ทาสชั้นต่ำอย่างมันจะอาจเอื้อมนายได้อย่างไร หากดอกฟ้าดอกนั้นไม่โน้มลงต่ำให้มันเชยชม
ชาย-หญิง,รัก,ย้อนยุค,ไทย,ดราม่า,ดราม่า,พีเรียดไทย,โรแมนซ์,อีโรติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คุณแขเมียทาส 18+ทาสชั้นต่ำอย่างมันจะอาจเอื้อมนายได้อย่างไร หากดอกฟ้าดอกนั้นไม่โน้มลงต่ำให้มันเชยชม
*จบแล้วแต่ทยอยลง และ มี E-book*
เฉพาะ E-book มีตอนพิเศษทั้งหมด 3 ตอน ประกอด้วย NC 2 ตอนฉ่ำๆ และตอนจบแบบบริบูรณ์อีก 1 ตอน
นิยายเรื่องแต่งขึ้นมาจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องถึงบุคคล สถานที่หรือเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นในสมัยนั้น เนื้อหาภายในเรื่องเป็นเพียงการเซ็ตฉากให้ดำเนินไปตามยุคสมัยซึ่งอาจมีความรุนแรง การแบ่งชนชั้น การกระทำที่ไม่เหมาะสมของตัวละคร อาจมีถ้อยคำหยาบคายและมีการบรรยาย NC / กิจกรรมทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ปล.นางเอกเรื่องนี้เป็นสาวสมัยก่อน แต่ผิดขนบสาวงาม ทำตัวแก่แดด ขี้อ้อน ช่างพูด ขี้อ่อยและมีสัมพันธ์(เสียว ๆ แบบไม่ลึกซึ้ง)มาก่อน ก่อนจะมีสัมพันธ์(เสียว ๆ แรง ๆ ลึกซึ้งสุดใจ)กับพระเอกแค่คนเดียว
***
“กระผมเป็นเพียงแค่ทาส จะให้อาจเอื้อมไปรักคุณแขไขได้อย่างไรกันเล่าขอรับ”
“เป็นทาสแล้วอย่างไร ในเมื่อเรารักกัน”
ไอ้เปลวไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าดอกฟ้าที่แสนซุกซนจนดูผิดขนบสาวงามในยุคสมัยนี้เหตุใดจึงได้ช่างเย้าเล่นกับใจมันนัก ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ควร...แต่เจ้าชีวิตของมันก็โน้มเข้าหาแลอนุญาตให้มันเชยชมอย่างอิ่มเอม- กระทั่งเกิดความสัมพันธ์เร้าร้อนระหว่างนายแลทาสในเรือนขึ้นมาอย่างลับ ๆ
“คุณแขไขเคยมีใจให้กระผมหรือไม่ขอรับ...” เพราะนายของมันทั้งดื้อแลซุกซน ชอบเล่นสนุกไปกับความรู้สึกของผู้อื่นและมันก็เป็นหนึ่งในคนที่หลงใหลในห้วงสวาทของเธอ จึงไม่แปลกหากมันจะเผลอน้อยใจเมื่อเห็นเจ้าชีวิตของมันไปเล่นกับหมาตัวอื่นอยู่บ่อยครั้ง “...หากไม่รัก ก็อย่าให้ความหวังกระผมได้มั้ยขอรับ”
“หากฉันไม่รักไม่ชอบ”
"..."
"ฉันจะให้เธอทำกับฉันอย่างนั้นหรือ..." คุณแขไขเธอทั้งงามแลมากด้วยเสน่ห์ เธอไม่ได้มีเพียงแค่ใบหน้างดงาม แลช่างป้อนคำหวานให้ทาสคนโปรดเท่านั้น แต่เธอยังมอบสัมผัสหวานหอมจนทำเอาทาสคนโปรดคนนี้ลืมไม่ลงเสียด้วย "...เปลว- เธอทำแรงเสียจนฉันติดสัมผัสของเธอเชียว"
“...”
