มาเกิดใหม่เป็นทาสหน้าบากไม่พอ! ยังต้องมาเป็นของเล่นให้พวกสาวชั้นสูงอีก!!
หญิง-หญิง,ยูริ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เกิดอีกทีเป็นของเล่นสตรีชั้นสูงสายตาของคนอันตรายไล่ไปที่ใบหน้า ลำคอ หัวไหล่ จนมาหยุดที่เนินอก ก่อนจะไล่ลงไปอีกจนคนถูกจ้องทำตัวไม่ถูก
ฟีบี้ในชุดขาวดูนุ่มนิ่มเหมือนลูกแกะ ถ้าเป็นปกติอัลม่าคงกระโจนเข้าใส่เหยื่ออันโอชะไปแล้ว แต่เพราะ ฟีบี้ช่างบริสุทธิ์ราวกับผ้าขาวสะอาด จนสามัญสำนึกของเธอยังไม่อยากทำให้สาวผู้ไม่เดียงสาต้องด่างพร้อย เธอต้องกลืนความหิวกระหายลงลำคอ
“ฉันพูดอะไรผิดรึเปล่า” ใบหน้าของสาวผิวขาวดูตื่นตระหนก เมื่อเห็นคนตรงหน้านิ่งนานเกินไป
‘1..2..3..4..’ ตัวเลขนับในใจผุดขึ้นมาเพื่อให้จิตไม่ฟุ้งซ่าน
“...เปล่าค่ะ” อัลม่าพยายามข่มใจเบือนหน้าไปทางอื่น ฟีบี้หน้างุนงงเหมือนมีเครื่องหมายคำถามขึ้นเต็มใบหน้า
“การจะมัดใจว่าที่สามีได้ ต้องเริ่มจากความประทับใจแรกพบก่อนนี่คะ” อัลม่าหาทางเบี่ยงประเด็น
“โอ๊ะ .. ฉันข้ามขั้นไปสินะ” ใบหน้าฟีบี้ยิ่งแดงเหมือนผลตำลึง แต่ก็ลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“พรุ่งนี้จะเริ่มบทเรียนแรกค่ะ”
อัลม่าราตรีสวัสดิ์ฟีบี้และออกมาจากห้อง เธอยืนสงบสติอยู่หน้าประตูสักพัก มือข้างหนึ่งกุมไว้ที่หน้าอกหวังให้ความรู้สึกแปลก ๆ ที่มีค่อย ๆ สงบลง
‘ยัยเมลานี่ไปพูดแพล่มปล่อยเฟกนิวส์อะไรอีกล่ะเนี่ย! ถึงแม้เธอจะเก่งเรื่องอย่างว่าจริง แต่เอามาบอกฟีบี้เนี่ยนะ?’
ร่างสูงเดินฉับ ๆ ลงบันไดไปอย่างหัวเสีย แต่ไม้ลั่นดังรบกวนคนอื่น เลยต้องเปลี่ยนมาก้าวเท้าช้า ๆ ถ้าอัลม่าเจอเคาน์เตสอีกครั้ง คงจะต้องเคลียร์กันยกใหญ่!
