ทาสชั้นต่ำอย่างมันจะอาจเอื้อมนายได้อย่างไร หากดอกฟ้าดอกนั้นไม่โน้มลงต่ำให้มันเชยชม
ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,ไทย,ดราม่า,ดราม่า,พีเรียดไทย,โรแมนซ์,อีโรติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คุณแขเมียทาส 18+ทาสชั้นต่ำอย่างมันจะอาจเอื้อมนายได้อย่างไร หากดอกฟ้าดอกนั้นไม่โน้มลงต่ำให้มันเชยชม
*จบแล้วแต่ทยอยลง และ มี E-book*
เฉพาะ E-book มีตอนพิเศษทั้งหมด 3 ตอน ประกอด้วย NC 2 ตอนฉ่ำๆ และตอนจบแบบบริบูรณ์อีก 1 ตอน
นิยายเรื่องแต่งขึ้นมาจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องถึงบุคคล สถานที่หรือเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นในสมัยนั้น เนื้อหาภายในเรื่องเป็นเพียงการเซ็ตฉากให้ดำเนินไปตามยุคสมัยซึ่งอาจมีความรุนแรง การแบ่งชนชั้น การกระทำที่ไม่เหมาะสมของตัวละคร อาจมีถ้อยคำหยาบคายและมีการบรรยาย NC / กิจกรรมทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ปล.นางเอกเรื่องนี้เป็นสาวสมัยก่อน แต่ผิดขนบสาวงาม ทำตัวแก่แดด ขี้อ้อน ช่างพูด ขี้อ่อยและมีสัมพันธ์(เสียว ๆ แบบไม่ลึกซึ้ง)มาก่อน ก่อนจะมีสัมพันธ์(เสียว ๆ แรง ๆ ลึกซึ้งสุดใจ)กับพระเอกแค่คนเดียว
***
“กระผมเป็นเพียงแค่ทาส จะให้อาจเอื้อมไปรักคุณแขไขได้อย่างไรกันเล่าขอรับ”
“เป็นทาสแล้วอย่างไร ในเมื่อเรารักกัน”
ไอ้เปลวไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าดอกฟ้าที่แสนซุกซนจนดูผิดขนบสาวงามในยุคสมัยนี้เหตุใดจึงได้ช่างเย้าเล่นกับใจมันนัก ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ควร...แต่เจ้าชีวิตของมันก็โน้มเข้าหาแลอนุญาตให้มันเชยชมอย่างอิ่มเอม- กระทั่งเกิดความสัมพันธ์เร้าร้อนระหว่างนายแลทาสในเรือนขึ้นมาอย่างลับ ๆ
“คุณแขไขเคยมีใจให้กระผมหรือไม่ขอรับ...” เพราะนายของมันทั้งดื้อแลซุกซน ชอบเล่นสนุกไปกับความรู้สึกของผู้อื่นและมันก็เป็นหนึ่งในคนที่หลงใหลในห้วงสวาทของเธอ จึงไม่แปลกหากมันจะเผลอน้อยใจเมื่อเห็นเจ้าชีวิตของมันไปเล่นกับหมาตัวอื่นอยู่บ่อยครั้ง “...หากไม่รัก ก็อย่าให้ความหวังกระผมได้มั้ยขอรับ”
“หากฉันไม่รักไม่ชอบ”
"..."
"ฉันจะให้เธอทำกับฉันอย่างนั้นหรือ..." คุณแขไขเธอทั้งงามแลมากด้วยเสน่ห์ เธอไม่ได้มีเพียงแค่ใบหน้างดงาม แลช่างป้อนคำหวานให้ทาสคนโปรดเท่านั้น แต่เธอยังมอบสัมผัสหวานหอมจนทำเอาทาสคนโปรดคนนี้ลืมไม่ลงเสียด้วย "...เปลว- เธอทำแรงเสียจนฉันติดสัมผัสของเธอเชียว"
“...”