“หรือว่าตอนที่เธอทำฉัน...เธอไม่ได้ชอบมากถึงเพียงนั้น”
“ชอบสิขอรับ กระผมชอบสัมผัสของคุณหนู หลงใหลแลอยากรักคุณหนูไปทั้งตัว”
“เช่นนั้นก็รักฉันแรง ๆ สิ”
“แต่เรื่องระหว่างเรามันผิดไม่ใช่หรือขอรับ”
ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับทาสไม่ควรเกิดขึ้น แต่ในเมื่อเราทั้งรักแลหลงกันจนไม่อาจห้ามใจ ทั้งยังมีความปรารถนาที่นุ่มลึกแลกสัมผัสแก่กันได้มากถึงเพียงนี้ แล้วทำไมเราต้องสนใจเรื่องผิดถูกพวกนั้นด้วยเล่า
#คุณแขเมียทาส
/ เจอกันทุกวันจันทร์ พฤหัสและอาทิตย์เวลา 21.15 น.ค่ะ /
แม้จะเกิดเรื่องมากมายที่เรือนโดยที่ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว แต่ถึงอย่างนั้นท่านเจ้าคุณเทียบบันลือก็ยังคงเป็นเช่นเดิมเสมอ ท่านเป็นคนใจดีมีเมตตา ทั้งยังมีเหตุผลและพร้อมจะรับฟังเสมอโดยไม่เห็นว่าใครเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ทว่าแม้จะเป็นอย่างนั้นเรื่องของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนหรือก็ทำเอาท่านเครียดจนจับไข้ไปเสียสองวัน...มีอย่างที่ไหน ตัวเป็นหญิงแต่ไปเมามายอยู่ในโรงน้ำชาจนคู่หมั้นของตนไปอุ้มออกมาเช่นนั้น
แต่ก็นั่นแหละหนา...ด้วยความเป็นพ่อที่รักลูกมากเหลือเกินอย่างไร เมื่อท่านหายไข้แลใจเย็นลงบ้างแล้วจึงได้เรียกลูกสาวตัวดีที่เพิ่งก่อเรื่องไปไม่นานมานั่งจับเข่าคุยกันอย่างมีอารยะ
นับจากวันที่คุณแขไขเธอออกเดินทางเพื่อไปร่ำเรียน จนกระทั่งกลับมาอีกครั้งในรอบสามปีสิ่งแปลกตาอย่างแรกที่ได้เห็นก็คงจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับเรือนแลโต๊ะรับแขกอย่างฝรั่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากพวกตาน้ำข้าว ส่วนเรือนอีกฝากหนึ่งถูกปรับเปลี่ยนให้คล้ายกับของฝรั่งเหมือนอย่างที่คุณแขไขเธอเคยสัมผัส...ก็นับว่าเป็นเรื่องดีไม่น้อยที่คุณพ่อของเธอเปิดกว้างนัก แม้จะยังมีอีกฝั่งหนึ่งที่คงสภาพดังเดิมเอาไว้เนื่องด้วยเป็นมุมโปรดของคุณแม่ที่ล่วงลับไปแล้วก็ตาม
ถ้วยชาอย่างดีจากจีนที่วางไว้ตั้งแต่เมื่อครู่มันเย็นชืดไปเสียแล้ว มันไม่ได้ถูกจิบโดยคุณแขไขเธอเลยแม้แต่น้อย ด้วยว่าคนสวยเอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาละอายแก่ใจกับความผิดและความคิดไม่รอบคอบที่เธอเคยก่อเรื่องเอาไว้จนทำให้ทุกคนเป็นห่วงไปเสียหมด
“ว่าอย่างไรลูก จะเล่าให้พ่อฟังได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงไปอยู่ในโรงน้ำชาด้วยสภาพเมามายเช่นนั้น”