รุ่งเช้า อัลม่าเดินออกมาจากห้องก็เจอคุณหนูของบ้านนั่งรอด้วยสีหน้าตื่นเต้นอยู่แล้ว ผมหน้าม้ากับเปียสองข้างยิ่งทำให้เธอดูเด็กกว่าอายุจริง เธอสวมชุดกระโปรงสีเหลืองสับปะรด ช่วยขับผิวให้ดูเปล่งปลั่งเป็นพิเศษ
ฟีบี้คงตั้งใจมาเรียนรู้จากอัลม่ามาก แต่คนหน้าบากยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะสอนอะไร
‘แค่ทำให้ประทับใจก็พอ’
อัลม่ามุ่งมั่น หากสาวน้อยตรงหน้าชื่นชมในตัวเธอ เธอก็จะได้อยู่สืบข่าวของกาเบรียลให้เมลานี่ได้นาน ๆ
และถ้าเมลานี่พอใจในการทำงานของเธอ เธอก็จะมีคนคุ้มกะลาหัวและอยู่รอดต่อไปได้
“ท่านมีบุรุษในฝันมั้ยคะ”
ถึงแม้คุณครูจำเป็นจะไม่อยากถามเท่าไหร่ แต่ก็ต้องถามเพื่อจะได้สอนถูก
“บุรุษงั้นเหรอ?” คิ้วของฟีบี้ขมวดเป็นโบ ไม่รู้ทำไมถึงดูคิดหนักขนาดนั้น เป็นเรื่องทั่วไปไม่ใช่เหรอที่สาว ๆ จะต้องมีหนุ่มในฝัน
“แบบอัลล่ะมั้ง” ฟีบี้เบนสายตาไปที่มุมห้องอย่าง อาย ๆ มือที่วางทับบนตักกำกันแน่น
‘เห ...’ ดวงตาอัลม่าเบิกกว้าง ก็สาวน้อยผู้ตรงสเปค ดันบอกว่าเธอก็เป็นสเปคของเจ้าหล่อนด้วยเหมือนกัน
“หมายถึง .. คนใจดีน่ะ”
‘อ้อ!’
อัลม่าเกือบหลงเข้าข้างตัวเองไปแล้ว ดีที่ดึงกลับมาทัน
“งั้นถ้าข้าเป็นบุรุษผู้นั้น .. ท่านจะเข้าหาข้าอย่างไร” อัลม่าเคลื่อนตัวไปยืนกอดอกอยู่ที่มุมห้อง เธอจ้องฟีบี้นิ่ง รอดูว่าหญิงสาวจะเล่นบทบาทสมมติยังไง ฟีบี้ค่อย ๆ ลุกขึ้น ก่อนเดินเข้าไปเมียงมองอัลม่าอย่างสนใจ
“สวัสดีค่ะ ฉันฟีบี้”
“ผิด”
“เอ๊ะ!”
คนตัวเล็กหน้าตาช็อกมาก อัลม่ามองด้วยสายตาเอ็นดู
“หากท่านแสดงความสนใจมากเกินไป .. จะดูไม่น่าค้นหา”
อัลม่างัดเคล็ดลับที่เคยใช้ได้ผลจากชีวิตก่อนมา ชายหนุ่มหลายรายหลงเธอหัวปักหัวปำเพราะเธอเล่นตัวนี่แหละ น่าสงสารชายเหล่านั้น เพราะเธอสนใจแต่ผู้หญิง
ฟีบี้เดินไปใช้ปากกาจดคำสอนของอัลม่าลงสมุดเล่มเล็กด้วยสีหน้าจริงจัง
เมี้ยววววววววววววว
อัลม่าก้มลงมองที่พื้น เห็นว่ามีแมวตัวอ้วนกลมลายขาวสลับดำ เดินมาล้มตัวลงใส่เท้าของฟีบี้ มันน่าจะเป็นแมวจรเพราะไม่มีปลอกคอ ท่าทางของมันดูออดอ้อนและน่าจะคุ้นชินกับเจ้าของบ้านพอสมควร
“มีคนหิวแล้ว”
ร่างเล็กก้มลงเกาคางให้แมวอย่างอ่อนโยน
‘สนใจกันก่อนสิ’
อัลม่าไม่ชอบให้ใครมาขัดจังหวะเวลาที่เธอกำลังพูดเรื่องสำคัญอยู่
“ขอเวลานิดหนึ่งได้มั้ย?” ฟีบี้เสียงอ้อน
“บุรุษกับแมวผู้หิวโซ .. เลือกมาค่ะ” คำถามประลองสติปัญญาจากอัลม่า เผื่อว่าเลดี้คนนี้จะจัดลำดับความสำคัญในชีวิตตัวเองได้มากขึ้น เธอต้องเตรียมตัวหาคู่ แต่กลับยังไม่รู้วิธีปฏิบัติตัวกับชายหนุ่มที่ถูกต้อง
“บุรุษหาข้าวกินเองได้ .. แต่เจ้าแมวน้อยหาไม่ได้”
อัลม่าเผลอเอามือขึ้นตบหน้าผาก แต่คนตัวเล็กไม่ทันเห็นเพราะวิ่งเข้าห้องครัวไปกับเจ้าแมวเหมียวตัวนั้นเรียบร้อย
‘ดื้อเหมือนกันแฮะ’
อัลม่านึกว่าฟีบี้จะว่านอนสอนง่ายไปซะทุกเรื่อง แต่ดูท่าเธอจะมีจุดยืนกับบางเรื่อง เช่นการเป็นทาสแมว เจ้าแมวตัวนั้นพุงโตอย่างกับลูกแตงโม ยังคิดว่ามันหาข้าวกินเองไม่ได้ อัลม่าเดินตามฟีบี้ไปที่หลังครัว เห็นว่าเธอกำลังเอาปลาให้มันกินอยู่
‘กินดีกว่าคนอีก!’
