ทาสชั้นต่ำอย่างมันจะอาจเอื้อมนายได้อย่างไร หากดอกฟ้าดอกนั้นไม่โน้มลงต่ำให้มันเชยชม
ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,ไทย,ดราม่า,ดราม่า,พีเรียดไทย,โรแมนซ์,อีโรติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คุณแขเมียทาส 18+ทาสชั้นต่ำอย่างมันจะอาจเอื้อมนายได้อย่างไร หากดอกฟ้าดอกนั้นไม่โน้มลงต่ำให้มันเชยชม
*จบแล้วแต่ทยอยลง และ มี E-book*
เฉพาะ E-book มีตอนพิเศษทั้งหมด 3 ตอน ประกอด้วย NC 2 ตอนฉ่ำๆ และตอนจบแบบบริบูรณ์อีก 1 ตอน
นิยายเรื่องแต่งขึ้นมาจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องถึงบุคคล สถานที่หรือเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นในสมัยนั้น เนื้อหาภายในเรื่องเป็นเพียงการเซ็ตฉากให้ดำเนินไปตามยุคสมัยซึ่งอาจมีความรุนแรง การแบ่งชนชั้น การกระทำที่ไม่เหมาะสมของตัวละคร อาจมีถ้อยคำหยาบคายและมีการบรรยาย NC / กิจกรรมทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ปล.นางเอกเรื่องนี้เป็นสาวสมัยก่อน แต่ผิดขนบสาวงาม ทำตัวแก่แดด ขี้อ้อน ช่างพูด ขี้อ่อยและมีสัมพันธ์(เสียว ๆ แบบไม่ลึกซึ้ง)มาก่อน ก่อนจะมีสัมพันธ์(เสียว ๆ แรง ๆ ลึกซึ้งสุดใจ)กับพระเอกแค่คนเดียว
***
“กระผมเป็นเพียงแค่ทาส จะให้อาจเอื้อมไปรักคุณแขไขได้อย่างไรกันเล่าขอรับ”
“เป็นทาสแล้วอย่างไร ในเมื่อเรารักกัน”
ไอ้เปลวไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าดอกฟ้าที่แสนซุกซนจนดูผิดขนบสาวงามในยุคสมัยนี้เหตุใดจึงได้ช่างเย้าเล่นกับใจมันนัก ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ควร...แต่เจ้าชีวิตของมันก็โน้มเข้าหาแลอนุญาตให้มันเชยชมอย่างอิ่มเอม- กระทั่งเกิดความสัมพันธ์เร้าร้อนระหว่างนายแลทาสในเรือนขึ้นมาอย่างลับ ๆ
“คุณแขไขเคยมีใจให้กระผมหรือไม่ขอรับ...” เพราะนายของมันทั้งดื้อแลซุกซน ชอบเล่นสนุกไปกับความรู้สึกของผู้อื่นและมันก็เป็นหนึ่งในคนที่หลงใหลในห้วงสวาทของเธอ จึงไม่แปลกหากมันจะเผลอน้อยใจเมื่อเห็นเจ้าชีวิตของมันไปเล่นกับหมาตัวอื่นอยู่บ่อยครั้ง “...หากไม่รัก ก็อย่าให้ความหวังกระผมได้มั้ยขอรับ”
“หากฉันไม่รักไม่ชอบ”
"..."
"ฉันจะให้เธอทำกับฉันอย่างนั้นหรือ..." คุณแขไขเธอทั้งงามแลมากด้วยเสน่ห์ เธอไม่ได้มีเพียงแค่ใบหน้างดงาม แลช่างป้อนคำหวานให้ทาสคนโปรดเท่านั้น แต่เธอยังมอบสัมผัสหวานหอมจนทำเอาทาสคนโปรดคนนี้ลืมไม่ลงเสียด้วย "...เปลว- เธอทำแรงเสียจนฉันติดสัมผัสของเธอเชียว"
“...”
“หรือว่าตอนที่เธอทำฉัน...เธอไม่ได้ชอบมากถึงเพียงนั้น”
“ชอบสิขอรับ กระผมชอบสัมผัสของคุณหนู หลงใหลแลอยากรักคุณหนูไปทั้งตัว”
“เช่นนั้นก็รักฉันแรง ๆ สิ”
“แต่เรื่องระหว่างเรามันผิดไม่ใช่หรือขอรับ”
ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับทาสไม่ควรเกิดขึ้น แต่ในเมื่อเราทั้งรักแลหลงกันจนไม่อาจห้ามใจ ทั้งยังมีความปรารถนาที่นุ่มลึกแลกสัมผัสแก่กันได้มากถึงเพียงนี้ แล้วทำไมเราต้องสนใจเรื่องผิดถูกพวกนั้นด้วยเล่า
#คุณแขเมียทาส
/ เจอกันทุกวันจันทร์ พฤหัสและอาทิตย์เวลา 21.15 น.ค่ะ /
พระนคร ปีพุทธศักราช ๒๔๔๗