“คือลูก...มันเป็นความผิดของลูกเองค่ะที่ไม่รอบคอบ”
ท่านเจ้าคุณเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกตนกำลังพยายามอธิบายด้วยความเงียบเชียบแลหลังจากนั้นหากตนคิดจะตำหนิหรือลงโทษ ก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะกระทำไปด้วยความเหมาะสมทุกประการตามสมควร ส่วนเรื่องชื่อเสียงที่มีคนเอาไปว่าร้ายนินทานั้นก็คงแก้ไขอะไรไม่ได้อีกต่อไป- อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ชื่อเสียงพวกนั้นช่างมันไปก่อนเถิดหนา สิ่งสำคัญมันคือลูกสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างตนนี่อย่างไร
“ไม่ต้องกังวล...ลูกก็รู้ไม่ใช่หรือว่าพ่อรับฟังลูกเสมอ”
ไอ้เปลวที่นั่งอยู่ข้างนอกหรือก็เอาแต่ชะเง้อชะแง้มองนายคนสวยของมันผ่านบานประตูอย่างแสนเป็นห่วง กลัวว่าหากมีการเฆี่ยนตีเกิดขึ้นมันจะได้วิ่งเอาหลังกว้าง ๆ หนา ๆ ของมันไปรับหวายแทนเธอนั่นแหละหนา- แลคุณโกมลที่นั่งอยู่ด้วยนั้นหรือก็ช่างใจเย็นนัก เขาไม่เพียงไม่คาดคั้นทั้งยั้งเอาแต่นั่งกุมมือพร้อมลูบปลอบขวัญอย่างแผ่วเบาอีกด้วย
“ลูกตั้งใจจะกลับมาเซอร์ไพรส์คุณพ่อเหมือนอย่างที่ฝรั่งเขาทำกัน จึงไม่ได้แจ้งให้ทราบแลขณะนั่งรถลากกลับเรือน- นายคนนั้นก็พูดจาเกี้ยวจนลูกนึกกลัว”
“ลูกแข”
“คุณพ่อไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ- ลูกปลอดภัยดี...” คุณแขไขรีบเอ่ยปากบอกความจริงเพื่อให้คุณพ่อสบายใจ เหตุใดเธอจะไม่เข้าใจเล่าว่าคุณพ่อกำลังกลัวเรื่องไหนอยู่- ก่อนความลังเลจะเริ่มแทรกผ่านเข้ามาในความคิด ด้วยว่าเธอไม่รู้ว่าควรจะเล่าเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียดหรือไม่ แต่ก็น่าเกลียด...หากเธอเล่าทั้งหมดว่าถูกมอมเมาจนต้องขอร้องให้เจียอี้ช่วยคุณพ่อต้องโกรธจนเป็นบ้าไปแน่ ๆ ที่มีลูกสาวแก่แดดไร้ยางอายเช่นนี้ คุณแขไขเม้มปากเงียบสักครู่ก่อนเธอจะตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นโดยข้ามเรื่องน่าเกลียดของตนเองอีกครั้ง “...เพียงแต่ในวันนั้นลูก”
“...”
คุณแขไขเธอแสร้งทำเป็นออดอ้อน ใช้มารยาหญิงแลเสน่ห์เล่ห์กลตามประสาสาวงามที่เคยเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อน ล่อลวงนายคนลากรถไปยังโรงน้ำชา เนื่องด้วยน่าจะเป็นสถานที่ที่ไม่ทำให้นายคนนั้นที่คิดชั่วรู้สึกเอะใจ- คุณแขไขเสนอจะจ่ายค่าสำเริงสำราญในค่ำคืนนั้นให้ เช่นนั้นเธอจึงถูกพาไปที่นั่น...แลในขณะที่เธอไม่ทันระวังตัวก็ถูกมันคนนั้นแอบเอาบางอย่างใส่ลงไปในน้ำชาให้เธอดื่ม แม้จะไม่ได้มากมายจนขาดสติ ทว่ามันกลับเร้าอารมณ์เธอให้มีความต้องการยิก ๆ จนน่าอายเชียว