“หรือว่าตอนที่เธอทำฉัน...เธอไม่ได้ชอบมากถึงเพียงนั้น”
“ชอบสิขอรับ กระผมชอบสัมผัสของคุณหนู หลงใหลแลอยากรักคุณหนูไปทั้งตัว”
“เช่นนั้นก็รักฉันแรง ๆ สิ”
“แต่เรื่องระหว่างเรามันผิดไม่ใช่หรือขอรับ”
ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับทาสไม่ควรเกิดขึ้น แต่ในเมื่อเราทั้งรักแลหลงกันจนไม่อาจห้ามใจ ทั้งยังมีความปรารถนาที่นุ่มลึกแลกสัมผัสแก่กันได้มากถึงเพียงนี้ แล้วทำไมเราต้องสนใจเรื่องผิดถูกพวกนั้นด้วยเล่า
#คุณแขเมียทาส
/ เจอกันทุกวันจันทร์ พฤหัสและอาทิตย์เวลา 21.15 น.ค่ะ /
พระนคร ปีพุทธศักราช ๒๔๕๐
เวลาล่วงเลยผ่านไปกระทั่งกฎหมายที่เจ้าเหนือหัวเคยออกเรื่องเลิกทาสนั้นเป็นผล แลไอ้เปลวในยามนี้มันก็สมควรที่จะเป็นไทตามกฎหมายแล้วหนา หากแต่ก็ยังมีทาสอีกจำนวนนับไม่น้อยที่- ไม่มีที่ไปจึงได้ขออยู่เรือนายเก่าเพื่อทำงานใช้แรงแลกข้าวแลกเงินทองต่อไปอย่างนั้น...ไอ้เปลวก็เป็นหนึ่งในนั้น แลที่มันขออยู่ก็ไม่ได้เพราะมันเกียจคร้านตัวเป็นขนจนไม่อยากออกไปทำงานตั้งตัว แต่เหตุผลเดียวที่มันยังขอพระยาเทียบบรรลืออยู่ที่นี่นั่นก็ด้วยมันยังคงรอคอยยอดดวงใจของมันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอย่างไรเล่า มันคิดเพียงแต่ว่าหากมันออกไปแล้ว- แล้วมันจะกลับเข้ามาพบเจอกับเจ้าชีวิตของมันได้อย่างไรนั่นแหละหนา
ผ่านไปแล้วร่วมสามปีที่คุณแขไขเธอไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส ไอ้ทาสเปลวมันก็ทำได้เพียงแต่นับวันคืนรอเธอกลับมา เมื่อ มันคิดเพียงแค่เมื่อสิ้นใบบุญคุณแขไข ถึงตอนนั้นมันก็จะกลายเป็นไทอย่างเต็มภาคภูมิ...ก่อนโน้นทาสอย่างมันไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนหรอกหนา โชคดีที่คุณแขไขโปรดมันจึงได้คอยสอนให้พออ่านออกแลทิ้งหนังสืออ่านง่าย ๆ ให้มันได้ฝึกฝน- ภาษาฝรั่งหรือมันก็พอจะอ่านได้เล็กน้อย ว่าแต่อ่านได้หรือ- ไม่ได้เพียงนั้นหรอกหนา มันอาศัยตัวอักษรที่คุณแขไขเขียนทิ้งไว้ให้มันแล้วอ่านตามเท่านั้น
“พี่เปลวทำอะไรอยู่หรือ...” นางแดงลูกทาสในเรือนพระยาเทียบบรรลือวิ่งแจ๊นเข้ามาถาม “...ขอฉันดูบ้างสิ”
พลันยื่นหน้ากลมเข้ามาใกล้เพื่อมองตำราหนังสือของไอ้เปลวที่นั่งอ่านอย่างขมักเขม้นอยู่ริมน้ำ หลังจากมันทำงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว- ที่เหลือก็แค่รอเวลาเอารถม้าออกไปรับพระยาเทียบบรรลือยามแล้วเสร็จจากงานราชการเท่านั้น
