เรื่องสั้นแยกตอนของความธรรมดาสามัญของชีวิตคนที่มีความรัก โลภ โกรธ หลงเป็นตัวผลักดันชีวิต ให้พวกเขาไปพบกับเหตุการณ์ลึกลับเหนือจินตนาการ

เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย - เรื่องที่ 9 คู่กัด โดย ณ เสียงฝน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ผจญภัย,ลึกลับ,ดราม่า,ลึกลับ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ผจญภัย,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,ลึกลับ

รายละเอียด

เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย โดย ณ เสียงฝน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เรื่องสั้นแยกตอนของความธรรมดาสามัญของชีวิตคนที่มีความรัก โลภ โกรธ หลงเป็นตัวผลักดันชีวิต ให้พวกเขาไปพบกับเหตุการณ์ลึกลับเหนือจินตนาการ

ผู้แต่ง

ณ เสียงฝน

เรื่องย่อ

สารบัญ

เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 1 เจน,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 2 ลุงเอก,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 3 ข้าว 5 โลกับนม 2 ลิตร,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 4 หนังสือ,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 5 หวาดระแวง,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 6 รักแท้,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 7 ความโลภกับสัญญามาร,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 8 เล่นชู้,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 9 คู่กัด,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 10 อาสาสมัคร,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 11 คู่รักพักร้อน,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 12 ซ่อน,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 13 ชื่อของยาย,เรื่องเล่าแห่งความโชคร้าย-เรื่องที่ 14 หมอดู

เนื้อหา

เรื่องที่ 9 คู่กัด

🔸️คู่กัด🔸️

จอมพลกับนภาเป็นสามีภรรยากันมาเกือบ 14 ปี แรกๆ พวกเขาก็รักกันดี ไม่เคยมีเรื่องนอกกายนอกใจให้ต้องคิดมาก แต่พอหลายปีผ่านไป ความเคยชินของการใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันก็เริ่มทำให้เกิดอาการถกเถียงกันไปมาอยู่เป็นนิตย์​ 

"ขับช้าๆ หน่อยสิคุณ​" นภาบ่น ตอนทั้งสองอยู่ในรถ กำลังมุ่งหน้าไปตลาดเพื่อซื้อข้าวของเครื่องใช้รายสัปดาห์เหมือนอย่างที่ทำทุกอาทิตย์​ 

"รถเยอะๆ แบบนี้ ขับช้าเกินเดี๋ยวก็โดนรถคันหลังบีบแตรไล่อีก" จอมพลพูดเรื่อยๆ

นภายิ้มเยาะพลางพ่นลมออกจมูก "เออ ฉันก็ลืมไป ว่าคุณมันรู้ดีที่สุดในโลก ทำอะไรไม่เคยผิด!" เธอพูดน้ำเสียงถากถาง 

จอมพลมองเมียแบบละเหี่ยใจ เม้มปากหยุดตัวเองไม่ให้ต่อคำให้เสียเวลา พลางนึกว่าทำไมทุกอย่างที่เขาพูดและทำจะต้องเป็นเหตุให้พวกเขาทั้งสองต้องเถียงกันไม่หยุด

“ระหว่างทางเดี๋ยวหยุดร้านเซเว่นให้ด้วยนะ ฉันจะซื้อกาแฟ” นภาเปรย
“กาแฟที่ตลาดเลยก็มีมั้ย ทำไมต้องแวะเซเว่นด้วย เสียเวลาเปล่าๆ” จอมพลพูดไปตามที่คิด นภาชอบกินกาแฟเย็น แล้วไอ้กาแฟเย็นกาแฟชงนี่มันก็มีอยู่ทุกที่ทั่วไป ไหนๆ ก็จะไปซื้อของที่ตลาดอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องลำบากหาที่จอดหน้าเซเว่นใกล้ตลาดเลย

“กาแฟเซเว่นอร่อยกว่า หวานกว่า ฉันชอบของฉันแบบนั้น แล้วถ้าไปถึงตลาดแล้วร้านกาแฟไม่มาขายจะทำยังไง?” นภาเถียง

“ก็ถ้าร้านที่ตลาดไม่มีขายก็ค่อยชื้อกาแฟที่เซเว่นตอนขากลับก็ได้” จอมพลตอบเรียบๆ

“แต่ถ้าไปเซเว่นตอนขากลับ ร้านมันจะอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม เดี๋ยวคุณก็ต้องขับข้ามถนนอีก” นภาให้เหตุผล
จอมพลถอนใจ พอถึงหน้าเซเว่นก็ชะลอรถจอด “งั้นก็ซื้อโค้กให้กระป๋องนะ” เขาพูด

เมียเขาหันมองขมวดคิ้ว “โค้กมันไม่ดี เดี๋ยวก็ท้องอืดอีก คราวที่แล้วปวดท้องแทบแย่ จำไม่ได้เหรอคุณ?”