“...ลูกออกอุบายล่อลวงนายคนนั้นไปที่โรงน้ำชาด้วยว่าอยู่ใกล้กว่าเรือนของเรา แลยังหาโอกาสขอร้องให้เจียอี้- เอ่อ...ลูกหมายถึงเจ้าของที่นั่นค่ะ ขอให้เขาช่วยลูก” ว่าไปก็เม้มปากแน่นด้วยว่ารู้สึกผิดนักที่ต้องปั้นเรื่องเสริมขึ้นมาเพื่อให้คนเป็นพ่อไม่ผิดหวังที่ลูกสาวคนนี้กระสันจนให้นายคนจีนแสนเจ้าเล่ห์คนนั้นแหย่ก้านนิ้วเข้ามา
“โธ่ลูกแข...ทำไมไม่รีบกลับมาหาพ่อ- หากพ่อรู้พ่อจะรีบลากหัวมันไปส่งทางการเสีย”
“ลูกกลัวคุณพ่ออับอายค่ะ- อีกทั้งในครานั้นลูกยังกลัวจนไม่กล้าออกไปไหน ไม่กล้ากระทั่งนั่งรถลาก- เช่นนั้นเจียอี้จึงได้ยื่นข้อเสนอ ด้วยเห็นว่าลูกร่ำเรียนการทำเครื่องหอมมาค่ะ...เขาต้องการให้ลูกช่วยเปลี่ยนกลิ่นในโรงน้ำชาของเขา เพื่อแลกกับที่พักแลเรื่องที่เขาเคยช่วยจัดการนายคนนั้นเอาไว้”
“...”
คนเป็นพ่อเองเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็หัวใจแหลกสลาย ทั้งโกรธไอ้คนชั่วนั้นแลทั้งสงสารลูกที่ตนประคบประหงมมาตั้งแต่เล็กเหลือเกิน- คนเป็นพ่อสะเทือนใจกับสิ่งที่ลูกเจอนักโดยหารู้ไม่ว่าความกลัวจนตัวสั่นของลูกมันไม่ได้อยู่นานขนาดนั้น เพียงแต่ความจริงแล้วที่เธอไม่ยอมกลับเรือนสักทีก็ด้วยว่าต้องการพิสูจน์ฝีมือตนในเรื่องที่เคยไปเรียนมา อีกทั้งรสสัมผัสของเจียอี้ที่ลูบคลำแลสอดใส่เข้ามามันทำให้เธอมีความสุขจนลืมความทุกข์ตรมแลความกลัวนั้นไปชั่วขณะเชียว
คุณแขไขเธอก็ไม่ต่างจากหญิงอื่นที่มีอารมณ์ในเรื่องอย่างนั้น เพียงแต่สิ่งที่เธอต่างออกไปคือการใช้ความงามของตนในการร้องขอสัมผัสนั้นแลที่สำคัญเจียอี้ที่แสนเชี่ยวชาญเรื่องความสำเริงสำราญก็สอนให้เธอรู้จักความชอบของตนเองเป็นอย่างดีเสียด้วย...แม้ในระหว่างนั้นในหัวของเธอจะไม่ได้นึกถึงคนที่ลงมือกระทำให้อย่างเจียอี้เลยก็ตาม
“แต่ตอนนี้สภาพจิตใจลูกดีขึ้นมากแล้วค่ะ คุณพ่อไม่ต้องกังวลนะคะ” คุณแขไขผละมือออกจากคู่หมั้นที่กุมเอาไว้ ก่อนจะยกมันขึ้นมาปาดซับน้ำตา
แม้จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไม่หมดแต่เมื่อนึกถึงมันลึก ๆ แล้วก็ก็แอบกลัวแลใจหายเช่นกัน แต่ก็นับว่าโชคดีที่เธอไม่ใช่คนฝังใจกับเรื่องเช่นนั้นจึงได้ผ่านมันมาโดยง่าย แลที่สำคัญสิ่งที่ทำให้คนจิตใจแข็งแกร่งมีหยาดน้ำตาได้เช่นนี้ ก็เห็นจะเป็นความรักและความห่วงใยจากผู้เป็นพ่อที่เธอสัมผัสได้นั่นแหละหนา
