีวิตก่อน เธอถึงไม่ค่อยไว้ใจใคร และมักจะมองโลกในแง่ร้ายไว้ก่อนเสมอ


อีดิธพาอัลม่ามาที่ห้องพักชั้นล่าง เธอแนะนำการใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้ให้อัลม่าอย่างใจดี เหนือเตียงของอัลม่าจะมีกระดิ่งอันหนึ่ง มันจะดังขึ้นเมื่อคุณหนูของบ้านสั่นเรียก


“ช่วยใจดีกับเลดี้ฟีบี้ด้วยนะจ๊ะ”


อีดิธทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงกึ่งขอร้องก่อนจะออกจากห้องไป อัลม่าไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเธอจะใจดีได้อย่างที่อีดิธต้องการรึเปล่า แม้ว่าเธอจะเอ็นดูคุณหนูผู้นั้น แต่ลึก ๆ เธอแคร์ใครไม่ค่อยเป็น


เพราะครั้งสุดท้ายที่เธอแคร์ .. หัวใจเธอแทบแหลกสลาย เธอยังจำวันที่พ่อแม่บุญธรรมในโลกก่อนมารับออกไปจากบ้านเด็กกำพร้าได้ เธอดีใจมากที่จะได้มีครอบครัวกับเขาสักที แต่ไม่นานนัก ก็ได้รู้ว่าพวกเขาเลี้ยงเธออย่างหวังผล


‘แกเป็นสมบัติของฉัน! ทั้งร่างกายของแก ดวงตา จมูก ปาก แม้กระทั่งเส้นผมก็เป็นของพวกฉัน เพราะฉะนั้น แกไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่ง แกต้องทำตามที่ฉันกับแม่แกบอกทุกอย่าง’


และเมื่อเธอไม่ได้เป็นไปดั่งใจพวกเขา พ่อบุญธรรมก็เริ่มทุบตีเธอ


“ฮือ .. หนูเจ็บ .. อย่าทำหนูเลย .. ฮือ”


เกวในวัย 15 ปี หนีออกจากบ้านมา และไม่เคยให้หัวใจกับใครอีกเลย


อัลม่าผ่อนลมหายใจ เธออยากให้ความทรงจำในอดีตเลือนหาย แต่มันก็ยังชัดเจนอยู่ดี




ค่ำวันนั้น เสียงกระดิ่งในห้องอัลม่าดังขึ้น อัลม่าในชุดนอนแขนยาวสีขาวที่อีดิธเตรียมไว้ให้เดินออกไปจากห้อง ในบ้านตอนกลางคืนช่างเงียบเชียบจนเวลาเดินก้าวขึ้นบันไดได้ยินเสียงไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าด


อัลม่าเคาะประตูห้องแรกตามคำบอกของอีดิธ ประตูห้องค่อย ๆ แง้มออก ฟีบี้อยู่ในชุดนอนสีขาวบาง ยืนกระมิดกระเมี้ยนอยู่หลังประตู


“เข้ามาก่อนสิ” เสียงหวานใสชักชวน นี่เป็นครั้งแรกที่สาวน้อยพาคนอื่นนอกจากอีดิธเข้าห้องนอน


อัลม่าเดินตามฟีบี้เข้าไปด้วยความรู้สึกร้อนรุ่ม ก็ประโยคเชื้อเชิญเมื่อครู่ กับการช้อนตามันทำให้อัลม่าตีความไปได้หลายแบบ แต่แน่นอนว่าสาวน้อยผู้ไม่มีประสบการณ์เรื่องอย่างว่าน่าจะแค่มีเจตนาเชิญเธอเข้าห้อง


‘จะบ้าตาย!’


คนฟุ้งซ่านต้องรีบเตือนตัวเองให้หยุดคิดอะไรอกุศล


ในห้องฟีบี้ใหญ่กว่าห้องของอัลม่าที่ชั้นล่างนิดหน่อย มีชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับดอกไม้และสมุนไพร จากการกวาดตามองเร็ว ๆ ห้องนอนสาวใช้ของบ้านเมลานี่ยังดูสบายกว่า


“อ๊ะ” เจ้าของห้องชะงักไป เธอเพิ่งเห็นชัด ๆ ว่าที่แก้มของสาวใช้คนใหม่มีรอยแผลเป็น


“ขอโทษด้วยค่ะ” น้ำเสียงทุ้มรู้สึกผิด อัลม่าลืมไปเลยว่าคุณหนูตรงหน้าไม่เคยเห็นรอยกรีดบนหน้ามาก่อน ทุกครั้งที่เจอกันเมลานี่แต่งหน้ากลบให้ แต่พออาบน้ำแล้วมันเลือนออกหมด


