เอ ชายหนุ่มที่โชคร้าย เกิดอุบัติเหตุตายและเมื่อรู้สึกตัว เขาก็ได้เกิดใหม่เป็นก็อบลินไปเสียแล้ว

ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ - ตอนที่ 7 กวาดล้างพวกออร์ค โดย Seria @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ฮาเร็ม,พระเอกเก่ง,เกิดใหม่แต่ใจเดิม,NC+,ต่างโลก,แฟนตาซี,เกิดใหม่ ,NC,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ฮาเร็ม,พระเอกเก่ง,เกิดใหม่แต่ใจเดิม,NC+,ต่างโลก,แฟนตาซี,เกิดใหม่ ,NC

รายละเอียด

เอ ชายหนุ่มที่โชคร้าย เกิดอุบัติเหตุตายและเมื่อรู้สึกตัว เขาก็ได้เกิดใหม่เป็นก็อบลินไปเสียแล้ว

ผู้แต่ง

Seria

เรื่องย่อ

เอ ชายหนุ่มผู้โชคร้าย ชีวิตรันทดก่อนจะตายลงจากโรคร้าย ก่อนจะรู้สึกตัวว่าตนเองได้เกิดใหม่เป็นก็อบลินไปเสียแล้ว

นี้คือเรื่องราวการผจญภัยและการเติบโตของเขา ที่จะฟันฝ่าชะตากรรมที่ต้องตาย ในฐานะก็อบลินและจะวิวัฒตนาการตนเอง ให้เป็นมอนเตอร์สุดแกร่งเพื่อครองโลกใบนี้ ชีวิตของเขาจะเป็นเช่นไร จะต้องเจอกับอะไรโปรดรับชม

 

หมายเหตุ: ตอนแรกว่าจะให้มีระบบ แต่โยนทิ้งไปครับ มันแบบ ขก.เขียนเว้ย!!!

เพราะงั้นนิยายเรื่องนี้กลุ่มของมอนเตอร์จะมีระบบเรื่องของ เลเวลเข้ามา เพื่อวิวัฒตนาการตนเองสู่เผ่าพันธ์ที่แข็งแกร่งกว่า แต่ความสามารถก็ต้องศึกษาและฝึกฝนเองนั่นแหละ

หมายเหตุ 2: นิยายเรื่องนี้ ผมได้รับแรงบัลดาลใจอะไรไม่รู้ แต่ 1 เลยคือมี Re:Monster ละ 1 ทำไมหรอ? ออ นึกไปถึงสมัย 6-7 ปีก่อนเคยเล่นฉบับเกมมือถือ และก็ชอบไงก็เลย อยากจะหยิบยืมคอนเซ็ปการวิวัฒตนาการต่างๆอะไรทำนองนี้มา

 

อันนี้ขอแจ้งก่อนว่า ในนิยายเรื่องเนี่ย ผมคิดว่า มอนเตอร์เนี่ย ไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายนะ ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหล่าทวยเทพก็ทรงรักและสร้างสรรค์ขึ้นมา คือเอาง่ายๆเลยก็ พระเจ้าทรงรักเหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งปวง

แต่ทำไม ก็อบลินถึงถูกจัดเป็นมอนเตอร์รังควาน เพราะมันแพร่พันธ์ไว และอ่อนแอ รวมถึงโดนมองเหยียดจากเผ่าพันธ์สูงส่งกว่าครับ

สารบัญ

ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 1 เกิดใหม่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอที่สุด,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 2 เวทยมนตร์ และการออกล่าครั้งแรก,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 3 เลเวล 100 และการวิวัฒตนาการ,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 4 ออร์คและโคบอร์ล,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 5 ฮ็อบก็อบลินรุ่นพี่,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 6 เป้าหมายที่แม้จะต้องฆ่าพวกเดียวกัน,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 7 กวาดล้างพวกออร์ค,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 8 ครั้งแรกกับพี่สาว [NC 20+],ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 9 ตามสัญญา [NC 20+],ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 10 ปัญหาเรื่องทาส,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 11 ออกเดินทางสู่โลกอันกว้างใหญ่,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 12 ชนบทในอาณาจักรอลันเทียร์,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 13 งานในฐานะทหารรับจ้าง,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 14 อัศวินเซนทอร์สาว และการต่อสู้กับ Half-Fire Lord,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 15 Half Lord ปะทะ Half Lord,ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 16 ฉลองชัยชนะ และค่ำคืนสุดพิเศษ [NC 20+],ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 17 ดัสเชสร่านสวาทกับคุณหนูขี้อาย [NC 25+],ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 18 ตลาดค้าทาส [NC18+],ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพ-ตอนที่ 19 ข้อเสนอทำซ่อง [NC18+]