“พี่ก็อ่านหนังสือดังเช่นทุกวันนั่นแหละ เอ็งรู้แล้วจะถามไปทำไม”
“โธ่เอ๋ย ฉันก็ถามเพียงแค่นิดหน่อยเอง” เด็กสาวหน้างอ เห็นเป็นทาสในเรือนที่ขยันทำงานแลช่างประจบเช่นนี้ แต่นางแดงนั้นอายุเพียงแค่สิบสามปีเท่านั้นนั่นแหละหนา ทั้งยังซุกซนราวกับลูกลิงก็ไม่ปาน หากมันเกิดเร็วกว่านี้หน่อยไม่แคล้วคงได้เป็นเพื่อนเล่นคุณแขไขแทนไอ้เปลวเป็นแน่
แต่ถึงนางแดงจะเป็นลูกลิง แต่ในสายตาของไอ้เปลว- คุณแขไขที่ซุกซนเพียงนั้นก็หาใช่ลูกลิงเสียเมื่อไหร่...เธองดงามน่ารักน่าชังเพียงนั้น ก็ต้องเป็นลูกแมวสิถึงจะถูก
“ก็ดูเอ็งสิ...แล้ววิ่งหน้าตั้งมาหาพี่เช่นนี้มีอะไรหรือไม่”
“มีสิจ๊ะ ๆ ป้ากอบกับคนครัวบอกว่าให้พี่เปลวไปตลาดให้หน่อย- พวกป้า ๆ ต้องเตรียมสำรับไว้ต้อนรับคุณโกมลด้วยน่ะ”
อ่า...นั่นสิ ไอ้เปลวมันเกือบลืมไปเลยว่าวันนี้ยามเย็นคู่หมั้นของคุณแขไขเธอจะมารับประทานอาหารค่ำกับพระยาเทียบบรรลือแลคุณเกื้อกุลพี่ชายคนโตของคุณแขไขเธอ อาจเป็นเหตุที่คุณโกมลแลคุณเกื้อกุลได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานแล้วนั่นแหละหนา- เลื่อนสูงขึ้นเรื่อย ๆ เสียจนไอ้เปลวมันอิจฉาพวกคุณ ๆ เขาเพิ่งจะอายุอานามเพียงแค่สามสิบเอ็ดสามสิบสองเท่านั้นแต่กลับใช้ความรู้ทางกฎหมายช่วยบ้านเมืองได้เป็นอย่างดีทีเดียว...คุณแขไขโชคดีนักที่มีคู่หมั้นเก่งแลเป็นที่รักมากเพียงนี้
ว่าแล้วมันก็เดินกลับไปที่ครัวเพื่อหยิบตะกร้าแลรับคำสั่งจากป้า ๆ ว่าต้องซื้ออะไรบ้าง- อ้อ...ลืมไปอีกประการหนึ่ง ยามนี้ไอ้เปลวมันมีเสื้อใส่กับเขาแล้วหนา แม้จะเป็นเพียงเสื้อแขนสั้นที่มันมีเพียงแค่ไม่กี่ตัวแลไม่ได้ใส่ตอนแหกหามทำงานในเรือน แต่มันก็ใส่ออกไปข้างนอกเพื่อให้ดูงามตาดั่งเช่นคนอื่นเสียด้วย ตัวหนึ่งมันซื้อเอง อีกตัวคุณโกมลท่านให้แลตัวที่มันรักที่สุดก็คงจะเป็นตัวที่มันเก็บเงินเก็บทองไปซื้อเองอย่างภาคภูมิใจนั่นแหละ
ทั้งที่ใจมันหรือก็นึกอยากจะรอคุณแขไขกลับมาเสียก่อนค่อยเอาเสื้อมาใส่อวดเธอ แต่ด้วยว่าเธอหายไปเรียนนานเกินไปนั่นแหละหนา มันจึงได้เอาออกมาใส่ก่อนเช่นนี้
“อ้าวไอ้เปลว วันนี้มาหาซื้ออะไรเล่าเอ็ง”
“เครื่องเทศ ปลาสดแล้วก็ผักน่ะจ้ะป้า” ลูกทาสเดินเลือกของพร้อมตอบป้าแม่ค้าที่เห็นมันมาตั้งแต่เด็กจนโตเป็นหนุ่มด้วยรอยยิ้ม