บัดนี้ไอ้เปลวมันก็อายุอานามได้สิบเจ็ดปีแล้ว ส่วนคุณแขไขเธอก็มีอายุได้สิบเก้าปีแล้วเช่นกัน...นับว่าเป็นโชคดีของไอ้ลูกทาสคนนี้นักที่มันได้มีโอกาสเห็นเจ้าชีวิตของมันเติบโตขึ้นมาอย่างสวยงามผุดผ่องสมกับที่ใครต่างก็หมายตากันไว้ตั้งแต่ที่คราเธอยังเด็ก- ว่าเมื่อเติบโตขึ้นคุณแขไขจะต้องงดงามจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วพระนครเป็นแน่ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ
คุณหนูแขไขของไอ้เปลวเธอมีเพื่อนชนชั้นสูงมากมายและชายหนุ่มรูปงามต่างก็เข้าหาเธอเป็นว่าเล่น ในขณะที่ไอ้เปลวก็ยังเป็นเพียงแค่ทาสต้อยต่ำคอยเก็บดอกไม้ สอยมะปราง เป็นลูกมืออบร่ำทำแป้งผัดหน้าแลเครื่องหอมให้เธอไปวัน ๆ เท่านั้น
แต่ก็ไม่ได้มีเพียงแค่คุณหนูที่งามวันงามคืนหรอกหนา ไอ้เปลวเองก็แตกเนื้อหนุ่มไปตามประสา จากที่มันเคยตัวผอมแห้งแคระแกร็นยิ่งกว่าคุณแขไข ยามนี้มันกลับตัวสูงใหญ่ มีกล้ามเนื้อแน่นหนั่นได้รูป อีกทั้งยังมีผิวขาวเหลืองกลายเป็นเพชรน้ำงามของหมู่ทาสเนื่องด้วยเคยเป็นลูกมือให้คุณแขไข ยอมพอกขมิ้นตามที่นายแสนรักสวยรักงามของตนสั่งนั่นแหละหนา ทั้งยังจมูกของมันยังโด่งเป็นสันรับเข้ากับกรามคม คิ้วเรียวหนานั่นก็เรียงเส้นสวย โดยรวมแล้วรูปหล่อคมคายยิ่งนัก จะมีก็แค่ดวงตาของมันนั่นแหละหนาที่ยังคงเต็มไปด้วยประกายใสซื่อประหนึ่งหมาใหญ่ก็ไม่ปาน
แลในส่วนสาวงามเช่นคุณแขไข หากจะให้นิยามความงามไอ้เปลวมันก็ไม่รู้จะสรรหาถ้อยคำไหนมาชมเชยเธอ- คุณหนูของมันงามไปทั้งตัว คุณแขไขเธอมีใบหน้ารูปไข่เรียวเล็กแต่กลับมีดวงตากลมโตน่ารัก จมูกหรือก็ดูรั้นน่าหมั่นเขี้ยว ทว่ากลับมีริมฝีปากอวบอิ่มสวย ไหนเลยจะผมสีดำขลับยาวสลวยระไปกลางหลังส่งให้รูปร่างเพรียวระหง อก เอว สะโพกแบ่งสัดส่วนกันเด่นชัดน่ามองไปหมด อีกทั้งผิวเนียนก็ละเอียดขาวราวกับน้ำนม เนื้อตัวหรือก็อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมย่างกายไปที่ใดก็หอมฟุ้งเสียจนต้องเหลียวมอง- แลก็ไม่ได้มีเพียงแค่ชายชาตรีหรอกหนาที่มอง หญิงสาวคนอื่นก็เผลอไผลมองใบหน้าแลรูปร่างนั้นด้วยความอิจฉาเช่นกัน
แลที่สำคัญ...คุณเธอของไอ้ทาสชั้นต่ำคนนี้กลับชอบมากเสียด้วยสิ ที่มีสายตาชื่นชมระคนอิจฉาแลสายตาหวานเยิ้มของชายหนุ่มที่มองตามไม่วางตาน่ะ- คุณแขไขเธอเป็นหญิงที่ช่างซุกซนแลแก่แดดอย่างที่ใครเขาว่าเสียจริง
“คุณแขไขขอรับ ท่านเจ้าคุณบอกให้รีบกลับเรือนนะขอรับ” ไอ้เปลวเตือน ในขณะที่คุณคนงามนั้นกำลังเพลิดเพลินอยู่กับการเดินเที่ยวเล่นในตลาด
“อีกประเดี๋ยวค่อยกลับก็ได้ ฉันเรียนภาษาอังกฤษกับมิชชันนารีมาทั้งวันแล้ว เปลวยังจะอยากให้ฉันรีบกลับเรือนไปนั่งเบื่ออีกหรือ”
แม้เธอจะเติบโตขึ้น แต่นิสัยซุกซนช่างเย้านั้นกลับไม่ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา หากแต่มันกลับเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม เช่นนั้นแล้วคนติดตามอย่างไอ้เปลวจึงต้องเตรียมใจรับมือกับคุณเธอผู้รักความสนุกแลช่างอ้อนให้มากเข้าไว้ ประเดี๋ยวเห็นรอยยิ้มหวานสดใสพร้อมสายตาที่ปริบ ๆ มองมาแล้วจะตายเสียก่อน