เนื้อหา

ตอนที่ 7 กวาดล้างพวกออร์ค

ในวันที่ 50 หลังจากเวลาล่วงเลยมานานกว่า 40 กว่าวันหลังจากผมได้ให้การคุ้มครองและปกป้องมนุษย์สาวทั้ง 9 คนยกเว้นยัยแม่ชี ถ้ำก็อบลินแห่งนี้ก็ได้พัฒนาไปไกลกว่าที่ผมคิดเอาไว้อย่างมาก

 

ก่อนอื่นเลยนั่นคือ การที่ถ้ำก็อบลินที่ผมอาศัยอยู่ ได้มีการขยับขยายรังให้ใหญ่และมีห้องมากกว่าเดิม โดยที่ระดับหัวหน้านั้นมีห้องส่วนตัวของตนเอง และตัวของ 10 สาวที่เป็นผู้หญิงของผม ก็ได้รับห้องส่วนตัวไปด้วย ส่วนพวกก็อบลินตัวอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ห้องส่วนตัวกัน แต่ว่าก็ได้รับการอัพเกรดโรงนอนให้มีขนาดใหญ่และดีขึ้นกว่าเดิม

โรงนอนรวมของก็อบลินตัวอื่นๆที่ไม่ใช่พวก เบล ซิล รีน เรน และพี่เดีย จะได้นอนรวมกันในโรงนอนที่มีเตียงนุ่มๆที่ใช้หนังหมี 4 แขนมาทำเป็นผ้าปูที่นอนและผ้าห่มที่ได้จากการฟอกหนังหมาป่า

นอกจากนั่น เรื่องของโถงเก็บน้ำยังถูกสร้างให้ใหญ่และดีขึ้นกว่าเดิม และยังได้ทำการสร้างโรงตีและหลอมอาวุธขึ้นมาด้วย เพื่อใช้ในการสร้างอาวุธและบำรุงรักษาอาวุธให้ดียิ่งกว่าเดิม

 

ด้านภายนอกของถ้ำนั่น ได้มีการสร้างกำแพงรั้วไม้ขึ้นมาและสร้างแนวป้องกันหนามไม้เอาไว้ด้วยเพื่อความปลอดภัย รวมถึงหอคอยไม้ใช้ในการสังเกตุการณ์โดยรอบ นอกจากนั้นยังมีการสร้างฟาร์มข้าวและลานฝึกซ้อมการต่อสู้อีกด้วย เพราะเหมือนเลเวลจะสามารถอัพได้จากการฝึกซ้อมด้วยเช่นกัน

 

ที่สำคัญที่สุดในวันที่ 50 นี้เองที่ก็อบลินทั้งหมดภายในรังได้เกิดการวิวัฒตนาการขึ้นมากลายเป็นฮ็อบก็อบลินในที่สุด

เมื่อผมตื่นขึ้นมาก็ อดที่จะแสดงความยินดีถึงฮ็อบก็อบลินทั้ง 35 ตัวที่เหลือไม่ได้เลยหล่ะ และได้รับการตรวจสอบแล้วว่า ฮ็อบก็อบลินที่ได้วิวัฒตนาการขึ้นมาแล้วนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 พวกด้วยกันนั้นคือ Hobgoblin 20 ตน Hobgoblin Mage 10 ตน และ Hobgoblin Cleric อีก 5 ตน

ถ้าหากรวมเพื่อนๆของผมด้วยแล้วในตอนนี้ ฮ็อบก็อบลินปกติจะมีทั้งหมด 22 ตน นักเวทย์ 12 ตนรวมพี่เดียด้วย และนักบวชอีก 6 ตน

 

หลังจากที่ฮ็อบก็อบลินได้วิวัฒตนาการมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ผมเลยขอให้สองพี่น้องช่างตีเหล็กทำการสร้างอาวุธขึ้นมาให้และพวกฝาแฝดเองก็ช่วยกันตัดเย็บเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับพวกที่พึ่งวิวัฒตนาการได้สวมใส่กัน

