เอ ชายหนุ่มที่โชคร้าย เกิดอุบัติเหตุตายและเมื่อรู้สึกตัว เขาก็ได้เกิดใหม่เป็นก็อบลินไปเสียแล้ว
แฟนตาซี,ผจญภัย,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ฮาเร็ม,พระเอกเก่ง,เกิดใหม่แต่ใจเดิม,NC+,ต่างโลก,แฟนตาซี,เกิดใหม่ ,NC,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ถึงเกิดใหม่เป็นก็อบลิน แล้วยังไงข้าก็เทพเอ ชายหนุ่มที่โชคร้าย เกิดอุบัติเหตุตายและเมื่อรู้สึกตัว เขาก็ได้เกิดใหม่เป็นก็อบลินไปเสียแล้ว
เอ ชายหนุ่มผู้โชคร้าย ชีวิตรันทดก่อนจะตายลงจากโรคร้าย ก่อนจะรู้สึกตัวว่าตนเองได้เกิดใหม่เป็นก็อบลินไปเสียแล้ว
นี้คือเรื่องราวการผจญภัยและการเติบโตของเขา ที่จะฟันฝ่าชะตากรรมที่ต้องตาย ในฐานะก็อบลินและจะวิวัฒตนาการตนเอง ให้เป็นมอนเตอร์สุดแกร่งเพื่อครองโลกใบนี้ ชีวิตของเขาจะเป็นเช่นไร จะต้องเจอกับอะไรโปรดรับชม
หมายเหตุ: ตอนแรกว่าจะให้มีระบบ แต่โยนทิ้งไปครับ มันแบบ ขก.เขียนเว้ย!!!
เพราะงั้นนิยายเรื่องนี้กลุ่มของมอนเตอร์จะมีระบบเรื่องของ เลเวลเข้ามา เพื่อวิวัฒตนาการตนเองสู่เผ่าพันธ์ที่แข็งแกร่งกว่า แต่ความสามารถก็ต้องศึกษาและฝึกฝนเองนั่นแหละ
หมายเหตุ 2: นิยายเรื่องนี้ ผมได้รับแรงบัลดาลใจอะไรไม่รู้ แต่ 1 เลยคือมี Re:Monster ละ 1 ทำไมหรอ? ออ นึกไปถึงสมัย 6-7 ปีก่อนเคยเล่นฉบับเกมมือถือ และก็ชอบไงก็เลย อยากจะหยิบยืมคอนเซ็ปการวิวัฒตนาการต่างๆอะไรทำนองนี้มา
อันนี้ขอแจ้งก่อนว่า ในนิยายเรื่องเนี่ย ผมคิดว่า มอนเตอร์เนี่ย ไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายนะ ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหล่าทวยเทพก็ทรงรักและสร้างสรรค์ขึ้นมา คือเอาง่ายๆเลยก็ พระเจ้าทรงรักเหล่าสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
แต่ทำไม ก็อบลินถึงถูกจัดเป็นมอนเตอร์รังควาน เพราะมันแพร่พันธ์ไว และอ่อนแอ รวมถึงโดนมองเหยียดจากเผ่าพันธ์สูงส่งกว่าครับ
[เอล เกือบตาย... นี้เป็นความผิดของเจ้าเทพแห่งเพลิง]
[นั่นไม่ใช่ปัญหาของข้าเสียหน่อย ถ้าหากเจ้านั่นไม่แข็งแกร่งมากกว่านั้น เป้าหมายของเราก็ไม่สำเร็จหรอก!]
[อย่าได้หวั่นไปเทพีแห่งมนตราเอ๋ย เอลได้วิวัฒตนาการเป็น Half-Spell Lord แล้ว]
บทสนทนาของเหล่าทวยเทพกล่าวถึง เอล ผู้ถูกเลือกเป็นความหวังของเทพีแห่งมนตรา
'อึก... ที่นี้มัน... ที่ไหนกัน?'
เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา ดวงตาก็ค่อยๆปรือขึ้นมาอย่างช้าๆ ภาพเลือนลางหลังจากตื่นจากนิทราทำให้ผมเวียนหัวไปจนหมด ความหนักอึ้งทำให้ร่างกายแทบจะไม่ค่อยมีแรงมากนัก
แต่ที่รู้คือ ตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่ภายในเต๊นต์
ไม่รู้ว่าได้ใครช่วยเอาไว้ แต่หลังจากพักฟื้นเสร็จแล้ว คงต้องไปขอบคุณแล้วหล่ะ...
"ตื่นแล้วหรอเอล นายหลับสนิททั้งคืนเลยนะ"
"หืม? วิคตอเรียหรอ... ไม่ทราบว่าใครช่วยผมไว้ตอนสู้กับการันหรอครับ?"
"ชั้นเองแหละ... เห็นระเบิดมานาก็เลยรีบไปดูน่ะ โชคดีจริงๆที่ไปช่วยทัน"
"เอ๊ะ...!? คุณวิคตอเรียเองหรอครับ ขอบคุณมากครับที่ช่วยผมไว้ คิดว่าจะตายแล้วซะอีก..."
ในขณะที่ผมกำลังสลึมสลือปนและสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั่นเอง ร่างของเซนทอร์สาวร่างสูงผอมก็ค่อยๆก้าวเดินเข้ามาภายในเต๊นต์ด้วยร่างกายอันชุ่มไปด้วยน้ำและหยดน้ำสีใสที่ค่อยๆหยุดลงแหมะกับพื้น แสดงถึงความเซ็กซี่และงดงามของเซนทอร์สาวได้เป็นอย่างดี
วิคตอเรีย อยู่ในสภาพสวมเสื้อในตัวเดียวและมีผ้าคลุมช่วงม้าไว้มิดชิด มันยิ่งทำให้เธอดูเซ็กซี่เข้าไปใหญ่ ก่อนที่เธอจะค่อยๆพับขาและนั่งลงกับพื้นด้วยรอยยิ้ม
ด้วยความตนกผมเล็กน้อย ผมก็เอ่ยถามเรื่องเมื่อวานกับเธอ ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าเซนทอร์หรือม้าสาวคนนี้เป็นคนช่วยตนเอาไว้ มันเป็นความรู้สึกซาบซึ้งกินใจไม่ใช่น้อย
ถ้าหากเป็นเพื่อนกันคงจะดีไม่น้อย
"ว่าแต่นายเปลี่ยนไปนะ"
"เอ๊ะ... หรอครับ...?"
เมื่อโดนทัก ผมรีบหากระจกมาส่องสำรวจร่างกายของตนเองในทันที ก่อนจะมองเห็นร่างกายของตนเองที่เปลี่ยนไป สีผิวของผมเข้มขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ถึงสีผิวสีเป็นฟ้าอ่อนก็ตาม พร้อมกันนั่นตรงหน้าผากก็มีเขางอกขึ้นมาเป็นเอกลักษณ์เด่น พร้อมกับผลึกมนตราสีแดงที่หน้าผากที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย
รอยสักที่หน้าอกขยายใหญ่ขึ้นและเปลี่ยนเป็นสีทอง รวมถึงแขนทั้งสองข้างที่มีรอยสักเพิ่มขึ้นมาด้วย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทว่าไม้เท้าของผมเองก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ไปด้วย
จากไม้เท้าที่มีผลึกเวทย์ 3 ก้อน ในตอนนี้มันเหลือเพียงก้อนเดียว ตรงปลายไม้เท้าเปลี่ยนไปและมีความแหลมและประดับด้วยเหล็กกล้าและด้านหลังที่มีบางสิ่งประดับคล้ายปีกและดาวสีทอง
ตอนนี้มันไม่ใช่ไม้เท้าอีกแล้วในสายตาผม แต่มันคือหอกไม่ก็ทวนเสียมากกว่า.... ไม้เท้าแรงค์กัส นี้คงจะสื่อถึงลักษณะที่เหมือนหอกของมันได้ดีทีเดียว....