“อ๋อ...เอ่อนี่ วันนี้ข้ามีขนมครกมาแบ่งเอ็ง จะได้แลกกับมะปรางที่เอ็งเอามาฝากข้าเมื่อวันก่อนอย่างไร”
“ไม่เป็นไรจ้ะป้า ฉันไม่ได้หวังของตอบแทน”
“เอาไปเถอะน่า ของอร่อยไม่ได้มีบ่อย ๆ นะเอ็ง- เจ้านี้ขายหมดแล้วหมดเลย” ป้าแกคะยั้นคะยอให้มัน ด้วยว่าอยากให้ไอ้ลูกทาสแสนดีคนนี้มันได้กินของอร่อยเหมือนตนบ้างเท่านั้น- ป้าแกเอ็นดูเพราะมันเป็นเด็กดีว่าง่าย...อย่าว่าแต่นายมันดูเป็นหญิงผิดขนบเลยหนา ไอ้เปลวมันก็นุ่มนิ่ม อ่อนโยน ใจเย็นผิดขนบชายชาตรีเช่นกัน
แต่ชายที่ไม่เลือดร้อนจนสร้างปัญหาเช่นไอ้เปลวนี่แหละหนา ที่หญิงสาวหมายปอง...ไม่มีหญิงใดอยากได้ชายใจร้อนแต่พึ่งพาไม่ได้มาทำผัวหรอก- แลเห็นไอ้เปลวมันอ่อนโยนราวกับหมาตัวใหญ่เช่นนี้ เรื่องชกต่อยมันก็ไม่น้อยหน้าใครเชียว ไม่อย่างนั้นมันคงไม่ขึ้นชกต่อยมวยตามงานจนได้เงินทองมาเป็นของตนหรอกหนา
“ขอบคุณจ้ะป้า”
ตลาดในพระนครยังคงเหมือนเดิม จะมีก็แต่ร้านรวงใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาบ้างเล็กน้อย อีกทั้งไอ้เปลวมันยังอยากจะอวดให้คุณแขไขฟังด้วยว่าเมื่อไม่นานมานี้มันเพิ่งมีโอกาสได้ลองไปนั่งรถไฟเป็นครั้งแรกอีกด้วย โคลงไปมา มีเสียงฉึกฉัก ๆ จนมันวิงเวียนไปหมด
ไอ้เปลวมันไม่รู้หรอกว่าที่ฝรั่งเศสจะมีรถไฟหรือไม่ แต่หากมี...มันก็อยากให้คุณแขไขได้ลองนั่งดูบ้างเช่นกัน
ระหว่างนั้นไอ้เปลวมันก็เดินตลาดดูข้าวของไปเรื่อยเปื่อย ปากก็เอ่ยทักทายคนนั้นคนนี้อย่างสนิทสนม มันมาตลาดเพื่อซื้อของกลับเรือนไม่พอมันยังได้ของติดไม้ติดมือเพื่อตอบแทนน้ำใจที่มันเคยมอบให้ลุง ๆ ป้า ๆ แถวนี้กลับไปด้วยเพราะมันเป็นเด็กดี ใสซื่อแลมีน้ำใจเช่นนี้อย่างไรเล่าจึงได้เป็นที่น่าเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลานสำหรับคนแถวนี้นัก
ก่อนชายหนุ่มเจ้าของร่างกำยำตามประสาทาสที่ทำงานหนักจะหยุดกึกอยู่ตรงหน้าร้านขายเครื่องประดับ ภายในร้านมีของสวยงามมากมาย มันเปล่งประกายระยิบระยับเสียจนไอ้เปลวตาพร่าไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร...แต่ตอนนี้มันยังไม่มีปัญญาซื้อของพวกนี้หรอกหนา เอาไว้มันเก็บเงินอีกสักหน่อยแลรอคุณหนูของมันกลับมา มันตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะซื้อกำไลข้อมือสักชิ้นให้เธอ- ดูท่าว่าพลอยเม็ดสีแดงนั่นน่าจะเข้ากับผิวขาวราวน้ำนมของคุณแขไขของมันไม่น้อยเลยทีเดียว
“ยืนมองอะไรอยู่หรือ”
“...”
ชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏอยู่ข้างกาย ในมือของเขาถือพัดกางออกแล้วโบกไปมา แลเมื่อดูจากกายแต่งกายของเขานั้นเพียงครู่เดียวก็มองออกแล้วว่าเขาเป็นพวกคนจีนที่เข้ามาทำมาหากินในสยาม เขามีรูปร่างผอมกว่าไอ้เปลวมันแลมีความสูงพอ ๆ กัน ผมของชายคนนี้ไว้ยาวไปด้านหลังแล้วรวบเปียเส้นเดียวยาวระเอว ทั้งยังสวมใส่ชุดแบบจีนดีดำแดงเด่นสะดุดตา เข้ากับหน้าตาเจ้าเล่ห์ของเขาเสียเหลือเกิน- ดวงตาเรียวดูเจ้าเล่ห์นั่นกำลังมองเข้าไปในร้านเดียวกับไอ้เปลว
เหมือนเขาจะมีชื่อว่าเจียอี้- เป็นเจ้าของโรงน้ำชาที่คุณแขไขเคยรู้จักแลจนตอนนี้ไอ้เปลวก็ไม่รู้เช่นกัน ว่านายของมันไปรู้จักกับเจ้าของโรงน้ำชาผู้แสนมั่งคั่งคนนี้ได้อย่างไร
“แกมองสาว ๆ หรือมองเครื่องประดับ”
“มองเครื่องประดับสิขอรับ” ไอ้เปลวตอบกลับ
แม้จะเป็นทาสแต่ไอเปลวมันก็ไม่ได้โง่ มันรู้ดีว่าเจียอี้ไม่ใช่คนจีนธรรมดา แต่เป็นคนที่มีหน้ามีตาในตรอกชาวจีนซึ่งเต็มไปด้วยอบายมุข แน่นอนว่าเขาคนนี้จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกนักเลงจีนที่ชอบสร้างความเดือนร้อนต่อยตีกันบ่อยครั้งเป็นแน่- เพราะอย่างนั้นมันจึงไม่ค่อยอยากให้คุณแขไขคนงามของมันเข้าไปยุ่งกับชายคนนี้อย่างไร
“น่าสนใจ...ปกติชายหนุ่มทั่วไปไม่ได้มองเข้าไปในร้านเครื่องประดับ เพื่อมองเครื่องประดับจริง ๆ ...” เจียอี้เอ่ยขึ้นพร้อมถือวิสาสะโอบไหล่กว้างทำทีราวกับสนิทชิดเชื้อพร้อมหัวเราะเจ้าเล่ห์ ก่อนจะรวบพัดในมือของตนแล้วเคาะลงบนอกแกร่งของเปลว- ไอ้หนุ่มนี่มันน่าตาใสซื่อ เช่นนั้นจึงได้กลายเป็นเชื่อคนเจ้าเล่ห์อย่างเจียอี้อย่างไรเล่า “...หากชอบของสวยงาม วันหลังก็ลองแวะมาที่โรงน้ำชาของฉันสิ รับร้อง- ที่นั่นมีของสวยงามให้ดูมากมาย”
“...”
“งามจนทนไม่ไหว อยากวิ่งเข้าไปขย้ำเชียวล่ะ”
“กระผมอยากดูเครื่องประดับขอรับ”
“ที่นั่นก็มีเครื่องประดับ...แต่อยู่บนตัวสาวงามนะ”
“...”
“ลองสักครั้ง- ฉันรับรองว่าแกจะหมดแรงจนเข่าอ่อนเชียว”
คำตอบสองแง่สามง่ามที่เจียอี้ตอบมาพลันทำเอาทาสวัยแตกเนื้อหนุ่มขนลุกซู่ ก่อนไอ้เปลวจะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อมือหนาของเจียอี้ตบลงบนไหล่แกร่งสองสามที
“คง- เออ...คงไม่ดีมังขอรับ”
“ไม่ดีอย่างไร ความหฤหรรษ์ที่มีกับสาวงามมันเร้าใจจะตาย” เจียอี้กางพัดป้องปากพยายามกระซิบเสียงแผ่ว แลเมื่อยิ่งเห็นไอ้หมาใหญ่ตัวนี้มันเลิ่กลั่กลนลาน เขาก็นึกสนุกยิ่งกว่าเดิม...อย่าบอกเชียวว่าหน่วยก้านดี รูปร่างกำยำเช่นนี้แต่ไม่เคยเที่ยวสตรีน่ะ หากเป็นเช่นนั้นเขาคงเสียดายความเป็นชายของมันไม่น้อย