“เช่นนั้นเราเดินไปทางโน้นดีหรือไม่ขอรับ...” ทาสหนุ่มก้าวขาเดินตาม พยายามใช้คำพูดแผ่วเบาของมันรั้งเธอไว้หากแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนที่แสนดื้อดึงนั้นเชื่อฟังกันเลยสักนิด มิหนำซ้ำยังรั้นกว่าเดิมเสียอีก- ตัวก็มีแค่นั้นหากไอ้เปลวมันกล้าเข้าไปขวางจริง ๆ มีหรือมันจะเดินไม่ทันเธอน่ะ “....คุณแขไขจะไปไหนหรือขอรับรถลากของเราอยู่ฟากโน้น หากกลับเรือนช้าประเดี๋ยวจะถูกท่าเจ้าคุณเอ็ดเอานะขอรับ”
หากเปรียบว่าไอ้ทาสหนุ่มคนนี้เป็นหมาตัวใหญ่ใจดี คุณหนูของมันคงจะเป็นแมวหยิ่งที่แสนดื้อดึง ซุกซนแลช่างอ้อนนั่นแหละหนา...งามสง่าสำหรับคนทั่วไป แต่กลับอ้อนคนใกล้ชิดเสียจนใจระทวยสยบยอมให้เธอแต่เพียงผู้เดียว
น้ำเสียงทุ้มนุ่มของไอ้เจ้าเปลวเอ่ยขึ้นในขณะที่สืบเท้าเดินตามนายของมันอยู่ไม่ห่าง เปลวมันไม่รู้หรอกว่าคุณแขไขเธอกำลังจะทำอะไรกันแน่ เพราะเท่าที่ดูเธอแวะนั่นแวะนี่ เดินอ้อยอิ่งเสียจนไม่ถึงโรงน้ำชาที่เป็นจุดหมายสักที ทั้งยังยิ้มหวานแลขบขันมันที่เดินตามเธอต้อย ๆ ราวกับกำลังเล่นสนุก- คุณแขไขหนอคุณแขไข โตเป็นสาวแล้วยังทำตัวไม่งามสมกับเป็นสตรีชาวสยามเลยแม้แต่น้อย...เธอแก่นแก้ว ใจกล้า ซุกซนเช่นนี้คงเพราะมีเพื่อนฝรั่งที่เรียนด้วยกันนั่นละมัง
ลำบากไอ้เปลวที่ต้องพยายามหว่านล้อมให้เธอกลับเรือนโดยเร็ว แต่ก็ทำไม่สำเร็จสักทีนั่นแหละหนา...หากคุณคนงามกลับเรือนย่ำค่ำ ก็จะถูกท่านเจ้าคุณเอ็ดเอาน่ะสิ คุณแขไขเธอโตเป็นสาวงามเช่นนี้มีหรือพระยาเทียบบรรลือจะไม่ทั้งหวงทั้งห่วงน่ะ
“ฉันจะไปโรงน้ำชาของนายคนจีน...” คุณแขไขเธอเอ่ยออกมาน้ำเสียงสดใส “...ชาที่คุณพ่อดื่มเป็นประจำจวนจะหมดแล้ว”
“เอาไว้กระผมมาซื้อให้ใหม่ก็ได้นี่ขอรับ” นั่นสิ...ที่แบบนั้นจะให้สตรีเดินเข้าออกเป็นว่าเล่นได้อย่างไร ไอ้โรงน้ำชาที่เธอว่ามันไม่ได้ขายเพียงแค่น้ำชาอย่างเดียวสักหน่อย มิหนำซ้ำที่น่าขุ่นใจ- ไอ้เปลวมันไม่เคยรู้ตัวด้วยซ้ำว่านายของมันไปรู้จักพวกคนจีนไม่น่าไว้ใจนั่นตั้งแต่ตอนไหน
“ได้อย่างไรกัน”
“ได้สิขอรับ”
“ไม่เอาหรอก! เพราะฉันจะเดินเล่น”
คุณแขไขเธอตั้งมั่นด้วยสีหน้าทะเล้น ก่อนจะเร่งฝีเท้าหันกลับไปเดินต่อโดยไม่นึกสนใจคำร้องห้ามของทาสคนโปรดของตนเลยสักนิด- เหตุใดไอ้เปลวมันจะไม่รู้กันเล่าว่าคุณหนูของมันนั้นรักสนุก ช่างออดอ้อน ชอบเครื่องหอมแลความงาม ทั้งยังเป็นที่รักของทุกคน ในเมื่อไอ้เปลวมันเป็นเพื่อนเล่นของเธอตั้งแต่ยังเยาว์วัย เช่นนั้นจึงได้รู้ทันอย่างไรว่าเธอคงใช้เวลาอยู่ที่นี่นานกว่าที่คาดไว้
“คุณหนู! ระวังขอรับ!”
แล้วความดื้อ ชอบเล่นสนุกจนไม่ทันระวังของคุณแขไขก็เป็นเรื่องเข้าอีกจนได้ เพราะในทันทีที่คุณแขไขตั้งใจจะวิ่งข้ามไปอีกฟากเพื่อไปยังโรงน้ำชาใหญ่โตที่ตั้งอยู่ตรงโน้น ไอ้เจ้าเปลวมันก็พลันร้องเสียงหลงดังกว่าปกติด้วยว่ารถม้าของใครคนหนึ่งกำลังพุ่งเข้าหา จนไอ้เปลวมันรับเข้าไปรั้งคุณแขไขของมันให้หลบออกไป กระทั่งเป็นตัวมันนั่นแหละหนาที่ถูกรถม้าของใครบางคนชนเข้าอย่างจังเสียจนร่างกระเด็นคลุกฝุ่น
“เปลว! เปลวเป็นอย่างไรบ้าง” คุณแขไขที่เพิ่งได้สติหรือก็ตกใจหน้าเสีย คุณคนงามเธอรีบปรี่เข้ามาประคองร่างกำยำของทาสหนุ่มคนโปรดให้ลุกขึ้นด้วยท่าทีตื่นกลัว ไม่สนใจแล้วหนาว่าสไบสีกลีบบัวนั้นจะเปรอะเปื้อนดินฝุ่นหรือไม่- เธอค่อย ๆ ประคองมันขึ้นมาอย่างนั้น ก่อนจะพยายามรั้งแขนของไอ้เปลวที่ทั้งเจ็บและจุกให้ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล
“ไม่เป็นไร กระผมไม่เป็นไรขอรับ- คุณแขไขปล่อยเปลวก่อนเถอะขอรับ...ประเดี๋ยวใครเห็นเข้าแล้วมันจะไม่งาม”
“...” คุณแขไขเธอไม่ได้ตอบอะไรไอ้เจ้าเปลว ทั้งยังปล่อยแขนมันอย่างที่มันส่งสายตาของร้องเสียด้วย ทว่าจะให้เธอทำเพียงแค่ปล่อยแขนมันไปเฉย ๆ เช่นนี้คงไม่ได้หรอกหนา “....นี่หล่อน ยังมีความเป็นคนอยู่หรือไม่ เหตุใดคนของหล่อนบังคับม้ามาชนคนของฉันแล้วยังเอาแต่นิ่งเฉยเช่นนี้ แลเหตุใดจึงไม่กล่าวขอโทษกันเลยสักคำ”
หลังจากผละออกจากทาสหนุ่มกำยำร่างสูงแล้ว คุณเธอก็แทรกตัวไปยืนบังหน้ามัน ทั้งที่ตัวของเธอบังร่างกำยำของทาสหนุ่มไม่มิดเลยด้วยซ้ำ หัวกลมของเธอหรือก็สูงเพียงแค่อกของมัน แต่คุณแขไขเธอกลับหันไปยืนมองคนบังคับม้าแลนายของมันอย่างเอาเรื่องในทันที หล่อนผู้นั้นมีสีหน้าบอกบุญไม่รับ ในขณะที่คุณแขไขก็ไม่ยอมลดลาวาศอกเช่นกัน...เจ้าของร่างเพรียวระหงงามของไอ้ทาสหนุ่มคนนี้กำลังปกป้องคนต่ำต้อยอย่างสุดกำลังเลยทีเดียว
“มันเป็นแค่ทาสจะอะไรกันนักหนา ไม่มีใครชดใช้ให้ทาสหรอก- อีกประการหนึ่งเมื่อครู่ไม่ใช่ว่ามันมาขวางทางม้าของฉันหรืออย่างไร”
“ใครเขาเข้าไปขว้างกัน! นี่มันทางหลวงไม่ใช่ว่าต้องแบ่งกันใช้แลเห็นใจผู้อื่นหรอกหรือ”
“ปกป้องทาสหรือ- ตายจริง! ประหลาดเสียจริง น่าไม่อายนัก...ปกติทาสเนื้อตัวสกปรกมอมแมมเช่นนี้ไม่มีใครให้ค่ามันหรอกหนา ฉันไม่ให้ม้าเหยียบตายก็บุญหัวมันแล้ว”
“หล่อนเป็นใครมาจากไหนจึงได้พูดจาไร้มารยาทเช่นนี้ ถึงเปลวจะเป็นทาสแต่ก็เป็นคนเหมือนกัน ขอโทษเปลวเดี๋ยวนี้เลยนะ” ยิ่งได้ยินถ้อยคำดูถูกเช่นนั้น นายของทาสชั้นต่ำมันก็ยิ่งเลือดขึ้นหน้า โมโหเสียจนหน้าแดงน้ำตาคลอ คุณแขไขในยามนี้เธอโกรธจนไม่ทันไว้ตัวและลืมงามไปเสียหมด
“ทาสคือทาส- จะนับเป็นคนได้อย่างไร วัวควายยังมีค่ามากกว่าพวกมันเสียอีก คุณวิปลาสไปแล้วหรืออย่างไรจึงได้ออกตัวปกป้องมันเช่นนี้”
“...”
“เออะ! หรือว่าอันที่จริงแล้ว...” เจ้าหล่อนลากเสียงยียวน ทั้งยังมองคุณแขไขแลไอ้เปลวสลับกันด้วยท่าทีแขยงราวกับในหัวกำลังคิดถึงแต่เรื่องอกุศล
เมื่อเห็นคุณแขไขออกตัวปกป้องเอาตัวเล็ก ๆ ของเธอไปยืนขวางทางม้าเพื่อไม่ให้เจ้าหล่อนคนนั้นเดินทางต่อได้ ก็เป็นไอ้เจ้าเปลวทาสในเรือนคนนี้นี่แหละที่หงอยจนไม่รู้จะต้องทำอย่างไร มือเรียวของมันรีบปัดฝุ่นเพื่อไม่ให้เนื้อตัวสกปรกมอมแมมเหมือนดังที่คุณคนนั้นเขาว่า แล้วจึงสืบเท้าไปยืนด้านหลังนายของมันอีกสักเล็กน้อย
เปลวมันค่อย ๆ เอื้อมจับชายสไบสีกลีบบัวงามของคุณแขไขแผ่วเบา ระวังเหลือเกินด้วยกลัวว่ามือหยาบกร้านสกปรกของมันไปแตะต้องตัวเธอให้มัวหมอง...ยามนี้ไอ้เปลวมันก็หวังเพียงแค่ให้คุณหนูแสนซนที่ไม่ยอมคนของตนเลิกโต้เถียงกับเจ้าหล่อนคนนั้นสักที เปลวมันไม่อยากให้คุณแขไขปกป้องมัน มันไม่อยากให้คุณแขไขต้องเสื่อมเสียเพราะลดตัวมาปกป้องทาสชั้นต่ำอย่างมันให้เป็นที่ครหา
“ใจร้าย เป็นผู้รากมากดีเสียเปล่าแต่ใจดำนัก หล่อนขอโทษเปลวเดี๋ยวนี้นะ! ขอโทษเปลวเดี๋ยวนี้เลย!”