นอกจากสภาพร่างกายที่หายดีแล้ว เส้นผมของผมก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอนแรกมันเป็นสีขลับดำแต่ตอนนี้กับเจืองจางเป็นสีฟ้าอ่อน นี้คงจะเป็นเพราะการฆ่ามนุษย์ที่เป็นทหารของอาณาจักรมิดเรย์ไปจำนวนมากแน่ๆ ข้อจำกัดในการเลเวลอัพไม่ได้กำหนดไว้ตายตัว เพราะงั้นการฆ่าคนก็สามารถทำให้เลเวลอัพได้สินะ....
ถ้างั้นตอนนี้ผมก็คงจะวิวัฒตนาการเป็นก็อบลินสายเวทย์ครึ่งทางแล้ว ชื่อของมันคือ Half-Spell Lord งั้นสินะ.... อยากรู้จังว่าตนอื่นๆที่รังจะวิวัฒตนาการได้ระดับนี้ไหมในช่วง 6 เดือน...
"ร่างวิวัฒตนาการของก็อบลินขั้นที่ 3 สายเวทย์ Half-Spell Lord"
"มันแตกต่างกันตรงไหนหรอเอล? ชั้นคิดว่าแค่เขากับสีผิวเปลี่ยนเฉยๆเองนะ"
"อืม.. สำหรับก็อบลินที่ได้รับพรจากเทพแล้ว สีผิวจะเปลี่ยนน่ะครับ ตอนนี้... วิคตอเรียพลังมานาเยอะจังนะครับ"
"หืม...? สัมผัสมานาชั้นได้งั้นหรอ? แหะๆ... ขนาดนั่นเลยหรอ ขนาดชั้นฝึกเวทย์ยังแทบจะใช้ไม่ได้แท้ๆ"
พอคิดว่าตอนนี้เป็นแบบนั้น ผมก็บอกวิคตอเรียไปว่า ตอนนี้ผมเป็นสาย Half Lord แล้ว แต่ทว่าสาวม้าคนนี้ที่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความแตกต่างของก็อบลินเท่าไหร่ ก็บอกว่าผมไม่ได้เปลี่ยนไปมากขนาดนั้น
คงจะเป็นเพราะบันทึกไม่มีหล่ะมั้ง แต่ในตอนที่ผมจ้องมองนมของคุณวิคตอเรียนั่นเอง จู่ๆดวงตาของผมก็มองเห็นรูปร่างของมานาได้ ไม่รู้ว่านี้คือความสามารถของสายนี้หรือเปล่า
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเชยชมพลังมานาของคุณวิคตอเรียไป เล่นเอาใบหน้าของเธอรื่อแดงขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะหลี่ตาแบบเศร้าๆเพราะไม่เคยใช้เวทยมนต์ได้เลยทั้งๆที่ฝึกฝนมาหนัก
คำพูดนั่นทำผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงนอนและเดินไปลูบแก้มของเธอเบาๆ
"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เวทยมนต์ของคุณวิคตอเรียคือจิตใจอันเข้มแข็งยังไงหล่ะ"
"นายนี้ปากหวานจริงๆนะ เอาหล่ะถ้าพักผ่อนพอแล้ว ก็เตรียมตัวไว้นะ อีก 2 ชั่วโมงแม่ทัพอลันเทียร์จะทำการบุกโจมตีอีกรอบ"
"เข้าใจแล้วครับ"
เมื่อถูกมือของชายหนุ่มสัมผัสเข้าที่แก้มของตน วิคตอเรียก็แก้มแดงขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นและเดินไปสวมใส่อุปกรณ์และเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและเดินออกไป
สายตามองเรือนร่างอันสวยสง่านั้นอยู่เงียบๆ ก่อนที่ผมเองจะลุกขึ้นจากเปยวนภายในเต๊นต์ นำเสื้อผ้ามาสวมใส่ ถึงแม้กลิ่นจะมีคาวเลือดติดอยู่ แต่ก็คงต้องสวมใส่ไปก่อน ก่อนที่ผมจะคว้าเอาไม้เท้ามาไว้ในมือ และเดินออกจากเต๊นต์ไปเช่นกัน แต่เพราะผ้าคลุมกับหมวกมันเกะกะเกินไป ผมเลยไม่ได้สวมใส่ด้วย
