ทาสชั้นต่ำอย่างมันจะอาจเอื้อมนายได้อย่างไร หากดอกฟ้าดอกนั้นไม่โน้มลงต่ำให้มันเชยชม
ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,ไทย,ดราม่า,ดราม่า,พีเรียดไทย,โรแมนซ์,อีโรติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คุณแขเมียทาส 18+ทาสชั้นต่ำอย่างมันจะอาจเอื้อมนายได้อย่างไร หากดอกฟ้าดอกนั้นไม่โน้มลงต่ำให้มันเชยชม
*จบแล้วแต่ทยอยลง และ มี E-book*
เฉพาะ E-book มีตอนพิเศษทั้งหมด 3 ตอน ประกอด้วย NC 2 ตอนฉ่ำๆ และตอนจบแบบบริบูรณ์อีก 1 ตอน
นิยายเรื่องแต่งขึ้นมาจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องถึงบุคคล สถานที่หรือเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นในสมัยนั้น เนื้อหาภายในเรื่องเป็นเพียงการเซ็ตฉากให้ดำเนินไปตามยุคสมัยซึ่งอาจมีความรุนแรง การแบ่งชนชั้น การกระทำที่ไม่เหมาะสมของตัวละคร อาจมีถ้อยคำหยาบคายและมีการบรรยาย NC / กิจกรรมทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ปล.นางเอกเรื่องนี้เป็นสาวสมัยก่อน แต่ผิดขนบสาวงาม ทำตัวแก่แดด ขี้อ้อน ช่างพูด ขี้อ่อยและมีสัมพันธ์(เสียว ๆ แบบไม่ลึกซึ้ง)มาก่อน ก่อนจะมีสัมพันธ์(เสียว ๆ แรง ๆ ลึกซึ้งสุดใจ)กับพระเอกแค่คนเดียว
***
“กระผมเป็นเพียงแค่ทาส จะให้อาจเอื้อมไปรักคุณแขไขได้อย่างไรกันเล่าขอรับ”
“เป็นทาสแล้วอย่างไร ในเมื่อเรารักกัน”
ไอ้เปลวไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าดอกฟ้าที่แสนซุกซนจนดูผิดขนบสาวงามในยุคสมัยนี้เหตุใดจึงได้ช่างเย้าเล่นกับใจมันนัก ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ควร...แต่เจ้าชีวิตของมันก็โน้มเข้าหาแลอนุญาตให้มันเชยชมอย่างอิ่มเอม- กระทั่งเกิดความสัมพันธ์เร้าร้อนระหว่างนายแลทาสในเรือนขึ้นมาอย่างลับ ๆ
“คุณแขไขเคยมีใจให้กระผมหรือไม่ขอรับ...” เพราะนายของมันทั้งดื้อแลซุกซน ชอบเล่นสนุกไปกับความรู้สึกของผู้อื่นและมันก็เป็นหนึ่งในคนที่หลงใหลในห้วงสวาทของเธอ จึงไม่แปลกหากมันจะเผลอน้อยใจเมื่อเห็นเจ้าชีวิตของมันไปเล่นกับหมาตัวอื่นอยู่บ่อยครั้ง “...หากไม่รัก ก็อย่าให้ความหวังกระผมได้มั้ยขอรับ”
“หากฉันไม่รักไม่ชอบ”
"..."
"ฉันจะให้เธอทำกับฉันอย่างนั้นหรือ..." คุณแขไขเธอทั้งงามแลมากด้วยเสน่ห์ เธอไม่ได้มีเพียงแค่ใบหน้างดงาม แลช่างป้อนคำหวานให้ทาสคนโปรดเท่านั้น แต่เธอยังมอบสัมผัสหวานหอมจนทำเอาทาสคนโปรดคนนี้ลืมไม่ลงเสียด้วย "...เปลว- เธอทำแรงเสียจนฉันติดสัมผัสของเธอเชียว"
“...”