“เอ่อ...” ไอ้เปลวมันไม่เคยสนใจเรื่องเช่นนี้เพราะวัน ๆ มันเอาแต่เฝ้ารอคุณแขไขของมันกลับมาอย่างไรเล่า จึงได้ไม่รู้ว่าควรจะรับมือกับเจ้าของโรงน้ำชาคนนี้อย่างไรดี
“ช่างเถอะ เอาไว้แกพร้อมจะให้ครู...ขึ้นเมื่อไหร่ก็มาที่โรงน้ำชาของฉันก็แล้วกัน”
“ขอรับ”
ท่าทางเงอะงะไม่รู้ความของไอ้เปลวดูท่าว่าจะถูกใจเจียอี้ไม่น้อย พอเลิกรากันแล้วพ่อคนจีนก็ก้าวขาขึ้นรถส่วนตัวในขณะที่ดวงตาเรียวของเขาเห็นไว ๆ ว่าไอ้ทาสหนุ่มคนนั้นมันรีบวิ่งหน้าตั้งกลับเรือนมันมากเพียงไหร...ก็คงเพราะไม่อยากเจอคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาที่พยายามหาลูกค้าเข้าโรงน้ำชาของตนนั่นแหละหนา
แลเมื่อมาถึงโรงน้ำชาที่แสนโอ่อ่าอันมีเจียอี้ คนจีนที่เข้ามาทำการค้าที่สยามเป็นเจ้าของ ร่างผอมสูงในชุดจีนก็เดินเข้าไปด้านใน- เขาได้กลิ่นหอมของน้ำชาเคล้ากับกลิ่นฝิ่นที่เจือจางลอยโฉยมาตามลม แต่ก็แน่แหละหนาหลายคนมาที่นี่ก็เพราะต้องการจะปลดปล่อยบางอย่าง แลก็ไม่ได้มีเพียงแค่คนทั่วไปแต่ข้าราชการที่เมามายแล้วเผลอไผลพูดเรื่องภายในกระทั่งพลอดรักกับสาวโคมเขียวก็มีมากเช่นกัน ไหนเลยจะยังมีหญิงสาวที่มาหาความสำราญจากชายหนุ่มที่ให้บริการ ทั้งยังมีพวกลูกผู้รากมากดีที่ใจแตกจนไม่กล้ากลับเรือนตน มานอนขลุกทำตัวเสเพลอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
“กลับมาแล้วหรือเจียอี้”
“กลับมาแล้วสิขอรับ คิดถึงกันหรือไม่”
หนุ่มจีนเดินเข้าไปในห้องพักราคาแพงและหรูหราที่สุดในโรงน้ำชาของตน เจ้าของเสียงหวานที่ดังขึ้นด้านในนั้นคือนักเรียนจากฝรั่งเศส- ก็หญิงสาวคนงาม บุตรสาวคนเล็กแลคนเดียวของพระยาเทียบบรรลือผู้นั้นนั่นแหละหนา
โรงน้ำชาสีแดงเช่นนี้ดูเหมาะกับคุณแขไขไม่น้อย อีกทั้งความหอมอบอวลในห้องจนกลบกลิ่นฝิ่นเสียงมิดนั่นก็ช่างเย้ายวนส่งให้เธอมีเสน่ห์มากยิ่งกว่าเดิมเสียอีก...ห้องหับสีแดงนั้นมันช่างตัดกับผิวพรรณผุดผ่องขาวราวกับน้ำนมของคุณหนู เรือนร่างเพรียวระหงอ้อนแอ้นตามประสาหรือก็นอนอยู่บนเตียงกว้างที่มีม่านแดงระย้าคลุมไว้- หลายครั้งที่ภาพแสนยามตรงหน้านั้นพลันทำให้เจียอี้นึกอยากจะเอาดวงใจคนงามนั้นมาเป็นของตนเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่น่าเสียดายที่เจ้าของหัวใจดวงน้อยนั้นไม่ใช่ตน
“ฉันจะคิดถึงเจียอี้ไปทำไมกันล่ะ”
“อย่าหักหาญน้ำใจกันเร็วเช่นนี้สิขอรับ”