"เอาหล่ะ... ได้เวลาปิดบัญชีกันแล้ว"
ภายในสมรภูมิอันดุเดือดและนองไปด้วยเลือด ผมได้เข้าสู่สงครามอีกครั้ง และเป้าหมายในครั้งนี้คือการฆ่าปีศาจเพลิงการันให้จงได้ ถึงแม้ว่าการต่อสู้จะกินพื้นที่และมีขนาดใหญ่แค่ไหน แต่ผมก็พยายามวิ่งไปทั่วสนามรบ ร่ายเวทย์สายดินอย่างปืนใหญ่หินใส่เหล่าศัตรู ที่เป็นทหารของมิดเรย์อย่างต่อเนื่อง
ตู้ม!! เปรี๊ยง!! คลืน!!! ปุ๊ง!!!!
เสียงของการระเบิดของปืนใหญ่หิน ดังสนั่นอย่างถี่รัว ในขณะที่ปืนใหญ่หินเหล่านั่นถูกปล่อยยิงใส่ทหารมากมาย ทำการระเบิดและเจาะร่างของพวกมันจนแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี หลายตัวหลายร่างถูกยิงจนแขนขาขาด หัวระเบิด
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการฆ่าที่ไม่มีประโยชณ์เพราะเป้าหมายในการสงครามคือการเด็ดหัวของการันให้จงได้ หากไม่เด็ดหัวเจ้านั่น ก็ไม่มีทางชนะสงคราม
เสียงโห่ร้องด้วยความเจ็บปวด เสียงตะโกนด้วยความเกลียดชัง การแผดเสียงร้องด้วยความฮึกโฮมดังสนั่นไปทั่วสนามรบ แต่ถึงแบบนั่นผมก็ไม่ได้สนใจศัตรูเหล่านั้นที่พุ่งเข้ามาจะจัดการผมเท่าไหร่
เวทยมนต์ทั้งหมดถูกร่ายอย่างรวดเร็ว กำจัดศัตรูที่เข้ามาขวางทางของผมอย่างไม่ปราณี ก่อนที่กลางสนามรบนั้นจะเกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้น
ตู้ม!!!!!!
เสียงระเบิดดังสนั่น ดังมาจากใจกลางของสนามรบพร้อมกับพายุเปลวเพลิงที่ระเบิดขึ้นเหนือท้องฟ้าและสลายหายไป เวทยมนตร์งั้นหรอ? บางทีอาจจะเป็นทักษะเวทย์เฉพาะตัวของ Fire Lord แน่ๆ
พอคิดว่าตรงนั่นน่าจะมีเจ้าการันอยู่ผมก็รีบวิ่งไปตรงจุดนั่นทันที พร้อมกับไม้เท้าในมือที่ถูกเลื่อนลง และจับในลักษณะของหอกก่อนที่ผมจะทำการร่ายเวทย์เสริมความแข็งแกร่งให้ไม้เท้าหอกในมือ สร้างปลายหอกคมที่เป็นน้ำแข็งที่มีจุดเยือกแข็งมากกว่า -20 องศาขึ้นมา
ในระหว่างทางที่กำลังวิ่งไปนั่น ผมก็สึกเจ็บแป๊ดๆที่หน้าผากแปลกๆ ราวกับว่าผลึกบนหน้าผากกำลังแตกออกเป็นเสี่ยงๆอย่างไรไม่รู้ แต่ที่แน่ๆผมจะต้องฆ่าการันให้ได้
เมื่อผมวิ่งมาถึงใจกลางของสมรภูมิด้วยความเร็วเต็มพิกัด ผมก็เห็นร่างไร้สติของวิคตอเรียนอนสลบอยู่บนผืนดิน พร้อมกับร่างของปีศาจก็อบลินสีแดงที่ยืนใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบย้ำตัวของวิคตอเรียอยู่
ภาพที่เห็นมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดอกเป็นอย่างมาก คุณวิคตอเรียตายแล้วหรอ? ไม่ๆ มันจะต้องไม่เป็นแบบนั้น
ในตอนที่คิดว่าอีกฝ่ายกำลังจะตาย ดวงตาสีแดงก็เบิกโพลงขึ้นมาด้วยความโกรธ พร้อมกับพุ่งตัวเข้าไปหาเจ้าการันในทันที
แกร๊ง!!!
ดาบและหอกเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงแรงต้านดังสนั่นไปทั่วบริเวณ พร้อมกับใบหน้าของเจ้าปีศาจการันที่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข หมอนั่นจ้องมองมาที่ผมด้วยที่ทีสะใจ และดีใจปะปนกันไป
รู้สึกไม่ชอบใบหน้านั่นเลยสักนิด อยากฆ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันใจจะขาดอยู่แล้ว
"การัน!!!!!!!"
"แกยังไม่ตายหรอวะเนี่ย ฮ่าๆ!!! ให้มันได้อย่างงี้ดิวะ มาสู้กันต่อจากเมื่อวานเถอะศัตรูเอ๋ย~!!!"
"ฉันจะฆ่าแกซะ การัน!!! และจะจบไอ้สงครามนี้สักที!!! เวทย์น้ำแข็งทุ่งน้ำแข็ง!!!"
เคร้ง!!! ซู่!!!!
เสียงของดาบทั้งสองเล่มเสียดสีกันดังขึ้น พร้อมกับผืนดินรอบตัวที่กลายเป็นน้ำแข็ง พร้อมกับร่างของคุณวิคตอเรียที่ถูกปกป้องด้วยความเย็นของน้ำแข็ง ผมมองดูร่างกายอันสบักสบอมและบาดเจ็บของเธอ ร่างกายสวมงามไม่มีเลือดแต่มีบาดแผลมากมายรายรอบร่างกาย
เพียงแค่เห็นสภาพของเธอ มันก็ทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากที่ไม่สามารถปกป้องเธอจากการบาดเจ็บได้เลยแม้แต่น้อย มันเป็นความผิดของผมที่ไม่ได้อยู่กับเธอ ก่อนที่จะหันไปสบถใส่หมอนั่นด้วยความโมโหทันที
แต่เหมือนเจ้าการันมันจะไม่ได้สนใจอะไรในตัววิคตอเรียเลยสักนิด ก่อนที่เจ้านั้นจะหัวเราะออกมาอย่างสะใจและพุ่งตัวเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว ดาบในมือถูกตวัดขึ้นเหวี่ยงฟันเข้าใส่อย่างรวดเร็ว แต่ผมก็รับคมดาบนั้นได้ด้วยไม้เท้าเหล็กในมือของตน ก่อนจะตวัดหอกสวนฟันใส่เจ้านั่นไปทีหนึ่ง
ด้วยความเย็นติดลบ ทำให้เมื่อมีบาดแผลขึ้นบนร่างกายของเจ้าการัน เลือดก็จะจับตัวแข็งในทันที แถมด้วยสภาพพื้นที่ด้วยแล้วก็ทำให้การต่อสู้นี้ผมได้เปรียบเป็นอย่างมาก
ดาบและหอกในมือของผมและเจ้านั่น ต่างเหวี่ยงฟันและแทงเข้าใส่กันอย่างรุนแรง เสียงของการเสียดสีดังสนั่นไปทั่วโดยรอบ แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าใครจะผลาดผั้งเสียท่าเลยแม้แต่คนเดียว
เจ้าการันมันเก่งทั้งด้านพละกำลังและเวทย์ไฟ ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้ยืดเยื้อกว่าที่ควรจะเป็นมากนัก ผมตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ในทันที ก่อนที่ดวงตาของผมจะเริ่มผล่ามัวขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
'อุก!!!! นี้มันอะไรกัน!?'