“โธ่ ลูกแข...กลับมาแล้วก็เงียบหายไปเพราะเกิดเรื่องเช่นนี้พ่อก็จะใจเสียเอาน่ะสิ”
“ลูกไม่อยากให้คุณพ่อกังวลนี่คะ”
“เลยไปขอความช่วยเหลือจากพวกจีนโรงน้ำชาหรือ โธ่เอ๋ย...นี่ลูกเห็นพ่อเป็นตาแก่หัวรั้นไม่รับฟังคำลูก ทั้งยังอับอายเพียงเพราะเรื่องพวกนี้อีกหรือ คนผิดคือไอ้ชั่วนั่น! ไม่ใช่ลูกสักหน่อย- หากพ่อจะกังวล...พ่อไม่กังวลเรื่องชื่อเสียงหรอกหนาลูกแข แต่พ่อกังวลกลัวว่าลูกจะตกอยู่ในอันตรายมากกว่า”
พูดไปคนเป็นพ่อก็เริ่มเสียงสั่นด้วยว่าจุกในอกนัก โธ่เอ๋ยลูกคนนี้...ทั้งที่เกิดเรื่องใหญ่กับตนเพียงนั้นเหตุใดจึงแก้ปัญหาแลรับมือกับมันด้วยตัวเองกันเล่า- ถึงจะปลอดภัยก็เถอะ...แต่เงียบเช่นนี้ไม่ควรเลยหนา
“ลูกกลัวคุณพ่อจะอับอายนี่ค่ะ เป็นถึงพระยาแต่ลูกสาวกลับถูกคนลากรถล่อลวงไปเช่นนั้น”
ท่านเจ้าคุณนั่งน้ำตาคลอพร้อมทั้งกวักมือเรียกลูกสาวเข้ามากอดด้วยว่าสงสารลูกสาวของตนจับใจ คนงามที่คุกเข่าเข้าไปกอดพ่อหรือก็เริ่มอ่อนไหวน้ำตาซึมตาม- เธอไม่ได้กังวลเรื่องนั้น แต่ก็อดรู้สึกผิดที่ทำให้พ่อเป็นห่วงไม่ได้นั่นแหละ คุณแขไขเธอรู้ดีว่าคุณพ่อของเธอตอนนี้กำลังมีความคิดเช่นไร...ท่านคงจะนึกโทษตนเองที่เป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง ปกป้องลูกสาวเพียงคนเดียวของตนไม่ได้
กลับกลายเป็นว่าตอนนี้สองพ่อลูกนั่งกอดกันกลม ไม่นึกเขินอายคุณโกมลที่นั่งอมยิ้มมองทั้งสองคนด้วยความรู้สึกตื้นตันเลยสักนิด...คุณแขไขเธอขี้อ้อนอยากให้พ่อของตนกอดปลอบอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เช่นนั้นพระยาเทียบบรรลือจึงได้กล้าโอบกอดเธอโดยไม่คิดอายใครอย่างไรเล่า
“พ่อจะอายได้อย่างไรกันเล่าลูกแข มีแต่จะรู้สึกผิดที่ไม่อาจปกป้องลูกสาวของพ่อจากอันตรายได้เท่านั้น- แลเชื่อสิ...หากพี่เกื้อกูลแลพี่เปรมปรีของลูกรู้เรื่องเข้า ไอ้คนชั่วลากรถนั่นต้องตายคาคุกนครบาลเป็นแน่”
“เพียงเท่านี้นายคนนั้นก็ออกมาไม่ได้แล้วละมังคะ”
“มันไม่ควรออกมาสร้างความเดือดร้อนให้ใครอีก...” เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะผละร่างเพรียวระหงในอ้อมกอดอบอุ่นของคนเป็นพ่อ แล้วกำชับด้วยสีหน้าจริงจังอีกครั้ง “...สัญญากับพ่อ- ทีหลังจากนี้หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ลูกต้องบอกพ่อตามตรง ไม่ใช่หนีหายไปอย่างนี้เข้าใจหรือไม่”
“หากลูกรับปาก คุณพ่อจะตามใจลูกหรือไม่คะ” ก่อนจะเป็นคุณแขไขที่เอ่ยถามออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส สีหน้าทะเล้น ทำเอาคนเป็นพ่อคิ้วขมวดเชียว