นี่อย่างไรที่เขาว่าคุณหนูลูกสาวคนเล็กของพระยาเทียบบรรลือนั้นผิดขนบหญิงสาวชาวสยาม เธอไม่เพียงแก่นแก้ว ซุกซน แลชอบหว่านเสน่ห์ด้วยความงามเท่านั้น แต่เธอยังจิตใจเด็ดเดี่ยว กล้าต่อล้อต่อเถียงไม่กลัวคน ทั้งยังมีจิตใจห้าวหาญประหนึ่งชายชาตรีเชียว…เดิมทีไม่ใคร่มีใครได้เห็นเธอในมุมนี้หรอกหนา แลนี่ก็เป็นคราแรกที่คนในตลาดที่คุ้นเคยกับเธอมานานได้เห็นแล้วว่า คุณแขไขนั้นผิดขนบเหมือนดังว่าจริง ๆ
คนตัวเล็กนั้นทำเก่งไปยืนเถียงเขา แต่เนื้อตัวตนหรือก็สั่นเทาด้วยความกลัว น้ำเสียงหวานที่คอยต่อว่าคุณคนนั้นเริ่มสั่นเครือ ดวงตากลมสวยราวกับลูกแมวของเธอก็เริ่มคลอไปด้วยน้ำตา แต่คุณแขไขของมันก็ยังทำใจกล้ายืนสู้สุดใจอยู่ตรงนี้ไม่ยอมถอยออกมาเลยสักนิด
เป็นเช่นนั้นแล้วจะให้ไอ้เจ้าเปลวที่ทั้งรักแลภักดีต่อนายของตนทนได้อย่างไร เมื่อรั้งชายสไบของคุณแขไขแล้วแต่ไม่อาจห้ามได้ ทาสหนุ่มจึงได้นั่งคุกเข่าลงกับพื้นดิน ก้มหน้าลงกราบกรานขออภัยเจ้าหล่อนผู้เป็นเจ้าของม้าเสียเพื่อให้เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้จบลง เปลวมันจะไม่ยอมให้คุณแขไขของมัน- รับหน้าแทนมันอีกต่อไป มันเป็นเพียงแค่ทาสไร้ค่าก้มกราบเพียงแค่นี้ไม่มีอะไรให้มันนึกเสียใจนักหรอกหนา
“กระผมขออภัยคุณนะขอรับ กระผมไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องเช่นนี้”
“เปลว! ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ก่อนจะเป็นคุณแขไขที่หันกลับมาโวยวายใส่คนของตนด้วยความไม่พอใจ เธอไม่ได้ไม่พอใจเปลว แต่เธอโกรธที่เปลวยอมผู้หญิงตรงหน้าง่าย ๆ เช่นนี้ ทั้งที่เปลวไม่ผิดเลยสักนิด
“ไม่เป็นไรขอรับคุณแขไข เปลวผิดเอง เปลวไม่ดีเองที่ไม่ระวัง”
“เปลว!”
“...”
เรื่องวุ่นวายจบลงที่เปลวมันถูกคุณแขไขงอนตุ้บป่อง คนเป็นนายกระฟัดกระเฟียดสืบเท้าตรงไปที่โรงน้ำชาในทันที ทิ้งให้ทาสหนุ่มเอาแต่ยกมือไหว้ขอโทษอีกฝ่ายอยู่ตรงนั้น ก่อนมันจะรีบลุกขึ้นยืนแล้วปัดฝุ่นออกจากเนื้อตัวอีกครั้ง แต่เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว...เปลวมันไม่อยากให้ใครเอาเรื่องของคุณแขไขในวันนี้ไปพูดนินทาลับหลังในทางที่ไม่ดีเพราะเธอยืนเถียงฉอด ๆ กับคุณคนเมื่อครู่กลางตลาด
ประเดี๋ยวเรื่องถึงหูท่านเจ้าคุณเข้าแล้วคุณแขไขของมันจะโดนเอ็ดเสียเปล่า แต่ถึงอย่างนั้น...หากถึงเวลาที่คุณหนูจะโดนเอ็ดเพราะเรื่องนี้ ไอ้เปลวคนนี้ก็ยินดีจะรับหวายให้ท่านเจ้าคุณเฆี่ยนตีมันให้สาสม โทษฐานที่ดูแลคุณแขไขไม่ดีนั่นแหละหนา
ไอ้เปลวมันไม่ใช่คนโง่เง่า เช่นนั้นมันจึงได้รู้ดีอย่างไรว่ามันยังคงถูกคุณแขไขเธอเง้างอนไม่เลิก...คุณแขไขบ่นอะไรก็ไม่รู้อุบอิบคนเดียวมาได้สักพักแล้วนับตั้งแต่เดินออกมาจากโรงน้ำชา กระทั่งนั่งรถลากที่ไอ้เปลวมันเป็นคนลากกลับเรือน เธอก็ยังไม่พอใจเจ้าหล่อนคนนั้นที่ไม่ยอมขอโทษเปลวเลยสักนิด
เพราะอย่างนั้นคุณแขไขจึงได้ถือโอกาสลงไปดับร้อนในแม่น้ำข้างเรือน- รีบลงไปเล่นเสียก่อน ก่อนที่คุณพ่อของเธอจะกลับมาพร้อมกับแขกคนสำคัญที่ท่านจะพามาด้วย...คุณแขไขเธอทราบก็ด้วยว่ามีคนของคุณพ่อเข้ามาแจ้งข่าวเมื่อครู่นั่นแหละหนา- แลนั่นจึงทำให้คุณแขไขได้โอกาสใช้เรื่องที่ตนกำลังงอนมาต่อรองกับทาสหนุ่มคนโปรดที่คอยดูแลตน คุณคนงามเธอบอกให้ไอ้เปลวมานั่งรอเธอระหว่างที่เธอเล่นน้ำ มิหนำซ้ำยังบอกให้มันเตรียมผ้านุ่งมาวางไว้ให้เธอห่มขึ้นเรือนอีกด้วย...ป้ากอบหรือก็เตือนนักหนาว่ามันไม่งาม จะให้ชายหนุ่มไปเฝ้าหญิงสาวเล่นน้ำเช่นนั้นได้อย่างไร แต่คุณแขไขก็บอกว่าไม่เป็นไร ประเดี๋ยวจะให้เปลวนั่งหันหลังรอตนเสียอย่างนั้น เช่นนั้นมีหรือคนเป็นทาสจะขัดใจได้