“ครั้งหน้าข้าจะปิดให้เรียบร้อย” สาวใช้ยืนก้มหน้า คุณหนูจะได้ไม่ต้องเห็นความน่ากลัว


“มะ ไม่เป็นไรค่ะ”


อัลม่าแปลกใจแต่ก็ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้น


“ฉันแค่ .. ขอโทษนะคะ .. คุณเจ็บมั้ยคะ?” น้ำเสียงห่วงใยของฟีบี้พุ่งเข้าไปในใจของคนฟัง สาวใช้อึ้ง เงยหน้าขึ้น เห็นดวงตาคู่สวยมองเธออย่างเป็นห่วงและไม่รังเกียจ


“ไม่เจ็บแล้วค่ะ”


อัลม่ารู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา ที่คนตัวเล็กถามถึงความรู้สึก


“ถ้าเจ็บตรงไหนก็บอกฉันได้นะคะ .. ฉันอาจจะช่วยได้บ้าง ..” สำเนียงพูดของฟีบี้อ่อนหวานนุ่มนวล สาวใช้คนใหม่คงมีชีวิตที่ยากลำบากมามาก หากเธอช่วยเหลืออะไรได้ ก็อยากช่วย


“ขอบคุณค่ะ” เสียงทุ้มลึกตอบ สาวน้อยผู้นี้ช่างมีจิตใจบริสุทธิ์ยิ่งนัก


“ขอโทษนะคะคุณอัลม่า ฉันทำตัวไม่ค่อยถูก” น้ำเสียงประหม่าอีกแล้ว ความจริงฟีบี้ดีใจมากที่ได้อัลม่ามาอยู่ด้วย แต่เธอไม่เคยมีเพื่อนร่วมบ้านคนอื่นมาก่อน


“อย่าเรียกข้าว่าคุณเลยค่ะ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน อัลม่าอยากให้ฟีบี้ทำตัวสบาย ๆ กับเธอมากกว่านี้


“งั้น .. ฉันขอเรียกเธอว่าอัลนะ” คุณหนูตระกูล ฟลินถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ


อัลม่ายิ้มรับ เด็กสาวเลยดูผ่อนคลายไปเยอะ


“ค่ะ เลดี้”


“ไม่ต้องเรียกว่าเลดี้หรอก เรียกฟีบี้ก็พอ” เจ้าของเสียงใสอนุญาต เธออยากมีเพื่อนวัยเดียวกันบ้าง ที่สำคัญเธอถูกเลี้ยงดูมาแบบคนธรรมดาคนหนึ่ง เวลาใครเรียกว่าเลดี้แล้วรู้สึกจักจี้


“ฟีบี้” สาวรับใช้คนใหม่เรียกด้วยเสียงเบาเหมือนพูดกับตัวเอง รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นบนดวงหน้าขาวผ่อง แม้ปราศจากเครื่องสำอาง แต่เธอก็ยังดูสวยกว่าใคร


“ที่ฉันเรียกอัลม่า เพราะมีเรื่องอยากรบกวนน่ะ” ดวงตาเล็ก ๆ เริ่มฉายแววกังวลอีกแล้ว


“คือ .. คุณพ่ออยากให้ฉันแต่งงาน ท่านก็เลยเริ่มพาฉันไปเปิดตัว”


เป็นอย่างที่เมลานี่คาดเดาว่ามาร์ควิสอยากให้ลูกสาวออกเรือนด้วยเหตุผลบางอย่าง


“ฉันไม่อยากทำให้คุณพ่อผิดหวัง ก็เลย .. อยากให้อัลช่วย”


อัลม่าพร้อมรับฟังเรื่องที่ฟีบี้จะขอความช่วยเหลือ แต่แล้วจู่ ๆ ฟีบี้ก็หน้าแดงแปร๊ด สีแดงบนหน้าลามไปถึงลำคอ ใบหูและลำตัว


“ท่านเมลานี่บอกว่าอัล .. เก่งเรื่องนั้น .. ช่วยสอนฉันหน่อยได้มั้ย?”


ดวงหน้างามช้อนตาขึ้นมองคนตรงหน้า เสื้อนอนหลวม ๆ ของฟีบี้ดันไหล่ตกเผยให้เห็นหัวไหล่ขาวนวล สายตาของสาวน้อยมองไปทางอื่นด้วยความเขิน เธอไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังยั่วคนอื่นอยู่ แถม ‘คนนั้น’ ยังอันตรายมากด้วย