“น่า นานๆ ที ผมไม่ได้กินทุกวัน” เขาพูดเบื่อๆ ไม่รู้ว่าบทสนทนาที่น่ารำคาญนี้มันจะจบลงเมื่อไหร่ “เมื่อก่อนผมกินทุกวัน แต่เดี๋ยวนี้สองอาทิตย์กินที ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นหรอกมั้ง” 

“น่าจะเลิกกินได้แล้ว” นภาเหน็บ
“โค้กกระป๋องนึง” จอมพลย้ำเสียงนิ่ง เขารู้สึกได้ถึงสายตาเขียวปั้ดของนภาแต่ไม่ได้สนใจจะหันไปมอง เพราะชินชาเสียแล้วกับนิสัยแบบนี้ของเมีย

นภากระฟัดกระเฟียดลงจากรถก่อนกระแทกประตูปิดดังปัง จอมพลหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบเพื่อสงบสติอารมณ์ เขารู้สึกว่าชีวิตคู่ไม่แฟร์ 

จากประสบการณ์แล้ว ฝ่ายหญิงมักจะเป็นฝ่ายงอนตุ๊บป่อง คาดหวังให้ฝ่ายชายต้องง้อ ไม่ว่าใครจะเป็นคนผิดก็ตาม ดูอย่างครั้งนี้ นภาอยากซื้อกาแฟเย็นที่เซเว่นเขาก็แวะจอดรถให้ซื้อแล้ว แต่นภาก็ยังไม่วายแสดงท่าทีไม่พอใจ

จอมพลกดเปิดหน้าต่าง เขารู้ว่านภาไม่ชอบกลิ่นบุหรี่และบ่นเป็น หมีกินผึ้งทุกครั้งที่เขาสูบบุหรี่ในรถ แต่เขาไม่อยากเก็บมาคิดให้รำคาญใจ ยังไงเสีย ถ้าไม่ใช่เรื่องสูบบุหรี่ นภาก็มีเรื่องหามาบ่นได้ตลอดอยู่ดี

ถึงตอนนี้จะเป็นเวลาบ่ายแก่ๆ แล้ว แต่อากาศวันนี้ก็ยังร้อนอบอ้าว จอมพลมองออกไปนอกหน้าต่างพลางดูดควันบุหรี่เข้าปอดลึก ที่นี่อยู่ใกล้ตลาดสดนิดเดียวและมีผู้คนเดินกันพลุกพล่าน เขามองเห็นคู่หนุ่มสาวคู่หนึ่งที่เดินไปหยอกล้อกันไปพลางหัวเราะกิ๊กกั๊กอย่างไม่เร่งรีบ ราวกับว่าโลกทั้งโลกมีเพียงเขาและเธอเพียงสองคนเท่านั้น จอมพลพ่นลมออกจมูก “เฮอะ! รอก่อนเถอะไอ้หนุ่ม อีกไม่นานหรอก แกก็จะเป็นเหมือนข้านี่แหละ” เขาพึมพำเบาๆ พลางนึกย้อนไปถึงวันวานที่แสนหวาน

เขากับนภาเองก็เคยรักกันแบบนั้น เขารู้ว่านภาชอบอะไร และนภาเองก็รู้ว่าเขาชอบอะไร พวกเขาต่างเอาอกเอาใจและเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ตอนนั้นรักยังหวานไม่ใช่เปรี้ยวเข็ดฟันเหมือนทุกวันนี้ นภาเคยเป็นคนใจสปอร์ต ไม่ว่าจอมพลอยากได้อะไรเธอก็หามาให้ทุกอย่างเพื่อเอาใจผัวรัก ต่างกันลิบลับกับทุกวันนี้