คนงามยิ้มหวานมองหนุ่มจีนสืบเท้าเข้ามาใกล้ เธอเห็นแล้วว่าชายหนุ่มเจ้าของโรงน้ำชาคนนี้คว้าฝิ่นที่วางตรงโต๊ะกลมนั่นขึ้นมาสูบก่อนจะพ่นควันออกมาลอยคละคลุ้งทั่วห้อง ทว่ากลิ่นนั้นกลับไม่อาจเทียบเคียงกลิ่นห้องแลกลิ่นเทียนหอมที่เธอทำเอาไว้ได้เลยสักนิด...คุณแขไขเสียดายไม่น้อยที่เสน่ห์เหลือร้ายที่แสนยั่วยวนของเจียอี้ในยามนี้กลับไม่มีใครได้เห็น
แต่นั่นก็เป็นเพราะเขายังคงหลงใหลในตัวเธอ แลปรารถนาว่าเขาและเธอจะยังคงล่องลอยอยู่ในสวรรค์ที่ไม่เป็นจริงนี้ไปอีกนาน
ก่อนนายคนจีนมากด้วยเสน่ห์จะเดินเข้ามาใกล้ เขาหมายจะกอดเนื้อตัวนุ่มนิ่มแลสูดดมกลิ่นหอมนั้นจากตัวคุณหนูคนนี้เสียให้สาแก่ใจ เพียงแต่ใบหน้าเจ้าเล่ห์คมคายที่โน้มเข้าไปใกล้หมายจะกอดจูบแลหอมแก้มนั้นกลับถูกคุณแขไขเธอใช้มือเล็กดันเอาไว้เสียก่อน...เราชิดเชื้อเกินงามแต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลย ไม่สิ...จะว่าไม่เกินเลยก็ไม่ได้เพราะความเป็นเรามันก้ำกึ่งนัก แลส่วนใหญ่ก็มีแค่เจียอี้ที่เป็นฝ่ายทำให้คนงามคนนี้เสร็จคามือโดยที่เขาไม่ได้สอดใส่เข้าไปเลยสักครั้งเท่านั้น
“เจียอี้...อย่าทำตัวรุ่มร่าม”
“ก็ได้ขอรับ...” ว่าแล้วเขาก็เอี้ยวตัวออกห่างพร้อมกุมมือเล็กที่ดันหน้าเขาเอาไว้ ก่อนจะประทับจูบลงบนฝ่ามือแล้วปล่อยมันลง “...จะว่าไป เมื่อครู่กระผมเจอทาสจากเรือนพระยาเทียบบรรลือด้วย- หากจำไม่ผิดน่าจะเป็นคนโปรดของคุณแขไขเสียด้วย”
“เรือนคุณพ่อมีทาสเยอะแยะ”
“มันคือไอ้เปลว”
ครานี้คุณแขไขชะงักเงียบไปชั่วขณะ ภาพในหัวยังคงชัดเจนว่าเด็กชายวัยแตกเนื้อหนุ่มคนนั้นมีรอยยิ้มแบบไหนและเป็นคนเช่นไร เปลวใสซื่อราวกับลูกหมาที่รอเจ้าของมันกลับเรือนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...คุณแขไขไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าในตอนนี้เปลวจะเปลี่ยนไปไหม แลเปลวจะเสียใจหรือไม่ที่คุณแขไขของมันมาเหลวไหลอยู่โรงน้ำชาที่มันเคยห้ามเอาไว้- หลังจากเรียนจบแล้วเช่นนี้
แม้จุดเริ่มต้นจะเป็นไปด้วยเรื่องไม่ตั้งใจ คุณแขไขตั้งใจเดินทางกลับมาก่อนกำหนดเพื่อเซอร์ไพรส์คุณพ่อเหมือนอย่างที่พวกฝรั่งทำกัน หากแต่ในวันนั้นเองที่เธอเดินทางมาถึง ชายลากรถคนหนึ่งไม่ยอมพาเธอกลับบ้านแลเลือกที่จะลากรถและพาคนงามเข้ามามอมเมาในที่แห่งนี้ โชคดีที่มีเจียอี้ช่วยเอาไว้- เขาให้คนรุมกระทืบชายชั่วคนนั้นก่อนจะนำไปโยนให้พวกนครบาน พร้อมทั้งหาทางปลอบขวัญลูกค้าที่เคยมาซื้อใบชาของตนเมื่อยังเยาว์วัย จนเผลอไผลมีสัมพันธ์ทางกายเพียงแค่ภายนอกเพราะคุณหนูคนนี้ขอให้ช่วย ด้วยว่าฤทธิ์ของบางอย่างที่ชายชั่วนั้นเอาให้เธอกิน มันทำให้เธอต้องการเรื่องอย่างนั้นจนแทบทนไม่ไหวนั่นแหละหนา