ในขณะที่กำลังเริ่มใช้เวทย์ที่พึ่งจะนึกได้ตอนวิวัฒตนาการออกนั่นเอง ดวงตาของผมก็พร่ามัวขึ้นมา รู้สึกปวดหัวไปจนหมด พร้อมกับมีเลือดกำเดาไหลออกมาจากโพลงจมูกของตน ความเจ็บปวดที่ไม่ทราบสาเหตุนี้มันอะไรกัน?
ผมคิดว่าการวิวัฒตนาการจะทำให้แข็งแกร่งขึ้น แต่นี้มันกลับแย่กว่าที่คิดเสียอีก... แบบนี้คงได้ตายจริงๆแน่...
"อึก... สเปเอล.... มัวทำอะไรอยู่... สัญญากันไว้แล้วไม่ใช่หรอ?"
"แฮ่กๆ... สัญญา... เข้าใจแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นยังไงแต่จะไม่มีวันยอมตายที่นี้เด็ดขาด!!!"
ในขณะที่สติกำลังพร่ามัวจากอาการปวดหัวและบาดเจ็บอย่างไม่ทราบสาเหตุ เสียงอันแผ่วเบาไร้เรี่ยวแรงของวิคตอเรียก็ดังขึ้นมา จนดวงตาทั้ง 3 ดวงรีบหันไปมองด้วยความตกใจ จนสบตาเข้ากับดวงตาของเธอที่ก็แทบจะสู้ไม่ไหวแล้ว
คำสัญญาที่ให้ไว้ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ มันทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าไม่ควรจะมาตายในที่แห่งนี้ จึงรีบจับไม้เท้าในมือไว้ให้มั่นและเริ่มร่ายเวทย์ขึ้นมาในทันที
"ใช่... เพราะจะไม่ยอมตายทั้งๆที่เป้าหมายยังไม่สำเร็จ ฉันจะสู้ต่อไป!!!"
"หืม? เมื่อกี้แกยังล้มลุกคลุกคลานอยู่แท้ๆ ไปเอาลูกฮึดมาจากไหนกันวะ แต่ก็ช่างเถอะ ฉันจะใช้การโจมตีนี้แหละฆ่าแกซะไอ้นักเวทย์!!!!"
"ไม่มีวันหรอก!! ในนามเทพีแห่งมนตราขอสำแดงเดชมนตราของท่าน!!!"
"ด้วยเนตรและพระหัตถ์ของเทวะเพลิงเทพ!! ข้าจักทำลายล้างศัตรูทั้งหลายให้สิ้น!!!!"