“ลูกแข”
“ก็ได้ค่ะ...ลูกสัญญา”
ก่อนท่านเจ้าคุณจะลูบหัวลูกสาวที่หัวเราะคิกคักทั้งน้ำตาอย่างโล่งอก พร้อมทั้งซับหยาดน้ำตาใสของลูกที่ไหลอาบแก้มด้วยความซาบซึ้ง- แม้จะไม่ได้เจอกันมานานกว่าสามปี แม้ว่าคุณแขไขคุณหนูของเรือนจะอายุยี่สิบสองปีแล้ว แต่สำคัญพระยาเทียบบรรลือแล้ว เจ้าของใบหน้ากลมสวยเด่นสะดุดตาคนนี้ก็ยังเต็มไปด้วยความน่ารัก สดใส ช่างพูดและอารมณ์ดีไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่เธอยังเด็กเลยหนา
คงจะเหมือนดั่งคำที่เขาว่า...สำหรับพ่อแม่แล้ว ไม่ว่าลูกจะเติบโตเป็นสาวกระทั่งแต่งงานมีลูกอย่างไร ลูกก็ยังคงเป็นเด็กน้อยสำหรับพ่อแม่เสมอนั่นแหละ- อีกทั้งเรือนนี้ตามใจลูกสาวจนเคยตัวด้วยว่าในครอบครัวมีคุณแขไขเป็นหญิงเพียงแค่คนเดียวอีกด้วย
“...”
“ลูกขอโทษนะคะที่ทำให้คุณพ่อเป็นห่วง”
คุณโกมลที่นั่งอยู่ด้วยตั้งแต่เมื่อครู่พลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาดีใจไม่น้อยท่าองพ่อลูกปรับความเข้าใจต่อกันเป็นอย่างดี ซ้ำยังอุ่นในที่เจ้าคุณอาเป็นผู้ใหญ่ที่มีเหตุผลมากถึงเพียงนี้...ไม่เหมือนพ่อแม่บางคนที่มักจะอับอายแลจับลูกเฆี่ยนตีโดยไม่สนถูกผิดแลสภาพจิตใจของลูกเลยสักนิด มีมากเหลือเกินหนาพ่อแม่ที่เห็นหน้าตาทางสังคมของตนสำคัญมากกว่าลูกในไส้ แลยิ่งได้เห็นคนน้องออดอ้อนผู้เป็นพ่อในอ้อมกอด ทั้งยังพูดจาอ่อนหวานทำเสียงเล็กเสียงน้อยเช่นนั้น เขาก็ยิ่งนึกเอ็นดูเธอ
เมียเขานี่ช่างดื้อรั้น แต่ก็น่ารักมากเหลือเกินมิหนำซ้ำความดื้อรั้นที่ว่านั้น ก็อยู่บนเหตุผลที่ควรให้ดื้อ แม้จะสร้างความเดือนร้อนในตอนแรก แต่เมื่อทราบเหตุผลแล้ว- เช่นนั้นเขากลับยิ่งหลงรักและเอ็นดูเธอมากกว่าเก่า
อยู่สนทนาเรื่องสัพเพเหระให้ได้ใจชื้นกันไม่เท่าไหร่ สำหรับเที่ยงหรือก็เพิ่งรับประทานเสร็จ คุณพระโกมลเธอก็ขอลากลับด้วยว่ามีเอกสารเรื่องกฎหมายแลคดีความต้องจัดการ เช่นนั้นแล้วท่านเจ้าคุณของเรือนจึงได้บอกให้ลูกสาวของตนเดินลงมาส่งคนพี่ขึ้นรถกลับเรือนของเขาเสีย
ตรงจุดนั้นไอ้เปลวมันเห็นชัดเชี่ยวหนา- แต่แม้มันจะเห็นชัด มันก็ยังเลือกที่จะแอบอยู่บริเวณหลังต้นมะปรางพุ่มนั้นที่มันเคยเก็บกับคุณหนูของมันเมื่อครั้งยังเด็ก ก่อนมันจะเห็นชายหนุ่มอนาคตไกลมอบจุมพิตอบอุ่นลงบนหน้าผากของนายมัน...ลูกทาสมันยืนมองอยู่อย่างนั้น ในใจมันหรือก็ได้แต่นึกน้อยเนื้อต่ำใจในชาติกำเนิดของตนเอง
หากชาติใดได้เกิดเป็นลูกเจ้าพระยานาหมื่นบ้าง ที่ตรงนั้นอาจจะเป็นมันกับคุณแขไขเธอก็ได้
พรึ่บ!