ส่วนจอมพลเองก็ชอบซื้อของขวัญให้นภา โดยเฉพาะเสื้อแขนยาว เขามักจะซื้อเสื้อแขนยาวสวยๆ ให้นภาเมียรักเสมอ เขารู้ว่านภาใส่เสื้อแขนยาวเป็นส่วนมากเพราะเธอเป็นภูมิแพ้พิษมดคันไฟรุนแรง 

เธอเคยเล่าให้เขาฟังว่า สมัยยังเด็ก นภาเคยถูกมดคันไฟกัดต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลแทบไม่ทัน โชคยังดีที่รอดชีวิตมาได้ ทุกวันนี้ เพื่อเป็นการไม่ประมาท นภาจึงสวมเสื้อแขนยาวแทบจะตลอดเวลา

จอมพลจำได้ว่า ตั้งแต่ได้ยินเรื่องอาการแพ้พิษมดคันไฟของนภา เขาเป็นกังวลและเป็นห่วงเมียรักเอามากๆ เขาเริ่มหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ พยายามทำความเข้าใจ เพื่อที่จะได้ปกป้องภรรยาของตนได้ดียิ่งขึ้น 

จากข้อมูลที่เขาได้มา เขาได้รู้ว่า ภาวะภูมิแพ้รุนแรง ป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วร่างกายและอาจมีความรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิต มันเป็นอาการที่ระบบภูมิคุ้มกันปล่อยสารเคมีออกมามากจนทำให้เกิดอาการช็อกได้ ความดันโลหิตลดลงอย่างกะทันหัน และทางเดินหายใจตีบตันจนขัดขวางการหายใจ 

แต่ยิ่งนานเข้า ชีวิต​แต่งงาน​ของเขาก็ยิ่งน่ารำคาญ​ ไม่ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไร​ ก็ดูเหมือนว่านภาจะไม่พอใจ​ไปเสียทุกอย่าง​ 

เสียงเปิดประตูรถดึงจอมพลออกจากภวังค์​ นภากลับมาที่รถพร้อมแก้วกาแฟเย็น​ใบโตแต่ไร้แววโค้กกระป๋องที่เขาขอให้เธอซื้อให้

"ไหนโค้ก?" จอมพลถาม

"ก็บอกแล้วไงว่าควรจะเลิกกินโค้กได้แล้ว" นภาตอบแบบไม่หันมามองเขาด้วยซ้ำ

"ว่าไงนะ? นี่คุณไม่ได้ซื้อโค้กให้ผมจริงๅ เหรอ?" จอมพลถามอย่างไม่เชื่อหู "ไม่เกินไปหน่อยเหรอคุณ​? แค่โค้กกระป๋อง​เดียว​ก็ซื้อให้ไม่ได้เลยเหรอ มันจะอะไรกันนักหนา!"

นภาอ้าปากค้างหันมามองเขาราวกับว่าเธอช็อกกับสิ่งที่ได้ยิน "แค่โค้กกระป๋องเดียวต้องขึ้นเสียงด้วยเหรอ?! ที๋คุณ​สูบบุหรี่​ในรถฉันยังไม่ว่าอะไรเลยนะ!" 

จอมพลเอียงคอ แววตาเหมือนเพิ่งเข้าใจอะไรบางอย่าง "อ๋อ.. อย่างงี้นี่เอง แสดงว่าตอนซื้อของในเซเว่น คุณเห็นผมสูบบุหรี่​เลยตัดสินใจไม่ซื้อโค้กเป็นการแก้เผ็ดผมสินะ!" 

"ไม่ใช่​สักหน่อย​! บอกแล้วไงว่ากินโค้กมากๆ มันไม่ดี"นภานั่งหลังตรงคอแข็งตามองไปข้างหน้าอย่างดื้อรั้น
"เออ ก็แปลกดี ทีตัวเองกินกาแฟเย็นหวานๆ ได้ทุกวันจนอ้วนเป็นตุ่ม อันนั้นกินได้ไม่ต้องเลิก!"

นภาหันขวับมามองจอมพลอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อหู สีหน้าแสดงความเจ็บปวด "ทำไมใจร้ายแบบนี้?!"