แลหลังจากนั้นคุณแขไขที่แสนดื้อดึง ใจกล้า กระทำตัวผิดขนบก็พลันรู้สึกผิดที่ต้องกลับเรือนไปด้วยสภาพที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดเช่นนี้ เธอไม่อยากบอกคุณพ่อด้วยซ้ำว่าการตัดสินใจอะไรไปโดยพลการเกือบทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปจากเดิม เธอกลัวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้คุณพ่อของเธอโกรธ- แม้ว่าเรื่องที่ตนแลเจียอี้ช่วยจัดการ จะทำให้เธอรู้สึกดี ไม่คิดติดใจกับมันแล้วก็ตาม
แต่ถึงอย่างนั้น...นอกจากจะพักอยู่ที่โรงน้ำชาเพื่อเตรียมใจก่อนกลับเรือน คนที่หลงใหลในตัวเธอเช่นเจียอี้หรือก็พยายามหาข้อต่อรองกับเธอ ว่าด้วยเรื่องตอบแทนบุญคุณที่ช่วยเหลือเธอจากชายชั่วคนนั้นนั่นแหละหนา
แม้คุณแขไขเธอจะรู้ว่าเจียอี้เพียงแค่อ้างเพื่อซื้อเวลาที่จะได้อยู่ร่วมกัน แต่ถึงอย่างนั้นคุณแขไขก็นึกอยากตอบแทนบุญคุณแลอยากลองวิชาทำเครื่องหอมที่อุตส่าห์ไปร่ำเรียนมา- เปลี่ยนกลิ่นในโรงน้ำชาให้อบอวล ยั่วยวนแลหอมฟุ้งเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ลูกค้าที่เข้ามาให้บริการนั่นแหละหนา แลดูเหมือนเธอจะทำมันออกมาได้ดี ไม่อย่างนั้นทันทีที่เจียอี้เข้ามาในห้องนี้ จะเกิดอารมณ์ทุกครั้งได้อย่างไรกัน
“อื้อ...” หนุ่มจีนทั้งเจ้าเล่ห์แลมือไหว ใช้จังหวะที่คุณแขไขเผลอไผลสอดมือเข้าใต้ผ้าแพรแล้วเกลี่ยนิ้วแกร่งบดคลึงรอบปากทางหวานนั้นอย่างย่ามใจ...ปลายจมูกของชายหนุ่มแสนเจ้าเล่ห์สูดดมกายหอมไปทั่ว ยิ่งได้กลิ่นอบอวลภายในห้องนี้ ก็ยิ่งทำเอาเจียอี้อารมณ์เตลิดไปกันใหญ่ ก่อนเขาจะสอดนิ้วเข้าไปสองข้อมือ แต่ก็ต้องรั้งออกมาเมื่อคนตัวเล็กขยับตัวหนีพร้อมส่งเสียงฮึดฮัดขัดใจ “...เอาออกไปเลย ฉันไม่อยาก”
“แฉะขนาดนี้แล้ว ไม่อยากได้อย่างไร”
ถึงปากจะว่าอย่างนั้นแต่เจียอี้ก็สยบยอมแก่เธอคนนี้แต่โดนดี เขารั้งนิ้วแกร่งออกแล้วเช็ดน้ำหวานเหนียวใสที่เต็มไปด้วยอารมณ์นั้นทั้งจากปลายนิ้วตนและช่องทางหวานจนสะอาด ก่อนจะขยับตัวลุกออกไปนั่งสูบฝิ่นตรงโต๊ะกลมที่ตั้งอยู่ไม่ไกล โดยปล่อยให้เจ้าของร่างเพรียวระหงแสนงามนอนอยู่บนเตียงที่เดิม...พร้อมกับเสียงครางหวานแผ่วเบาเรียกชื่อใครอีกคน ในขณะที่ขาเรียวงามของเธอเบียดเสียดแนบชิดกันจนเนื้อตัวสั่น
“อึก- เปลว...คิดถึงเปลวจังอื้อ”
#คุณแขเมียทาส