“คุณแขไขขอรับ ขึ้นจากน้ำได้แล้วนะขอรับ...” ไอ้เปลวที่นั่งหันหลังให้คุณหนูของมัน เอ่ยย้ำบอกกับคุณแขไขที่เล่นน้ำจ๋อมแจ๋มเป็นครั้งที่สาม แต่คุณแขไขก็แสนดื้อนักแม้นจะอายุสิบเก้าปีแล้วแต่ก็ยังดื้อไม่เลิก “...น้ำเริ่มเย็นแล้วประเดี๋ยวจะจับไข้เอา- แลอีกไม่นานก็ใกล้เวลาที่ท่านเจ้าคุณจะกลับมาแล้วนะขอรับ”
แต่พูดไปก็เท่านั้น เสียงหัวเราะคิกคักยังคงดังเคล้ากับเสียงน้ำจ๋อมแจ๋มอยู่ดี ก่อนคุณแขไขจะแกล้งหยอกเย้าว่ายน้ำมาใกล้ ๆ เจ้าทาสที่นั่งหันหลังให้ตนตั้งแต่เมื่อครู่ พร้อมทั้งพยายามจะดึงแขนแกร่งกำยำนั้นลงไปเล่นน้ำด้วยกัน ทำอย่างนั้นไอ้เปลวที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็หัวใจจะวายขึ้นมานะสิ ได้เห็นผ้าแถบเปียกน้ำแนบเนื้ออย่างนั้นแล้วไอ้เปลวมันก็รีบก้มหน้าหลบสายตา เอวของเธอคอดกำลังดี ทั้งยังมีอกอวบอิ่มกลมสวยที่ล่อตาล่อใจนั่นอีก...ก่อนมันจะด่าตนเองในใจไม่หยุดที่ไม่เจียมตัวเช่นนี้
คุณแขไขของไอ้เปลวงามเหลือเกิน งามเสียจนไอ้ทาสชั้นต่ำคนนี้ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรดี
“ไหนบอกว่าร้อนนักหนา พอฉันชวนเล่นน้ำเปลวก็ไม่ยอมลงมาเล่นกับฉัน”
“คุณแขไขทำอย่างนี้ไม่งามนะขอรับ ยามนี้เปลวไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วจะไปเล่นน้ำกับคุณแขไขได้อย่างไร”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”
“เปลวเป็นเพียงแค่ทาส ทั้งยังเป็นชายเล่นน้ำด้วยกันมันไม่เหมาะสม”
“เปลวกลัวว่าหากเห็นเนื้อตัวฉันแล้วจะอดใจไม่ไหวหรืออย่างไรกัน” เจ้าของใบหน้ากลมงามเอ่ยออกมาด้วยท่าทีทะเล้น
“...”
“ก็ได้ ๆ”
คุณแขไขบ่นอย่างนั้นแล้วจึงยอมละจากแขนแกร่งก่อนจะแหวกว่ายกลับไปเล่นน้ำในทันที เมื่อคุณแขไขว่าง่ายอย่างนั้นทาสอย่างเปลวมันก็เบาใจนัก ทว่าลมหายใจร้อนของทาสหนุ่มพ่นออกมาอย่างเบาใจได้เพียงครู่ ก่อนความรู้สึกบางอย่างจะฉุดรั้งความคิดของมันให้หันกลับไปมองคุณแขไขอีกครั้ง...คุณหนูของมันที่ควรจะเล่นน้ำจ๋อมแจ๋มอยู่ตรงนั้นยามนี้ไร้เสียง ไร้วี่แวว ผ้านุ่งผ้าห่มที่เตรียมวางไว้ก็ยังอยู่ตรงนี้ ใช้เวลาคิดเพียงไม่นานทาสหนุ่มผู้ภักดีก็กระโจนลงน้ำดำผุดดำว่ายหาคุณแขไขในทันที
ไอ้เปลวลืมตาในน้ำขณะดำลงไปมองหาคุณแขไข แลใช้เวลาเพียงครู่เท่านั้นมันก็เจอแมวคุณหนูช่างเย้าขดตัวอยู่ใต้น้ำ หลับตาปี๋ทั้งยังบีบจมูกตนเองเสียแน่น เห็นเช่นนั้นแล้วไอ้เปลวก็รีบว่ายเข้าไปใกล้แล้วประคองร่างเพรียวระหงนั่นให้ขึ้นจากน้ำ ก่อนคุณหนูคนงามของตนจะหอบหายใจเพราะกลั้นมานานในทันที
“ฉันนึกแล้วว่าหากทำอย่างนี้ เปลวต้องลงมาเล่นน้ำด้วยกันกับฉันแน่นอน”
เสียงหัวเราะร่าอย่างมีความสุขของคุณแขไขพลันทำให้เปลวเบาใจไม่น้อย คุณแขไขเธอชอบใจที่หลอกทาสหนุ่มคนซื่อให้ลงมาเล่นน้ำกับตนสำเร็จ อีกทั้งเธอยังเลิกงอนตุ้บป่องกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้แล้วด้วย
เสียงหัวเราะหวานใสที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างเพรียวระหงที่ว่ายน้ำเข้ามาใกล้พลันทำให้ร่างกายของเปลวที่ยืนอยู่ในน้ำแข็งทื่อขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่ออ้อมแขนเล็กของผู้เป็นนายตวัดเข้าโอบกอดเกี่ยวรั้งมันเอาไว้เพื่อให้ตนลอยตัวเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน แลหากใครมาเห็นเข้ามันคงจะเป็นเรื่องไม่งาม ที่คุณหนูคนงามกับทาสหนุ่มผู้ต่ำต้อยกอดเกี่ยวเล่นน้ำกันอยู่อย่างนี้- ไม่สิ...จะเรียกว่ากอดกันก็ไม่ถูกเพราะในยามนี้เปลวมันทำได้แค่ยืนเก็บมืออย่างระมัดระวัง ปล่อยให้คุณแขไขกอดตัวมันแน่นเพื่อประคองร่างตนเองให้ลอยอยู่ในน้ำ