“หรือว่าตอนที่เธอทำฉัน...เธอไม่ได้ชอบมากถึงเพียงนั้น”
“ชอบสิขอรับ กระผมชอบสัมผัสของคุณหนู หลงใหลแลอยากรักคุณหนูไปทั้งตัว”
“เช่นนั้นก็รักฉันแรง ๆ สิ”
“แต่เรื่องระหว่างเรามันผิดไม่ใช่หรือขอรับ”
ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับทาสไม่ควรเกิดขึ้น แต่ในเมื่อเราทั้งรักแลหลงกันจนไม่อาจห้ามใจ ทั้งยังมีความปรารถนาที่นุ่มลึกแลกสัมผัสแก่กันได้มากถึงเพียงนี้ แล้วทำไมเราต้องสนใจเรื่องผิดถูกพวกนั้นด้วยเล่า
#คุณแขเมียทาส
/ เจอกันทุกวันจันทร์ พฤหัสและอาทิตย์เวลา 21.15 น.ค่ะ /
พระนคร ปีพุทธศักราช ๒๔๓๗
เรือนไม้สักหลังงานของพระยาเทียบบรรลือในเวลานี้พลันเนืองแน่นไปด้วยทาสชายหญิงที่ขยันทำงานกันอย่างขะมักเขม้น สีหน้าพวกทาสเหล่านั้นแม้นจะไม่ได้สุขจนถึงที่สุดของชีวิตตนหากแต่ก็ไม่ได้ทุกข์ตรมเหมือนดั่งทาสเรือนอื่นในระแวกนั้น เนื่องด้วยท่านเจ้าคุณนั้นมากไปด้วยบารมี- เป็นบารมีที่มีมาแต่เดิมนับตั้งแต่รุ่นพ่อของท่าน อีกทั้งยังร่ำรวยมั่งมีจึงได้กว้านซื้อทาสที่ถูกนายเก่าทารุณอย่างหนักหนามาเลี้ยงดูอย่างดีเป็นจำนวนไม่น้อยอีกด้วย
ถัดไปอีกหน่อยบริเวณท่าน้ำของเรือน เห็นเรือพายซอมซ่อจอดลงที่ริมท่าน้ำ ก่อนเด็กชายมอมแมมคนนั้นจะเดินขึ้นมาจากท่า รูปร่างของมันผอมแห้งและเต็มไปด้วยรอยไม้เรียวเฆี่ยนตี ผ้านุ่งของมันเก่าแสนเก่า...เก่าเสียจนขาดรุ่งริ่ง หน้าตาหรือก็สกปรกมอมแมม ทั้งยังมีกลิ่นสาบเหมือนคนไม่ได้อาบน้ำล้างเนื้อตัวมาเป็นเวลานานโข
มันเป็นทาสจากเรือนคุณพระสมิงแลถูกซื้อมาโดยพระยาเทียบบรรลือเมื่อไม่กี่วันก่อนเนื่องด้วยเพิ่งครบรอบวันสูญเสียภรรยาสุดที่รักไป จึงใคร่อยากจะทำทานช่วยคนสักนิดนั่นแหละหนา ด้วยเห็นว่าพ่อแม่มันตายหมดแล้ว ทั้งยังไร้ที่พึ่งพิง ชีวิตของเจ้าทาสมอมแมมคนนี้ก็เหลือเพียงแค่มันตัวคนเดียวเท่านั้น- จึงไม่แปลกหากมันจะถูกทารุณแลกลั่นแกล้งสารพัด ทำราวกับทาสคนนี้ไม่ใช่มนุษย์
“มาแล้วหรือพวกเอ็ง เป็นอย่างไรกันบ้างเล่า” ป้ากอบ ทาสหญิงวัยกลางคนที่อยู่รับใช้นายเรือนนี้มาเป็นเวลานานกว่าใครเข้ามารับตัวทาสเด็กที่ยืนรออยู่ตรงท่าน้ำกับทาสจากเรือนนายเก่าที่มาส่งมัน เมื่อนางกอบแกเข้ามาหา พวกมันก็ทิ้งเจ้าเด็กน้อยนั่นแล้วพายเรือกลับเรือนตนไปในทันที
แก้วตาใสแจ๋วแลดูใสซื่อของทาสเด็กคนนี้พลันทำเอาป้ากอบแสนจะเวทนามันนัก ดูสิ...เนื้อตัวผอมแห้งเช่นนี้สงสัยจะไม่ค่อยได้กินอะไรกับเขาเลยละมัง
“...”
“ไปเรือนใหญ่พบนายใหม่ของเอ็งกับข้าก่อน- ไปพบพวกท่านให้เห็นหน้าคร่าตาเอ็งก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำล้างเนื้อตัว”
“...”