"พูดไม่ดูตัวเอง​! ตัวเองคงหล่อมากเลยมั้ง นี่ถ้ารู้ว่าแต่งมาแล้วจะเป็นแบบนี้ ฉันตัดสินใจแต่งกับกฤตดีกว่า!"

จอมพลกัดฟันกรอด เขาเข้าเกียร์​แล้วออกรถ เธอกล้าดียังไงถึงพูดถึงไอ้กฤตขึ้นมา รู้ทั้งรู้ว่าเขาเกลียดมันเข้าไส้?

กฤตเคยเป็นเพื่อนรักที่จอมพลไว้ใจ ตอนเขากับนภาเริ่มคบกันใหม่ๆ ทั้งเขา นภา และกฤตกลายเป็นเพื่อนสนิทกันมากและไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ต่อมาไม่นาน เขาสังเกตุเห็นว่าพฤติกรรม​ของทั้งกฤตและนภาเปลี่ยนไป ราวกับว่าพวกเขากำลังปิดบังอะไรบางอย่าง เขาคาดคั้นเอากับนภาว่าเกิดอะไรขึ้นและนภาสารภาพว่ากฤตพยายามจีบเธอลับหลังจอมพลมาสักพักแล้วและเธอเองตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจตัวเองว่ารักใครกันแน่ จอมพลหรือกฤต

จอมพลเสียใจและเสียความรู้สึก​มาก ที่ทั้งกฤตที่เป็นเพื่อนรักและนภาคนรักแอบคุยกันลับหลังเขา และด้วยความแค้นใจมากกว่าอะไรทั้งหมด จอมพลตัดสินใจขอนภาแต่งงานและนภาตอบตกลง

นภากล้าที่จะเอ่ยชื่อกฤตต่อหน้าเขา แสดงว่าเธอกล้าที่จะเผชิญหน้า​กับผลร้ายที่ตามมา..

วันนั้นทั้งวัน เขากับนภาไม่ได้คุยอะไรกันอีก ต่างคนต่างเงียบ แต่เป็นความเงียบที่แตกต่างกัน นภาเงียบแบบดื้อเงียบ ส่วนจอมพล เงียบราวกับกำลังครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง​

ช่วงประมาณสองทุ่มคืนนั้นหลังกินมื้อค่ำ เขาบอกนภาว่าจะออกไปขับรถกินลมเล่นข้างนอก 

"จะไปด้วยกันไหม?" เขาถาม
นภาไม่มองหน้าเขาด้วยซ้ำ เพียงส่ายหน้าเชิดๆ อย่างไม่ใส่ใจ

จอมพลหยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากบ้านไป

คืนนั้น จอมพลกลับมาถึงบ้านแล้วตั้งใจจะนอนในห้องรับแขก ส่วนนภา พอถึงเวลานอนก็เดินฉิวเข้าห้องนอนไปอย่างไม่สนใจไยดีสามี จอมพลรู้อยู่แก่ใจว่าเธอจะทำตัวแบบนี้เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก 

นภาเป็นคนเอาแต่ใจมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าใครจะเป็นคนผิด จอมพลมักจะเป็นฝ่ายง้อเธอก่อนเสมอ

เขายิ้มมุมปาก 
นภาคิดว่าเธอรู้ทุกอย่าง​เกี่ยวกับ​เขา แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ

หนึ่ง.. เขายอมให้เธอได้ทุกอย่าง​ ยกเว้นเรื่องกฤต

สอง.. เมื่อตอนสองทุ่ม เขาไม่ได้ไปขับรถกินลมอย่างที่บอกนภา แต่ไปที่ป้ายรถเมลใต้ต้นฝรั่งใกล้บ้าน ที่ที่เขาเคยเห็นรังมดคันไฟ

สาม.. ตอนนภาวุ่นทำกับข้าวมื้อเย็นในครัว เขาเดินเข้าไปในห้องนอนพร้อมแก้วกาแฟเย็นที่นภาวางทิ้งไว้บนโต๊ะในห้องรับแขก​ เขาเอามือจุ่มกาแฟเย็นที่หวานเอาเรื่องของเธอก่อนโรยเป็นหยดเล็กๆ ทั่วหมอนและที่นอนฝั่งนภา ก่อนเปิดถุงพลาสติกแล้วค่อยๆ บรรจงโรยมดคันไฟลงบนเตียง
-- จบ --