นี้แหละข้อดีของการมีมนุษย์มาคอยช่วยเหลือ มันสร้างข้อดีมากกว่า ปล่อยให้พวกเธอถูกจับทำพันธ์ขยายจำนวนก็อบลินเสียอีก

 

 

ภายในห้องพักของผม หลังจากตอนเช้าที่ได้ฉลองการวิวัฒตนาการกันจนหมดแล้ว ยกเว้นปู่ก็อบลิน ผมก็กำลังนั่งอบยู่บนเก้าอี้ไม้เอนพรางนั่งอ่านหนังสือเวทยมนต์ไปพรางฆ่าเวลา แต่ทว่าเสียงหวานของหญิงสาวมนุษย์ที่ไว้ผมยาวสีบลอนด์คนหนึ่งก็ดังเข้ามาภายในห้องของผม

 

"วันนี้ไม่ทำอะไรหรอเอล?"

"ชาร์ล็อตเองหรอ มีอะไรรึเปล่าถึงเข้ามาห้องผม?"

"ก็เห็นว่าวันนี้เธอไม่ได้ออกล่ามอนเตอร์นี้ ก็เลยมาหาน่ะ เหนื่อยหรอ?"

"แหะๆ.... จะว่าเหนื่อยไหม ก็ไม่ครับ แค่ตอนนี้กำลังคิดเรื่องกวาดล้างออร์คอยู่น่ะ"

"คิดจะปกครองป่านี้หรอ?"

"ก็นะครับ ตอนนี้เผ่าก็อบลินของผมแข็งแกร่งกว่าเดิมแบบก้าวกระโดดแล้วด้วย อ๊ะ...? ทำอะไรของคุณกันครับ?"

หญิงสาวที่เดินเข้ามาภายในห้องของผม คือชาร์ล็อต เธอเข้ามาภายในห้องของผม พรางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มหวาน ผิวกายสีขาวเนียนนุ่มน่าลิ้มลอง แต่ทว่าตลอดเดือนที่อยู่ด้วยกัน ผมไม่เคยล่วงเกินพวกเธอเลยแม้แต่น้อย

เหตุผลที่คุณชาร์ล็อตเข้ามาหาผม ก็เพราะสงสัยว่าวันนี้ทำไมผมไม่ออกไปล่ามอนเตอร์ตามปกติ ซึ่งผมก็ไม่ได้พูดอะไรมาก นอกจากแผนการกวาดล้างออร์คที่กำลังดำเนินการอยู่ในตอนนี้

ในตอนที่กำลังพูดเรื่องนั่นเอง จู่ๆเธอก็เอ่ยถามผมด้วยความสงสัย เรื่องของการขึ้นเป็นผู้ปกครองผืนป่าแห่งนี้ และไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรมากกว่านี้ ร่างกายผอมบางของเธอก็เข้ามาแนบกายของผม พรางกดหัวของผมให้ซบหน้าอกของเธอเอาไว้

 

ไม่เข้าใจว่าทำไมชาร์ล็อตถึงทำแบบนี้ จึงได้แต่ถามไปด้วยความสงสัย

แต่คำถามที่พูดไปนั้น ก็ไม่ได้รับการตอบแต่อย่างใด มีเพียงฝ่ามือเรียวบางที่ค่อยๆลูบไล้เส้นผมสีขาวอย่างอ่อนโยนเท่านั้น

พอคิดว่าเธอกำลังโอ๋ผมอยู่ แขนทั้งสองข้างก็เข้าไปกอดรัดเธออย่างอ่อนโยนและสูดดมกลิ่นตัวอันหอมหวนของชาร์ล็อตเงียบๆ

 

ความรู้สึกดีบางอย่างก่อตัวขึ้นมาในใจของผมก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาและเม้มปากของตนจูบกับชาร์ล็อตอย่างอ่อนโยน

ลิ้นร้อนค่อยๆโลมเลียริมฝีปากของเธออย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆสอดลิ้นเข้าไปโลมเลียโพลงปากของเธออย่างดูดดื่ม

 

"อืม~"

"อืม~ ฮ๊า~"

รสสัมผัสของริมฝีปากอันอ่อนนุ่ม ดึงดูดให้ริมฝีปากของสองเราค่อยๆเม้มจูบกันอย่างดูดดื่ม แต่ทว่า เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวที่ผมคิดว่า ยังไม่ควรเติมเต็มความปราณนาอันดุร้ายของตนเอง