“เอ็งนี่หนา...สกปรกเสียจริง- มา ๆๆ เดินตามข้ามา”
“...” ไอ้ทาสเด็กคนนี้ก็ทำเพียงแค่เงียบ แล้วพยักหน้ารับช้า ๆ เท่านั้น
ทาสหญิงไล่สายตามองไปตามเนื้อตัวเจ้าทาสมอมแมมที่เอาแต่ยืนห่อตัว ก้มหน้า กุมมือแล้วก็นึกเวทนามันนัก ก่อนทาสหญิงจะพามันเดินไปทั้งยังบ่นไปตลอดทาง ระหว่างนั้นป้าแกก็ยังชี้นิ้วไปตามทางบอกทาสเด็กที่เพิ่งมาใหม่เสียด้วยว่าอะไรเป็นอะไร มินำซ้ำป้าแกยังบ่นทาสคนอื่นที่ทำงานอยู่ระหว่างทางไปด้วย- ป้าแกบ่นไม่หยุดเชียวว่าให้เช็ดตรงนั้นให้สะอาดกว่านี้ ไหนจะยังบ่นเรื่องตัดหญ้าแลดอกไม้งาม ๆ พวกนั้นตรงนี้อีก...แกก็บ่นไปตามประสาคนที่อยู่มานานที่สุดนั่นแหละหนา
และป้านวลแกก็พาเด็กทาสเดินมาถึงเรือนใหญ่ มันเป็นเรือนไม้สักโอ่อ่าไม่น้อยไปกว่าเรือนเจ้าขุนมูลนายคนอื่น แต่จะต่างก็ตรงที่บางส่วนนั้นมีดอกไม้ของพวกฝรั่งแปลกตาปลูกเป็นแนวสวยงาม เด็กมอมแมมมองดอกไม้สีชาดเหล่านั้นอย่างนึกสงสัย แต่ไม่ทันไรไหล่ของมันก็ถูกดันให้ไปล้างเท้าตรงตุ่มที่ตั้งตรงข้างบันไดสูงชัน...เด็กทาสมองเนื้อไม้ก่อนจะก้มมองเท้าเปล่ามอมแมมดำกร้านของตน ความคิดหนึ่งของมันนึกหวั่นใจ หากเท้าของมันเหยียบเข้ากับเนื้อไม้งาม ๆ นั่นแล้วจะสร้างความสกปรกแก่เรือนไม้งามนี่หรือไม่กันหนอ
ก่อนไอ้ลูกทาสจะคลานเข่า ก้มหน้าลงมองพื้นตลอดเมื่อขึ้นไปนั่งตรงลานกว้างบนเรือน- ไอ้เด็กทาสคนนี้ไม่กล้าแม้จะเงยหน้าขึ้นสบตาคนชั้นสูงที่นั่งตรงกลางโถงตรงหน้า เนื้อตัวมอมแมมเหม็นสาบของมันคงจะสร้างความรังเกียจให้กับคนเรือนนี้ไม่น้อย ไหนจะสภาพไม่เจริญหูเจริญตานั่นอีก...มันคิดอย่างนั้นเพราะคนอย่างมันกำลังตกเป็นเป้าสายตาอย่างไม่อาจเลี่ยงได้
“คุณท่านเจ้าขา มันมาแล้วเจ้าค่ะ...ทาสเด็กที่ท่านไถ่ตัวมันมาจากอีกเรือน”
“อืม- เงยหน้าเอ็งขึ้นเถิด ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใด”
“เอ้า! เงยหน้าให้ท่านมองเสียสิ” ป้ากอบกระซาบมันเสียงแผ่ว
เสียงของท่านเจ้าคุณแลดูสุขุมนุ่มลึกกว่าที่ไอ้ทาสเด็กคนนี้คิด อาจเพราะท่านเจ้าคุณเรือนนี้นั้นเป็นคนอ่อนโยนใจดีมาแต่เดิม นั่นพลันทำให้ไอ้ทาสค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นตามคำสั่งนั้นอย่างเชื่องช้า มันลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นดอกไม้แสนงามที่นั่งอยู่ข้างกายท่านเจ้าคุณ- คุณเธอที่กำลังถือหนังสือของพวกฝรั่งนั้นหากเมื่อพิศมองดูแล้วคงจะเป็นเด็กสาวที่อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกัน...เธอมีหน้าตาน่ารักน่าชังราวกับพวกตุ๊กตาฝรั่งที่เห็นจากเรือนของนายเก่ามัน ดวงตาเจ้าหล่อนกลมใสหวานเป็นประกาย จมูกมนนั่นดูรั้นนิด ๆ ริมฝีปากสวยหรือก็อวบอิ่มน่ามองเชียว อีกทั้งผิวขาวอมชมพูของเธอหรือก็สะอาดสะอ้านต่างจากตัวมันที่กำลังลอบมองลิบลับ มองปราดเดียวก็พอจะรู้แล้วว่าคุณเธอคนนี้คงเป็นลูกสาวท่านเจ้าคุณ เป็นคุณหนูของเรือนนี้เป็นแน่