ไอ้เปลวลูกทาสมันหดคอหนีเมื่อเห็นสายตากลมใสของคุณแขไขที่บังเอิญมองมา หลังจากเดินส่งคุณโกมลขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว- ไอ้เปลวมันสัมผัสได้ว่าดวงตาหวานคู่นั้นกำลังมองมาทางมัน ทั้งยังเอาแต่จับจ้องไม่สนใจรถคู่หมั้นเธอที่กำลังเคลื่อนตัวออกไป...รู้อย่างนั้นแล้วไอ้เปลวก็เริ่มหายใจติดขัด คุณแขไขของมันยิ่งโตก็ยิ่งงามเหลือเกิน งามเสียจนแม้แต่จะสบตามันก็ยังไม่มีความกล้าพอ
“เปลวเหรอ”
“...”
ไอ้เปลวมันยืนตัวแข็งทื่อ รองเท้าคู่เล็กของคุณแขไขเดินอ้อมมาหยุดอยู่ตรงหน้าไอ้ลูกทาสที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา ทั้งยังทำท่าจะถอยหนีเธอเสียอีก
“เปลวจริง ๆ ด้วย”
ก่อนคนสวยจะเอ่ยทักพลันยิ้มกว้างขึ้นมาอีกครั้งพร้อมใช้ปลายนิ้วเรียวเล็กเชยคางมันให้ขึ้นสบตากัน คุณแขไขชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้เห็นหน้าเจ้าทาสชั้นต่ำที่ตนเคยมีสัมพันธ์ฉาบฉวยด้วยความคึกคะนองก่อนจะไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส- เธอไม่คิดเลยว่ามันจะเติบโตขึ้นมากถึงเพียงนี้ ทั้งยังเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี จมูกโด่งเป็นสันและมีดวงตากลมโตราวกับลูกหมาแสนเชื่องอีกด้วย
เมื่อครามันเด็กก็หล่อเหลาเอาการอยู่แล้ว แต่ใครจะคิดกันเล่าว่ายิ่งโตจะยิ่งรูปงามเช่นนี้ ไหนจะผิวพรรณที่เธอพร่ำบอกให้มันดูแลนี่อีก...ถึงแม้มันจะยังคงมีความหยาบกร้านตามประสาทาสที่ทำงานหนัก แต่ผิวเนื้อตัวมันไม่ได้ไหม้เพียงนั้น มันคล้ำลงกว่าเดิมไปบ้าง แต่ก็ยิ่งทำให้มันดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
ไอ้เปลวยืนงก ๆ เงิ่น ๆ ด้วยความประหม่า- มันตัวสูงใหญ่ มัดกล้ามบนท่อนแขนที่ซ่อนเร้นภายใต้ร่มผ้าบางที่มันสวมใส่เพื่อให้คุณหนูของมันเห็นนั้นแทบไม่ต้องเดาก็รู้ว่าภายในของมันจะแข็งแกร่งมากเพียงไหน
“กระผมเองขอรับ” มันเอ่ยเสียงทุ้มออกมาพร้อมเกาหัวแกรก ๆ ผ่านมาสองสามวันแล้วที่คุณแขไขเธอกลับมาจากโรงน้ำชา ตอนนั้นเธอยังไม่ได้สติทั้งยังมีอาการเมามายพอควรจึงไม่ได้ลงมาจากเรือน ไอ้เปลวหรือก็มีงานมากมายต้องทำ นั่นอย่างไรที่ทำให้เราไม่ได้พบกันอย่างจริงจัง