ผมก็ค่อยๆผละริมฝีปากของตนออกมาอย่างช้าๆ จนน้ำลายสีใสไหลเยิ้มติดริมฝีปากออกมาเป็นเส้นบางๆ พร้อมกับใบหน้าของชาร์ล็อตที่แดงก่ำไปจนหมด ตรงหัวเข่าสัมผัสได้ถึงหว่างขาของชาร์ล็อตที่เริ่มแฉะเยิ้มออกมาอย่างช้าๆ

 

ในใจอยากจะเผด็จศึกฉีกเสื้อผ้าของชาร์ล็อตออกและกดเธอลงกับเตียงและผสมพันธ์ แต่ทว่าผมก็รีบสละความคิดนั้นออกไปก่อนจะหอมแก้มเธอเบาๆเพียงแค่นั้น

 

"ขอโทษนะครับ ยังไม่ได้..."

"ให้ตายสิ... นายทำพวกชั้นแฉะ แต่ไม่คิดจะเติมเต็มเลย โหดร้ายกันเกินไปแล้วนะ...."

"ห๊ะๆ... ขอโทษครับ แต่มันยังไม่ได้จริงๆ"

"ช่วยเบ็ดให้น้ำแตกหน่อยไม่ได้หรอ?"

ผมรีบกล่าวขอโทษชาร์ล็อตก่อนทันที ที่ไม่สามารถเติมเต็มความปราณนาของเธอได้ในตอนนี้ ก่อนที่เธอจะแก้มป่องขึ้นมาอย่างไม่พอใจและโวยวายขึ้นมาเล็กน้อย

แต่ผมก็ตั้งมั่นไว้แล้วว่า ยังทำแบบนั้นไม่ได้ จนเธอขอให้ผมเบ็ดร่องรักให้หน่อย

คำขอนั่นทำผมอึ้งไปเลยทีเดียว แต่ลองมาคิดว่า ถ้าทำให้แล้วหลังจากนั้นยังอารมณ์ค้างอีกหล่ะ?

 

"ทำแค่นั้นจนเสร็จ เดี๋ยวก็ได้อารมณ์ค้างต่อหรอก"

"โธ่! ใจร้ายจัง..."

"เอาน่าๆ ไว้หลังจากเรื่องทั้งหมด จะให้รางวัลพวกเธอทุกคนแน่นอน"

"สัญญาแล้วนะเอล!! ทำตามที่พูดไว้ด้วยหล่ะ!!"

เพื่อให้เธอพึงพอใจมากที่สุด ผมจึงปฏิเสธใช้มือเบ็ดให้ จนชาร์ล็อตเริ่มจะงอนขึ้นมาเสียแล้ว

แต่เพื่อไม่ให้เธอโกรธผม จึงได้หลุดปากให้สัญญาที่ผมมักจะต้องทำตามที่สัญญาไว้ตลอดให้เธอ

เมื่อได้ยินคำพูดให้สัญญา แม่สาวอัศวินก็ตาเป็นประกายและรีบเดินออกจากห้องของผมไปทันที แต่ก่อนจะออกไปนั้นเธอก็หันมาชี้นิ้วใส่ผมและบอกให้ทำตามที่สัญญาไว้ด้วยและออกไป

 

ให้ตายสิ... ดันไปสัญญาเข้าแล้วจนได้สินะ...

แต่ยอกว่าเรื่องทั้งหมด ที่ผมหมายถึงคือการกวาดล้างออร์คและโคบอร์ลที่มีอาณาเขตการล่าอยู่ในแถบดินแดนของก็อบลินของผมนั่นเอง

ที่นี้ก็เป็นเรื่องยุ่งยากกว่าที่ผมคิดเอาไว้แล้วสินะเนี่ย...