แลคุณหนูที่นั่งอมยิ้มพับเพียบตรงหน้านี้ ก็คงจะเป็นเจ้าชีวิตของมันนับจากนี้เป็นต้นไปละมัง
“แล้วชื่ออะไรเล่าเอ็ง”
“กระผมชื่อเปลวขอรับท่าเจ้าคุณ” ไอ้เปลวมันตอบเสียงอ้อมแอ้มแล้วจึงก้มหน้าลงเรียดพื้นอีกครั้ง ก่อนมันจะได้ยินเสียงหัวเราะสดใสของคุณหนูผู้สูงศักดิ์ดังขึ้น
“หน้าตาแลดูใสซื่อแต่ชื่อเปลวหรือ- ประหลาดดีแท้...ส่วนฉันชื่อแขไขนะ”
“ลูกแข เงียบหน่อย- เป็นหญิงแต่เอ่ยแทรกคนอื่นพูดคุยเช่นนี้มันไม่งาม” บิดาหันไปเอ็ดลูกสาวที่นั่งข้างกาย พลันทำเอาร่างเล็ก ๆ หน้างอแลเงียบไปโดยพลัน ก่อนจะก้มหน้าอ่านหนังสือฝรั่งในมือตนอีกครั้ง ทั้งยังไม่วายแอบเงยหน้า ชายตามองทาสคนใหม่เล็กน้อย มิหนำซ้ำยังส่งยิ้มหวานให้เจ้าลูกทาสโสโครกนั่นอย่างไม่นึกรังเกียจอีกด้วย
“นางกอบประเดี๋ยวเอ็งพาไอ้เปลวไปนอนเรือนท้ายนะ”
“เจ้าค่ะ”
“เปลวว่างเมื่อไหร่ก็มาเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ”
เสียงหัวเราะสดใสเอ่ยแทรกขึ้นมาอีกครั้งอย่างซุกซนจนท่านเจ้าคุณหันไปเอ็ด แต่คุณหนูกลับเอาแต่ทำหน้าดื้อเป็นทองไม่รู้ร้อนเสียอย่างนั้น แลนั่นก็ทำเอาไอ้เปลวใจเต้นแรงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว- มันทั้งใจเต้นแรงแลเขินอายจนไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองเธออีกครา เจ้าลูกทาสมันไม่กล้าตอบรับคำสั่งของเธอเสียด้วยซ้ำ ก็คงจะตามประสาคนเจียมเนื้อเจียมตัวนั่นแหละหนา ในขณะที่ท่านเจ้าคุณได้แต่ส่ายหน้าระอาในความแก่นแก้วผิดขนบหญิงสาวของลูกสาวตน
เวลาล่วงเลยไปนานนับปี...พร้อมทั้งปรากฎร่างผอมแห้งของไอ้ลูกทาสที่กำลังวิ่งเข้ามาในบริเวณห้องครัวด้วยสภาพเหนื่อยหอบทั้งยังมีเหงื่อซึม สองมือหรือก็หอบฟืนพะรุงพะรัง แลด้านหลังของมันยังสะพายของสดสำหรับทำครัว เครื่องหอมแลน้ำมันบำรุงผมของพวกคนจีนที่นำมาขายบริเวณตลาดให้คุณหนูคนงามของมันที่สั่งให้ออกไปซื้ออีกด้วย ไอ้เปลวปาดเหงื่อตามกรอบหน้ามอมแมมของมัน อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยหนา- หลังจากมันมาอยู่เรือนนี้ได้ไม่นานไอ้ทาสโสโครกในวันนั้น วันนี้มันกลับรูปงามอย่างไม่น่าเชื่อเชียว แม้เนื้อตัวมันจะยังคงเปรอะเปื้อนไปด้วยเขม่าดินตามประสาก็ตาม
แม้มันจะแลดูมีโครงหน้าจิ้มลิ้ม แต่กลับมีคิ้วคมประหนึ่งว่าหากวันหนึ่งมันเติบโตขึ้น คงจะมีความงามตามประสาชายชาตรี แต่ถึงอย่างนั้นใครต่างก็คิดไปว่าแก้วตาของมันคงจะเหมือนเดิม...ใสซื่อไม่ต่างจากวันแรกที่มันย้ายเข้ามาอยู่ในเรือนนี้
ใบหน้าหล่อเหลามอมแมมเต็มไปด้วยเหงื่อแลเขม่าก้มหน้างุด ก่อนจะถดถอยร่างผอมแห้งของมันห่างออกจากกรอบประตูครัวเมื่อจู่ ๆ คุณหนูของเรือนก็พลันโผล่มาอยู่ตรงนี้ ตรงพื้นที่ของทาสที่เธอไม่ควรลดตัวลงมาเหยียบเลยนั่นแหละหนา