“คุณหนูขอรับ...ปล่อยกระผมก่อนเถอะนะขอรับ”
“จะปล่อยได้อย่างไร ฉันขาไม่ถึงหรอก” แมวดื้อตัวนี้ช่างเย้าอีกแล้ว
“แต่มันไม่งามนะขอรับ”
“ไม่งามอีกแล้ว เปลวชอบพูดคำนี้อยู่เรื่อย” คุณแขไขเธอบ่นอุบอิบหน้างอพลันโอบกอดคล้องคอเคลื่อนกายเข้าใกล้แล้วช้อนดวงตากลมใสมองทาสหนุ่มของตนที่ยังเอาแต่ยืนนิ่งไม่ยอมเล่นน้ำว่ายไปมาด้วยกัน
“คุณหนู- คุณหนูรีบขึ้นจากน้ำเถอะนะขอรับ เปลวขอร้อง...” มันเงอะงะหน้าแดงไปเสียหมด ทั้งยังไม่กล้าสบสายตาหวานที่มองช้อนมาอีกด้วย- แลหากมันไม่ขอร้องให้นายตนขึ้นจากน้ำตอนนี้ ไอ้เปลวก็จะตายเอาน่ะสิ ไม่เพียงแค่กลัวคุณแขไขจะจับไข้ แต่สิ่งที่คุณเธอกำลังหยอกเย้ามันอยู่ตอนนี้หากมีใครมาเห็น ไอ้เปลวมันต้องถูกท่านเจ้าคุณสั่งเฆี่ยนหลังลายเป็นแน่
“ไม่ขึ้นหรอก ฉันยังอยากเล่นต่อ”
“คุณหนู!” ก่อนมันจะร้องเสียงหลงเมื่อร่างเพรียวระหงกระโจนเข้ามากอดมันแนบแน่น มิหนำซ้ำคุณแขไขยังแกล้งใช้เรียวขางามข้อเท้าเล็กเกี่ยวตวัดรอบเอวมันจนร่างกายเราสองแนบชิดหมิ่นเหม่
ตายแน่ไอ้เปลว ไม่เพียงมันจะหัวใจวายตายอย่างเดียวแต่มันต้องถูกท่านเจ้าคุณเฆี่ยนตีถึงตายแน่ ยิ่งไอ้เจ้าเปลวมันเอาแต่ยืนนิ่ง ร่างเพรียวระหงที่เกี่ยวตวัดแนบชิดถูไถไปมาก็ดิ้นขลุกขลักมากยิ่งขึ้นราวกับพยายามหยอกเย้าแกล้งทาสหนุ่มคนนี้ด้วยความคึกคะนองแลอยากรู้อยากเห็น- ก็คงจะเป็นเช่นนั้นด้วยว่าเธอนั้นเป็นหญิงผิดขนบ ทั้งคึกคะนองแลอยากรู้อยากลองยิ่งกว่าใครเชียว
สัดส่วนที่แนบชิดหมิ่นเหม่ขยับเข้าใกล้เอวของทาสเปลวพลันทำเอามันหน้าร้อนหูแดงจนต้องลอบกลืนน้ำลายอย่างลำบาก น่ากลัวเหลือเกินว่าหากใครมาเห็นภาพอุจาดตานี้แล้วคุณแขไขจะเป็นฝ่ายเสื่อมเสีย อีกทั้งความขึงขังตรงหว่างขาของมันก็เริ่มประท้วงอย่างไม่อาจห้ามได้- เช่นนั้นไอ้เปลวมันจึงได้ตัดสินใจขัดคำสั่งนายตน ไม่ยอมเล่นน้ำต่อหากแต่รีบใช้จังหวะนี้ก้าวตรงไปยังริมท่าในทันที
“เดี๋ยวสิ! ฉันบอกแล้วอย่างไรว่ายังไม่อยากขึ้นจากน้ำน่ะ”
“...” ขู่ฟ่อ ๆ ไปก็เท่านั้น ตอนนี้ไอ้เปลวมันไม่ฟังคำสั่งนายของมันแล้ว มันรู้เพียงแค่ตอนนี้ต้องพาคุณแขไขที่เกาะเกี่ยวร่างของมันแน่นให้ออกห่างแลขึ้นจากน้ำให้เร็วที่สุดเท่านั้น ก่อนมันจะทดไม่ไหวจนเผลอไผลคิดลามกไปไกลกับเจ้าชีวิตของมัน
“เอ๊ะ เมื่อกี้มีอะไรมาโดนสะโพกฉันด้วย”
มันไม่ตอบทั้งยังเอาแต่นิ่งเงียบ แม้ร่างกายกำยำของมันจะร้อนฉ่าไปแล้วก็ตามและเพียงไม่นานไอ้เปลวที่เดินอย่างทุลักทุเลก็พาคุณแขไขมาถึงท่าจนได้ ก่อนมันจะรีบรวบรวมความกล้า ใช้เรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดอุ้มคุณแขไขให้ขึ้นพ้นน้ำนั่งตรงริมท่าไม้ในทันที
“นุ่งผ้าเถอะขอรับ”
หน้าแดงเถือกของมันทำให้คุณแขไขชอบใจแลทำตามแต่โดยดี เธอขยับตัวขึ้นไปนุ่งผ้าตามที่มันบอกทั้งยังหัวเราะขบขันคิกคักราวกับชอบใจนักหนา ในขณะที่เจ้าทาสมันยังคงลอยตัวในน้ำแล้วหันหลังให้เธอ ใบหูของเปลวแดงเถือกราวกับลูกตำลึงสุก...แม้จะไม่ได้หันกลับไปมองนายตน แต่สีหน้ายั่วยวนแลความแนบชิดเมื่อครู่ก็ทำเอามันแทบจะคลั่งตายอยู่ดี- ไอ้เปลงได้แต่หวังว่าคนดื้อคนนี้จะไม่ไปทำอย่างนี้กับใคร เพราะนั่นมันไม่ดีต่อตัวเธอเลยสักนิด