คุณแขไขเห็นมันเต็มตาหรือก็ใจสั่นอย่างไม่อาจห้ามความรู้สึกของตนเองได้ เมื่อก่อนแค่ต้องเหลือบตามองเพราะความสูงของเราไม่ได้ต่างกันมาก แลเมื่อสามปีก่อนมันสูงใหญ่ก็จริงแต่ก็ไม่ได้กำยำเข้ารูปจนน่ามองเพียงนี้ แลดูมันตอนนี้สิ- ไอ้ทาสหนุ่มกลับตัวโตเบ้อเร่อยิ่งกว่าสามปีก่อนจนเธอต้องเงยหน้า ผมเผ้ารุงรังปรกใบหน้านั้นไม่สามารถบดบังความหล่อเหลาคมสันของมันได้แม้แต่น้อย
เจ้านายผู้สูงศักดิ์รู้สึกมวนท้องขึ้นมา...จะว่าใฝ่ต่ำก็ได้ แต่เพราะเธอเคยลองจนรับรู้แล้วว่าความสนุกในเรื่องนั้นมันสร้างความสุขให้เธอมากเพียงไหน อีกทั้งคุณแขไขเธอยังชอบหมาตัวใหญ่เสียด้วยสิ- เสืออย่างเจียอี้เจ้าเล่ห์เกินไป พญาอินทรีอย่างคุณพี่โกมลก็ฉลาดเกินไปจนเธอควบคุมไม่ได้ เช่นนั้นแล้วไอ้หมาใหญ่ที่แสนซื่อแลภักดีอย่างเปลวจึงทำให้เธอใจสั่นได้อย่างไรกันเล่า
แลในขณะที่ไอ้เปลวมันเป็นหมาใหญ่ คุณแขไขเธอก็ช่างอ้อนแอ้นและงดงาม เป็นแม่พันธุ์ชั้นเลิศที่ใครต่างก็หมายปอง...ไอ้เปลวมันคิดเช่นนั้น เขายังคงจำรสชาติของอีกฝ่ายได้ดี วันที่แสนเร่าร้อนสมัยที่เรายังอ่อนเยาว์กว่านี้ดึงสติชายหนุ่มกลับไปจนมันลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ
“เปลว มองหน้าฉันนานเกินไปหรือเปล่า” คุณหนูเธอแสร้งถามพร้อมยิ้มหวานหยดให้มันจนไอ้ทาสมันสะดุ้งแล้วรีบถอยออกห่าง
“กระผม- เอ่อ...กระผมผิดไปแล้วขอรับคุณแขไข”
“ฮ่า ๆๆๆ ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น” ท่าทางใสซื่อของหมาใหญ่ตรงหน้าพลันทำเอาเธอหัวเราะท้องขดท้องแข็ง นึกถึงวันวานที่เราเติบโตมาด้วยกันในเรือนนี้
คนสวยจับมือหยาบกร้านของทาสหนุ่มแล้วฉุกกระชากลากถูไปตามที่ที่ตนต้องการ โดยเริ่มจากหยิบตะกร้ามาเก็บมะปราง แล้วจึงพากันไปนั่งเล่นกันตรงศาลาริมน้ำที่เมื่อก่อนเราเคยลงไปเล่นด้วยกัน
มือเรียวหยิบมะปรางในตะกร้าที่ไอ้เปลวมันเอาไปล้างมาให้เรียบร้อยแล้วขึ้นมา ก่อนเธอจะยื่นไปตรงริมฝีปากของมันพร้อมทั้งพยักหน้าราวกับจะให้มันกัดมะปรางที่เธอตั้งใจป้อน- คุณแขไขแกล้งไอ้เปลวอีกแล้ว เธอชอบนักยามได้เห็นไอ้ลูกทาสมันเลิ่กลั่กเช่นนี้...หมาตัวโตที่แสนซื่อแบบนี้คุณแขไขเธอโปรดมากเหลือเกิน
#คุณแขเมียทาส