“เปลว ได้ของที่ฉันสั่งหรือไม่” ตากลมสวยของเจ้าหล่อนเป็นประกาย ริมฝีปากอวบอิ่มพลันรบเร้าถาม อีกทั้งเจ้าของร่างเล็กที่สวมใส่สไบงามนุ่งโจงสีสวยก็โน้มเข้าใกล้ทาสหนุ่ม นั่นทำเอาผมหนายาวสลวยลู่ลงจนได้กลิ่นหอมฟุ้ง
“ได้ขอรับคุณแข” ไอ้ลูกทาสหรือก็ก้มหน้าก้มตาตอบนายของตนทั้งแก้มแดงปลั่ง- มันไม่แน่ใจในตนเองเท่าไหร่ว่าเหตุที่แก้มของมันแดงเช่นนี้ด้วยว่าความเหนื่อยหอบแลร่างกายของมันร้อน หรือเป็นเพราะเขินอายคนงามที่ยิ้มแย้มเสียจนดวงตาเป็นประกายตรงหน้ากันแน่
คุณหนูแขไขเธอเป็นบุตรสาวคนเดียวแลเป็นบุตรสาวคนเล็กของท่านเจ้าคุณ มีสายเลือดผู้รากมากดี มากด้วยการศึกษาทั้งยังงดงามแลขาวสะอาด ราวกับแสงจันทร์ยามย่ำคืน...จึงไม่แปลกหากเธอจะเป็นที่หมายตาของผู้ใหญ่ทั่วทั้งพระนครที่หมายจะได้เจ้าหล่อนไปแต่งงานกับลูกชายตนในอนาคต- แล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากท่านเจ้าคุณจะหวงแหนเธอนัก
เห็นเธองดงาม สดใสแลซุกซนหัวไวจนดูผิดขนบหญิงสาวในยุคนี้ แต่ถึงอย่างนั้นคุณหนูแขไขเธอก็แก่กว่าไอ้เปลวสองปีเชียวหนา ตอนนี้เธอมีอายุเก้าปีในขณะที่ไอ้เปลวมีอายุเพียงแค่เจ็ดปีเท่านั้น ทว่าไม่รู้อย่างไรไอ้เปลวจึงได้รู้สึกว่าเธอตัวสูงกว่ามันทั้งยังดูโตเป็นสาวตามอายุ หากแต่กลับเต็มไปด้วยความขี้เล่น ดื้อดึง ไม่ต่างจากเด็กวัยซุกซนเชียว
“ไอ้เปลว วางของเสร็จแล้วก็รีบไปสิ เอ็งจะมายืนเกะกะคุณหนูเธอทำไม” เป็นป้ากอบที่ดุมันเสียงเขียว แม้ตั้งแต่ไอ้เปลวมาอยู่ด้วย แกจะรักแลดูแลมันเหมือนลูกคนหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับคุณหนูแขไขแล้ว เหตุใดป้าแกจะไม่เห็นหัวแก้วหัวแหวนแสนดื้อของเรือนดีกว่ามันกันเล่า
“ไม่เป็นไรหรอกป้ากอบ...” คุณแขไขเธอยิ้มพร้อมเอ่ยเสียงหวานใส หันไปทางไอ้ลูกทาสที่ยืนงงอยู่ไม่ไกลที่ยืนห่อไหล่เจียมตัวตรงนั้น “...เปลวอยู่ก็ดีฉันจะได้ให้ช่วยปรุงแป้งร่ำเครื่องหอม หากต้องยกของคนเดียวแขนฉันต้องหักเป็นแน่”
“คุณหนู-” ป้ากอบแกเรียกเตือนคุณหนูของตนอีกคราด้วยเห็นว่าจะให้ไอ้เปลวที่เป็นชายมาคลุกคลีด้วยคงไม่เหมาะเท่าไหร่นัก แม้จะยังเด็กมากก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นทาสหญิงก็พลันต้องเงียบลงเมื่อเห็นสายตาหวานที่หันมาปรามตนด้วยท่าทีออดอ้อนเสียจนใจอ่อน
คุณแขไขเธอก็ใจดีเช่นนี้แหละหนา อีกทั้งยังโปรดไอ้เปลวลูกทาสคนนี้ยิ่งกว่าใครด้วยว่ามันดูใสซื่อ หัวอ่อนแลตามใจเธอนัก ไหนเลยจะยังมีหน้าตาจิ้มลิ้มเหมือนหมาเด็กนั่นอีก
แม้ว่าโดยปกติแล้วตามที่ไอ้เปลวเรียนรู้มา พวกชนชั้นสูงจะไม่ค่อยเข้ามาข้องเกี่ยวกับทาสชั้นต่ำเท่าไหร่ แต่สำหรับเรือนนี้ดูเหมือนจะเป็นข้อยกเว้น ด้วยว่าตั้งแต่ไอ้เปลวมันย้ายเข้ามาอยู่ในเรือนนี้ก็เห็นคุณหนูแขไขวิ่งเล่นกับลูกทาสคนอื่นอยู่บ่อยครั้ง มิหนำซ้ำเธอยังถูกอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดีเชียวว่าจะทาสไพร่ไทต่างก็เป็นคนที่มีชีวิตจิตใจเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงไม่ได้นึกรังเกียจอะไร ทั้งยังเห็นใจคนง่ายอีกด้วย...คงเป็นเช่นนั้นละมังจึงทำให้คุณแขไขดูผิดขนบจากผู้อื่น ไม่คิดวางตัวสูงส่งแลยังเข้ากับคนทุกชนชั้นได้ง่ายกว่าที่คิด