ไม่ใช่ชายอื่นจะกัดฟันข่มอารมณ์กลัดมันตามประสาวัยแรกรุ่นได้เก่งกาจเหมือนอย่างไอ้เปลว...แม้เปลวอยากจับคุณหนูมารังแกใจจะขาด แต่ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างทำให้มันต้องอดทนและเจียมตัว แต่หากคุณแขไขไปทำกับคนอื่นเล่า- จะมีใครทนได้ด้วยหรือ
“มาแล้วหรือลูกแข นั่งก่อนสิ...” พระยาเทียบบรรลือเอ่ยเสียงเข้มเมื่อเห็นร่างเพรียวระหงของลูกสาวสืบเท้าเดินออกมาจากห้องนอนของตน ก่อนจะผายมือแนะนำชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่าแลดูภูมิฐานให้บุตรสาวของตนได้รู้จัก แลไหว้ทักทาย “...นี่คือคุณโกมล บุตรชายของพระยาโกเมศเพื่อนพ่อ แลอีกไม่นานท่านก็จะได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นคุณพระ”
“ไหว้ค่ะคุณโกมล แลยินดีที่ได้พบนะคะ” เมื่อนั่งเรียบร้อยได้ไม่นาน คุณแขไขก็พลันยิ้มหวานแลยกมือไหว้คนตรงหน้าที่ดูท่าทางสุขุมนุ่มลึกด้วยความเรียบร้อย ผิดจากเธอคนเมื่อครู่ที่เพิ่งแกล้งทาสหนุ่มคนสนิทของตนมา…แลคุณแขไขเองก็พอจะทราบแล้วว่า เหตุที่คุณพ่อเชิญหนุ่มรูปงามคนนี้มามันเป็นไปด้วยเหตุใด
“ยินดีที่ได้พบเช่นกันครับ น้องแขไข”
ชายหนุ่มอมยิ้มสุภาพ วางตัวสุขุมน่ามองทั้งยังดูเข้ากันได้ดีกับผู้ใหญ่ นั่นพลันทำเอาไอ้เปลวที่เพิ่งยกน้ำแลสำรับของว่างเดินตามป้ากอบมา ได้ยินแลได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปโดยปริยาย- ทั้งยังได้เห็นบรรยากาศของพวกผู้ดีที่เอาแต่คุยกันเรื่องการศึกษา การเมือง สังคมแลกฎหมายที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงในอีกไม่นาน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นไอ้เปลวมันไม่ได้รู้เรื่องกับเขาเลยสักนิด...แต่ที่พอจะรู้ก็คงเรื่องเลิกทาสนั่นแหละหนา
“แลอีกไม่นานลูกแขก็จะอายุยี่สิบแล้ว ถึงตอนนั้นเมื่อไหร่ก็อย่าลืมมาสู่ขอน้องเสียเล่า”
ก่อนไอ้เปลวมันจะหูผึ่งอีกครั้งเมื่อได้ยินถ้อยคำที่ท่านเจ้าคุณของมันเอ่ยขึ้น จึงได้รู้ว่านี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การพูดคุยเรื่องงานไปตามประสาข้าราชการ หากแต่เป็นการดูตัวแลจับคู่ให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนให้กับคนที่เหมาะสมต่างหากเล่า
แลคุณโกมลก็ส่งยิ้มอบอุ่นให้คุณแขไขไปโดยไม่คิดปฏิเสธ ดูก็รู้ว่าความงามของคุณหนูเรือนนี้ถูกใจท่านผู้นั้นไม่น้อยแลคุณแขไขหรือก็ยิ้มหวานตอบกลับไปให้เขาด้วยเช่นกัน แม้ว่าคุณหนูของไอ้เปลวจะดูท่าแล้วไม่ได้มีใจรักชอบหรือถูกชะตาอีกฝ่ายปานนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกหนาว่าด้วยนิสัยซุกซนของเธอนั้น เธอเพียงแค่ชอบเล่นสนุกไปวันๆ
ไอ้เปลวมันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าคุณหนูของมันเข้าใจคำว่าแต่งงานกระจ่างชัดมากเพียงไหน แลหากแต่งงานแล้วเธอก็ไม่อาจหว่านเสน่ห์ให้ผู้อื่นชมเชยความงามได้ด้วยเช่นกัน
“ถึงเวลานั้นน้องแขจะยอมแต่งงานกับพี่หรือไม่คะ”
“ไม่รู้สิคะ คงต้องดูความพร้อมอีกสักหน่อยกระมัง”
เสียงหวานตอบกลับหยอกเย้าเสียจนคนเป็นพ่อหัวเราะชอบใจในท่าทีของลูกสาวตน ช่างผิดแผกไปเสียหมด...หากเป็นหญิงอื่น นั่งอ้อมแอ้มไว้ตัวเช่นนี้เธอคงเอาแต่หลบสายตาแลไม่ตอบ ทว่าคุณแขไขกลับมีกริยาอ้อมแอ้มแล้วตอบกลับเสียงหวานหยอกเย้าทำใจกล้าเสียอย่างนั้น- แล้วจะไม่ให้ชายอื่นใจสั่นได้อย่างไร
ไอ้เปลวที่นั่งพับเพียบก้มหน้าเรียดพื้นหรือก็ได้แต่น้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาของมันนัก ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วมันไปทำกรรมอะไรมาหนอ ชาตินี้จึงได้เกิดเป็นทาสเช่นนี้
#คุณแขเมียทาส