เมื่อลูกฮึดปะทุขึ้นมา ผมก็รีบลุกขึ้นมายืนในทันที ก่อนจะรีบร่ายเวทย์ขั้นสูงในทันที เป็นเวลาเดียวกันกับที่เจ้าการันเองก็เริ่มร่ายบทสรรเสริฐพระเจ้าของมันเองด้วยเหมือนกัน
มนตราขั้นสูง สร้างวงเวทย์ 8 แฉกขึ้นมาบนผืนดินใต้เท้าของผม อณูเวทย์สีฟ้าอ่อนลอยขึ้นจากผืนดินส่องประกายระยิบระยับพร้อมกับผมเองที่กำลังรวบรวมพลังเวทย์เพื่อใช้เวทยมนตร์นั่นให้ทันการ ขณะที่เจ้าการันเองก็กล่าวบทสรรเสริฐพระเจ้า จนมีวงเวทย์ 8 แฉกสีแดงกางขึ้นบนฝ่ามือข้างขวาของมัน เปลวเพลิงจำนวน 9 ลูกถูกจุดขึ้นรอบๆฝ่ามือนั่น และละอองอณูเวทย์สีแดงระยิบระยับจะประกายขึ้นมาด้วยเหมือนๆกับผม
การประจันด้วยเวทยมนต์ขั้นสูงทำให้ท้องฟ้าที่เคยสดใสค่อยๆมืดคลึมขึ้นมาเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงฟ้าร้องดังคลืนไปทั่วบริเวณ
"เวทย์ระดับสูง Star Burst!!!!!"
"เวทย์ระดับสูง Burnist Talon!!!!"
เวทยมนต์ของผมและการันถูกปล่อยออกมาพร้อมกัน ในขณะที่เจ้านั่นพุ่งเข้ามาใช้กำปั้นเพลิงโจมตีเข้าใส่ผม ผมก็ทำการยิงลำแสงสีฟ้าครามใส่เจ้านั่นในทันที
แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเวทยมนต์ที่ใช้ทำให้การโจมตีนั่นถูกต้านทานเอาไว้ได้
ซูม!!!!!!! พึบ!!!!!!!! ฟู่ม!!!!!!!!
เสียงของลำแสงปะทะกับเปลวเพลิงอันโชดช่วงดังสนั่นขึ้นมา จนเกิดเป็นคลื่นพลังที่ต้านทานกันอย่างไม่มีวันจักจบเสียที จนกว่าผู้ใช้เวทย์จะหมดพลังไปเอง
"ฮ่าๆ!! แกไม่มีวันชนะฉันได้หรอกไอ้นักเวทย์เอ๋ย!!!"
"มันก็ไม่แน่หรอก.... Clay Shot..!!"
"อุ๊ก!!!"
ปุ๊ม!!!!!!!
เสียงหัวเราะของเจ้าปีศาจเพลิงแดงดังออกมาอย่างสะใจ ในขณะที่เจ้านั่นกำลังยิ้มเยาะในชัยชนะของตนเอง ว่าจะไม่มีวันแพ้ได้นั่นเอง ผมก็ร่ายเวทย์บทหนึ่งขึ้นมา ก่อนที่การโจมตีใหญ่ของผมจะโจมตีโดนเจ้านั่นแบบจังๆ
ลำแสงสีฟ้าครามยิงใส่เผาผลาญร่างกายของเจ้าปีศาจนั่นจนไม่เหลือแม้แต่เศษผง พร้อมกับยิงใส่เหล่าทหารมิดเรย์ที่อยู่ด้้านหลังไปด้วย ไม่รู้หรอกนะว่าเจ้านั่นจะแข็งแกร่งขนาดไหนแต่ชัยชนะคือชัยชนะ
เหตุผลที่เจ้านั่นแพ้น่ะนะ.... ก็คงเป็นการประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไปนั่นแหละ
หลังจากจัดการกับเจ้าการันได้แล้วผมก็รีบวิ่งเข้าไปพยุงตัวของคุณวิคตอเรียขึ้นมาในทันที แม้ร่างกายจะเป็นสาวเซนทอร์ตัวใหญ่ก็ตามแต่ผมก็รีบพยุงตัวของเธอขึ้นยืนให้ได้ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามผมด้วยความสงสัย
"อึก... ชนะแล้วหรอเอล? นายใช้วิธีอะไรถึงชนะได้หรอ?"
"แน่นอนครับ กับดักเวทย์...."
"หึๆ... นายนี้มันฉลาดแกมโกงจริงๆ"
"ก็ไม่ขนาดนั่นหรอก"