มือเล็กขาวนุ่มของคุณหนูแตะลงบนมือหยาบกร้านของไอ้เปลว พร้อมทั้งบดสากหินลงบนแป้งก้อนที่มันซื้อมาก่อนหน้านี้เสียอย่างเบามือ
“ค่อย ๆ ทำสิเปลว หากตะบี้ตะบันบดแป้งอย่างนั้นประเดี๋ยวก็เป็นแผ่นติดกัน- ไม่ร่วนซุยแล้วจะนำมาผัดหน้าได้อย่างไร”
“ขอ- ขออภัยขอรับคุณแขไข กระผมไม่ได้ตั้งใจ” ไอ้ทาสเด็กมันทำแต่งานใช้แรง จู่ ๆ ให้มันมานั่งบดแป้งเช่นนี้ก็กะน้ำหนักมือไม่ถูกน่ะสิ
“ไม่เป็นไรเปลว...ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น”
ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อยิ้มรับพลันหัวเราะขบขันกับท่าทีเงอะงะของทาสคนโปรดเล็กน้อย ก่อนมือเล็กจะค่อย ๆ บังคับให้ไอ้เปลวมันเบาน้ำหนักมือแล้วบดแป้งต่อไปอย่างนั้น ซึ่งไอ้คนชั้นต่ำมันก็ได้แต่นั่งเกร็งทำตัวเงอะงะ ไม่กล้าแม้แต่จะรั้งมือกร้านของมันออกขัดใจเธอ
มันไม่กล้าทำอะไรขัดใจเจ้าชีวิตของมันหรอกหนา เพราะอย่างนั้นความใกล้ชิดจึงทำให้มันเห็นความงามน่ารักของเธอได้อย่างเด่นชัด เนื้อตัวเธอหอมอ่อน ๆ ไม่เพียงแค่เนื้อตัวหรอกหนาที่หอม แต่ผ้านุ่งของคุณเธอก็ยังหอมมากอีกด้วย- อะไรก็ไม่รู้...แต่ความงามน่ารัก ความซุกซนสดใสร่าเริงนั้นกลับทำให้ไอ้ลูกทาสคนนี้รู้สึกใจเต้นแรงจนไม่อาจควบคุมได้อย่างหน้าประหลาดอยู่ร่ำไป
ป้ากอบหรือก็ทำได้แค่ส่ายหัวไปมาอย่างนึกระอามัน ไอ้เปลวหนอไอ้เปลว เนื้อตัวมอมแมมออกอย่างนั้นใยคุณหนูจึงได้ไม่นึกรังเกียจทั้งยังเอ็นดูมันนัก ก่อนทาสหญิงของเรือนจะถอนหายใจแล้วลุกออกจากครัว เดินไปเอากลีบกุหลาบที่ตากไว้ด้านนอก ปล่อยให้ไอ้เปลวมันตั้งหน้าตั้งตาช่วยนายของมันอย่างกระตือรือร้น
“ฉันเพิ่งได้ลองทำแป้งผัดหน้าไม่กี่ครั้ง แลไม่รู้ด้วยว่าหากผสมมันเข้ากับกลีบกุหลาบบดละเอียดแล้วจะออกมาดีหรือไม่ แต่ฉันก็อยากลองดู”
“...”
“เปลวต้องช่วยฉันดูแล้วแหละว่าแป้งผัดหน้านี้จะออกมาดีแลหอมดั่งที่ตั้งใจเอาไว้หรือไม่”
“คุณหนู- เอ่อ...คุณแขไข เรื่องเช่นนี้คงต้องถามสตรีนะขอรับ กระผมเป็นชายทั้งยังเป็นทาสเนื้อตัวมอมแมม เรื่องของสวยงามกระผมไม่อาจออกความเห็นได้หรอกนะขอรับ” มันตอบอย่างนอบน้อม เสียงของมันแม้จะขุ่นมัวทว่าก็ยังคงสดใสตามประสาเด็ก แต่อีกไม่นานหรอกหนา...เนื้อเสียงน่ารักของมันในตอนนี้ก็จะเปลี่ยนไปจากเดิม
“ฉันจะเอาไปให้ใครลองดีเล่า พี่ชายทั้งสองของฉันก็ไม่อยู่- แต่หากจะให้ออกไปหาคุณนิ่มก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเธอจะสะดวกใจลองหรือไม่...” ก็เป็นอย่างที่ว่านั่นแหละหนา ในยามนี้พี่ชายคนโตของเธอยุ่งอยู่กับงานในกระทรวง ส่วนคนรองหรือก็เพิ่งร่องเรือไปเรียนหนังสือที่เมืองฝรั่ง- คุณนิ่มเพื่อนสนิทยามนี้ก็วุ่นอยู่กับการเรียนขิม จะว่างมาเล่นซนเหมือนอย่างเธอได้อย่างไรกัน “...คิดไปแล้วก็สงสารคุณนิ่ม ไม่อยากเรียนขิมแต่งก็ต้องเรียนตามคำสั่งของคุณลุง- เห็นเธอแล้วฉันรู้สึกโชคดีไม่น้อยที่คุณพ่อไม่คิดบังคับเรื่องพวกนี้กับฉัน”