 

หลังจากเรื่องที่ผมจู้จี่กับชาร์ล็อตในห้องนอนผ่านไปได้เพียง 1 ชั่วโมง ก็มีการรายงานเข้ามาจากหน่วยสอดแนมที่มักจะส่งไปในทุกๆเช้าของวัน เพื่อสืบข้อมูลความเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆภายในผืนป่าแห่งนี้

 

แต่แล้วในวันที่ก็อบลินทุกตนพึ่งจะวิวัฒตนาการเป็นฮ็อบก็อบลินนั่นเอง พวกเราก็ต้องพบกับข่าวร้ายยิ่งกว่าที่คาดการณ์เอาไว้หลายเท่า เข้ามารายงานผม จนฮ็อบก็อบลินทุกตนรวมถึงนักเวทย์ 3 ทหารสาวและอัศวินต้องเข้าหารือกันในทันที

 

"ด้านนอกป่ามีกลุ่มกองทหารจำนวนมากกว่า 300 คนได้ตั้งค่ายพักแรมอยู่ และบริเวณที่ตั้งนั่นใกล้กับภูเขาที่เป็นรังของพวกออร์ค"

"อืม ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมเผ่าพันธ์มนุษย์ถึงได้มีการตั้งค่าย แต่สาเหตุคงไม่ใช่ก็อบลินอย่างพวกเราแน่ๆ"

"คาดการณ์ว่า อาจจะเป็นพวกออร์คที่ในช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาได้มีการออกปล้นชายขอบดินแดนของอาณาจัักรครับ"

รายงานจากฮ็อบโซ โจ โร ที่เป็นฮ็อบก็อบลินที่มีความว่องไวในการเคลื่อนที่อย่างมาก พวกเขาเป็นหน่วยลาดตระเวนที่ได้ถูกจัดขึ้นมาให้เป็นหัวหน้าทีม 3 กลุ่ม ที่ได้รายงานข้อสันนิฐฐานให้ผมได้ฟัง

ซึ่งด้วยเหตุผลที่ทั้ง 3 ตนนั้นกล่าวพูดขึ้นมา ทำให้เห็นพ้องต้องกันในหมู่พวกพ้องว่า การกระทำของเผ่ามนุษย์นั่นคือสิ่งที่เกิดจากสิ่งที่ออร์คเป็นผู้กระทำขึ้นมา และไม่จำเป็นที่ฮ็อบก็อบลินอย่างพวกเราจะเข้าไปแทรกแซงใดๆ

 

ด้วยหัวข้อองค์ประชุมและแนวโน้มนั่นเอง ที่ทำให้ผมไตร่ตรองในหลายๆอย่างเกี่ยวกับมนุษย์และความปลอดภัยของเหล่าฮ็อบก็อบลินของผม ในยามนี้เราไม่ควรจะทำอะไรเลย และปล่อยให้การกวาดล้างออร์คจบไป แต่ในอีกในหนึ่งนั่นผมก็อยากได้ข้อมูลมากกว่านี้อีก

 

"ถึงจะน่าเสียดายที่อยากจะจัดการมันด้วยตัวเอง แต่ถ้ามนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องแบบนี้ เป็นการยากที่จะลงมือนะ"

"ถูกของเธอเอล แต่ไม่คิดบ้างหรือว่า ภูเขานั้นอาจจะมีทรัพยากรมีค่าอยู่น่ะ?"

"คุณเชียร่า ไม่ใช่ว่าผมไม่คิด แต่เพราะเราไม่รู้กำลังรบของมนุษย์ครับ"

ผมถึงกับต้องพูดออกมาเองเลยว่า น่าเสียดาย แต่เพราะมนุษย์นั้นเข้ามายุ่งย่ามกับแผนการของผมทำให้ไม่สามารถลงมือได้ตามที่เคยวางเอาไว้ จนกระทั่งคุณเชียร่าที่นั่งอยู่ข้างๆผมจะถามคำถามหนึ่งกับผม เพราะในภูเขาลูกนั้นที่เป็นรังของพวกออร์ค มันมีสินแร่ที่มีค่าอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะทองแดง เหล็กหรือ ทองคำ ก็ดี

สิ่งเหล่านั้นจะช่วยสร้างมูลค่าและคุณค่าให้กับเผ่าพันธ์ของผมทวีขึ้นหลายสิบเท่า และแน่นอนว่า การปล่อยให้มนุษย์ลลงมือจัดการออร์ค ผมจะสูญเสียเหล่าทาสแรงงานอันแสนมีค่าไปด้วย

 

ถึงจะน่าเสียดดาย แต่เพราะไม่รู้ว่ากำลังรบของมนุษย์มีเท่าไหร่ด้วยทำให้ยากที่จะลงมือได้

แต่ความคิดเหล่านั้นก็พัดมลายหายไปในทันที เมื่อหญิงสาวผู้มีเรือนผมสีแดงอมชมพู หรือคุณโคเลียจะเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มและนำเอกสารบางอย่างมาให้กับผม