มื้อแรกที่อัลม่ามาถึงบ้านหลังนี้ยังไม่ได้ลิ้มลองรส เนื้อปลาหวาน ๆ เลยด้วยซ้ำ อัลม่าถอนหายใจ ยืนมองฟีบี้ลูบขนเจ้าแมวอย่างเบามือ แววตาของเธอเป็นประกายเจิดจ้า
‘น่าเป็นห่วง’
อัลม่าได้แต่คิดว่าคนเปราะบางอย่างเธอจะออกไปเผชิญโลกภายนอกได้อย่างไร
“ใครน่ะ! เข้ามาได้ยังไง?”
เสียงตวาดลั่นดังขึ้นข้างหลังอัลม่า หญิงที่เดินเข้ามาหน้าตาเหมือนในรูปวาดเป๊ะ มาร์เชอเนสฟลินผู้หยิ่งทระนง เธอสวมกระโปรงสีแดงเลือดหมูตัดกับผิวสีขาว ใบหน้าบึ้งตึง ปากคว่ำ มองอัลม่าด้วยสีหน้ารังเกียจ
อัลม่ารีบหันมองฟีบี้ แววตาของเธอดูหวั่นเล็ก ๆ น่าจะคุ้นเคยกับการถูกดุ
“เธอเป็นสาวใช้ของท่านเมลานี่ค่ะ .. ท่านเมลานี่ให้มา”
“แล้วเธอก็รับไว้เนี่ยนะ” ลุยซ่าแผดเสียงดัง
“ข้าไม่อยากเสียมารยาทกับท่านเมลานี่”
“ฉันจะฟ้องท่านมาร์ควิสว่าเธอพาตัวประหลาดเข้ามาในบ้าน!!”
ลุยซ่าสีหน้าถมึงทึงเอาจริง ไม่ต่างอะไรจากพวกแม่เลี้ยงใจร้ายในละครหลังข่าว มาร์เชอเนสหมุนตัวเดินกลับไปเหมือนพายุพัด
“จะเป็นไรมั้ยคะ?” อัลม่าถามฟีบี้ด้วยความกังวลแทน ฟีบี้เองก็คิดหนัก แต่เลือกที่จะมองโลกในแง่ดีไว้ก่อน
“ท่านพ่อน่าจะเข้าใจ .. ท่านไม่ใช่คนใจร้ายหรอก”
อัลม่าทึ่งที่ฟีบี้ยังปกป้องพ่อของเธอ ทั้งที่เขาน่าจะเลี้ยงเธอแบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่นานเกินรอ เสียงอีดิธดังเข้ามาก่อนตัว
“เลดี้ฟีบี้!” อีดิธเดินร้อนรนเข้ามาด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม
“ท่านมาร์ควิสเรียกไปพบค่ะ
แล้วก็ ..
เรียกเธอไปด้วย”
อีดิธมองอัลม่าอย่างหนักใจ อัลม่าผงะ ฟีบี้อ้ำอึ้ง หรือว่าสาวใช้คนนี้จะต้องไปจากคฤหาสน์มาร์ควิสในวันนี้!!