“ขอ- ขอรับ”
ไอ้เปลวมันจะไปรู้เรื่องร่ำเรียนเหมือนอย่างคนชั้นสูงได้อย่างไร มันเพียงแค่นั่งฟังเสียงเจื้อยแจ้วแล้วก้มหน้า พยายามไม่เงยหน้ามองความงามตรงหน้าเท่านั้น- มองไม่ได้หรอกหนาประเดี๋ยวหัวใจของไอ้เปลวมันจะหลุดออกจากอกเอา เพียงแค่ความใกล้ชิดในยามนี้ก็ทำเอาไอ้เปลวใจหล่นไปถึงพื้นแล้ว
เคยได้ยินคุณนิ่มเพื่อนคนงามของคุณแขไขบ่นอยู่บ่อยครั้ง ว่าคุณแขไขอายุเพิ่งจะเท่านี้แต่ช่างแก่แดดรู้จักแต่งเนื้อแต่งตัวหาของสวยงามมาประดับเสริมความงามของตนยิ่งนัก ไอ้เปลวมันเผลอไผลคิดไปว่าหรือเป็นเพราะนายของมันไปร่ำเรียนอยู่กับมิชชันนารี มีเพื่อนฝรั่งมากโขจึงได้แก่แดดแก่ลมถึงเพียงนี้ ต่างจากคุณนุ่มนิ่มที่มีพี่เลี้ยงแลครูเข้ามาเตรียมสอนสำหรับโรงเรียนชาววัง
อีกตั้งนานกว่าจะสวยสะพรั่ง แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะรีบไปไหน- แต่ถึงอย่างนั้นบรรดาเครื่องประทินผิว ของเกี่ยวกับความงามแลเครื่องหอมฝรั่งก็เป็นสิ่งที่คุณแขไขโปรดปรานมากอยู่ดี ซึ่งนั่นก็มีใครหลายคนบอกว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้วเพราะเมื่อถึงวันที่เธอจำต้องแต่งงาน ก็คงงามพร้อมเสียจนมีแต่คนที่สูงศักดิ์แลคู่ควรกันเข้าหา
“หรือฉันจะเอาไปให้พี่สาวของคุณนิ่มดี อีกประเดี๋ยวเธออาจจะต้องใช้ด้วยว่าใกล้จะเป็นเจ้าสาวแล้ว”
“ขอรับ”
“อะไร ๆ ก็ขอรับ ๆ”
“ขอรับ”
“เปลวนี่น่าเบื่อเสียจริง- เออนี่...จริงสิเปลว หากฉันเติบโตจนต้องแต่งงาน เปลวจะตามไปรับใช้ฉัน ที่เรือนของเจ้าบ่าวฉันในภายภาคหน้าด้วยหรือไม่”
“ไปสิขอรับ- กระผมเป็นทาสของคุณแขไข คุณแขไขต้องการให้กระผมไปที่ใดกระผมย่อมต้องไปอยู่แล้วขอรับ”
ได้ยินเช่นนั้นแล้วคุณแขไขก็ยิ้มหวานชอบใจ บุตรสาวเพียงคนเดียวในเรือนท่านเจ้าคุณเทียบบรรลือถูกใจทาสที่ว่านอนสอนง่ายอย่างไอ้เปลวมันนัก ถูกใจทั้งยังไม่ได้มองว่ามันเป็นทาสชายที่มีเพศต่างจากตนอีกด้วย ด้วยว่าไอ้เจ้าเปลวนั้นมันทั้งซื่อสัตว์ ไม่มีพิษภัยและทำตามใจเธอทุกประการ...แลที่สำคัญคนอย่างมันเป็นคนที่น่ากลั่นแกล้งที่สุดในโลกเสียด้วย
หลังจากนั้นอีกไม่นาน- ในค่ำคืนหนึ่งก็พลันมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับคุณแขไขเกิดขึ้น ไอ้เปลวมันเห็นคุณหนูของมันร้องไห้กระซิกทั้งยังวิ่งกลับขึ้นเรือนไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งตระกร้าเสียจนตกกระจายทั้งที่เรายังเก็บมะปรางได้ไม่เท่าไหร่ มันวิ่งตามขึ้นไปบนเรือนอย่างเร่งรีบแต่มันกลับไม่อาจเข้าไปในเขตห้องนอนของคุณหนูมันได้ ด้วยว่าแม้จะสนิทสนมแลเป็นทาสแสนโปรดมากเพียงไหน แต่ห้องนอนสตรีก็เป็นสถานที่ต้องห้ามสำหรับชายอยู่ดี