 

"นี้เอาไปสิเอล! นี้เป็นเอกสารข้อมูลที่ชั้นลองไปสอดแนมมาให้ แทนโซ โจ โร"

"หรอครับ ขอบคุณมากครับ"

ผมรับเอกสารที่คุณโคเลียเข้าไปสอดแนมภายในค่ายของพวกมนุษย์มาให้ ก่อนจะเปิดอ่านมันในทันที

ในเอกสารนั้นมีการเขียนถึงยุทธภัณฑ์ ทรัพยากร เสบียงอาหารและรายนามอาชีพของมนุษย์ในค่ายทั้ง 300 คนเป็นอย่างดี

 

โชคดีจริงๆที่คุณโคเลียเข้าไปสอดแนมมาให้ แต่ก็ลำบากไม่ใช่น้อยเลยแหะ...

 

"เอาหล่ะ จากเอกสารที่คุณโคเลียให้มา ผมพิจารณาแล้วว่า แผนการในการกวาดล้างออร์คและจับพวกมันมาเป็นทาสแรงงานสามารถเป็นไปได้"

"แล้ว เราจะเอายังไงกับพวกมนุษย์หล่ะเอล?"

"เรื่องนั้นน่ะ... ขอโทษครับคุณเชียร่า...."

"ตามใจนายเถอะ พวกเราก็มีสถานะไม่ต่างกันนิ แค่มีชีวิตดีกว่าเฉยๆ"

"อืม.... เข้าใจแล้ว... เอาหล่ะส่วนพวกมนุษย์ พวกเราจะจับพวกมนุษย์ตัวเมียมาทำพันธ์เพิ่มประชากร"

หลังจากได้อ่านเอกสารในนั้น ผมก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าจะทำแผนการกวาดล้างพวกออร์คที่อยู่ในภูเขานั้นทันที และนำพวกมันมาเป็นแรงงานทาสในการขุดแร่ นอกจากนี้ผมก็ตัดสินใจว่าจะนำพวกมนุษย์ตัวเมียมาเป็นแม่พันธ์ุ

แต่เพราะความเกรงใจต่อตัวของผู้หญิงที่ผมรับมาดูแล ทำให้ต้องถามคุณเชียร่าเสียก่อน แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เลยยอมให้ผมทำเรื่องแบบนี้จนได้

 

เมื่อได้ยินว่าจะได้ตัวเมียมาผสมพันธ์ุเพื่อเพิ่มประชากรก็อบลิน พวกฮ็อบก็อบลินก็ร้องโฮออกมาด้วยความดีใจ ก่อนที่ผมจะบอกให้ทุกๆตนไปเตรียมตัวสำหรับการกวาดล้างพวกออร์คให้เรียบร้อย

แต่ทว่าผมก็ไม่รู้เลยว่า เด็กๆที่เกิดจากการผสมพันธ์ุกับฮ็อบก็อบลินจะไม่ได้เกิดเป็นก็อบลินเลยในตอนนี้...

 

ในช่วงค่ำคืนในวันที่ 50 มันเป็นช่วงเวลาที่พระจันทร์เคลื่อนที่อยู่กลางท้องฟ้า เป็นช่วงเวลาเที่ยงคืนของวันนั่น

ผมได้นำกำลังฮ็อบก็อบลินทั้งหมดรวม 30 ตน ออกจากรังและเดินทางผ่านเส้นทางที่เคยหลอกโคบอร์ลตนหนึ่ง ก่อนจะเดินทางมาถึงยังภูเขาที่เรียกกันว่า เขาฟัม และที่นี้เอง ที่ผมได้เห็นกองกำลังออร์คที่มีจำนวนมากกว่า 300 ตน

 

เรียกได้ว่าประชากรของพวกมันมีจำนวนมากกว่าก็อบลินถึง เกือบ 10 เท่าเลยก็ว่าได้

ด้วยความที่พวกมันสร้างรังอยู่ใต้ภูเขา จึงมีหอคอยและเชิงเพลิงมากมายลายล้อมรอบรังของพวกมันเอาไว้ เพื่อสอดส่องถึงการบุกโจมตีจากศัตรูที่ไม่คาดคิด ราวกับว่าพวกมันกะเอาไว้แล้วว่า การกระทำของพวกมันจะส่งผลให้มีการกวาดล้างขึ้น

 

ในตอนที่ผมมาถึงยังที่แห่งนี้ ผมก็เห็นกลุ่มทหารของมนุษย์ที่มีจำนวนกว่า 200 คนได้เข้าโจมตีพวกออร์คเรียบร้อยแล้ว และสถานการณ์ในตอนนี้ก็อยู่ในระดับที่ว่าวุ่นวายพอสมควรเลย

ด้วยการบุกโจมตีของพวกมนุษย์ที่ยิงธนูใส่เชิงเพลิงและหอคอยของพวกออร์ค ทำให้แนวป้องกันของพวกออร์คนั้นไหม้และพังจนไม่สามารถใช้สอดส่องพื้นโดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนั้น พวกมันยังต้องเข้าต่อสู้กับพวกมนุษย์ที่มีประสบการณ์ต่อสู้มากกว่าเสียอีก จนในตอนนี้ พวกออร์คนั้นอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออกกันเลยทีเดียว

 

"มาผิดเวลาแหะ... ไม่คิดว่าพวกมนุษย์ก็คิดจะโจมตีตอนกลางคืนด้วยเหมือนกัน"

"แบบนี้เราจะทำยังไงต่อดีหล่ะเอล?"

"ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ก็คงจะดี แต่พวกนั้นมีประสบการณ์ต่อสู้มากพอสมควร"

ด้วยความที่มาผิดเวลา แต่ก็ยังดีที่ตอนนี้พวกมนุษย์ยุ่มย่ามอยู่กับการต่อสู้ตรงหน้า จนไม่ทันได้สังเกตุพวกฮ็อบก็อบลินอย่างพวกผมเลย จนรีนเอ่ยถามผมว่าจะทำยังไงต่อ

ผมเองก็คิดว่าจะซ่อนตัวและซุ่มโจมตีพวกมนุษย์ แต่เพราะพวกนั้นกำลังมุ่งความสนใจไปที่ศัตรูตรงหน้าอย่างออร์ค เลยไม่คิดว่าจะมีการตลบหลังจากฮ็อบก็อบลิน และจากจำนวนทหาร 200 คนแล้ว มีพลธนูราวๆ 60 คนที่กำลังกระหน่ำยิงธนูสนับสนุนพวกที่กำลังต่อสู้อยู่ในแนวหน้า

ถ้าหากจัดการพวกนักธนูนี้ได้ก่อนคงจะทำให้มีโอกาสชนะพวกมนุษย์แน่นอน

 

"ทั้งหมดจัดการพวกนักธนูมนุษย์ก่อน ตีให้สลบและใช้เชือกมัดเอาไว้"

"รับทราบเอล จะให้ฆ่าพวกตัวผู้ไหม?"

"เก็บตัวผู้ให้พวกฮ็อบสาวๆได้ระบายเงี่ยนด้วยก็ดี"

ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองถึงความได้เปรียบก่อนเป็นอันดับแรก ผมจึงสั่งให้พวกพ้องทำการโจมตีพวกนักธนูมนุษย์ก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่เบลจะนำฮ็อบก็อบลินทั้งหมดพุ่งเข้าไปโจมตีทุบมนุษย์พวกนั่นให้สลบ และด้วยคำสั่งที่บอกอย่างชัดเจนแก่ทุกตน นั้นคือจับเป็นทั้งมนุษย์ชายและหญิง

ทำให้เบลใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาทีในการทุบพวกมนุษย์แนวหลังทั้งหมดจนสลบไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกที่เหลือจะเข้าไปสมทบและใช้เชือกไทเทิล ที่มีความหนาและเหนียวมากในการมัดแขนขาของพวกมันเอาไว้

 

"ทั้งหมด ระวังด้านหลัง มีพวกฮ็อบก็อบลินโผล่มา!!!"

"ระวังหลัง!! พวกมันจัดการนักธนูของพวกเราไปแล้ว"

"แบ่งกำลังเป็น 2 ส่วนจัดการพวกฮ็อบก็อบลินไปด้วยเลย!!"