มันทำได้เพียงแค่ชะโงกมองตามด้วยความเป็นกังวล ยิ่งเห็นหยดเลือดที่หยดตามแผ่นไม้มันก็ยิ่งใจเสีย- ดวงตากลมใสราวกับลูกหมามองตามป้ากอบที่วิ่งเข้าไปหานายของมันอย่างร้อนรน
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของคนงามนั้นบาดใจไอ้เปลวจนมันอยู่ไม่สุข แต่จะให้มันทำอย่างไรได้เล่าในเมื่อมันไม่อาจรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นภายในห้องนั้นได้เลย แลเด็กหนุ่มอย่างมันก็ทำได้แค่หาผ้าชุบน้ำมาเช็ดเลือดที่หยดไปตามทางของเธอเท่านั้น พร้อมทั้งปาดน้ำตาที่ไหลกระซิก ๆ ของตน ด้วยว่าสงสารนายของมันจับใจ
“โถ่คุณหนู ไอ้เปลวจะช่วยคุณอย่างไรดี...” มันผละมือกร้านของมันจากผ้าผืนนั้น ก่อนจะปาดน้ำตาของมันอีกครั้ง “...ไอ้เปลวสงสารคุณหนูเหลือเกินขอรับ”
“เป็นอะไรของเอ็งไอ้เปลว ใยเอ็งร้องห่มร้องไห้เช่นนี้” ก่อนจะเป็นป้ากอบที่เดินออกมาจากห้องของคุณแขไข แล้วต้องแปลกใจเมื่อเห็นทาสที่ตนเลี้ยงราวกับลูกนั่งร้องไห้ไปพลาง เช็ดหยดเลือดของคุณหนูของเรือนไปพลาง
“เปลว- เปลวสงสารคุณแขไข...คุณหนูของไอ้เปลวกำลังบาดเจ็บนี่จ๊ะป้า”
“ไอ้เปลว- ไอ้เด็กโง่เอ้ย!” ป้ากอบหัวเราะคำของไอ้เปลวอย่างนึกขบขัน ทั้งที่นี่เป็นเรื่องปกติของสตรีใยมันต้องตกใจกลัวถึงเพียงนี้กันเล่า- อ่า...จริงสิ ไอ้เจ้าเปลวมันเป็นชายอีกทั้งมันเด็กกว่านายของมันเสียอีก จะเติบโตแลเปลี่ยนแปลงช้ากว่าคุณแขไขเธอก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกหนา
ป้ากอบกลั้นเสียงขบขันไอ้เจ้าเปลวมันอย่างนึกเอ็นดู พลันหันไปสั่งทาสคนอื่นบนเรือนให้เตรียมน้ำให้คุณแขไขอาบเสียใหม่ แลยังกำชับให้หาผ้านุ่มมารองซับให้คุณหนูของเรือนที่เพิ่งเติบโตเป็นสาวอีกด้วย
“ฮึก- ฮึก ป้ากอบขำอะไรฉันจ๊ะ ฉันเป็นห่วงคุณหนูจริง ๆ นะจ๊ะ”
“คุณหนูของเอ็งแค่มีรอบเดือน เป็นเรื่องปกติของสตรี- หาใช่เรื่องใหญ่ไม่”
“...”
“ปัดโธ่! ข้าก็นึกว่าเรื่องอะไร”
ไอ้เปลวมันก้มมองผ้าชุบน้ำเก่า ๆ ในมือของมันที่มีหยดเลือดเปรอะเปื้อนเล็กน้อยนั่น ก่อนจะกวาดสายตามองความวุ่นวายของบ่าวคนอื่น แล้วจึงหันกลับมาหาป้ากอบที่เดินเข้ามาลูบหัวมันด้วยความเอ็นดูเคล้าเสียงหัวเราะขบขัน ไอ้เปลวไม่รู้หรอกว่าเรื่องเช่นนี้มันน่าขำตรงไหน มีเลือดหยดเพียงนี้แลคุณหนูของมันหรือก็ร้องไห้ด้วยไม่ใช่หรือ ทว่าเพียงไม่นานมันก็เริ่มเข้าใจแล้วว่านี่เป็นเรื่องธรรมชาติที่สตรีจำต้องเจอ ความโง่ของมันเริ่มลดลงเรื่อย ๆ เมื่อคุณแขไขมีรอบเดือนในครั้งถัดไป- ทุกครั้งเมื่อถึงเวลามักจะมีเลือดออกเสมอ และไม่รู้ไอ้เปลวมันคิดไปเองหรือไม่ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นั้นยิ่งทำให้คุณหนูของมันสวยวันสวยคืนยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
#คุณแขเมียทาส