แต่ด้วยเสียงเอะอะ ที่เกิดจากการเข้าจู่โจมของเบล ทำให้พวกมนุษย์ที่กำลังประจัญบานกับพวกออร์คอยู่ ต่างก็รู้ตัวการมาถึงของพวกผมและเริ่มสั่งการเพื่อรับมือในการตอบโต้ทัันที

นายทหารหญิงคนหนึ่ง ที่ขี่ม้าอยู่ เธอสวมชุดเกราะเบาและไว้ผมยาวสีน้ำตาลอ่อน สวมผ้าปิดตาไว้ข้างหนึ่ง กล่าวประกาศสั่งการแก่เหล่าทหารทั้งหมด จนพวกนั้นทำการแบ่งกองออกเป็น 2 ส่วนเพื่อรับมือกับทั้งออร์คและฮ็อบก็อบลินพร้อมกัน

 

ผมจ้องมองหญิงสาวที่กำลังขีี่ม้าคนนั้นตาไม่กระพริบ ด้วยความสามารถในการสั่งการและความกล้าหาญที่ไม่วิตกกังวลต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ทำให้ผมสนใจในตัวเธอขึ้นมา

 

ด้วยความที่อยากจะจับมนุษย์ให้ได้เยอะๆ ผมจึงเลือกใช้เวทยมนต์ 2 บทด้วยกันนั้นคือ เวทย์แรงดันน้ำ Water Pulse และ Shock ทันทีโดยการใช้ เวทย์แรงดันน้ำ ฉีดใส่พวกทหารมนุษย์ทั้งหมด ถึงแม้จะโดนพวกออร์คบ้างแต่ผลลัพธ์ก็ออกมาดีก่อนที่ ทหารหญิงคนนั้นจะรีบตะโกนออกมา

 

"ทั้งหมดรีบวิ่งหนีเร็ว!! ก่อนที่จะโดนไฟฟ้าช็อต!! อ... อ๊าก!!!!!!!!!!!"

"ไม่ต้องหนีหรอก เพราะยังไงก็ไม่ฆ่าอยู่แล้ว"

หญิงสาวคนนั้นที่สั่งการทหารมนุษย์อยู่บนหลังม้า ก็รีบตะโกนบอกพวกพ้องของเธอ ราวกับรู้ว่าถ้าหากโดนน้ำจะโดนอะไรต่อ แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบนั้นเอง ร่างกายของพวกทหารมนุษย์ทั้งหมด รวมถึงเธอก็ถูกเวทย์สายฟ้าของผมช็อตเข้าใส่ร่างกายจนล้มลงไปนอนกับพื้นกันจนหมดแล้ว และตัวผมเองก็ไม่ได้มีความต้องการจะฆ่าพวกเธอทุกคนด้วย

 

หลังจากจัดการพวกทหารมนุษย์ทั้งหมดจนสลบไปหมดแล้ว ผมก็ทำการสั่งการให้ฮ็อบก็อบลินทุกตนทำการล่าสังหารพวกออร์คต่อในทันที ถึงแม้ว่าพวกมันจะรู้สึกปิติยินดีที่พวกเรามาช่วยยังไงก็ตาม

 

พวกออร์คที่กำลังตกใจว่าทำไมฮ็อบก็อบลินถึงมาฆ่าพวกตน จึงได้เริ่มการต่อสู้กับพวกเราทันที ถึงแบบนั่นด้วยประสบการณ์ การต่อสู้และการฝึกฝนจากทหารหญิงมานานกว่า 1 เดือนทำให้ทักษะการต่อสู้ของพวกผมนั้นมีมากกว่าพวกออร์คที่ แค่ปัดๆเหวี่ยงๆอาวุธในมือของพวกมันเพียงเท่านั้น

ฮ็อบก็อบลินทุกตัวมีชั้นเชิงในการใช้อาวุธหมด เพราะงั้นในการกวาดล้างพวกออร์คนั้น จึงไม่มีใครสูญเสียชีิวิตเลยแม้แต่ตนเดียว จนกระทั่งในเช้าวันใหม่มาถึง

 

พวกผมได้ทำการยึดครองถ้ำออร์คและภูเขาฟัมเป็นที่เรียบร้อยและนำพวกออร์คเด็กที่ไว้ชีวิตกลับไปยังรัง รวมถึงพวกทหารมนุษย์อีก 200 คนที่มีชายราวๆ 120 คนกับผู้หญิงอีก 80 คนไปด้วย ส่วนกองทหารที่เหลืออีก 100 คนนั้น ผมได้ทำการสังหารไปหมดแล้ว เพราะหากจับกลับไป อีก 100 คนคงจะไม่ดีเท่าไหร่